หน้าหลัก / โรแมนติก / สยบเสือใหญ่ / บทที่1│เจ้าป่าลายพาดกลอน (3)

แชร์

บทที่1│เจ้าป่าลายพาดกลอน (3)

ผู้เขียน: บีวีเหมียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 00:22:34

⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆

 “เอาจีบ”

 พิลลาสร่างเมาทันที รีบปรี่ไปที่ชายหนุ่มก่อนจะเสยหมัดเข้าที่ใบหน้าคมคายอย่างไม่ออมแรง

 “ไอ้เวรนี่!”

 สารินที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็เซถลาไปเล็กน้อย เขาใช้มือยันไปที่ผนังเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลงไปกองที่พื้น ก่อนจะค่อยๆ หยัดยืนอย่างมั่นคง มือหนาลูบไปที่แก้มสากป้อยๆ

 “แค่นี้ต้องต่อยกันเลยเหรอจีบ”

 “อยากทำมากกว่านี้อีก” เธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใครใช้ให้มาพูดจาหมาๆ กับจีบก่อน”

 สารินยิ้มทั้งที่มีเลือดออกบริเวณมุมปาก “แล้วสนปะ”

 “อีกสักหมัดไหม”

 “นอนกับพี่ครั้งเดียว เรไรจะได้กลับไปอยู่ที่บ้านโดยที่จีบไม่ต้องเสียสักบาท”

 สาวหมวยแค่นหัวเราะ “เพราะเสียตัวแทนอะนะ”

 “อย่าพูดงั้น ไม่มีการเสียอะไรทั้งนั้น เราได้กัน พี่ได้จีบ จีบได้พี่ มีแต่ได้กับได้”

 “ทำไมถึงอยากได้”

 นัยน์ตาคมกริบจดจ้องไปที่ดวงหน้านวล โค้งริมฝีปากเล็กน้อย “ก็อยากได้”

 ในขณะที่เขาอยากได้เธอ เธอกลับอยากกระทืบเขา

 “ไม่เอา เสนออย่างอื่นมาแทน” เขาส่ายหน้า “อย่าเรื่องมาก ทำตัวให้มันสมกับที่พอใจมันนับถือหน่อย ผ่อนวันละเท่าไรก็ว่ามา”

 “ก็บอกว่าไม่ชอบเงินผ่อน”

 “แล้วพี่เอาเรไรไปขายทำไม” พิลลาเริ่มฉุนเมื่อการเจรจากับเขานั้นเป็นไปอย่างยากเย็น “มันเป็นนกของพ่อ เป็นของต่างหน้าของพ่อ พอใจมันผิดที่เอามาจำนำกับพี่ก็จริง แต่พี่จำเป็นต้องใจร้ายกับน้องมันถึงขนาดนี้เลยเหรอ”

 กำปั้นถูกทุบไปที่อกด้านซ้าย

 “มีหัวใจปะ ทุบไปเนี่ยเจ็บไหม รู้สึกรู้สาอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้กล้าทำกับน้องมันแบบนั้น”

 สารินไม่ยอมให้เธอประทานความเจ็บปวดให้นานนัก เขาคว้าไปที่ข้อมือบางแล้วจับไว้แน่นจนเธอขาดอิสระ ร่างสูงหลุบตาลงต่ำเพื่อจ้องมองหญิงสาวที่ถูกโทสะครอบงำ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของพิลลา

 หน้าหมวย ปากหมา ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

 มนุษย์ที่ดูภายนอกแสนน่าทะนุถนอม บอบบาง และนุ่มนิ่ม แต่อะไรไม่รู้ที่หล่อหลอมให้กลายเป็นคนหัวร้อน เจ้าอารมณ์ และปากจัด

 ถึงเขาจะจับมือไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอหยุดพูด “สี่หมื่นกว่าเกือบห้าหมื่นอะ พี่คิดว่ามันน้อยเหรอ พี่คิดว่ามันหาง่ายเหมือนเงินร้อยสองร้อยหรือไง จีบต้องถ่ายเอกสารตั้งกี่ใบกว่าจะได้ ภาระจีบมันเยอะ ที่บ้านมีจีบทำงานอยู่คนเดียว ต้องตื่นตั้งแต่เช้า ทำงานทั้งวัน ทุกวัน ไม่เคยได้หยุดกับเขา เพราะจีบต้องเลี้ยงอีกตั้งสามชีวิต ไหนยังค่ารถ ค่าเช่า สารพัดที่จะต้องจ่าย สายตัวจะขาดอยู่แล้ว แล้วพี่ยังคิดว่าสี่หมื่นแปดมันน้อยสำหรับจีบอยู่อีกไหม”

