Share

สัมผัสร้าย 2 ความผิด (4)

Aвтор: Yaygoh
last update Последнее обновление: 2025-10-29 18:54:39

ฉันสลับหน้าจอมาทักไลน์หาพี่แสงหลังถ่ายรูปกระเป๋าให้กอล์ฟเสร็จ แต่พี่แสงไม่อ่านไลน์เลย เขาเป็นแบบนี้อีกแล้ว แรกๆ ที่คบกันใหม่ๆ ก็อ่านตลอด ไม่เคยต้องให้รอ แต่หลังๆ ไลน์ไปไม่อ่าน ปล่อยเบลอข้ามวันก็มี พอถามก็บอกเรียนหนัก งานเยอะ ไม่มีเวลาจับโทรศัพท์ บางทีไปทำงานห้องเพื่อนเป็นอาทิตย์ ฉันเคยไปนั่งเฝ้าสมัยจีบกันใหม่ๆ ก็เห็นเขาทำงานจริงๆ นั่งขลุกอยู่หน้าจอคอม เขียนแบบ ออกแบบแปลนอาคารหลายสิ่งอย่าง แรกๆ ฉันก็ชื่นชมอยู่หรอกแต่หลังๆ ก็เซ็ง เลิกเฝ้า เลิกตาม กลับมานอนเล่นที่ห้องสบายใจกว่า

อย่าว่าแต่พี่แสงที่หมดโปรโมชั่น ฉันเองก็ไม่ได้หวานเหมือนวันแรกที่คบกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าชอบน้อยลง ฉันยังอยากเอาใจเขา อยากให้เราเข้าใจกัน และอยากให้เขาเห็นฉันเป็นคนสำคัญเหมือนเดิม

เพียงแต่… ฉันไม่เข้าใจทำไมต้องรู้สึกเหงาและหดหู่ขนาดนี้ 

ติ้ง!

ลูกกอล์ฟ : เจ้ ลูกค้าอยากดูของจริง

ฉันขมวดคิ้วเมื่อเห็นข้อความกอล์ฟเด้งขึ้นมา

เทียน : เอาจริงๆ หรือเปล่า

ลูกกอล์ฟ : นางบอกถ้าถูกใจก็พร้อมโอน แต่ต้องดูสภาพจริง นางคงกลัวแบบย้อมแมวขายไรงี้

เทียน : อืมๆ ได้ งั้นแกมาเอาไป 

ลูกกอล์ฟ : เดี๋ยวอิเจ้ ฉันไม่ว่าง แกต้องไปเจอลูกค้าเอง

เทียน : เฮ้ยมันจะดีเหรอ ถ้าเกิดนางรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันก็ซวยสิ

ลูกกอล์ฟ : งั้นเอาไงล่ะ นางขอดูวันนี้ แกอย่ามาคิดมาก มันไม่มีอะไรหรอก

เทียน : ฉันจะเชื่อได้ไง

ลูกกอล์ฟ : อิเจ้ ไม่มีใครมานั่งจับผิดแกหรอก คิดมาก เออๆ เดี๋ยวฉันเลื่อนลูกค้าแล้วกัน แต่ไม่รับรองนะว่านางจะรอ เนี่ยฉันบอกนางว่าวันอื่นได้มั้ย นางถามกลับว่าตกลงมีของจริงหรือเปล่า 

ฉันมองข้อความของกอล์ฟแล้วคิดหนัก ปกติเวลาปล่อยของฉันจะปล่อยผ่านนาง ไม่เคยคุยกับลูกค้าเอง ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องถึงหูพี่แสง แต่เขาก็มีถามๆ บ้างนะว่าของไปไหนหมด ฉันก็ได้แต่ปั้นหน้าใสซื่อตอบไปว่าเอากลับไปเก็บที่บ้านแม่ แฮร่

เทียน : เอาชื่อลูกค้ามาสิ ฉันจะเข้าไปส่อง ถ้าไม่ใช่คนใกล้ตัว ฉันจะเอาไปให้ดู

แล้วลูกกอล์ฟก็แคปรูปโปรไฟล์ลูกค้าส่งมาให้ฉัน

บรื๋น!!!

