Home / โรแมนติก / สัมผัสร้าย สัมผัสรัก / สัมผัสร้าย 2 ความผิด (4)

Share

สัมผัสร้าย 2 ความผิด (4)

Author: Yaygoh
last update Last Updated: 2025-10-29 18:54:39

ฉันสลับหน้าจอมาทักไลน์หาพี่แสงหลังถ่ายรูปกระเป๋าให้กอล์ฟเสร็จ แต่พี่แสงไม่อ่านไลน์เลย เขาเป็นแบบนี้อีกแล้ว แรกๆ ที่คบกันใหม่ๆ ก็อ่านตลอด ไม่เคยต้องให้รอ แต่หลังๆ ไลน์ไปไม่อ่าน ปล่อยเบลอข้ามวันก็มี พอถามก็บอกเรียนหนัก งานเยอะ ไม่มีเวลาจับโทรศัพท์ บางทีไปทำงานห้องเพื่อนเป็นอาทิตย์ ฉันเคยไปนั่งเฝ้าสมัยจีบกันใหม่ๆ ก็เห็นเขาทำงานจริงๆ นั่งขลุกอยู่หน้าจอคอม เขียนแบบ ออกแบบแปลนอาคารหลายสิ่งอย่าง แรกๆ ฉันก็ชื่นชมอยู่หรอกแต่หลังๆ ก็เซ็ง เลิกเฝ้า เลิกตาม กลับมานอนเล่นที่ห้องสบายใจกว่า

อย่าว่าแต่พี่แสงที่หมดโปรโมชั่น ฉันเองก็ไม่ได้หวานเหมือนวันแรกที่คบกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าชอบน้อยลง ฉันยังอยากเอาใจเขา อยากให้เราเข้าใจกัน และอยากให้เขาเห็นฉันเป็นคนสำคัญเหมือนเดิม

เพียงแต่… ฉันไม่เข้าใจทำไมต้องรู้สึกเหงาและหดหู่ขนาดนี้ 

ติ้ง!

ลูกกอล์ฟ : เจ้ ลูกค้าอยากดูของจริง

ฉันขมวดคิ้วเมื่อเห็นข้อความกอล์ฟเด้งขึ้นมา

เทียน : เอาจริงๆ หรือเปล่า

ลูกกอล์ฟ : นางบอกถ้าถูกใจก็พร้อมโอน แต่ต้องดูสภาพจริง นางคงกลัวแบบย้อมแมวขายไรงี้

เทียน : อืมๆ ได้ งั้นแกมาเอาไป 

ลูกกอล์ฟ : เดี๋ยวอิเจ้ ฉันไม่ว่าง แกต้องไปเจอลูกค้าเอง

เทียน : เฮ้ยมันจะดีเหรอ ถ้าเกิดนางรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันก็ซวยสิ

ลูกกอล์ฟ : งั้นเอาไงล่ะ นางขอดูวันนี้ แกอย่ามาคิดมาก มันไม่มีอะไรหรอก

เทียน : ฉันจะเชื่อได้ไง

ลูกกอล์ฟ : อิเจ้ ไม่มีใครมานั่งจับผิดแกหรอก คิดมาก เออๆ เดี๋ยวฉันเลื่อนลูกค้าแล้วกัน แต่ไม่รับรองนะว่านางจะรอ เนี่ยฉันบอกนางว่าวันอื่นได้มั้ย นางถามกลับว่าตกลงมีของจริงหรือเปล่า 

ฉันมองข้อความของกอล์ฟแล้วคิดหนัก ปกติเวลาปล่อยของฉันจะปล่อยผ่านนาง ไม่เคยคุยกับลูกค้าเอง ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องถึงหูพี่แสง แต่เขาก็มีถามๆ บ้างนะว่าของไปไหนหมด ฉันก็ได้แต่ปั้นหน้าใสซื่อตอบไปว่าเอากลับไปเก็บที่บ้านแม่ แฮร่

เทียน : เอาชื่อลูกค้ามาสิ ฉันจะเข้าไปส่อง ถ้าไม่ใช่คนใกล้ตัว ฉันจะเอาไปให้ดู

แล้วลูกกอล์ฟก็แคปรูปโปรไฟล์ลูกค้าส่งมาให้ฉัน

บรื๋น!!!

