มือบางของนางเสยเข้าที่เส้นผมของฮ่องเต้หนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป แต่เขาก็มิได้ว่าอะไรนางสักคำปล่อยให้นิ้วน้อยๆ ของนางเสยเข้าไปในเส้นผมดกหนาของเขา แล้วโน้มศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบใหญ่ที่แอ่นระแน้ขึ้นหาเขา เสียงดูดจ๊วบจ๊าบดังขึ้นอย่างหยาบคาย
ฮ่องเต้หนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากเต้าอวบคู่หวานตรงหน้า เขาสลับเชยชมมันไปมาทั้งสองข้าง ดูดดื่มมันดังเช่นทารกกระหายนมมารดากระนั้น
ส่วนสตรีร่างบางแต่เมื่อยามเปลือยเปล่าเรือนร่างกลับอวบอิ่มงดงามยิ่งนัก นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ เมื่อถูกทั้งดูดทั้งไล้เลียสลับกันไปทั้งสองข้าง เมื่อดูดเต้าหวานของสตรีบนตักจนพอใจแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาที่เต็มไปด้วยไฟสวาทของสนมตัวน้อยของเขา และแล้วใบหน้าของทั้งสองก็เลื่อนเข้าหากัน แล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนเหมือนหิวกระหายในกันและกันเหลือแสนก็เริ่มต้นขึ้น
จูบนั้นยาวนานเหลือเกิน นานจนหงลี่แทบจะขาดใจ ฮ่องเต้หนุ่มจึงยอมปล่อยนาง ขณะที่มือหนาของเขาก็สอดเข้าไปใต้กระโปรงที่บัดนี้เลิกขึ้นมาอยู่ที่เอวคอดของนาง ส่วนด้านล่างนั้นเปลือยเปล่า ชั้นในตัวน้อยที่ผูกปมเอาไว้ที่สะโพกทั้งสองข้างนั้นไม่ทราบว่าหายไปที่ใดแล้ว มือของเขาช่างซุกซนเหลือเกิน ต้องเป็นเขาแน่ๆที่ปลดมันออกไปจากเรือนร่างของนาง
แต่แล้วความคิดคำนึงของหงลี่ก็ถูกรบกวนเมื่อนิ้วแกร่งที่แสนร้ายนั้นสอดเข้าไปในร่องรักของนางในทันทีและไม่เพียงเท่านั้นมันสอดเข้าไปจนมิดด้าม
“ อู๊ยยยย อย่าเพคะ อย่า…” หงลี่ตกใจ นางร้องห้ามชายใต้ร่าง แต่แล้วกลับถูกเขาดูดดื่มอกอวบของนางเป็นคำตอบ หงลี่ถูกโจมตีทั้งด้านบนและด้านล่างจนนางแทบจะบ้า
ร่างงามดิ้นพล่านอยู่บนตักหนาของเขา นางแอ่นร่างบิดส่ายไปมาด้วยความเสียวซ่านจนแทบจะขาดใจ หลี่เมิงช่างเก่งกาจเหลือเกินในการปลุุกเร้าสตรี ยิ่งนางกับเขาเริงรักกันหลายๆครั้งเข้าเขายิ่งวาดลวดลายที่ช่ำชองจนนางแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว
“ อ๊าาา อ๊าาา อย่าเพคะ อย่า..อ๊าาย ” นางได้แต่ร้องครวญครางสลับกับห้ามปรามเขา หงลี่รู้ดีว่ายิ่งนางห้ามเขายิ่งจะทำและนางต้องการเช่นนั้น นางยอมรับว่านางหึงหวงเขา ยิ่งมาได้รู้ว่าเขาคือฮ่องเต้ที่มีภรรยาหลายคน เท่าที่นางจำได้นางนับได้หลายสิบชีวิต คนบ้า คนหลอกลวง ท่านมีภรรยามากมายเช่นนี้ แล้วจะมาบอกว่าข้าหลอกลวงท่านได้อย่างไร หงลี่ต่อว่าเขาในใจ ขณะที่นางถูกเขาจู่โจ่มจนแทบจะขาดใจ
