5
เสียชื่อเสียง
หลังจากการสัมภาษณ์ในครั้งนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ข่าวของตะวันกับโยเกิร์ตก็ถูกพูดถึงไปทั่วในโลกโซเชียลมีเดีย
“ตะวันเห็นข่าวหรือยัง ทำอะไรลงไป” ผู้จัดการส่วนตัวหยิบโทรศัพท์มาให้พระเอกหนุ่มดู
“เอ้าทำไมกลายเป็นผมเป็นคนไม่ดีไปเสียล่ะ ทั้งที่เรื่องนี้ผมไม่ได้เริ่มเลย โยเกิร์ตพูดเองเออเองคนเดียว”
ตะวันตกใจเมื่อได้เห็นคนในโซเชียลรุมด่าว่าเขา ว่าเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวเจ้าชู้ หลายใจ และต่างพากันให้กำลังใจโยเกิร์ต
“ตะวันแกทำอะไรไม่คิด ตะวันไม่ผิดที่พูดความจริง แต่ผิดที่พูดช้าไป และมาพูดเอาตอนนี้”
ชิงชิงไม่อยากต่อว่าอะไรนักแสดงหนุ่มให้มากกว่านี้ เพราะกลัวจะทำให้ตะวันยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่
“ผมขอโทษด้วยครับพี่ แต่ผมแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบๆเสียที” ตะวันยกมือขอโทษผู้จัดการส่วนตัว
“ตะวันเอ๋ย เตรียมรับบทหนักได้เลย ผู้จัดคงต้องเรียกแกเข้าไปคุยแน่ๆ”
ชิงชิงเป็นคนที่ดูแลตะวันตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการ เธอเป็นสาวประเภทสองที่มีความสามารถรอบด้าน ตอนนี้เธอก็กำลังหาวิธีที่จะช่วยกู้ชื่อเสียงของตะวันกลับคืนมาให้ได้
“อลิสฝีมือเธอใช่ไหม”
มาวินยื่นโทรศัพท์ให้อลิสดู เพราะกระแสข่าวบันเทิงที่กำลังมาแรงตอนนี้ คือข่าวของตะวัน เขากลายเป็นผู้ชาย เจ้าชู้ หลายใจ และโดนบรรดาพวกนักเลงคีย์บอร์ดกำลังรุมด่ากันอย่างสนุกปาก
“ทำไมเธอคิดว่าฉันเป็นคนทำ พี่ตะวันเขาเป็นคนออกมาให้สัมภาษณ์เอง ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
อลิสปฎิเสธ แล่รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาว แสดงถึงความสะใจมาก ที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ
“เรารู้ว่าเธอต้องอยู่เบื้องหลัง พอเถอะอลิส ไข่มุกมันอาจไม่ได้ชอบที่เธอทำร้ายคนที่เพื่อนรักแบบนี้ก็ได้”
มาวินไม่เห็นด้วยและยังไม่ละความพยายามที่จะห้ามเพื่อน เพราะเวรมันต้องระงับด้วยการไม่จองเวร
“มาวินนายรู้ไหม ว่าตั้งแต่ฉันรู้จักกับพี่ตะวัน ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะพูดถึงไข่มุก เหมือนเขาไม่เคยมีเพื่อนเราอยู่ในความทรงจำเลย”
อลิสกำมือแน่นด้วยความแค้น เธอรอฟังว่าชายหนุ่มจะพูดถึงเพื่อนเธอบ้างแต่เขาไม่เคยพูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ตอนนี้ชื่อเสียงเขาก็เสียแล้ว หยุดเถอะอลิส” มาวินขอร้อง
“ได้ ฉันจะหยุดเรื่องชื่อเสียง แต่เรื่องอื่นยังไม่จบ”
“อลิสเธอหมายความว่าอะไร” มาวินไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเธอกำลังจะทำอะไรต่อไป
“อย่ารู้เลย ยิ่งรู้นายก็ยิ่งมาสบายใจ เราเลือกแล้วที่จะทำ เราก็จะทำให้ถึงที่สุด”