ฟ้าววว

รถสองสามคันวิ่งแซงวินมอเตอร์ไซค์ที่ฉันนั่งไปแบบความเร็วแสง ลมตีกลับพัดวูบจนมอเตอร์ไซค์เซ ผมปลิวไสวพันหูพันตายุ่งเหยิงไปหมด ฉันยึดราวท้ายเบาะจนตัวเกร็ง อีกมือกอดกระเป๋าเอาไว้แน่น 

เมื่อกี้นี้อย่างกับกำลังขับรถแข่งกันอย่างงั้นแหละ

พอตรงมาเรื่อยๆ ก็เริ่มเห็นคนอยู่ตามไหล่ทางเยอะขึ้นเหมือนมารอชมอะไรสักอย่าง ตอนที่ลูกค้านัดมาที่นี่ฉันก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่นางบอกคนอยู่เยอะ ไม่น่ากลัว ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรซอกแซก เห็นว่าพี่แสงไม่อยู่พอดี โอกาสเหมาะก็เลยออกมา 

“พี่จอดแถวๆ นี้ก็ได้ค่ะ” ฉันบอกพี่วินมอเตอร์ไซค์เมื่อมาถึงที่ที่คนชุมนุมกันเยอะๆ แล้วรีบโทรหาลูกค้า “ฮะโหล ถึงแล้วนะคะ ตัวเองอยู่ไหน”

กระเป๋าที่ขายเป็นทรงคลัทช์ ใส่ไปเที่ยวผับหรือออกงานก็เก๋ดี ซื้อมาเกือบแปดหมื่น แต่ขายต่อเจ็ดหมื่น เพิ่งใช้แค่สองครั้ง ไม่มีตำหนิ ใครได้ไปคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

[อยู่ตรงไหน เห็นป้ายไฟหรือเปล่า ก่อนถึงโค้งที่มีซุ้มขายน้ำ]

ซุ้มขายน้ำเหรอ ฉันรีบสแกนไปรอบๆ ทันที

“อ่อ เห็นแล้ว อยู่ตรงนั้นเหรอ”

[เปล่า]

“อ้าว”

[อยู่ฝั่งตรงข้าม ใส่แจ็กเกตหนังสีขาว แล้วเธอ...]

“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวเดินไปหา”

ฉันตัดสายทันทีที่รู้พิกัด เดินข้ามถนนไปอย่างรีบร้อน แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ๆ ก็มีแสงสว่างจ้าโผล่มากะทันหัน

ปี้นนนนน

“กรี้ดดดดด”

เอี๊ยด!!!

ฉันใจหายวาบ เข่าอ่อนล้มพับลงกับพื้น ได้ยินเสียงร้องโหวกเหวกดังมาจากสองฝั่งถนน แต่ไม่ยักมีใครวิ่งเข้ามาดูราวกับเป็นสิ่งต้องห้าม

ยกเว้น...

ปึ้ก! เสียงปิดประตูรถดังก้องท่ามกลางบรรยากาศเงียบกริบ เวลารอบตัวคล้ายหยุดเดินไปชั่วขณะ ช่วงขาเรียวยาวก้าวมาหยุดตรงหน้า ฉันไล่สายตาขึ้นไปมองทันที แสงไฟหน้ารถส่องแยงตาจนทำให้มองอะไรไม่เห็นชั่วขณะ แต่ไม่นานสายตาฉันก็ปรับตัวได้

“เรซ”

หัวใจฉันกระตุกไหวเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร ลนลานลุกขึ้นแต่ว่า

ข้อเท้าฉันปวดจนยืนไม่ไหว ทรุดลงกองกับพื้นเหมือนเดิม

“เธอคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

เสียงเย็นยะเยือกดังลอดไรฟัน เรซท่าทางโกรธจัด กระชากต้นแขนฉันขึ้นไปอย่างไม่ปรานีปราศรัย

