แม้จ้องมองกันอยู่นานแววตาคู่หวานที่ค่อนข้างปรือก็มีเพียงความขุ่นมัวให้เห็น หากจิ่นลี่ก็คิดว่าอีกฝ่ายอาจแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ เพราะลงมือเผามนุษย์ชาวบ้านธรรมดาก่อนจะหลบหนี
“เสแสร้งแกล้งทำ หลบหนีความผิด ไม่คิดว่าองค์หญิงเผ่าปีศาจจะขี้ขลาดเช่นนี้”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างไม่หลงเชื่อโดยง่าย
“ท่านว่าใครเสแสร้ง ขี้ขลาด”
เมื่อถูกต่อว่าตรงๆ อารมณ์โกรธของซีหรูก็พุ่งทะยานในทันใด แม้ตัวเล็กกว่าก็ไม่คิดกลัวเกรง ร่างบอบบางลุกพรวดเชิดหน้าเถียง แต่เพราะมึนเมาทำให้รู้สึกเหมือนพื้นที่ยืนเอียงไปมาจนเสียหลักแทบทรุดล้มลง หากก็ได้แขนกำยำสอดเข้ามารองรับเอาไว้
จิ่นลี่เห็นอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายอาการไม่มั่นคงนัก เมื่อลุกขึ้นกะทันหันแล้วโอนเอนเขาจึงขยับเข้าไปช่วยได้ทันด้วยสัญชาตญาณของร่างกาย กระชับร่างบอบบางแนบอก กลิ่นเหล้าจากลมหายใจอ่อนโชยมาทำเอาต้องถอนหายใจระอา ขณะจ้องใบหน้างดงามในระยะประชิด
ซีหรูเงยมองสบตาคมกริบของผู้ที่ประคองตนแล้วความรู้สึกร้อนวูบประหลาดก็แผ่ซ่าน ใบหน้ากับร่างกายที่มีฤทธิ์เหล้ากำจายจนไอร้อนทั่วตัวอยู่แล้วนั้นร้อนกว่าเดิม ทั้งช่องท้องเหมือนมีบางสิ่งหมุนวนอยู่ อาการที่ไม่เคยรู้จักพาให้อกใจหวิวหวั่นหายใจติดขัดนางจึงผลักอกหนาในทันใด
ขณะเดียวกันจิ่นลี่เองก็ปล่อยคนตัวเล็กกว่าอย่างนึกรำคาญ ทำเอาร่างบอบบางหงายหลังก้นกระแทกด้วยไม่อาจทรงตัวได้อยู่แล้ว
“โอย....”
ผู้มึนเมาครวญครางเสียงอ่อย จับสะโพกตัวเองแล้วเหลือบมองเจ้าของร่างสูงใหญ่อย่างขัดอกขัดใจ
“เจ็บนะ”
“ก็เจ้าผลักข้า”
แม้อยากสวนกลับไปว่าตนไม่ผิด แต่ความรู้สึกยากจะเดาที่ก่อเกิดขึ้นมาเมื่อครู่นั้นทำให้อธิบายไม่ถูก ทั้งในหัวยังหนักอึ้ง ในอกอึดอัดพะอืดพะอมหากก็พยายามจะลุกขึ้น มือหนาของสวามีตนยื่นมาตรงหน้านางกลับเมินหน้าหนี หาทางเกาะม้านั่งยืนเองจนได้ แต่ก็ต้องจับโต๊ะเอาไว้ด้วย
“เพิ่งรู้ว่าไท่จื่อสวรรค์ชอบหาความผู้อื่น ทั้งยังโหดร้ายกับอิสตรี”
นางยังไม่พอใจที่ถูกต่อว่า ทั้งยังถูกทิ้งจนก้นกระแทกอีกด้วย
“ข้าหรือหาความ?”
