Share

ไอ้ด่าง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-02 12:16:30

แสงสุดท้ายของวันเริ่มเจือสีส้มอ่อนลงตามแนวขอบฟ้า เงาต้นไม้และเสาไฟริมทางทอดยาวลงบนพื้นถนนเหมือนภาพสีน้ำที่กำลังจางลง

ร้านคาเฟ่ของไอริสเริ่มเข้าที่เข้าทางผิดกับตอนแรกโดยสิ้นเชิง ทุกอย่างดูเรียบร้อยขึ้นผิดหูผิดตา หลังจากทุกคนช่วยกันจัดของ ขนโต๊ะ เก็บกล่อง จนสภาพร้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่างสวยงาม

“ถ้างั้นพี่กลับก่อนนะไอ”

“ขอบคุณนะคะ พี่ซีลีน พี่บอม ที่มาช่วยจัดร้านจนเสร็จ”

“ต่อไปมีอะไรก็บอกพวกพี่รู้ไหม”

ซีลีนถอดถุงมือผ้าออกแล้วปัดฝุ่นออกจากแขนเสื้อ ก่อนจะพยักหน้าให้ไอริสเบา ๆ แล้วเดินออกมา

“เจ๊ไม่กลับกับผมเหรอ เดี๋ยวไปส่งก็ได้” บอมเอ่ยถาม

“ไม่เป็นไร เจ๊เอารถมา เดี๋ยวเจ๊กลับเอง”

“แน่นะ?”

            “พูดมาก จะเอาไหมค่าแรงวันนี้”

            “เอาครับ เจ๊ซีคนสวยของไอ้บอม”

เด็กหนุ่มทำหน้าทะเล้นก่อนจะยกมือไหว้ลาเธอไปแบบขำ ๆ      ซีลีนหันหลังเดินออกมาจากร้านโดยไม่ได้รีบร้อน แสงเย็นของวันคลอเคลียผิวขาวเนียนที่สะท้อนแสงส้ม ๆ จาง ๆ ยิ่งขับให้เธอดูละมุนตาแม้ไม่ได้แต่งหน้า

แต่ยังไม่ทันก้าวมาถึงรถมินิคูเปอร์คู่ใจ สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับร่างสูงที่ยืนพ่นควันสีขาวอยู่หน้ารถของเธอ ซีลีนชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วกดรีโมทปลดล้อกรถ โดยไม่คิดจะสนใจชายหนุ่มที่ยืนพิงรถเธออยู่

“ไม่กลับพร้อมเพื่อนเหรอ” เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นเรียบ ๆ

“แล้วเกี่ยวอะไรกับนาย?”

ซีลีนตอบทันควัน แต่ไม่ได้เดินหนี เธอยังยืนเว้นระยะเหมือนตั้งกำแพงบาง ๆ ไว้ ลมเหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้า เสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซซ์ยับนิด ๆ กับกางเกงยีนธรรมดา แต่แปลกตรงที่เขามองแล้วไม่อาจละสายตาได้เลยตั้งแต่เช้ายันเย็น

“ไปส่งหน่อย ไม่มีรถ”

“เรื่องของนาย ไม่เกี่ยวกับฉัน อย่ามาเพ้อเจ้อแถวนี้”

ซีลีนเบ้ปากเล็กน้อยแล้วหมุนตัวจะเดินปขึ้นรถ แต่เสียงเรียบ ๆ ก็ดังตามหลังมาอีก

“ไม่เสียเวลาหรอก เดียวขับให้เอง”

คนตัวโตพูดจบ พร้อมกับใช้เท้าขยี้ดับก้นบุหรี่ที่เหลือลงพื้นแล้วเดินแทรกตัดหน้าคนตัวเล็ก เพื่อเปิดประตูรถที่ถูกปลดล็อกอยู่แล้วขึ้นที่นั่งคนขับทันที

“ทำไมฉันต้องไปกับนาย?”

เท้าเล็กชะงักในอากาศชั่ววินาที มองอีกคนที่นั่งบนรถของเธออย่างถือวิสาสะด้วยแววตาที่แฝงทั้งความระแวงและหงุดหงิด

“เพราะนี่รถเธอ แต่ตอนนี้ฉันเป็นคนขับ และฟ้าก็เริ่มมืดแล้วขึ้นมาเถอะยุงมันเยอะ”

เขาตอบเรียบ ๆ แล้วเอื้อมมือเปิดประตูฝั่งข้างคนขับไว้ให้

“แล้วถ้าเกิดฉันไม่ขึ้นล่ะ?”

