คำเตือน : ระวังหลงมาเฟียโหดโหมดมีความรัก! หมูหวาน พริตตี้สาวสวยชื่อดังเป็นที่หมายปองของใครหลายคนแต่ไม่มีใครเคยได้แอ้มเธอเพราะเธอไม่ง่าย!! ‘ ชีวิตเธอเพอร์เฟคมาตลอดจนกระทั่งต้องมาแปดเปื้อนความจัญไรตั้งแต่พบมาเฟียโครตเลวอย่างภาคิน’ ภาคิน มาเฟีย ถึงแม้เขาจะหล่อและเลวขนาดไหน ผู้หญิงก็ยังพร้อมพลีกายให้อย่างไม่ลังเล
View Moreอ้อนรัก 1
งานมอเตอร์โชว์
บรรยากาศภายในงานวันนี้คึกคักเป็นพิเศษเหตุผลไม่ใช่เพราะมีรถใหม่น่าสนใจหรอกแต่วันนี้มีพริตตี้เบอร์หนึ่งอย่างหมูหวานมาต่างหาก
ตึก ตึก ตึก
“พี่กบคะ ขอโทษค่ะ หมูหวานพึ่งสอบเสร็จ”
สาวสวยวิ่งตรงดิ่งเข้ามาหาโมเดลลิ่งที่จ้างเธอมา ขาเรียวโผล่พ้นออกจากกระโปรงทรงเอตัวสั้นเนื่องจากกระโปรงล่นขึ้นอย่างไม่ตั้งใจตอนวิ่งกลายเป็นจุดสนใจมากกว่ารถเสียอีก
“ไม่เป็นไรจ๊ะ ยังไม่สายลูก ไปแต่งตัวกันๆ”
พี่กบสาวสองรีบพาลูกสาวสุดรักสุดหวงของตนเข้าไปแต่งตัวเพราะอีก10นาทีงานก็จะเริ่มแล้ว
หมูหวานออกมาในชุดเดรสยาวสีน้ำเงิน กระโปรงผ่าขึ้นมาถึงขาอ่อน คอวีแหวกลึกโชว์เนินอกขาวแต่โดยรวมเธอก็ไม่ได้ดูโป๊จนน่าเกลียด ออกแนวไปทางหรูหราเสียมากกว่า
“อื้อหือ นางฟ้าของกู”
“ไอสัส ของกู”
เพียงแค่หมูหวานขึ้นมายืนสวยๆบนเวที (หน้าที่เธอมีแค่นั้น) เพื่อร่วมเปิดงาน ผู้ชายเกือบทั้งงานก็พากันมายืนออเต็มหน้าเวที
ด้านภาคิน
“ทำไมวันนี้คนเยอะจังวะ”
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในงาน ภาคินก็ต้องหัวเสียเพราะวันนี้ภายในงาน คนเบียดเสียดกันแทบไม่มีที่เดิน
“วันนี้มีนางฟ้าหมูหวานไง”
ไฟว์เป็นคนตอบเพื่อน อันที่จริง เขาเลือกมาตรวจงานช่วงเวลานี้เพราะเขาเองก็อยากเจอ นางฟ้าหมูหวานที่คนร่ำลือเหมือนกัน
“ใครวะ?”
“พริตตี้อะมึง กูเคยเห็นรูปแล้ว อย่างเด็ด”
“เหอะ ไร้สาระ”
“มึงเจอน้องเขาก่อนแล้วจะตะลึง”
“เว่อร์ล่ะมึง รีบไปที่บูธเถอะ กูรำคาญคนจะเเย่ มองหน้าหาส้นตีนอะไรวะ!!”
ไฟว์เห็นท่าไม่ดีเลยรีบลากเพื่อนไปสงบสติอารมณ์ที่บูธบริษัทเขาก่อนที่มันจะเผลอกระทืบใคร
ระหว่างทางเดินไปบูธ ภาคินหันไปสะดุดกับรอยยิ้มสดใสของสาวสวยบนเวที เขาหยุดเดินมองรอยยิ้มนั่นอย่างไม่รู้ตัว
“คนนั้นไงมึง”
“หือ?”
“นางฟ้าที่กูบอกมึงไง”
ครั้งนี้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเธอเหมือนนางฟ้าจริงๆ รอยยิ้มบนใบหน้าเธอสวยงามและสดใสจนเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
“กูอยากได้”
“ห๊ะ มึงว่าไงนะ?”