ฟ้าววว

รถสองสามคันวิ่งแซงวินมอเตอร์ไซค์ที่ฉันนั่งไปแบบความเร็วแสง ลมตีกลับพัดวูบจนมอเตอร์ไซค์เซ ผมปลิวไสวพันหูพันตายุ่งเหยิงไปหมด ฉันยึดราวท้ายเบาะจนตัวเกร็ง อีกมือกอดกระเป๋าเอาไว้แน่น 

เมื่อกี้นี้อย่างกับกำลังขับรถแข่งกันอย่างงั้นแหละ

พอตรงมาเรื่อยๆ ก็เริ่มเห็นคนอยู่ตามไหล่ทางเยอะขึ้นเหมือนมารอชมอะไรสักอย่าง ตอนที่ลูกค้านัดมาที่นี่ฉันก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่นางบอกคนอยู่เยอะ ไม่น่ากลัว ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรซอกแซก เห็นว่าพี่แสงไม่อยู่พอดี โอกาสเหมาะก็เลยออกมา 

“พี่จอดแถวๆ นี้ก็ได้ค่ะ” ฉันบอกพี่วินมอเตอร์ไซค์เมื่อมาถึงที่ที่คนชุมนุมกันเยอะๆ แล้วรีบโทรหาลูกค้า “ฮะโหล ถึงแล้วนะคะ ตัวเองอยู่ไหน”

กระเป๋าที่ขายเป็นทรงคลัทช์ ใส่ไปเที่ยวผับหรือออกงานก็เก๋ดี ซื้อมาเกือบแปดหมื่น แต่ขายต่อเจ็ดหมื่น เพิ่งใช้แค่สองครั้ง ไม่มีตำหนิ ใครได้ไปคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

[อยู่ตรงไหน เห็นป้ายไฟหรือเปล่า ก่อนถึงโค้งที่มีซุ้มขายน้ำ]

ซุ้มขายน้ำเหรอ ฉันรีบสแกนไปรอบๆ ทันที

“อ่อ เห็นแล้ว อยู่ตรงนั้นเหรอ”

[เปล่า]

“อ้าว”

[อยู่ฝั่งตรงข้าม ใส่แจ็กเกตหนังสีขาว แล้วเธอ...]

“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวเดินไปหา”

ฉันตัดสายทันทีที่รู้พิกัด เดินข้ามถนนไปอย่างรีบร้อน แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ๆ ก็มีแสงสว่างจ้าโผล่มากะทันหัน

ปี้นนนนน

“กรี้ดดดดด”

เอี๊ยด!!!

ฉันใจหายวาบ เข่าอ่อนล้มพับลงกับพื้น ได้ยินเสียงร้องโหวกเหวกดังมาจากสองฝั่งถนน แต่ไม่ยักมีใครวิ่งเข้ามาดูราวกับเป็นสิ่งต้องห้าม

ยกเว้น...

ปึ้ก! เสียงปิดประตูรถดังก้องท่ามกลางบรรยากาศเงียบกริบ เวลารอบตัวคล้ายหยุดเดินไปชั่วขณะ ช่วงขาเรียวยาวก้าวมาหยุดตรงหน้า ฉันไล่สายตาขึ้นไปมองทันที แสงไฟหน้ารถส่องแยงตาจนทำให้มองอะไรไม่เห็นชั่วขณะ แต่ไม่นานสายตาฉันก็ปรับตัวได้

“เรซ”

หัวใจฉันกระตุกไหวเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร ลนลานลุกขึ้นแต่ว่า

