Share

ตอนที่ 7 เกาะลอย

Aвтор: บ.บี
last update Последнее обновление: 2025-03-19 13:01:01

เหยาจี! เราว่ายน้ำข้ามไปไม่ได้! เจ้ารีบกลับขึ้นมาก่อน!” สี่เสินใจหายวาบรีบวิ่งตามมาดึงร่างน้องสาวเอาไว้

ในน้ำมีสัตว์ทะเลอะไรบ้างเราก็ไม่รู้ อันตรายเกินไป เอาไว้ข้าจะคิดหาทางข้ามไปเกาะนั้นเอง อีกอย่างระหว่างที่เรายังหาทางข้ามไปไม่ได้ ไม่แน่ว่ามนุษย์ที่อยู่ทางนั้นอาจจะข้ามมาหาเราเอง เราก็จุดไฟสุมควันส่งสัญญาณให้เขาบ้างก็แล้วกัน”

ข้าจะต่อแพเพื่อข้ามไปที่เกาะนั่น เราต้องช่วยกันขนไม้ที่หักโค่นมาไว้ที่ชายฝั่ง ตัดเถาวัลย์ในป่ามาผูกพวกมัน เจ้าไหวไหม” 

มองดูมือพี่ชายที่เต็มไปด้วยตุ่มไต ฝ่ามือของสี่เสินไม่ได้อ่อนนุ่มบอบบางเหมือนแต่ก่อนแล้วเหยาจีก็เศร้าใจ การเก็บผลไม้ จับสัตว์มาทำอาหาร จุดไฟ ทุกอย่างล้วนเป็นสี่เสินจัดการให้หมด นางรู้สึกว่าหลายวันที่ผ่านมาความรู้สึกสะดวกสบายทั้งหมดของนางล้วนผ่านมือสองข้างของสี่เสินมาทั้งสิ้น

ไหวเจ้าค่ะ ข้าเอาแต่กินแล้วก็นอน ข้าอยากทำงานจะแย่อยู่แล้ว” เด็กสาวไม่รอช้าเดินลิ่วกลับไปที่ชายป่าตั้งอกตั้งใจเก็บไม้ที่ตนลากไหวมากองรวมกันไว้ หากเหนื่อยนางก็จะเปลี่ยนไปเก็บเถาวัลย์มาเตรียมเอาไว้แทน ปล่อยให้สี่เสินจัดการกับท่อนไม้ขนาดใหญ่เพียงลำพัง

ยังมีเรื่องที่เจ้าต้องเรียนรู้อีกมากนัก เมื่อเราพบกับมนุษย์คนอื่น เจ้าจะทำตัวกล้าหาญเช่นนี้ไม่ได้ มนุษย์มีโลภ โกรธ หลง มีการแก่งแย่งมีคนดีค้นร้าย เจ้าต้องระวังตัวมากกว่าเดิม” สี่เสินเล่าเรื่องของมนุษย์เท่าที่ตนเคยได้ยินได้ฟังมาทั้งหมดจากเทพองค์อื่น ๆ ให้น้องสาวได้รับรู้ 

สี่เสินและเหยาจีย้ายที่พักมาอยู่ที่ชายหาดชั่วคราว และจุดไฟเอาไว้เกือบจะตลอดเวลาเพื่อส่งสัญญาณให้คนอีกฝั่งรู้ว่ามีคนอาศัยอยู่บนเกาะร้างแห่งนี้ ผู้คนจากอีกฝั่งหนึ่งมองเห็นควันไฟจากพวกตนแน่นอนและมารวมกลุ่มกันที่ชายฝั่งอยู่บ่อยครั้ง

พวกเขามีเรือหลายลำ แต่กลับไม่เคยพายเรือมายังทิศทางของเกาะร้าง ไม่เคยกระทั่งจะหันหัวเรือมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้สองพี่น้องอยู่ไม่น้อย แต่ความเย้ายวนของการจะได้เห็นมนุษย์กลุ่มใหม่ตัวเป็นๆ ของทั้งคู่ ทำให้พวกเขาไม่สามารถอดทนรอดูสถานการณ์ต่อไปได้ไหว สี่เสินจึงเริ่มลงมือผูกท่อนไม้ด้วยเถาวัลย์และต่อแพขึ้นจนสำเร็จในอีก 10 วันต่อมา

