“เป็นอะไรยะยัยบริ้งค์ หน้าง้ำหน้างอขนาดนี้ แกทะเลาะกับพี่ไปป์มาอีกแล้วเหรอ?"
“ทะเลาะอะไรล่ะ ไอ้พี่ไปป์แม่งขอเลิกกับฉันแล้ว ฮือออ~"
ตะโกนจบบริ้งค์ก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร ทำเอาเคทกลอกตามองบนหลังได้ยินคำพูดเดิม ๆ เป็นรอบที่ร้อย แต่ก็มักไม่จริงเสมอไป
บริ้งค์คือเพื่อนสนิทของเธออีกคน เป็นหญิงสาวผู้คลั่งไคล้คนหล่อและบูชาความรักยิ่งชีพ คบหาดูใจกับรุ่นพี่มาได้ปีกว่า แต่กลับเป็นคู่ที่ทะเลาะกันบ่อยเสียยิ่งกว่ามื้ออาหาร เรียกได้ว่า ‘หนึ่งวันดี สิบสี่วันไข้
“อ๊ะ ๆ ไหนว่ามาสิ?"
เคทหยิบทิชชูยื่นให้คนขี้แงที่นั่งสูดน้ำมูกอย่างน่าเวทนา แล้วตบหลังปลอบใจเพื่อนเบา ๆ
ไม่อยากออกความคิดเห็นมากนัก เพราะเธอหอนบ่อยจนใกล้จะกลายร่างเป็นเสือสาวได้แล้ว
“ไอ้พี่ไปป์ ฮึก ๆ แม่งบอกกับฉันว่าเราเข้ากันไม่ได้ ฮือออออ เข้ากันไม่ได้ตรงไหนวะ เข้ากันไปตั้งหลายรอบแล้ว!
เคทหลุดขำพรืดออกมาทันทีที่ฟังจบ ก่อนจะรีบกลั้นเสียงเมื่อสบเข้ากับสายตาเกรี้ยวกราดของคนข้าง ๆ
“โทษ ๆ ฉันลืมตัว ฮ่า ๆ ถ้าจะตะโกนป่าวประกาศดังขนาดนี้เอาไมค์เลยไหมละแม่คุณ! หรือจะฉายวิดีโอประกอบขึ้นโปรเจคเตอร์ดี"
“ยัยเพื่อนชั่ว! ฉันเสียใจอยู่นะยะ ทำไมต้องซ้ำเติม! ซันจ๋าาาา ปลอบใจเค้าหน่อยยย"
บริ้งค์พูดกับเคทเสร็จก็เอนตัวไปซบไหล่ซันที่อยู่ข้างๆ แล้วใช้ศีรษะถูไถหัวไหล่ชายหนุ่มไปมา มิหนำซ้ำยังยกแขนขึ้นคล้องคอไม่ให้อีกฝ่ายลุกหนีอีกต่างหาก
เคทได้แต่ส่ายหัวด้วยความระอากับความหน้ามึนของเพื่อนที่อยากหลอกแตะอั๋งผู้ชาย จนแม้แต่เพื่อนสนิทตัวเองก็ยังไม่เว้น
"นี่! อย่าปล้ำซันมันนะยะ ฉันไปเข้าห้องน้ำแปบ"
“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม"
ซันคว้าข้อมือเล็กไว้พลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังไม่เมาแต่คนอื่นในร้านมันไม่ใช่ อีกอย่าง....
“ไม่เป็นไร ๆ นายนั่งเป็นเพื่อนยัยบริ้งค์เถอะ อย่าให้มันไปฉุดใครมาทำมิดีมิร้ายก็แล้วกัน!"