“ก็ไม่เป็นไร อยู่ด้วยทั้งคืนที่นี่ก็ได้ ฉันไม่ติด” เขายักไหล่ราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งที่เขากำลังเป็นฝ่ายเข้ามาวุ่นวายกับเธอ

“…”

“แต่ว่าคนที่ต้องตอบคำถามไม่ใช่ฉัน เพราะดูจะมีคนสนใจเรื่องเรา แล้วแอบมองจากในร้านหลายคนเลยนะ”

คำพูดนั้นทำเอาซีลีนชะงักอีกครั้ง หญิงสาวหันขวับกลับไปมองหน้าร้าน เห็นไอริสกับคนอื่น ๆ กำลังแอบชะเง้อแอบมองผ่านช่องกระจก แถม ไอริสยังส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ ราวกับอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับผู้ชายโรคจิตคนนี้

“แค่ครั้งนี้นะจำไว้”

ซีลีนบอกกับอีกฝ่ายที่กำลังยกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ชนะ ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ เหมือนยอมแพ้ แล้วก้าวขึ้นรถไปในที่สุด

“ทำหน้างอแบบนั้น เดี๋ยวคนอื่นคิดว่าโดนบังคับขึ้นรถหรอก”

“นายก็พูดให้เบาลงหน่อย เดี๋ยวคนจะคิดว่าฉันเต็มใจ”

“อ้าว ก็เต็มใจไม่ใช่เหรอ”

เสียงหัวเราะในลำคอของคนขับดังขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่รถจะแล่นออกจากหน้าร้าน ทิ้งแสงอุ่นยามเย็นไว้เบื้องหลัง พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ ระหว่างคนสองคนในรถคันนั้น

บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังต่ำ ๆ คลอเคลียอยู่เป็นจังหวะ หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างคนขับเหยียดตัวพิงเบาะเล็กน้อย พลางหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนหน้าจอช้า ๆ คล้ายพยายามเบี่ยงความสนใจจากคนชับรถจำเป็นที่ยังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างนิ่ง ๆ โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก

“เธอชื่ออะไร”

“เกี่ยวอะไรกับนาย”

“ฉันชื่อลม ไม่ใช่นาย”

“สวัสดีไอ้ด่าง”

ลมหัวเราะในลำคอเบา ๆ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เถียง แต่กลับยิ้มออกมาอย่างจริงใจครั้งแรกตั้งแต่เจอกัน

“ไอ้ด่างมันเลียเก่งด้วยนะ เผื่อจะพิจารณาเลี้ยงไว้ข้างเตียง”

ใบหน้าหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อทันที มือเรียวบางที่ถือโทรศัพท์ชะงักค้าง ก่อนจะหันขวับไปมองคนขับด้วยแววตาเหลือเชื่อ

“ทะลึ่ง”

“ก็เธอเริ่มก่อน”

“ก็นายมันปากหมาแบบนี้ไง”

“ว่าฉันปากหมา แล้วทำไมต้องหน้าแดงขนาดนี้ แบบนี้หัวใจคงเต้นแรงกว่าสินะ”

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นราวกับอ่านความคิดความรู้สึกของเธอได้      ซีลีนหันหน้าหนีออกไปมองสองข้างทางทันที ก่อนจะเถียงออกมาอย่างไม่เต็มเสียงนัก

“ใจเต้นแรง เพราะฉันหงุดหงิด ไม่ใช่เพราะนาย”

“อ๋อเหรอ”

ลมยิ้มมุมปาก พลางนึกขำคนตัวเล็กที่คงยังไม่รู้ตัว ว่าเพิ่งยอมรับออกมาว่าตัวเองกำลังรู้สึกใจเต้นแรงจริง ๆ

“ดีจัง ฉันนึกว่าเธอกำลังเขิน”

“มั่นหน้ามาก เขินคนอย่างนายเนี่ยนะ?” ซีลีนหลุดหัวเราะในลำคอทันที

“คนอย่างฉันทำไม?”

“ทำไมเหรอ? ก็...”