 เธอจดจ้องเขาอย่างไม่วางตา เหมือนที่เขาเองก็มองแต่เธอ

 “พ่อก็ตาย เรไรมันก็เหมือนตัวแทนพ่อ รู้หรอกว่าที่พูดแบบนี้มันเห็นแก่ตัว แต่พี่ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าที่ปล่อยขายทั้งๆ ที่ผ่านไปแค่วันเดียว น้องมันไม่ใช่คนอื่นคนไกลของพี่เลย จีบสั่งมันว่าอย่ามาที่นี่บ่อยๆ แต่แล้วยังไง มันก็มาอยู่ดี เลิกเรียนก็ตรงมาบ้านพี่ วันหยุดก็ขลุกตัวอยู่แต่ที่โต๊ะ พี่มองพอใจเป็นตัวอะไรถึงไม่เห็นใจเด็กมันเลย”

 “พูดจบยัง”

 “ยัง!” พิลลาสวนทันควัน “พี่ใจร้ายมาก ขอผ่อนก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้”

 เขาจับมือ เธอจึงหยุดทุบ เพราะฉะนั้นการจะให้เธอหยุดพูด เขาก็คงต้องปิดปาก

 “อื้อ!”

 ฝ่ามือหนาถูกยื่นมาจับไว้ที่ต้นคอ ราวกับว่าต้องการที่จะปรับองศาใบหน้าของเธอให้รับกับสัมผัสที่เขามอบให้ อีกทั้งยังยึดไว้เพื่อไม่ให้เธอมีโอกาสได้ขยับหนีไปไหน สารินตะโบมโลมไล้ไปที่กลีบปากบางอย่างตะกละตะกลาม ความร้อนรุ่มก่อเกิดภายในใจ ฝ่ามืออีกข้างฟอนเฟ้นไปที่เอวบางคล้ายหวังปลุกอารมณ์กำหนัด ทั้งยังดึงรั้งให้ร่างระหงเข้ามาประชิดอกแกร่ง จนร่างสองร่างเสียดสีกันไปมา

 สารินมอมเมาพิลลาด้วยจุมพิตและสัมผัสที่แสนเร่าร้อน ผนวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในตัว ทำให้หญิงสาวอ่อนระทวย เธอยับยั้งชั่งใจไม่อยู่แม้จะรู้ว่าควรหยุด แต่ก็ถูกหลอกล่อด้วยความวาบหวามและความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเจอ

 จากต่อต้าน ก็โอนอ่อน

 เผยอปากออกจากกันเพื่อให้ลิ้นร้อนได้เข้ามาช่วงชิงน้ำหวานในโพรงปาก พร้อมๆ กับที่รู้สึกว่าฝ่ามือของเขาเคลื่อนลงไปอยู่ที่สะโพกงามงอน บีบเคล้นเพื่อเร้าอารมณ์ และเธอก็มิอาจปฏิเสธได้ ปล่อยให้เขาปรนเปรอจนกระทั่งทนไม่ไหว ถึงได้ทุบไปที่อกแกร่งเพื่อประท้วง ชายหนุ่มถึงได้ยอมผละริมฝีปากออกไป

 พิลลาใช้โอกาสนั้นในการกอบโกยอากาศเข้าปอด ก่อนจะเผลอส่งเสียงครางกระเส่าออกมาเมื่อริมฝีปากหนาซุกไซ้ไปที่ซอกคอหอมกรุ่น กดจูบหนักๆ หวังฝากฝังร่องรอยเพื่อตีตราร่างกายของหญิงสาว แล้วจึงเคลื่อนตัวไปประกบริมฝีปากเข้าหากันอีกครั้งเมื่อคิดได้ว่าเธอคงเติมอากาศเข้าปอดจนพอใจแล้ว

 เมื่อเห็นว่าสาวหมวยที่ใครๆ ก็บอกว่า ‘ของแรง’ แต่เขากลับสามารถทำให้เจ้าหล่อนอ่อนยวบได้ ก็ไม่คิดจะดึงรั้งท้ายทอยอีกฝ่ายไว้ และเมื่อเขาปล่อย พิลลาก็ไม่ได้ผละออกไปอย่างที่คาดเดาไว้ ซ้ำยังพยายามจูบตอบอย่างเงอะงะ

