แชร์

บทที่ 8 สายตาปกปิดไม่มิด

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-24 09:27:36

บทที่ 8 สายตาปกปิดไม่มิด

"ฮูหยินพวกข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะโปรดเมตตาพวกข้าด้วย "

สวี่หยางเงยหน้าขึ้นปรายสายตาไปมองสาวใช้พลางแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย หากพวกนางคิดว่านางเป็นเช่นนั้นก็ดีเช่นกันจะได้ไม่มีใครกล้าจะที่ัขัดคำสั่ง

"เช่นนั้นเจ้าเตรียมน้ำชาพร้อมขนมหวานตามข้ามาที่ห้องโถง" สวี่หยางชี้นิ้วไปยังคนที่เอ่ยเรื่องนางเมื่อครู่ สาวใช้ทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรงนางหวาดกลัวสวี่หยางเหลือเกินแต่ก็มิกล้าขัดคำสั่ง

"เจ้าค่ะ ฮูหยิน" สาวใช้เอ่ยน้ำเสียงสั่นคลอนก่อนจะรีบลุกเตรียมน้ำชาหากชักช้าเกรงว่าจะถูกลงโทษได้ สาวใช้ที่อยู่ในโรงครัวพากันก้มหน้ามิกล้าจะสบตาผู้เป็นนายจนสวี่หยางรำคาญหูลำคาญตาตวาดไล่พวกนางไปทำหน้าที่ของตน

"พวกเจ้าไม่มีอะไรทำกันหรืออย่างไร? ไปทำงานของพวกเจ้าสะสิหากข้าพบว่าในเรือนไม่สะอาดตรงใดข้าจะจับพวกเจ้ามาเฆี่ยนให้หลังลาย"

"เจ้าค่ะ ฮูหยินพวกข้าจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"

สาวใช้พากันแยกย้ายไปทำงานของตนเองอย่างเร่งรีบ สวี่หยางหันไปมองสาวใช้ที่นางให้ไปจัดเตรียมน้ำชา เมื่่อเห็นนางจัดเสร็จแล้วจึงเดินนำหน้ามายังห้องโถง

วันนี้เหล่าแมลงพากันบินว่อนเต็มท้องฟ้าช่างเป็นวันที่อากาศดียิ่งนัก เมื่อแต่นางเดินเข้ามาใกล้ห้องโถงได้ยินเสียงบุรุษกับสตรีที่เอ่ยคุยกันหัวเราะคิกคักใบหน้าของนางเริ่มปรากฏความสงสัยอยู่เหลือคณา

เจี่ยฟางอยู่กับผู้ใดกันเสิ่นเกาหลานออกเรือนตั้งแต่เช้าปกติจะกลับค่ำ หรือจะเป็นคุณชายเสิ่นจิ้นหากเป็นเช่นนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดี สวี่หยางยิ้มบาง ๆ รีบเดินเข้าไปในห้องโถงทันที ครั้นเท้าก้าวเข้ามากลับพบว่าผู้ที่อยู่กับเจี่ยฟางมิใช่เสิ่นจิ้นแต่ทว่าเป็นเสิ่นเกาหลาน สายตาที่ทั้งคู่มองกันหวานหยาดเยิ้มหากนางไม่รู้จักทั้งสองคงคิดว่าทั้งคู่เป็นคนรักกันก็มิปาน

ความคิดแล่นผ่านชั่วครู่ภายในใจของสวี่หยางปรากฏมาอย่างแจ่มแจ้ง หรือว่าเจี่ยฟางคือคนที่เสิ่นเกาหลานหมายใจหัวใจของสวี่หยางสั่นไหวราวกับมีหินหนักพันชั่งทับถม นางข่มใจหายใจเข้าเฮือกใหญ่อาจจะไม่ใช่อย่างที่ตนคิดก็เป็นได้

"พี่หยางกลับมาแล้วเจ้าค่ะ" เจี่ยฟางเห็นสวี่หยางเดินเข้ามารีบลุกขึ้นไปหานาง เสิ่นเกาหลานมองตามรอยยิ้มพลันเปลี่ยนเป็นเฉยชา

สวี่หยางลอบมองหนึ่งคราก่อนจะหันมาสนใจเจี่ยฟางบัดนี้นางได้รู้แล้วว่าหัวใจของเสิ่นเกาหลานคงมีแต่เจี่ยฟางอยู่ด้านในนั้น!

"ข้าคงมิได้ให้เจ้าคอยนานหรอกใช่หรือไม่?"