ไท่จื่อจ้องดวงตาที่ปรือปรอยอย่างสังเกต ปีศาจน้อยดูเหมือนเพิ่งเคยพบเขา ด้วยเห็นเขาแทนที่จะตื่นตระหนกกลัวความผิดที่ตนก่อไว้ หรือแปลกใจเมื่อรู้ว่าเขาคือผู้ใด ทว่านางกลับมองอย่างไม่ชอบใจเสียอย่างนั้น
เขาไม่แปลกใจนักหากธิดาเจ้าปีศาจจะขุ่นเคืองที่ถูกบังคับให้แต่งงาน ตนเองยังไม่ชอบใจ หากก็ไม่อาจฝืนบัญชาของพระบิดาได้ แม้ก่อนหน้านี้จะเลี่ยงมาได้นาน ทว่าครั้งนี้กลับมีรับสั่งอย่างเด็ดขาด
‘แต่งธิดาเจ้าปีศาจเป็นชายาเจ้า นอกจากจะมั่นใจได้ว่าเผ่าปีศาจย่อมไม่คิดเหิมเกริมตั้งตนเป็นใหญ่เหนือทุกพิภพเช่นครั้งก่อนแล้ว ยังเพื่อตัวเจ้าเองด้วย’
พระบิดาเอ่ยมาเช่นนั้น เขาถึงกับฉงนใจ
‘เทพชะตาบอกว่ากาลข้างหน้าไม่นานเจ้าจะมีเคราะห์ร้ายหนักหน่วงที่ยากจะเลี่ยง ต้องมีดาวคู่ชะตามาช่วยค้ำจุณ และจากที่คำนวณหาดาวคู่ชะตาเจ้าพบว่าคือ ธิดาจากเผ่าปีศาจ ครั้งนี้เชื่อแม่กับท่านพ่อของเจ้ายอมแต่งงานเถิดจิ่นลี่ แม่เป็นห่วงเจ้านัก’
พระมารดาสำทับด้วยสีหน้าไม่สบายใจ จิ่นลี่จึงแย้งไม่ออก เวลานี้มีเพียงตนอยู่ใกล้ชิดพวกท่าน ไม่อยากทำให้ท่านทั้งสองต้องกังวลใจเพราะตน ด้วยพวกท่านคิดถึงและห่วงใยเจิ้งหานพี่ชายเขากับครอบครัวที่ไม่ค่อยได้พบนักมากอยู่แล้ว เขาจึงยอมรับการแต่งงานในที่สุด หากก็ไม่ใสนัก เลือกลงไปทำงานยังโลกมนุษย์ให้บิดามารดาหารือกับราชาปีศาจจัดเตรียมสิ่งต่างๆ
“ท่านต่อว่าข้าชัดๆ จะไม่หาความได้อย่างไร”
ชายาหมาดๆ ของตนยังเถียงหน้าซื่อ เห็นชัดว่ามึนเมายากจะครองสีหน้าและการแสดงออกไว้ได้ หากนางจำเขาได้มีหรือจะไม่หลุดสีหน้าออกมา
หรือนางจำเขาไม่ได้จริงๆ ...เพราะเหตุใด
“เอาเถิด ถือว่าข้าไม่ได้พูดก็แล้วกัน”
เมื่ออีกฝ่ายมีทีท่าเหมือนไม่รู้จักตนมาก่อน จิ่นลี่ก็คิดว่าค่อยสังเกตนางไปเรื่อยๆ ย่อมดีกว่า คุยกันตอนเมาอย่างไรก็ไม่เข้าใจ
ร่างสูงใหญ่เดินหนีไปยังเตียงนอน ทว่าคนที่ถูกต่อว่าไม่คิดยอม ซีหรูมองอีกฝ่ายที่ตัดบทง่ายๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด ขยับเท้าตามอย่างลืมตัวไปว่าตนนั้นค่อนข้างเมาจากการมอมเหล้าตนเอง เพราะต้องการให้ผู้เป็นสวามีนึกรังเกียจไม่อยากเข้าใกล้
“จะจบเรื่องง่ายๆ เช่นนี้หรือ ท่านกล่าวหาก็ต้องขอโทษ...อ๊ะ...”
