“ข้าโดนหลอก” นางเริ่มไม่ได้ยินคำพูดของเขาและรู้สึกหายใจติดขัดมากขึ้นทุกที ชีวิตของนางคงสิ้นสุดลงแค่นี้ นางคงต้องจากเขาไปแล้วสินะ ทำไมมันรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจมากกว่าตรงบาดแผลอีกนะ “อย่าร้องไห้สิ” นางพยายามอ้าปากกว้างๆ เพื่อรับอากาศแต่ก็มีน้อยเหลือเกิน
“เจ้าก็อย่าทำให้ข้ากลัวสิ ทำใจดีๆ ไว้นะ ข้าจะพาเจ้าไปรักษาตัวที่กระโจม”
“อย่า” นางห้ามเสียงแผ่ว มองใบหน้าดุดันชวนหลงใหลของเขาแล้วคลี่ยิ้มละมุน เอื้อมมืออันสั่นเทาจับแก้มที่เริ่มมีหนวดเคราขึ้นมาใหม่และเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา “ท่านห้ามนอกใจข้านะ” นางห้ามตามความรู้สึกและอยากบอกรักเขาสักครั้งก่อนจากกันชั่วนิรันดร “เพราะข้าระ..” เลือดก้อนใหญ่ทะลักออกมาจากปากของนางก่อนที่นางจะเอ่ยคำว่ารักชัดๆ ออกมา
“ต้าชวี่!!!.. ไม่!!! เจ้าอย่าทิ้งข้าไปแบบนี้” ร่างสูงใหญ่ที่ไม่เคยเกรงกลัวศัตรูเรือนแสน ร้องไห้โหยหวนด้วยความเจ็บปวดเมื่อร่างบางในวงแขนได้ทิ้งเขาไปแล้ว
“รีบพาพระชายากลับไปที่ค่ายก่อนเถอะขอรับ บางทีหมอหลิวอาจจะช่วยนางได้” จวงเล่ยเ
ทิศใต้ แคว้นต้าหมิงณ ริมลำธารข้างๆ โขดหินก้อนใหญ่ ยังมีวิญญาณของสตรีนางหนึ่งกอดเข่าน้ำตาริน ด้วยความแค้นเคืองใจอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานห้าวันแล้ว ไม่ใช่ว่านางอยากจะนั่งอยู่ตรงนี้ แต่เพราะนางไปไหนไม่ถูกต่างหาก นางกำลังหลงทางอยู่กลางป่า ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนสุดท้ายก็กลับมาที่เดิมอีก นางอยากเจอหน้าสามีใจจะขาดอยู่แล้ว แต่ทำไมนางต้องหลงวนเวียนอยู่ในป่าแห่งนี้ด้วย“ท่านมัจจุราชชชช..” นางตะเบ็งเสียงเรียกหาพญายมราชสุดเสียงด้วยความโกรธสุดขีด “ถ้าท่านไม่ออกมาพบข้า ข้าจะสาปแช่งท่าน ข้าจะฟ้องต่อสวรรค์ว่าท่านทำงานผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก คนที่ทำงานชุ่ยๆ แบบท่านต้องถูกปลดสถานเดียว ท่านทำ”“พอได้แล้ววิญญาณรนิดา หยุดต่อว่าต่อขานข้าสักที ครั้งนี้ที่เจ้าต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไม่ใช่ความผิดของข้านะ เป็นเพราะเจ้าตกใจจนวิญญาณเตลิดออกจากร่างเองต่างหาก ถ้าเจ้าตั้งสติให้ดีเจ้าก็จะกลับเข้าร่างของเจ้าได้” เสียงของพญายามัจจุราชดังก้องไปทั่วผืนป่า แต่ไม่มีการปรากฏกายให้เห็นคนที่ตัดพ้อต่อว่าลุกขึ้นยืนด้วยความดีใจ ถึงแม้จะไม่เห็นร่างของอีกฝ่ายแต่ก็ถามต
ตำหนักโบตั๋น“ซางกงลี่เจ้ารู้หรือไม่ว่าวันนี้ฝ่าบาทจะเสด็จตำหนักไหน”ซางกงลี่ไม่กล้าตอบคำถามของพระนาง ได้แต่ทำท่าอึกอัก“คงเป็นตำหนักดอกเหมยสินะ”“เพคะพระมเหสี”“มันน่าเศร้าจริงนะ ข้าคือจอมนางคู่บัลลังก์ของต้าหมิง แต่คนที่ได้รับความรักจากเจ้าของบัลลังก์อย่างแท้จริงกลับเป็นซู่เฟย ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก” มันเจ็บปวดที่หัวใจเหลือเกิน บุรุษที่นางหลงรักและทำดีกับนางมาตลอด แท้จริงแล้วไม่ได้มีใจให้นางเลยสักนิด หัวใจทั้งดวงของเขากลับไปอยู่กับซู่เฟยที่ไร้สกุลคนนั้นจนหมดสิ้น“อย่าตรัสเช่นนั้นสิเพคะพระมเหสี นางยังเด็กและยังใหม่อยู่เท่านั้น อีกหน่อยนางก็จะถูกลืม แต่พระองค์ยังคงเป็นที่หนึ่งและเป็นคนที่ฝ่าบาทไม่ลืมแน่นอนเพคะ” ซางกงลี่ปลอบใจเจ้านายที่นางรักและเทิดทูนเหนือชีวิต“ไม่ลืมแต่ไม่รัก สู้ให้เขารักข้าสักครั้งยังจะดีกว่า ข้าก็มีหัวใจนะ ข้าอยากได้รับความรักเหมือนพระราชเทวีบ้าง”“แต่ฝ่าบาทดีกับพระองค์มากนะเพคะ” ซางกงลี่รับใช้รองพระบาทพระมเหสีมาตั้งแต่เริ่มเ
“ท่านอยากจะบอกอะไรกับข้ากันแน่หมอหลิว.. ท่านจะบอกว่าชายาของข้าตายแล้วใช่ไหม!” ตะคอกถามบุรุษวัยกลางคนที่ยืนตัวสั่นไม่ยอมตอบคำถาม“ยกโทษให้ข้าด้วย แต่พระชายาไม่มีทางฟื้นขึ้นมาแล้วท่านแม่ทัพ” แม้จะกลัวแสนกลัวแต่หมอหลิวก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ท่านควรพานางกลับไปทำพิธีที่เมืองหลวงนะขอรับ”“ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น! จนกว่าข้าจะได้ฆ่าไอ้ฉงเฉินและพวกของมัน หนึ่งชีวิตของชายาข้าต้องแลกด้วยชีวิตของพวกมันเจ็ดชั่วโคตรถึงจะสาสม” น้ำตาที่แห้งเหือดไปได้สามวันเริ่มหลั่งออกมาด้วยความเจ็บปวดหัวใจ “จวงเล่ย เจ้าจัดการมันไปแล้วใช่ไหม”“มันตายอย่างสงบอยู่ในคุกตั้งแต่สามวันที่แล้วแล้วขอรับ” หลังจากพาพระชายากลับมาจากชายป่าวันนั้น เขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปฆ่านักฆ่าที่พากลับมาด้วยทันที เขารีบไปทำตามอย่างไม่รอช้า“ดี เจ้าอยู่ดูแลทางนี้แทนข้าที อีกเจ็ดวันถ้าข้าไม่กลับมาให้รองแม่ทัพเผยเคลื่อนทัพกลับเมืองหลวง ทิ้งคนส่วนหนึ่งไว้ดูแลร่างของพระชายา ส่วนเจ้าพาคนที่มีฝีมือไปตามหาร่างของข้าให้พบ แล้วนำกลับมาฝังคู่กับพระชายาของข้าที่นี่”กระโจมแห่งนี้คือที่ที่เขาและนางใช้ชีวิตคู่คลอเคลีย
“ข้าโดนหลอก” นางเริ่มไม่ได้ยินคำพูดของเขาและรู้สึกหายใจติดขัดมากขึ้นทุกที ชีวิตของนางคงสิ้นสุดลงแค่นี้ นางคงต้องจากเขาไปแล้วสินะ ทำไมมันรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจมากกว่าตรงบาดแผลอีกนะ “อย่าร้องไห้สิ” นางพยายามอ้าปากกว้างๆ เพื่อรับอากาศแต่ก็มีน้อยเหลือเกิน“เจ้าก็อย่าทำให้ข้ากลัวสิ ทำใจดีๆ ไว้นะ ข้าจะพาเจ้าไปรักษาตัวที่กระโจม”“อย่า” นางห้ามเสียงแผ่ว มองใบหน้าดุดันชวนหลงใหลของเขาแล้วคลี่ยิ้มละมุน