"ไม่เลยเจ้าค่ะ ท่านพี่เสิ่นเกาหลานกลับมาพอดีข้าจึงมีเพื่อนคุยระหว่างรอเจ้าค่ะ "

"เช่นนั้นหรอกหรือ? ท่านกลับมาเร็วกว่าที่คิดนะเจ้าคะ" สวี่หยางหันไปมองเสิ่นเกาหลานพลางเอ่ยถามก่อนจะมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ ที่เจี่ยฟางนั่งเมื่อครู่

"ข้าเสร็จธุระเร็วจึงกลับมาก่อนเพราะมีเรื่องจะพูดคุยกับเจ้า แต่เมื่อน้องเจ้ามาเยือนเจ้าคุยกับน้องเจ้าไปเถิด"

"เจ้าค่ะ "

"ข้าขอตัวนะเจี่ยฟาง หากวันหน้าเจ้าอยากมาที่นี่เมื่อใดหรือคิดถึงพี่เจ้ามาได้เสมอไม่ต้องเกรงใจคิดเสียว่าที่นี่เป็นเรือนของเจ้าก็ยังได้"

"จริงหรือเจ้าคะ ท่านพี่เสิ่นเกาหลานช่างเป็นพี่เขยที่จิตใจเมตตายิ่งนัก ช่างเป็นบุญของพี่สวี่หยางที่มีสามีดีเช่นนี้ "

"กล่าวเกินไปแล้ว ข้าต้องขอตัวจริง ๆ แล้วเจ้าอยู่คุยกับพี่สาวเจ้าให้หายคิดถึงเถิด "

"เจ้าค่ะ " ความสนิทสนมความรู้สึกดีส่งผ่านแววตาของทั้งคู่ ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ระหว่างกลางรับรู้ได้ ความอึดอัดใจนี่คืออะไรกัน?

หลังจากที่เสิ่นเกาหลานออกไปสวี่หยางดื่มน้ำชาพร้อมขนมกับเจี่ยฟางจนตะวันบ่ายคล้อยนางจึงเดินทางกลับ สวี่หยางนั่งใจลอยครุ่นคิดแววตาของทั้งสองจ้องมองกันนั้นยังคงวนเวียนก่อกวนหัวใจนางยิ่งนัก

"อะ..เอ่อฮูหยินเจ้าคะข้ากลับไปทำงานของข้าได้หรือยังเจ้าคะ? " เสียงของสาวใช้ที่เอ่ยดังขึ้นมาทำให้สวี่หยางหยุดความคิดสนใจคนตรงหน้า นางจ้องมองสาวใช้ที่นางให้ตามมาดูแล้วนางยังดูเด็กกว่าตน

"ทำไมเจ้ากลัวข้าจะสั่งโทษจนไม่กล้าอยู่ใกล้ข้าเช่นนั้นหรือ? ขยับกายเข้ามาใกล้ข้าแล้วเงยหน้าให้ข้ามองเจ้าอย่างชัด ๆ "

สาวใช้สั่นกลัวใช้มือกุมกันทั้งสองข้างขยับกายเข้ามาใกล้เงยหน้าให้สวี่หยางตามคำสั่ง

"เจ้ามีชื่อว่าอะไร "

"ข้ามีชื่อว่าหลีลี่จื่อเจ้าค่ะ "

"หลีลี่จื่อหรือ? อื้ม..เป็นชื่อที่ดี กลับไปทำงานของเจ้าเถิด" สวี่หยางแม้อยากได้นางมาคอยรับใช้แต่นางคงมิกล้ามารับใช้นางเป็นแน่ และตอนนี้นางเองก็ยังคงไว้ใจผู้ใดมิได้ การตายของจี๋เสียงยังคงเป็นปริศนาเพราะยังจับตัวผู้ที่วางยาไม่ได้ วันนี้นางได้เอ่ยถามเจี่ยฟางเกี่ยวกับการตามหาตัวคนทำก็มิอาจจะจับมือผู้ใดดมได้ หนทางไร้แสงสว่างหากไม่รู้ตัวคนร้ายชีวิตของสวี่หยางคงอยู่อย่างไม่สงบสุข

