หน้าหลัก / รักโบราณ / สยบรักยอดบัณฑิต / ตอนที่ 55 สวมไหมปักกลับบ้านเกิด

แชร์

ตอนที่ 55 สวมไหมปักกลับบ้านเกิด

ผู้เขียน: ฝ้ายสีคราม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-18 09:25:33

ขบวนเกียรติยศเคลื่อนตัวผ่านหลายหมู่บ้าน ระหว่างทางต่างโห่ร้องแสดงความยินดีกับจอหงวนอันดับหนึ่ง

จนล่วงเข้าวันที่สาม ขบวนเกี้ยวเกียรติยศจึงมาถึงเมืองเจียงเฉิน

เสียงกลองชัยดังเป็นจังหวะ กลองใหญ่ถูกตั้งเรียงที่ประตูเมือง สีแดงชาดล้อมด้วยธงผ้าสีทองปักคำว่าจอหงวน ขบวนแห่ม้าสง่างามมาถึงปลายแถวคือ เกี้ยวทองขนาดสี่หาม ปักพู่ไหมแดงพลิ้วไหว

บนเกี้ยว บุรุษในอาภรณ์จอหงวน นั่งอยู่ด้วยท่วงท่าผึ่งผาย สงบ มั่นคง มีความสุขุมที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน

เผิงเหยียนเฉิงสวมชุดผ้าไหมสีน้ำตาลเข้มขลิบทอง ปักลายเมฆคลื่นอย่างสง่างาม เส้นผมถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย สวมหมวกทรงกลมประดับปิ่นแดงปักตราพระราชทาน ดวงตาเปี่ยมแสงภาคภูมิ แต่ภายในนั้นอบอวลด้วยความคิดถึง

“ข้ากำลังกลับไปหานาง และครอบครัวที่ข้ารัก” เขาพึมพำเมื่อขบวนเคลื่อนเข้าไปใกล้จุดหมายทีละน้อย

เสียงแตรยาวจากหน้าขบวนดังขึ้นขณะเกี้ยวเคลื่อนเข้าสู่เขตเมือง นายอำเภอซุนพร้อมครอบครัวออกมาต้อนรับขบวน ตลอดสองข้างทางชาวเมืองออกมาต้อนรับอย่างแน่นขนัด ต่างโห่ร้อง

“จอหงวนของเมืองเจียงเฉินกลับมาแล้ว”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 56 ขออาจเอื้อม

    ท่ามกลางคำชื่นชมและเยินยอในงานเลี้ยงที่สกุลลู่จัดไว้รอ เผิงเหยียนเฉิงหันไปมองลู่ซือหนานที่นั่งข้างมารดา นางเงยหน้าขึ้นสบตาเขา“และนอกจากจะเชิญพวกท่านกลับไปรับมอบจวนกับข้าแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่ข้าขออาจเอื้อม” จอหงวนหนุ่มประกาศเสียงชัดท่ามกลางสายตาของแขกเหรื่อที่เริ่มจับจ้อง เผิงเหยียนเฉิง คุกเข่าลงต่อหน้าหัวหน้าสกุลลู่ ผู้เป็นทั้งผู้ใหญ่และบิดาในใจเขา“ท่านลุงลู่ ข้าปรารถนาจะขอลู่ซือหนานเป็นคู่หมั้นของข้า ข้าสัญญาว่าจะดูแลนางอย่างที่สุดของชีวิตที่ข้ามี”ทั่วทั้งลานเงียบกริบ แม้แต่เสียงเครื่องสายก็หยุดลงโดยไม่ได้นัดหมาย ลู่ซือหนานยกมือขึ้นปิดปาก น้ำตาซึมในดวงตา แต่รอยยิ้มที่มุมปากกลับแผ่กว้างอย่างห้ามไม่ได้ลู่หยวนฉีชะงักเล็กน้อย ดวงตาเขาคมกริบ จับจ้องชายหนุ่มตรงหน้า ไม่ใช่ในฐานะบัณฑิตจอหงวน ไม่ใช่เพียงอดีตผู้ถูกทอดทิ้ง แต่ในฐานะชายคนหนึ่งที่กล้าหาญพอจะรักและปกป้องบุตรีของเขาเขาหันไปมองภรรยา อันเหม่ยฉินยิ้มพยักหน้าทั้งน้ำตา ก่อนจะหันไปแตะมือซือหนานเบาๆตอนนั้นเอง ลู่หยวนฉีจึงพยักหน้าอย่างช้าๆ“ซือหนาน

