สัมพันธ์ลับ(รัก) สุดยอด ตอนที่12
ชายหนุ่มบรรจงแต่งหน้าเค้กด้วยแววตามุ่งมั่น ผู้ช่วยยืนมองอย่างชื่นชมในความสามารถ จนเมื่อหัสดินเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟหนุ่มคนนี้ ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับรอยยิ้มตลอดเวลา ไม่แปลกใจเลยที่เป็นเชฟทำขนมหวาน
ก็หวานตั้งแต่รอยยิ้มของเชฟแล้ว
“เรียบร้อย หยิบมือถือให้หน่อย” หัสดินพูดแล้วยื่นมือไปรับรับสมาร์ทโฟนจากผู้ช่วยเชฟอีกคนที่ถือโทรศัพท์ให้เขา ชายหนุ่มรับมาแล้วถ่ายรูปหลายๆมุมก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วยื่นมือไปทางผู้ช่วยอีกคน “ขอมีดหน่อย”
“นี่ค่ะ” ผู้ช่วยส่งมีดตัดเค้กให้ เชฟหนุ่มรับมือแล้วบรรจงตัดสี่ชิ้นแล้วหยิบมาวางบนจานเล็กเรียบหรูสีเข้มขับเน้นให้เนื้อเค้กสีครีมดูสวยน่ากินมากยิ่งขึ้น
“ชิ้นนี้ของผม ที่เหลือพวกคุณช่วยกันชิม ชิมแล้วบอกด้วยว่าเป็นไง”
“อร่อยสุดยอดค่ะ” พนักงานคนหนึ่งรีบพูดขึ้นสร้างเสียงหัวเราะในห้องครัว แต่หัสดินกลับส่ายหน้าระอาใจ อาจเพราะใบหน้าเขาอมยิ้มตลอดจึงเหมือนเอ็นดูอีกฝ่ายมากกว่า
“ลิ้นยังไม่ได้สัมผัสเลย บอกอร่อยแล้วได้ไง”
“ได้กลิ่นก็รู้แล้วค่ะ แล้วระดับเชฟดินลงมือทำเอง อร่อยทุกเมนู”
“พูดแบบนี้เงินเดือนก็ไม่ขึ้นหรอกนะ” เขาหัวเราะในลำคอ กำลังจะหามุมถ่ายรูปเค้กในจานเล็กๆ ก็มีพนักงานอีกคนเข้ามาเรียกเขา
“มีคนมาขอพบเชฟดินครับ”
“ใคร?” เขามองไปยังนาฬิกาที่อยู่ในห้องครัว ร้านปิดแล้วและเขาไม่ได้นัดใครไว้นี่นะ”
“บอกว่าชื่อพลอยไพลินครับ”
“พลอยไพลิน...ใครคือพลอยไพลิน” คราวนี้เชฟหนุ่มทำหน้างุนงงหนักกว่าเดิม
“หรือว่าจะเป็นพลอยไพลินที่เป็นอินฟูลชื่อดังคนนั้น” เสียงพนักงานคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทีตื่นเต้นแล้วก็หมุนตัวเดินไปทางประตู หายไปไม่ถึงครึ่งนาทีก็หน้าตาตื่นกลับมา “ใช่จริงๆด้วย พลอยไพลิน อินฟูลชื่อดังผู้ติดตามครึ่งล้าน!”
