“เกรงใจจังเลยค่ะ” “พี่สิต้องเป็นฝ่ายเกรงใจ ให้น้องแพรมาหาถึงที่ร้าน” “พี่ดินคงชอบทำขนมมากแน่ๆเลย ทุกเมนูอร่อยมากเลยค่ะ” “อื้ม พี่ชอบเห็นคนกินขนมฝีมือพี่ยิ้มมีความสุข” เขาพูดแล้ววางแก้วกาแฟลง “น้องแพรเป็นคนที่กินอะไรก็ดูมีความสุขไปหมด เห็นแล้วอยากกินด้วยเลย” “แพรเป็นแบบนั้นเหรอคะ” “ใช่ครับ กินไม่ห่วงสวยไม่กลัวอ้วน บางคนกินเหมือนกลัวขนมจะทำให้อ้วน” เขาหัวเราะเบาๆ มองคนตรงหน้าแววตาเอ็นดู “ก็แพรไม่ใช่คนสวยอยู่แล้วนี่ค่ะ” เธอหัวเราะออกมาบ้าง บรรยากาศรอบตัวอบอวลด้วยกลิ่นเบเกอรี่หอมๆ ต่างจากอยู่ในซีเคร็ท คลับ ลิบลับ “ใครบอกว่าน้องแพรไม่สวย” เขาทำหน้าไม่เชื่อแล้วลอบมองใบหน้าหวาน วันนี้เธอดูสวยน่ารักแต่งหน้าบางๆ ใส่ชุดกระโปรงยิ่งทำให้ดูน่ารักน่าทะนุถนอมเพิ่มขึ้นไปอีก “พี่ดินไม่ต้องพูดยอหนูแพรเลยค่ะ” เธอยิ้มกว้างไม่ได้รู้สึกน้อยอกน้อยใจอะไร “แต่ไหนแต่ไร หนูแพรก็เป็นแบบนี้ อยู่มหาวิทยาลัยก็ไม่เคยมีใครมาจีบหนูแพรเลยค่ะ ทุกคนสนใจยัยเกรซเพื่อนของแพรทั้งนั้น แต่หนูแพรไม่เคยอิจฉาเพื่อนนะคะ” แ
แพรดาววางเจ้าเสือดำลงแล้วมองหน้าจอมือถือ เมื่อครู่รับสายไม่ได้ดูว่าใครโทรเข้ามา พอเห็นชื่อของผู้ชายที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอก็ทำให้เธอยิ้มไม่รู้ตัว“พี่ดิน” “ดีใจจัง” เธอถามแล้วก็รู้สึกเขินๆ พิกลที่คุยโทรศัพท์กับผู้ชายต่อหน้าแม่ จึงเดินเลี่ยงออกมาหน้าบ้านแทน “ดีใจเรื่องอะไรคะ” “ก็ดีใจที่รับสายพี่ไงครับ” ทั้งๆที่เขาไม่ได้อยู่ตรงหน้า แต่เธอก็เขินจนหน้าแดงก่ำ ดีนะที่เดินออกมาพ้นสายตาของแม่จ๋าแล้ว “วันนี้ว่างไหมครับ” “วันนี้วันหยุดของแพรค่ะ” “ดีเลย พี่อยากขอความช่วยเหลือจากน้องแพรหน่อยครับ” “มีอะไรให้ช่วยค่ะ” เธอพูดอย่างเต็มใจ “พี่ลองทำขนมสูตรใหม่ อยากได้คนช่วยชิมค่ะ ช่วยคอมเม้นต์จะได้มั่นใจก่อนวางขายหน้าร้าน” “อย่างแพรจะช่วยได้เหรอคะ” “ได้สิ แต่ถ้าน้องแพรสะดวกใจนะครับ” “ถ้าช่วยพี่ดินได้ แพรเต็มใจค่ะ จะให้ไปชิมที่ไหนคะ” “พี่อยู่ที่ร้าน Sugar Haven” หัสดินบอกพิกัดร้านและเฝ้ารออีกฝ่ายอย่างใจจดจ่อ “ได้ค่ะ อี