 ฝ่ามือที่ไม่ได้ใช้งานในการบีบเคล้นสะโพกมนมีจุดมุ่งหมายคือ ‘ภูเขา’ สองลูกที่บดเบียดอยู่บริเวณอกแกร่ง

 พิลลามีชื่อเล่นว่าพุดจีบ แต่เพื่อนๆ ของเธอมักเรียกขานว่า ‘อีนม’ เหตุผลนั้นเป็นสิ่งที่เขาได้ประจักษ์กับตัว ความอวบอิ่มของเธอนั้นน่าสัมผัสเสียยิ่งกว่าอะไร ยิ่งยามที่มันบดเบียดไปกับตัวของเขา ก็ทำเอาลูกชายตื่นได้อย่างไม่ยาก

 อีกไม่ถึงคืบ เขาก็จะได้รู้แล้วว่าอีนมมันนมใหญ่สมชื่อหรือเปล่า แต่พิลลาก็ผละตัวออกไป พร้อมกับเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้น

 สาวเจ้าหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ก่อนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วคว้าสมาร์ตโฟนเครื่องบางมากดรับสาย “ว่า”

 (เห็นไปนาน แม่เลยให้โทร. มาถามดู)

 “อ้อ” เธอหลุบตาลงต่ำเพราะไม่อยากสบตากับเจ้าของบ้าน พลางถอยออกมาสองสามก้าว “ก็...คุยๆ อยู่”

 (ได้เรื่องยังไงบ้างครับ พี่เสือเขายอมให้ผ่อนหรือเปล่า)

 พี่สาวได้แต่อ้ำอึ้งเพราะหาคำพูดมาตอบโต้กับน้องชายไม่ได้ ทั้งยังไม่มีสติมากพอจะพูดคุย เธอดื่มเบียร์ไปสองขวดครึ่ง ทนคุยกับเขาได้ตั้งนานโดยที่ภาพไม่ตัดไปก่อนก็ดีถมเถ ไหนยังมาทะเลาะจนเผลอลงไม้ลงมือใส่เขาอีก และทุกเรื่องที่ว่ามาไม่มีอะไรพรากสติเธอได้เท่าการ ‘รุกล้ำ’ ของสารินเลย

 “คุยอยู่ ยังตกลงกันไม่ได้”

 ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ก็ถูกแย่งออกไปจากมือ “พรุ่งนี้มาพาเรไรกลับบ้าน”

 พิรภพนิ่งงันเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของคนที่เป็นเหมือนพี่ชาย (พี่เสือ นี่พี่จะคืน-)

 “แล้วอย่าเอาไปจำนำที่ไหนอีก”

 (ครับๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้-)

 เด็กหนุ่มยังพูดไม่ทันจบประโยค สารินก็กดตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี เขาหันมามองอาหมวยสุดเร่าร้อน พยักหน้าให้เธอหนึ่งหน “ต่อนะ”

 “ไม่...ไม่เอาแล้ว จะกลับบ้าน”

 “อย่าโกงกันน่า” ใบหน้าคร้ามคมส่ายไปมาในจังหวะที่แสนเนิบนาบ รอยยิ้มบางๆ ผุดพรายขึ้น “พี่คืนเรไรให้โดยที่จีบไม่ต้องเสียสักบาท นี่พี่เข้าเนื้อด้วยซ้ำ จีบก็ควรทำตามข้อตกลงของเราหรือเปล่า”

 “แต่จีบยังไม่ได้ตอบตกลงกับพี่สักประโยค พี่จะมาว่าจีบโกงได้ไง เป็นพี่เองต่างหากที่ตกลงจะคืนเรไรให้พอใจมันเอง”

 “แน่ใจใช่ไหมว่าจะเหลี่ยมใส่พี่แบบนี้”

 สารินยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย

 เขากดโทร. ออกหาเบอร์ล่าสุด รอสายแค่ครู่สั้นๆ ก็มีคนรับ “พอใจ เรื่องเรไรน่ะ”

 “วาง”

 (ทำไมครับ)

 พิลลาจ้องชายหนุ่มตาเขม็ง “พี่-เสือ-ใหญ่”

 “พี่คิดว่า...”

