ฉ่าาาาาาาา
“ฮัดชิ่ววว”
หญิงสาวหยิบหมูกับกระเพราและพริกสดออกจากตู้มาหั่นล้างทำความสะอาดแล้วแกะกระเทียมที่ห้อยอยู่ด้านนอกมาปอกเปลือกและสับอย่างชำนาญตอนนี้ของทุกอย่างก็ได้ลงกระทะไปพร้อมกันแล้วหญิงสาวหยิบเครื่องปรุงรสใส่ตามใจที่เธอชอบตอนนี้อาหารในกระทะส่งกลิ่นฉุนเล็กน้อยจนทำให้หญิงสาวจามไม่นานกระเพราหมูสุดน่าทานจานนี้ก็เสร็จสิ้น
แกร๊ก
“ทานข้าวเย็นค่ะคุณอิท”
อินทิราเดินเปิดประตูห้องของชายหนุ่มเข้ามาเธอเห็นว่าเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเอาถาดอาหารไปวางตรงหน้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มได้กลิ่นอาหารที่หอมขนาดนี้คงจะอยากทานข้าวขึ้นมาบ้าง
“นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”
อิทธิกรคิดว่าหญิงสาวที่เขาตวาดใส่เมื่อครู่จะกลับไปแล้วเสียอีก
“ไม่ค่ะออมจะต้องอยู่ดูแลคุณ”
อินทิรายังยืนยันคำพูดเดิมของเธอว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มและเธอก็จะไม่ถอดใจกลับไปง่ายๆแน่เพราเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
“เธอนี่ท่าทางจะตื๊อไม่เลิกนะ...กลัวแม่ฉันจะเอาเงินคืนหรือไง”
อิทธิกรสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่ยอมถอดใจง่ายๆคงจะเป็นเพราเงินที่สูงหลายสิบล้านที่แม่ของเขาจ่ายเพื่อให้ได้ตัวของเธอมา
“เงิน...เงินอะไรคะ”
อินทิราไม่เข้าใจที่ชายหนุ่มพูดออกมาสักเท่าไรเรื่องเงินอะไรเธอไม่เห็นจะรู้เรื่อง
“จะบอกว่าเธอไม่รู้เรื่องงั้นสิตอนแรกก็จะไม่ยอมมาแต่พอได้เงินไปหลายสิบล้านกลับวิ่งแจ้นมาที่นี่ไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป...นี่เงินฉันไม่เอาคืนหรอกนะเธอกลับไปบ้านของเธอเถอะอย่ามายุ่งกับฉันเลยยังไงฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเธอหรอก”
อิทธิกรร่ายยาวถึงเรื่องที่แม่ของเขาต้องจ่ายเงินให้กับอรดีเพื่อแลกกับตัวของหญิงสาวมามันค่อนข้างเยอะและถ้าหากไม่ใช่เพราะเงินนี้หญิงสาวก็คงไม่มายืนให้เขารำคาญใจอยู่ตรงนี้หรอก
พร้อมทั้งเอ่ยปากให้หญิงสาวกลับไปเสียและย้ำให้หญิงสาวได้ฟังชัดๆว่าเงินทั้งหมดเขายกให้ขอแค่ให้หญิงสาวอย่ามายุ่งกับเขาก็พอ
“เรื่องเงินออมไม่รู้เรื่องจริงๆค่ะแต่หน้าที่ออมตอนนี้คือดูแลคุณอิทและสถานะตอนนี้ของออมก็คือคู่หมั้นของคุณอิทค่ะ”
เรื่องเงินเธอไม่เห็นว่าแม่ใหญ่ของเธอจะบอกอะไรเลยสักนิดแต่ก็ไม่ได้นึกโกรธเคืองอะไรอรดีเลยสักนิดหากตัวเธอแลกกับความสบายของคนที่บ้านได้เธอก็ยอมและยังยืนยันสถานะของเธอให้กับชายหนุ่มได้ฟังอีกครั้งว่าเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไปในสถานะที่เธอได้รับมาให้เป็น
“จะไม่ไปดีๆใช่ไหม...”