ข้อเท้าฉันปวดจนยืนไม่ไหว ทรุดลงกองกับพื้นเหมือนเดิม

“เธอคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

เสียงเย็นยะเยือกดังลอดไรฟัน เรซท่าทางโกรธจัด กระชากต้นแขนฉันขึ้นไปอย่างไม่ปรานีปราศรัย

“โอ๊ย เรซ… ฉันเจ็บ”

ฉันนิ่วหน้า ยืนซวนเซเพราะข้อเท้าที่ปวดหนึบ แต่ว่าเรซไม่แม้แต่จะถามอะไรฉันด้วยซ้ำ เขาลากฉันออกมาก่อนจะเหวี่ยงออกข้างทางอย่างเกะกะ

“กรี๊ด! ทำบ้าอะไรของนาย” ฉันถลาไปชนกับถังขยะดังโครม หันกลับไปมองเรซอย่างโมโห เจ็บก็เจ็บแต่ว่าการกระทำที่ป่าเถื่อนของเรซทำฉันโกรธจนแทบคลั่ง หมอนั่นไม่พูดอะไรสักคำ ผลักฉันจนกระเด็นแล้วเดินกลับไปขึ้นรถขับออกไปทันที 

ลมร้อนๆ ตีแสกหน้า หัวใจฉันเต้นไม่เป็นส่ำ ยังรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่หาย เมื่อกี้เกือบจะโดนรถชนแถมคนขับยังเป็นเรซ นอกจากจะไม่ปลอบใจแล้วยังหยาบคายกับฉันอีก ทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้ 

ฉันกำมือแน่น นึกแค้นเรซจนอยากหักคอเขาจริงๆ ก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น

ฉันมองเบอร์ลูกค้าที่โทรเข้ามาอย่างใจหายใจคว่ำ พลันระลึกถึงกระเป๋าทันที แต่ว่าตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีแค่โทรศัพท์กับเงินไม่กี่ร้อยที่ซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง ส่วนกระเป๋าที่หอบหิ้วก่อนหน้านี้นั้น…

สายตาฉันเหลือบมองเข้าไปในถนนอย่างกลั้นหายใจ ก่อนจะเห็นกระเป๋าราคาหลายหมื่นหล่นอยู่ตรงนั้น ฉันกล้ำกลืนความเจ็บที่ข้อเท้า รีบร้อนวิ่งกลับเข้าไปในถนนโดยไม่สนสายตาใครทั้งนั้น 

“ไม่จริง… ไม่นะ ต้องไม่ใช่แบบนี้”

ฉันอ้าปากค้าง ทรุดตัวลงหยิบชาแนลที่ถูกเหยียบจนแบนขึ้นมาดูหัวใจสลาย รอยล้อรถของเรซที่ฝังแน่นบนกระเป๋าใบละเกือบแสนทำฉันกรีดร้องออกมาอย่างสติแตก

“กรี๊ดดดดดด ไม่จริ๊งงงงงง”

ฉันยังสั่นไม่หยุด หลังจากเดินลากเท้าออกจากถนนด้วยหัวใจที่แตกสลายก็มายืนลนลานข้างเสาไฟ คุยโทรศัพท์ด้วยเสียงที่แหบแห้ง

“ค่ะ”

[กระเป๋าจะได้ดูมั้ยคะ]

“คือ… เห็นใช่มั้ยว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นที่ถนน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสร้าย 5 เป็นแค่แม่บ้านก็ได้ (5)