 เธอยังคงยืนกรานเช่นเดิม “วางก่อน”

 (ว่าอะไรครับ)

 “จะบอกว่ามาตอนเย็นๆ นะ วันพฤหัสฯ นี่เนอะ ไปโรงเรียนก่อนแล้วค่อยมาบ้านพี่”

 (ได้ครับพี่ ผมก็ตั้งใจจะไปตอนเย็นนั่นแหละครับ ขอบคุณ-)

 สารินตัดสายทิ้งอีกครั้ง พร้อมกับที่ลมหายใจของเธอถูกพรูออกอย่างแรง ก่นด่าคนเจ้าเล่ห์อยู่ในใจไปหลายสิบประโยค

 คิ้มเข้มถูกเลิกขึ้นสูง “เอาไง”

 “อย่าหาว่างั้นว่างี้เลยนะ แต่มันเกินใจจะรับไหวจริงๆ ค่ะที่จะต้อง อืม ทำแบบนั้น”

 “ก็คือจะไม่นอนกับพี่? โอเค งั้นเรไรก็-”

 “แค่จูบได้ไหมคะ”

 “ไม่ได้” เขาสวนกลับมาอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด ดูก็รู้ว่าเธอและเขาจะต้องเข้ากันได้อย่างดี ลำพังนัวเนียกันแค่ครู่สั้นๆ ยังปลุกความเป็นชายของเขาให้ผงาดมาเตรียมตัวลงสนามรักได้ขนาดนี้ ถ้าได้พาไปฟัดบนเตียงจริงๆ เขาไม่ขึ้นสวรรค์จนหาทางลงไม่เจอเลยหรือ เพราะฉะนั้นข้อเสนอของเธอจึงถูกปัดตกอย่างไม่ต้องสงสัย “มันไม่พอ”

 “สิบครั้ง”

 “ให้เอาสิบครั้ง?”

⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (5)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “อีนม” มือที่ตั้งท่าจะคว้าผ้าขนหนูเป็นอันชะงัก ก่อนหันกลับมาเลิกคิ้วใส่มัทรี “หล่อนได้กับพี่เสือใหญ่ยัง” ลมหายใจของพิลลาสะดุดกึก นัยน์ตาเบิกโต ภาพความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดมาอย่างกับมีใครไปตั้งโปรแกรมไว้ สัมผัสนั้นคล้ายว่ายังติดอยู่ที่มือ ทำให้พิลลาแข็งทื่อไปทั้งตัว กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นนาที “ยัง ไม่ใช่ ใช่นั่นแหละ แต่หมายถึงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะได้กับเขาได้ไง” สองเสียงประสานกัน “เหรอ / เหรอ” “ใช่ ฉันเคยโกหกอะไรพวกหล่อนหรือ-” “เยอะแยะ” “แต่เรื่องนี้พูดจริง” พิลลายืนยันหนักแน่น หลังได้ผ้าขนหนูมาไว้ในมือ เธอก็โพล่งขึ้นเพื่อตัดบท “ไปอาบน้ำละ” บรรยากาศในร้าน PEEK A BEER เป็นอย่างที่เคยเป็น มีเสียงเพลงจากนักร้องที่เคล้าไปกับเบียร์เย็นๆ เหล้าที่แสนบาดคอ และกับแกล้มที่ขาดไม่ได้ ช่วงหัวค่ำมักเป็นเช่นนี้ แต่พอดึกเข้าหน่อย ผีเสื้อราตรีก็ออกโรง และพวกเธอสามคนไม่เคยแผ่ว “ใครพอจะทราบข่าวบ้างว่าช่วงนี้ยายฟายมันตีกับใคร” ประโยคนั้นเรียกสายตาของสองสาวต่างขั้วได้เป็นอย่างดี ‘ยายฟาย’ ของมัทรีคืออรอนงค์ เพราะเป็นคู่ปรับกันมานาน เห็นว่าชื่อฝ้าย เลยเปล

