หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมวังเย็นที่แสนรัก / บทที่ 12 เงินนี่ค่าตัวของเจ้า

แชร์

บทที่ 12 เงินนี่ค่าตัวของเจ้า

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-23 16:55:47

หลังจากที่บทรักที่เร่าร้อนและดุเดือดจบลง ม่านของเตียงสี่เสาก็หล่นลงมาคลุมเตียงหลังใหญ่เอาไว้เพราะแรงโยกขย่มที่รุนแรงของฮ่องเต้หนุ่ม  ด้านหลังม่านแสนบางเบานั้นเมื่อมองเข้าไปด้านในก็เห็นร่างสองร่างที่นอนโอบกอดกันภายใต้ผ้าผวยผืนบางเบาที่ใช้ห่มคลุมเรือนร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองเอาไว้  

หงลี่ซุุกกายเข้าไปในอกแกร่งแสนอุ่นที่นางคุ้นเคย   มือบางลูบไล้ไปจนทั่วหน้าอกแกร่งของเขา  หลี่หมิงสามีของข้า  แม้ท่านจะเกลียดข้าชิงชังข้ามากเพียงใด  แต่ข้ารักท่าน  มีเพียงท่านในหัวใจเท่านั้น ท่านรู้หรือไม่  นางกระซิบบอกเขาแต่เพียงในใจ ขณะที่ชายร่างหนาที่นางลูบไล้นั้นหลับตานิ่ง  นางคิดว่าเขาคงหลับไปแล้วเพราะบทรักที่ดุเดือดและร้อนแรงเหลือเกินของทั้งคู่

“ อย่าลูบไล้ข้า มิเช่นนั้น เจ้าจะต้องรับมือกับลูกชายของข้าอีกครั้ง เจ้าพร้อมหรือไม่ ”

เขาบอกกับนางทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ หงลี่รีบกระซิบบอกเขาว่า  “ ไม่เพคะ หม่อมฉันไม่ไหวแล้ว ”

แล้วนางก็เลิกลูบไล้เขา  แล้วนอนซุุกในอกเขาแต่โดยดี หงลี่หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มสมใจ  บัดนี้นางคือสนมหรืออีกนัยหนึี่งคือภรรยาของเขา ไม่มีผู้ใดมาขัดขวางความรักระหว่างนางกับเขาได้อีกแล้ว  นางคิดเพียงแค่นี้แล้วก็หลับไป

แต่เมื่อนางลืมตาตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาค่ำมืดแล้ว แต่ไม่รู้ว่ากี่ยามแล้วเช่นกัน  เพราะนางเข้ามาในห้องทรงอักษรนี้ตั้งแต่ยามบ่ายคล้อย  นางมองเห็นฮ่องเต้หนุ่มที่บัดนี้สวมอาภรณ์เสร็จสิ้นแล้ว  เขาลุกจากเตียงไปเมื่อใดนางไม่รู้ตัวเลย  

เขากำลังยืนอยู่ข้างเตียงที่นางนอนอยู่  แล้วก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นนางขยับกายลุกขึ้นนั่ง   “ รับนี่ไป แล้วออกไปได้แล้ว ”  เขายื่นถุงเงินสีขาวใบหนึ่งให้กับนาง  

หงลี่จ้องมองถุงเงินนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา  แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเขา  ขณะที่มือของนางกำผ้าผวยที่ใช้คลุมร่างที่เปลือยเปล่าของนางเอาไว้แน่น  ในอกเจ็บร้าวไปหมด  

“ รับไปสิ แล้วก็ออกไปได้แล้ว ข้าให้เจ้าเป็นค่าตัว "  เสียงที่นางได้ยินมันย้ำเตือนสิ่งที่นางสงสัยว่าเขายื่นถุงเงินให้นางทำไม  ค่าตัวหรือ  หงลี่น้ำตาไหลรินลงมาทันที  เขาดูถูกนางมากถึงเพียงนี้ เขาคิดว่านางขายตัวให้แก่เขาหรือไร  ที่นางยอมเริงรักกับเขาอย่างเร่าร้อนก็เพื่อต้องการให้เขามีความสุขเพราะนางถือว่าเขาคือสามีของนาง