ภาคินไม่สนใจเพื่อน หันไปกวักมือเรียกลูกน้องตัวเองให้เข้ามาหา
“มึงไปจัดการเอาพริตตี้คนนั้นมาให้กู”
ลูกน้องเขาพยักหน้ารับก่อนจะรีบผละตัวออกไปจัดการให้เจ้านาย
“มึงนี่มันมึงจริงๆ ไอภาคิน แต่กูขอบอกไว้ก่อน กูได้ยินมาว่าน้องเขายากนะมึง ไม่เคยนั่งหรือเข้าใกล้เป็นการส่วนตัวกับใครสักครั้ง”
“หึ มึงเคยเห็น มีอะไรที่กูไม่ได้หรอ”
ภาคินยกยิ้มมุมปาก ออกเดินต่อไปอย่างอารมณ์ดี เเค่คิดว่าเขาจะได้เจอเธอใกล้ๆ ความรู้สึกหงุดหงิดเมื่อครู่ก็หายวับแล้ว
ยี่สิบนาทีผ่านไป
ภาคินเดินดูรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่เขาอยากได้ในบูธบริษัทไฟว์ ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนตัวดีของเขาเอารถคันนี้มาล่อ เขาคงไม่ยอมมางานที่คนเยอะขนาดนี้หรอก
“ไงคุณภาคิน ชอบมั้ยครับ”
“เออ กูจองคันนึง ลด50% ด้วยล่ะ”
“ไอสัส รถนะเว้ย ไม่ใช่ตุ๊กตายาง จะเอาก็จ่ายเต็มแค่ยี่สิบล้าน มาเฟียอย่างมึงไม่สะเทือนหรอก”
“เหอะ บ่นเป็นยายแก่เลยนะมึง”
“นายครับ คือว่า...”
ภาคินหันมองลูกน้องพลางเหลือบมองไปทางด้านหลังหวังจะเจอสิ่งที่เขาต้องการแต่เปล่าเลย นอกจากลูกน้องเขาจะเอานางฟ้าคนนั้นมาไม่ได้ ยังเอาสาวสองร่างใหญ่ในชุดสีชมพูมาอีก
“กูสั่งคนนี้รึไง”
“คนนี้โมเดลลิ่งครับ ผมว่านายคุยเองดีกว่า”
“สวัสดีค่ะ คุณภาคิน เจ๊ชื่อกบนะคะ”
“สวัสดี ไม่อ้อมค้อมนะ ผมต้องการเด็กคุณ”
เจ๊กบสะดุ้งนิดๆ นอกจากจะตกใจในความหล่อของชายหนุ่มตรงหน้าแล้ว ยังตกใจในความตรงเกินไปของเขาด้วย
“ถ้าหมายถึงน้องหมูหวาน เจ๊ต้องขอโทษด้วยนะคะ น้องเขาไม่รับงานเอ็นเตอร์เทรนค่ะ ถ้าคุณภาคินสนใจเป็นคนอื่น...”
“ไม่!! ผมจะเอาคนนั้น”
ครั้งนี้เจ๊กบถอยหลังออกห่างอย่างอัตโนมัติ สายตาและน้ำเสียงดุดันของภาคินทำให้เธอเริ่มสั่นด้วยความกลัว
“คือ ไม่ได้จริงๆค่ะ น้องเขาไม่รับจริงๆ”
“มึงใจเย็นดิวะ”
ไฟว์เดินเข้ามาตบบ่าเพื่อน เขารู้ว่าเพื่อนตัวเองไม่ชอบโดนขัดใจแต่ก็ไม่คิดว่าแค่ไม่ได้ผู้หญิงคนเดียวจะทำให้มันเป็นขนาดนี้
“จะเอาเท่าไหร่”
ภาคินถามขึ้นพลางยื่นมือไปรับเช็คจากลูกน้องตัวเองเตรียมจะเขียนให้
“เจ๊ อยู่นี่เอง หมูหวานลืมกุญแจรถไว้ในห้องแต่งตัวอะค่ะ แล้วทีมงานบอกว่ากุญแจห้องอยู่ที่เจ๊”
ทุกสายตาหันไปจับจ้องยังสาวสวยผู้มาใหม่ ชุดนักศึกษาเข้ารูปกับกระโปรงสั้นทรงเอของเธอทำเอาผู้ชายแถวนั้นแทบสะดุดขาตัวเองล้ม
“หมูหวานเอากุญแจไปแล้วรีบกลับไปเลยนะ”
เจ๊กบรีบยัดกุญแจห้องใส่มือลูกสาวก่อนจะรีบดันหลังให้เธอเดินออกไป
“เดี๋ยว”