แพรดาวนั่งกอดกระเป๋าผ้าของตนในรถสปอร์ตหรู แอร์ในรถเย็นฉ่ำนั่งสบายแต่เต็มไปด้วยความอึดอัด เขาไม่พูด เธอไม่พูด ทุกอย่างอยู่ในความเงียบเธอไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ จนกระทั่งรถมาจอดใกล้บ้านแล้ว หญิงสาวจึงผ่อนลมหายใจเบาๆแล้วลอบมองเสี้ยวหน้าที่แสนเย็นชา อยากถามเรื่องตำแหน่งงานใหม่ แต่ก็กลัวว่าจะถามเร็วไป ช่างเถอะ ขืนเซ้าซี้มากไปเขาคงไม่ให้เธอเปลี่ยนงาน ท่าทางเหมือนอยากพูดแต่ไม่กล้าแล้วก็กัดริมฝีปากเอา ชายหนุ่มมองแล้วยื่นนิ้วโป้งไปแตะริมฝีปากเธอเบาๆ “จะกัดอะไรนักหนาเดี๋ยวก็เป็นแผลหรอก” การใกล้ชิดเกินความจำเป็นทำให้หญิงสาวเอนตัวออกห่าง มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นแล้วหัวก็หัวเราะในลำคอ ‘อยากเห็นจริงๆ เวลาอยู่กับไอ้ดิน เธอทำตัวยังไง คงเรียกพี่ดินอย่างนั้น พี่ดินอย่างนี้สินะ’ “เจ้าแมวดำเป็นยังไงบ้าง” “แข็งแรงดีค่ะ ขอบคุณสำหรับค่ารักษาและอาหารที่ซื้อไว้ให้ด้วยนะคะ” เขาพยักหน้ารับแล้วเอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย “วันนี้ดึกแล้ว วันหน้าค่อยแวะมาดูมันหน่อยก็แล้วกัน” “ค่ะ” โล่งอก...นึกว่าเขาอยากเข้าไปดูแมวตอนตีสาม!
ห้องทำงานเป็นห้องเก็บเสียง เสียงด้านนอกไม่เข้าไปรบกวนด้านใน ชายหนุ่มในชุดดำเปิดประตูห้องเข้าไปได้ยินเพียงเสีนงเครื่องปรับอากาศทำงาน เขากวาดตามองแต่ไม่เห็นคนที่สั่งให้รอนั้นทำให้เขาขมวดคิ้ว หรือว่าเธอจะออกไปแล้ว? ดื้ออะไรขนาดนี้ เขาเองก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นนักหรอก แต่เกรงว่าถ้าปล่อยให้ออกไปเจอเพื่อนอะไรนั้น จะถูกดักทำร้ายเอานะสิ ยัยเด็กคนนี้ยิ่งซื่อบื้ออยู่ด้วย ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อด้วยความเคยชินแล้วเดินไปหมายจะนั่งเก้าอี้ทำงานและเปิดกล้องวงจรปิดดูว่ายัยตัวปัญหาหายไปไหน ทว่าหางตากลับเหลือบไปเห็นร่างเล็กนอนขดตัวบนโซฟาทำให้เขาชะงักแล้วเปลี่ยนทิศทางไปยังเป้าหมายที่หลับอยู่ จากที่หงุดหงิดรำคาญใจกลับกลายเป็นเสียงถอนหายใจเบาๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงบนส้นเท้า จ้องมองใบหน้าของคนที่หลับอยู่ ลมหายใจสม่ำเสมอย้ำให้รู้ว่าเข้าสู่นิทราแล้ว หลับจริงๆ ด้วย เขากะพริบตาปริบๆ ไม่คิดว่าเธอจะหลับไปจริงๆ มือใหญ่ยื่นไปหมายจะปลุกแต่ชะงักค้างในอากาศ ผิวแก้มเนียนใสราวกับแก้มของเด็กน้อยทำให้เขาเปลี่ยนใจเกลี่ยเส้นผมเธอเบาๆ นึกอยากสัมผัสแก้มนุ่มด้วยจมูกของ