“โอ๊ย เรซ… ฉันเจ็บ”

ฉันนิ่วหน้า ยืนซวนเซเพราะข้อเท้าที่ปวดหนึบ แต่ว่าเรซไม่แม้แต่จะถามอะไรฉันด้วยซ้ำ เขาลากฉันออกมาก่อนจะเหวี่ยงออกข้างทางอย่างเกะกะ

“กรี๊ด! ทำบ้าอะไรของนาย” ฉันถลาไปชนกับถังขยะดังโครม หันกลับไปมองเรซอย่างโมโห เจ็บก็เจ็บแต่ว่าการกระทำที่ป่าเถื่อนของเรซทำฉันโกรธจนแทบคลั่ง หมอนั่นไม่พูดอะไรสักคำ ผลักฉันจนกระเด็นแล้วเดินกลับไปขึ้นรถขับออกไปทันที 

ลมร้อนๆ ตีแสกหน้า หัวใจฉันเต้นไม่เป็นส่ำ ยังรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่หาย เมื่อกี้เกือบจะโดนรถชนแถมคนขับยังเป็นเรซ นอกจากจะไม่ปลอบใจแล้วยังหยาบคายกับฉันอีก ทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้ 

ฉันกำมือแน่น นึกแค้นเรซจนอยากหักคอเขาจริงๆ ก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น

ฉันมองเบอร์ลูกค้าที่โทรเข้ามาอย่างใจหายใจคว่ำ พลันระลึกถึงกระเป๋าทันที แต่ว่าตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีแค่โทรศัพท์กับเงินไม่กี่ร้อยที่ซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง ส่วนกระเป๋าที่หอบหิ้วก่อนหน้านี้นั้น…

สายตาฉันเหลือบมองเข้าไปในถนนอย่างกลั้นหายใจ ก่อนจะเห็นกระเป๋าราคาหลายหมื่นหล่นอยู่ตรงนั้น ฉันกล้ำกลืนความเจ็บที่ข้อเท้า รีบร้อนวิ่งกลับเข้าไปในถนนโดยไม่สนสายตาใครทั้งนั้น 

“ไม่จริง… ไม่นะ ต้องไม่ใช่แบบนี้”

ฉันอ้าปากค้าง ทรุดตัวลงหยิบชาแนลที่ถูกเหยียบจนแบนขึ้นมาดูหัวใจสลาย รอยล้อรถของเรซที่ฝังแน่นบนกระเป๋าใบละเกือบแสนทำฉันกรีดร้องออกมาอย่างสติแตก

“กรี๊ดดดดดด ไม่จริ๊งงงงงง”

ฉันยังสั่นไม่หยุด หลังจากเดินลากเท้าออกจากถนนด้วยหัวใจที่แตกสลายก็มายืนลนลานข้างเสาไฟ คุยโทรศัพท์ด้วยเสียงที่แหบแห้ง

“ค่ะ”

[กระเป๋าจะได้ดูมั้ยคะ]

“คือ… เห็นใช่มั้ยว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นที่ถนน”

Продолжить чтение
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   ตอนพิเศษ (2)