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 55 สวมไหมปักกลับบ้านเกิด

    ขบวนเกียรติยศเคลื่อนตัวผ่านหลายหมู่บ้าน ระหว่างทางต่างโห่ร้องแสดงความยินดีกับจอหงวนอันดับหนึ่งจนล่วงเข้าวันที่สาม ขบวนเกี้ยวเกียรติยศจึงมาถึงเมืองเจียงเฉินเสียงกลองชัยดังเป็นจังหวะ กลองใหญ่ถูกตั้งเรียงที่ประตูเมือง สีแดงชาดล้อมด้วยธงผ้าสีทองปักคำว่าจอหงวน ขบวนแห่ม้าสง่างามมาถึงปลายแถวคือ เกี้ยวทองขนาดสี่หาม ปักพู่ไหมแดงพลิ้วไหวบนเกี้ยว บุรุษในอาภรณ์จอหงวน นั่งอยู่ด้วยท่วงท่าผึ่งผาย สงบ มั่นคง มีความสุขุมที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนเผิงเหยียนเฉิงสวมชุดผ้าไหมสีน้ำตาลเข้มขลิบทอง ปักลายเมฆคลื่นอย่างสง่างาม เส้นผมถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย สวมหมวกทรงกลมประดับปิ่นแดงปักตราพระราชทาน ดวงตาเปี่ยมแสงภาคภูมิ แต่ภายในนั้นอบอวลด้วยความคิดถึง“ข้ากำลังกลับไปหานาง และครอบครัวที่ข้ารัก” เขาพึมพำเมื่อขบวนเคลื่อนเข้าไปใกล้จุดหมายทีละน้อยเสียงแตรยาวจากหน้าขบวนดังขึ้นขณะเกี้ยวเคลื่อนเข้าสู่เขตเมือง นายอำเภอซุนพร้อมครอบครัวออกมาต้อนรับขบวน ตลอดสองข้างทางชาวเมืองออกมาต้อนรับอย่างแน่นขนัด ต่างโห่ร้อง“จอหงวนของเมืองเจียงเฉินกลับมาแล้ว”

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 54 จอหงวน

    จวนที่ได้รับพระราชทานอยู่ในระหว่างที่ให้คนทำความสะอาดและจัดเตรียมความเรียบร้อย รอการส่งมอบในภายหลังที่เขาจะกลับจากบ้านเกิดเผิงเหยียนเฉิงจึงยังพักอยู่ในห้องพักในโรงเตี๊ยม ในตอนนั้นเองอาหมิงก็เข้ามาแจ้งว่ามีขบวนพระราชโองการจะมาถึงเขาลุกขึ้นจากโต๊ะตำรา ดวงตานิ่งสงบแต่เปล่งประกาย เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพยักหน้า เดินฝ่าฝูงคนที่รอชื่นชมเขาลงไปที่หน้าโรงเตี๊ยม“ขอบใจ เจ้าเตรียมชุดให้ข้าด้วย”“จงรับราชโองการ!” ขันทีกลางวัยยกประกาศขึ้นอ่าน“องค์จักรพรรดิทรงทราบถึงความสามารถของท่านเผิงเหยียนเฉิงผู้สอบได้เป็นอันดับหนึ่งแห่งบัณฑิตทั้งปวงในแผ่นดิน จึงทรงมีพระกรุณาพระราชทานชุดเสื้อผ้าไหมปัก เกี้ยวขนาดแปดคนหามพร้อมขบวนเกียรติยศ เพื่อกลับไปยังบ้านเกิด”ขันทีหยุดชั่วครู่ พลางกล่าวด้วยเสียงดังกังวาน เผิงเหยียนเฉิงคุกเข่ารับและกล่าวเสียงหนักแน่นจากนั้นจึงมอบชุดไหมปักให้ แล้วนัดวันที่จะกลับบ้านเกิดในอีกสองวันข้างหน้าเพื่อจัดเตรียมขบวนเกียรติยศหลังพิธีเสร็จสิ้น ชาวบ้านรอบโรงเตี๊ยมต่างแซ่ซ้องชื่นชม เด็กๆ ส่งเ