นิ้วแกร่งที่ชักเข้าออกกระแทกๆๆๆๆๆ อยู่ด้านล่างด้วยจังหวะรักที่รุนแรงจนหงลี่กระตุกเกร็งเพราะแตกระเบิดอย่างรุนแรงจนกระทั่งน้ำรักของนางไหลอาบเต็มอุ้งมือของคนที่ปลุกเร้านาง และนั่นทำให้เขาพึงใจมาก ที่เห็นการดีดดิ้นของสตรีน้อยบนร่างของเขา
มือหนาอีกข้างปัดอาภรณ์ของตนออกไปจนพ้นขาแข็งแกร่ง แล้วก็ดึงรั้งกางเกงผ้าสีทองด้านในออกไปจนมันหลุดพ้นสะโพกหนาของเขา เพื่อปลดปล่อยเจ้าลูกชายแสนล่ำที่มันส่ายไปมาเพราะถูกก้นอวบอัดของสนมน้อยปลุกเร้ามันโดยการดิ้นพล่านไปมาอยู่บนตักหนาของเขา
และมันก็ได้ผล เมื่อปลดปล่อยเจ้าลูกชายแสนล่ำที่บัดนี้พองขยายจนเต็มที่แล้วออกมา มันก็ผงาดง้ำอวดความใหญ่โตอลังการที่ทำให้สตรีบนร่างของเขาจ้องมองตาค้าง แต่แล้วมิทันที่สนมน้อยจะปฏิเสธหรือดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นไปได้ เจ้าสิ่งที่อลังการจนน่าหวาดหวั่นนั้นก็สอดเข้าไปในร่องรักที่มันคุ้นเคยและเข้าไปวาดลวดลายในนั้นทันที
“ ขย่มข้า…” เขากระซิบด้วยเสียงแหบพร่าข้างใบหูเล็กของสนมน้อย สนมที่เขาแสนจะเกลียดชัง แสนจะรังเกียจความหน้าเงินของนาง แต่ก็อดจะเรียกมาเพื่อดูหน้าที่เห็นแก่เงินของนางไม่ได้ และวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อเห็นนางนั่งอยู่ไกลๆ ในที่นั่งประจำตัวของนาง เขาก็อดไม่ได้ที่จะให้คนไปตามนางมาพบ และเมื่อพบกันแล้วก็อดไม่ได้ที่จะให้นางมาปรนนิบัติ เขาเกลียดตัวเองที่เอาแต่คิดถึงเรือนร่างขาวผ่องและใบหน้างามของนาง
นางทำอะไรกับเขากันแน่ ทั้ง่ๆที่เขามีชายาและสนมมากมาย จะเรียกหญิงใดมาปรนนิบัติก็ได้ แต่มันก็ไร้อารมณ์เมื่อคืนเขาเรียกชายามาปรนนิบัติแต่ก็กลับไล่นางกลับไปเพราะเกิดเห็นภาพใบหน้าของชายานางนั้นเป็นสตรีแพศยานี่เข้าทำให้เสียอารมณ์ไปจนหมด วันนี้เลยต้องเรียกนางมาเพื่อชดใช้สิ่งที่ทำให้เขาเสียอารมณ์ไปเมื่อคืนนี้ แม้นางไม่รู้แต่นางก็ผิด เขาจึงต้องสั่งสอนนางอยู่ในขณะนี้
หงลี่ยอมยกสะโพกอวบของนางลงกระแทกลำกายอวบใหญ่ของสามี ใช่นางยอมรับว่าหลี่หมิงคือสามีของนาง เป็นสามีมาก่อนสตรีนางอื่นๆด้วยซ้ำ ยิ่งวันนี้นางเห็นชัดๆว่าเขามีภรรยากี่คน ยิ่งทำให้นางหึงหวง หึงมาก และต้องการให้เขาหลงไหลเพียงนาง เพราะนางรักเขารักมาก่อนสตรีอื่นๆด้วยซ็ำไป เรือนร่างล่ำสันสมชายชาตรีร่างนี้คือของๆนาง