“เช่นนั้นข้าขอตัวนะเจ้าคะแล้วยามเย็นฮูหยินอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าคะ” ก่อนจะจากหลีลี่จื่อได้เอ่ยถามถึงแม้ว่าจะกลัวสวี่หยางจนแทบไม่กล้าจะเอ่ยถามแต่ระหว่างที่สวี่หยางนั่งคุยกับเจี่ยฟางน้องสาวของนาง นางทั้งแสดงรอยยิ้มความเมตตาเอ็นดูไม่สมกับข่าวลือที่ได้ยินมาเลยแม้แต่น้อย

“ข้าไม่อยากได้อะไรเป็นพิเศษ เจ้าไปทำงานของเจ้าเถิด”

แสงดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้าแสงดวงจันทราเข้ามาแทนที่สายลมพัดเอื่อย ๆ เย็นสบายบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยมวลหมู่ดาวที่รายล้อมพระจันทร์ชวนน่ามอง สวี่หยางยังเคลือบแคลงใจในสายตาของเสิ่นเกาหลานที่จ้องมองเจี่ยฟางจนทำให้นางนอนไม่หลับ อีกอย่างเขาบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับนางแต่ทว่ากลับไม่มาหาตั้งแต่เจี่ยฟางกลับ

"จะเป็นเช่นดั่งที่ข้าคิดหรือไม่นะ! หรือว่าข้าคิดมากไปเองนี่ก็ยามสอง (22.00) แล้วข้าควรเลิกคิดเรื่องที่กวนใจเสียทีพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปหาท่านแม่ของเสิ่นเกาหลานต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อทำอาหารไปเยี่ยมเยือน" สวี่หยางเอ่ยออกมาอย่างพึมพำหันหลังก้าวเท้ากลับเข้าห้อง ขณะนั้นเองเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาใกล้ ๆ ได้ก้าวเข้ามาหานาง สวี่หยางหยุดเดินยามนี้จะมีผู้ใดเดินไปมาในเรือนนี้อีก แต่เมื่อปรากฏกลับเป็นเสิ่นเกาหลานที่เดินเซซ้ายเซขวามาหานาง

"เจ้ายังไม่นอนสินะ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้าอย่างไรวันนี้ต้องพูดให้ได้" ใบหน้าคมเข้มแดงระเรื่อเพราะพิษสุราเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้พูดแทบไม่เป็นศัพท์แต่ดังชัดเจน

"ท่านมีเรื่องอะไรจะคุยหรือเจ้าคะ ยามนี้ท่านดูเหมือนไร้สติครบถ้วนเอาไว้รุ่งสางค่อยคุยกัน" สวี่หยางเห็นท่าทีที่เมามายของเสิ่นเกาหลานนางไม่อยากจะคุยกับเขายามนี้แม้จะพูดคุยคงไม่ได้ความ

"ไม่ได้! ข้าจะคุยกับเจ้าเดี๋ยวนี้! เจ้ามันช่างไม่รู้อะไรเลย ไร้ความรู้สึกไร้หัวใจ หากมิใช่เจ้าแต่เป็นเจี่ยฟางคงดีไม่น้อย ข้าจะบอกให้เจ้าได้รู้เอาไว้และอย่าแนะนำเจี่ยฟางให้แก่เสิ่นจิ้นอีก เจี่ยฟางคือสตรีที่ข้าหลงรักตั้งแต่แรกเห็น ครั้งแรกที่ข้าไปที่เรือนสกุลสวี่ข้าเห็นใบหน้างามหยดย้อยนิสัยมารยาทน่าชื่นชม ข้าหลงคิดว่านางคือสวี่หยางข้าจึงตกปากรับคำท่านพ่อ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเจ้า เฮอะ! สวรรค์กลั่นแกล้งข้าส่งสตรีโหดร้ายเช่นเจ้ามาแทนที่นาง" ดวงตาเย็นชาไร้ไมตรีความหงุดหงิดวาบผ่านบนใบหน้า ไม่มีความสำนึกผิดปะปนแม้แต่น้อย สวี่หยางกำมือแน่นหัวใจหนักอึ้งราวถูกถ่วงด้วยหินก้อนใหญ่ แพขนตาหลุมลงบัดนี้นางกระจ่างแจ่มแจ้งแล้วเป็นอย่างที่นางคาดคิดไว้ไม่ผิด!

