4
มือที่สาม
“วันนี้มากองถ่ายแต่เช้าเลยนะคะ”
โยเกิร์ตนัดแสดงรุ่นพี่ เดินมาทักทายนางเอกคนใหม่ ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ทั้งที่หัวใจของเธอชังน้ำหน้า อลิสยิ่งนัก
ละครเรื่องนี้ตอนแรกโยเกิร์ตกำลังจะได้เป็นนางเอก แต่ทางผู้จัด อยากได้นางเอกหน้าตาลูกครึ่ง และอลิสก็เหมาะกับบทนี้ โยเกร์ตจึงเป็นได้แค่รองนางเอกอีกทีหนึ่ง
“เมื่อคืน ไม่ต้องกลับเองเลยถึงคอนโดไวหน่อยค่ะ”
อลิสตอบไม่ตรงตามความจริง ใบหน้าก็แสดงเหมือนเมื่อคืนคนที่ไปส่งเธอคือคนสำคัญ
“ใครกันนะ...ไปส่งนางเอกคนใหม่ของเราถึงคอนโด เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ระวังจะดับโดยที่ยังไม่ทันดังนะจ๊ะ ไปไหนมาไหนก็ระวังตัวด้วย เลือกๆหน่อยจะไปกับใคร”
รอยยิ้มที่ดูหวังดี และเป็นห่วงเป็นใยแต่บาดใจยิ่งกว่ามีดโกน ทำเอาอลิสต้องพยายามหายใจลึกๆเพื่อควบคุมอารมณ์
“ขอบคุณพี่โยเกิร์ตมากนะคะ แต่คนที่ไปส่งอลิส เขาต่างหากที่เลือก อลิส อลิสไม่ได้เลือกเขา”
คำตอบของหญิงสาว แสดงให้เห็นว่าคนที่ไปส่งเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน เมื่อรู้ว่ากำลังได้เปรียบอลิสก็เดินออกจากตรงการสนทนากับโยเกิร์ตทันที
โยเกิร์ตตั้งแต่เธอให้สัมภาษณ์เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับตะวัน ทางผู้จัดการส่วนตัวของทั้งสองคน ก็ตกลงกันว่า จะให้เรื่องนี้ค่อยๆเงียบลง แล้วค่อยออกมาบอกว่าทั้งคู่เลิกรากันแล้ว
ตะวันรู้สึกไม่พอใจ ที่โยเกิร์ตให้ข่าวแบบนั้น แต่ทางฝ่ายของโยเกิร์ตเอง อ้างว่าต้องการดันให้ทั้งคู่เป็นที่รู้จักได้เร็วขึ้น ซึ่งมันก็ได้ผล ตะวันจึงไม่สามารถทำอะไรได้
“วันนี้ไปหาอะไรกินกับพี่ต่อนะ”
ตะวันเดินมาทักทายอลิสทันที ที่มาถึงกองถ่าย โดยที่ไม่สนใจสายตาของโยเกิร์ตที่จ้องมองอยู่
“วันนี้ตะวันมีถ่ายแค่เช้า บ่ายต้องไปเรียนต่อค่ะ”
หญิงสาวตอบตามความเป็นจริง เพราะเธอมั่นใจว่า เขาไม่มีทางกล้าไปรับหรือไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยแน่ๆ
ไข่มุกเคยเล่าให้ฟังว่า ตลอดเวลาที่คบกับพี่ตะวัน เขาจะมาส่งเธอแค่ที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยแล้วให้เธอนั่งรถรับจ้างเข้ามาเอง เพราะกลัวการเป็นข่าว
“พี่มีถ่ายถึงเย็นเลย ถ้าอย่างนั้นตอนเย็นพี่ไปรับนะ” ตะวันกระซิบ
“ได้เหรอคะ ไม่กลัวใครเห็นเหรอ” อลิสมองหน้าชายหนุ่มอย่างแปลกใจ
“ทำไม เห็นแล้วทำไม แค่ไปรับที่มหาวิทยาลัย ไม่ได้ไปเจอในโรงแรมม่านรูดเสียหน่อย”
ตะวันส่ายหัว ไม่เข้าใจความคิดของหญิงสาว ว่าการไปรับกันที่มหาวิทยาลัย ทำไมต้องเป็นเรื่องที่กลัวคนอื่นเห็น
วันนี้ฉากที่ต้องแสดงสำหรับอลิสกับตะวันมีเพียงแค่สองฉาก โดยฉากสำคัญคือฉากที่ตะวันจะต้องง้ออลิส โดยการดึงเธอเข้ามาจูบปาก เพื่อให้เธอหายโกรธ
“เฮ้ย....”