    “สวัสดีค่ะ หนูชื่อเทียน เป็นแฟนเรซ...”ย่ามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างประเมินครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าแล้วกวักมือเรียก“มานี่สิ เข้ามาใกล้ๆ ให้เห็นหน้าชัดๆ หน่อย”ฉันมองเรซอย่างไม่แน่ใจ แต่เขาก็พยักหน้าให้ ไม่เพียงแค่นั้นยังจูงมือฉันที่กำลังตื่นเต้นพาเดินเข้าไปหาย่าอีก“เรซ... นี่หลานสะใภ้ย่าเรอะ” ย่ามองเรซอย่างตั้งตัวไม่ทัน การแสดงออกของเรซทำให้ย่าเห็นว่าเขาห่วงใยฉันแค่ไหน“ครับย่า”“คนไทยใช่มั้ย”“ครับ”“อืม อย่างน้อยๆ ก็คงไม่คิดหนีย่าไปอยู่ต่างประเทศเหมือนพ่อใช่มั้ย”“วางใจเถอะครับ ผมไม่ไปไหน”“ดีแล้ว อืม หนูชื่อเทียนใช่หรือเปล่า” ย่าพยักหน้าให้เรซอย่างรู้สึกวางใจก่อนหันกลับมาพูดกับฉัน“ค่ะคุณย่า”“เรียกย่าเฉยๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง” ย่าเรซโบกมืออย่างไม่ถือ ก่อนหันไปทางแนท “แล้วนี่เมื่อไหร่แนทจะพาหลานเขยมาแนะนำให้พวกเรารู้จักบ้าง”“ย่า...” แนทลนลาน ท่าทางไม่รู้จะตอบย่ายังไงดี สุดท้ายก็ทำหน้าง้ำกลบเกลื่อนแล้วไม่พูดอะไรต่อ หลังจากนั้นไม่นานคนรับใช้ก็เข้ามาแจ้งว่าตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว ปู่จึงสั่งให้เรียกลูกหลานที่ใกล้ชิดทุกคนมารวมกันที่โต๊ะอาหารเพื่อร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของย่าบรรยากา

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   ตอนพิเศษ (1)

    บ้านพักของเรซที่เพชรบูรณ์ตั้งอยู่ในไร่มะขาม แยกตัวออกจากบ้านใหญ่ที่ปู่กับย่าเรซอยู่ ฉันรู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าเราจะพักกันที่นี่วันนี้เป็นวันเกิดย่าเรซ เขาต้องกลับมาร่วมงานทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาพาคนอื่นมาด้วย ซึ่งก็คือฉัน ครั้งแรกที่รู้ว่าต้องมาเยี่ยมบ้านเรซฉันก็กดดันและกังวลจนเผลอแสดงสีหน้าออกมาให้เรซเห็น แต่เขาก็คอยปลอบใจฉันพร้อมกับบอกว่าปู่กับย่าใจดีไม่มีอะไรต้องห่วง พวกเราเพิ่งมาถึง ยังไม่มีโอกาสเจอใครนอกจากคนงานสองสามคนที่มารอรับหน้าบ้านเพื่อคอยอำนวยความสะดวก หลังเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่ไปกินข้าวเย็นบ้านปู่กับย่าเรซเสร็จ ฉันก็ลงมาข้างล่าง เรซกำลังคุยกับคนงาน เสร็จแล้วค่อยเดินมาหาฉันที่โซฟา“เก็บของเสร็จแล้วเหรอ”“อืม เหนื่อยหรือเปล่าขับรถ นอนก่อนมั้ย” ฉันจับแขนเขาอย่างเป็นห่วง“อยากนอนตรงนี้” เรซถือโอกาสเอนตัวลงนอนหนุนตักฉันทันที เขาดึงมือฉันไปทาบกับแก้มตัวเองอย่างอ้อนๆ ฉันเลยหยิกเขาไปทีหนึ่งอย่างมันเขี้ยว“นอนดีๆ สิ จะได้ไม่เมื่อย”“ไม่เมื่อย” เรซหลับตาอย่างไม่ใส่ใจเสียงเตือนของฉัน แกล้งหลับดื้อๆ ฉันอมยิ้มจางๆ เห็นท่าทางน่ารักของเรซแล้วไล่ให้ไปนอนบนเตียงไม่ลง “เรซ?” ฉันเร

