ปัง!
“อ๊ากกก!!!” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ชายฉกรรจ์ที่ถูกจับขึงเอาไว้ตะเบ็งร้องสุดเสียงเมื่อกระสุนปืนจากกระบอกปืนในมือมังกรพุ่งเข้าใส่ขา มังกรแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวเมื่อเห็นคนของศัตรูโดนทรมานอย่างเจ็บปวด แววตาคมเข้มไร้ซึ่งความรู้สึก มีเพียงความเย็นชาที่แสดงออกมาเท่านั้น ใครที่ทำงานให้กับศัตรูแล้วทำทีเข้ามาเป็นพวกเดียวกับเขา เขาเล่นถึงตาย! “ปะ…ปล่อยผมไปเถอะนะครับคุณมังกร ผะ…ผมผิดไปแล้วจริงๆ” “มึงผิดตั้งแต่เข้ามาสืบเรื่องกูไปรายงานไอ้เหมันต์แล้ว” เขาพูดแล้วยกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นมาดื่ม คนที่เป็นสายให้ศัตรู ไม่มีใครได้เดินออกจากห้องนี้โดยมีลมหายใจ ในเมื่อพวกมันกล้าเข้ามาเป็นหนอนบ่อนไส้…เขาก็กล้ากำจัดพวกมันเช่นกัน “ปล่อยผมไปเถอะนะครับคุณมังกร ผมยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล ยะ…อย่าฆ่าผมเลยนะครับ” ชายฉกรรจ์สภาพสะบักสะบอมพยายามร้องขอชีวิตจากมังกร มาเฟียหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปาก ก่อนจะเบือนใบหน้าไปมองชายคนนั้นด้วยท่าทางเย็นชา คนเรามักเห็นค่าชีวิตก็ต่อเมื่อตอนที่กำลังถูกมัจจุราชพรากลมหายใจไปแบบไม่มีวันได้คืนกลับมา “มึงไม่ใช่คนแรกที่ร้องขอชีวิตจากกู แล้วก็ไม่ใช่คนแรกที่กูคิดจะไว้ชีวิต” “….” ชายฉกรรจ์มองมังกรด้วยความเว้าวอนแม้รู้ดีกว่าต่อให้พยายามร้องขอชีวิตจาก ‘มัจจุราช’ ตรงหน้าจนน้ำตาเป็นสายเลือด มังกรก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไว้ชีวิตตัวเอง ถึงอย่างนั้นก็ยังเลือกที่จะเสี่ยงขอชีวิตจากผู้ชายคนนี้ “คนทำผิดถ้าไม่ลงโทษ แล้วธรรมชาติจะสร้างวิธีการลงโทษขึ้นมาทำไม” “ธรรมชาติไม่ได้สร้างบทลงโทษ คุณต่างหากที่สร้างมันขึ้นมาเอง” “หึ ถ้ารู้แบบนั้นแล้วมึงก็ไม่ควรมาขอชีวิตจากกูให้เปลืองน้ำลาย เพราะถึงยังไง…วันนี้มึงก็ไม่รอด” เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วกระดกน้ำสีเหลืองอำพันที่เหลือจนหมดแก้วเพียงแค่กรึ่บเดียว มังกรวางแก้วน้ำเมาลงที่เดิมแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องที่เอาไว้ใช้สำหรับลงโทษหนอนบ่อนไส้หรือพวกของศัตรู เมื่อเท้าทั้งสองก้าวพ้นขอบประตู เสียงปืนหลายนัดก็ดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางรอยยิ้มพอใจของมาเฟียหนุ่มซึ่งเดินออกมาแล้ว @คอนโดซอจิน ซ่า ซ่า~ หญิงสาวยืนอาบน้ำท่ามกลางภาพการกระทำอุกอาจของมังกรที่ฉายวนในหัว เธอใช้มือถูบริเวณที่เขาสัมผัสแรงๆ จนผิวเนื้อเริ่มแดงเถือก สิ่งที่เขาทำกับเธอในตอนเช้า ทำให้เธอไม่อยากเจอหน้าเขาอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะเธอยังทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้เขาอยู่ “คนเลว…” เธอพึมพำออกมาคนเดียว ในยามที่ภาพการกระทำอุกอาจของมังกรฉายในหัว ความรู้สึกตอนที่ถูกเขาใช้ริมฝีปากสัมผัสก็พลอยกระตุ้นให้เธอสัมผัสถึงความรู้สึกในตอนนั้นด้วย ทำไมโลกใบนี้ต้องเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับคนเลวๆ อย่างมังกรด้วย แกร๊ก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอเดินออกมาในสภาพสวมเสื้อคลุมสีขาวโดยมีผ้าขนหนูคล้องบนคอสำหรับใช้เช็ดผมเปียกปอน ครืด ครืด~ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เธอเหลือบไปมอง เบอร์บนหน้าจอที่โชว์หลาไม่ได้ทำให้เธอรับสายอีกฝ่ายแต่อย่างใด เธอเมินเฉยต่อสายเรียกเข้าของมังกรแล้วนั่งลงเตียงนอนเพื่อเช็ดผม รู้ดีว่าไม่ควรท้าทายคนอย่างเขา แต่สิ่งที่เขากระทำต่อเธอเมื่อเช้ามันทำให้เธอไม่พร้อมพูดคุยกับเขาในตอนนี้ เมื่อเช็ดผมจนแห้งแล้วเธอจึงดึงตัวเองขึ้นจากเตียงนอนเดินออกมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาเทลงแก้วว่างก่อนจะยกดื่มจนหมด ปังๆ! เฮือก! เธอสะดุ้งตัวขึ้นด้วยความตกใจ จู่ๆ ก็มีเสียงทุบประตูคอนโดดังเข้าโสตประสาท เธอพลันสายไปมองด้วยท่าทางหวาดหวั่น ภาวนาขอให้ไม่ใช่เขา ปังๆ!! เสียงทุบประตูนั้นดังขึ้นมาเรื่อยๆ เธอตัดสินใจเดินไปส่องตาแมวเล็กๆ เพื่อดูว่าใครคือเจ้าของเสียงทุบประตู หัวใจเธอตกลงไปอยู่ตาตุ่มทันทีที่รู้ว่าคนที่ทุบประตูเป็นใคร “คุณมังกร…” “จะเปิดดีๆ หรือจะให้พังเข้าไป” “….” เธอควรทำยังไงดี นี่เป็นครั้งแรกที่มังกรบุกมาหาเธอถึงคอนโด มังกรไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่คงไม่ยากสำหรับเขาที่จะตามหาใครสักคน ปังๆๆ! เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูให้มังกร หากเธอไม่ยอมเปิด เขาคงพังเข้ามาอย่างที่พูดไว้ แกร๊ก “มะ…มีธุระอะไรเหรอคะ” พอเขามายืนอยู่ต่อหน้าแบบนี้ ภาพการกระทำอุกอาจของเขาเมื่อเช้าก็ทำให้เธอพลอยกลัวว่าเขาจะทำแบบนั้นกับเธออีก มังกรมองใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางของเลขาสาว ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองรอยดูดที่เขาทำไว้เมื่อเช้าบนคอขาวเนียน มาเฟียหนุ่มไม่พูดอะไร เดินต้อนซอจินเข้าไปข้างไปข้างในก่อนจะใช้เท้าปิดประตูลง การกระทำนี้ของมังกรเริ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่ปลอดภัย “คะ…คุณคิดจะทำอะไร” “ฉันมาทวงค่าตอบแทนจากเธอ” สิ้นประโยคนั้นของมังกร แผ่นหลังบางก็แนบชิดลงผนังห้อง ทำให้ตอนนี้เธอหมดหนทางที่จะหนีจากผู้ชายคนนี้ “คะ…ค่าตอบแทนอะไรคะ” “หนีกลับมาทั้งที่ฉันยังไม่อนุญาตยังพอรับได้ แต่การที่เธอลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับฉันเนี่ย…ฉันควรตัดลิ้นเธอทิ้งดีไหม?” “….” “อย่าลืมว่าฉันคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอ เพราะฉะนั้น…ได้เวลาจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้มีพระคุณแล้ว”หลายวันต่อมา“แม่ไม่อยู่ไทยแค่แป๊บเดียว พอกลับมา ลูกสาวคนสวยก็บอกข่าวดีว่าแม่กำลังได้อุ้มหลาน เป็นของขวัญก่อนปีใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับแม่เลย” ชลธิชาเอ่ยพูด หลังจากลูกสาวบอกว่ากำลังตั้งครรภ์ คนเป็นแม่พอรับรู้ก็แสดงออกชัดเจนว่าดีใจมากแค่ไหนเพราะอยากอุ้มหลานมานานแล้ว“ไม่ได้แกล้งแม่เล่นใช่ไหม?”“ไม่ได้แกล้งค่ะ ซอลกำลังท้องจริงๆ” เธอพูดยืนยันกับคนเป็นแม่อีกครั้ง “ได้สองสัปดาห์แล้วค่ะ”“นี่แม่กำลังจะมีหลานจริงๆ ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ คุณแม่กำลังมีหลาน” เธอตอบกลับ ก่อนจะเบือนใบหน้าไปมองมังกรซึ่งนั่งอยู่ข้างกายพร้อมระบายยิ้ม คุณแม่บินไปทำธุระที่ต่างประเทศหลายวัน คงคิดไม่ถึงว่าพอบินกลับไทยมาเธอจะมอบของขวัญที่คนเป็นแม่อยากได้มากที่สุดให้ “แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”“ไม่ค่ะ มันคือเรื่องจริง ซอลกำลังมีหลานให้คุณแม่”“รู้ไหมว่าเมื่อคืน แม่อะฝันว่าซอลกำลังท้อง แต่ไม่คิดไม่ถึงเลยว่าความเมื่อคืนจะกลายเป็นจริง” ชลธิชาตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อคืนระหว่างนั่งเครื่องจากดูไบมาประเทศไทย ฝันว่าลูกสาวมีหลานให้อุ้ม คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าพอมาถึงประเทศไทย ซอจินจะนำข่าวดีมาบอกตัวเอง นับว่าเป็นของของขวัญก่อนปีใหม่ที่ดีที่สุดสำหร
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“ยัยซอล แกเห็นข่าวนี้รึยัง” “ข่าวอะไรเหรอ?” เธอละสายตาจากหนังสือนิตยสารตรงหน้าไปมองพิมฐาที่เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ “นี่ไง เมียใหม่พ่อแกถูกยิงจนเสียชีวิตเมื่อคืน” เธอรับโทรศัพท์จากพิมฐามาเพื่อเลื่อนอ่านข่าวของภรรยาใหม่พ่อตัวเองเงียบๆ แอบตกใจไม่น้อยที่ได้ยินข่าวนี้ เท่าที่เลื่อนอ่านคร่าวๆ สรุปได้ว่าภรรยาใหม่ของพ่อเธอติดหนี้บ่อนพนันแล้วคิดจะหนีบวกกับขโมยสารเสพติดมา สุดท้ายเลยถูกยิงจนเสียชีวิตตามข่าว “ไม่น่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันเลย” พิมฐาพูด“….” พอรู้เรื่องการเสียชีวิตของภรรยาใหม่พ่อ ภาพในอดีตที่ผู้หญิงคนนี้เคยกระทำกับเธอก็ถูกขุดขึ้นมาจากความทรงจำฉายเข้ามาในหัว ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกภรรยาใหม่พ่อหลอกไปขายให้กับซ่องแห่งหนึ่ง โชคดีที่หนีออกมาได้ แต่ก็ไม่วายจะถูกคนเหล่านั้นไล่ล่า ทว่าโชคชะตาก็นำพาให้เธอมาเจอกับ ‘พศิน’ พ่อของมังกร ท่านคือผู้มีพระคุณที่ช่วยเธอออกมาจากตรงนั้น นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ภรรยาใหม่ของพ่อก็ไม่กล้าแตะต้องตัวเธออีกเลยเพราะถูกพศินขู่เอาไว้ ส่วนตอนนั้นพ่อแทบไม่สนใจอะไรเธอเพราะมัวแต่หลงภรรยาใหม่ และภรรยาใหม่นั่นแหละที่เป็นต้นเหตุทำให้พ่อเธอต้องล้