เอื้อมมืออันสั่นเทาจับแก้มที่เริ่มมีหนวดเคราขึ้นมาใหม่และเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา “ท่านห้ามนอกใจข้านะ” นางห้ามตามความรู้สึกและอยากบอกรักเขาสักครั้งก่อนจากกันชั่วนิรันดร “เพราะข้าระ..” เลือดก้อนใหญ่ทะลักออกมาจากปากของนางก่อนที่นางจะเอ่ยคำว่ารักชัดๆ ออกมา“ต้าชวี่!!!.. ไม่!!! เจ้าอย่าทิ้งข้าไปแบบนี้” ร่างสูงใหญ่ที่ไม่เคยเกรงกลัวศัตรูเรือนแสน ร้องไห้โหยหวนด้วยความเจ็บปวดเมื่อร่างบางในวงแขนได้ทิ้งเขาไปแล้ว“รีบพาพระชายากลับไปที่ค่ายก่อนเถอะขอรับ บางทีหมอหลิวอาจจะช่วยนางได้” จวงเล่ยเ
“เจ้านำข้าไปสิ”“พระชายาเดินเข้าไปเองดีกว่า กระหม่อมส่งแค่นี้พอแล้ว”“เจ้ากล้าปล่อยให้ข้าเดินเข้าไปคนเดียวหรือหม่าก้วน ถ้าข้าเกิดพลัดหลงระหว่างทางล่ะเจ้าจะทำยังไง ไม่กลัวท่านแม่ทัพจะโกรธมากกว่าที่พาข้าไปหรือ” นางถามทหารที่ไถ่ถามจนรู้ชื่อระหว่างเดินมายังชายป่าแห่งนี้“ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปรอท่านแม่ทัพที่ค่ายดีกว่านะขอรับพระชายา” หม่าก้วนแสดงความขลาดกลัวออกมาอย่างไม่ปิดบัง“ถ้าเจ้าไม่อยากพาข้าไป คราวหน้าก็จงอย่าบอกข้าว่าเห็นท่านอ๋อง” นางแนะนำทหารจอมขี้ขลาดด้วยความโมโห “แต่วันนี้เจ้าบอกข้าแล้วเจ้าก็ต้องพาข้าไปพบเขา ไม่อย่างนั้นเจ้ากับข้าได้เห็นดีกันแน่”“พระชายาแน่ใจแล้วหรือ”“ข้าจะไปหาสามีของข้าทำไมต้องแน่ใจหรือไม่แน่ใจด้วยล่ะ พาข้าเข้าไปได้แล้ว” นางถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด“แต่พระชายาอาจจะเสียใจภายหลังที่ไม่ฟังคำเตือนของข้า”คราวนี้นางถลึงตาใส่อีกฝ่ายแล้วย่างก้าวเข้าไปหาอย่างเอาเรื่อง
“ความร้ายกาจของพระชายาคงสู้ความร้ายกาจของพวกเจ้าสามคนไม่ได้หรอก” แม่ทัพใหญ่ปกป้องชายาที่รัก“แต่พวกเราสามคนถูกนางปั่นหัวนะเจ้าคะ พระชายาคนเดียวร้ายกว่าเราสามคนรวมกันอีก” จวงโต้ด้วยเสียงที่สั่นเครือ“ลับหลังข้าพวกเจ้าสามคนทำเกินหน้าที่ที่ข้าสั่ง กล้าเอาชื่อข้าไปแอบอ้างเกินความจริงจนนางตรอมใจ เจ้ายังกล้าพูดว่าพระชายาของข้าคนเดียวร้ายกว่าพวกเจ้าสามคนรวมกันอีกหรือ ข้าควรฆ่าพวกเจ้าทิ้งตรงนี้เลยดีไหม!” ท้ายประโยคเขาตะคอกถามด้วยความกรุ่นโกรธ“ไม่เจ้าค่ะ บ่าวกลัวแล้ว”“อย่าทำบ่าวเลยเจ้าค่ะ บ่าวผิดไปแล้ว”“บ่าวยังเด็กนัก ไร้การอบรมสั่งสอน ยกโทษให้บ่าวด้วยเจ้าค่ะ”สาวใช้ทั้งสามส่งเสียงอ้อนวอนเซ็งแซ่ น้ำตานองหน้าอย่างกับถูกดาบจ่ออยู่ที่ศีรษะแล้วก็ไม่ปาน ไม่คิดเลยว่าการเดินทางมาร้องเรียนความเป็นธรรม เพื่อขอคืนฐานะสาวใช้ในจวนของอ๋องใหญ่ครั้งนี้จะกลายเป็นพาตัวเองมาพบกับความตาย“หยุดร้องเดี๋ยวนี้! ข้าไม่มีดาบอยู่ในมือด้วยซ้ำ” พวกนางต่างจากชายาของเขาลิบลับ นางไม่เคยร้