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   บทส่งท้าย

    @Rewell Corp. ฉันผลักประตูเข้ามาในออฟฟิศ ที่นี่ไม่ใหญ่มาก เป็นห้องโล่งๆ มีโต๊ะทำงานแบ่งออกเป็นสามโซน แต่ละโซนโต๊ะทำงานหันหน้าเข้าหากันมีแค่ผนังกระจกยิงลายเกมกั้น ฝั่งขวามือเป็นห้องประชุม ลึกเข้าไปด้านในมีทางแยกฝั่งซ้ายที่เป็นผนังทึบ ตรงนั้นฉันคิดว่าน่าจะเป็นห้องทำงานของประธานบริษัทฉันเดินลากรองเท้าส้นสูงผ่านประตูมาได้แค่สองก้าวก็ถูกสายตาของคนข้างในจับจ้อง“ขอโทษค่ะ พอดีว่ามาสัมภาษณ์งานกับน้าริช รู้มั้ยคะว่าน้าริชอยู่ที่ไหน” ฉันถามพี่ผู้หญิงที่อยู่ใกล้สุด เธอมองชุดนักศึกษาที่ฉันสวมแวบหนึ่งก่อนชี้มือไปทางห้องกระจกฝั่งขวา“ทางนั้น ประชุมทีมอยู่”“อ๋อค่ะ ขอนั่งรอตรงนี้ได้หรือเปล่าคะ”“ตามสบาย”“ขอบคุณค่ะ” ฉันถือโอกาสนั่งแล้วมองสำรวจรอบๆ ไปด้วย แอบมองพี่คนข้างๆ ทำงานไปด้วย บางครั้งก็เผลอถามโน่นถามนี่ โชคดีที่พี่คนนี้เป็นคนใจเย็น หันมาพูดกับฉันอย่างไม่ถือสา จนตอนนี้เรารู้ชื่อกันแล้ว การสนทนาก็เริ่มเป็นกันเองมากขึ้น และมิตรภาพก็ค่อยๆ ลามไปถึงคนข้างๆ เกือบครึ่งชั่วโมงที่ฉันนั่งรอแทบจะรู้จักพี่ๆ กันทั้งโต๊ะ ประตูห้องกระจกใสเปิดออก พร้อมกับคนสี่ห้าคนเดินออกมาด้วยสีหน้

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (5)

    เรซสอดแทรกความต้องการเข้ามาตามคำเรียกร้องของฉัน ความอึดอัดรัดรึงเสือกไถเข้ามาจนสุดทาง ฉันหลุดเสียงครางหวิวไหว ร่างกายสั่นระทดระทวยเกาะพรมไปด้วยหยาดเหงื่อ ทั่วทั้งห้องตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายรักใคร่และเสียงอันหนักหน่วงจากการสอดประสานกันอย่างร้อนแรงของร่างสองร่างบนโซฟาเนิ่นนานกว่าไฟอารมณ์จะมอดดับ ฉันจะยืนยังไม่ไหว ต้องให้เรซอุ้มเข้าห้องน้ำ เรานอนกอดเกยกันอยู่ในอ่าง ร่างเปลือยเปล่าแนบชิดและเหมือนเรซจะรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง เขาสอดใส่เข้ามาใต้น้ำ ร่างกายฉันเกร็งเครียดไปหมด เรซขบเม้มติ่งหูพลางลูบไล้ทรวงอกเพื่อช่วยให้ฉันผ่อนคลาย รู้สึกสุขสมไปพร้อมๆ กับเขา น้ำในอ่างกระฉอกตามแรงกระทบกระแทกด้านล่าง เสียงก้องกังวานสะท้อนไปทั่วห้องน้ำ ฉันเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว เรซโหมกระแทกรัวแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเหมือนใจจะขาด กรีดร้องออกมาอย่างคลุ้มคลั่งตอนที่อารมณ์พุ่งถึงขีดสุดแห่งห้วงหฤหรรษ์เสียงหอบหายใจสองสายดังสะท้อนถี่รัวอยู่พักหนึ่งค่อยกลับเป็นปกติ ฉันเหนื่อยจนจะหลับได้อยู่แล้ว ฟาดแขนเรซไปหนึ่งทีอย่างฉุนๆ “เกินไปแล้วนะเรซ กะจะรีดให้หมดตัวเลยหรือไง”“ใครเริ่มก่อนล่ะ ตามจริงตั้งใจจะงดให้หนึ่งวัน”เรซใช้ปลา

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (4)