มือบางผวาจะคว้าแขนกำยำ หากร่างกายของนางเองก็โซเซถลาตาม พอรั้งให้ร่างสูงใหญ่หันกลับมากายสาวก็โถมเข้าใส่อีกฝ่ายเต็มๆ
จิ่นลี่นั้นไม่คิดว่าหญิงสาวจะหน้าคะมำมาหาตน เขาจึงถอยห่างนั่งลงบนเตียงโดยมีร่างเล็กตามมาและเขาก็จำต้องรับไว้ ใบหน้างดงามอยู่ในระยะประชิดปลายจมูก กายสาวนุ่มนิ่มเบียดในอ้อมอกของเทพสงครามผู้แข็งแกร่งทำให้จิ่นลี่ชะงักนิ่งงันไป
ซีหรูมึนศีรษะ ตาลายเพราะการขยับอันรวด ทั้งในช่องท้องยังตีรวนจนไม่อาจทานทนได้แล้วก็ต้องอาเจียนออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“อ่อก...”
ผู้เป็นไท่จื่อสวรรค์ร่างแข็งทื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ไม่ได้ก้มลงมองแผงอกตนที่ถูกราดรดด้วยอาเจียน ทว่าได้กลิ่นบวกกับเหล้าคละคลุ้งชวนคลื่นเหียนตาม หากจิ่นลี่ก็ยังสะกดตัวเองไม่แสดงความรังเกียจ แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะคนตรงหน้าทำท่าจะอาเจียนอีกครั้ง
“อย่า...”
เขาพึมพำพร้อมเอนหนี กลับกลายเป็นทิ้งกายลงนอนบนเตียงโดยมีร่างบอบบางที่ไร้หลักยึดล้มตามมา แล้วเหตุร้ายก็เกิดขึ้นซ้ำซ้อนจนได้เมื่อริมฝีปากอิ่มสวยที่ฉุนทั้งอาเจียนและเหล้าประทับลงบนปากของเขา จิ่นลี่กลั้นหายใจ เกร็งไปทั้งร่างกาย มือหนากำข้างตัวแน่นราวหวั่นเกรง สติอันมั่นคงเสมอมาหลุดลอยไปชั่วขณะ
ปากกระด้างกว่าที่แนบชิด เรือนกายกำยำแข็งแกร่งทั่วทุกสัดส่วนใต้ร่างตนที่สัมผัสได้อย่างเต็มที่ และไม่เคยพานพบมาก่อนนั้นทำให้ซีหรูลนลาน อกใจสั่นไหวโครมครามตีปะทะความเมาจนอื้ออึง นางปัดป่ายมือเปะปะไปทั่วเพื่อหาที่ยันกาย กระทั่งวางลงบนเตียงแล้วก็รีบดันตัวขึ้น
“ขะ...ข้า...”
ซีหรูไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใดจึงได้แต่ก้มหน้าหันหนีแต่ก็รู้สึกตาพร่ามัววิงเวียนจนไม่อาจทรงตัวได้ ก่อนที่ความมืดจะวูบขึ้นมาแทน
ร่างบอบบางที่นั่งโอนเอนแล้วร่วงผล็อยลงจากปลายหางตาดึงความสนใจของจิ่นลี่ขึ้นมาได้ เขาขยับตัวขึ้นประคองหญิงสาวได้ทันและเห็นว่าหมดสติไปแล้วจึงอุ้มขึ้นมาวางบนเตียงอย่างไม่มีทางเลือก แล้วก็ได้แต่ผละมายืนเท้าเอวด้วยความหงุดหงิดใจ ยิ่งกลิ่นเหล้ากับอาเจียนลอยรอบกายก็ยิ่งทำให้ถอนฉุนออกมา
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ดื่มเหล้ามงคลจนเมาเละ อาเจียนใส่ข้า ล่วงเกินข้าแล้วก็หลับ หลบหลีกเก่งเช่นนี้จนเป็นนิสัยสินะ”
=========
ไท่จื่อไม่พอใจที่ถูกชายาล่วงเกิน หรือเพราะถูกอาเจียนใส่กันแน่ ^-^"