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 53 ผลการสอบ

    ขันทีและขุนนางในกรมพิธีการล้วนแต่งกายเต็มยศ เตรียมเข้าสู่ช่วงเวลาอันสำคัญแห่งแผ่นดินลานกว้างหน้าตำหนักสอบถูกประดับอย่างเรียบหรู ธงประจำราชวงศ์โบกพลิ้วเหนือยอดเสา เสียงฆ้องกังวานสามครั้งดังขึ้นตามธรรมเนียม เหล่าบัณฑิตที่สอบผ่านขั้นสุดท้ายได้รับเชิญให้มารวมตัวยังลานประกาศเสียงเท้าเรียงเป็นระเบียบจากบัณฑิตผู้มากฝีมือ แต่ละคนเหงื่อซึมเล็กน้อยใต้ปกเสื้อ หลายคนสูดลมหายใจลึก สายตาแต่ละคู่ทอดมองไปยังเบื้องหน้า ที่นั่นคือเวทีประกาศผลภายใต้พระบัญชาแห่งองค์จักรพรรดิเผิงเหยียนเฉิงยืนในแถวแนวหน้า ใบหน้าเรียบนิ่ง ราวกับสงบ แต่หากมองลึกลงในดวงตานั้นกลับเห็นเปลวไฟบางอย่างกำลังลุกโชนอยู่ภายในไม่นานนัก ขุนนางชั้นสูงผู้ควบคุมสอบก้าวขึ้นสู่แท่นสูงด้านหน้า ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ เสนาบดีกรมพิธีการขึ้นประกาศผลสอบด้วยสุ้มเสียงหนักแน่น“ฟังให้ทั่วหล้า บัณฑิตผู้ผ่านการสอบหน้าพระที่นั่งในปีนี้ มีทั้งสิ้นสามตำแหน่งเอก คือ อันดับหนึ่ง จอหงวน อันดับสองปังเหยี่ยน และอันดับสามทั่นฮวา ทั้งสามตำแหน่งจักได้รับประกาศพระราชโองการ และรับการแต่งตั้งเบื้องหน้าองค์จักรพรรดิ&rdq

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 52 ร้อยวันพันรอ

    เรือนสกุลลู่ในเจียงเฉินยังคงเงียบสงบเช่นเดิม แต่นับตั้งแต่วันที่รถม้าคันเล็กคันนั้นเคลื่อนจากไป หากแต่หญิงสาวผู้หนึ่งกลับรู้สึกว่าเวลาภายในเรือนนั้นเคลื่อนไหวช้ากว่าทุกวันลู่ซือหนานมิได้คร่ำครวญหรือซึมเศร้า หากแต่ใช้เวลาทุกวันอย่างมีความหมายเพื่อรอการกลับมาของคนรักนางตื่นแต่เช้าตรู่เช่นเคย ลุกขึ้นจากเตียงไม้หอมที่ปูด้วยผ้าไหมสีอ่อน สวมเสื้อคลุมผ้าป่านบางเบา เดินไปยังสวนหลังเรือน สถานที่ที่นางและเขาเคยนั่งอ่านตำราด้วยกันในยามเช้า กลิ่นบุปผาในฤดูร้อนปลิวตามสายลมที่อบอุ่น นางยืนนิ่งใต้ต้นไม้หนึ่งต้น มองดูดอกที่เริ่มผลิบานแล้วเอ่ยกับตนเองแผ่วเบา“ท่านจะกลับมาทันดูดอกไม้ฤดูร้อนกับข้าหรือไม่”หลังจากนั้น นางกลับเข้าห้องเล็กที่อยู่ถัดจากเรือนหลัก ห้องนั้นเป็นห้องอ่านหนังสือเล็กๆ ที่นางจัดไว้ให้เขา นับแต่ที่เขาจากไป นางจะเข้ามาทำความสะอาด จัดตำรา จัดโต๊ะเขียนหนังสือให้เรียบร้อยทุกวัน ราวกับเขายังอยู่ที่นี่นางนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวเดิมที่เผิงเหยียนเฉิงเคยนั่ง มือเรียวบางเปิดตำราดู แต่หาใช่เพื่ออ่านศึกษา หากแต่เป็นการอยู่ใกล้สิ่งที่เขารัก เผื่อว่