เหยาจี เจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปที่นั่นเพียงลำพังแล้วจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด” สี่เสินจัดการแบ่งผลไม้ออกเป็นสองกอง ฉีกแขนเสื้อยาวเฟื้อยเกินพอดีของเหยาจีมาห่อพวกมันเอาไว้ นอกจากนี้ยังจับปลาและกุ้งเตรียมไว้ให้น้องสาวกินระหว่างวันเรียบร้อยแล้ว

พี่สี่เสิน ท่านก็บอกเองไม่ใช่หรือว่ามนุษย์มีทั้งคนดีและคนชั่ว ถ้าพวกเขาเป็นคนชั่วจับตัวท่านไปเล่า? ข้าจะอยู่อย่างไรเพียงลำพัง” เหยาจีหน้าตื่น ไม่คิดว่าสี่เสินจะตัดสินใจลอยแพไปคนเดียวแล้วทิ้งตนเองไว้

หากข้ามีอันตรายข้าก็จะหาทางหลบหนีออกมาเอง แต่หากเจ้าเป็นอะไรไปอีกคน ข้าต่างหากที่ต้องเสียใจ อยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่าเจ้าก็รู้ว่าพวกเขาไม่เคยย่างกรายเข้ามาในอาณาเขตรอบเกาะเลยสักครั้ง”

แล้วทำไมท่านไม่คิดว่าข้าอาจจะช่วยท่านได้บ้างเล่าเจ้าคะ หากท่านเป็นอะไรข้าเสียใจไม่เป็นหรือ? เรื่องนี้ข้าไม่ยอมเด็ดขาด ไปไหนเราก็ต้องไปด้วยกัน” เหยาจีหยิบห่อเสบียงอาหารส่วนของตนกระโดดขึ้นไปนั่งบนแพอย่างไม่ยินยอม

เจ้ามันดื้อรั้นนัก ข้าเพิ่งสอนไปไม่นานว่าเจ้ามีหน้าที่ต้องเชื่อฟังข้า” สี่เสินใช้มือผลักศีรษะน้องสาวเบาๆ แม้จะกล่าวคำตำหนิ แต่หัวใจของเด็กหนุ่มก็รู้สึกซาบซึ้งและมีกำลังใจมากขึ้นกว่าเดิมที่เห็นว่าน้องสาวก็เป็นห่วงตนไม่น้อยไปกว่ากัน

การถ่อแพด้วยท่อนไม้หนึ่งท่อน จากกำลังแขนของเด็กชายร่างผอมอายุ 14 ปี ยากเย็นเหลือเกินในความคิดของสี่เสิน โชคดีที่วันนี้คลื่นลมไม่แรง แพของพวกเขาทั้งสองจึงยังมุ่งหน้าไปยังเกาะใหญ่ใกล้เข้าไปทุกที 

จากสายตาที่คะเนไว้ว่าระยะห่างระหว่างสองเกาะน่าจะราวๆ 5 ลี้ แต่ในความเป็นจริงดูเหมือนระยะทางจะไกลเกินกว่าที่สองพี่น้องเห็นมากนัก ทั้งคู่ไม่ได้ปริปากพูดคุยกันเลยสักคำมาตลอดทาง เพราะในใจต่างมีความคิดที่หลายหลากเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมนุษย์กลุ่มแรกที่พวกตนไม่รู้จัก

ชาวบ้านจากเกาะจิงเหมินมองเห็นแพที่มีคนนั่งอยู่ด้านบนสองคนตั้งแต่ไกล พวกเขาจับกลุ่มชี้ไม้ชี้มือให้คนอื่น ๆ พากันมองดูไปที่สองพี่น้องที่เข้าใกล้ชายหาดมาทุกที

มีคนอาศัยอยู่บนเกาะลอยแห่งนั้นจริงๆ เสียด้วย” 

ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นเด็กชายและเด็กหญิงอายุน้อยกันนะ”

ไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมาเร็ว คนจากเกาะลอยปรากฏตัวออกมาแล้ว เราอาจจะรู้ข่าวอะไรจากที่นั่นบ้างก็ได้” ชายชาวประมงตะโกนบอกกันไปเป็นทอดๆ 

หลายคนรู้สึกหวาดกลัวกับการปรากฏตัวของสองพี่น้อง รีบเรียกบุตรหลานวัยเยาว์ของตนให้ขึ้นจากน้ำ หลายคนก็ช่วยกันลากเรือขึ้นมาบนชายหาดด้วยความแตกตื่น ชาวบ้านในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะทยอยกันเดินทางมาที่ชายหาด ชายหนุ่มบางคนยังถืออาวุธติดไม้ติดมือกันมาด้วยเพื่อสร้างความมั่นใจว่าทุกคนจะปลอดภัยจากมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนเกาะลอยแห่งนั้น

สถานการณ์บนชายหาดฝั่งเกาะจิงเหมินชุลมุนวุ่นวายไม่แพ้จิตใจของสองพี่น้องบนแพไม้ลำเล็กเลยแม้แต่น้อย

หัวหน้าหมู่บ้านบนเกาะจิงเหมินเป็นบุรุษกลางคนร่างใหญ่วัย 45 ปี เมื่อเห็นว่าบนแพไม้ที่ใกล้จะถึงขายหาดเป็นเพียงเด็กหนุ่มและเด็กสาวรุ่นเยาว์ เขาตัดสินใจเดินลุยน้ำลงทะเลไปเจรจากับอีกฝ่ายก่อนที่คนทั้งสองจะลงจากแพ

เจ้าอาศัยอยู่บนเกาะลอยหรือ? มีใครอยู่ที่นั่นอีก พ่อแม่ของเจ้าครอบครัวของเจ้ามีกันทั้งหมดกี่คน?” เกาโหลวถามเสียงเข้ม ดังพอที่จะให้ชาวบ้านที่ยืนอยู่เบื้องหลังได้ยินโดยทั่วกัน

เกาะลอย? เกาะนั้นมีชื่อว่าเกาะลอยหรือขอรับ? เราสองพี่น้องรอดชีวิตกันเพียงสองคนจากเรือโดยสารที่แตกกลางทะเล พวกเราลอยไปติดอยู่ที่ชายฝั่งของเกาะแห่งนั้น จนมองเห็นควันไฟจากที่นี่เราเลยพยายามจุดไฟเพื่อขอความช่วยเหลือ สุดท้ายก็ช่วยกันต่อแพขึ้นมาได้ก็เลยลอยแพกันมาเอง เราไม่มีญาติพี่น้องคนอื่นหรอกขอรับ”

เหยาจีเหลือบตามองพี่ชายของนางแวบหนึ่งด้วยความรู้สึกชื่นชม เพียงครู่เดียวสี่เสินก็สร้างเรื่องราวเป็นตุเป็นตะขึ้นมาได้อย่างแนบเนียน

เกาโหลวไม่กล่าวตอบโต้อะไรกับเด็กทั้งสองอีก เขาหันหลังเดินกลับมาพูดคุยกับชาวบ้านที่ชายหาดเบาๆ  

แท้จริงแล้วสี่เสินก็ยังไม่ได้เข้าใกล้ชายหาดมากนัก เขาตั้งใจว่าหากกลุ่มคนที่ถืออาวุธขยับขาออกมาแม้เพียงก้าวเดียว ตนก็จะตัดสินใจหันหัวพาน้องสาวลอยทะเลกลับไปที่เกาะร้างอีกครั้ง โชคดีที่เป็นบุรุษร่างใหญ่ในมือไร้อาวุธเดินมาหาตนและน้องสาวเพียงลำพัง

ดูจากสีหน้าและการลดความก้าวร้าวลงไปของชาวบ้านบนหาดทรายก็ทำให้สี่เสินโล่งใจ

บนชายหาดหัวหน้าหมู่บ้านเกาโหลวก็กำลังหารือกับสมาชิกบนเกาะของตนเช่นกัน

ร้อยวันพันปีไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นคนอาศัยอยู่บนเกาะลอยเลยสักคน แต่ข้าเห็นเต็มสองตาเลยนะว่าพวกเขาลอยแพออกมาจากเกาะประหลาดนั่นจริงๆ” ชายชราผู้เห็นเหตุการณ์เป็นกลุ่มแรกรีบยืนยันสิ่งที่ตนเห็น