หงลี่ยกสะโพกลงกระแทกลำกายอวบใหญ่ของสามีอย่างร่านรัก นางจะร่าน ร่านจนเขาหนีนางไม่พ้น จะต้องคอยเรียกหานาง แม้จะมีสตรีอื่นสักกี่คนก็จะลืมหงลี่คนนี้ไม่ได้ หลี่หมิงท่านคือสามีของข้า หงลี่ใช้ฝีมือทั้งหมดที่นางมีก็เพืื่อมัดใจฮ่องเต้หนุ่มที่ก็คือหลี่หมิงของนาง
ทั้งสองต่างโยกร่างเข้าหากันอย่างบ้าคลั่ง หลี่หมิงสุขสมสุดๆ เขาแตกระเบิดออกมาอย่างมากมาย และก็ปลดปล่อยสายธารรักเข้าไปในกายของสนมน้อยของเขาจนหมดสิ้น หากนางตั้งครรภ์มังกรก็ถือว่าเป็นวาสนาของนาง
เขาคงจำต้องยกฐานะของนางขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นพระมารดาขององค์หญิงหรือองค์ชายของเขา สายเลือดมังกรหากเกิดกับนางก็ถือว่านางมีวาสนา แต่หากไม่เขาก็ไม่คิดจะยกย่องอันใด เพราะเกลียดนาง เกลียดเหลือเกิน
หลี่หมิงครุ่นคิด แต่ก็โยกขย่มสตรีใต้ร่างที่บัดนี้เขากับนางนอนเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกันบนตั่งไม้หลังใหญ่ริมผนัง แล้วโยกร่างเข้าหากันอย่างเร่าร้อน เสียงครวญครางผสานกันดังก้องไปหมด หลี่หมิงโยกขยับบนเรือนร่างขาวผ่องของสนมน้อยต่ำต้อยที่เขาแสนจะรังเกียจอย่างสุขสม และนางเองก็ใช้ขาเรียวขาวของนางเกี่ยวบั้นเอวสอบของเขาเพื่อให้ร่างของทั้งสองแนบชิดกันมากยิ่งขึ้น
และเมื่อแตกระเบิดไปพร้อมๆกันอีกครั้งแล้ว ฮ่องเต้หนุ่มก็อุ้มกระเตงร่างงามของสนมรักเดินไปจนทั่วห้อง พร้อมกับเริงรักกันไปด้วยในทุกจังหวะการเดินที่เขากระแทกตัวตนขึ้นหาสตรีที่เขาอุ้มกระเตงร่างของนางมุ่งตรงไปที่หลังฉากกั้นที่มีเตียงนอนหลังใหญ่ที่เขามักจะใช้บรรทมเวลามีราชกิจมากมาย จนไม่อยากจะกลับตำหนักของตนเอง ที่ห้องอักษรนี้จึงมีทุกสิ่งที่พร้อมจะใช้งาน
และบัดนี้เขาก็วางร่างงามของสนมรักลงบนฟูกนอนหนานุ่มบนเตียงสี่เสาที่มีผ้าม่านสีทองสลับลายสีน้ำตาลทอดยาวลงมาจากเพดานแล้วลงมาคลุมเตียงหลังใหญ่นี้เอาไว้ทั้งสี่ด้าน แต่บัดนี้มันถูกผูกชายเอาไว้สองข้าง
เขาตามติดขึ้นไปบนเตียงในทันที และแล้วบทรักบทใหม่ก็เริ่มต้น เขาจับร่างงามหันหลังแล้วยกสะโพกของนางขึ้นเพื่อกดกระแทกนางจากทางด้านหลัง บั้นเอวสอบไหวโยก เขากระแทกนางด้วยจังหวะรักที่ดุดันและเร่าร้อนยิ่งนัก
ทั้งสองครวญครางผสานกันด้วยความสุขสม แม้ชายที่กำลังโยกขย่มนางจะพร่ำบอกนางแม้ขณะที่เขาร่วมรักกับนางอย่างเร่าร้อนว่าเกลียดนางมากเพียงใด แต่หงลี่ก็ยินดีเริงรักกับเขาเพราะนางรักเขา รักมาก และหึงหวงเขามากเมื่อคิดว่าเขาจะไปทำเช่นนี้กับสตรีอื่น