"ท่านจะโทษข้าได้เช่นไรข้าไม่ผิดและสวรรค์เองก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหากท่านต้องการเช่นนั้นท่านก็ขอให้เจี่ยฟางมาเป็นอนุของท่านเสียสิ" สวี่หยางเอ่ยไม่ทันใคร่ครวญให้ละเอียดเพราะความโมโหจึงโพล่งเอ่ยออกไปเช่นนั้น แต่ผู้ใดจะคิดว่าใบหน้าของเสิ่นเกาหลานจะพลันเปลี่ยนสีเผยรอยยิ้มอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 59 ข้าจะลิขิตเอง(ตอนจบ)

    บทที่ 59 ข้าจะลิขิตเองน้ำเสียงจริงจังแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของเสิ่นจิ้นทำให้สวี่หยางส่ายหัวไปมาลอบยิ้มหนึ่งคราก่อนจะตอบเขาไป“เรื่องนั้นอยู่ที่ฟ้าจะลิขิตแล้วเจ้าค่ะว่าท่านจะหาข้าพบหรือไม่? หากท่านหาข้าพบจริง ๆ ครานั้นข้าจะตอบคำถามนี้นะเจ้าคะ ตอนนี้ข้าต้องเดินทางก่อนต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะถึงที่ที่ข้าจะไป ข้าหวังว่าท่านจะพบสตรีที่งดงามและท่านรักนางหมดใจจนล้มเลิกความคิดที่จะตามหาข้า ลาก่อนเจ้าค่ะ” สวี่หยางเอ่ยจบเดินจากเสิ่นจิ้นขึ้นรถม้าที่อยู่หน้าเรือนตามด้วยหลีลี่จื่อ นางเห็นเสิ่นจิ้นได้โค้งคำนับลงหนึ่งครั้งก่อนจะขึ้นรถม้าตามสวี่หยางออกเดินทางเสิ่นจิ้นยืนมองรถม้าเคลื่อนออกไปลมได้พัดผ่านความเย็นมาระลอกหนึ่งประหนึ่งคำกล่าวลาของสวี่หยาง เขาหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ก่อนจะพึมพำเอ่ยตามหลังนาง“ผู้ใดว่าข้าจะให้สวรรค์ลิขิตกัน ข้าเสิ่นจิ้นขอลิขิตเองและสตรีที่ข้าหมายใจมีเพียงเจ้าผู้เดียวสวี่หยางไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใดไกลพันลี้ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอ เมื่อนั้นข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าจากข้าไปได้อีกต่อไปเตรียมรับมือจากข้าได้เลย” แววตาของเสิ่นจิ้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม้จะใช้เวลานานก็ถือว่าเขาได้พ

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 58 จากลา

    บทที่ 58 จากลาเสิ่นเกาหลานเดินจากไปให้เสิ่นจิ้นที่ยืนอยู่ด้านนอกเข้ามาหาสวี่หยางเพราะเห็นท่าทางของเสิ่นจิ้นแล้วเขาน่าจะอยากคุยกับนางมากกว่าเขาเสียอีกสวี่หยางหันไปมองหลุมป้ายชื่ออีกครั้งนางไม่คิดจะอยู่ที่นี่เพราะไม่อยากพบเจอเสิ่นเกาหลานอีกแค่เห็นเขานางก็หวนคิดถึงเจี่ยฟางไม่จางหาย หากนางสะสางทุกอย่างเสร็จสิ้นจะเดินทางไปหาท่านป้าที่ทิศเหนือไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขปลูกผักเลี้ยงสัตว์เย็บผ้าอย่างเรียบง่าย หนีเรื่องวุ่นวายจะดีกว่า แม้ว่าไม่ทำงานอะไรสมบัติของท่านพ่อที่มีนางคงใช้ไม่หมดแน่ ๆ“ท่านตัดสินใจหย่ากับท่านพี่จริง ๆ หรือ”“จริงเจ้าค่ะ จริงสิข้ายังไม่ได้ขอบคุณท่านเลย ท่านคอยเคียงข้างมาตลอดหากไม่มีท่านข้าก็ไม่รู้จะทำเช่นไรเหมือนกันเจ้าค่ะ ขอบคุณด้วยความจริงใจนะเจ้าคะ” สวี่หยางหันมาก้มโค้งลงอย่างนอบน้อมทราบซึ้งน้ำใจของเสิ่นจิ้น เขารีบประคองนางขึ้นมาไม่ให้นางต้องขอบคุณเขาเพราะที่เขาทำไปเพราะเขาอยากทำด้วยใจจริงเช่นกัน“ไม่เห็นต่องทำเช่นนี้เลยขอรับ ไม่ได้มากมายอันใดที่ข้าช่วยเหลือท่านเพียงเท่านี้เล็กน้อย”“คุณชายเป็นคนดี วันนี้ข้าจะขออวยพรในฐานะพี่สะใภ้ของท่าน ขอให้ท่านพบเจอความรักที่สวยงามแล