แต่แล้วสิ่งที่เขาทำมันบอกให้นางได้รู้ความในใจของเขาจนหมดสิ้น  เขาคงไม่ได้รักนางอีกแล้ว  เขาไม่ได้คิดว่านางคือภรรยาของเขา  แต่เขาคิดว่านางคือนางบำเรอหรือไม่ก็หญิงที่ขายเรือนร่างเพื่อแลกเงิน  

หงลี่จ้องมองใบหน้าคมคายที่ยังคงเรียบเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร  เขาวางถุงเงินเอาไว้บนเตียงข้างกายของนาง  เมื่อเห็นว่าหงลี่ไม่ยื่นมือออกมารับ

“ หยิบถุุงเงินนี่ไป แล้วก็ออกไปเสีย ข้ามีราชกิจจะต้องทำ หลังจากนี้หากข้าไม่เรียกก็ไม่ควรมาพบข้า  ข้ามีชายาและสนมมากมาย หากไม่เรียกหาก็ไม่ควรมาพบข้าโดยพละการ  อีกอย่างข้าก็เบื่อเจ้าแล้วด้วย  เพราะรสชาติก็ซ้ำๆเดิมๆ ไม่ได้เร้าใจอะไรอีกแล้ว  วันนี้ข้าสั่งให้รับสตรีใหม่เข้ามาเป็นสนมอีกชุด  และสั่งให้สตรีที่งามที่สุดเตรียมถวายตัวในคืนพรุ่งนี้ ส่วนเจ้ากลับไปได้แล้ว  ”  

ฮ่องเต้หนุ่มเอ่ยวาจาที่บาดใจหงลี่ต่อไป  เขาหันไปมองทางอื่นที่ไม่ต้องเห็นใบหน้างามที่พลัสลดลงทันทีหลังจากที่เข้าใจความหมายที่เขามอบถุงเงินให้แก่นาง  

“ ถ้าพระองค์เบื่อหม่อมฉันแล้ว  หม่อมฉันขอลาออกไปจากวังหลวงจะได้หรือไม่เพคะ พระองค์จะได้ไม่ต้องพบหน้าหม่อมฉันอีก ”

หงลี่เอ่ยขึ้น  คราวนี้ใบหน้าหล่อคมที่ยืนหันหลังให้นางนั้นเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย  แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นว่า “ เจ้าไม่รู้หรือว่าสตรีในวังหลังเมื่อเข้ามาแล้วจะออกไปไม่ได้  เจ้าถวายตัวมาเป็นสนมของข้า  ข้าจะเรียกใช้เจ้าหรือไม่  เจ้าก็ต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะแก่ตายไป  ไม่มีทางจะออกไปภายนอกวังหลวงได้อีก  ”

เขาบอกกับนาง  คิดหรือว่าจะหนีเขาออกไปจากที่นี่ได้  แม้เขาไม่เรีียกใช้นางแล้วก็ไม่อนุญาตให้ไปที่ใดทั้งสิ้น  อยู่ในวังหลวงแห่งนี้แหละ  อยู่ให้แห้งเหี่ยวหัวโตไปเลย 

เขาไม่เรียกหา นางก็จะมีชายใดไม่ได้ทั้งนั้น  สะใจเขายิ่งนัก  ฮ่องเต้หนุ่มเดินไปหยุดยืนที่ข้างหน้าต่างบานกว้าง ขณะที่หงลี่รีบขยับกายลงจากเตียง แล้วก็ค่อย ๆ เดินไปเก็บอาภรณ์ของตนเองที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมอย่างเร่งรีบ แล้วสำรวจดูว่าเรียบร้อยพอทีจะเดินกลับไปที่ตำหนักน้อยของนางได้หรือไม่  

ก่อนที่ก้าวเดินออกไปจากที่นี่  นางหยุดยืนอยู่ไม่ห่างจากฮ่องเต้หนุ่มที่บัดนี้เขาไม่ใช่อดีตคนรักของนางอีกแล้ว   นางเอ่ยขึ้นพอให้เขาได้ยินว่า

“ หม่อมฉันไม่ขอรับถุงเงินนั้นเพคะ  เพราะหม่อมฉันเองก็ใช้พระองค์ในการหาความสุขจากบุรุษเช่นกัน  แต่แล้วก็พบว่างั้น ๆ ไม่ได้เร้าใจอย่างที่หม่อมฉันคิด  เสียดายนักที่อยู่ในวังหลวง  ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันคงจะหาบุรุษอื่นที่เร้าใจกว่าพระองค์มาเป็นสามีแล้วเพคะ  ”  