เจ้าหนุ่มน้อยนั่นบอกว่าเขาจุดไฟส่งสัญญาณ นั่นก็เป็นเรื่องจริงอีกด้วย เราเห็นกองไฟถูกจุดขึ้นที่ชายหาดอยู่หลายวันแล้ว หรือว่าพวกเขาเพิ่งจะรอดชีวิตมาจากเรือแตกจริงๆ”

สองเรื่องนี้ฟังดูแล้วข้าก็เชื่อว่าจริงตามที่พวกเขากล่าว แต่พวกเขาลอยเข้าไปติดเกาะนั่นได้อย่างไรนี่ต่างหากที่ข้าสงสัย”

เกาะที่มีภูเขาอยู่ตรงกลางเป็นจุดเด่นแห่งนั้นแทบจะเรียกว่าเป็นเกาะในตำนานแห่งท้องทะเลก็ว่าได้ มันสามารถเคลื่อนตัวไปกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ได้โดยอิสระจึงถูกขนานนามว่าเกาะลอย

มีผู้คนในอดีตมากมายที่พยายามแล่นเรือเข้าไปเทียบที่เกาะลอยแห่งนั้น แต่ผ่านมานานเท่าใดก็ไม่มีผู้ใดทำสำเร็จ ทุกวันนี้เรือขนาดเล็กหรือใหญ่ แม้กระทั่งการว่ายน้ำเข้าไปก็ไม่เคยมีมนุษย์คนใดเหยียบย่างขึ้นไปบนเกาะลอยได้เลยสักคน

เมื่อพวกเขาพยายามเดินทางเข้าใกล้เกาะไปเมื่อใด ก็ดูเหมือนว่าเกาะจะเคลื่อนที่ลอยห่างไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในอดีตมีคนรวมกลุ่มกันส่งเรือร้อยลำพร้อมกับอาวุธเต็มลำเรือล้อมรอบเกาะเอาไว้ไม่ให้มันลอยหนีไปได้ ก็กลับกลายเป็นว่าเรือทั้งร้อยลำถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากดูดกลืนเรือให้จมลงสู่ใต้ทะเล

ครั้งนั้นมีผู้คนจำนวนมากประสบอุบัติเหตุ บ้างก็ได้รับการช่วยเหลือทัน ที่พยายามว่ายเข้าไปให้ถึงเกาะลอยก็ต้องเหน็ดเหนื่อยกับคลื่นใต้น้ำที่รุนแรงจมน้ำเสียชีวิตไปไม่น้อย

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล่าที่ผ่านมาเนิ่นนานราวกับเป็นนิทานเรื่องหนึ่ง ไม่เคยปรากฏว่าบนเกาะจะส่งสิ่งมีชีวิตออกมาเข่นฆ่าผู้คน ทุกอย่างคล้ายเป็นอุบัติเหตุทางธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีผู้ใดหาญกล้าคิดย่างกรายเข้าไปในอาณาเขตของเกาะลอยอีกเลย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 93 ตอนจบ