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (4)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ช่วยไอ้เสือกำพร้าแม่ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างระหงบนตักแกร่งอาศัยจังหวะนี้ในการพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แตะริมฝีปากไปที่ปากหยักติดคล้ำ แล้วจึงผละออกมาก่อนที่สารินจะทันตั้งตัว นอกจากริมฝีปาก ร่างแน่งน้อยก็ผละออกจากตักแกร่งในเวลาถัดมา “สอง” เธอหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน “สองครั้งแล้ว เหลืออีกแค่แปดครั้ง” นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังผู้พูด ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น “อ้อ เมื่อกี้เรียกจูบ?” “ก็ใช่ ของวันนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้ว” “ไม่เอาน่า ใครมันจูบกันแบบนี้ เด็กน้อยมาก โคตรรับไม่ได้” “รับไม่ได้ก็เรื่องของพี่ จีบจะกลับบ้านแล้ว” “พุดจีบ” เสียงเข้มๆ เอ่ยเรียกชื่อของเธอ สีหน้าและแววตาไร้แววล้อเล่น ทำให้เธอคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ พิลลาจึงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “มานี่” “ไม่ จะกลับบ้าน” “มา” สารินยันกายลุกขึ้นยืน พร้อมกับที่ก้าวเท้ามาทางนี้ “แบบนี้มันไม่เรียกว่าจูบ อย่ามาโกง” พิลลาไม่อยู่ฟัง รีบสับเท้าวิ่งออกจากบ้าน ก่อนตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์แล้วบิดสุดแรงเกิด เธอไม่เคยหมดท่าขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแพ้ย่อยยับจนม

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (3)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ บ้านทั้งหลังมืดสนิท พิลลาจึงเปิดไฟจนพอมีแสงสว่าง คงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นหน้าบ้านบอก สารินอยู่หลังบ้าน และเธอก็ไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วย หากต้องเดินออกไปเรียกอย่างไรก็คงต้องเจอกับคนที่อยู่ด้านหลัง จึงหวังว่าความเปลี่ยนไปในบ้านจะเรียกสายตาของเขาได้ ไฟในบ้านเปิดเอง เจ้าของบ้านจะไม่สงสัยแล้วเข้ามาดูหน่อยหรือ แต่ผ่านมาห้านาทีเห็นจะได้ ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาด้านใน และวันนี้เธอก็ไม่ได้ว่างมารอเขานานๆ ด้วย เพราะอยากกลับให้ถึงบ้านก่อนที่สองสาวจะมาถึง ไม่อย่างนั้นต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกเช่นเคย พิลลาเดินไปที่ประตู แนบหูไปกับบานไม้เพื่อฟังความเคลื่อนไหวรอบนอก ที่ก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกวัยรุ่นที่มารวมตัวกัน บางครั้งก็มีเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูดังเข้าโสตประสาท ร่างระหงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ยื่นมือไปแตะที่ลูกบิดแล้วออกแรงหมุนช้าๆ จนมันถูกเปิดในที่สุด ไม่รู้ว่ากี่สายตากันแน่ที่มองมา แต่เธอตวัดตาไปมองเพียงสารินคนเดียว อย่างน้อยการมองแค่เขาก็ลดความอายลงไปได้มากโข “มีธุระจะคุยด้วยค่ะ” ว่าจบก็ปิดประตูลงทันที ก่อนสับเท้าเดินไปนั่งที่โซฟาทั้งใบหน้าบึ้งตึง เธอโกรธตัวเองที่เลือก

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (2)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ Pudjeeb Philla: พี่ลืมของไว้ที่ร้าน เธอกำลังจะถ่ายรูปกระเป๋าสตางค์ส่งไปให้ หลังเปิดดูแล้วพบสารพัดบัตร รวมถึงบัตรประชาชนที่มีหน้าเขาแปะหราไว้ พร้อมกับชื่อ ‘สาริน อัศวกมล’ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลัลนารีบต่อสายหามัทรีอย่างเร่งด่วน ทว่าข้อความของเขาก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน Sarin Asawakamol: หัวใจ?? จากตั้งใจจะถ่ายรูป เธอก็เปลี่ยนมาโต้ตอบกับเขาแทน เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหยุมหัวคน Pudjeeb Philla: ใช่จ้า กำลังจะเอาไปต้มให้หมากิน Sarin Asawakamol: หมาในปากหรือเปล่าครับ Sarin Asawakamol: เลี้ยงดีจังเลยนะ ถึงว่า ขยันทำงานเหลือเกิน Pudjeeb Philla: อ๋อค่ะ คนที่จีบเพิ่งยกพวกไปรุมกระทืบก็พูดแบบนี้แหละ Sarin Asawakamol: อยากโดนจังSarin Asawakamol: โคตรอยาก เธอด่าเขาในใจ แต่ไม่พิมพ์ด่าให้เรื่องยืดยาว เลือกที่จะตัดบทด้วยการส่งรูปกระเป๋าสตางค์ไปให้ Pudjeeb Philla: จะให้เอาไปให้หรือจะมาเอาเอง Pudjeeb Philla: ร้านปิดห้าโมง ถ้ามาก็อย่าเกินนี้ แต่ถ้ารอจีบเอาไปให้ก็ค่ำๆ Pudjeeb Philla: แต่ของพี่นั่นแหละ มีบัตรประชาชน ส่วนเงินไม่ได้นับ แต่ไม่ได้ยุ่งอะไร ถ้าหายก็ไม่เกี่ยวกับจีบ