มือบางของนางเสยเข้าที่เส้นผมของฮ่องเต้หนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป แต่เขาก็มิได้ว่าอะไรนางสักคำปล่อยให้นิ้วน้อยๆ ของนางเสยเข้าไปในเส้นผมดกหนาของเขา แล้วโน้มศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบใหญ่ที่แอ่นระแน้ขึ้นหาเขา เสียงดูดจ๊วบจ๊าบดังขึ้นอย่างหยาบคาย ฮ่องเต้หนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากเต้าอวบคู่หวานตรงหน้า เขาสลับเชยชมมันไปมาทั้งสองข้าง ดูดดื่มมันดังเช่นทารกกระหายนมมารดากระนั้น ส่วนสตรีร่างบางแต่เมื่อยามเปลือยเปล่าเรือนร่างกลับอวบอิ่มงดงามยิ่งนัก นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ เมื่อถูกทั้งดูดทั้งไล้เลียสลับกันไปทั้งสองข้าง เมื่อดูดเต้าหวานของสตรีบนตักจนพอใจแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาที่เต็มไปด้วยไฟสวาทของสนมตัวน้อยของเขา และแล้วใบหน้าของทั้งสองก็เลื่อนเข้าหากัน แล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนเหมือนหิวกระหายในกันและกันเหลือแสนก็เริ่มต้นขึ้น จูบนั้นยาวนานเหลือเกิน นานจนหงลี่แทบจะขาดใจ ฮ่องเต้หนุ่มจึงยอมปล่อยนาง ขณะที่มือหนาของเขาก็สอดเข้าไปใต้กระโปรงที่บัดนี้เลิกขึ้นมาอยู่ที่เอวคอดของนาง ส่วนด้านล่างนั้นเปลือยเปล่า ชั้นในตัวน้อยที่ผูกปมเอาไว้ที่สะโพกทั้งสองข้างนั้นไม่ทราบว่าหายไปที่ใดแล้
ระหว่างนี้เขาก็ยกสุราขึ้นดื่มอวยพรเป็นระยะ เวลาที่เหล่าชายาของเขากล่าวอวยพระพระมารดา รวมถึงเหล่าขุนนางทั้งหลายที่พากันยกจอกสุราดื่มอวยพร และพากันทะยอยมอบของขวัญบรรณการกันเป็นระยะ รวมถึงเหล่าภรรยาใหม่ๆทั้งหลายของเขาที่พากันถวายของขวัญแก่พระมารดาของเขาเพื่อเอาอกเอาใจกันเป็นระยะ บางนางมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยของขวัญก็ย่อมจะล้ำค่าราคาแพงและแปลกตา ไทเฮาขอบคุณเหล่าสะใภ้และขุนนางที่เข้าถวายของขวัญแก่พระนางส่วนสนมปลายแถวเช่นหงลี่จะมีอะไรไปถวายว่าที่แม่สามีกันเล่า ได้แต่เฝ้ามองคนอื่นๆ มอบของขวัญ และเฝ้ามองการแสดงตรงหน้าที่สลับกันมาให้ความบันเทิงในหลากหลายรูปแบบเท่านั้นเมื่องานเลี้ยงใกล้จะเลิกรา ก็มีการถวายพระพรกันอีกครั้งและก็กล่าวปิดงานโดยไทเฮาและฮ่องเต้ที่ขอบใจเหล่าบรรดาราชวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ที่มาเข้าร่วมถวายพระพรองค์ไทเฮา และเหล่าแขกที่มาร่วมงานก็เริ่มทะยอยกันออกไปจากท้องพระโรง ส่วนฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จลงจากที่ประทับทางด้านข้าง และก็หายลับเข้าไปทางห้องด้านหลังเป็นอันว่าเสด็จกลับแล้ว พระชายาและสนมน้อยใหญ่ก็พากันลุกขึ้นแล้วก็ทะยอยกลับเช่นกัน รวมถึงเหล่าขุนนางด้วย ส่วนหงลี่ก็เม