ร่างอรชรเดินเข้ามายังส่วนอาบน้ำแล้วก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นแผ่นหลังเปลือยอยู่ในน้ำ ใจกระตุกสั่นไหวจึงหันไปทางอื่น ทั้งยังลังเลไม่กล้าขยับเท้าต่อ“ซีซี”เสียงเข้มแม้จะทุ้มนุ่มหากก็ทำเอาคนได้ยินหน้าเจื่อน ไม่รู้จะทำอย่างไรแต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปใกล้“ไท่จื่อให้หวังหย่งจางหย่งมาปรนนิบัติไม่ดีกว่าหรือเพคะ”ซีซวนถามเสียงเบาทั้งที่เข้ามาแล้ว เมื่อขึ้นมาอยู่บนสวรรค์ ไท่จื่อก็บอกว่านางต้องปรนนิบัติทั้งเวลาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า แน่นอนว่านางลำบากใจด้วยความขัดเขินแม้จะแนบชิดร่างกายกันมาหลายครั้งหลายครา“ไม่ปรนนิบัติก็ได้”พร้อมกับพูดร่างสูงใหญ่ก็ลุกขึ้นทำเอาผู้ที่ยืนชิดริมสระสะดุ้ง ทว่ายังไม่ทันถอยก็ถูกฉุดให้หล่นเข้าไปอยู่อ้อมอกแกร่งด้วยมัดกล้ามกำยำน่าอิงแอบ“อุ๊ย ไท่จื่อ”“มาอาบด้วยกันดีกว่า”ไม่เพียงพูดมือหนายังเคลื่อนไหวทั่วตัวต้องการถอดชุดของนางไปด้วย“เอ่อ อาถิงรออยู่ข้างนอกเพคะ นางคงได้ยินเสียงเป็นแน่”ซีซวนอุบอิบบอกพลางส่ายหน้า รู้ว่าอาบด้วยกันของไท่จื่อมีความหมายมากกว่านั้นนางขอกับบิดาให้เกาถิงมาอยู่ด้วยตั้งแต่วันที่พบท่านหลังพิธีอภิเษก ซึ่งบิดาก็ไม่ได้ขัดแต่อย่างใด เพราะเกาถิงเองก็คง
เรือนร่างไร้อาภรณ์สองร่างกอดก่ายแนบชิด ก่อนจิ่นลี่จะยกร่างเล็กกว่าขึ้นมานั่งคร่อมตักตน ซีซวนดูลำบากใจหากเขาก็กอดเอวบางแล้วลูบไล้ฝ่ามือตนบนผิวนุ่มของร่างสาวจนไม่หลงเหลือสัดส่วนใดที่ไม่ได้แตะต้อง อกอวบสวยยิ่งเคล้นคลึงก็ยิ่งชวนให้อยากลงน้ำหนักมือมากขึ้น ทั้งยังน่าซุกซบกว่าอกหนาของเขาเสียอีก จิ่นลี่มั่นใจว่าตนสามารถนอนซุกอกอวบได้ทั้งคืนไม่เพียงแค่คิดเขาก้มลงดูดดื่มยอดทรวงสีหวานให้เต็มที่เท่าที่ต้องการ ใบหน้าคมคายฝังปรนเปรอสองปทุมกลมกลึงเนิ่นนาน หากมือก็ไม่ลืมปลุกปั่นกายสาวสุดบอบบาง ดอกไม้แสนพิสุทธิ์พร้อมพรักเพื่อเขาแล้ว หากจิ่นลี่ยังใจเย็นไม่รีบหักหาญ ซีซวนต้องการมากเท่าไรนางจะยิ่งรู้สึกดีเมื่อเป็นของกันและกันซีซวนรู้สึกเหมือนตนหอบจนเหนื่อยอ่อน มือเกาะบ่าหนาราวหาที่ยึดด้วยไม่กล้านั่งลงเต็มสะโพก แต่ก็ฝืนเกร็งไม่ได้นานเพราะร่างกายปวกเปียกไร้กระดูกจากการรุมเร้าฉกาจฉกรรจ์“ไท่จื่อ ได้โปรด”นางเอ่ยขึ้นโดยไม่รู้ตัวว่าร้องขอสิ่งใด รู้เพียงร่างกายตนต้องการบางอย่างและแล้วจิ่นลี่ก็พาร่างงามลงไปนอนระทดระทวยใต้ร่างตน มอบจูบอันร้อนแรงครู่หนึ่งพร้อมกับค่อยๆ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว แม้อีกฝ่ายจะเริ่มดิ้