นางเอ่ยขึ้นอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่เกรงกลัวว่าเขาจะสั่งลงโทษที่นางกล้ากล่าววาจาสาวหาวเช่นนี้  แต่ก็ช่วยไม่ได้อยากจะทำให้นางโมโหจนเห็นช้างตัวเท่าหมูทำไมกัน

แล้วนางก็ก้าวเดินออกไปจากประตูไป โดยที่ไหล่บางของนางตั้งตรงอย่างหยิ่งทรนง  นางมุ่งหน้าเดินตรงไปตามทางเดินด้วยหัวใจที่แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ  เขาไม่ได้รักนางอีกแล้วจริง ๆ   เป็นนางที่คิดไปเอง  

เขาคงจะแก้แค้นนางที่เคยบอกว่านางหลอกใช้เขา หลอกเขาเล่น ๆ ปั่นหัวเขาเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น   แต่ที่นางพูดแบบนั้นก็เพื่อจะให้เขาไปจากนาง เพราะท่านพ่อคงจะไม่ละเว้นเขาแน่  แต่นางก็ไม่รู้ว่าเขาคือฮ่องเต้  เรื่องราวมันถึงได้กลับตาลปัตรไปเช่นนั้น  แต่ก็ช่างมันเถิด  เรื่องมันผ่านไปแล้ว  ไม่สามารถกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้อีก

ทุกอย่างเมื่อครั้งอดีตถือว่าจบสิ้นกันแค่นี้  ระหว่างนางกับเขามันจบลงตั้งแต่เมื่อครั้งอยู่หนิงโจวแล้ว  แต่เป็นนางที่เข้าใจไปเองว่าเขายังมีใจให้  เพราะเขารับนางเข้ามาเป็นสนม  แต่หงลี่ก็ลืมคิดไป  เขาคงจะรับนางมาเพื่อแก้แค้นเสียมากกว่า มิเช่นนั้นจะมอบตำแหน่งสนมขั้นต่ำสุดให้แก่นางได้อย่างไรกัน  ถ้านางยังเป็นสตรีที่เขารัก  นางมันโง่เง่าเองที่ไม่มองความเป็นจริง

น้ำตาของนางไหลพรากลงมาเต็มใบหน้า  และหงลี่ก็ปล่อยให้มันไหลรินลงมาให้สาแก่ใจ  และโชคดีนักที่เวลานี้เป็นเวลาค่ำคืนแล้ว  คงไม่มีใครมาเห็นว่านางกำลังร่ำไห้ขณะที่กำลังเดินกลับไปยังตำหนักของตนเอง  

นางเดินมาเพียงลำพังโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด  เพราะหัวใจมันเจ็บจนด้านชา  จนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างไปเสียแล้ว  ขณะนั้นอยู่ ๆ  นางก็สะดุดล้มเพราะมัวแต่ร้องไห้โดยไม่ได้มองทางให้ดี  

แต่แล้วก็มีมือหนาคู่หนึ่งมาจับไหล่ของนางแล้วพยุงให้ลุกขึ้น  “ เป็นเช่นไรบ้าง  แม่นาง  เอ้อ…ท่านคงจะเป็นพระสนมนางหนึ่งในวังหลวงแห่งนี้หรือไม่  ”

องครักษ์ตงเหวินจ้องมองการแต่งกายของนางจนทั่ว  นางไม่ใช่นางกำนัลอย่างแน่นอน

“ อ่อ…ข้าเป็นเพียงสนมปลายแถวคนหนึ่งไม่ต้องมากพิธีหรอก  ข้าไม่เป็นไร  ขอบใจมากนะ ”  

นางหันไปมองหน้าคนที่ช่วยพยุงนางขึ้นมาจากพื้นที่นางล้มลงไปเพราะสะดุดหินที่ปูพื้นที่มันยื่นออกมาก้อนหนี่งแต่นางไม่ทันเห็น

“ ข้าคือองครักษ์ตงเหวินขอรับ  เห็นพระสนมล้มลงจึงได้รีบมาช่วย  ให้ข้าเดินไปส่งท่านดีไหม  เพราะตอนนี้ก็ค่ำมืดแล้ว เดินไปผู้เดียวคงไม่ดีกระมังขอรับ ”  หงลี่พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเพราะตอนนี้ไม่อยากจะพูดจาอะไรกับผู้ใดทั้งสิ้น เพียงอยากจะเดินไปให้ถึงตำหนักของตนเองเพียงเท่านั้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 12 เงินนี่ค่าตัวของเจ้า