    ความรู้สึกหนักอึ้งที่เคลือบทาเปลือกตาให้ความรู้สึกทรมานไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ฉันค่อยๆ ปรือตาขึ้นมองเพดานขาวโพลน ในคอแสบปร่า มือควานหาโทรศัพท์มาดูเวลา บ่ายโมง... ป่านนี้แล้วเหรอเนี่ยฉันดันร่างลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงข้างเตียง นั่งมึนอยู่อย่างนั้นไม่รู้จะเริ่มทำอะไรจากตรงไหนก่อน รู้อยู่อย่างเดียวคือร่างกายกำลังแย่เพราะถูกพิษไข้เล่นงาน ระหว่างที่กำลังกล้ำกลืนความเจ็บป่วยลงไปประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาเรซ...ฉันจ้องเขาอย่างแปลกใจ อยากถามว่ามีอะไรแต่เพราะเจ็บคอเลยไม่อยากพูด ได้แต่รอให้เรซบอกออกมาเอง เมื่อคืนหมอนี่เกือบจะต่อยฉันด้วยซ้ำ นี่นึกแล้วยังหลอนไม่หายเลย“ตื่นได้แล้วเหรอ”เสียงเย็นชามาพร้อมกับสายตาทิ่มแทง ซึ่งฉันเจอจนชิน ตอนนี้แทบไม่รู้สึกอะไรกับมันแล้ว“ฉันไม่สบายน่ะ นายกินอะไรหรือยัง ถ้ายังจะได้ไปทำให้ ส่วนเรื่องความสะอาดฉันขอเลื่อนแค่กๆ ไปเป็นวันอื่นได้มั้ย” ฉันไม่อยากถูกหาเรื่องว่าอู้งาน สภาพฉันตอนนี้ทำงานหนักๆ ไม่น่าไหวแต่แค่เตรียมอาหารคิดว่ายังพอทำได้เรซชักสีหน้าใส่ฉันเหมือนคนไม่รู้จักเจียมตัว ก่อนที่น้ำเสียงรำคาญกึ่งๆ โมโหจะดังขึ้น “แฮคมันซื้อยามาให้อยู่ข้างล่าง”“แฮค...”ฉันรีบ

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสร้าย 5 เป็นแค่แม่บ้านก็ได้ (4)

    เฮียโม้สรรพคุณที่พักตัวเองพลางขยิบตาส่งให้ยัยนั่นอย่างมีเลศนัย กลายเป็นศึกยื้อแย่งตัวยัยนั่นระหว่างเฮียกับไอ้แฮคขึ้นมากะทันหัน “เลิกเล่นกันได้มั้ย” ริกกี้หมดความอดทน พูดสวนขึ้นมาอย่างเหนื่อยหน่าย มันส่งสายตาเขียวขุ่นให้เฮียกับแฮคคนละทีก่อนเล็งสายตาคมกริบไปที่เทียน “เราไม่ต้องการแม่บ้านประจำ ที่นี่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์อยู่แล้ว” “จริง” ผมสำทับเสียงนิ่ง เทียนตวัดสายตาเขียวปัดมาทางผมคล้ายจะด่าว่าให้อยู่เงียบๆ ก่อนพูดกับริกกี้ด้วยใบหน้าที่น่าสงสาร “ขอร้องล่ะริกกี้เห็นใจฉันเถอะนะ ฉัน... เพิ่งเลิกกับแฟนแล้วเงินที่มีก็ไม่พอจะไปเช่าห้องใหม่ด้วย ฉันทำงานบ้านเก่ง ทำอาหารอร่อยด้วย ถ้าทุกคนให้ฉันอยู่ที่นี่ฉันสัญญาจะตั้งใจทำงานและไม่สร้างปัญหาให้เด็ดขาด นะ... ขอร้องล่ะ ฉันไหว้ก็ได้หรือจะให้กราบก็ยินดี” “เฮ้ยๆ เทียน” แฮคกับเฮียหมูรีบถลาเข้าไปรั้งยัยนั่นที่ทำท่าจะลงไปนั่งคุกเข่าแล้วประนมมือกราบทุกคนจริงๆ “ขอร้องล่ะ ฉันไม่มีที่ให้ไปแล้วจริงๆ” นัยน์ตากลมสวยแดงรื้น ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกกัดเม้มแน่น

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสร้าย 5 เป็นแค่แม่บ้านก็ได้ (3)