เคทตบมือหนาที่ยึดข้อมือเธอเบา ๆ ให้เขาคลายมือออก ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำในโซน VIP ของร้าน
ด้วยความที่พวกเธอเป็นลูกค้าประจำที่มาเที่ยวแทบทุกวันจึงสนิทกับ Security Guard ที่นี่ พวกเราจึงแอบเข้าไปใช้บริการห้องน้ำในโซน VIP ของร้านได้โดยไม่ต้องเปิดบัตรเมมเบอร์วีไอพีเพื่อสแกนเข้าเฉกเช่นคนอื่น
ถึงแม้จะเคยมีความทรงจำไม่ดีที่นี่แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือคลับที่ดีที่สุดในย่านนี้แล้ว อีกทั้งเคทยังชอบโซน VIP ของที่นี่เอามาก ๆ
เพราะบรรดาลูกค้าที่มาใช้บริการโซนนี้นั้นมีแต่พวกดารา คนที่มีชื่อเสียงหรือแม้แต่นักธุรกิจที่ล้วนแต่หล่อและรวยเกินครึ่ง
อยากเปิดเมมเบอร์มากเลยแต่ไม่มีเงินมากพอ เพราะเงินก้อนนั้นมันสามารถจ่ายค่าเทอมเธอได้ทั้งปีเลยน่ะสิ
ครั้นจะดึงเงินเก็บในอนาคต หรือขอที่บ้าน ก็ใช่เรื่องที่จะอ้างได้ แถมพี่ชายตัวดีก็เที่ยวที่นี่เป็นประจำ ขืนทำแบบนั้นคงจะโดนพี่ตีก่อนพ่อจับได้เสียอีก
ร่างบางก้มหน้าก้มตาพิมพ์ยุกยิก ๆ ไปด้วย ขณะเดินทอดน่องไปยังห้องน้ำในโซน VIP อย่างคุ้นชิน
พลั่ก!!!
ด้วยความมึนเมาบวกกับไม่ทันระวังเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตากดมือถือ ทำให้เคทเผลอเดินชนผู้ชายที่กำลังเลี้ยวออกมาจากห้องน้ำชายเต็มแรง
โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่เพิ่งถอยมาได้เดือนเดียว กระเด็นหลุดออกจากมือเรียว ลอยละลิ่วไปไกลก่อนจะตกลงกระแทกพื้นเสียงดัง
ปึก!!
“Shit! หน้าจอลงแบบนี้ ไม่เหลือแล้วแน่นอน"
เคททำตาโตด้วยความตกใจ เผลอสบถคำหยาบคายเบาๆ อย่างลืมตัว ก่อนจะกุลีกุจอก้มลงไปคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสำรวจความเสียหาย
ฮือออ หน้าจกแตกร้าวเป็นริ้วๆ เลย และเครื่องก็ ดะ...ดับ ดับไปแล้ว!
“เอาอันนี้ไปใช้แทนก่อน"
คนตรงหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่เป็นรุ่นเดียวกันทว่าตัวเครื่องมีสีดำมาให้ตรงหน้า
เคทเงยหน้ามองคนใจป้ำด้วยความประหลาดใจระคนสงสัย
บ้านรวยมากสินะยะถึงกล้าให้คนอื่นเค้าได้ง่าย ๆ แบบนี้ ที่บ้านมีพิมพ์เขียวหรือไง
“ไม่เป็นไร ๆ ช่างมันเถอะค่ะ ความผิดของฉันเองที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ"
เคทผลักโทรศัพท์มือถือกลับคืนให้ผู้เป็นเจ้าของพลางเอ่ยปัดอย่างไม่ใส่ใจนัก
เธอลองจิ้ม ๆ เคาะ ๆ หน้าจอโทรศัพท์มือถือตัวเองดูอีกสองสามที เมื่อแน่ใจว่าตายสนิทแล้ว จึงหันหลังเดินกลับโต๊ะตัวเองด้วยสีหน้าเซ็งๆ
ไม่กงไม่กินมันวันนี้ อารมณ์ไม่ดีแล้วเว้ยยย
แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เดินออกจากจุดนั้นไปไกล เพียงแค่หมุนตัวหันหลังมาก็พบกับผู้ชายอีกสองคนยืนขวางทางอยู่