“ร้านปิดแล้ว ไม่ได้นัดไว้ ให้มาวันหลัง”
“แต่...เชฟดินคะ คนนี้ดังจริงๆ สวยด้วย นิสัยดีด้วย”
ชายหนุ่มที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเงยหน้าจากเค้กตรงหน้าแล้วมองพนักงานคนนั้น แม้มุมปากยกยิ้มแต่แววตาตรงข้าม
“ผมยังเป็นหัวหน้าคุณอยู่หรือเปล่า หรืออย่างน้อยก็เป็นเจ้าร้านนี้”
“เอ่อ... หนูขอโทษค่ะเชฟ”
“ไปบอกตามนั้น” ชายหนุ่มไม่สนใจความโด่งดังที่ลูกน้องพูดถึง ไม่ได้นัดหมายและมาตอนที่ร้านปิดแล้ว เขาก็ไม่พร้อมต้อนรับใครทั้งนั้น
พนักงานเดินออกไปครู่หนึ่งก็กลับเข้ามาใหม่ด้วยสีหน้ากังวล
“เชฟดินครับ คือว่า...คุณพลอยไพลินบอกว่า เธอตั้งใจมาให้ทันก่อนร้านปิด แต่ระหว่างทางเธอช่วยลูกแมวที่ตกอยู่บนทางด่วนและแวะไปคลินิกรักษาสัตว์จึงทำให้มาช้า เธอตั้งใจมาร้านของเชฟดินจริงๆครับ พรุ่งนี้เธอบินไปต่างประเทศ เธอมีเวลาแค่วันนี้เท่านั้น”
หัสดินได้แต่ถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ เขาเดินไปล้างมือและซับน้ำจนแห้งดีแล้วจึงก้าวออกไปที่หน้าร้าน สำหรับหัสดินแล้ว เขาสามารถเนรมิตร้านเบเกอรี่ให้ใหญ่โตอลังการแค่ไหนก็ได้ เงินทุนไม่ใช่ปัญหา ซึ่งน้อยคนจะมีโอกาสอย่างเขา แต่เขาทำเพราะรักการทำเบเกอรี่อยากมีร้านเล็กๆที่ดูแลลูกค้าทั่วถึง ให้ทุกคนได้กินฝีมือการทำขนมอบของเขา
‘เสียชื่อคนในตระกูลศาตนันท์หมด ทำไปทำไมร้านเล็กๆแบบนี้ หรือไม่ก็ขยายสาขาไปเลย’
‘ผมเป็นลูกนอกสมรสนะ’
‘ยังไงนายก็นามสกุลศาตนันท์ เรามีพ่อคนเดียวกันและนายก็เป็นน้องชายฉัน’
‘ให้ผมทำร้านเล็กๆ แบบนี้ดีแล้ว แล้วพี่วีร์มีอะไรก็เรียกใช้ผมได้เลย’
ระหว่างคุณอัศวิน พ่อแท้ๆของเขากับหัสวีร์พี่ชายต่างมารดา เขากลับกลัวหัสวีร์มากกว่าพ่อ อาจเพราะที่ผ่านหัสวีร์ช่วยเหลือเขากับแม่มาตลอด และยังเป็นคนที่กุมความลับของเขาด้วย
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในร้านก็พบว่ามีหญิงสาวสองคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยพยายามเค้นสมองคิดอยู่ว่าสองคนนี้เป็นใคร และราวกับคนถูกมองจะเดาความคิดอีกฝ่ายได้ เธอลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะเชฟดิน” หญิงสาวรูปร่างเล็กในชุดเดรสกระโปรงลายดอกไม้น่ารักทำให้ยิ่งดูบอบบางอ่อนหวาน “ต้องขอโทษจริงๆที่ลินมารบกวนเชฟดินแบบนี้”
“ร้านปิดแล้ว ผมไม่รู้จะมีอะไรต้อนรับคุณได้” หัสดินพูดแล้วผายมือเชิญให้หญิงสาวนั่ง
พลอยไพลินเห็นใบหน้าของเขามีรอยยิ้มก็ค่อยสบายใจขึ้นมา “เอ่อ...นี่เพื่อนของลินค่ะ ชื่อเกรซ”
“สวัสดีค่ะเชฟดิน” เกรซยกมือไหว้ตามด้วยรอยยิ้มประจบเอาใจ “ได้ยินชื่อเชฟมานาน ติดตามในช่องยูทูปได้เห็นตัวแล้ว ตื่นเต้นดีใจจริงๆค่ะ”
“รับน้ำอัญชันไหมครับ” เขาพูดตัดบทด้วยความรำคาญแต่ถึงกระนั้น ใบหน้าของเขาก็ยังมีรอยยิ้ม บางทีเขาก็นึกเกลียดตัวเองที่ยิ้มเก่งแบบนี้
“เกรงใจค่ะ เอาไว้วันหลังลินมาในเวลาร้านเปิดดีกว่าค่ะ” พลอยไพลินตอบแล้วหยิบสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋า แล้วหยิบภาพโปสเตอร์ขนาดครึ่งกระดาษA4 ออกมา ใบหน้าหวานแดงเรื่อ