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 51 หลีกหนีความวุ่นวาย

    แสงเช้ายามรุ่งอรุณทอดผ่านหมอกจางๆ ที่ลอยเหนือหลังคาเรือน บรรยากาศเงียบงันราวกับยังไม่ตื่นเต็มตา แต่เผิงเหยียนเฉิงกลับตื่นแต่เช้าตรู่ เสื้อคลุมผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้มแนบลำตัว เขาจัดเก็บตำราเรียบร้อยแล้ว ให้อาหมิงแบกใส่หีบเล็กไว้เรียบร้อยเมื่อเดินไปยังศาลารับรองที่อยู่ด้านหน้า หยางจิ่งเฟยก็นั่งอยู่แล้วด้วยท่วงท่าสง่างาม แต่สีหน้าแม้จะสงบนิ่งก็ยังมีร่องรอยของความรู้สึกไม่สบายใจจากเรื่องที่รับรู้มาจากพ่อบ้าน“คุณชายเผิง ตื่นเช้านัก เป็นบัณฑิตสมชื่อจริงๆ” เสียงของหยางจิ่งเฟยเอ่ยทัก สุภาพแต่ห่างเหินขึ้นเล็กน้อยเผิงเหยียนเฉิงค้อมศีรษะต่ำ กล่าวด้วยเสียงเรียบนิ่ง“ขอบคุณท่านอาวุโสที่ให้ที่พักพิงมาสามวันเต็ม ข้าเกรงว่าตนจะรบกวนมากเกินไป วันสอบยังอีกหลายวัน ข้าจึงตั้งใจจะออกไปพักโรงเตี๊ยมแทน เพื่อจะได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้กับบัณฑิตท่านอื่นบ้าง ไม่อยากรบกวนความสงบของเรือนท่านอีกต่อไป”หยางจิ่งเฟยมองเขาอย่างพินิจ สีหน้าหนักแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล“ดีแล้ว หากท่านสบายใจกว่า ข้าย่อมไม่ขัด ข้าต้องขออภ

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 50 มิใช่รักแท้

    ยามเย็นในเรือนรับรองของสกุลหยาง แสงแดดยามสนธยาโปรยลงในสวนข้างเรือนรับรอง ภายในห้องเรียบง่ายมีเพียงโต๊ะเตี้ยหนึ่งตัว และตะกร้าหนังสือเรียงรายบนชั้นริมผนัง เผิงเหยียนเฉิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังคัดลอกบทกลอนลงบนกระดาษด้วยพู่กันลายงาม ข้างตัวคืออาหมิงที่คอยยืนเฝ้าอยู่เงียบๆเสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้ดังขึ้นนอกห้อง ตามด้วยเสียงอาหมิงกระซิบเบาแต่จริงจัง“คุณชาย คุณหนูหยางมายืนขอพบท่านอีกแล้วขอรับ นี่เป็นครั้งที่สามในวันนี้”เผิงเหยียนเฉิงหยุดมือที่ถือพู่กัน สีหน้ากังวลเล็กน้อยก่อนจะถอนใจเบาๆ“ไม่ต้องให้เข้ามา บอกไปว่า....”“ข้าเป็นบุตรีเจ้าบ้านแห่งสกุลหยาง เรือนนี้เป็นเรือนของข้า ข้าไม่มีสิทธิ์พบแขกของเรือนหรือ” เสียงของหยางมี่อิงดังแทรกเข้ามาก่อนที่เขาจะกล่าวจบ“เอาอย่างไรดีขอรับ บ่าวที่อยู่หน้าเรือนก็เป็นคนของสกุลหยาง คงต้านทานนางไม่ได้นาน”“ถอยไป!” เสียงสาวใช้ข้างกายของหยางมี่อิงดังขึ้นก่อนตัวนางจะปรากฏเข้ามาในห้องของเขาโดยไม่ได้เต็มใจเชื้อเชิญสตรีในชุดผ้าแพรสีชมพูอ่อนก้าวพรว