แต่เเล้วทั้งคู่ก็ต้องหยุดชะงัก เจ๊กบค่อยๆหันมามองเจ้าของเสียงเข้มส่วนหมูหวานแค่หันมาเลิกคิ้วเล็กน้อยเท่านั้น
“เธอจะเอาเท่าไหร่”
“หืม เอาอะไรคะ”
“ค่าตัวเธอไง เธอส่งโมเดลลิ่งมาต่อรองเพื่อเรียกค่าตัวไม่ใช่หรอ”
หมูหวานเดินก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าภาคิน แม้ว่าเธอจะใส่ส้นสูงถึงสามนิ้วแต่สายตาเธอก็ยังอยู่ระดับคางเขาเท่านั้น เธอจึงต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อส่งสายตาทิ่มแทงไปให้เขา
“หมูหวานไปกันเถอะ”
เจ๊กบพยายามดึงแขนเรียวเพราะเธอรู้จักนิสัยหมูหวานดี
“คุณบอกว่าฉันเรียกค่าตัวหรอ”
“หรือไม่จริง”
ภาคินยักคิ้วตอบ หน้าตาที่แสดงถึงความเหนือกว่าของเขาทำให้หมูหวานนึกหมั่นไส้ไม่น้อย
“หึ ยื่นมือมาสิคะ”
เจ๊กบขมวดคิ้วยุ่ง รอยยิ้มกับเสียงหวานดุจน้ำผึ้งของหมูหวานนั่นทำให้เดาไม่ออกเลยว่าเธอต้องการอะไร
“ก็แค่นี้”
ภาคินกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เขาบอกแล้วว่าคนอย่างเขา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธ
หมูหวานหยิบนามบัตรออกจากกระเป๋า เธอประทับจูบลงบนนามบัตรก่อนจะส่งให้ภาคิน
“โอนไปสักห้าล้าน หวังว่าคงมากเกินพอ”
มือหนารับนามบัตรมา ยื่นให้ลูกน้องพลางสั่งให้โอนเงินโดยที่สายตาเขายังจับจ้องดวงตาคู่สวยตรงหน้าไม่วางตา
“เอ่อนายครับ”
“เรียบร้อยใช่มั้ย เธอคงพอใจแล้วสินะ”
“นายครับคือเลขบัญชีที่เธอให้มาเป็นของสถานรับเลี้ยงหมาจรจัดครับ”
“ห๊ะ มึงว่าไงนะ!?”
ได้ยินอย่างนั้น ภาคินเลยรีบหันไปหาลูกน้องตัวเองอีกครั้งและภาพหลักฐานการโอนก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเขาพึ่งเป็นมาเฟียใจบุญบริจาคเงินให้หมาจรจัดไปถึงห้าล้าน
“นี่เธอ”
ภาคินหันกลับมาจ้องเขม็งสาวสวยตรงหน้าแต่หมูหวานกลับยักไหล่พลางส่งยิ้มเหนือกว่ามาให้เท่านั้น
“คนแบบคุณควรรู้จักทำบุญบ้างนะคะ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ บาย”
พูดจบสาวสวยก็เดินสะบัดผมออกไปอย่างไม่ใยดีคนที่เธอพึ่งแกล้งไปเมื่อครู่ ทิ้งให้มาเฟียใหญ่ได้แต่กำหมัดแน่น เขาไม่เคยรู้สึกเสียหน้าขนาดนี้มาก่อนเลย
“ฮ่าๆ กูเตือนมึงแล้วนะเพื่อน”
————
โอ๊ย กินก็ไม่ได้กิน ยังต้องเสียเงินอีก
สงสารอ่ะ 🤣🤣
อยากอ่านต่อ คอมเมนท์ให้หน่อยนะคะ