อลิสไม่รอฟังในสิ่งที่มาวินจะพูดต่อ เพราะเธอมีแผนทุกอย่างอยู่ในใจอยู่แล้ว และทุกอย่างก็กำลังไปได้สวย
“อลิสรู้เรื่องหรือยัง”
มูมู่ผู้จัดการส่วนตัวรีบเข้ามารายงานนักแสดงสาวที่เพิ่งมาถึงกองถ่าย
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องคุณตะวัน ที่ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องโยเกิร์ตไง” มูมู่ทำท่าซุบซิบ
“อ๋อ เห็นแล้วค่ะ งานนี้จะดับเลยไหมคะ” อลิสถาม เพราะคิดว่ามูมู่ต้องอ่านเกมออกว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่คนไทยก็ลืมง่าย รวมทั้งลืมดาราที่มีชื่อเสียไปตลอดกาลเลย”
อลิสกอดอกยิ้มอย่างมีความสุข อย่างน้อยวันนี้เธอก็ทำให้ชายหนุ่มทำลายชื่อเสียงตัวเองด้วยตัวของเขาเอง
“อลิส”
เสียงเรียกชื่อที่เธอแสนจะคุ้นเคย ไม่ใช่ใครที่ไหน ตะวันนั่นเอง
“เดี๋ยวพี่ไปดูเสื้อผ้าให้ก่อนนะ”
มูมู่เห็นว่าทั้งคู่น่าจะอยากคุยกันเป็นการส่วนตัวมากกว่า จึงขอตัวเดินไปเตรียมเสื้อผ้าที่ต้องใส่ให้นักแสดงสาว
“พี่ทำตามที่อลิสต้องการแล้วนะ”
ชายหนุ่มย้ำอีกครั้งถึงแม้จะรู้อยู่แล้ว ว่าหญิงสาวคงรู้เรื่องจากข่าวที่กำลังดัง
“คืนนี้อลิสขอไปดื่มไวน์ที่ห้องห้องพี่ตะวันได้ไหมคะ”
นางเอกสาวไม่พูดถึงข่าว แต่กลับบอกว่าคืนนี้เธอไปที่ห้องของชายหนุ่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตะวันรู้สึกมีความสุข ที่เขาทำให้อลิสพอใจ
“ยังไม่มืดเลย เราไปหาวัดนอกเมืองทำบุญกันดีไหมคะ”
หญิงสาวชวนดาราหนุ่มไปทำบุญ เพราะอลิสจำได้ ไข่มุกเคยบอกว่าเธอกับตะวันชอบไปทำบุญที่วัดไหนด้วยกัน
“ดีเหมือนกันพี่ไม่ได้ไปทำบุญมานานแล้ว” ดาราหนุ่มเห็นด้วย
“แล้วเราจะไปวัดไหนกันดีคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะไปวัดที่ไข่มุกเคยเล่าให้ฟังไหม
“พี่คิดไม่ออกเลย ส่วนมากก็ไปตามที่คุณพ่อคุณแม่พาไป” ดาราหนุ่มตอบตามความจริง
“ถ้าอย่างนั้นไปวัดที่อลิสเลือกแล้วกันนะคะ”
“ได้เลยครับผม”
หญิงสาวบอกทางเพื่อไปยังวัดที่ไข่มุกเคยเล่าให้เธอฟัง ว่าตะวันชอบพาเธอไป
“ตรงนี้อลิสไม่แน่ใจว่าเราต้องเลี้ยงซ้ายหรือขวาค่ะ”
ความจริงแล้งนางเอกสาวรู้ทาง แต่แกล้งทำเป็นถาม เพราะอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะบอกทางถูกไหม
“เอาไงดี เลี้ยวขวาไปก่อนนะ รถหลังตามมาติดเลย” ตะวันทำท่าจะเลี้ยวขวา
“เลี้ยวซ้ายค่ะ” อลิสตะโกนเสียงดังอย่างตกใจ
“เอ้าไหนว่าจำไม่ได้ พอดีอลิสนึกขึ้นได้พอดีค่ะ”
หญิงสาวแก้ตัวทันควัน จนชายหนุ่มไม่สงสัยอะไรเลย เพราะคิดว่าผู้หญิงส่วนมากก็ชอบจำทางไม่ได้อยู่แล้ว
“ถึงแล้วค่ะ”
ทั้งสองคนพากันมาถึงที่วัด อลิสเดินนำหน้าตะวันเข้าไปในโบสถ์เพื่อไหว้พระประธาน และข้างในยังมีการถวายสังฆทานอีกด้วย
“อลิสมาวัดบ่อยเหรอครับ ดูชำนาญเชียว” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นท่าทางที่คล่องแคล่วของนางเอกสาว