    ผมนั่งรอแฮคที่โซฟาในห้องโถงไม่ถึงห้านาทีมันก็ลงมา แฮคหยุดยืนอยู่ข้างโซฟา มันกับผมประสานสายตากันนิ่งอยู่เกือบหนึ่งนาที ไอ้แฮคก็ยักไหล่ เดินไปฉวยรีโมตเปิดทีวีแล้วหย่อนก้นลงนั่งโซฟายาวตัวเดียวกัน เว้นระยะห่างเอาไว้พอประมาณเสียงรายการทีวีช่วยผ่อนบรรยากาศลงเล็กน้อย ระหว่างผมกับมันเหมือนถูกความคิดของตัวเองกลืนกิน ไอ้แฮคก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน“มึงทำงี้ได้ไงวะ”น้ำเสียงมันปะปนไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งตกใจ โกรธ หรือแม้แต่เสียดาย ดวงตาคมกริบของแฮคเหมือนสว่านที่ต้องการจะเจาะเข้ามาในหัวผม “สัส กูเกลียดมึงจริงๆ เรซ”แล้วมันก็ถีบโต๊ะตรงหน้าไปทีหนึ่ง ไม่แรงมาก แต่ก็เพียงพอจะทำให้เกิดเสียงกระทบของที่เขี่ยบุหรี่เซรามิกโมเดลรถแข่งที่วางอยู่บนโต๊ะผมรู้ว่าแฮคมันอยากโวยวายเรื่องอะไร ผมไม่คิดแก้ตัว และไม่เห็นความจำเป็นต้องอธิบายเรื่องผมกับเทียนให้มันฟัง ต่อให้มันอยากรู้จนแทบคลั่งแล้วก็เถอะ“มึงไปตกลงอะไรกับยัยนั่น” ผมถามในสิ่งที่ตัวเองสนใจ ควานบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงออกมาจุดสูบ ก่อนหน้านี้ผมก็สูบไปตั้งเท่าไหร่แต่รู้สึกว่าสมองยังไม่ค่อยโล่งเลย ผมประเมินยัยนั่นต่ำไป ไม่คิดว่าการพามาที่นี่เพียงครั้งเดียว

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสร้าย 5 เป็นแค่แม่บ้านก็ได้ (2)

    หลังจากนั้น แฮคพาฉันขึ้นมาชั้นสอง เปิดประตูห้องที่อยู่ติดกับห้องที่มีชุดชั้นในของคะนิ้ง จูงกระเป๋าเดินทางฉันเข้าไปข้างใน“คืนนี้ก็ใช้ห้องนี้ไปก่อน” “คืนนี้? ...แล้วพรุ่งนี้ล่ะ” ฉันเหลือบมองไปทั่วห้องก่อนดึงสายตากลับมาจ้องแฮคด้วยสายตาหวาดๆ แฮคผ่อนลมหายใจยาว ท่าทางกลัดกลุ้มไม่แพ้กัน “ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินเรื่องนี้ จะว่าไงดี เรื่องนี้ฉันตัดสินใจเองไม่ได้” “งั้น... ทำยังไงฉันถึงจะอยู่ที่นี่ได้” “ถ้าเป็นผู้หญิงของใครสักคนในกลุ่มก็ไม่มีปัญหาหรอก” “เข้าใจแล้ว” ฉันบอกอย่างรู้สึกหดหู่ แฮคพยักหน้า ท่าทางโล่งใจเปลาะหนึ่ง เขาคงคิดว่าฉันยอมแพ้ที่จะอยู่ที่นี่แล้ว หมอนั่นพูดอะไรอีกสองสามประโยคเกี่ยวกับของกินในครัวและห้องน้ำ แต่ฉันฟังไม่รู้เรื่อง ในหัวเอาแต่คิดว่าต้องทำยังไงถึงจะอยู่ที่นี่ได้ ร่างสูงกำลังจะออกจากห้อง ฉันรู้สึกว่าถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างตอนนี้ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว “แฮคเดี๋ยว...” ฉันคว้ามือหนาเอาไว้อย่างร้อนใจ แฮคชะงัก ก้มลงมองมือที่ถูกจับก่อนเหลือบตาขึ้นมองหน้าฉันด้วยสายตาเป็นคำถาม