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 57 ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง

    บทที่ 57 ทำทุกอย่างให้ถูกต้องหลังจากที่ปลอบใจของสวี่หยางอยู่ไม่นานบ่าวรับใช้กลับมาพร้อมผู้ตรวจการ ช่วยพากันนำรางของใต้เท้าสวี่ลงมาจากขื่อตรวจสอบดูในห้องไร้ร่องรอยการต่อสู้แน่ชัดแล้วว่าเขาตั้งใจปลิดชีพตนเองเพราะมีจดหมายที่เขียนด้วยฝีมือของเขาอยู่บนเตียงนอนสวี่หยางสงบสติอารมณ์แม้จะเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจแต่ยามนี้นางต้องตั้งสติเพื่ออ่านเนื้อความในจดหมาย“สวี่หยางข้ารู้ว่าอีกไม่นานเจ้าคงมาหาข้าที่เรือน ครั้งก่อนข้าเห็นเจ้าเช่นกันเจ้าแอบมาหาข้า ครั้นเมื่อข้ารู้ว่าเจ้ากลับไปที่เรือนเสิ่นเกาหลานข้าอยากไปพบหน้าเจ้าเหลือเกิน แต่ข้ากลับละอายใจข้าเป็นบิดาที่ไม่เอาไหน ไม่สามารถปกป้องเจ้าเพียงเพราะคิดว่าเจ้าเก่งสามารถปกป้องตนเองได้ ข้าจึงเอาแต่สนใจเจี่ยฟาง และข้ามีสิ่งหนึ่งจะบอกแก่เจ้าข้าปกปิดทุกคนมาตลอด เจี่ยฟางมิใช่น้องสาวที่คลานตามกันออกมาแต่เป็นเพราะความโง่เขลาของข้าที่ทำให้ข้าพลาดพลั้งไปมีอะไรกับสาวใช้ จึงทำให้นางท้อง ข้าปิดบังไม่ให้มารดาของเจ้ารู้จึงปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ วันที่แม่ของเจ้าคลอดคือวันที่สาวใช้ผู้นั้นคลอดเช่นกัน และโชคร้ายที่น้องชายของเจ้าเ

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 56 ข้าเพียงฝันไปใช่มั้ย

    บทที่ 56 ข้าเพียงฝันไปใช่มั้ยหลังพายุที่โหมกระหน่ำได้หยุดลงเวลานี้ก็สองยามแล้ว หลังจากที่เสิ่นจิ้นพาสวี่หยางกลับมารีบให้บ่าวรับใช้ไปตามตัวท่านหมอมาตรวจดูอาหารหลีลี่จื่อเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดใหม่ให้และเล่าเรื่องก่อนหน้าให้แก่เสิ่นจิ้นฟัง ส่วนซื่อจินหนีไม่รอดนางถูกทหารจับแต่ทว่าเมื่อจับตัวนางไปคุมขังนางกลับเลือกใช้ยาพิษกรอกปากของตนเพื่อจบชีวิตดีกว่าถูกทางการทรมานรุ่งเช้ามาเยือนแม้ว่าเจี่ยฟางจะหมดลมหายใจแต่ทว่าความผิดของนางครั้งนี้ใหญ่หลวงยิ่งนักทำให้ทางการถอดถอนยศของใต้เท้าสวี่ให้เป็นเพียงคนสามัญชนธรรมดาเท่านั้น สวี่หยางลืมตาขึ้นกวาดสายตามองไปรอบ ๆ นี่มันห้องของนางนี่น่าแล้วนางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายอยู่กับเจี่ยฟางที่หน้าผา จู่ ๆ สวี่หยางพรวดลุกขึ้นทันที“เจี่ยฟาง ข้าจะไปช่วยเจี่ยฟาง” หลีลี่จื่อที่อยู่เฝ้าอาการสวี่หยางทั้งคืนตื่นขึ้นจากเสียงร้องของสวี่หยาง“ฮูหยินฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ โชคดีเหลือเกินที่ท่านไม่เป็นอันใดมาก”“หลีลี่จื่อ เจี่ยฟางล่ะนางปลอดภัยดีหรือไม่?”“ฮูหยินเจ้าคะ นางทำร้ายสารพัดแต่ฮูหยินยังเป็นหวงนางอยู่หรือเจ้าคะ ยามนี้ร่างของนางถูกคุณชายเ