“ว้ายย!!..คุณอิท”
อิทธิกรถึงจะมองไม่เห็นแต่ประสาทสัมผัสอย่างอื่นของเขาก็เป็นเลิศชายหนุ่มคว้าร่างบางของหญิงสาวอย่างแม่นยำตอนนี้ใบหน้าของหญิงสาวกระแทกติดกับแผงอกของเขาอย่างแนบแน่นชายหนุ่มต้องการสั่งสอนหญิงสาวให้เธอนั้นไม่กล้ามาต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก
“หืมม...เหม็นค่ะคงจะทั้งดื่มทั้งอาบแต่แอลกอฮอลล์สินะคะปล่อยออมนะคะ”
อินทิราอยากจะเอามือบีบจมูกไม่ให้ได้กลิ่นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะชายหนุ่มเล่นรัดเธอเสียแน่นขนาดนี้จึงทำได้แต่กลั้นหายใจอีกทั้งยังพูดจาแบบตรงๆซื่อๆแบบที่เธอเป็นให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้กลิ่นกายของเขามันอยู่ในระดับไหนเธอได้กลิ่นคราแรกคิดว่าชายหนุ่มอาบน้ำด้วยน้ำเมาพวกนี้เสียอีก
“อื้ม..ทำอะไรของคุณคะ”
อิทธิกรรวบตัวหญิงสาวได้ก็รู้ว่าเธอตัวเล็กกว่าที่เขาคิดแต่ไอ้ที่มันเบียดเสียดกับตัวของเขามันไม่เล็กเอาเสียเลยตอนนี้เขาก็ได้ทีจัดการคนที่กล้าต่อล้อต่อถียงกับเขาแล้ว
ชายหนุ่มใช้มือแกร่งบีบใบหน้าของหญิงสาวพร้อมส่งริมฝีปากหนาของเขาประกบริมฝีปากบางของเธออย่างแม่นยำพร้อมส่งลิ้นร้ายตวัดตักตวงความหวานพร้อมดูดคลึงริมฝีปากบางจนห้อเลือดจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บพร้อมออกแรงดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของชายหนุ่มแล้ววิ่งอกไปนอกห้อง
“ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้อีกก็อย่ามายุ่งกับฉัน!!”
อิทธิกรยิ้มอย่างพอใจที่รู้สึกได้ว่าหญิงสาวตัวสั่นเพราะความกลัวทั้งยังส่งเสียงขู่ให้หลังหญิงสาวที่เขารู้สึกได้ว่าเธอวิ่งหนีเขาออกไปแล้วแล้วกลับมานั่งอย่างพอใจหวังในใจว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงของเธอหรือมีเธอกล้าเข้ามาใกล้อีก
“ยังไงคุณอิทก็ทานข้าวด้วยนะคะเดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะแล้วก็กรดไหลย้อน”
อินทิรากลัวจนตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อสงบสติได้เธอก็พึ่งจะนึกออกว่าเมื่อครู่ชายหนุ่มยังไม่ได้ทานข้าวที่เธอน้ำไปให้หญิงสาวจึงเดินไปเกาะที่หน้าประตูห้องชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาทานขาวเย็นที่เธอทำไปให้ด้วยอย่างกล้าๆกลัวๆ
“นี่เธอยังไม่เข็ด”
“ว้ายย”
ปังงง
อิทธิกรเชื่อหญิงสาวเลยจริงๆที่เหมือนจะมึนไม่ฟังในสิ่งที่เขาต้องการพร้อมทั้งยังทำท่าลุกยืนขึ้นจนหญิงสาวต้องรีบวิ่งเข้าห้องของเธอปิดประตูเสียงดังอย่างรีบร้อน
“หึ่..จุ้นจ้านจริงๆ”
เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องข้างๆปิดเรียบร้อยแล้วเขาจึงมานั่งที่เดิมของเขาต่ออย่างหงุดหงิดพลางคิดว่าผู้หญิงคนนี้นี่เหรอที่แม่ของเขาเลือกที่จะให้มาใช้ชีวิตอยู่กับเขาถ้าขืนได้ฟังเธอพูดทุกวันประสาทเขาคงกินตายคนอะไรตีมึนได้สุดยอด
“หื่ออมมม...คนบ้าเอ้ยย”
อินทิรากลับเข้าห้องมาได้ก็รีบเข้าห้องน้ำไปล้างปากของเธอทันทีเพราตอนนี้มันยังมีกลิ่นแอลกอฮอลล์จากปากของชายหนุ่มติดอยู่ที่ปากของเธออยู่เลย
เมื่อครู่นี้รสจูบของชายหนุ่มมันดูค่อนข้างป่าเถื่อนสำหรับเธออยู่มากมันไม่เห็นจะอ่อนโยนเหมือนที่เธอเคยดูในซีรีย์เลยสักนิดแล้วอีตาบ้านั่นก็ขโมยจูบแรกของเธอไปอีกด้วย
เช้าวันต่อมา
06.00 น.