ช่วงสายวันต่อมา ฟางเอ๋อเข้ามาแสดงความยินดีกับพระสนมหยูนายหญิงของตนเอง เพราะนางดีใจเหลือเกินที่ฮ่องเต้เสด็จมาหาพระสนมที่ตำหนักนี้และอยู่ค้างคืนจนกระทั่งเช้าจึงได้กลับไป นับว่าเป็นข่าวดีนัก ที่พระสนมที่เกือบจะปลายแถวเช่นนายหญิงของตนได้รับใช้องค์ฮ่องเต้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้ ขนาดพระชายาที่รับการแต่งตั้งถึงสามนางยังไม่มีผู้ใดได้รับโอกาสในการถวายการรับใช้ดังเช่นนายหญิงของตนเลย“ บ่าวยินดีกับพระสนมจริงๆนะเพคะ ที่ท่านได้มีโอกาสปรนนิบัติฮ่องเต้แล้ว และรวดเร็วกว่าสตรีใดในวังหลังแห่งนี้เลยนะเพคะ หม่อมฉันทราบในตอนแรกแทบจะไม่เชื่อเลยว่าพระสนมจะได้ปรนนิบัติองค์ฮ่องเต้ได้รวดเร็วปานนี้ บ่าวได้ยินว่าขนาดพระชายาสามพระองค์นั่นยังไม่ได้มีโอกาสรับใช้ฮ่องเต้เลยนะเพคะ ”ฟางเอ๋อนางกำนัลน้อยกล่าวอย่างยินดีในบุญวาสนาของนายหญิงตนเอง ขณะที่นางกำลังปรนนิบัตินายหญิงหลังจากอาบน้ำแล้ว ก็หวีผมยาวสลวยให้และกำลังติดเครื่องประดับผมที่มีขันทีนำมามอบให้เมื่อวานนี้ ใบหน้าของหงลี่เปลี่ยนสีไปทันที ใครบอกว่าฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักของนางกัน ชายคนเมื่อคืนที่เคี่ยวกรำนางแทบจะทั้งคืนกว่าจะยอมปล่อยให้นางนอนหลับ แ
หลี่หมิงดึงรั้งอาภรณ์ของสตรีใต้ร่างจนแทบจะหลุดลุ่ย เขาฉีกตูโต้วผืนบางของนางออกจนขาดเป็นทาง แล้วแหวกกระโปรงผ้าเนื้อบางเบาของนางออก เลิกมันขึ้นไปจนสูง เปิดเปลือยเนินเนื้ออวบใหญ่ที่คุ้นตาให้แก่เขา หลี่หมิงถอดกางเกงของตนเองอย่างรวดเร็ว แล้วจับเจ้าลูกชายของเขาถูไถเนินเนื้อของนางไปมา แต่ไม่ยอมสอดเข้าไป เพียงถูไถมันไปมาเพียงเท่านั้น ส่วนสตรีใต้ร่างก็ดิ้นรนขัดขืนไม่สมยอมเขาดังเช่นที่เคยผ่านมา “ ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า เจ้าคนชั่ว เจ้าคนเลวอย่าทำอะไรข้านะ ไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย ออกไปจากเรือนของข้านะ ” นางกรีดร้อง แต่ก็ไม่กล้าเสียงดังจนเกินไปเพราะเกรงจะมีคนได้ยิน แล้วหลี่หมิงจะเดือดร้อน นางแค่ต้องการให้เขาโกรธและเลิกมายุ่งเกี่ยวกับนางแต่หลี่หมิงไม่สนใจเสียงข่มขู่นั้น เขากลับก้มลงดูดอกอวบใหญ่ที่สั่นไหวอยู่ใต้ร่าง เขาขบกัดผลอิงเถาของนางอย่างแรง สลับกับไล้เลียมันไปมา หงลี่พยายามดิ้นรนไม่ยอมให้เขากระทำตามใจ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งถูกดูด เขาดูดเต้าหวานของนางจนแทบจะเข้าไปในปากทั้งเต้า ดูดอย่างแรง ดูดสลับกับไล้เลียชิมรสของมัน ดูดจนสตรีใต้ร่างเลิกดิ้นรนหนี แต่เปลีี่ยนไปเป็นดิ้นพล