หลายวันต่อมา“วะ…ว่ายังไงนะ?” มัทนาขยับเรียวปากพูดอย่างตะกุกตะกัก สิ่งที่ลูกชายเอื้อนเอ่ยออกมาเมื่อครู่ ใช่ว่าตนไม่ได้ยิน แต่เพียงแค่อยากแน่ใจเท่านั้นว่าหูตัวเองไม่ได้ฝาดไป“ซอจินกำลังท้องครับ” มัทนาหันหน้าไปมองพศินอย่่างอึ้งๆ วันที่รอคอยมานานในที่สุดก็มาถึงแล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งมังกรจะจูงมือซอจินมาหาแล้วบอกว่ากำลังมีลูก นับว่าเป็นของขวัญก่อนถึงวันคริสมาสต์และปีใหม่ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้“ไม่ได้หลอกให้คนแก่ดีใจเล่นใช่ไหม”“ซอลท้องจริงๆ ค่ะ ไปตรวจมาแล้ว” เธอพูดยืนยันอีกหนึ่งเสียงด้วยรอยยิ้ม ถ้าพ่อแม่มังกรไม่เชื่อว่าเธอกำลังท้องคงไม่แปลก เพราะที่ผ่านมาทั้งสองคนอยากอุ้มหลาน แต่มังกรก็เอาแต่ปฏิเสธหัวชนฝามาโดยตลอด พอวันนี้มาบอกว่ากำลังมีลูก เป็นใครก็เชื่อไม่ลง“ได้ยินไหมคะคุณ พวกเราสองคนจะได้อุ้มหลานแล้ว”“ยังมีน้ำยาอยู่นิ” พศินขยับเรียวปากพูด หลังจากเงียบไปสองนาน แม้ถ้อยคำที่เปล่งออกมาจะเชิงแขวะลูกชาย หากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความดีใจที่เอ่อล้นออกมา“ผมไม่ได้อ่อนหัดขนาดนั้น”“หึ…”“คุณคะ แบบนี้เราต้องปิดเกาะฉลองแล้วไหมคะ”“นี่ขนาดหลานยังไม่ออกมายังถึงขั้นปิดเกาะฉลอง ถ้าหลานออกมาแ
วันต่อมา@Dragon Casino“กาแฟค่ะ” เธอวางแก้วกาแฟขนาดเล็กลงให้มังกรที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานด้วยใบหน้าจริงจังมาเฟียหนุ่มละสายตาจากงานไปมองภรรยาสาว ก่อนหน้านี้เคยย้ำซอจินแล้วว่าไม่ต้องทำอะไรอย่างนี้ให้แล้ว เพราะกำลังตั้งครรภ์แต่เธอกลับไม่ยอมฟัง ยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาพูดกับคนดื้อคนนี้ดี“เฮียบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ”“แต่ว่าซอลอยากทำนิคะ”“ทำไมดื้อแบบนี้หืม?” เขาไม่พูดเปล่า แขนกำยำเลื่อนไปรั้งเอวบางของซอจินเข้ามาหากระทั่งบั้นท้ายงอนงามหย่อนลงบนตัก “เวียนหัวไหม”“ไม่ค่ะ”“รู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนรึเปล่า?”“ยังไม่รู้สึกค่ะ”“ซอลคงทรมานมากน่าดู ถ้าเฮียสามารถแพ้ท้องแทนซอลได้ เฮียก็จะทำ”หัวใจดวงน้อยพองโตเมื่ออีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยประโยคชวนอ่อนไหวออกมา ทุกคำพูดของมังกรทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ย้อนกลับไปตอนที่เธอเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มังกรดูแลเธอเป็นอย่างดี คอยถามไถ่ตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง เขาดูแลและเอาใจใส่ทั้งที่ไม่รู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ทว่าตอนนี้เขารู้แล้ว เขาก็ยังดูแลเธอเป็นอย่างดีไม่ต่างจากตอนนั้น