อ้อนรัก 19เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็น วันนี้ภาคินจะแวะมารับฉันที่มหาลัยเพราะเมื่อเช้า ฉันทิ้งรถไว้ให้พี่หมอเป้เผื่อเขาอยากไปไหน“ช้าชิบ”ไม่แปลกใจเลย เมื่อเปิดประตูเข้ามา เสียงเเรกที่ได้ยินจะเป็นเสียงบ่นของเจ้าของรถ“บ่นจริง บอกว่ากลับเองได้ก็ไม่เชื่อ”“อย่าพูดมาก แล้วนั่นกระโปรงหรือเศษผ้าวะ”มือหนาเอื้อมมาดึงชายกระโปรงฉันด้วยสีหน้าหงุดหงิด อะไรของเขา เมื่อเช้าก็เห็นแล้ว ตัวเองเป็นคนถอดเองแท้ๆด้วย อุ๊ป >x“เย็นนี้กินไรดีอ่ะ”เพื่อการลดแรงปะทะ ฉันเลยจับมือภาคินเล่นก่อนจะเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง“ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง”ภาคินใช้มืออีกข้างผลักหัวฉันเบาๆ ฉันเลยส่งสายตาปิ๊ง ปิ๊งไปให้เขา“ร้ายนักนะ ลูกหมู”เขาบีบจมูกฉันส่ายไปมาก่อนจะหันไปออกรถ“เราไปรับพี่หมอด้วยดีมะ อยากกินชาบูอ่า”“ไม่ต้องหรอก ไอไฟว์อยู่บ้าน ถ้าอยากกินแวะซื้อไปทำกินที่บ้านละกัน”สรุป เราเลยพากันมาที่ตลาดสดใกล้บ้านภาคิน ดูจากหน้าคุณชายมาเฟียแล้ว เขาต้องไม่เคยย่างกลายมาที่นี่แน่เลย“ฉันว่านายควรถอดสูทนะ”“ถามจริง ทำไมไม่แวะห้างวะ ช่วงเย็นแบบนี้คนมันเยอะ”“ถ้าบ่นมากก็ไม่ต้องลง รอนี่แหละ”“เหอะ ตัวเท่าลูกหมูอย่างเธอ จะถืออะไรไห
อ้อนรัก 18หนึ่งเดือนผ่านไป(หมูหวาน)ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างฉัน นางสาวหมูหวาน จะทนเป็นเบ๊ ไอมาเฟียภาคินนั่นมาได้ถึงเดือนเหลืออีกแค่เดือนเดียว ฉันก็จะได้ร้านที่ชลบุรีคืนแล้ว ยะฮู้และวันนี้ก็เป็นเหมือนเฉกเช่นทุกเช้า ซึ่งฉันต้องเข้ามาทำอาหารเช้าให้ มาเฟียบ้าอำนาจอย่างเขากริ๊ง กริ๊งตายยากจริง กำลังนินทาเลย“ฮัลโหล”“อยู่ไหนแล้วลูกหมู”“จะเลี้ยวเข้าซอยล่ะเนี่ย นายจะโทรจิกทำไมทุกเช้าห๊ะ!?”“หิวแล้วโว้ย ทำไมไม่ย้ายมาสักทีวะ”“เหอะ ฉันไม่หลงกลนายหรอก แค่นี้นะ จะขับรถ”ภาคินแมร่งเป็นอะไรไม่รู้ ทั้งงอแง ทั้งบังคับ ทั้งขู่เข็ญ ให้ฉันย้ายมาอยู่บ้านเขาแต่ทุกวันนี้ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ฉันยังรำคาญจะแย่ เจอแมร่งมันเกือบทุกเวลา เดี๋ยวให้ไปนู้น ไปนี่ -_-ไม่นานฉันก็มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ ฉันแวะเอากล้วยทอดให้การ์ดหน้าประตูก่อนจะขับเข้าไปกริ๊ง กริ๊ง“อะไรอีก”ฉันกดรับก่อนจะพูดด้วยความเหนื่อยใจ“ถึงยังลูกหมู”“เออ ถึงแล้วเนี่ย ถ้าหิวมากก็ขุ้ยถังขยะไปก่อนไป๊”“ปากดี เดี๋ยวจะโดน”ปิ๊บ ฉันวางสายพลางถอนหายใจ นี่วันๆชีวิตฉันต้องวนอยู่กับอะไรแบบนี้หรอ“พวกนายทำอะไรกันอะ”ฉันรีบวิ่งจากรถออกไปดูหน้าประต