มูมู่อุทานด้วยความตกใจ เมื่อตะวันใช้การจูบจริง แทนการใช้มุมกล้อง
“คัท คัท”
ผู้กำกับต้องตะโกนคัทถึงสองครั้ง เพราะตะวัน ไม่ยอมหยุด ยังคงจูบอลิสอย่างเอาจริงเอาจัง
“แรด!” โยเกิร์ตสบถอย่างไม่พอใจ
“อลิสนี่มันอะไรกัน ทำไมตะวันเขา.....” มูมู่ไม่อยากพูดตรงๆออกมา
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่มูมู่ พี่ตะวันคงแค่อยากจะให้สมจริง”
อลิสรู้อยู่ว่าที่ชายหนุ่มกล้าทำแบบนี้ เพราะเมื่อคืนเขาได้ทำยิ่งกว่านี้มาแล้ว
“พี่ตะวันเล่นซะจริงเลย อลิสเขินไปหมดเลยค่ะพี่โยเกิร์ต”
หญิงสาวเดินลอยหน้าเข้าไปใกล้กับโยเกิร์ตที่กำลังนั่งแต่งหน้ารอเข้าฉาก ก่อนจะพูดจาที่คิดว่าคนฟังคงใจลุกเป็นไฟแน่นอน
“อลิสเป็นไงบ้าง”
มาวินยืนรออยู่ชั้นล่างของอาคารเรียน เพราะไม่อยากขึ้นไปคุยข้างบนกลัวเพื่อนได้ยิน
“นายหมายถึงเรื่องงาน หรือเรื่องอื่นล่ะ”
อลิสทำเป็นไม่เข้าใจ ว่ามาวินถามถึงเรื่องอะไร ทั้งที่ความจริงเธอรู้อยู่แล้ว
“ก็ทั้งสองเรื่องแหละ” มาวินหงุดหงิด
“ล้อเล่น รู้ว่านายหมายถึงเรื่องอะไร ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร เรากำลังจะแหย่ให้ยายโยเกิร์ตมันดิ้นที่กำลังจะโดนคนรักนอกใจ ก็แค่นั้น” อลิสอธิบาย
“แล้วตกลงทั้งคู่เขาเป็นแฟนกันจริงๆไหม”
มาวินถามตามที่เขาสงสัยนาน เพราะเคยเห็นแต่ฝ่ายหญิงออกมาพูด แต่ตะวันไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เลย
“ก็ยังไม่แน่ใจนะ แต่วันนี้ตอนเข้าฉาก พี่ตะวันจูบจริงเลย ยายโยเกิร์ตนี่ ตาแทบจะถลนออกมาเลย”
อลิสยังสังเกตไม่ออก ว่าตกลงทั้งคู่คบกันไหม เพราะฉากที่เธอจะเจอกับโยเกิร์ตมีไม่มาก จึงไม่มีโอกาสได้สังเกต
“มาวิน เย็นนี้นายซื้อกับข้าวไปให้แม่เราหน่อยสิ เรามีนัด”
หญิงสาวส่งเงินให้มาวินจำนานหนึ่ง ตั้งแต่อลิสเข้าวงการ เธอก็มีเวลาให้มารดาน้อยลง สัปดาห์หนึ่งเจอหน้ากันแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น ส่วนมาเธอจะให้มาวินช่วยจัดการเรื่องนี้แทนเธอ
“จะไปกับพี่ตะวันใช่ไหม” มาวินถามตามตรง
“ใช่ วันนี้เราจะพยายามทำให้เขารักเราให้ได้” อลิสทำท่ามั่นใจ
“เธอคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” มาวินไม่เห็นด้วย
“ไม่ลองก็ไม่รู้”
“ระวังตัวแล้วกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องแม่ เราจะดูแลให้”
มาวินรู้ว่าพูดไปก็ห้ามอลิสไม่ได้ ทุกวันนี้แค่เขาไม่ต้องเห็นอลิสร้องไห้เพราะเรื่องไข่มุกก็ดีเท่าไหร่ ปกติหญิงสาวร้องไห้ทุกวัน เพราะอลิสคิดว่า ถ้าเธอไปหาไข่มุกเร็วกว่านี้เพื่อนของเธอคงไม่ตาย