“บ่อยค่ะ แต่เป็นวัดแถวบ้าน เพราะอลิสกับแม่ไม่มีรถ ส่วนมากก็นั่งแต่รถโดยสารประจำทางเอา”
ใบหน้าที่ดูถอดสีทันทีเมื่อหญิงสาวพูดถึงเรื่องราวของเธอกับแม่ ก่อนที่เธอจะได้เข้าวงการบันเทิง
“แล้วตอนนี้ซื้อรถให้แม่หรือยังล่ะ”
“จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อคะพี่ตะวัน รถที่อลิสใช้อยู่ก็รถของพี่มูมู่เขาให้ยืม คงต้องรอค่าตัวเรื่องนี้ก่อน ถึงจะได้ซื้อเป็นของตัวเอง”
อลิสส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าภายในใจของเธอเศร้าหมองเพียงไหน
“อลิสเก่งจัง สามารถส่งตัวเองจนเรียนถึงมหาวิทยาลัย” ตะวันชื่นชม
“ไม่เก่งหรอกค่ะ มีเพื่อนคนนึง คอยช่วยเหลืออลิส ทุกเรื่อง แม้กระทั่งออกค่าลงทะเบียนให้”
“เพื่อนคนไหน ทำไมมีน้ำใจแบบนี้ วันหลังพาพี่ไปรู้จักบ้างนะ” ตะวันทำท่าตื่นเต้น ที่โลกใบนี้ยังมีคนที่มีน้ำใจแบบนี้อยู่
“เธอตายแล้วค่ะ”
“เอ้า” ชายหนุ่มทำท่าตกใจ
“เธอฆ่าตัวตาย”
หญิงสาวพูดแบบเน้นทั้งประโยคเผื่อมันจะทำให้พระเอกหนุ่มยอมพูดอะไรออกมา
“ไม่น่าเลย คนดีมีน้ำใจแบบนี้ แต่สังคมตอนนี้ข่าวการฆ่าตัวตายมีบ่อยจริงๆ ลูกสาวเพื่อนของคุณพ่อพี่ ก็ฆ่าตัวตายเหมือนกัน”
“เธอชื่ออะไรคะ” อลิสเผลอกระชากเสียงด้วยความตื่นเต้น
“พี่จำไม่ได้ เคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ส่วนมากครอบครัวน้องเขาจะมาที่บ้านพี่บ่อย แต่พี่อยู่แต่คอนโดไม่ค่อยได้กลับบ้าน เออ...แล้วทำไมอลิสต้องตื่นเต้นตกใจแบบนั้นด้วย”
ตะวันถามด้วยความแปลกใจ ที่เห็นนางเอกสาว สนใจขึ้นมาทันที ว่าลูกสาวเพื่อนของพ่อตะวันชื่ออะไร
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่อลิสฝังใจกับเรื่องนี้มาก เวลาได้ยินว่าใครฆ่าตัวตายใจคอไม่ดีทุกทีเลยค่ะ”
หญิงสาวแก้ตัวอย่างฉับไว เพราะเธอเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
“มาๆ พี่กอดปุ๊บใจคอจะดีขึ้นทันที”
พระเอกหนุ่มเดินเข้ามาชิดกับนางเอกสาว ก่อนคล้องเอวคนตัวเล็กไว้ด้วยมือของเขา
“ข่าวเมื่อเช้า กำลังดังเลยนะคะ จะเอาข่าวใหม่อีกเหรอ อลิสไม่อยากตกเป็นมือที่สามนะ”
หญิงสาวเตือนสติชายหนุ่ม ไม่ใช่เพราะเธอห่วงเขา แต่เธอกำลังห่วงชื่อเสียงตัวเองด้วย
“ทั้งใส่หมวก ทั้งปิดหน้า ยังจะมีใครจำเราได้อีกเหรอ”
ตะวันคิดว่าการปลอมตัวแบบนี้คงไม่มีใครจำได้หรอก เขาถึงไม่ระวังตัว
“ถ้าบรรดาแฟนคลับพี่มาเจอ เขาเห็นพี่แค่ติ่งหูเขาก็จำได้แล้ว” หญิงสาวตอบ
“มากไปล่ะ ใครจะมาสนใจใครขนาดนั้น”
ชายหนุ่มส่ายหัวเขาไม่เห็นด้วย ในสิ่งที่อลิสพูด เพราะคงไม่มีใครจะสนใจรายละเอียดของคนอื่นถึงขั้นนั้น
“ถ้าเรารักและปลื้มใครมากๆสักคน เราจะจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขาได้หมด ที่ตะวันไม่เคยมีความรักเหรอคะ ถึงได้ไม่เคยรู้สึก”