    “นี่พวกเจ้าไม่คิดจะทำสิ่งอื่นนอกจากเกี้ยวพาราสีกันทุกเมื่อเชื่อวันเช่นนี้บ้างหรือไร!” เสียงหวานใสของซินหรูอี้ดังมาแต่ไกล“หรูอี้!! ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วให้พูดแต่คำหวานๆ รักษากิริยาให้สำรวมไว้หน่อยเถิด หากลูกในท้องติดนิสัยโผงผางเช่นเจ้ามาข้าคงต้องกลั้นใจตายสักวันเป็นแน่” เวยวั่งซูชักสีหน้าไม่พอใจแต่สองมือก็ประคองปกป้องร่างภรรยารักเอาไว้ราวกับไข่ในหิน“ท่านก็เลิกวุ่นวายกับชีวิตข้าเสียทีเวยวั่งซู!! ข้ามันคิดผิดจริงๆ ที่ยอมแต่งให้ท่าน ดูสิทุกวันนี้ข้าต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในแดนเหนือที่หนาวเย็นจนถึงกระดูก คลอดลูกออกมาเมื่อใดข้าจะย้ายมาอยู่กับเหยาจีที่ทางใต้เสียให้รู้แล้วรู้รอด”“ก็ข้าเป็นผู้ฝึกตนสายน้ำแข็งนี่นา ไม่อยู่กับหิมะจะให้ข้าไปอยู่ในกองเพลิงหรือไร แล้วเมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? คลอดบุตรแล้วเจ้าจะมาอยู่ทางใต้ คิดจะทิ้งเราสองพ่อลูกไว้ทางเหนือเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ? ฝันไปเถิด!!" “เจ้าจะหงุดหงิดอันใดนักหนาเล่าวั่งซู นางยังไม่ทันคลอดด้วยซ้ำ ข้าแนะนำให้เอง!! กลับไปแดนเหนือคราวนี้ไม่สู้เจ้าแช่แข็งนางเอาไว้เป็นไร นางจะได้ไม่หนีไปเที่ยวเล่นที่ใดได้อีก”ซินหรูอี้ใช้สองมือประคองท้องกลมโตเดินอาดๆ ม

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 92 3,000 ปี

    หญิงสาวก้าวออกมายืนด้านหน้าผู้คนแทนที่อ๋าวหลวนหลง“ชัยชนะของพวกเราในครั้งนี้จะไม่สำเร็จโดยง่ายหากปราศจากพวกเขาเช่นกัน” มู่เหยาจีผายมือไปด้านขวาของนาง สายตามองไปยังสัตว์เลี้ยง 12 ตัวที่ยังรอดชีวิตอยู่“สัตว์ปราณทั้ง 12 ตัว ได้รับผลท้อไปแล้ว 5 ตัว ข้าจะไม่ลังเลเลยที่จะมอบผลท้อสวรรค์อีก 7 ผลให้กับพวกมันอย่างยุติธรรม วันใดที่มนุษย์ไม่อาจไว้วางใจกันเอง พวกท่านโปรดจำเอาไว้ว่าสัตว์ทั้ง 12 จะเป็นผู้ที่ปกป้องท่านจากภยันตรายทั้งปวง”สิ้นคำกล่าวของหญิงสาว ผีเสื้อเกล็ดแก้ว 7 ตัวก็โบยบินออกไปส่งมอบผลท้อสวรรค์ให้วานรสองตัว สุนัขจิ้งจอกสองตัว หวางผาง เต่าและปลาหมึก“ท้อสวรรค์ 7 ผลที่เหลือข้าจะให้ผีเสื้อเกล็ดแก้วเป็นผู้คัดเลือกผู้โชคดีขึ้นมาตามแบบอย่างที่เคยทำในแดนสวรรค์ และจากนี้ไปผลท้อที่สุกออกมาทั้งหมดก็จะใช้วิธีเดียวกันนี้เช่นกัน”มู่เหยาจีวาดเรียวแขนงามออกมาโบกสะบัดชายแขนเสื้อยาวกรุยกรายสยายออกเป็นวงกว้างในอากาศพร้อมกับมีร่างของผีเสื้อเกล็ดแก้วลำตัวใสกระจ่างระยิบระยับเจ็ดตัวโบยบินไปวนเวียนอยู่เหนือศีรษะกลุ่มผู้ฝึกตนที่รวมกลุ่มกันอยู่ผู้โชคดีทั้งเจ็ดคนมีทั้งอดีตเซียนที่ลงมาจากแดนสวรรค์และผู้ฝึกต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 91 ชัยชนะ