“น้องอันดาเป็นแฟนคลับของลินและเป็นแฟนคลับของติดตามเชฟดินมาสองปีแล้วค่ะ เธอชอบสไตล์การทำขนมของเชฟดินมาก น้องอันดาเคยทำขนมตามสูตรเชฟดินด้วยนะคะ”
หญิงสาวกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อจึงหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดภาพเลื่อนให้เขาดู หัสดินนั่งตรงข้ามกับแขกที่มานอกเวลาจึงชะโงกหน้าไปมอง สมาร์ทโฟนสุดหรูมีภาพของเด็กสาวอายุประมาณสิบหกหรือสิบเจ็ดแต่รูปร่างผอมบาง สวมหมวกไหมพรมสีชมพูสดใส มีหลายรูปที่เห็นว่าฝึกทำขนมจริงๆ และหลายรูปที่ขนมไม่เป็นขนมเอาเสียเลย
“น้องอันดาเป็นมะเร็งกระเพาะค่ะ จะผ่าตัดวันพรุ่งนี้ พลอยอยากให้กำลังใจน้องอันดาก็เลยสัญญาว่าถ้าน้องอันดาแข็งแรงดีจะพามากินของอร่อยฝีมือเชฟดิน แต่ตอนนี้พลอยอยากให้น้องมีกำลังใจสู้ต่อไปก็เลยอยากให้เชฟดินช่วยเซ็นชื่อหรือเขียนอะไรเป็นกำลังใจให้น้องอันดาสักเล็กน้อยค่ะ”
“ได้ครับ” เขาตอบตกลงแล้วหยิบปากกากับภาพของตัวเองเลื่อนมาตรงหน้า ดูแล้วเป็นรูปที่เซฟมาจากในยูทูปจริงๆ และเขาก็มีช่องยูทูป แรกทีเดียวไม่ได้ทำเพราะต้องการเป็นจุดเด่นหรือความโด่งดังอะไร แต่ส่วนหนึ่งเพราะต้องการโปรโมตร้านและแชร์วิธีทำขนมสำหรับคนที่สนใจ แต่ไปๆมาๆ ก็มีผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจนัก มีผู้จัดการร้านที่ช่วยทำคลิปและอัพโหลดให้
แววตาที่เปลี่ยนไปจากอ่อนโยนกลายเป็นแข็งกร้าว ทำให้แพรดาวได้แต่กัดริมฝีปากไม่กล้าแม้แต่ครึ่งคำ “อุตส่าห์ว่าจะนอนแล้วเชียว ก็ดันถูกปลุกจนได้” เขาทำเสียงรำคาญในลำคอแล้วเลื่อนมือข้างหนึ่งมาแตะลำคอของหญิงสาว “คะ...คุณ...คุณเป็นใคร” “แล้วคิดว่าไงล่ะ” เขาถามย้ำอีกครั้ง “นี่ห้องพี่ดิน...” “แล้วไงต่อ...คิดหน่อยสิ ปกติเธอก็ไม่ใช่คนโง่นี่นะ” ทุกอย่างบนตัวมิสเตอร์ดาร์กเหมือนกับพี่ดิน ตอนที่เปิดประตูเธอก็คิดว่าเขาเป็นพี่ดิน แต่ตอนนี้ น้ำเสียงที่ใช้และวิธีการเรียก ‘เธอ’ ไม่ใช่ ‘น้องแพร’ ตอกย้ำว่าเขาคือมิสเตอร์ดาร์ก “แพร...แพรไม่รู้ค่ะ...ไม่รู้จริงๆ” “ก็เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอ รู้ไหม คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น มันไม่ค่อยได้ตายดีนักหรอกนะ” มือใหญ่เลื่อนมากำลำของหญิงสาว นิ้วกร้านสัมผัสผิวบอบบางปลายนิ้วกดที่ลำคอของเธอ เพราะแรงบีบจากฝ่ามือของอีกฝ่ายทำให้แพรดาวหน้าซีดลงไปทันที เธอยกมือขึ้นทุบแผ่นเปลือยเปล่า เขาใช้เพียงมือข้างเดียวก็บีบคอเธอได้แล้ว “อะ...อึก...พะ...พี่
“มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ” ชายหนุ่มเอนตัวไปด้านหน้ากอดพวงมาลัยรถหลวมๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด “พักที่นี่สินะ คอนโดหรูเชียว นี่ถ้าไม่รู้ว่าแบ็คของเธอเป็นใคร คงนึกว่ามีเสี่ยเลี้ยงแน่ๆ” “แบ็คคืออะไรคะ” เธอเอียงคอถามเขา “คนที่หนุนหลังเธอไง” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “คนที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ของเธอ” “อ้อ...จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ถูก...แต่...” เรื่องนี้ไม่อนุญาตให้พูดกับคนอื่น เธอก็เลยอ้ำอึ้งไม่รู้จะอธิบายยังไง “เข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรหรอก” เขาโบกมือไปมา “ไปนอนเถอะ” “ขอบคุณค่ะ” แพรดาวยกมือไหว้แล้วลงจากรถ ถ้าคืนนี้ไม่มีเขาช่วยต้องแย่แน่ๆ “นี่!” “คะ” หญิงสาวหันกลับมามอง สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านทำให้ผมยาวปลิวไหวเล็กน้อยจนเธอต้องยกมือขึ้นจับปลายผม “เธอบอกว่ามีคนหน้าเหมือนผม” “อ้อ! ใช้ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ “แต่นิสัยไม่เหมือนกันเลย” “งั้นที่เธอละเมอก็คือเรียกชื่อคนๆนั้นสินะ” เพราะอยู่ในแสงสลัวจึงไม่เห็นว่าตอนนี้ใบหน้
ราวกับความฝัน แพรดาวลืมตามองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอนอนมองคนที่หลับตาพริ้มอยู่จนมั่นใจว่าไม่ได้ฝัน แต่เกิดลังเลว่าคนที่เธอมองเห็นตรงหน้านี้เป็นใคร ‘พี่ดิน’ หรือ ‘มิสเตอร์ดาร์ก’ ก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว คนที่แกล้งหลับอยู่นานก็ทนไม่ไหว ยื่นหน้าไปประกบริมฝีปากฉกจูบอย่างรวดเร็ว เสียงร้องอุทานถูกดูดกลืนไปหมดสิ้น กลายเป็นเสียงอู้อี้ครางในลำคอ ดวงตาที่เมื่อครู่ยังปิดอยู่นั้นลืมตาจ้องมองขณะที่เรียวลิ้นร้อนแทรกในโพรงปากสาว ดวงตาร้อนแรงทำให้แพรดาวดันแผ่นอกเขาออก ทว่าอีกฝ่ายกลับโอบรัดร่างนุ่มนิ่มแน่นขึ้น ราวกับรู้ว่าหญิงสาวจูบไม่เป็นและไม่เคยถูกจูบมาก่อน เธอเหมือนจะเป็นลมเพราะหายใจไม่ออก เขาจึงยอมผละจากริมฝีปากหวาน “พี่...พี่ดิน” ชายหนุ่มชะงักไปทันที เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างหอมกรุ่นที่โอบกอดตลอดคืน “เมื่อกี้...เรียกว่าอะไรนะ” “เอ่อ...” แพรดาวทำตาปริบๆ เธอก็ไม่รู้ทำไมเมื่อครู่คิดว่าเขาคือ ‘พี่ดิน’ ทั้งที่ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องทำงานมิสเตอร์ดาร์ก เพราะไม่ได้ยินคำตอบที่พอใจ เขาโน้มหน้าลงกดหน้
แพรดาวขมวดคิ้ว มือเรียวกระชับสาบเสื้อจนมั่นใจแล้วค่อยๆ เดินออกมา เธอเพิ่งเห็นว่าโซฟาในห้องของเขาถูกปรับเป็นเตียงนอนได้ด้วย และมันก็มีหมอนวางอยู่ “เสื้อผ้าเปียกเอาใส่ถุงซักผ้าแล้วไปวางหน้าห้อง” เขาสั่งโดยไม่มอง แม้ปากบ่นว่าขนมไม่อร่อยแต่ก็กินจนแก้มตุ้ย “ค่ะ” แพรดาวเอาเสื้อผ้าเปียกของตัวเองใส่ถุงพลาสติกสำหรับรอซัก และมองหาเสื้อผ้าของเขา ชายหนุ่มเห็นเธอมองไปมองมาก็เอ่ยปากถาม “หาอะไร” “สะ..เสื้อ...เสื้อของมิสเตอร์ล่ะคะ” “ฉันไม่เคยซัก มีแต่ทิ้ง” เขาพูดแล้วปัดมือไปมา แล้วกวาดตามองหญิงสาว เพราะผมเธอเปียกแต่ก็ยังมองออกว่าเธอตัดผมสั้นกว่าเดิมไปเล็กน้อย แพรดาวเขินอายที่ถูกจ้องมองจึงก้าวเร็วๆ เอาถุงเสื้อไปวางที่หน้าประตูแล้วเดินกลับเข้ามา “ห้องนี้ไม่มีผ้าห่ม” เขาพูดห้วนๆ แล้วชี้ไปที่เตียง “ไปนอน” “คะ?” “จะกลับบ้านสภาพนี้เหรอ” แพรดาวส่ายหน้าไปมาแล้วไปนั่งบนเตียง เธอไม่รู้จะทำอะไรก็เอาหยิบหมอนมาวางบนตัก “ให้นอนไม่ใช่ให้นั่ง” โดนดุอีกครั้งทำเอาหญิงสาวสะด