เธอกลอกตามองบนทันทีที่เห็นใบหน้าของ 1 ในชายกลุ่มนั้น เพราะนั่นก็คือ ‘พี่ต้นน้ำ’ รุ่นพี่สาขาที่ตามตื้อเธอมาตั้งแต่วันรับน้องจนถึงปัจจุบัน
ไม่ยักรู้ว่าเปิดเมมเบอร์ด้วย แต่ก็นะ! ช่างเลือกเวลามาเจอกันได้เหมาะเจาะเสียจริ้งง
และไม่หยุดคิดให้เสียเวลา!ใบหน้าคมฟุบลงกลางกายสาวอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียลงบนยอดเกสรระรัว มือกดล็อคร่างบางที่ดิ้นพล่านเอาไว้แน่นแล้วใช้มืออีกข้างกดนิ้วกลางแทรกเข้าไปด้านในจนสุดความยาว“ฮืมมม แน่น”แค่นิ้วยังแน่นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเกิดเป็นของเขาสอดเข้าไป มันจะแน่นสักแค่ไหน กวินครางงึมงำแล้วเร่งจังหวะปลายลิ้นให้เร็วขึ้น นิ้วมือชักเข้าออกรัวเร็วก่อนเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปอีก“อื้อออ เจ็บ!”เคทนิ่วหน้าสะดุ้งกับความคับแน่นกลางกาย ร่างกายร้อนรุ่มไปทั้งตัว รู้สึกเจ็บแปลบและเสียวซ่านปะปนกันไป ขาเรียวเหยียดเกร็งสั่นระริก มือเล็กสอดเข้าใต้เรือนผมดกดำดึงทึ้งเพื่อระบายความเสียวซ่านที่กำลังโจมตีเธออย่างต่อเนื่องร่องรักคับแคบตอดรัดระรัวทำให้เขารับรู้ได้ว่าหญิงสาวกำลังจะแตะเส้นชัยในไม่ช้า เขาเร่งความเร็วของนิ้วมือมากขึ้นพร้อมทั้งดูดดึงยอดเกสรอย่างแรงสะโพกอวบยกลอยขึ้นตามลิ้นร้อนเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจนชุ่มฉ่ำ“พะ...พอก่อน อะ อ๊าย”ร่างบางทิ้งสะโพกลงบนที่นอนอย่างหมดแรง เสียวสะท้านจนแก้มนวลแดงระเรื่อกับการเสร็จสมอย่างรุนแรงหอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ท้องน้อยว
“รอบนี้เอาเบา ๆ ก็พอ ไม่ต้องให้ถึงตาย”กวินสั่งการเสียงเย็นเยียบทิ้งท้าย ก่อนจะช้อนตัวหญิงสาวขึ้นอุ้มแนบอกเดินออกมายังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ในโซน VVIP เขาวางร่างบางลงบนเบาะแล้วรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย“เห็นที่วันนี้คงต้องสั่งสอนกันยาว โทษฐานที่เธอหนีเที่ยว!”กวินกล่าวคาดโทษคนเมาแล้วขับรถมุ่งตรงไปยังเพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวสุดหรูในย่านสุขุมวิทเพียงไม่กี่นาทีจากคลับ รถยนต์คันหรูก็แล่นเข้าไปจอดในที่ประจำใต้ตึก ลิฟท์ส่วนตัวเคลื่อนขึ้นสูงหลังเขาสแกนลายนิ้วมือแล้วกดชั้นที่ต้องการเขามักจะแวะมานอนที่นี่เป็นประจำเพราะไม่อยากกลับไปเหยียบบ้านหลังเก่า นอกจากเดินทางสะดวกสบายแล้วยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม หมดห่วงเรื่องนักข่าวที่ตามเกาะแกะให้รำคาญใจติ้ง!ประตูลิฟท์เปิดกว้างพร้อม ๆ กับประตูบ้านที่เป็นกระจกขนาดใหญ่เลื่อนเปิดปิดอัตโนมัติ กวินก้าวเท้าเข้าไปในห้องก่อนจะวางร่างบางลงบนเตียงที่ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนย่างกรายเข้ามานอนบนนี้มาก่อน“อืมมม ใครน่ะ?”เคทผุดลุกขึ้นนั่งพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อเอ้ เธอเอียงคอแล้วปรือตาพยายามเพ่งมองใบหน้าคมคายตรงหน้าอย่างตั้งใจมือเล็กยกขึ้นประกบสองแก้มสากแล้