อ้อนรัก 17(หมูหวาน)เที่ยงคืน“อื้อ”ท้องฉันร้องประท้วงให้ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา ในตอนแรกกะว่าจะไม่ตื่นเพราะขี้เกียจแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเเขนแกร่งของใครบางคนพาดเอวฉันอยู่ ฉันเลยต้องค่อยๆขยับออกจากอ้อมแขนเขา“อื้อ จะไปไหนคะ”ภาคินถามเสียงแหบพร่าพลางกระชับอ้อมแขนให้แน่นกว่าเดิมทั้งที่ยังปิดตาอยู่“ฉันหิว ปล่อยหน่อย”“กินไอติมฉันไปยังไม่อิ่มอีกหรอ”ถอยคำทะเล้นของเขา ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหยิบเข้าที่เอวสอบแรง“โอ๊ย เจ็บนะ”จนเจ้าตัวลุกขึ้นั่ง มองฉันด้วยสายตาเคียดแค้น“นายหาเรื่องก่อนนะ”ฉันว่าพลางลุกลงจากเตียง แต่เพียงแค่ขาฉันแตะพื้นห้อง ฉันก็ทรุดลงทันทีเสมือนเรียวแรงทั้งหมดหายไป ไม่เหลือเลย“หึหึ ให้เฮียช่วยมั้ยคะ”ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าตั้งแต่ภาคินพูด คะ ขาแล้วมันทำให้เขาดูน่ารักขึ้นเป็นสิบเท่า“โอเค ไม่ช่วยก็ได้ คลานไปเองแล้วกัน”ฉันขอถอนคำพูด เขายังเป็นภาคินคนเลว คนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง!!เช้าอีกวัน“ภาคิน นายมาดูฝีมือนายสิเนี่ย”ฉันมองตัวเองในกระจกพลางถอนหายใจเมื่อเห็นรอยแดงจางบ้าง เข้มบ้างสลับกันบนผิวตัวเอง“บอกให้เรียกคินไง”เจ้าของรอยเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลังด้วยใบหน้าเบิกบานหาได้สำ
อ้อนรัก 16ภาคินลากหมูหวานขึ้นจากทะเล ตั้งใจจะพากลับเขาไปในบ้าน“เดี๋ยวๆ ขอไปเอาเสื้อคลุมก่อน”หมูหวานว่าพลางเดินแยกออกไปหยิบเสื้อคลุมที่เธอถอดทิ้งไว้ตรงเก้าอี้ริมชายหาดแต่เมื่อมาถึงเธอกลับหามันไม่เจอ“หาอันนี้อยู่รึเปล่าครับ”หมูหวานมองผ้าคลุมในมือหนาตรงหน้าก่อนจะเงยหน้สมองเจ้าของมือซึ่งกำลังส่งยิ้มกว้างมาให้“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”เธอรับมันพลางยิ้มตอบกลับแต่เขากลับยื้อผ้าไว้“ผมนิคนะครับ คุณเชื่อ”“หมูหวานเสร็จรึยัง”ไม่ทันที่หมูหวานจะได้ตอบ ภาคินก็เข้ามาเสียก่อน แขนแกร่งพาดลงบนบ่าเล็กก่อนจะดึงเธอเข้าประชิดตัว“มึงเป็นใคร?”สายตาดุดันจ้องนิคเขม็ง“เอ่อ ผมแค่เก็บผ้าคุณผู้หญิงได้ ขอตัวก่อนนะครับ”“เหอะ หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะ”“ฉันไม่รู้เรื่องนะ”หมูหวานส่ายหน้าและโบกมือปฏิเสธเต็มที่แต่อีกคนกลับมองเธอด้วยสายตาดุๆก่อนจะอุ้มเธอขึ้น“นายจะอุ้มฉันไปไหน”ลูกหมูตัวเล็กดิ้นไปมาในอ้อมแขนแกร่ง ในขณะที่คนอุ้มเธอไม่ได้สะทกสะท้านใดๆเดินดุ่มๆเข้าบ้านพักตากอากาศของตัวเองไปตุบ!“โอ๊ย เจ็บนะ โยนมาได้”“เธอคิดอะไรอยู่ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ออกไปคนเดียว หัดห่วงตัวเองบ้างสิวะ!!”หมูหวานสะดุ้งโหยง ถอยหลังกรูจนหลังต