“เจ้าทำเช่นนี้ข้าชักกลัวแล้วว่าเจ้าอยากกลับสวรรค์กับข้าหรือไม่ กลัวเจ้าจะอยากกลับเผ่าปีศาจมากกว่า”“ข้ากลัวว่าจะไม่ได้กอดท่านพ่ออีกแล้ว”เมื่อชายาตนทำเสียงงอแงนิดๆ ผู้เป็นไท่จื่อก็ใจอ่อน“เอาเถิด ข้าจะพาเจ้าไปเผ่าปีศาจในทุกครั้งที่เจ้าต้องการ อย่างน้อยก็...”เขาหยุดไปชั่วอึดใจก่อนจะบอกต่อ“เอาดอกไป่เหอไปให้เจ้าในทุกปี”หัวใจของซีซวนกระตุกวูบหนึ่งกับคำพูดนี้ ราวตอบรับความรู้สึกที่ไท่จื่อมีต่อซีหรู“ข้ายังอยากทำเหมือนเดิม ร่างของเจ้าอยู่ที่นั่น แม้แต่งกับเจ้าที่เป็นเซียนแล้ว ข้าก็ไม่อาจลืมเจ้าที่เป็นปีศาจครึ่งมนุษย์ได้”ซีซวนไม่ได้ขุ่นเคืองใจ นางรู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่ไท่จื่อยังผูกพันกับตนในชาติก่อนอยู่ และยิ้มกว้างให้กับสวามีของตนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข“ข้าขอถามเจ้าปีศาจเรื่องนึงได้หรือไม่”ไท่จื่อมีโอกาสเอ่ยถึงสิ่งที่ตนสงสัย“ท่านรู้ว่าซีหรูมาเกิดใหม่ยังเผ่าบุปผา แล้วเหตุใดจึงไม่เคยบอกข้า”“ในตอนแรกข้าเพียงหวังจึงให้จางฉวนนำแหวนมาที่นี่ ไม่ได้มั่นใจแต่อย่างใด และเมื่อได้รู้ว่าในแหวนมังกรมีดวงจิตวิญญาณอยู่ อดีตเทพธิดาสามารถสร้างชีวิตใหม่ให้ซีหรูได้ ข้าก็ดีใจนัก ไม่ได้คิดว่านางจะเหม
หลังไท่จื่อเอ่ยปากขอซีซวนแต่งงานแล้วแจ้งความนี้กับอดีตเทพธิดาบุปผาเพียงวันเดียว ขบวนสู่ขอจากสวรรค์กับของกำนัลก็มาถึงยังเผ่าบุปผา“ข้าให้หวังหย่งกับจางหย่งจัดเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพแล้ว รอเพียงซีซวนตอบรับ”ไท่จื่อเอ่ยเมื่อหลิงเซียวมองของกำนัลมากมายที่นำเข้ามาในตำหนักด้วยความประหลาดใจ“ส่วนฤกษ์ยามนั้น พระมารดารอคำตอบจากเทพชะตา และพระบิดากับพระมารดายินดีให้จัดงานที่เผ่าบุปผา ทั้งสองพระองค์จะมารับชายาข้ากลับสวรรค์พร้อมกับข้า”จิ่นลี่ไม่ได้กลับสวรรค์ก็จริง ทว่าส่งสารขอราชโองการกับบิดาตนนับแต่บอกกับอดีตเทพธิดาไปว่าจะทำให้ถูกต้องทุกประการ บิดากับมารดาตนยินดีรับซีซวนเป็นสะใภ้สวรรค์โดยไม่ติดใจในข้อใด ด้วยสถานะของนางเป็นธิดาของอดีตเทพธิดาเซียนขั้นสูงสุดในเผ่าบุปผาซีซวนจะได้รับตำแหน่งพระชายาเอกไม่ต่างจากซีหรู“องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเมตตาซีซวนยิ่งนัก”หลิงเซียวทำได้เพียงตอบรับ รู้สึกใจหายไม่น้อยเมื่อบุตรสาวกำลังจะห่างไปจากอกตน นางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน“ซีซวนไม่เคยต้องอยู่ห่างจากข้า ได้แต่หวังว่าเมื่อไปอยู่สวรรค์ชั้นฟ้าไท่จื่อจะเอ็นดูนาง”“ท่านก็ทราบดีว่าข้ารักซีซีมากเพียงใด นางคือชายาเพ