“วันนี้พี่ตะวันจะพาอลิสไปไหนคะ”
หญิงสาวถามหลังจากขึ้นมานั่งคู่กับคนขับ ที่มาในชุดที่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น
“ไปไหนกันดีล่ะ อลิสอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” ชายหนุ่มถาม
“อยากกินอาหารทะเลค่ะ” หญิงสาวตอบทันทีเหมือนคิดไว้แล้ว
“ได้สิ มีร้านอาหารทะเลอร่อยอยู่ร้านนึง แต่อยู่ฝั่งธนเลยนะ พี่ชอบไปกิน”
“พี่ตะวันไม่ได้แพ้อาหารทะเลเหรอคะ”
ไข่มุกเคยเล่าให้อลิสฟังว่า ตะวันแพ้อาหารทะเลมากๆ เขาเลยชอบพาไข่มุกไปกินแต่อาหารไทย
“ไปเอามาจากไหน ยิ่งปูของโปรดพี่เลย แล้วอลิสล่ะชอบกินอาหารทะเลไหม”
หญิงสาวนั่งแปลใจกับคำตอบของชายหนุ่มและกำลังคิดทบทวนในสิ่งที่ขามุกเคยเล่าให้ฟัง ทำไมมันไม่ตรงกัน หรือตะวันจะหลอกไข่มุก
“ไม่ได้ยินพี่ถามเหรอ ชอบกินอาหารทะเลไหม”
ตะวันเห็นอีกฝ่ายนั่งเงียบเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาถาม ชายหนุ่มจึงถามย้ำอีกรอบ
“เอ่อ....ชอบค่ะ”
มือหนาเอื้อมาจับมือเล็กของอลิสที่วางอยู่บนกระโปรงนักศึกษา
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
“คือ...อลิสไม่สบายใจค่ะ ตอนนี้คนทั่วไปเข้าใจว่าพี่ตะวัน เป็นแฟนกับพี่โยเกิร์ต แล้วถ้ามีใครมารู้ว่าเราไปไหน มาไหนด้วยกันแบบนี้ คนก็จะว่าได้ ว่าตะวันเป็นมือที่สาม”
อลิสตีบทเศร้า เพราะงานนี้เธอมีเป้าหมายสำคัญที่จะทำลายตะวัน
“พี่ไม่เคยพูดอะไรเลยนะ มีแต่โยเกิร์ตพูดเองเออเอง แล้วจะให้พี่ทำยังไง”
ตะวันคิดหาทางออกไม่เจอ เพราะเรื่องนี้เขาไม่ได้เป็นคนเริ่ม
“พี่ตะวันก็ให้สัมภาษณ์ไปสิคะ ว่าตอนนี้ลดระดับเหลือแค่เป็นพี่น้องกัน ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เรียกว่าแฟน เป็นแค่น้องคนสนิทเท่านั้น”
อลิสกอดแขน เอาหน้าแนบซบกับแขนของชายหนุ่มอย่างอ้อนเอาใจ
“พี่ขอปรึกษาผู้จัดการพี่ก่อน” ตะวันลังเล
“พี่ตะวันโตแล้วนะคะ ทำไมตัดสินใจเองไม่ได้ หรือจริงๆพี่ไม่ได้คิดจะจริงจังกับอลิส แท้จริงพี่ก็รักพี่โยเกิร์ต อลิสเข้าใจแล้ว อลิสใจง่ายเองที่เชื่อพี่”
หญิงสาวดึงมือกลับคืน หันหน้าไปนอกหน้าต่างเอามือกอดอก ไม่พูดไม่จาสักคำ
“อลิสมีเหตุผลหน่อย” ตะวันทำเสียงจริงจัง
“ค่ะ อลิสไม่มีเหตุผล อลิสไม่ดี พาอลิสกับเถอะค่ะ”
นางเอกสาวตีบทแตกกระจุย น้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้ม จนคนขับทนไม่ไหวต้องหยุดรถทันทีเมื่อหันมาเห็น