    “ยามนี้บนเกาะลอยที่เหลือเพียงครึ่งไม่มีผลท้อธรรมดาที่สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเลยสักผล ทำอย่างไรดีพี่สี่เสิน หวางเซี่ยเจ้าต้องหยุดพักรักษาตัวก่อน เราจะหาทางกลับไปเอาผลท้อมาช่วยเจ้ากันเอง!!” หญิงสาวละล่ำละลัก หันพูดทางนั้นทีทางนี้ทีตัดสินใจทำสิ่งใดไม่ถูก“น้องสาว ผลท้อธรรมดาไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บของหวางเซี่ยได้หรอก ต่อให้เจ้าฝืนเด็ดผลท้อสวรรค์ที่ยังไม่สุกหยิบยื่นให้เขาก็ยังไม่อาจรักษาบาดแผลที่สาหัสนั้นได้ ปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการต่อไปเถิด”“ผลท้อช่วยไม่ได้ เช่นนั้นลูกแก้วมังกรของพี่หลวนหลงก็ต้องช่วยได้สิเจ้าคะ ท่านลองส่งสารบอกผีเสื้อเกล็ดแก้วดู ให้พวกเขาพาคุณชายสี่กลับมาที่นี่ก่อน” น้ำตาสองสายไหลออกมาเต็มใบหน้างาม อ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา“เจ้าตั้งสติให้ดีๆ อวัยวะภายในของหวางเซี่ยเสียหายรุนแรงเกินไป หาใช่ขาดแล้วเชื่อมต่อใหม่ได้เหมือนอย่างเส้นเอ็นของหลวนหลง เจ้าดูดวงตาของฝูซีสิ สิ่งที่ขาดหายไปแล้วน้ำลายมังกรไม่อาจสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้”ไม่ต้องอธิบายมากไปกว่านี้มู่เหยาจีก็รับรู้ได้ถึงความรุนแรงอันหนักหน่วงบนร่างกายสหายรักใต้น้ำสองพี่น้องเดินลงไปที่ชายหาดจุดเดิมที

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 90 สาหัส

    การเคลื่อนไหวอันทรงพลังของนกอินทรียักษ์รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าฟาด เพียงไม่นานมันก็พาอ๋าวหลวนหลงมาพบกับกลุ่มผีเสื้อเกล็ดแก้วที่กำลังรุมล้อมรอบเกาะลอยพุ่งโจมตีไส้เดือนปีศาจยี่สิบตัวกันไม่ยั้งมือ“นั่นมัน!!” ดวงตาคมกริบของอ๋าวหลวนหลงเบิกค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ คำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาก็พลันถูกกลืนลงคอไปด้วยความตื่นตะลึงชายหนุ่มขยี้ตาซ้ำๆ อีกหลายครั้งและสุดท้ายก็ต้องเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาตาไม่ฝาด ยามนี้บนต้นท้อสวรรค์มีผลท้อสีเขียวอมชมพูส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลล่องลอยไปทั่วบริเวณ“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ท้อสวรรค์ออกผลอีกแล้ว! ฮ่าๆๆๆ ผลงานของเหยาจีนี่ดูท่าจะลูกดกดีแท้!!” กล่าวจบชายหนุ่มก็ต้องรีบจับขนหลังคอนกอินทรีตัวเขื่องเอาไว้แน่น เจ้านกยักษ์แกล้งบินลงต่ำกะทันหันด้วยความหมั่นไส้กับคำพูดที่กำกวมของมนุษย์ไร้ขนที่ขี่หลังมันอยู่“ข้าหมายถึงผลท้อ เจ้าจะขัดเคืองอันใดนักหนา!!” อ๋าวหลวนหลงเอื้อมมือไปตบหัวนกอินทรีทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ แต่ใบหน้าคมกลับแดงก่ำที่ถูกจับได้ว่าแอบคิดนอกลู่นอกทางในยามคับขัน“พวกเขาจัดการเจ้าหนอนเหล่านี้ได้แน่นอน เราต้องไปช่วยทางนั้น” อ๋าวหลวนหลงชี้มือไปยังบริเวณชายหาดเพิกเฉยกับการต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 89 หวาดกลัว