เคร้งๆ...ๆๆ
“อืม...ใคร???”
อิทธิกรงัวเงียตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนของเขาเพราะได้ยินเสียงเหมือนขวดแก้วกระทบกันระคายหูจนทำให้ต้องลุกขึ้นมาทั้งที่ยังง่วงอยู่
“ใกล้จะถึงแล้วเราไปกั้นประตูเงินประตูทองกันเถอะ”เมื่อขบวนใกล้ถึงพีรยาก็ดึงมือพรณภัทร์ออกไปด้านนอกทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวกั้นประตูเงินประตูทองกับคนอื่นๆที่รออยู่ที่นี่“ออม”“พี่อิท”และแล้วก็ได้เวลาที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะสวมแหวนแต่งงานและทำพิธีลดน้ำสังข์เสียทีทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่เรื่อยๆต่างยิ้มให้กำลังใจกันและกันและปลื้มปริ่มอยู่ในใจอย่างมากที่พวกเขานั้นได้แต่งงานกันอย่างเป็นพิธีเสียทีช่วงเย็นของวันอินทิราอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงสุ่มที่ดูเหมือนตุ๊กตามากๆหลังจากที่ช่างแต่งตัวให้เธอเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หาเวลาเดินมาดูเพื่อนเธอเสียหน่อยว่าเป็นยังไงกันบ้างเพราะตั้งแต่เช้าก็ไม่ค่อยจะได้คุยกันเลย“เหนื่อยไหมแก”พีรยาเห็นอินทิราเดินเข้ามาในห้องก็เอ่ยถามคนเป็นเจ้าสาวว่าวันนี้รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือเปล่ากำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย“ไม่เลยพวกแกนั่นแหละที่ฉันต้องถามว่าเหนื่อยไหม”อินทิราคิดว่าคำถามนี้ควรจะเป็นเธอที่ถามมากกว่าเพราะว่าเธอนั้นแค่เข้าพิธีเฉยๆส่วนงานอย่างอื่นเพื่อนๆเธจัดแจงเองหมด“ไม่เลยพวกฉันเต็มใจทำให้แก”พรณภัทร์ยิ้มกว้างพร้อมหันไปตอบอินทิราพวกเธอไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดกับอ
บริษัทXXX17.00 น.“ทำอะไรอยู่เหรอ”“ออมถักกระเป๋าจิ๋วอยู่ค่ะเสร็จแล้ว2ใบน่ารักไหมคะ”อิทธิกรหิ้วคนเป็นภรรยามาที่ทำงานด้วยแทบจะทุกวันให้เธอมานั่งๆนอนๆที่นี่จนเธอเบื่อต้องหาอะไรทำในระหว่างที่เขาทำงานอยู่“พี่ชักจะอิจฉาไหมพรมในมือออมซะแล้วสิดูออมจะสนใจมันมากกว่าพี่”ชายหนุ่มลงนั่งบนโซฟาข้างๆกับภรรยาพร้อมใช้มือโอบไหล่ของเธอเอาไว้หลวมๆมีสีหน้าที่แกล้งทำเป็นแอบงอนเล็กน้อยที่วันนี้เธอเอาแต่นั่งจดจ่ออยู่กับก้อนไหมพรม“หืม..ออมก็สนใจพี่อิทตลอดนั่นแหละค่ะทำเป็นน้อยใจไปได้”อินทิราถึงกับต้องหยุดมือแล้วหันมาโอบกอดสามีขี้งอนของเธอที่อิจฉาแม้กระทั่งไหมพรมพร้อมบอกกับเขาใจจริงว่าเธอไม่เคยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว“แหม..เอมมาผิดจังหวะหรือเปล่าคะพี่อิท”ไอรดาเผลอเข้าห้องทำงานพี่ชายเธอโดยที่ไม่ได้เคาะประตูไม่คิดว่าทั้งสองกำลังหวานกันอยู่“มีอะไรเหรอเอม”อิทธิกรหันไปถามคนเป็นน้องสาวว่าที่เข้ามามีเรื่องอะไร“พอดีเอมนัดช่างที่เราสั่งตัดชุดเอาไว้ที่บ้านค่ะตอนนี้ชุดเสร็จแล้วเหลือแค่ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปลอง”ไอรดาต้องการมาบอกให้ทั้งสองรีบกลับบ้านเพราะตอนนี้เธอนัดช่างที่ตัดชุดให้ไปรอที่บ้านหลังจากที่พวกเธอเล