เขาอยู่ในด้านมืดแต่ไม่ชอบเห็นผู้หญิงถูกรังแก โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่า เขาสั่งให้ลูกน้องจัดการคนนั้นแล้วหันมาสนใจหญิงสาวที่อยู่ในรถ "อวดเก่ง" แพรดาวได้ยินเสียงคุ้นเคยจึงปรือตาขึ้นมอง เธอครางเสียงแผ่วขอความช่วยเหลือ "ร้อน ทรมาน"มิสเตอร์เลิกคิ้วแล้วยื่นมือไปแตะเนื้อตัวผ่าวร้อนของเธอ "ไอ้ระยำ!" ไม่รู้ว่าเขาด่าใคร แต่เวลานี้ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และยังรู้สึกแปลกประหลาดไปหมด สัมผัสได้เพียงความแข็งแกร่งที่โอบอุ้มเธอ มือเรียวเล็กยื่นไปคล้องคอเขาไว้ แล้วขยับหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้างหาความปลอดภัย "จัดการมัน""ครับเจ้านาย"ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ไปยุ่งกับผู้หญิงของมิสเตอร์ดาร์ก "อดทนหน่อย" น้ำเสียงแข็งกระด้างแต่แฝงความห่วงใยทำให้แพรดาวรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนนี้มิสเตอร์ดาร์กอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกมาทางส่วนตัวกลับมาที่ห้องทำงาน เขาวางเธอบนเก้าอี้แต่หญิงสาวยังไม่ยอมปล่อยมือที่คล้องคอเขาอยู่"รู้ตัวไหมว่าเธอโดนวางยา""ไม่..ไม่รู้ค่ะ""เหอะ! ทำงานร้านเหล้าแต่ไม่รู้จักระวังตัว" เขาบ่นแล้วแกะมือออก "ทรมานจัง" เสียงครางหวานปลุกเร้าชายหนุ่มให้แทบคลุ้มคลั่ง แต่เขาต้องกัดฟันข่มใจเดินไปหยิบน้ำเย็นมาให้เธอดื่ม
คงเพราะต่างรู้ว่ามิสเตอร์ดาร์กโหดขนาดไหน ต่อให้ห้องทำงานไม่ได้ล็อกก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปเฉียดใกล้แพรดาวเดินมาตามทางที่คุ้นเคย เธอเปิดประตูเข้าไปแล้วเอาขนมไปวางบนโต๊ะทำงาน หญิงสาวลลังเลอยู่คู่หนึ่งหันซ้ายหันขวาหยิบกระดาษโน๊ตบนโต๊ะเขียนข้อความสั้นๆวางไว้ให้เขา‘ขนมค่ะแทนคำขอบคุณอร่อยมากๆเลยกินกับกาแฟได้เลยนะคะ’แพรดาวดวงตากลมกวาดตามองในห้อง เธอคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกภาพความทรงจำต่างๆ ก็ผุดขึ้นมา หน้านิ่งๆดุๆ แต่ก็ยอมให้เธอปล่อยโฮโดยไม่ขับไล่ไปไหน หรือตอนที่เขาสั่งให้เธอนั่งรอที่นี้จนผล็อยหลับไป รอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว คนๆนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวแบบที่คนอื่นหวาดกลัวนักหรอก เธอหันซ้ายหันขวาแล้วเห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่มุมห้อง มือเรียวหยิบถุงขนมชูขึ้นแล้วพูดว่า“หวังว่าจะชอบขนมนะคะ” มือเรียววางกระดาษบนโต๊ะแล้วเอาถุงขนมทับอีกที มองดูจนมั่นใจว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่เขามองเห็นแล้วเดินออกมาใจจริงแพรดาวอยากกลับที่พักมากกว่า แต่เกรซโทรเข้ามาพอดี สมองกำลังคิดหาทางหลบเลี่ยงแต่จู่ๆ ก็มีคนมาคล้องแขนเธอ“ว้าว! แพรดาวนิวลุค!เกือบจำไม่ได้เลยนะเนี้ย” เกรซทำตาโตแล้วจับไหล่เพื่อนสาวหมุนตัวไปมา