Happy birthday to youHappy birthday to youHappy birthday dear SunHappy birthday to you ~ มือเล็กประคองเค้กผลไม้ในมือ ด้านบนปักเทียนวันเกิดเป็นตัวเลข 22 ถูกจุดสว่างไสวส่องให้มองเห็นใบหน้าสวยของหญิงสาวผู้ถือเค้กอย่างชัดเจนหัวใจแกร่งพองโตจนคับอกขณะจ้องมองหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างบางก้าวเดินผ่านผู้คนมากมายตรงไปหาเพื่อนชายคนสนิท ปากเล็กเอ่ยร้องเพลงคลอไปด้วย ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเจ้าของวันเกิด“Happy birthday มีความสุขมาก ๆ นะ”เคทคลี่ยิ้มละมุนยื่นเค้กให้ซันอธิษฐานแล้วเป่าเทียน เสียงปรบมือประสานกับเสียงโห่แซวชายผู้โชคดีดังสนั่นซันยกแขนขึ้นคล้องคอหญิงสาวรั้งเข้ามาใกล้พลางกระซิบขอบคุณข้างหู ท่ามกลางสายตายินดีปนอิจฉาของบรรดาหนุ่มๆ น้อยใหญ่ที่กำลังมองดูอย่างสนอกสนใจ เพราะหญิงสาวถือได้ว่าเป็นระดับดาวเด่นในคลับเลยก็ว่าได้กวินยกแก้วที่บรรจุแอลกอฮอล์ดีกรีสูงไร้มิกเซอร์ผสมขึ้นดื่มจนหมด ก่อนกระแทกแก้วลงบนเคาน์เตอร์บาร์อย่างแรง สายตาคมกริบจ้องมองคู่ชายหญิงที่ยืนใกล้ชิดกันอยู่อย่างไม่วางตาทั้งสองเอาแต่กระซิบกระซาบกันแล้วหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุขราวกับโลกทั้งใบมีเพียง
โชคดีที่ไฟลท์กลับเป็นรอบเช้า เคทจึงไม่ต้องอยู่ใกล้กับเขานานเกินไป เธอยกผ้าห่มขึ้นคลุมปิดหน้าตลอดการเดินทางเพราะยังทำใจมองหน้าหรือพูดคุยกับเขาเหมือนเดิมไม่ได้ เหตุการณ์เมื่อคืนยังคงติดตาตรึงอยู่ในความทรงจำไม่จางหาย ทั้งอายทั้งสับสนปนเปกันไปหมดทันทีที่เดินพ้นประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้า เธอก็รีบหันมาก้มหัว กล่าวอำลาท่านประธานอย่างเป็นทางการ“ขอบคุณที่ให้ลาหยุด ไว้วันจันทร์จะรีบทำรายการสรุปการประชุมไปให้นะคะ สวัสดีค่ะ”กวินมองตามแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาววิ่งหน้าตั้งหนีหายไปแล้วยกยิ้มมุมปาก ทั้ง ๆ ที่ลึกซึ้งกันจนถึงขั้นนั้นแล้ว ทำไมเธอก็ยังคงเว้นระยะห่างจากเขาอยู่ดี แถมดูเหมือนว่ามันจะยิ่งถูกเว้นให้ห่างมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก สงสัยคงต้องทำการกระชับมิตรกันหน่อยแล้วครืดดดด ครืดดดด‘เตชินท์’เสียงโทรศัพท์สั่นเตือนสายเรียกเข้า กวินมองรายชื่อที่โชว์แล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรมา“เออว่าไง!”( ได้ข่าวว่ามึงเหมาโรงแรมกูหมดเลยเหรอครับคุณกวิน )“เออ! ทำไม? ก็กูรวย!”( พาหญิงไปเชือดไกลนะมึง )“มึงมีธุระกับกูแค่นี้ใช่ไหม แค่นี้นะกูยุ่งอยู่!”กวินตัดสายทิ้งโดยไม่รอให้อีกฝ่