“อิๆๆๆ”พีรยาเองไม่ได้ไปหายาให้พี่ชายเธอที่ไหนเพียงแต่กลับเข้าไปในห้องของเธอก็เท่านั้นตอนนี้หญิงสาวดีดดิ้นดีใจอยู่บนเตียงนอนที่แผนของเธอสำเร็จอีกแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่พี่ชายเธอเองเท่านั้นที่จะช่วยให้ตัวเองได้สมหวังหรือเปล่าแกร็กกกกก“......”ภัคดนัยที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ถึงกับเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อยที่เธอรีบร้อนเข้าห้องของเขามาด้วยในมือถือกะละมังน้ำเข้ามาอย่างรีบร้อน“พี่ภาคย์เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะเดี๋ยวพลอยจะเช็ดตัวให้ก่อนนะคะยัยพลอยน่าจะกำลังไปหายามาเป็นถึงหมอทำไมไม่ดูแลตัวเองปล่อยให้ป่วยหนักแบบนี้ได้ไงล่ะคะ”พรณภัทร์วางกะละมังน้ำที่โต๊ะวางของข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆเตรียมที่จะเช็ดตัวให้คนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่“........???”ภัคดนัยมองการกระทำของหญิงสาวอย่างสงสัยในคราแรกแต่เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขากำลังจะไปเอายามาให้จากปากหญิงสาวเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่คงจะเป็นการเล่นอะไรแผลงๆของน้องสาวของเขาอีกแล้วสินะ“ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่นา”พรณภัทร์นั่งลงข้างๆชายหนุ่มในมืออีกผ้าถือผ้าเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลส่วนมืออีกข้างก็ยื่นไปแตะที
“แม่ว่าคงต้องปล่อยให้อัญชัญได้เรียนรู้ด้วยตัวเองสักพักไม่นานคงจะปรับตัวได้เอง”“ค่ะคุณแม่”อรุณาเองก็พอจะรู้อยู่ว่าอัญชัญเป็นอย่างไรแต่คนเรามันก็ต้องโตขึ้นไปทุกวันยังไงเธอก็คิดว่าชีวิตที่อัญชัญจะต้องเจอจะเป็นการสอนเด็กสาวเองว่าจะต้องรับมือกับมันยังไงเธอเชื่อว่าคนที่มีสำนึกดีอย่างอัญชัญจะต้องผ่านมันไปได้บ้านโรจน์วินิจวรกุล18.00 น.“ช่วงนี้อินเลิฟวันหยุดก็หายไปแต่เช้ากลับมาซะเย็นทุกเลยนะ”ภัคดนัยที่นั่งอยู่หน้าบ้านในช่วงเย็นเห็นคนเป็นน้องสาวกลับมาเห็นเดินอารมณ์ดีเข้ามาก็ต้องเอ่ยปากพูดตามประสาพี่ชายหยอกน้องสาว“น้องก็ขอมีความสุขอยู่ใกล้แฟนบ้างอะไรบ้าง...ใครจะไปเหมือนคนบางคนที่น่าอิจฉาได้อยู่ใกล้คนที่อยากอยู่ใกล้ตลอด”พีรยาไม่เองก็ไม่ลืมที่จะยอกย้อนพี่ชายเธอกลับตามนิสัยของเธอ“พีคกลับมาก็ดีแล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับแกอยู่พอดี”พรณภัทร์รีบเดินมาจูงมือเพื่อนสาวของเธอเข้าไปคุยอย่างรีบร้อนตอนนี้หญิงสาวเดินเหินได้สะดวกขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นเพราะถอดเฝือกออกนานแล้ว“อ๋อ..อืมไปคุยกันในห้องดีกว่า” พีรยาเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็พอจะเดาออกว่ามีธุระสำคัญจึงให้เข้าไปคุยในห้องเธอจะดีกว่า“มีอะไรหรือเ