เสียงหวานหยุดลง เธอห้ามตัวเองไว้ไม่พูดต่อ ก่อนจะเริ่มปรับสีหน้าและท่าทางให้เหมือนกันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะพึ่งรู้ตัวว่าอีกฝ่ายแค่ต้องการยั่วโมโหเธอเพื่อจะชวนคุยเท่านั้น

ลมหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มรู้ทัน เขาหันหน้ากลับไปมองถนนด้านหน้าและขับรถต่อไป คล้ายกับพอใจที่ทำให้เธอเริ่มตอบโต้เขากลับมาอย่างเป็นธรรมชาติ

“แสดงว่าคิดไว้เยอะเลยนะ ว่าฉันเป็นคนแบบไหน” เขาเอ่ยต่อ

“เปล่าเลย คิดแค่ว่าผู้ชายที่มั่นหน้าขนาดนี้กินอะไรเข้าไปถึงได้หลงตัวเองนัก”

“แล้วอยากลองหลงฉันดูไหม”

ลมเหลือบมองหญิงสาวผ่านทางหางตา เห็นใบหน้าขาวจัดที่เริ่มมีสีเลือดฝาดจาง ๆ เขาก็หัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง มันแปลกดีที่แม้เธอจะพูดจาแรง ๆ เพื่อตอบโต้กลับมา แต่ทุกคำกลับดูน่าฟัง ไม่รู้สึกเบื่อ ช่างเป็นผู้หญิงที่ น่ามอง แม้กระทั่งตอนเบะปากใส่เขา

“หิวไหม” เขาเอ่ยขึ้นกลางทาง เพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย

“ถามทำไม จะเลี้ยง?” ซีลีนหันกลับมามองอย่างระแวดระวัง

“ไม่เชิง” เขาตอบเสียงเรียบ แล้วเหยียบคันเร่งต่อไป

“หรือเธอจะใจดี เลี้ยงฉันก็ได้”

“ฝันไปเถอะ!”

“หรืออยากขึ้นคอนโดไปกิน...ด้วยกันได้นะไม่ติด”

ร่างสูงเอ่ยออกมาโดยตั้งใจเว้นคำว่า ข้าว เอาไว้ให้เธออ่านปากเขาแทน หากแต่มันจะไม่รู้สึกอะไรเลย หากคนร่างสูงไม่ใช้เรียวลิ้นแลบเลียริมฝีปากตัวเองขณะที่มองเข้ามานัยย์ตาเธอ

“นายมันโรคจิตจริง ๆ”

เธอส่ายหน้าก่อนจะเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ แต่หัวใจกับเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ลมเหลือบตามองเธออีกครั้งก่อนจะพูดช้า ๆ

“รู้ไหม…ตอนนี้เธอโคตรน่าจูบ”

“…”

คำพูดสุดท้ายของเขาทำเอาซีลีนชะงักไปชั่วครู่ ดวงตากลมโตนิ่งค้างก่อนจะเบนกลับไปมองทางกระจกข้างรถอีกครั้ง ลมหายใจเหมือนสะดุดเพียงเสี้ยววินาที ทั้งที่อุณหภูมิในรถไม่ได้สูงขึ้น แต่แก้มเธอกลับเริ่มร้อนวูบโดยไม่มีเหตุผล

บรรยากาศในรถไม่ตึงเครียดเหมือนแรกเจอ แต่ก็ไม่ได้ผ่อนคลายเลยเสียทีเดียว มันเหมือนแรงตึงบางอย่างที่โยงไว้ระหว่างคนสองคน ซึ่งไม่มีใครพูดมันออกมา…แต่ทั้งคู่ก็รู้ว่ามีกันและกันอยู่

“ตกลงเธอชื่ออะไร?” ลมถามขึ้นนิ่ง ๆ

“ซีลีน”

เสียงตอบเบา ๆ ของเธอแทบจะกลืนไปกับเสียงเครื่องยนต์ แต่ลมได้ยินชัดเจน ก่อนจะค่อย ๆ ชะลอรถจอดริมฟุตปาธหน้าทางเข้า เมื่อเห็นว่ามาถึงที่หมาย ซีลีนก็ตั้งท่ากำลังจะเปิดประตูเพื่อเปลี่ยนไปขับรถแทน แต่เขาพูดขึ้นกลับถูกชายหนุ่มขัดขึ้นมาเสียก่อน

“อย่าเพิ่งลง”

“อะไรอีกล่ะ?”