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสร้าย 5 เป็นแค่แม่บ้านก็ได้ (1)

    ปังๆ “ไอ้เรซ เปิดประตู!” แฮคเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง ฉันยืนกระสับกระส่ายอยู่ด้านหลัง แค่ฉันบอกว่าจะมาขออยู่ที่นี่สักพักแต่เรซปิดประตูไม่ยอมให้ฉันเข้าไปตั้งแต่เช้า แฮคก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แทบจะพุ่งถีบประตูอย่างที่เห็น “ไอ้เรซมึงเปิด...” ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก เรซยืนกอดอก สีหน้ารำคาญกึ่งโมโหที่เห็นแล้วชวนหงุดหงิด แต่ยังไม่ทันที่เรซจะพูดอะไรกับแฮค เขาก็ถูกคนเลือดร้อนกว่าผลักอกเข้าไปข้างในอย่างเอาเรื่อง เรซเซถอยหลังไปสองก้าวแต่แฮคเหมือนยังไม่พอใจ ตามเข้าไปกระชากคอเสื้อเรซแล้วเหวี่ยงแรงๆ จนร่างสูงถลาไปชนกับโซฟาดังพลั่ก“มึงเป็นเหี้ยอะไรวะแฮค!” เรซหันกลับมาตะคอกเสียงขุ่น ดวงตาคมฉายแววร้อนระอุตวัดมองฉันที่อยู่ด้านหลังแฮค ฉันสะดุ้งเฮือก ก้มหน้าหลบสายตาคมปลาบเลิ่กลั่ก “เฮ้ย! มึงมองเทียนแบบนั้นมึงคิดจะทำอะไร” เสียงกรรโชกของแฮคทำฉันเงยหน้าขึ้นมองอย่างประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนฉันถึงขนาดนี้“แล้วมึงเป็นเหี้ยอะไร”“มึงทำเหี้ยอะไรเอาไว้ล่ะ!” แฮคสวนกลับอย่างร้อนแรง สองคนนั้นจ้องตากันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ก่อนท

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสร้าย 4 เทียนสิ้นแสง (5)

    ราวกับโดนสาดหน้าด้วยน้ำเย็นแล้วราดน้ำเดือดตาม ฉันเย็นวาบไปทั้งตัวก่อนจะรู้สึกเห่อร้อนในทุกอณูผิวหนัง มองใบหน้าด้านชาของเรซอย่างหายใจไม่ออก คิดว่าต้องพูดอะไรสักอย่างกลับไปเอาให้เขาเจ็บแสบบ้าง แต่ว่าในหัวฉันตอนนี้มันตื้อไปหมด ทั้งเพลียทั้งง่วง แถมยังมวนท้องเหมือนลมจะตีตื้นขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา สายตาที่มองเรซพร่ามัวชั่วขณะ แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ฉันอ้วกออกมา พุ่งใส่ท้องเรซเต็มๆ “เชี่ย!”เรซอุทานหยาบคายออกมาคำหนึ่ง รีบดันร่างฉันออกห่างแต่ไม่ทันแล้ว อ้วกสองสายราดอยู่บนเสื้อราดลงไปถึงกางเกงและรองเท้าแตะที่เขาสวมอยู่“นี่เธอ...” เรซโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ ฉันได้แต่มองไม่มีแรงจะตอบโต้แล้วภาพตรงหน้าก็ดับวูบ!ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงหนานุ่ม กลิ่นหอมอ่อนจางจากผ้าห่มและปลอกหมอนให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนไม่อยากลืมตาตื่น หากแต่เสียงเปิดประตูห้องฉุดสติฉันที่กำลังสะลึมสะลือให้แจ่มชัด เป็นเรซเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียง ใบหน้าหล่อเหลายังคงบึ้งตึงเหมือนโดนใครเหยียบเท้าตลอดเวลา สายตาเรซราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ฉันยันตัวลุกขึ้น กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอย่างงวยงง“ฉันมาอยู่ที่น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status