“เจ้าพร้อมปลอบข้าแล้วใช่หรือไม่”ไม่เพียงถามร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามยังบดเบียดให้รับรู้ได้ถึงความกร้าวร้อนที่น่าเกรงกราม ซีซวนหลบสายตาคม หน้าท้องร้อนวูบทว่าจิตใจกลับเฝ้ารอให้ไท่จื่อแตะต้อง คาดหวังพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงกระทบหน้าอกข้างซ้าย“ร่างกายที่ยังไม่หายดีของเจ้าอาจยังรับไม่ไหว ข้าจะเบามืออย่างที่สุด”ในชั่วอึดใจร่างของทั้งสองก็เปลือยเปล่าด้วยฝีมือจิ่นลี่ ร่างอรชรสั่นเบาๆ อยู่ตลอดเวลาทำให้เขาอยากปลอบ แม้ซีซวนจะจำเมื่อครั้งเป็นซีหรูได้แล้วแต่ความจริงข้อหนึ่งก็คือนางยังผุดผ่องด้วยวัยแรกแย้ม อย่างไรก็ไม่อาจรับเขาได้โดยง่าย ทั้งหัวใจที่บาดเจ็บหนักยังไม่แข็งแรงดีทำให้จิ่นลี่เลือกไม่เอาแต่ใจหลังจูบอย่างดูดดื่มแล้วร่างสูงใหญ่ก็เคลื่อนลงพร้อมนาบปากตนฝากรอยร้อนรุ่มผ่านลำคอ กลางอกอวบ ระเรื่อยลงมายังหน้าท้องแบนราบจูบเม้มผิวอ่อนบางทุกจุดที่ผ่านซีซวนขยับกายอย่างไม่เป็นสุข ทรวงอกสะท้อนสูงตามลมหายใจที่รุนแรงด้วยอารมณ์หวาม ไฟปรารถนาลุกพรึ่บในร่างจากที่ค่อยๆ ถูกจุดให้ระอุก่อนหน้านี้ ยิ่งมือหนาลูบไล้ต้นขากับสะโพกซีซวนก็ยิ่งร้อนรน ทั้งลมหายใจร้อนกับปากอุ่นจัดยังเลื่อนต่ำลงอีก บดจูบแผดเผาร่างสาวด
“เจ้าทิ้งข้าไปนานนัก แต่ไม่ว่านานแค่ไหนข้าก็ไม่เคยลืมเจ้าไปจากใจ”ซีซวนร้องไห้หนักขึ้นจนตัวสั่นเทา นางเองไม่ได้รับรู้สิ่งใด มีความสุขกับชีวิตใหม่ของตน ทว่าผู้ที่อยู่กับการจากลาอันแสนเศร้านั้นต้องจมอยู่กับความทุกข์ทนนานนัก รู้ซึ้งถึงหัวอกไท่จื่อที่พยายามไขว่คว้าพระชายาที่สูญเสียไปกลับคืนมา หากเป็นนางเอง แม้มีเวลาอยู่ด้วยกันเพิ่มอีกเพียงวันเดียวนางก็จะทำทุกอย่างให้กลับไปอยู่เคียงข้างไท่จื่อเช่นเดิม ในเมื่อซีหรูจากมาโดยไร้คำร่ำลาจิ่นลี่จับมือบางสองข้างที่ประคองแก้มตนไปจูบด้วยความดีใจและแสนคิดถึง ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าประชิด แตะปากได้รูปประทับจูบซับน้ำตาบนแก้มนวลให้ซีซวนหลับตาลงให้สัมผัสอ่อนโยนและอบอุ่นจากริมฝีปากไท่จื่อปลอบประโลม ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงแนบชิดเหนือกลีบปากตน นางจึงขยับตอบรับจุมพิตด้วยความเต็มใจเมื่อหัวใจสองดวงที่ต่างผูกพันรักใคร่กลับมาใกล้ชิดความโหยหาจึงก่อเกิด จูบผะผ่าวแผ่วเบาจึงค่อยเพิ่มความดูดดื่มขึ้น ปลายลิ้นอุ่นรุกไล่ซีซวนก็ยินดีเปิดรับเกี่ยวกระหวัดลิ้นตนกับอีกฝ่ายตามสัญชาตญาณและความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจ ใจดวงน้อยเต้นเร่า เนื้อตัวร้อนวูบวาบทว่าใจกลับต้องการแนบกายบดเบียด