    “เรซไม่อยากให้เทียนไปทำหนิ แล้วทำไมยังอุตส่าห์หางานมาให้ล่ะ”“เพราะเทียนอยากทำ”“เรซ... ทำไม...” ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีกแล้ว ตอนเที่ยงเขาเล่นตัดบทฉันดื้อๆ แต่ว่าตอนนี้กลับช่วยฉันทั้งที่เขาก็ไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่ ภายในอกฉันตื้นตันจนยากจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด สวมกอดคนข้างๆ เอาไว้แน่น ซุกหน้าคลอเคลียลำคอแกร่ง เรซลูบแขนฉันตอบเบาๆทำไมกัน ทั้งที่เราไม่ได้จะจากกันไปไหนเลย แต่ความรู้สึกกลับเปลี่ยวเหงาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อยากแยกจากแม้แต่วินาทีเดียว แค่ฉันจะไปทำงานเฉยๆ แต่เรซก็ทำเหมือนจะเหี่ยวเฉาอยู่รอมร่อ“ขอบคุณนะ”ฉันจูบลูกกระเดือกเรซเบาๆ ผิวขาวของเรซแดงซ่านขึ้นมาทันที ลูกกระเดือกเป็นจุดที่อ่อนไหวของผู้ชาย เพราะงั้นตอนนี้เขาถึงก้มลงมองฉันด้วยสายตาลึกล้ำเป็นพิเศษ “จะไปหรือเปล่า?” เรซกลืนน้ำลายลงคอ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงท่าทางข่มกลั้นอารมณ์ของเรซเห็นแล้วชวนใจละลายไม่น้อย“ไปสิ”ฉันตอบอย่างไม่ลังเล เรซแววตาสลดลงวูบหนึ่ง “เห็นให้อมยิ้ม นึกว่าจะยอมแพ้ไปแล้ว”“ก็ตัดใจไปแล้วครึ่งหนึ่ง เทียนไม่อยากทำให้เรซเป็นห่วง นึกถึงเวลาเรซไปรอรับหน้าที่ทำงานแล้วรู้สึกผิด เลยคิดว่าจะลองหาวิธีอื่น…” ฉันยื่นมื

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (3)

    บทจะดื้อเรซก็เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ตลอด ไม่ยอมเปิดใจอะไรง่ายๆ หลังกินข้าวเสร็จ ฉันเก็บจานไปล้างแล้วเปลี่ยนชุดไปเรียน เรซขับรถมาส่ง ระหว่างทางเราพูดคุยกันน้อยมากแทบนับคำได้ เหมือนย้อนกลับไปช่วงที่ยังไม่ได้คบกัน “อ้าวเทียน มาเมื่อไหร่เนี่ย กินข้าวยัง” คะนิ้งกับทีมเพื่อนๆ เดินออกจากศูนย์อาหารมาเจอฉันที่ถนนหน้าตึกเรียนพอดี ฉันยิ้มทักทายทุกคนตามปกติ “อื้ม เรียบร้อยแล้ว” “เรซมาส่งเหรอ” “อืม” ฉันพยักหน้าให้คะนิ้ง เดินตามคนอื่นๆ เข้ามาในตึก “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าเครียดๆ” คะนิ้งท้วง เธอมองหน้าฉันด้วยแววตาผิดสังเกต ฉันถอนหายใจอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ระบายความอัดอั้นข้างในออกมา คะนิ้งฟังฉันเล่าแล้วครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะเรื่องที่ฉันพูดค่อนข้างยาวและเป็นส่วนตัว เพื่อนที่มาด้วยจึงล่วงหน้ากันไปก่อนไม่เว้นแม้แต่เค้ก ตอนนี้จึงเหลือแค่ฉันกับคะนิ้งอยู่ใต้ตึกกันสองคน “นิ้งไม่เข้าใจว่าเทียนกลัวอะไร อย่าคิดมากสิ เรซไม่ใช่คนโง่ที่ยอมให้ใครมาเกาะ เว้นแต่ว่าเขายินดีให้เกาะ” คะนิ้งพูดแบบนี้ ฉันควรรู้สึกดีหรือไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status