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (1)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินกลับไปแล้ว หลังจากนั่งๆ นอนๆ อยู่หลังโต๊ะทำงานของเธออยู่หลายชั่วโมง ที่จริงเขายังไม่คิดจะกลับ ถ้าไม่ติดที่เธอไล่ตะเพิดเพราะลัลนากำลังจะมาที่ร้าน เพื่อนสนิทเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ “คืนนี้ออกไหม” “ถ้าหล่อนกับเมลฟี่ไป ฉันก็ไป” “เป็นไร” พิลลาหันไปมุ่นคิ้วใส่เพื่อน “เห็นทำหน้าเซ็งๆ” เป็นอย่างที่ลัลนาว่า เธอเซ็งมากๆ ที่คนอย่างสารินเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต ยิ่งเขาพยายามล้ำเส้นที่ตกลงกันไว้ ไม่ยอมให้มันหยุดที่การจูบ แต่คิดจะจีบ เธอก็เกิดอาการอึดอัดคับแน่นในใจ ครั้นจะให้จ่ายเงินก็มีไม่พอ กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งต้องจำนำข้าวของสำคัญหรือเลือกหยิบยืมเพื่อนสนิท เธอทำไม่ได้ เนื้อนมไข่คบกันได้นานเพราะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครเคยยืมเงินกันให้ต้องผิดใจ ไม่ร่วมธุรกิจกันในหมู่เพื่อน ทานข้าวก็หารเท่า ดื่มเหล้าไม่เคยเอาเปรียบ มาครั้งนี้เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แม้จะรู้ว่าเพื่อนต้องช่วย แต่มันจะเป็นปมในใจว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบยืมเงินคนสนิท แค่ยอมให้ไอ้หน้าวัวจูบไม่กี่ครั้ง เปลืองตัวแค่นี้ สบาย ก็ถ้ามันทำแค่นั้น เธอค

  • สยบเสือใหญ่   บทที่3│คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (5)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ‘ป๋า’ เดินออกไปจากร้าน ควบมอเตอร์ไซค์ไปทางร้านน้ำ พิลลามองจนลับสายตาก่อนส่ายหัวน้อยๆ ป๋าอะไรกัน คนที่ขายนกทอดตลาดทั้งๆ ที่เพิ่งเลยกำหนดมาวันเดียวน่ะ หรือจะขอผ่อนก็แสนจะเรื่องมาก สารินมันเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเลเสียอีก ช่วงเที่ยงๆ แบบนี้ ร้านน้ำของปาริฉัตรมีลูกค้าหนาตาทีเดียว หนึ่งในนั้นคืออรอนงค์ บ้านของอรอนงค์ประกอบกิจการซัก อบ รีด ตั้งแต่เขาย้ายมาดูแลตาที่นี่ ก็ได้บ้านนี้ในการจัดการส่วนของเสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต้องลำบากซักตากเองให้เหนื่อย หลังจากตาถึงแก่กรรม เขาก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ เพราะหลงรักกำแพงแสนเสียแล้ว นอกจากส่งเสื้อผ้าซักกับบ้านของอรอนงค์ สาวเจ้ายังอาสาเข้ามาดูแลความสะอาดของบ้านทุกสัปดาห์อีกด้วย เขามีหน้าที่จ่าย และก็ยินดีจ่าย เพราะเธอทำมันได้ดีไร้ที่ติ “ไปไงมาไงเนี่ยพี่เสือใหญ่” สารินระบายยิ้มให้แม่ค้าร้านน้ำ “มาซื้อน้ำน่ะ” “แหม อยากลัดคิวให้สุดหล่อจริงๆ แต่เดี๋ยวโดนคนอื่นเขม่นเอา เพราะงั้นนั่งรอก่อนนะ” เขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับอรอนงค์และกีรติ ซึ่งเป็นสองสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี “มาซื้อน้ำเหรอพี่” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status