LOGINRe-grand คอนโด
ติ๊ด
เสียงประตูไฟฟ้าที่มีระบบป้องกันอัตโนมัติถูกปิดลงพร้อมสัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่าประตูคอนโดหรูราคาแพงถูกล็อกเรียบร้อย ร่างสูงเจ้าของห้องขนาดใหญ่ก้าวเดินเข้ามาภายในห้อง ด้วยความรู้สึกหลากหลาย เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับหญิงสาวในคืนวันนั้นด้วยความบังเอิญหลายครั้งติด ๆ กัน
"ซีลีน”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยพึมพำออกมาเบา ๆ พลางคิดถึงใบหน้าสวย เขารู้จักคนตัวเล็กตามเพจมหาลัยในชื่อของนางฟ้าสถาปัตย์ แต่เพิ่งจะได้รู้ชื่อจริง ๆ ของเธอก็วันนี้
ตัวจริงสวยสมกับฉายานางฟ้าที่ใครหลายคนตั้ง ใบหน้าสวยคมแต่แฝงไปด้วยความดื้อรั้นที่เห็นแล้วอดยกยิ้มตามไม่ได้ ความสวยของเธอที่มาพร้อมกับความมั่นใจ ทะนงตน และถือดีจนดูเหมือนลูกแมวสายพันธุ์ดีที่ชอบเชิดหน้าหยิ่งผยอง แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีทั้งหน้าตา รูปร่าง และฐานะหากดูจากรถที่เธอขับ
ทว่าหากพอคิดย้อนไปดี ๆ ในสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทำ เขารู้สึกอดจะตลกในท่าทีของเธอไม่ได้ เพราะจากสิ่งที่เห็น ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็นเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ กวาด ถู แต่กลับสามารถจัดแจงและออกแบบการจัดร้านให้ออกมาดูดีจากสิ่งของที่มีอยู่ในระยะเวลาสั้น ๆ และผลลัพธ์กลับออกมาดูดีเกินคาด ดูเป็นคนมีรสนิยมการตกแต่งสมกับที่เรียนสถาปัตย์มา
‘ตัวเองทำไม่เป็นก็เอาคนที่ทำได้มาทำแทนสินะ’
ชายหนุ่มถอดเสื้อออกจากตัวอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาหนังที่เริ่มเย็นตามอุณหภูมิห้อง บุหรี่ถูกจุดอีกมวน ควันสีขาวพ่นออกจากริมฝีปากช้า ๆ ท่ามกลางความเงียบที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ เหมือนทุกอย่างสงบนิ่ง
แต่ในหัวของเขากลับเต็มไปด้วยใบหน้าหน้าขาวใสที่แดงระเรื่อตลอดเวลา ภาพบรรยากาศความวุ่นวายในร้าน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ เขามักจะเห็นริมฝีปากเล็กเม้มแน่นเข้าหากันเหมือนพยายามกลั้นความรู้สึกบางอย่าง ก่อนจะสังเกตเห็นผื่นแดงเล็ก ๆที่เกิดขึ้นบนผิวขาวเนียนละเอียด คาดว่าเธอน่าจะแพ้อะไรบางอย่าง
ซีลีน เขาเรียกชื่อเธอในใจอีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง นานแค่ไหนแล้ว ที่เขารู้สึกว่าใครสักคน น่าดึงดูด ได้มากขนาดนี้ มีเสน่ห์โดยเป็นธรรมชาติแบบที่ไม่ต้องพยายามปรุงแต่งอะไรเลย สำหรับเขาผู้หญิงสวยบนโลกนี้มีเยอะ แต่ผู้หญิงที่สวยด้วยมีเสน่ห์ด้วยนั้นกลับหายากยิ่งกว่า
เขาไม่ใช่คนที่ชอบเข้าหาใครก่อน ส่วนมากที่ผ่านมาจะเป็นสาว ๆ ที่อยากเข้ามาทำความรู้จักกับเขาเองทั้งนั้น และทุกอย่างก็อยู่ในข้อตกลง พวกเธอเสนอเขาก็สนอง