เมื่อได้โอกาสนางเอกสาวไม่ปล่อยให้หลุดมือไป เธอหาจังหวะเก็บข้อมูลเพิ่มทันที
“เคยนะแต่เป็นความรักแบบเด็กๆ สมัยประถม ตอนนี้ยังจำชื่อไม่ได้เลย” คนเล่าหัวเราะ
“ถ้าแบบนั้นเขาไม่เรียกรักหรอกค่ะ ไว้สักวันถ้าพี่ตะวันรักใครสักคนจะเข้าใจเอง”
“แต่พี่ว่า พี่ใกล้จะเข้าใจแล้วนะ แต่ตอนนี้สิ่งที่พี่รู้คือ รักไม่มีเหตุผล การที่เราจะรักใครสักคน อยู่ๆมันก็รัก เหมือนผูกพันกันมานาน”
สายตาที่พระเอกหนุ่มมองจ้องดวงตากลมโตของนางเอกสาว ทำเอาอลิสต้องก้มหน้าก้มตาเดิน
“ไปให้อาหารปลากัน แล้วเดี๋ยวเราไปหาซื้อกับข้าวไปทำกินที่ห้องของพี่ตะวันกันดีกว่า”
อลิสพยายามห้ามใจไม่ให้หวั่นไหวกับคำหวาน และท่าทีที่เจ้าชู้ของตะวัน เพราะเธอมาอยู่ตรงนี้เพื่อแก้แค้นไม่ได้เพื่อมารักใคร
ตอนที่ 12ซาตานแพ้รัก ข่าวเสี่ยโดนยิงดังไปทั่วจังหวัดตอนนี้หมอแจ้งว่าไม่มีกระสุนฝังในและไม่โดนยิงในส่วนที่อันตรายจึงได้ทำการรักษาและพาขึ้นไปอยู่ที่ห้องพิเศษเพื่อพักฟื้น ผู้คนจากหลายตำบลต่างพากันมาเยี่ยม จนต้องทำสมุดให้เซ็นเพราะหมอไม่อยากให้เยี่ยมมากกลัวจะทำให้แผลติดเชื้อและคนไข้ไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้คนที่เฝ้ากลางวันจะเป็นเสกส่วนกลางคืนจะเป็นโชคกับเดือนอ้าย “อ้ายขอน้ำหน่อย คอแห้ง” พยาบาลส่วนตัวรีบลุกไปหยิบแก้วน้ำดื่มให้กับคนเจ็บทันทีเพราะกกลัวชายหนุ่มจะพยายามขยับตัวแล้วจะมีผลต่อแผล “มากอดหน่อยสิ ปิดกันได้อย่างไรเรื่องท้อง พี่เป็นพ่อนะ” เสี่ยหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์หลอกให้เดือนอ้ายไปใกล้ ๆ เพื่อจะคว้าตัวเธอมากอด “ก็อ้ายเห็นเสี่ยไม่มาหาเลยก็คิดว่าคงลืมกันไปแล้ว ลูกคนเดียวอ้ายเลี้ยงได้ถ้าพ่อของลูกไม่ได้ตั้งใจให้มีเขาขึ้นมา” บู๊เอียงตัวหญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขาและรักสุดท้ายให้หันหน้ามามองสบตาและฟังในสิ่งที่เขาจะพูด “ฟังนะอ้าย ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร จะมองว่าเสี่ยบู๊คนนี้เป็นแบบไหน แต่พี่ยืนยันว่าพี่ยังเป็นพี่
ตอนที่ 11คิดถึง หนึ่งเดือนผ่านไป บ้านซ่อมแซมเสร็จนานแล้วแต่เดือนอ้ายก็ยังคงไม่ย้ายออกมาจากไร่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมและในเกือบทุกคืนเธอกับอดีตเจ้านี้ก็มีความสัมพันธ์กันทั้งที่มันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแล้ว วันนี้หญิงสาวตัดสินใจเก็บของกลับบ้าน เธอมาแค่เพียงกระเป๋าใบเดียว เธอก็กลับไปเพียงแค่นั้น เธอบอกเรื่องนี้ให้เสี่ยรู้ตั้งแต่เมื่อคืน เธอคิดว่าเขาคงจะไปส่งเธอกลับบ้านแต่เขากลับให้โชคไปส่งเธอและเอาจักรยานของเธอขึ้นท้ายรถไป “เริ่มต้นใหม่นะอ้าย ว่าง ๆ ก็มาเที่ยวที่ไร่ได้นะ ทุกคนยินดีต้อนรับ” โชคบอกร่ำลาเพื่อนหลังจากที่ช่วยถือกระเป๋าไปไว้บนบ้านและเอาจักรยานของเธอลงไว้ที่ใต้ถุน “โชคดีนะโชค ขอบคุณที่ดูแลอ้ายมาตลอด” สองคนเพื่อนรักโบกมือลากันทั้งที่ความจริงไร่ห่มรักกับบ้านของเธออยู่ห่างไม่ได้มากอะไร บ้านหลังเดิมที่ไม่เหมือนเดิม หลังคาเปลี่ยนใหม่ผนังบ้านเปลี่ยนใหม่ จากที่เป็นบ้านโ ล่ง ๆ ตอนนี้ก็มีห้องนอนสองห้อง หน้าต่างติดเหล็กดัด มีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ ตู้เย็นและมีห้องครัวอยู่ที่ระเบียงหลังบ้านที่ตอนนี้ไม่โล่งเหมือนเดิน
ตอนที่ 10คืนอิสระ โชคยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเขาคิดไว้ไม่มีผิดไม่ถึงชั่วโมงเจ้านายของเขาก็ขับรถมาถึงทั้งที่ความจริงจากตัวจังหวัดมาที่ไร่เกือบชั่วโมงแต่คนปากแข็งใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบนาที “ไหนว่าจะไม่กลับอย่างไรล่ะครับเจ้านาย” โชคยิ้มแซวทั้งที่รู้ว่าเวลนี้เจ้านายของเขาคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นด้วยก็ตาม “ลืมของโว๊ย!” บู๊ตะโกนตอบลูกน้องแบบไม่ใส่ใจเพราะรีบเดินเข้าไปยังห้องนอน “นายเขาลืมหัวใจไว้ เอ็งก็ทำเป็นไม่รู้นะไอ้โชค” เสกและลูกน้องอีกสองคนลงจากรถพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าที่ตั้งใจว่าคืนนี้จะไปนอนโรงแรมกัน เจ้าหนี้จอมปากแข็งเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เขานั่งข้าง ๆ เดือนอ้ายอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอหลับสนิท เขาจึงเอาฝ่ามือแตะที่หน้าผากของเธอ “กินยาไปแล้วยังตัวร้อนอยู่เลย” บู๊ไม่คิดว่าเดือนอ้ายจะไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนหนักแบบนี้ ดีนะที่เขาตัดสินใจกลับมา ผ้าชุบน้ำแตะลงที่ตัวของคนป่วยเธอจึงค่อย ๆ ลืมตา พอเห็นว่าเป็นใครที่กำลังเช็ดตัวให้เธออยู่เธอก็หลับตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนแรง ทั้ง
ตอนที่ 9ฝังใจ สองสัปดาห์เต็มที่เดือนอ้ายมาอยู่ที่ไร่ห่มรัก เธอเพิ่งหาเงินใช้หนี้แค่เพียงสามหมื่นจากสองครั้งที่เขานอนกับเธอ หญิงสาวจึงตั้งใจจะพยายามวันนี้อีกครั้งและเป็นการพยายามที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่เธอพยายามแบบธรรมดามาหลายคืนแล้ว คืนนี้ชายหนุ่มก็กลับบ้านดึกเหมือนเช่นทุกวันและเดือนอ้ายก็ยังคงรอเขากินข้าวเหมือนเดิม เธอพยายามพูดจาเอาใจชายหนุ่มในแบบที่ไม่ใช่เธอ ทั้งที่ตัวเธอเองก็สัมผัสได้ว่าคนฟังก็รู้ว่าเธอกำลังพยายามเอาใจเขาไม่ได้เกิดจากความรู้สึกที่แท้จริง ไฟทุกดวงปิดลงแสงที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในห้องทำให้บู๊ที่ยังคงไม่หลับมองเห็นหญิงสาวตรงหน้าในสภาพเปลือยเปล่า “เธอทำอะไรของเธอ” ชายหนุ่มตะคอกด้วยความไม่พอใจ “ก็ทำให้เสี่ยนอนกับอ้ายไงล่ะ ทำไมคะในเมื่อเสี่ยอยากได้อ้ายมาบำเรอใช้หนี้แต่ตอนนี้เสี่ยกลับนอนเฉย ๆ ทุกคืน เสี่ยไม่พอใจอ้ายเหรอหรือว่าอ้ายมันไม่สวยไม่เก่งเหมือนผู้หญิงคนอื่น” หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงเธอพยายามจะเอาตัวเองคร่อมล่างชายหนุ่มที่กำลังตกใจแต่ไม่สำเร็จเพราะสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว บู๊ผลักร่างบางที่พยายามจะขึ้น