    หลังจากที่บทรักที่เร่าร้อนและดุเดือดจบลง ม่านของเตียงสี่เสาก็หล่นลงมาคลุมเตียงหลังใหญ่เอาไว้เพราะแรงโยกขย่มที่รุนแรงของฮ่องเต้หนุ่ม ด้านหลังม่านแสนบางเบานั้นเมื่อมองเข้าไปด้านในก็เห็นร่างสองร่างที่นอนโอบกอดกันภายใต้ผ้าผวยผืนบางเบาที่ใช้ห่มคลุมเรือนร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองเอาไว้ หงลี่ซุุกกายเข้าไปในอกแกร่งแสนอุ่นที่นางคุ้นเคย มือบางลูบไล้ไปจนทั่วหน้าอกแกร่งของเขา หลี่หมิงสามีของข้า แม้ท่านจะเกลียดข้าชิงชังข้ามากเพียงใด แต่ข้ารักท่าน มีเพียงท่านในหัวใจเท่านั้น ท่านรู้หรือไม่ นางกระซิบบอกเขาแต่เพียงในใจ ขณะที่ชายร่างหนาที่นางลูบไล้นั้นหลับตานิ่ง นางคิดว่าเขาคงหลับไปแล้วเพราะบทรักที่ดุเดือดและร้อนแรงเหลือเกินของทั้งคู่“ อย่าลูบไล้ข้า มิเช่นนั้น เจ้าจะต้องรับมือกับลูกชายของข้าอีกครั้ง เจ้าพร้อมหรือไม่ ”เขาบอกกับนางทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ หงลี่รีบกระซิบบอกเขาว่า “ ไม่เพคะ หม่อมฉันไม่ไหวแล้ว ”แล้วนางก็เลิกลูบไล้เขา แล้วนอนซุุกในอกเขาแต่โดยดี หงลี่หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มสมใจ บัดนี้นางคือสนมหรืออีกนัยหนึี่งคือภรรยาของเขา ไม่มีผู้ใดมาขัดขวางความรักระหว่างนางกับเขาได้อีกแล้ว นางคิ

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 11 ความเกลียดที่เร่าร้อน nc

    มือบางของนางเสยเข้าที่เส้นผมของฮ่องเต้หนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป แต่เขาก็มิได้ว่าอะไรนางสักคำปล่อยให้นิ้วน้อยๆ ของนางเสยเข้าไปในเส้นผมดกหนาของเขา แล้วโน้มศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบใหญ่ที่แอ่นระแน้ขึ้นหาเขา เสียงดูดจ๊วบจ๊าบดังขึ้นอย่างหยาบคาย ฮ่องเต้หนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากเต้าอวบคู่หวานตรงหน้า เขาสลับเชยชมมันไปมาทั้งสองข้าง ดูดดื่มมันดังเช่นทารกกระหายนมมารดากระนั้น ส่วนสตรีร่างบางแต่เมื่อยามเปลือยเปล่าเรือนร่างกลับอวบอิ่มงดงามยิ่งนัก นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ เมื่อถูกทั้งดูดทั้งไล้เลียสลับกันไปทั้งสองข้าง เมื่อดูดเต้าหวานของสตรีบนตักจนพอใจแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาที่เต็มไปด้วยไฟสวาทของสนมตัวน้อยของเขา และแล้วใบหน้าของทั้งสองก็เลื่อนเข้าหากัน แล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนเหมือนหิวกระหายในกันและกันเหลือแสนก็เริ่มต้นขึ้น จูบนั้นยาวนานเหลือเกิน นานจนหงลี่แทบจะขาดใจ ฮ่องเต้หนุ่มจึงยอมปล่อยนาง ขณะที่มือหนาของเขาก็สอดเข้าไปใต้กระโปรงที่บัดนี้เลิกขึ้นมาอยู่ที่เอวคอดของนาง ส่วนด้านล่างนั้นเปลือยเปล่า ชั้นในตัวน้อยที่ผูกปมเอาไว้ที่สะโพกทั้งสองข้างนั้นไม่ทราบว่าหายไปที่ใดแล้