“พี่ยอมแล้ว ไม่ร้องนะ พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจว่าอลิสแบบนั้น”
พระเอกของเราแพ้มารยาหญิงเข้าแล้ว ถึงแม้เขาจะกลัวผิดใจกับผู้จัดการ แต่อีกใจกลัวเสียอลิสไปมากกว่า
หลังจากกลับจากการกินอาหารทะเล ที่ต้องเดินทางเป็นชั่วโมง ตะวันก็ยอมไปส่งอลิสที่คอนโดของเธอตามที่เธอต้องการ ถึงแม้ว่าใจของเขา อยากจะพาเธอไปอยู่ด้วยทั้งคืน
“เมื่อไหร่ ที่พี่ตะวันชัดเจนในความสัมพันธ์กับพี่โยเกิร์ต เราค่อยมาเดินหน้าความสัมพันธ์ของเรานะคะ”
อลิสพูดทิ้งท้ายก่อนจะลงจากรถ เพื่อหวังให้คำพูดของเธอบีบบังคับหัวใจของชายหนุ่มให้ทำตาม
พระเอกคนดังขับรถกลับคอนโดด้วยจิตใจที่สับสน ใจหนึ่งก็กลัวผิดใจกับผู้จัดการ ใจหนึ่งก็แคร์ความรู้สึกของนางเอก
ตะวันตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกรักอลิสได้ถึงขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะแรกเริ่มที่รู้จักกันใหม่ หญิงสาวสดใส ร่าเริง เป็นคนมีน้ำใจ ภาพที่อลิสช่วยเหมาพวงมาลัยจากเด็กที่ยืนขายอยู่กลางสี่แยก ยังอยู่ในความทรงจำของชายหนุ่มอยู่มิรู้ลืม
เช้านี้ตะวันมีไปถ่ายทำรายการ รายการหนึ่ง ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะทำตามที่อลิสบอก ถ้าสื่อมวลชนถามเรื่องของโยเกิร์ตขึ้นมา
“ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณตะวันกับคุณโยเกิร์ตใกล้มีข่าวดีกันหรือยังคะ”
นักข่าวสาวจากช่องดังถาม ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนรอลุ้นคำตอบอยู่
“ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน คือตอนนี้ผมกับโยเกิร์ตเป็นแค่พี่น้องกัน ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าสนิทกับน้องมาก เพราะทำงานร่วมกันบ่อย แต่เราทั้งคู่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ตามข่าวครับ”
พระเอกดังตอบคำถามสื่อมวลชนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพื่อแสดงว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่ได้มีอะไรจริงๆ
“แต่คุณโยเกิร์ตบอกว่าใกล้จะมีข่าวดีนะคะ” นักข่าวอีกช่องถามต่อ
“น้องเขาอาจจะหมายถึงข่าวดี เรื่องงานก็ได้ครับ ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากที่มาสัมภาษณ์ผมในวันนี้”
ตะวันรีบเดินขึ้นรถเพื่อไปเตรียมถ่ายละครต่อ โดยที่ไม่กล้าหันมาสบตาผู้จัดการส่วนตัว ที่กำลังหน้าตาบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจ
ตอนที่ 12ซาตานแพ้รัก ข่าวเสี่ยโดนยิงดังไปทั่วจังหวัดตอนนี้หมอแจ้งว่าไม่มีกระสุนฝังในและไม่โดนยิงในส่วนที่อันตรายจึงได้ทำการรักษาและพาขึ้นไปอยู่ที่ห้องพิเศษเพื่อพักฟื้น ผู้คนจากหลายตำบลต่างพากันมาเยี่ยม จนต้องทำสมุดให้เซ็นเพราะหมอไม่อยากให้เยี่ยมมากกลัวจะทำให้แผลติดเชื้อและคนไข้ไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้คนที่เฝ้ากลางวันจะเป็นเสกส่วนกลางคืนจะเป็นโชคกับเดือนอ้าย “อ้ายขอน้ำหน่อย คอแห้ง” พยาบาลส่วนตัวรีบลุกไปหยิบแก้วน้ำดื่มให้กับคนเจ็บทันทีเพราะกกลัวชายหนุ่มจะพยายามขยับตัวแล้วจะมีผลต่อแผล “มากอดหน่อยสิ ปิดกันได้อย่างไรเรื่องท้อง พี่เป็นพ่อนะ” เสี่ยหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์หลอกให้เดือนอ้ายไปใกล้ ๆ เพื่อจะคว้าตัวเธอมากอด “ก็อ้ายเห็นเสี่ยไม่มาหาเลยก็คิดว่าคงลืมกันไปแล้ว ลูกคนเดียวอ้ายเลี้ยงได้ถ้าพ่อของลูกไม่ได้ตั้งใจให้มีเขาขึ้นมา” บู๊เอียงตัวหญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขาและรักสุดท้ายให้หันหน้ามามองสบตาและฟังในสิ่งที่เขาจะพูด “ฟังนะอ้าย ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร จะมองว่าเสี่ยบู๊คนนี้เป็นแบบไหน แต่พี่ยืนยันว่าพี่ยังเป็นพี่
ตอนที่ 11คิดถึง หนึ่งเดือนผ่านไป บ้านซ่อมแซมเสร็จนานแล้วแต่เดือนอ้ายก็ยังคงไม่ย้ายออกมาจากไร่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมและในเกือบทุกคืนเธอกับอดีตเจ้านี้ก็มีความสัมพันธ์กันทั้งที่มันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแล้ว วันนี้หญิงสาวตัดสินใจเก็บของกลับบ้าน เธอมาแค่เพียงกระเป๋าใบเดียว เธอก็กลับไปเพียงแค่นั้น เธอบอกเรื่องนี้ให้เสี่ยรู้ตั้งแต่เมื่อคืน เธอคิดว่าเขาคงจะไปส่งเธอกลับบ้านแต่เขากลับให้โชคไปส่งเธอและเอาจักรยานของเธอขึ้นท้ายรถไป “เริ่มต้นใหม่นะอ้าย ว่าง ๆ ก็มาเที่ยวที่ไร่ได้นะ ทุกคนยินดีต้อนรับ” โชคบอกร่ำลาเพื่อนหลังจากที่ช่วยถือกระเป๋าไปไว้บนบ้านและเอาจักรยานของเธอลงไว้ที่ใต้ถุน “โชคดีนะโชค ขอบคุณที่ดูแลอ้ายมาตลอด” สองคนเพื่อนรักโบกมือลากันทั้งที่ความจริงไร่ห่มรักกับบ้านของเธออยู่ห่างไม่ได้มากอะไร บ้านหลังเดิมที่ไม่เหมือนเดิม หลังคาเปลี่ยนใหม่ผนังบ้านเปลี่ยนใหม่ จากที่เป็นบ้านโ ล่ง ๆ ตอนนี้ก็มีห้องนอนสองห้อง หน้าต่างติดเหล็กดัด มีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ ตู้เย็นและมีห้องครัวอยู่ที่ระเบียงหลังบ้านที่ตอนนี้ไม่โล่งเหมือนเดิน