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 55 ยิ้มทั้งน้ำตา

    บทที่ 55 ยิ้มทั้งน้ำตาฝั่งด้านเสิ่นจิ้นเมื่อมาถึงเรือนของเสิ่นเกาหลานพบหลีลี่จื่อที่มีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ นางกำลังจะจับตัวของซื่อจินตามคำสั่งของสวี่หยางจึงแอบซุ่มอยู่แต่เมื่อเห็นว่าซื่อจินรีบร้อนไปแจ้งเจี่ยฟาง นางจึงแอบตามไปจึงเห็นว่าสวี่หยางถูกเจี่ยฟางพาตัวหนีไปด้วย หากนางจะตามไปก็เกรงจะไม่มีผู้ใดแจ้งทางการเพราะไม่มีคนรู้เรื่องนี้เช่นนางสักคน“คุณชายเสิ่นจิ้นช่วยฮูหยินด้วยเจ้าค่ะ”“เกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้ารีบบอกข้ามา”“เรื่องมันยาวเจ้าค่ะ แต่ทว่ายามนี้คุณชายรีบตามไปที่หลังเรือนเถอะเจ้าค่ะ คุณหนูเจี่ยฟางกำลังพาฮูหยินหนีไปทางนั้น ส่วนซื่อจินกำลังไปอีกทางเจ้าค่ะ” เสิ่นเกาหลานตามมาทีหลังได้ยินถึงกับตกใจ รีบสั่งให้ทหารไปตามจับซื่อจินส่วนเขาจะไปช่วยสวี่หยางแต่เขาก็ช้ากว่าเสิ่นจิ้นหนึ่งก้าว เสิ่นจิ้นวิ่งนำไปก่อนแล้วฝนโปรยปรายลงมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ สายลมกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง เจี่ยฟางเริ่มหวาดกลัวเสื้อผ้าของนางและสวี่หยางเริ่มเปียกปอน“มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิ ข้าแค่เพียงต้องการเป็นหนึ่งเดียวของท่านพี่เสิ่นเกาหลานเท่านั้น ข้าแค่หวังอยากอยู่ครองรักจนกว่าจะหมดลมหายใจเหตุใดมันต้องยุ่งยากเช่นนี้

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 54 ข้าเกลียดท่าน

    บทที่ 54 ข้าเกลียดท่าน“เพราะข้าเกลียดท่าน ยิ่งท่านรักข้ามากเท่าไหร่ข้ายิ่งเกลียดท่าน ท่านมันจะไปรู้อะไรคนที่เกิดมาในตระกูลที่ดี มารดาเป็นคุณหนูต่างจากข้าที่มีมารดาเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น! ที่ข้าอยากจัดการท่านเพราะต้องการทุกอย่างที่ท่านมี ท่านพ่อไม่เคยรักข้าเลยมักจะต่อว่า ว่าข้าไม่ได้เรื่องอันใดไม่เหมือนท่าน ข้าพยายามมากมายที่จะเป็นสตรีที่เพรียบพร้อมกิริยามารยาทงามเพื่อไม่ให้พ่อท่านต้องเป็นกังวลแต่ก็ไม่วายที่ท่านพ่อยังคงรักแต่ท่าน” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเจี่ยฟางตวาดใส่สวี่หยางดังกึกก้อง แต่ไม่ทันที่นางจะเอ่ยจบสวี่หยางรับฟังคำที่พรั่งพรู่ออกมาจากปากของนางทำให้นางเสียใจไม่น้อยจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ตบเข้าที่ใบหน้าของเจี่ยฟาง“เพี๊ยะ!!!!. แรงสั่งสะเทือนของน้ำมือสวี่หยางทำให้ร่างบางอย่างเจี่ยฟางถลาล้มไปกับพื้นจนล้มลง“เจ้าต่างหากที่โง่เขลา ข้าไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเจ้ามิใช่น้องแท้ ๆ ของข้า ทั้งข้าทั้งท่านพ่อต่างรักเจ้ามากกว่าสิ่งใด เจ้ามันโง่งมที่ไม่เข้าใจความรักที่ข้ามอบให้ แต่กลับคิดร้ายว่าข้าสงสารเจ้าอย่างนั้นหรือ! เพราะใจอคติของเจ้าต่างหากที่ทำให้เจ้าหน้ามืดตามัวทำเรื่องเลวร้ายขึ้นมาทั้งหมด

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status