 เธอหันกลับมาอย่างระแวง เขาไม่ได้ตอบทันที แต่ยกมือขึ้นแล้วเอื้อมไปแตะสายคาดเบลต์ของเธอ ดึงมันออกด้วยจังหวะที่แนบเนียนและนิ่งมากพอจนเธอไม่ทันตั้งตัว ระยะห่างระหว่างใบหน้าทั้งสองคนกระชั้นชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย

คลิก จากสายคาดเบลต์ปลดออก แต่กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากตัวเขา และลมหายใจที่แผ่วรินอยู่ข้างแก้ม ยังคงอยู่

“ลงได้แล้ว”

เขากระซิบเบา ๆ พร้อมโน้มใบหน้าออกอย่างช้า ๆ แววตานิ่งแต่แฝงรอยยิ้มไว้จาง ๆ ตรงมุมปาก ซีลีนเม้มปากแน่น ก่อนจะคว้ากระเป๋าเปิดประตูลงจากรถไปโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่นิด

“ชั้นห้าสิบแปด ห้องเก้า เพื่อรู้สึกหิวแล้วอยากเปลี่ยนใจ”

ลมหัวเราะเบา ๆ โบกมือลาร่างบางอย่างอารมณ์ดี ขณะมองร่างเล็กที่เดินขึ้นรถไวกว่าปกติ ก่อนจะปิดประตูรถแล้วขับออกไป เธอคงไม่รู้เลย ว่าทุกจังหวะอารมณ์ที่เธอแสดงออกมานั่นแหละ ยิ่งกว่าคำว่าน่ามอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สะพานรักซีลีน   เล่นใหญ่

    เสียงเครื่องยนต์ดังคำรามตลอดเส้นทาง ลมขับรถตรงดิ่งไปที่คณะ ใบใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์นัก แต่ความคิดในหัวกลับตีกันวุ่นวาย ต่าง ๆ นานา คิดถึงแต่ใครบางคนที่หายไปตั้งแต่เช้าไม่นาน แมคเคลเรล720S All Black คันคุ้นเคยก็เลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถคณะวิศวะฯ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากรถตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งรวมกันใต้ต้นไม้ใหญ่ทุกคนได้แต่ชะงักและหันมามองแทบพร้อมกัน เสียงฮือฮาของผู้คนรอบข้างดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นหนุ่มฮอตปรากฏตัว โดยเฉพาะพวกสาว ๆ ที่ดูจะกรี้ดกร้าดเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ที่มีโปรเจกต์ลมก็ไม่ค่อยได้เข้าคณะเลย“เฮ้ย ไอ้ลม! มาได้ไงวะ ปกติมึงน่าจะอยู่ที่ไซต์”“หน้าเครียดเชียว กูว่าต้องมีเรื่องแน่ ๆ”เสียงทุ้มของเดย์เอ่ยถามทันที เมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามา ตามด้วยเสียงของไนท์ที่หันไปมองตามเสียงของแฝดตัวเองลมเดินเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งบนม้านั่งไม้ กวาดตามองพวกมันทีละคน เสยผมขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด“กูมาหาพวกมึงไม่ได้หรือไง”เขาพูดเสียงเรียบ ก่อนเอนหลังพิงพนัก มือยกโทรศัพท์ขึ้นไถ่ฟีดเลื่อนไปมาอย่างหงุดหงิด เพราะไม่รู้จะไปตามหาอีกคนที่ไหน เขาเลยตัดสินใจขับรถมาหาเพื่อน ๆ ที่คณะแทน“สรุปว

  • สะพานรักซีลีน   ช่วยด้วยครับ

    แสงแดดในช่วงสายของวันที่ลอดผ่านผ้าม่านสีเข้มเข้ามา ทำให้ลมค่อย ๆ รู้สึกตัว ก่อนมือหนาจะคว้านหาร่างบางที่เขากอดมาตลอดทั้งคืน แต่ปรากฏว่าข้างกายเขากลับว่างเปล่า มีเพียงร่องรอยยับย่นบนผ้าปูที่ยืนยันว่า เมื่อคืนเขาไม่ได้อยู่คนเดียว กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของร่างบางยังติดอยู่บนปลอกหมอน ในเมื่อเขาเป็นคนอุ้มเธอกลับมาจากที่ไซต์งานมาต่อที่ห้องด้วยตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับหายไปไหน“หนีไปอีกแล้วสินะ”ร่างแกร่งหยัดกายลุกเอนหลังพิงหัวเตียง มือหนาเอื้อมคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียง ก่อนจะเปิดเช็กบางอย่าง เพราะเขารู้ดีว่าคนตัวเล็กมักจะชอบโพตทุกอย่างไว้บนสตอรี่ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม แต่เช้านี้มันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยเรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ความเงียบในห้องยิ่งทำให้ความรู้สึกข้างในวาวโรจ์นขึ้นมา ลมโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด“ได้ฉันแล้วจะทิ้งเหรอ”เสียงทุ้มพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทิ้งเขาไว้คนเดียวบนเตียงแบบนี้ร่างแกร่งลุกขึ้นจากเตียงด้วยร่างกายเปื่อยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแดงและการขีดข่วนจากปลายเล็บ ลมยังคงเดินหาใครบางคนจน