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 10 ห้องอักษรที่เร้ารัก nc

    ระหว่างนี้เขาก็ยกสุราขึ้นดื่มอวยพรเป็นระยะ เวลาที่เหล่าชายาของเขากล่าวอวยพระพระมารดา รวมถึงเหล่าขุนนางทั้งหลายที่พากันยกจอกสุราดื่มอวยพร และพากันทะยอยมอบของขวัญบรรณการกันเป็นระยะ รวมถึงเหล่าภรรยาใหม่ๆทั้งหลายของเขาที่พากันถวายของขวัญแก่พระมารดาของเขาเพื่อเอาอกเอาใจกันเป็นระยะ บางนางมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยของขวัญก็ย่อมจะล้ำค่าราคาแพงและแปลกตา ไทเฮาขอบคุณเหล่าสะใภ้และขุนนางที่เข้าถวายของขวัญแก่พระนางส่วนสนมปลายแถวเช่นหงลี่จะมีอะไรไปถวายว่าที่แม่สามีกันเล่า ได้แต่เฝ้ามองคนอื่นๆ มอบของขวัญ และเฝ้ามองการแสดงตรงหน้าที่สลับกันมาให้ความบันเทิงในหลากหลายรูปแบบเท่านั้นเมื่องานเลี้ยงใกล้จะเลิกรา ก็มีการถวายพระพรกันอีกครั้งและก็กล่าวปิดงานโดยไทเฮาและฮ่องเต้ที่ขอบใจเหล่าบรรดาราชวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ที่มาเข้าร่วมถวายพระพรองค์ไทเฮา และเหล่าแขกที่มาร่วมงานก็เริ่มทะยอยกันออกไปจากท้องพระโรง ส่วนฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จลงจากที่ประทับทางด้านข้าง และก็หายลับเข้าไปทางห้องด้านหลังเป็นอันว่าเสด็จกลับแล้ว พระชายาและสนมน้อยใหญ่ก็พากันลุกขึ้นแล้วก็ทะยอยกลับเช่นกัน รวมถึงเหล่าขุนนางด้วย ส่วนหงลี่ก็เม

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 9 อยู่ด้วยความหวาดหวั่น

    ช่วงสายวันต่อมา ฟางเอ๋อเข้ามาแสดงความยินดีกับพระสนมหยูนายหญิงของตนเอง เพราะนางดีใจเหลือเกินที่ฮ่องเต้เสด็จมาหาพระสนมที่ตำหนักนี้และอยู่ค้างคืนจนกระทั่งเช้าจึงได้กลับไป นับว่าเป็นข่าวดีนัก ที่พระสนมที่เกือบจะปลายแถวเช่นนายหญิงของตนได้รับใช้องค์ฮ่องเต้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้ ขนาดพระชายาที่รับการแต่งตั้งถึงสามนางยังไม่มีผู้ใดได้รับโอกาสในการถวายการรับใช้ดังเช่นนายหญิงของตนเลย“ บ่าวยินดีกับพระสนมจริงๆนะเพคะ ที่ท่านได้มีโอกาสปรนนิบัติฮ่องเต้แล้ว และรวดเร็วกว่าสตรีใดในวังหลังแห่งนี้เลยนะเพคะ หม่อมฉันทราบในตอนแรกแทบจะไม่เชื่อเลยว่าพระสนมจะได้ปรนนิบัติองค์ฮ่องเต้ได้รวดเร็วปานนี้ บ่าวได้ยินว่าขนาดพระชายาสามพระองค์นั่นยังไม่ได้มีโอกาสรับใช้ฮ่องเต้เลยนะเพคะ ”ฟางเอ๋อนางกำนัลน้อยกล่าวอย่างยินดีในบุญวาสนาของนายหญิงตนเอง ขณะที่นางกำลังปรนนิบัตินายหญิงหลังจากอาบน้ำแล้ว ก็หวีผมยาวสลวยให้และกำลังติดเครื่องประดับผมที่มีขันทีนำมามอบให้เมื่อวานนี้ ใบหน้าของหงลี่เปลี่ยนสีไปทันที ใครบอกว่าฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักของนางกัน ชายคนเมื่อคืนที่เคี่ยวกรำนางแทบจะทั้งคืนกว่าจะยอมปล่อยให้นางนอนหลับ แ