หลังจากผ่านไปกว่าสิบวัน หงลี่ก็เริ่มดีขึ้น นางทำใจได้แล้ว เพราะถึงทำใจไม่ได้นางก็ทำอะไรไม่ได้ ครอบครัวที่ถูกเนรเทศไปก็ยังดีกว่าถูกประหาร นางได้คิดก็เพราะมีนางกำนัลวัยกลางคนที่นำอาภรณ์และข้าวของมาให้กับนางได้เตือนสตินางเช่นนี้ ใช่ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ตาย แค่เพียงย้ายถิ่นฐานไปอยู่แคว้นอื่น หากมีวาสนาภายหน้าอาจจะได้พบกัน ส่วนนางบัดนี้มาอยู่ในวังหลวง ไม่ได้ทำการงานอะไร เพียงนั่งทอดถอนหายใจทิ้งไปไว้ๆ นางมาอยู่ที่นี่ได้เพียงสองวันก็มีสาวใช้นางหนึ่งมาแนะนำตัวกับนาง ว่ามีชื่อว่าฟางเอ๋อ ได้รับมอบหมายให้มาเป็นนางกำนัลประจำตัวของพระสนม แม้นางจะเป็นสนมขั้นต่ำสุด แต่ก็ยังมีคนรับใช้ และเมื่ออยู่ๆ ไปก็ได้รับความรู้จากนางกำนัลที่มารับใช้ว่านางคือพระสนมขั้นเฟย ที่เป็นชั้นต่ำสุดในบรรดาพระสนม และพระสนมทุกคนในวังหลวงก็ใช่ว่าจะได้ถวายตัวให้แก่ฮ่องเต้ บางคนก็ไม่เคยได้พบหน้าพระองค์เลยด้วยซ้ำ ฟางเอ๋อยกตัวอย่างฮ่องเต้รัชกาลที่ผ่านมาให้ฟังส่วนฮ่องเต้องค์ใหม่พระองค์นี้ เพิ่งจะรับนางสนม และพระชายาเข้ามาเป็นชุดแรก ส่วนฮองเฮายังไม่ได้สถานปนาเพราะพระองค์เพิ่งขึ้นครองราชย์ หงลี่นั่งรับฟังก
แต่คำตอบของหงลี่ก็คือการที่นางตวัดฝ่ามือตบหน้าของเขาดังฉาด “ ออกไปนะ ออกไปจากห้องของข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะตะโกนให้คนรู้กันทั้งจวนว่าเจ้าลอบเข้ามาในห้องนอนของข้า ” หลี่หมิงชะงักไป เขาจ้องมองใบหน้าที่มองเขาด้วยดวงตาเฉยชา นางมองเมินไปทางอื่น หลี่หมิงจ้องมองใบหน้างามของอดีตคนรักแล้วก็ตัดสินใจถอยออกไปจากเรือนของนาง คนที่ไม่มีใจต่อให้เขายื้อยุดนางเอาไว้แทบตาย ก็คงจะยื้อนางเอาไว้ไม่ได้เขามาที่นี่ก็เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้ยินไม่ผิดไป นางไม่ได้มีใจให้เขา แค่เพียงหลอกปั่นหัวเขาเล่นๆ และวันนี้เขาแน่ใจแล้วว่านางไม่ได้รักเขาจริงๆเขากลับออกมาเพราะเสียใจที่ได้รู้ว่าอดีตคนที่เขาคิดว่ารักกลับไม่ได้รักตนเอง เพียงหลอกลวงเล่น ๆ และนางนั้นมิได้รักบุรุษใดทั้งสิ้น รักเพียงเงินของบุรุษผู้นั้น ส่วนเขาไม่มีสิ่งที่นางอยากได้นางจึงไม่ต้องการแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว หลี่หมิงเสียใจและผิดหวังเหลือเกิน เขาเดินออกมาจากเรือนของสตรีอดีตคนเคยรักแล้วก็ลัดเลาะออกมาจากจวนของขุนนาง หยูได้อย่างปลอดภัย หลังจากค่ำคืนแห่งรักและแค้นคืนนั้น หลี่หมิงก็ลอบออกมาจากจวนของขุนนางหยูแล้วก็กลับเรือนของตนเองไปเขาตั้งใจว