  • สะพานรักซีลีน   ไม่ปล่อย

    จูบที่เริ่มจากการรุกเร้าเบา ๆ กลับกลายเป็นไฟราคะที่ลุกโชน ริมฝีปากหนาไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้พัก มือใหญ่เลื่อนจากแผ่นหลังขึ้นมากดท้ายทอยเล็ก รั้งเธอให้รับแรงจูบลึกขึ้นเรื่อย ๆ“อื้อออออ”มือหนาอีกข้างเลื่อนต่ำมาทาบเอวบาง ลากปลายนิ้วไปตามสันโค้งจนเธอสั่นสะท้าน ร่างเล็กที่นั่งบนตักเผลอขยับเบียดแน่นขึ้นทุกครั้งที่เขาดึงให้เข้าใกล้“ต้องการกันไหมครับ”ลมกระซิบเสียงพร่าแนบข้างหู ก่อนจะเล็มจูบลงมาตามแนวสันกรอบหน้า สัมผัสกับผิวเนียนที่แดงจัด“ฉัน…ไม่”คำคัดค้านเอ่ยขึ้นอย่างติด ๆ ขัด ๆ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวซุกลงมาตรงลำคอขาว มือเล็กเผลอเกาะบ่ากว้างแน่นเพื่อหาที่พยุง เสียงหัวเราะทุ้มพร่าเล็ดลอดจากลำคอเขา เมื่อเห็นร่างบางสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขน“ร่างกายเธอมันกำลังต้องการฉัน”ลมกดจูบหนักลงที่ซอกคอ ฝากทิ้งร่องรอยรักแดงสีกุหลาบอย่างไม่ยอมออมแรง ขณะมือหนาบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามเอวบางและสะโพกกลม จนเธอคล้อยตามไปกับสิ่งที่เขากำลังนำพาเธอไปคนตัวเล็กเริ่มหอบหายใจถี่ หน้าแดงจัดจนแทบลามไปถึงหู ทั้งร้อน ทั้งอาย แต่กลับมีเพียงเสียงครางกระเส่าที่หลุดออกมาเบา ๆ เท่านั้น“อื้มมม ลม”แต่คนตั

  • สะพานรักซีลีน   หนีไม่พ้น

    ลมเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ ด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ แต่กลับกดดันจนเธอรู้สึกเหมือนถูกบังคับกลาย ๆ ร่างบางชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะนั่งลงไปอย่างเสียไม่ได้ ทว่าประตูปิดลง กลิ่นกายอุ่นที่คุ้นเคยจากเมื่อคืนก็โอบล้อมเข้ามาในพื้นที่แคบทันทีร่างบางรีบเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่าง เพราะกลัวจะเผลอใจสั่นจากความใกล้ชิดที่ที่เกิดขึ้น“ทำหน้าเหมือนถูกลากมาขาย”น้ำเสียงทุ้มแฝงรอยหัวเราะดังขึ้นจากเบาะข้าง ๆ ซีลีนหันขวับไปมองตาขวางทันที“แต่นายบังคับฉันมาอย่างไม่เต็มใจ”ลมเหลือบตามองเธอเพียงเสี้ยววินาที ริมฝีปากหนายกยิ้มกวน ๆ ก่อนโน้มตัว เอื้อมมือข้างหนึ่งมาดึงสายคาดเบลต์ข้ามตัวเธอแล้วกด ล็อกแน่น ด้วยท่าทีธรรมดาราวกับไม่มีอะไร แต่ใกล้ชิดกันจนลมหายใจของเขาเป่ารดต้นคอ ก่อนที่เข้าจะใช้ปลายจมูกไล้ผิวแก้มเธอเบา ๆ ทำเอาหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง“บังคับ?” เขาทวนคำแล้วกระซิบเสียงต่ำข้างใบหู แต่ไม่ยอมขยับออกไปไหน“ฉันแค่มาตามหาคนรับผิดชอบ เพราะเมื่อคืนมีคนขโมยกอดฉันแน่นไม่ยอมปล่อย”แก้มใสของซีลีนแดงวาบขึ้นทันที เธอยกมือผลักอกเขาแรง ๆ พลางหันหน้าหนี“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะลม!”เสียงหัวเราะทุ้มดังขึ้นในรถ เขายกมือกลับไปจับพวงมาลัยอย่