ตอนที่ 8ยืดเวลา อาหารมื้อเย็นวันนี้แม่ครัวคนใหม่ทำเมนูง่าย ๆ เพราะเธอยังไม่คุ้นชินกลับครัวที่นี่จากเคยใช้เตาถ่านก็เปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สแทน “มื้อนี้ขอแบบเบา ๆ ก่อนนะคะ ยังไม่ชินกับครัวใหม่เลยกว่าจะใช้เตาแก๊สเป็นก็กลัวแทบแย่ ทำอีกสักครั้งสองครั้งก็คงดีขึ้น เสี่ยทน ๆ กินไปก่อนแล้วกัน” คนนั่งรอกินไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะสำหรับชายหนุ่มที่ชีวิตโหยหาคำว่าครอบครัวมานานแสนนานแค่ได้มีโอกาสได้กินข้าวที่บ้าน ณ ไร่ห่มรักโดยมีผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าตอนนี้เป็นเมียเขา ทำกับข้าวให้กินก็สุขใจเกินพอแล้ว “พรุ่งนี้ให้โชคพาไปดูในไร่หน่อยได้ไหมคะ ไม่อยากไปคนเดียวไม่รู้จักใคร” ตอนแรกอ้ายคิดว่าเธออยู่ที่นี่แค่ไม่นานคงไม่ทันเบื่อแค่คอยทำกับข้าวในแต่ละวันก็คงหมดวันแล้ว แต่พอมาคิดมาคิดไปเธอเริ่มอยากรู้ว่าในไร่ห่มรักมีอะไรบ้าง ทำไมจึงทำให้บู๊จากเด็กชายธรรมดามีฐานะดีขึ้นมาเร็วแบบนี้ “ได้สิ นัดกับโชคเอาแล้วกัน เพราะตอนนี้พี่ให้โชคอยู่เป็นเพื่อนเราทุกวัน มันก็คงไม่อยู่หน้าประตูไร่ก็เดินไปเดินมาแถวนี้แหละ” พรุ่งนี้งานนอกเข้ามาเสี่ยจำเป็นต้องไปจัดการสะสาง
ตอนที่ 7ความดีที่ไม่มีใครเห็น เดือนอ้ายเดินมาเพื่อขึ้นรถไปซื้อของตามคำสั่งของเจ้าหนี้เธอ ทั้งที่เธอก็คิดมาทั้งวันว่าเธอคงอยู่ที่นี่เต็มที่ก็แค่เดือนเดียวทำไมอีกฝ่ายต้องลงทุนให้ไปซื้อของเข้าครัวทำเหมือนเธอจะมาอยู่ที่นี่ เป็นปีหรือหลายปี “ทำไมยังไม่ไปคะ” หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถได้เกือบห้านาทีแล้ว เธอยังไม่เห็นว่าคนขับทำท่าจะขับออกไปเลยจึงถามด้วยความแปลกใจ “รอคนงาน เขาจะพาแม่ไปหาหมอจะขับไปพร้อมกัน ๆ ” “แม่เขาเป็นอะไรหรือคะ” คนถามได้ยินแบบนี้ยิ่งคิดถึงแม่ขึ้นมาเพราะเวลาที่เธอจะพาแม่ไปหาหมอแต่ละครั้งแสนลำบากยังดีที่รถรับจ้างคิดเงินเธอไม่แพงเพราะสงสาร “ปวดขาเฉย ๆ คนที่ไปหาหมอชื่อป้าพร มีลูกสองคนเป็น ฝาแฝดกันชื่อพีกับเพื่อน ป้าพรก็รู้จักอ้ายนะแต่อ้ายคงจำแกไม่ได้แล้วเพราะตั้งแต่แกมาทำงานในไร่ก็ไม่ค่อยออกไปไหนเลย” บู๊พูดจบรถคันใหญ่สีดำก็ขับผ่านหน้าเขาไปไม่ถึงสองนาที เขาก็ขับตามออกไป “ถ้าอยู่แต่บ้านแล้วมันเหงาไปช่วยงานในไร่ก็ได้นะ ลองปั่นจักรยานดูก็ได้ว่าอยากทำอะไร เพราะก็เลือกให้ไม่ถูกเหมือนกัน”