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 49 ความวุ่นวาย

    เสียงพลิกหน้าตำราเบาๆ ดังคล้ายจังหวะลมหายใจของเขา หากแต่ในใจกลับไม่อาจสงบอย่างที่ตั้งใจไว้เผิงเหยียนเฉิงวางพู่กันลงบนแท่นหมึกช้าๆ ดวงตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างไม้ฉลุ มองเห็นร่มเงาของต้นท้อและบานหน้าต่างอีกด้านหนึ่งที่เพิ่งแง้มออก แล้วก็ปิดลงทันทีราวกับมีใครสักคนแอบมองอยู่ก่อนหน้าเขาหลับตา ถอนหายใจเบาๆ ก่อนปล่อยให้ความคิดย้อนกลับไปในวันที่เขามาถึงเรือนสกุลหยาง นับแต่นั้นมาหยางมี่อิงก็แทบจะตามเขาทุกฝีก้าวเมื่อตื่นเช้าออกมาเดินเล่นรับลม นางก็ปรากฏตัวพร้อมขันน้ำชาผลไม้ เมื่อเขากลับเข้าห้องเพื่ออ่านตำรา นางก็มาเคาะประตูอ้างจะยืมตำราดูบางครั้งถึงกับฝากสาวใช้มายืนรอหน้าห้องตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างและถึงเขาจะหลบอยู่ในห้อง หาข้ออ้างอ่านตำราที่แม้จะจำได้จนหมดแล้วอย่างเคร่งเครียด หวังจะตัดความฟุ้งซ่านจากนาง แต่สายตาคู่นั้นยังตามมาหลอกหลอนอยู่เสมอ‘หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้ายังจะมีใจอ่านอะไรได้อีกหรือ’ เขาคิดในใจ พลางหลับตาลงเล็กน้อย ยกพัดผ้าขึ้นปิดครึ่งหน้าเพื่อระบายความร้อนที่มิได้มาจากอากาศ“ในการสอบครั้งนี้ สิ่งที่ข้าต้องเผชิญไม่

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 48 กลับถึงเมืองหลวง

    รุ่งสางของวันที่สองในการเดินทาง ฟ้าสีเทาหม่นค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อน รถม้าสีเรียบคันหนึ่งเคลื่อนผ่านประตูเมืองหลวงอย่างเงียบเชียบ ท่ามกลางขบวนรถพ่อค้าและผู้เดินทางนับไม่ถ้วนที่มุ่งเข้าสู่ใจกลางแห่งแผ่นดินแคว้นสือบนรถม้านั้น เผิงเหยียนเฉิงสวมอาภรณ์เรียบง่าย สีหม่น กลมกลืนไปกับฝุ่นทาง หากแต่แววตากลับแน่วแน่ เปี่ยมด้วยจุดมุ่งหมาย“ในที่สุดก็ถึงแล้ว...” เขาพึมพำ คลี่ยิ้มจางๆ เมื่อเห็นกำแพงเมืองหลวงสูงตระหง่านที่ตนเคยใฝ่ฝันจะยืนหยัด ณ เบื้องหน้าอาหมิงที่นั่งข้างคนบังคับรถชะโงกหน้าเข้าไปในรถ “คุณชาย ขณะนี้เข้าสู่เขตเมืองชั้นในแล้วขอรับ อีกไม่ไกลก็จะถึงจวนสกุลหยาง”เผิงเหยียนเฉิงพยักหน้า หยิบจดหมายที่ลู่หยวนฉีเขียนแนะนำเขาให้กับสหายเก่าซึ่งเป็นประมุขสกุลหยางขึ้นมาดูอีกครั้ง ตัวอักษรเรียบหรูหนักแน่น ตอกย้ำความจริงใจที่ว่าที่ท่านพ่อตาของเขามีให้เมื่อถึงหน้าประตูเรือนสกุลหยาง รถม้าจอดหน้าทางเข้า อาหมิงลงไปแจ้งต่อบ่าวที่ทำหน้าที่เฝ้าประตู“ขอเข้าเฝ้านายท่านหยาง คุณชายของข้าข้ามีนามว่าเผิงเหยียนเฉิง มาส่งจดหมายจากนา

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status