หนุ่มเนิร์ดอายุ 25 ปีทั้งสองคนนั้น เป็นหนุ่มไอทีของบริษัท CYNEX Corp คนหนึ่งผอมบางท่าทางขี้กลัวแต่ชื่อวินเนอร์ ส่วนอีกคนหน้าตากวนประสาททั้งที่ไม่ได้ทำอะไรชื่อ ชลธี ทั้งสองคือผู้ส่งข้อความโดยใช้ชื่อ NightNet ซึ่งหัสดินในภาคของดาร์กเป็นคนให้ความช่วยเหลือทั้งสองคนนี้ ทั้งที่ต่างที่มา วินเนอร์เป็นเด็กกำพร้าที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์แต่ขาดคนสนับสนุนในทางที่ถูก เขาแฮกค์บัญชีแอบโอนเงินของผู้อำนวยการศูนย์แลเด็กกำพร้า ก่อนที่จะถูกส่งตัวดำเนินคดี เขาได้ขอตัววินเนอร์ไว้ ส่งเขาเรียนด้านไอทีและเมื่อเรียนจบก็มาทำงานกับศาตนันท์กรุ๊ปและย้ายมาประจำที่บริษัท CYNEX Corp ส่วนชลธีนั้นไม่ต่างกันมาก เพียงแต่มาจากครอบครัวที่แตกร้าว พ่อแม่ติดเหล้าทั้งคู่ ชลธีโตมาในร้านเกมส์ เป็นเด็กส่งยา เข้าออกสถานพินิจเป็นว่าเล่น จนอายุ19 เกิดเหตุทะเลาะวิวาทเขาพลั้งมือ ไม่สิ ต้องเรียกว่าป้องกันตัวต่างหาก ป้องกันตัวจากคนขายยาที่จะแย่งส่วนแบ่งในมือเขา มีดพับที่พกติดตัวไปไหนมาไหนตลอดนั้นถูกใช้เพียงครั้งเดียวก็ถูกจับติดคุกแล้ว แต่หัสดินประกันตัวและจัดการทุกอย่างเบ็ดเสร็จ ‘อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เลือกอน
“นี่พนักงานคนนั้นนะ”“ค่ะ”แพรดาวหมุนตัวไปตามเสียงเรียกทันที ต่อให้ไม่ได้เรียกชื่อเธอก็ตาม เพราะตอนนี้เธอสวมชุดพนักงานซีเคร็ท คลับ แต่เมื่อหันไปก็พบว่าคนที่เรียกคือเจ้านายของเธอเอง“มิสเตอร์ต้องการอะไรคะ” ดวงตาดุดันกวาดตามองหญิงสาวตัวเล็ก แต่เมื่อสวมชุดพนักงานสีดำก็ยิ่งทำให้ดูรูปร่างเล็กลงแต่กระนั้นก็ดูปราดเปรียวเต็มไปด้วยพลังงานและมีชีวิตชีวา เหมือนเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน“พาผู้หญิงคนนี้พักที่ห้องพนักงาน แล้วตามผู้จัดการดารินมาพบผม”“อ๊ะ! เกรซ!” แพรดาวตกใจที่เห็นเพื่อนสนิทยืนเกาะแขนมิสเตอร์ดาร์กด้วยท่าทีอ่อนแรง เธอรีบสาวเท้าเข้าไปประคอง “เกิดอะไรขึ้น”“รู้จักกันเหรอ” เขาถามสีหน้านิ่งเฉยเหมือนน้ำเสียงของเขา“ค่ะ เพื่อนของดิฉันเอง” แพรดาวพยักหน้ารับ แต่เธอไม่ทันเห็นสีหน้าระอาใจของเกรซที่ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าใกล้หนุ่มหล่อและรวยของแท้“เพื่อน?” ลูกไม้ง่ายๆ แค่นี้ทำไมคนอย่างเขาจะมองไม่ออกว่าผู้หญิงคนนี้ใช้มารยากับเขาอยู่ แต่ที่เขาประหลาดใจก็คือคนซื่อๆอย่างแพรดาวมีเพื่อนมารยาร้อยเล่มเกวียนแบบนี้ หรือเพราะเธอซื่อจนบื้อไม่รู้ว่าถูกหลอกใช้“ค่ะ” หญิงสาวยืนยัน “เกรซเป็นเพื่อนของดิฉัน เ