  • สะพานรักซีลีน   ความลับ

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนลอดผ่านผ้าม่านสีขาวร่ำไร ร่างสูงขยับพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตา ภาพตรงหน้าคือห้องสีขาวเรียบดูสะอาดตาแต่กลับเป็นห้องที่เขารู้สึกไม่คุ้นชิน ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบมันกลับเต็มไปด้วยรายละเอียดที่บอกตัวตนเจ้าของห้องชัดเจนกรอบรูปหญิงสาวในชุดต่าง ๆ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และกลิ่นน้ำหอมบางเบาที่เป็นเอกลักษณ์ของใครบางคนที่เขาจำได้ดี“ปวดหัวชะมัด”เสียงทุ้มพร่าต่ำเอ่ยกับตัวเอง เขาลุกขึ้นนั่งพลางยกมือกุมขมับความหนักอึ้งจากอาการแฮงค์เมื่อคืน ยังตามมาหลอกหลอนเขาในเช้านี้ สายตาคมยังคงมองหาเจ้าของห้องที่ที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน และเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง“หึ ยัยคุณหนูตัวแสบ”ทว่ายังไม่ทันที่ลมจะทำอะไรต่อ ภาพเลือนรางในหัวก็ปรากฏขึ้นมาในตัวทีละน้อย สัมผัสอ่อนนุ่ม และกลิ่นกายหอมบางเบาเหมือนกลิ่นของเจ้าของห้อง อ้อมแขนที่เขาโอบรั้ง และริมฝีปากนุ่มที่เขาบดจูบซ้ำ ๆ ไม่ยอมปล่อยก็ฉายชัดขึ้นมาริมฝีปากหนายกยิ้มจาง ๆ โดยไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เดินสำรวจไปรอบห้องกลับไม่เจอคนตัวเล็ก ความสงสัยก็แล่นเข้ามาแทนที่“หายไปไหน”เขาพึมพำเบา ๆ ขณะทอดสายตาไปยังผ้าห่มที่พับวางเรียบร้อยข้างกันบนเ

  • สะพานรักซีลีน   ทิ้งไว้กลางทาง

    เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยคึกคักในช่วงหัวค่ำค่อย ๆ จางหาย เหลือเพียงเสียงแมลงและสายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านกายแทน โต๊ะไม้ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนและอาหาร ตอนนี้เหลือแค่แก้วเหล้ากระจัดกระจาย และทีมงานที่กำลังฟุบหน้าลงบนโต๊ะเมาหลับไปทีละคนลมเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้อย่างทิ้งตัว ดวงตาคมแสนเจ้าเล่ห์เริ่มพร่ามัวเล็กน้อย บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์อบอวลคละคลุ้งจนคนตัวเล็กต้องส่ายหน้าระอา“นายเมามากแล้วนะ”ซีลีนกดถามเสียงต่ำ ขมวดคิ้วมองร่างสูงที่หมดสภาพไม่ต่างจากคนอื่น ๆ“ใครเมา ไม่มี” เขาตอบเสียงต่ำแหบพร่ายืดยาวจนฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองช้า ๆ“สภาพแบบนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เมา”“ฉันไม่ได้เมาสักนิด”“ยกไม่พักแบบนั้นจะเหลือเหรอ” เธอบ่นพลางดันแก้วออกห่าง เขาหัวเราะเบา ๆ สภาพของทุกคนตอนนี้ดูไม่ต่างกันเลยสักนิด“ที่ห้าม เพราะเธอเป็นห่วงฉันใช่ไหม ยัยตัวแสบ”“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย”เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหนาเฉียดแก้มเนียนใสไปเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อตั้งสติจ้องมองคนตัวเล็กด้วยแววตาพร่ามัว แต่แฝงไปด้วยจริงจังจนหัวใจของเธอเต้นแรง ใบหน้าร้อนผาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status