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 8 ยิ่งเกลียดยิ่งดุดัน nc

    หลี่หมิงดึงรั้งอาภรณ์ของสตรีใต้ร่างจนแทบจะหลุดลุ่ย เขาฉีกตูโต้วผืนบางของนางออกจนขาดเป็นทาง แล้วแหวกกระโปรงผ้าเนื้อบางเบาของนางออก เลิกมันขึ้นไปจนสูง เปิดเปลือยเนินเนื้ออวบใหญ่ที่คุ้นตาให้แก่เขา หลี่หมิงถอดกางเกงของตนเองอย่างรวดเร็ว แล้วจับเจ้าลูกชายของเขาถูไถเนินเนื้อของนางไปมา แต่ไม่ยอมสอดเข้าไป เพียงถูไถมันไปมาเพียงเท่านั้น ส่วนสตรีใต้ร่างก็ดิ้นรนขัดขืนไม่สมยอมเขาดังเช่นที่เคยผ่านมา “ ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า เจ้าคนชั่ว เจ้าคนเลวอย่าทำอะไรข้านะ ไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย ออกไปจากเรือนของข้านะ ” นางกรีดร้อง แต่ก็ไม่กล้าเสียงดังจนเกินไปเพราะเกรงจะมีคนได้ยิน แล้วหลี่หมิงจะเดือดร้อน นางแค่ต้องการให้เขาโกรธและเลิกมายุ่งเกี่ยวกับนางแต่หลี่หมิงไม่สนใจเสียงข่มขู่นั้น เขากลับก้มลงดูดอกอวบใหญ่ที่สั่นไหวอยู่ใต้ร่าง เขาขบกัดผลอิงเถาของนางอย่างแรง สลับกับไล้เลียมันไปมา หงลี่พยายามดิ้นรนไม่ยอมให้เขากระทำตามใจ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งถูกดูด เขาดูดเต้าหวานของนางจนแทบจะเข้าไปในปากทั้งเต้า ดูดอย่างแรง ดูดสลับกับไล้เลียชิมรสของมัน ดูดจนสตรีใต้ร่างเลิกดิ้นรนหนี แต่เปลีี่ยนไปเป็นดิ้นพล

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 7 เร้ารักบนความแค้น nc

    หลังจากผ่านไปกว่าสิบวัน หงลี่ก็เริ่มดีขึ้น นางทำใจได้แล้ว เพราะถึงทำใจไม่ได้นางก็ทำอะไรไม่ได้ ครอบครัวที่ถูกเนรเทศไปก็ยังดีกว่าถูกประหาร นางได้คิดก็เพราะมีนางกำนัลวัยกลางคนที่นำอาภรณ์และข้าวของมาให้กับนางได้เตือนสตินางเช่นนี้ ใช่ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ตาย แค่เพียงย้ายถิ่นฐานไปอยู่แคว้นอื่น หากมีวาสนาภายหน้าอาจจะได้พบกัน ส่วนนางบัดนี้มาอยู่ในวังหลวง ไม่ได้ทำการงานอะไร เพียงนั่งทอดถอนหายใจทิ้งไปไว้ๆ นางมาอยู่ที่นี่ได้เพียงสองวันก็มีสาวใช้นางหนึ่งมาแนะนำตัวกับนาง ว่ามีชื่อว่าฟางเอ๋อ ได้รับมอบหมายให้มาเป็นนางกำนัลประจำตัวของพระสนม แม้นางจะเป็นสนมขั้นต่ำสุด แต่ก็ยังมีคนรับใช้ และเมื่ออยู่ๆ ไปก็ได้รับความรู้จากนางกำนัลที่มารับใช้ว่านางคือพระสนมขั้นเฟย ที่เป็นชั้นต่ำสุดในบรรดาพระสนม และพระสนมทุกคนในวังหลวงก็ใช่ว่าจะได้ถวายตัวให้แก่ฮ่องเต้ บางคนก็ไม่เคยได้พบหน้าพระองค์เลยด้วยซ้ำ ฟางเอ๋อยกตัวอย่างฮ่องเต้รัชกาลที่ผ่านมาให้ฟังส่วนฮ่องเต้องค์ใหม่พระองค์นี้ เพิ่งจะรับนางสนม และพระชายาเข้ามาเป็นชุดแรก ส่วนฮองเฮายังไม่ได้สถานปนาเพราะพระองค์เพิ่งขึ้นครองราชย์ หงลี่นั่งรับฟังก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status