แต่ไม่รู้ทำไมกับร่างบางนั่นเขากลับอยากหาเรื่องคุย อยากยั่วยุให้เธอเถียง ชอบเวลาที่อีกฝ่ายแสดงสีหน้าเวลาโกรธหรือหงุดหงิดใส่เขา อยากรู้ว่าอีกมุมของผู้หญิงคนนี้จะเป็นยังไง
มือหนายกมือขึ้นมาเสยผมตัวเองเบา ๆ ดับบุหรี่ที่อยู่ในมือ ขณะโน้มตัวไปหยิบเครื่องมือสื่อสารในเสื้อที่ถอดไว้ แล้วเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาแล้วกดค้นหาช่องทางติดต่อของคนที่ทำให้เขานึกถึงตลอดเวลา ตามเพจมหาลัยที่ชอบเอารูปของเธอมาลง
จากนั้นเพียงไม่นาน ลมก็เจอกับแอคเคาน์ที่คาดว่าน่าจะเป็นของหญิงสาวปรากฏอยู่บนหน้า @cerine.rr นิ้วเรียวยาวยังไถหน้าจอมือถือช้า ๆ ขณะสายตาจดจ่ออยู่กับรูปที่โพสต์ไว้เมื่อสองวันก่อน ภาพถ่ายในลิฟต์ ซีลีนยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของกระจก มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกข้างจับสายคล้องกระเป๋าไว้หลวม ๆ แคปชันสั้นที่ระบุเช็กอินที่ Re-grand กับวันที่ฝนฟ้าโปรยปราย
ลมหยุดปลายนิ้วทันที ขมวดคิ้วช้า ๆ แล้วเลื่อนกลับไปดูรูปอื่น มีอีกภาพหนึ่งเป็นวิวมุมสูงจากห้องพัก เผยให้เห็นทิศทาง เลขห้องเป็นตึกที่เขาคุ้นเคยดี แล้วหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ‘เธออยู่คอนโดนี้?’ ชั้นเดียวกับเขา และดูเหมือนว่าเธอจะอยู่แค่ห้องตรงข้ามกันแท้ ๆ แต่ทำไมเมื่อกี้ตอนที่เธอมาส่งเขา กลับทำเหมือนไม่ได้อยู่ที่เดียวกันแล้วที่ขึ้นรถขับออกไปนั่นล่ะ ขับไปไหน?
มือหนาเลื่อนกลับไปดูรูปที่เพิ่งเด้งขึ้นมาบนสตอรี่ของเธออีกครั้ง เป็นภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งข้างกัน พร้อมกองอุปกรณ์ตัดโมของเด็ก สถาปัตย์ เรียวคิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าหากันแน่น ในท่าทีที่สนิทสนมของคนทั้งคู่ ดูท่าคงจะกลับออกไปที่มหาลัยสินะ แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน?
เขาทิ้งตัวเอนหลังพิงโซฟา ดวงตาคมมองเพดานอย่างใช้ความคิด แต่ยังไม่ทันได้หาคำตอบ เสียงแจ้งเตือนแชทก็ดังขึ้นแทรกความคิด จนหน้าจอสว่างวาบขึ้น พร้อมข้อความจากกลุ่มแชทสนิทของเขา
ซัน: ไอ้ลม มึงกลับไปตอนไหน
ไนท์: ไหนบอกรอกลับพร้อมกู
เดย์: กูเห็นมันไปสูบบุหรี่ เผลอแปบเดียวมันออกไปพร้อมกับนางฟ้าสถาปัตย์เฉย มึงไปกับเขาได้ไง
ลม: ก็แค่รู้จัก
ซัน: แต่ดูเขาไม่ได้อยากรู้จักมึงนะ แล้วที่สำคัญพวกกูรออยู่ที่เดิมมึงรีบย้อนกลับมาเลย เพราะโพรเจกต์มึงยังไม่เสร็จ นัดกันไว้แท้ ๆ แต่พอเจอคนสวยหน่อยไม่ได้ หูตั้ง หางกระดิก เสือกอยากนั่งรถตามหญิงกลับไป
“สายตาดีจริงนะพวกมึง”
เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นเบา ๆ เขาวางโทรศัพท์ลงข้างตัวอีกครั้ง ก่อนจะพึมพำกับตัวเองขณะมองออกไปนอกหน้าต่างสูง ก็จริงอย่างที่เพื่อนๆ เขาบอก ความจริงเขาแค่จะออกไปสูบบุหรี่เท่านั้น
แต่จังหวะบังเอิญว่าคนตัวเล็กดันเดินออกมาพอดี ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาแสร้งทำเป็นขอติดรถเธอกลับแล้วยังให้เธอมาส่งเขาที่คอนโด ทั้ง ๆ ที่นัดกับเพื่อน ๆ เอาไว้แล้วแท้ ๆ
เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนจากบนโซฟา ก่อนจะเดินไปเปิดไฟหัวเตียงในห้องมืดสนิทแล้วเดินเข้าห้องไปอาบน้ำล้างตัวเปลี่ยนชุดและขับรถกลับไปหาเพื่อน ๆ อีกครั้ง หวังว่าสายน้ำเย็น ๆ จะทำให้เขาสลัดภาพในหัวของผู้หญิงตัวเล็กที่ชอบเบะปากใส่เขาตลอดเวลาออกไปได้
ห้องสโมสรคณะสถาปัตย์
ห้องสีขาวขนาดใหญ่เต็มไปด้วยโต๊ะทำงานเรียงรายกันอย่างไม่เป็นระเบียบมากนัก มันเป็นไปด้วยเศษโฟมและไม้บัตซ่ากระจัดกระจายเต็มพื้น
ที่นี่กลายเป็นที่พักหลักของเหล่านักศึกษาปีสี่อีกหลายชีวิตที่แทบจะใช้เวลากินนอนส่วนใหญ่ในการทำงาน ออกแบบและโพรเจกต์ซึ่ง หนึ่งในนั้นก็รวมถึงเธอด้วยเรียกได้ว่าเธอใช้ชีวิตในห้องนี้มากกว่าคอนโดตัวเองซะอีก
เสียงใบมีดคัตเตอร์ขูดกับโฟมดังต่อเนื่องเป็นจังหวะ ร่างบางยังนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมเดิม แสงจากโคมตั้งโต๊ะส่องลงมาที่งานโม ซึ่งเธอกำลังขัดขาตั้งให้เรียบ โดยไม่ได้พูดอะไรนานพักใหญ่ จนกระทั่งมีเสียงนุ่มจากร่างสูงของใครบางคนโผล่มาทางด้านข้าง
“ไม่พักหน่อยเหรอ”
เสียงของเมฆดังขึ้นพร้อมกล่องนมถั่วเหลืองที่ยื่นมาให้เพราะรู้ดีว่าหญิงสาวแพ้นมวัวจึงตั้งใจเลือกอย่างอื่นมาให้แทน ซีลีนเงยหน้าขึ้น สายตาเรียบเฉยรับของโดยไม่ได้พูดขอบคุณ แต่เมฆก็ไม่ได้ถือสาอะไร เขานั่งลงข้างเธอแล้วดึงเก้าอี้อีกตัวมานั่งพิง แอบยกขาขึ้นวางบนคานใต้โต๊ะด้วยความเคยชิน
“เห็นนั่งนิ่ง ๆ มาครึ่งชั่วโมงละคิดอะไรอยู่” เขาพูดขึ้น
“ขัดโมไง จะให้พูดอะไร”
ซีลีนตอบเสียงเรียบ ดึงกระดาษทรายกลับมาใช้งานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลิ่นกาวลาเท็กซ์ลอยฟุ้งเบา ๆ เสียงกระดาษทรายเสียดสีโฟมคลอเคลียอยู่ในอากาศ
โต๊ะทำงานยาววางโมเดลที่ยังไม่เสร็จเรียงกันระเกะระกะ ซีลีนยืนโน้มตัวอยู่หน้าชิ้นงาน กำลังค่อย ๆ ลากปลายมีดคัตเตอร์ไปตามแนวเส้นร่างด้วยสมาธิที่เหมือนจะมั่นคง
แต่เปล่าเลย เธอไม่มีสมาธิเลยตั้งแต่แรก คำพูดแว่ว ๆ จากใครบางคนในรถเมื่อเย็น มันหลุดลอยเข้ามาในหัวของเธอตลอดเวลา
รู้ไหม…ตอนนี้เธอโคตรน่าจูบ
คำพูดสั้น ๆ ของเขาดูเหมือนจะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเธอมากกว่าที่คิด ไหนจะท่าทางนิ่ง ๆ ที่เหมือนจะไม่สนใจอะไร แต่กลับทำให้เธอรู้สึกว่าถูกมองอยู่ตลอดเวลานั้นอีก
ซีลีนถอนหายใจเบา ๆ เหมือนจะระบายความรู้สึกที่ตีวนในหัวออกมา ปลายนิ้วเธอแอบแตะข้างแก้มตัวเองแวบหนึ่ง เพราะคิดได้ว่าวันนี้เธอไปส่งเขาที่ไหนมา ก่อนจะรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปแล้วหันกลับมามองแบบโมเดลตรงหน้า
โมเดลขนาดใหญ่ผลงานที่เธอภาคภูมิใจตรงหน้าเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซีลีนขยับตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อยหลังจากนั่งขัดขาตั้งอยู่นาน
“แกได้ยินข่าวเรื่องโปรเจกต์สะพานของมหาลัยยัง?”
