ยายเมิ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าท่านเทพดื่มน้ำแกงเยอะเกินกว่าที่กำหนด นางจึงรีบอ้าปากหมายกล่าวคำห้ามปรามทันที
ปึ้ก!
เฮ่ยเสี่ยวอู่พลันกระทืบเท้ายายเมิ่ง หยุดการกระทำของอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้ากระบวยจากเฮ่ยเสี่ยวฉางมาตักน้ำเเกงใส่ในชามจนเต็มอีกครั้ง
“แต่สองชามนั้นมีไว้สำหรับเทพทั่วๆ ไป เทพที่มีพลังระดับตี้จวินต้องสามเท่านั้นถึงจะพอ”
ดวงตาคู่งามตวัดมองหน้าคนพูดอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของเฮ่ยเสี่ยวอู่และเฮ่ยเสี่ยวฉาง ท่านเทพบรรพกาลก็ยกชามน้ำแกงขึ้นดื่มเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะออกคำสั่งน้ำเสียงราบเรียบ
“ข้าจะไปแล้ว พวกเจ้าจัดการเรื่องวิญญาณต้นไม้นั่นอย่าให้เกิดผิดพลาดได้เล่า” สั่งจบร่างสูงก็ก้าวเดินขึ้นสู่สะพานอนิจจังอย่างสง่างามเพื่อเข้าสู่วัฏสงสารในทันที
“เสี่ยวอู่ ทำอย่างไรดี น้ำเเกงตั้งสามชาม หากเป็นวิญญาณคนธรรมดากินมากกว่าหนึ่งชาม ก็ต้องไปเกิดเป็นคนสติไม่สมประกอบเเล้ว”
“นั่นเเหละที่ต้องการ หากตี้จวินเป็นเช่นนั้นย่อมไม่มีทางระลึกถึงเรื่องราวของตนเองในภพเทพได้แน่นอน ส่วนพวกเราก็เเค่รีบหาวิญญาณต้นไม้นั่นให้พบโดยไว แล้วนำนางกลับมายังภพนี้ จากนั้นค่อยสร้างเหตุการณ์เผชิญด่านเคราะห์ให้ตี้จวินใหม่ ถึงจะไม่เหมือนกับที่เทพซื่อมิ่งเขียน แต่ถ้าเขาสามารถผ่านด่านได้ก็คงไม่ถือสาเอาความเรา”
“ตกลง” แม้จะไม่มีความมั่นใจสักนิด ทว่าเสี่ยวฉางก็ตัดสินใจทำตามแผนของสหายทันที พวกเขาทั้งคู่รีบยื่นขอวันลาหยุด เพื่อค้นหาคู่วาสนาที่หายไปของเทพบรรพกาลอย่างขันแข็ง
บนสวรรค์ชั้นฟ้า
ในตำหนักของเฒ่าจันทราผู้มีหน้าที่เชื่อมวาสนาด้ายเเดงเเก่ผู้คน ร่างผอมของเจ้าของตำหนักกำลังนอนกรนคร่อกๆ อย่างสบายใจ ก่อนจะสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียกทรงอำนาจดังขึ้นข้างๆ หู
“เฒ่าจันทรา ตื่นได้เเล้ว!”
เพราะตกใจเสียงเรียก ผู้เฒ่าจันทราจึงลืมตาขึ้นมองรอบด้านด้วยท่าทางงุนงง ก่อนจะค้อมกายทำความเคารพอย่างตื่นตะลึง เมื่อเห็นประมุขสวรรค์ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าตนเอง
“คารวะเทียนจวิน”
เง็กเซียนสะบัดฝ่ามือเป็นเชิงให้ลุกได้ ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากกล่าวถึงธุระที่มา” ข้ามาหาเจ้าด้วยเรื่องผูกด้ายเเดงเชื่อมวาสนาของตี้จวิน”
ผู้เฒ่าพอได้ฟังก็ถึงบางอ้อ รีบงัดด้ายเเดงเส้นหนึ่งขึ้นมาให้ดูทันที “เรียนเทียนจวิน พอได้รายชื่อจากท่านเทพซื่อมิ่ง ผู้น้อยก็รีบผูกให้เเล้วเสร็จในทันทีเลยพ่ะย่ะค่ะ”
เง็กเซียนปรายตามองเส้นด้ายในมือผู้เฒ่าเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวไม่เห็นชอบ พลางออกความคิดเห็น “ข้าว่าด้ายแดงเส้นแค่นี้คงไม่อาจสำแดงเดช ผูกวาสนาของตี้จวินที่ไร้ชื่อสลักบนหินสามชาติได้ เกรงว่ามันจะขาดเอาเสียก่อนนี่สิ”
ผู้เฒ่าพลันอ้าปากหมายเเย้งคำพูดประโยคนั้น แต่ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่าตี้จวินผู้นั้นมีพลังตบะที่มากล้ำ คำกล่าวของเง็กเซียนนับว่ามีโอกาสเป็นไปได้อยู่