ตอนที่ 10คืนอิสระ โชคยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเขาคิดไว้ไม่มีผิดไม่ถึงชั่วโมงเจ้านายของเขาก็ขับรถมาถึงทั้งที่ความจริงจากตัวจังหวัดมาที่ไร่เกือบชั่วโมงแต่คนปากแข็งใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบนาที “ไหนว่าจะไม่กลับอย่างไรล่ะครับเจ้านาย” โชคยิ้มแซวทั้งที่รู้ว่าเวลนี้เจ้านายของเขาคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นด้วยก็ตาม “ลืมของโว๊ย!” บู๊ตะโกนตอบลูกน้องแบบไม่ใส่ใจเพราะรีบเดินเข้าไปยังห้องนอน “นายเขาลืมหัวใจไว้ เอ็งก็ทำเป็นไม่รู้นะไอ้โชค” เสกและลูกน้องอีกสองคนลงจากรถพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าที่ตั้งใจว่าคืนนี้จะไปนอนโรงแรมกัน เจ้าหนี้จอมปากแข็งเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เขานั่งข้าง ๆ เดือนอ้ายอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอหลับสนิท เขาจึงเอาฝ่ามือแตะที่หน้าผากของเธอ “กินยาไปแล้วยังตัวร้อนอยู่เลย” บู๊ไม่คิดว่าเดือนอ้ายจะไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนหนักแบบนี้ ดีนะที่เขาตัดสินใจกลับมา ผ้าชุบน้ำแตะลงที่ตัวของคนป่วยเธอจึงค่อย ๆ ลืมตา พอเห็นว่าเป็นใครที่กำลังเช็ดตัวให้เธออยู่เธอก็หลับตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนแรง ทั้ง
ตอนที่ 9ฝังใจ สองสัปดาห์เต็มที่เดือนอ้ายมาอยู่ที่ไร่ห่มรัก เธอเพิ่งหาเงินใช้หนี้แค่เพียงสามหมื่นจากสองครั้งที่เขานอนกับเธอ หญิงสาวจึงตั้งใจจะพยายามวันนี้อีกครั้งและเป็นการพยายามที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่เธอพยายามแบบธรรมดามาหลายคืนแล้ว คืนนี้ชายหนุ่มก็กลับบ้านดึกเหมือนเช่นทุกวันและเดือนอ้ายก็ยังคงรอเขากินข้าวเหมือนเดิม เธอพยายามพูดจาเอาใจชายหนุ่มในแบบที่ไม่ใช่เธอ ทั้งที่ตัวเธอเองก็สัมผัสได้ว่าคนฟังก็รู้ว่าเธอกำลังพยายามเอาใจเขาไม่ได้เกิดจากความรู้สึกที่แท้จริง ไฟทุกดวงปิดลงแสงที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในห้องทำให้บู๊ที่ยังคงไม่หลับมองเห็นหญิงสาวตรงหน้าในสภาพเปลือยเปล่า “เธอทำอะไรของเธอ” ชายหนุ่มตะคอกด้วยความไม่พอใจ “ก็ทำให้เสี่ยนอนกับอ้ายไงล่ะ ทำไมคะในเมื่อเสี่ยอยากได้อ้ายมาบำเรอใช้หนี้แต่ตอนนี้เสี่ยกลับนอนเฉย ๆ ทุกคืน เสี่ยไม่พอใจอ้ายเหรอหรือว่าอ้ายมันไม่สวยไม่เก่งเหมือนผู้หญิงคนอื่น” หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงเธอพยายามจะเอาตัวเองคร่อมล่างชายหนุ่มที่กำลังตกใจแต่ไม่สำเร็จเพราะสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว บู๊ผลักร่างบางที่พยายามจะขึ้น