วันต่อมา“เฮีย…” เธอดึงแขนมังกรเอาไว้ในตอนกำลังก้าวเท้าเข้าไปในโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอมาถึงกลับรู้สึกกลัวและวิตกกับอะไรหลายๆ อย่าง“มีอะไรเหรอ?”“ซอลกลัว”มาเฟียหนุ่มเลื่อนมือหนาไปลูบหัวทุยของภรรยาด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้ม แววตาซอจินแสดงออกชัดเจนว่าวิตกกังวลมากแค่ไหน“มีเฮียอยู่ด้วยทั้งคน ซอลจะกลัวอะไร”น้ำเสียงทุ้มและสัมผัสอ่อนโยนจากมังกร พลอยทำให้คนเป็นภรรยาคลายความกังวลลงในระดับหนึ่ง หัวใจดวงน้อยพองฟูไปกับการกระทำของสามี ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายป่าเถื่อนในวันนั้น จะกลับกลายเป็นคนอ่อนโยนราวกับไม่ใช่คนเดียวกันในวันนี้…“ไม่ว่าผลตรวจจะออกมาเป็นอะไร เฮียก็จะอยู่ข้างๆ ซอลไม่ไปไหน”“จับมือซอลไว้แน่นๆ ระหว่างที่คุณหมอวินิจฉัยได้ไหมคะ”“หึ แน่นอนอยู่แล้ว” เขายิ้มอีกครั้ง ก่อนจะจูงมือซอจินเดินเข้าไปในโรงพยาบาล คนข้างกายเขาอาจวิตกกังวล หากแต่เขากลับตื่นเต้นก่อนหน้านี้เขาโทรไปปรึกษาคุณแม่ ท่านบอกว่าอาการของซอจินเข้าข่าย ‘อาการแพ้ท้อง’ เพราะตอนคุณแม่อุ้มท้องเขา ท่านเล่าว่ามีอาการแบบเดียวกับซอจิน รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และติดสามีมากกว่าปกติ เขาภาว
เธอยืนนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าค่อยๆ เบือนมามองเหมันต์ที่ยืนกอดตัวเองไว้แน่น รับรู้ได้ทันทีว่าอ้อมกอดนั้นเริ่มคลายตัวลงหลังจากเสียงปืนสงบลง เขาถูกยิง…“พะ…พี่เหมันต์” เธอเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่นานนักร่างของเขาก็ค่อยๆ ร่วงลงพื้นโดยมีเธอประคองเอาไว้ “ไปลากคอมันมา!!” เสียงของมังกรตะโกนลั่นลานจอดรถเพื่อบอกลูกน้องให้ไปลากตัวเจ้าของเสียงปืนมา ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะวิ่งเข้าไปหาภรรยาก่อนหน้านี้ที่เช็กสินค้าอยู่ เหมันต์ส่งข้อความมาหา บอกว่าคลัซให้คนมาดักซุ่มที่คาสิโนเพื่อจัดการซอจิน พอเขารู้ก็รีบออกตามหาซอจินและบอกให้ลูกน้องตามหาคนของคลัซที่ดักซุ่มอยู่“เจ็บตรงไหนไหม…” เหมันต์เอ่ยถามซอจินด้วยน้ำเสียงสั่นระริก ฝ่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นมาเพื่อสัมผัสแก้มใสของคนตรงหน้า ริมฝีปากหยักพยายามคลี่ยิ้มให้อย่างยากลำบาก “ไม่เจ็บใช่ไหม”“ไม่…” เธอส่ายหน้าไปมา ดวงตาทั้งสองคลอเคล้าด้วยของเหลวสีใส ตอนนี้เธอทั้งช็อคและตกใจในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังทำอะไรไม่ถูกอีกด้วยซอจินเงยหน้าขึ้นมองสามี ก่อนจะขยับเรียวปากพูดบางอย่าง“เฮียกรเรียกรถพยาบาล…”“ไม่ต้อง เดี๋ยวเฮียจัดการเอง” เขาพูดแทรกทั้งที่ซอจินยังพูด