เดือนต่อมากรุงเทพมหานครอิทธิกรพาอินทิรามาพักอยู่บ้านที่กรุงเทพของเขาสักพักแล้วเพราะเขาต้องเข้ามาทำงานที่บริษัทเหมือนเดิม“วันนี้เหนื่อยไหมคะ”เมื่ออินทิราเห็นคนเป็นสามีกลับบ้านมาก็รีบเอาน้ำเย็นๆมาต้อนรับเพราะเห็นสามีของเธอดูยุ่งๆทุกวัน“เห็นหน้าออมพี่ก็ไม่เหนื่อยแล้ว”อิทธิกรเองถึงจะเหนื่อยเพียงใดแต่เขาก็รับมือไหวและไม่เอามาพูดในบ้านให้คนเป็นภรรยาที่กำลังท้องอยู่กังวลกับเขาไปด้วยเด็ดขาด“วันนี้คุณแม่กับยัยเอมกลับมาแล้วพวกเค้าจะมาทานข้าวที่บ้านเราด้วย”อิทธิกรรู้ว่าแม่กับน้องของเขากลับมาได้เป็นวันแล้วบ่นอยากจะมาหาอินทิราใจจะขาดเพราะอยากรู้ว่าหลานในท้องมีพัฒนาการไปอย่างไรบ้างแล้ว“ตายจริงพี่อิทไม่บอกออมให้เร็วกว่านี้คะออมจะเตรียมอาหารไว้รอ”อินทิราตำหนิคนเป็นสามีเพราะหากบอกเธอให้เร็วกว่านี้เธอเองก็จะเข้าครัวทำอาหารไว้ต้อนรับแม่และน้องสามีของเธอเอง“ออมไม่ต้องทำหรอกพี่สั่งแม่บ้านไว้แล้วขืนพี่บอกออมก่อนก็คงจะต้องลงมือทำเองใช่ไหมล่ะ”“..ค่ะ..”อิทธิกรคิดถูกที่บอกแม่บ้านอย่างเดียวจะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นคนเป็นภรรยาของเขาจะต้องเหนื่อยทำอาหารอีเป็นแน่ท้องยังอ่อนๆอยู่เขาไม่อยากให้หญิงสาวทำอะ
“ก็พี่ห่วงของพี่นี่นา”อิทธิกรหน้าเสียเล็กน้อยที่โดนหญิงสาวตอกลับมาแบบนั้นเขารู้ว่าเธอแค่ท้องแต่เขาเองก็แค่ห่วงคิดในใจว่าทำไมหญิงสาวไม่เข้าใจเขาบ้าง“อะไรของพี่อิทเนี่ย”อินทิราส่ายหัวหงึกหงักพร้อมหน้าตึงเล็กน้อยเดินจ้ำอ้าวหนีชายหนุ่มไปให้พ้นๆจะได้ไม่ต้องคอยมาบ่นให้เธอระวังใกล้ๆหูอีก“เดี๋ยวพลอยเดินรอพี่ด้วยสิ...เดินช้าๆเดี๋ยวหกล้ม”อิทธิกรจำต้องสาวเท้ายาวๆให้เดินตามคนเป็นภรรยาทันพร้อมปากก็ยังปรามไม่ให้หญิงสาวเดินไปไวแบบนั้นอีกหลังจากที่ทุกคนเพลิดเพลินกับบรรยากาศยามเช้าในสวนดอกไม้เรียบร้อยแล้วก็กลับเข้ามาทานอาหารเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อทานเสร็จต่างก็แยกย้ายกันพักและเดินชมวิวกันต่อเพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่แปลงดอกไม้เพียงอย่างเดียวยังมีสถานที่จัดไว้ให้ถ่ายรูปเป็นตามจุดอีกมากมายที่จัดเอาไว้“พลอย”ภัคนัยเห็นพรณภัทร์ปลีกตัวมานั่งคนเดียวที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆกับซุ้มทานข้าวข้างๆก็มีไม้ค้ำยันคู่ใจของเธอวางพาดอยู่ใกล้ๆเขาจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธอ“....”พรณภัทร์หน้าตึงเล็กน้อยไม่ได้อะไรชายหนุ่มหากเขาอยากจะนั่งข้างๆเธอก็ขอให้นั่งเงียบๆก็แล้วกันเพราะเธออยากจะอยู่เงียบๆ“อีกสองวันถ้