เมฆเหลือบมอง ก่อนวางคัตเตอร์ลงแล้วเอื้อมไปหยิบขวดน้ำขึ้นมายกดื่ม
“สะพาน? สะพานอะไร”
ซีลีนขมวดคิ้วเล็กน้อย หันมามองหน้าเพื่อนสนิท มีโพรเจกต์แต่ทำไมเธอไม่เห็นจะรู้เลย
“โครงการสร้างสะพานให้กับชุมชนออกแบบโดยสถาปัตย์และทำงานร่วมกับวิศวะฯ ไง ปีนี้จะให้ตัวแทนไปทำงานร่วมกับชุมชน”
“อย่าบอกนะว่า…”
คนตัวเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ พร้อมกับความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง ที่ดูเหมือนเธอกำลังจะมีเรื่องยุ่งยากใจเพิ่มขึ้น
“อาจารย์เขากำลังคัดคนอยู่ เธอเป็นหนึ่งในรายชื่อที่อาจารย์เอ่ยถึงนะ”
“หืม? ฉันเนี่ยนะ?”
ซีลีนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากที่รู้สึกเหมือนง่วง ๆ อยู่ก่อนหน้านี้ แต่หลังที่ได้ฟังเพื่อนสนิทตอบมา เธอก็เริ่มตื่นเต็มตาขึ้นมาอัตโนมัติ เพราะดูเหมือนงานจะเข้าที่เธอจริง ๆ จนหญิงสาวอดไม่ได้จะทำหน้างอออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“อาจารย์ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน” เมฆหัวเราะเบา ๆ
“คงเพราะผลงานที่ผ่านมา”
“แกทำออกมาได้ดีกว่าฉันอีก”
ซีลีนเอ่ยปฏิเสธเพื่อนสนิทออกมาเรียบ ๆ มันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เธอทำผลงานและคำแนนได้ดีมาตลอด แต่ทุกงานที่เธอทำก็ใช่ว่าเธอจะลงมือทำคนเดียวเสียเมื่อไหร่ ส่วนตัวเธอกลับคิดว่าเมฆนั้นจัดการและทำออกมาได้ดีกว่าเธอมาก
“พูดแบบนี้แปลว่าไม่อยากไปใช่ไหม”
เขาถามต่อพลางวางขวดน้ำไว้ข้างโต๊ะ ก่อนจะหันมามองร่างบางที่ทำสีหน้าหนักใจและเริ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“มันไม่ได้ว่าไม่อยากหรอกนะ แค่คิดว่ามันไม่จำเป็น คิดดูสิแค่ไอ้โมเดลที่แกกับฉันทำตอนนี้ก็หนักหนาพอแล้วไหม ตอนนี้ตาฉันจะเป็นหมีแพนด้าแล้วด้วยซ้ำ แล้วฉันไม่อยากทำงานในที่ร้อน ๆ ไหนต้องมาทำงานร่วมกับพวกวิศวะอีก”
“มีปัญหาอะไรกับวิศวะ?”