“ถึงคิวของฉันแล้ว”มือหนาอันสั่นเทารีบปลดเปลืองเครื่องแต่งกายของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แล้วโยนไปกองรวมกันอย่างไม่ใส่ใจ เขาดึงร่างบางให้ขยับเข้ามาใกล้ในท่าเตรียมพร้อม อีกมือหยิบซองอุปกรณ์เสริมออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่กองอยู่ใกล้มือ“ไม่ ไม่นะ ฉันไม่ให้ทำนะ!!”เคททำตาโตหลังมองเห็นท่อนลำใหญ่โตที่กำลังชี้หน้าเธออย่างเต็มตา ขาเรียวหุบเข้าหากันแน่น กระเถิบถอยหนีไปจนสุดทางของระเบียงพลางส่ายหน้าระรัว ร้องปฏิเสธเสียงสั่น“อะไรวะ มาถึงขั้นนี้แล้วเธอคิดว่าจะรอดเหรอ มานี่!”กวินพ่นลมหายใจหนักๆ ด้วยความหงุดหงิดที่หญิงสาวออกแรงดิ้นหนี เขากระชากคนตัวเล็กให้กลับมาอยู่ในท่าพร้อมรบ แต่พอมองเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอเต็มสองเบ้าด้วยความหวาดกลัวของคนใต้ร่างก็ทำต่อไม่ลงกวินผละออกห่างแล้วเดินหนีเข้าไปข้างในทั้งที่ยังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ ทั้งโมโหทั้งอารมณ์ค้าง และตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะมานั่งจัดการด้วยตัวเอง แต่ถ้าปล่อยไว้ก็คงนอนทรมานจนเช้าแบบเมื่อคืนอีกถึงเขาจะฟาดฟันมาหลายสนามแต่ก็ล้วนเป็นความเต็มใจของคนทั้งสองฝ่าย และไม่นิยมบังคับข่มขืนใจใครให้นอนกับเขาอีกด้วยเสียงโครมครามดังลอยออกมาจากด้านในห้องนอน ทำเอาเค
ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมงก็มีใครบางคนเริ่มเมาอย่างไม่รู้ตัวเสียแล้ว แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู“ออกไปนั่งดูดาวด้วยกันไหมคะ”เคทเอ่ยชักชวนเสียงใสพลางหอบเครื่องดื่มออกไปวางที่นอกระเบียงโดยไม่รอคำตอบรับ เธอลงมือดึงผ้าห่มสำรองที่เพิ่งได้มาจากแม่บ้านมาปูพื้นและวางหมอนใบโตไว้รองหลังกันเมื่อยสำหรับคนสองคนเสร็จสรรพ แล้วยกมือเล็กขึ้นกวักเรียกอีกฝ่ายให้ตามมาพร้อมรอยยิ้มหวานกวินหัวเราะเบา ๆ กับความน่ารักของเด็กดื้อ เดินตามออกไปนั่งลงข้าง ๆ เธออย่างเอาใจความอึดอัดคลายตัวลงไปพร้อมกับคนทั้งคู่ที่เริ่มเผยตัวตนออกมามากขึ้น อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะความรู้สึกพิเศษบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจคนทั้งคู่อย่างช้า ๆเริ่มเกิดเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เคล้าคลอกับเสียงเพลงที่หญิงสาวเปิดทิ้งไว้เพื่อทำลายความเงียบ“ยิ้มก็เป็นนี่คะ ทีหลังยิ้มบ่อย ๆ สิ คุณยิ้มแล้วดูดีออกนะคะ”ราวกับมีกระแสไฟแล่นผ่านไปทั่วร่าง! รอยยิ้มแข็งค้างบนใบหน้าคมคายเมื่อมือเล็กประกบเข้าที่สองแก้มสากแล้วบีบมันเบาๆ กวินจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของเธอที่บัดนี้หยาดเยิ้ม จนให้ความรู้สึกคล้ายกำลังยั่วยวนชายหนุ่มอยู