อ้อนรักมาเฟีย 15(หมูหวาน)บรรยากาศบนโต๊ะอาหารระหว่างฉันกับภาคินค่อนข้างอึมครึมแต่โชคดีที่มีเพื่อนเขาและเก้าอยู่ด้วย บรรยากาศโดยรวมเลยครึกครื้นสนุกสนาน“จริงๆ พี่ได้ยินชื่อน้องหมูหวานมานานแล้วนะครับ พอมาเจอตัวจริง ฉายานางฟ้านี่เหมาะกับน้องมากเลย”พี่ไทพูดพลางฉีกยิ้มกว้างมาให้ฉัน“เหอะ นางมารสิไม่ว่า”ภาคินพูดขึ้น เขาทำลอยหน้าลอยตาแต่พูดแบบนี้เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าเขาต้องการเหน็บฉัน“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ โฮะๆ”ฉันทำเป็นไม่สนใจภาคิน หันไปตอบพี่ไทแทน“ขนาดนั้นแหละครับ น้องหมูหวานสวยหยดย้อยขนาดนี้”พี่แทนว่าพลางตักปลากระพงทอดน้ำปลาใส่จานฉัน“ขอบคุณมากค่ะ พี่แทนลองทานอันนี้นะคะ อร่อยมาก”ฉันกล่าวขอบคุณก่อนจะทักกุ้งผัดซอสมะขามให้เขาเป็นการตอบแทน“ขอบคุณมะ... เฮ้ย อะไรวะไอคิน น้องเขาตักให้กู”“กูอยากกินชิ้นนี้ มึงเอาชิ้นนี้ไปสิ”ภาคินเอาซ้อมจิ้มกุ้งตัวนั้นเข้าปากแล้วหยิบตัวใหม่ใส่จานเพื่อน“น้องหมูหวาน พี่ก็อยากกินกุ้งนะครับ *0*”“ยาหยี เก้าก็อยากกิน *0*”เหมือนพี่ไฟว์และเก้าพยายามจะกวนตีนใครบ้างคนแถวนี้ ซึ่งดูเหมือนมันก็ได้ผลเพราะพอฉันตักกุ้งให้พวกเขาภาคินก็จิ้มยัดใส่ปากตัวเอง“ไม่ยักรู้นะ
อ้อนรัก 14สี่วันแล้ว สี่วันที่ฉันไม่ได้เจอภาคินเลยเมื่อสี่วันที่แล้ว ฉันไปบ้านเขาเพื่อทำอาหารเช้าให้เขาตามข้อตกลงในสัญญาแต่ลูกน้องเขากลับบอกว่าเขาไปต่างประเทศ ยังไม่มีกำหนดกลับ“จ๊ะเอ๋ ยาหยี”ส่วนคนที่ฉันเจอตลอดทั้งสี่วันคือเก้า โดยทุกวันมันจะซื้อนู้น ซื้อนี่มาให้บอกว่าภาคินฝากมาแต่ภาคินไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันนะ ตลกมั้ยล่ะ“มึงมาทำอะไรทุกวัน”“เอาเค้กใบเตยจากที่บ้านมาให้มึงไง”“เฮ้อ ขอบใจ พี่นายยังไม่กลับอีกหรอ?”เก้าวางแก้วน้ำในมือ หันมาจ้องฉันอย่างจับผิด“ว่าแล้ว ยาหยี มึงกับเฮียมีเรื่องอะไรกัน”“ป๊าว กูก็แค่ถามดู”“เฮียกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แปลกมาก ที่เฮียไม่บอกมึง ทั้งที่เป็นคนสั่งให้กูเอานู้น เอานี่มาให้มึงทุกวัน”ฉันฟังเก้าพูดแล้วได้แต่ถอนหายใจ คำพูดของฉันวันนั้นมันก็แรงเกินไปจริงๆนั้นแหละ“มึงอยากไปหาเฮียมั้ยละ”“เฮ้อ เขาคงไม่อยากเจอกูมั้ง”“เอาหัวเป็นประกันเลย กูว่าเฮียอยากเจอมึง”เก้าพูดพลางตักเค้กเข้าปาก ฉันเลยถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย นี่คือสรุปฉันต้องไปง้อภาคินถูกมั้ย -_-‘“เออ กูไปก็ได้”“หึหึ เอาชุดไปสักสองสามชุดนะยาหยี”“หืม?”“เราจะไปทะเลกัน ^_^”ห้าโมงเย็นฉันและเก้าเด
Comments