“ไม่ได้มีปัญหา…แต่ไม่ค่อยชอบ”
เธอเงียบไปแวบหนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเบา เมฆหัวเราะ เขายิ้มบาง ๆ แล้วหันกลับไปจับโมเดลตัวเอง
“ถ้าสุดท้ายโดนเลือก เธอจะไปไหม”
“ไม่รู้ดิ…ยังไม่ตัดสินใจ”
ซีลีนเงียบไปอึดใจ ก่อนจะตอบกลับไป เธอเข้าใจว่าการได้ทดลองออกทำงานจริงมันเป็นโอกาสที่ดี ถึงแม้เธอจะไม่ชอบอากาศร้อนก็จริง แต่ใช่ว่าเธอจะทำงานกลางแจ้งไม่ได้ ทว่าเธอแพ้ควันบุหรี่ขืนส่งไปทำงานด้วยกันคงไปไม่รอด เพราะพวกวิศวะก็ชอบสูบกันทุกคนและเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามใครไม่ให้ทำอะไร ดูอย่างวันนี้สิทั้ง ๆ ที่เธอพยายามเลี่ยงห่างกลุ่มนั้น แต่ก็ยังไม่วายที่อาการเธอจะกำเริบหายใจลำบาก จนมีผื่นขึ้นตามตัว แต่โชคดีที่เธอมียาพกไว้ติดตัวตลอด
“เอาน่าคิดว่าทดลองหน้างานจริงก่อนจบ?”
“ขออย่าให้ฉันต้องซวยขนาดนั้นเลย”
เสียงเครื่องยนต์ดังคำรามตลอดเส้นทาง ลมขับรถตรงดิ่งไปที่คณะ ใบใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์นัก แต่ความคิดในหัวกลับตีกันวุ่นวาย ต่าง ๆ นานา คิดถึงแต่ใครบางคนที่หายไปตั้งแต่เช้าไม่นาน แมคเคลเรล720S All Black คันคุ้นเคยก็เลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถคณะวิศวะฯ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากรถตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งรวมกันใต้ต้นไม้ใหญ่ทุกคนได้แต่ชะงักและหันมามองแทบพร้อมกัน เสียงฮือฮาของผู้คนรอบข้างดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นหนุ่มฮอตปรากฏตัว โดยเฉพาะพวกสาว ๆ ที่ดูจะกรี้ดกร้าดเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ที่มีโปรเจกต์ลมก็ไม่ค่อยได้เข้าคณะเลย“เฮ้ย ไอ้ลม! มาได้ไงวะ ปกติมึงน่าจะอยู่ที่ไซต์”“หน้าเครียดเชียว กูว่าต้องมีเรื่องแน่ ๆ”เสียงทุ้มของเดย์เอ่ยถามทันที เมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามา ตามด้วยเสียงของไนท์ที่หันไปมองตามเสียงของแฝดตัวเองลมเดินเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งบนม้านั่งไม้ กวาดตามองพวกมันทีละคน เสยผมขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด“กูมาหาพวกมึงไม่ได้หรือไง”เขาพูดเสียงเรียบ ก่อนเอนหลังพิงพนัก มือยกโทรศัพท์ขึ้นไถ่ฟีดเลื่อนไปมาอย่างหงุดหงิด เพราะไม่รู้จะไปตามหาอีกคนที่ไหน เขาเลยตัดสินใจขับรถมาหาเพื่อน ๆ ที่คณะแทน“สรุปว
แสงแดดในช่วงสายของวันที่ลอดผ่านผ้าม่านสีเข้มเข้ามา ทำให้ลมค่อย ๆ รู้สึกตัว ก่อนมือหนาจะคว้านหาร่างบางที่เขากอดมาตลอดทั้งคืน แต่ปรากฏว่าข้างกายเขากลับว่างเปล่า มีเพียงร่องรอยยับย่นบนผ้าปูที่ยืนยันว่า เมื่อคืนเขาไม่ได้อยู่คนเดียว กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของร่างบางยังติดอยู่บนปลอกหมอน ในเมื่อเขาเป็นคนอุ้มเธอกลับมาจากที่ไซต์งานมาต่อที่ห้องด้วยตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับหายไปไหน“หนีไปอีกแล้วสินะ”ร่างแกร่งหยัดกายลุกเอนหลังพิงหัวเตียง มือหนาเอื้อมคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียง ก่อนจะเปิดเช็กบางอย่าง เพราะเขารู้ดีว่าคนตัวเล็กมักจะชอบโพตทุกอย่างไว้บนสตอรี่ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม แต่เช้านี้มันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยเรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ความเงียบในห้องยิ่งทำให้ความรู้สึกข้างในวาวโรจ์นขึ้นมา ลมโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด“ได้ฉันแล้วจะทิ้งเหรอ”เสียงทุ้มพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทิ้งเขาไว้คนเดียวบนเตียงแบบนี้ร่างแกร่งลุกขึ้นจากเตียงด้วยร่างกายเปื่อยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแดงและการขีดข่วนจากปลายเล็บ ลมยังคงเดินหาใครบางคนจน
จูบที่เริ่มจากการรุกเร้าเบา ๆ กลับกลายเป็นไฟราคะที่ลุกโชน ริมฝีปากหนาไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้พัก มือใหญ่เลื่อนจากแผ่นหลังขึ้นมากดท้ายทอยเล็ก รั้งเธอให้รับแรงจูบลึกขึ้นเรื่อย ๆ“อื้อออออ”มือหนาอีกข้างเลื่อนต่ำมาทาบเอวบาง ลากปลายนิ้วไปตามสันโค้งจนเธอสั่นสะท้าน ร่างเล็กที่นั่งบนตักเผลอขยับเบียดแน่นขึ้นทุกครั้งที่เขาดึงให้เข้าใกล้“ต้องการกันไหมครับ”ลมกระซิบเสียงพร่าแนบข้างหู ก่อนจะเล็มจูบลงมาตามแนวสันกรอบหน้า สัมผัสกับผิวเนียนที่แดงจัด“ฉัน…ไม่”คำคัดค้านเอ่ยขึ้นอย่างติด ๆ ขัด ๆ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวซุกลงมาตรงลำคอขาว มือเล็กเผลอเกาะบ่ากว้างแน่นเพื่อหาที่พยุง เสียงหัวเราะทุ้มพร่าเล็ดลอดจากลำคอเขา เมื่อเห็นร่างบางสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขน“ร่างกายเธอมันกำลังต้องการฉัน”ลมกดจูบหนักลงที่ซอกคอ ฝากทิ้งร่องรอยรักแดงสีกุหลาบอย่างไม่ยอมออมแรง ขณะมือหนาบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามเอวบางและสะโพกกลม จนเธอคล้อยตามไปกับสิ่งที่เขากำลังนำพาเธอไปคนตัวเล็กเริ่มหอบหายใจถี่ หน้าแดงจัดจนแทบลามไปถึงหู ทั้งร้อน ทั้งอาย แต่กลับมีเพียงเสียงครางกระเส่าที่หลุดออกมาเบา ๆ เท่านั้น“อื้มมม ลม”แต่คนตั
ลมเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ ด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ แต่กลับกดดันจนเธอรู้สึกเหมือนถูกบังคับกลาย ๆ ร่างบางชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะนั่งลงไปอย่างเสียไม่ได้ ทว่าประตูปิดลง กลิ่นกายอุ่นที่คุ้นเคยจากเมื่อคืนก็โอบล้อมเข้ามาในพื้นที่แคบทันทีร่างบางรีบเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่าง เพราะกลัวจะเผลอใจสั่นจากความใกล้ชิดที่ที่เกิดขึ้น“ทำหน้าเหมือนถูกลากมาขาย”น้ำเสียงทุ้มแฝงรอยหัวเราะดังขึ้นจากเบาะข้าง ๆ ซีลีนหันขวับไปมองตาขวางทันที“แต่นายบังคับฉันมาอย่างไม่เต็มใจ”ลมเหลือบตามองเธอเพียงเสี้ยววินาที ริมฝีปากหนายกยิ้มกวน ๆ ก่อนโน้มตัว เอื้อมมือข้างหนึ่งมาดึงสายคาดเบลต์ข้ามตัวเธอแล้วกด ล็อกแน่น ด้วยท่าทีธรรมดาราวกับไม่มีอะไร แต่ใกล้ชิดกันจนลมหายใจของเขาเป่ารดต้นคอ ก่อนที่เข้าจะใช้ปลายจมูกไล้ผิวแก้มเธอเบา ๆ ทำเอาหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง“บังคับ?” เขาทวนคำแล้วกระซิบเสียงต่ำข้างใบหู แต่ไม่ยอมขยับออกไปไหน“ฉันแค่มาตามหาคนรับผิดชอบ เพราะเมื่อคืนมีคนขโมยกอดฉันแน่นไม่ยอมปล่อย”แก้มใสของซีลีนแดงวาบขึ้นทันที เธอยกมือผลักอกเขาแรง ๆ พลางหันหน้าหนี“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะลม!”เสียงหัวเราะทุ้มดังขึ้นในรถ เขายกมือกลับไปจับพวงมาลัยอย่
เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนลอดผ่านผ้าม่านสีขาวร่ำไร ร่างสูงขยับพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตา ภาพตรงหน้าคือห้องสีขาวเรียบดูสะอาดตาแต่กลับเป็นห้องที่เขารู้สึกไม่คุ้นชิน ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบมันกลับเต็มไปด้วยรายละเอียดที่บอกตัวตนเจ้าของห้องชัดเจนกรอบรูปหญิงสาวในชุดต่าง ๆ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และกลิ่นน้ำหอมบางเบาที่เป็นเอกลักษณ์ของใครบางคนที่เขาจำได้ดี“ปวดหัวชะมัด”เสียงทุ้มพร่าต่ำเอ่ยกับตัวเอง เขาลุกขึ้นนั่งพลางยกมือกุมขมับความหนักอึ้งจากอาการแฮงค์เมื่อคืน ยังตามมาหลอกหลอนเขาในเช้านี้ สายตาคมยังคงมองหาเจ้าของห้องที่ที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน และเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง“หึ ยัยคุณหนูตัวแสบ”ทว่ายังไม่ทันที่ลมจะทำอะไรต่อ ภาพเลือนรางในหัวก็ปรากฏขึ้นมาในตัวทีละน้อย สัมผัสอ่อนนุ่ม และกลิ่นกายหอมบางเบาเหมือนกลิ่นของเจ้าของห้อง อ้อมแขนที่เขาโอบรั้ง และริมฝีปากนุ่มที่เขาบดจูบซ้ำ ๆ ไม่ยอมปล่อยก็ฉายชัดขึ้นมาริมฝีปากหนายกยิ้มจาง ๆ โดยไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เดินสำรวจไปรอบห้องกลับไม่เจอคนตัวเล็ก ความสงสัยก็แล่นเข้ามาแทนที่“หายไปไหน”เขาพึมพำเบา ๆ ขณะทอดสายตาไปยังผ้าห่มที่พับวางเรียบร้อยข้างกันบนเ
เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยคึกคักในช่วงหัวค่ำค่อย ๆ จางหาย เหลือเพียงเสียงแมลงและสายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านกายแทน โต๊ะไม้ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนและอาหาร ตอนนี้เหลือแค่แก้วเหล้ากระจัดกระจาย และทีมงานที่กำลังฟุบหน้าลงบนโต๊ะเมาหลับไปทีละคนลมเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้อย่างทิ้งตัว ดวงตาคมแสนเจ้าเล่ห์เริ่มพร่ามัวเล็กน้อย บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์อบอวลคละคลุ้งจนคนตัวเล็กต้องส่ายหน้าระอา“นายเมามากแล้วนะ”ซีลีนกดถามเสียงต่ำ ขมวดคิ้วมองร่างสูงที่หมดสภาพไม่ต่างจากคนอื่น ๆ“ใครเมา ไม่มี” เขาตอบเสียงต่ำแหบพร่ายืดยาวจนฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองช้า ๆ“สภาพแบบนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เมา”“ฉันไม่ได้เมาสักนิด”“ยกไม่พักแบบนั้นจะเหลือเหรอ” เธอบ่นพลางดันแก้วออกห่าง เขาหัวเราะเบา ๆ สภาพของทุกคนตอนนี้ดูไม่ต่างกันเลยสักนิด“ที่ห้าม เพราะเธอเป็นห่วงฉันใช่ไหม ยัยตัวแสบ”“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย”เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหนาเฉียดแก้มเนียนใสไปเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อตั้งสติจ้องมองคนตัวเล็กด้วยแววตาพร่ามัว แต่แฝงไปด้วยจริงจังจนหัวใจของเธอเต้นแรง ใบหน้าร้อนผาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่