    “ข้ายังมีพลังอ่อนด้อยเกินไป ไม่สามารถติดต่อกับผีเสื้อเกล็ดแก้วที่อยู่ทางใต้ไม่ได้ แต่การที่หวางเซี่ยและคู่ของมันลุกขึ้นมาสู้สุดใจเช่นนี้อาจเกิดเรื่องกับทางหลวนหลง” ฝูซีเอ่ยปากอย่างร้อนรน“คุณชายสี่อยู่ทางนั้นเพียงลำพังหรือเจ้าคะ” มู่เหยาจีก็เพิ่งรู้ว่าอ๋าวหลวนหลงไม่ได้อยู่ร่วมการต่อสู้ทางชายหาดบริเวณนี้“ใช่ เขาต้องรีบผนึกรอยแยกใต้ทะเล ทางนี้พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะปล่อยให้พวกมันขึ้นมาบริเวณน้ำตื้นเพื่อจัดการมันได้ง่ายหน่อย แต่จะไม่ยอมปล่อยให้มันขึ้นฝั่ง การที่หวางเซี่ยพาเกาะลอยกลับลงทะเลลึกอยู่นอกเหนือจากที่เราตกลงกันไว้”“เช่นนั้นข้าจะส่งนกอินทรีออกไปสืบข่าว” ต้าโหวจื้อกระโดดลงจากหลังนกอินทรี แล้วปล่อยให้นกยักษ์บินกลับไปเพียงลำพังเพราะตัวเขายังมีประโยชน์ในการสู้รบกับกลุ่มปีศาจมากมายที่มารวมตัวกันบริเวณนี้ไม่มีเวลาให้ทุกคนได้ไตร่ตรองสิ่งใดต่อไป สัตว์ปีศาจที่เล็ดลอดออกจากรอยแยกใต้ทะเลรวมกับกลุ่มที่หลอกล่อให้มนุษย์หลงไปผิดทางก็มีไม่น้อย พวกเขายังไม่สามารถจัดการมันได้ทั้งหมดหากปราศจากความช่วยเหลือจากผีเสื้อเกล็ดแก้วที่แข็งแกร่งทั้งหกพันตัวอินทรียักษ์บินเลยผ่านหวางเซี่ยที่เคลื่อนตัวไปได้

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 88 สละชีวิต

    เมื่อเห็นหวางเซี่ยพยายามชิงพื้นที่การควบคุมเกาะลอยใต้น้ำไว้อย่างยากลำบาก ผู้ฝึกตนระดับสูงทั้งหกคนก็มุ่งเข้ามาช่วยเหลือปูยักษ์สองสามีภรรยาโดยพร้อมเพรียงกัน“เหยาจี!! เป็นอย่างไรบ้าง” มู่สี่เสินทะยานขึ้นไปบนเกาะไปหาน้องสาวเป็นคนแรก“พี่สี่เสินข้าปลอดภัย พวกมันกำลังพยายามจะขึ้นไปบนฝั่งเจ้าค่ะ”“ฝูซีก็คาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้วเช่นกัน เราจะไม่ยอมให้พวกมันเอาต้นท้อสวรรค์กลับลงไปยังแดนปีศาจได้สำเร็จแน่นอน”“พวกเราต้องช่วยหวางเซี่ย ไส้เดือนปีศาจเหล่านั้นแข็งแกร่งมากอีกไม่นานหวางเซี่ยอาจจะทนต่อไปไม่ไหวเจ้าค่ะ”หญิงสาวสงสารและเป็นห่วงปูยักษ์จับใจ ขาทั้งแปดของหวางเซี่ยขยับเขยื้อนได้เพียงเล็กน้อย ความสามารถในการป้องกันตัวแทบจะเป็นศูนย์ แต่โชคดีที่มันมีร่างกายใหญ่โตกว่าไส้เดือนตาบอดเหล่านั้นจึงยังใช้กระดองดันไส้เดือนปีศาจให้อยู่รอบนอกโดยมันควบคุมพื้นที่ใต้เกาะลอยส่วนใหญ่เอาไว้ได้พอดิบพอดีมู่สี่เสินคว้ามือของน้องสาวย่อตัวลงเล็กน้อยและออกแรงกระโดดขึ้นไปอยู่บนร่างของวานรทั้งสองตัวเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้กับปีศาจไส้เดือนที่กำลังพยายามยึดเอาเกาะลอยกลับคืนมาจากหวางเซี่ย……….รอยแยกใต้ทะเลลึกผีเสื้อเกล็ดแก้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status