ตอนที่ 8ยืดเวลา อาหารมื้อเย็นวันนี้แม่ครัวคนใหม่ทำเมนูง่าย ๆ เพราะเธอยังไม่คุ้นชินกลับครัวที่นี่จากเคยใช้เตาถ่านก็เปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สแทน “มื้อนี้ขอแบบเบา ๆ ก่อนนะคะ ยังไม่ชินกับครัวใหม่เลยกว่าจะใช้เตาแก๊สเป็นก็กลัวแทบแย่ ทำอีกสักครั้งสองครั้งก็คงดีขึ้น เสี่ยทน ๆ กินไปก่อนแล้วกัน” คนนั่งรอกินไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะสำหรับชายหนุ่มที่ชีวิตโหยหาคำว่าครอบครัวมานานแสนนานแค่ได้มีโอกาสได้กินข้าวที่บ้าน ณ ไร่ห่มรักโดยมีผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าตอนนี้เป็นเมียเขา ทำกับข้าวให้กินก็สุขใจเกินพอแล้ว “พรุ่งนี้ให้โชคพาไปดูในไร่หน่อยได้ไหมคะ ไม่อยากไปคนเดียวไม่รู้จักใคร” ตอนแรกอ้ายคิดว่าเธออยู่ที่นี่แค่ไม่นานคงไม่ทันเบื่อแค่คอยทำกับข้าวในแต่ละวันก็คงหมดวันแล้ว แต่พอมาคิดมาคิดไปเธอเริ่มอยากรู้ว่าในไร่ห่มรักมีอะไรบ้าง ทำไมจึงทำให้บู๊จากเด็กชายธรรมดามีฐานะดีขึ้นมาเร็วแบบนี้ “ได้สิ นัดกับโชคเอาแล้วกัน เพราะตอนนี้พี่ให้โชคอยู่เป็นเพื่อนเราทุกวัน มันก็คงไม่อยู่หน้าประตูไร่ก็เดินไปเดินมาแถวนี้แหละ” พรุ่งนี้งานนอกเข้ามาเสี่ยจำเป็นต้องไปจัดการสะสาง
ตอนที่ 7ความดีที่ไม่มีใครเห็น เดือนอ้ายเดินมาเพื่อขึ้นรถไปซื้อของตามคำสั่งของเจ้าหนี้เธอ ทั้งที่เธอก็คิดมาทั้งวันว่าเธอคงอยู่ที่นี่เต็มที่ก็แค่เดือนเดียวทำไมอีกฝ่ายต้องลงทุนให้ไปซื้อของเข้าครัวทำเหมือนเธอจะมาอยู่ที่นี่ เป็นปีหรือหลายปี “ทำไมยังไม่ไปคะ” หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถได้เกือบห้านาทีแล้ว เธอยังไม่เห็นว่าคนขับทำท่าจะขับออกไปเลยจึงถามด้วยความแปลกใจ “รอคนงาน เขาจะพาแม่ไปหาหมอจะขับไปพร้อมกัน ๆ ” “แม่เขาเป็นอะไรหรือคะ” คนถามได้ยินแบบนี้ยิ่งคิดถึงแม่ขึ้นมาเพราะเวลาที่เธอจะพาแม่ไปหาหมอแต่ละครั้งแสนลำบากยังดีที่รถรับจ้างคิดเงินเธอไม่แพงเพราะสงสาร “ปวดขาเฉย ๆ คนที่ไปหาหมอชื่อป้าพร มีลูกสองคนเป็น ฝาแฝดกันชื่อพีกับเพื่อน ป้าพรก็รู้จักอ้ายนะแต่อ้ายคงจำแกไม่ได้แล้วเพราะตั้งแต่แกมาทำงานในไร่ก็ไม่ค่อยออกไปไหนเลย” บู๊พูดจบรถคันใหญ่สีดำก็ขับผ่านหน้าเขาไปไม่ถึงสองนาที เขาก็ขับตามออกไป “ถ้าอยู่แต่บ้านแล้วมันเหงาไปช่วยงานในไร่ก็ได้นะ ลองปั่นจักรยานดูก็ได้ว่าอยากทำอะไร เพราะก็เลือกให้ไม่ถูกเหมือนกัน”