“เช่นนั้น เทียนจวินคิดว่าควรทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ”
ครั้นได้ฟังคำถาม ผู้เป็นใหญ่เเห่งเเดนสรวงพลันมีดวงตาเเวววาวสว่างวาบในทันที ท่าทีคล้ายกับว่ารอคอยคำพูดเช่นนี้อยู่ก่อนเเล้ว
“ข้าได้คิดวิธีเเก้ปัญหาไว้ให้เจ้าเเล้ว นี่คือเชือกวิเศษจากยอดเขาคุนหลุน ที่ข้าได้ขอยืมมาจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่ ถ้าหากใช้มันแทนด้ายแดงผูกชะตา ต่อให้ตี้จวินมีพลังเทพมากเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เชือกเส้นนี้ขาดลงอย่างเเน่นอน”
ผู้เฒ่าจันทรานั้นรับหน้าที่เชื่อมชะตาผูกด้ายเเดงสร้างบุพเพให้เหล่าผู้คนมาไม่น้อย เเต่ก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องพิลึกพิลั่นขนาดนี้มาก่อน มีอย่างที่ไหนกัน ถึงขนาดต้องใช้เชือกวิเศษจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่เเทนด้ายเเดงปกติ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือด้วยรูปลักษณ์ของเชือกนั่น ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ห่างไกลคำว่าด้ายไปมากโข
เพราะหากจะจำกัดคำเรียก ควรบอกว่าเป็นเชือกที่เอาไว้ใช้ล่ามสัตว์สี่เท้าตัวใหญ่เสียมากกว่า ยิ่งกว่านั้นยังมีปัญหาสำคัญอีกข้อนั่นก็คือว่า ด้ายเเดงยิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมากล้นด้วยพลังเเห่งบุพเพ หากนำเชือกเส้นนี้มาผูกวาสนาแทนด้ายเเดงเชื่อมชะตาให้แก่ตี้จวิน เกรงแต่ว่าวาสนาคู่รักจะไม่มีทางไม่สมหวังแน่นอน
เพียงแต่ตี้จวินนั้นลงไปเผชิญด่านรักที่ไม่สมหวังนี่นา ใช้เชือกเส้นเท่าบ้านขนาดนี้ มีหรือที่ทั้งคู่จะต้านทานอำนาจบุพเพได้ เกรงว่าจากที่ไม่สมหวังจะกลายเป็นรักกันไม่ยอมเเยกจากเเทนน่ะสิ
ถึงแม้จะรู้สึกขัดแย้งเพียงใด แต่อีกฝ่ายคือเง็กเซียนประมุขเเห่งเเดนสวรรค์เชียวนะ เขามีหรือจะกล้าขัดใจ ผู้เฒ่าตำหนักจันทราได้เเต่ยิ้มแห้งๆ ขณะรับเชือกวิเศษจากท่านผู้นำ ก่อนลงมือผูกวาสนาให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวถึง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าเทียนจวินนั้นต้องการจะกลั่นแกล้งตี้จวินก็ตาม
'ตี้จวิน ข้าน้อยถูกสั่งให้กระทำ หากท่านหวนกลับคืนมาเเล้วรู้เรื่องนี้ ก็ขอให้ไปทวงเเค้นกับเทียนจวินผู้นั้นเอาเองเถิด'
เง็กเซียนยืนมองการกระทำของผู้เฒ่าจันทราเขม็ง เขายกมือขึ้นลูบเคราตนเองพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทีพออกพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าตัวอันธพาลนั่นต้องลงไปเผชิญด่านเคราะห์รักที่ไม่สมหวัง จึงจะกลับขึ้นมาสู่ภพเทพได้ แล้วถ้าหากสมหวังเล่า...
ใช้เชือกจากเขาคุนหลุนมาผูกเสียขนาดนี้ ต่อให้อีกฝ่ายเก่งกล้าเพียงใดก็ไม่อาจทำลายมันลงได้ เช่นนี้มีหรือความรักจะไม่สมหวังอย่างที่คิด แต่ถ้าสมหวังก็ย่อมกลับคืนฐานะเทพไม่ได้
หากไม่มีเจ้าเทพอันธพาลนั่นค่อยปั่นป่วน แดนสวรรค์ของเขาก็จะสงบสุขตลอดกาล
เพราะฉะนั้นตี้จวินท่านก็จงอยู่กับรักที่สมหวังของท่านในโลกมนุษย์เถอะ ยิ่งคิดเง็กเซียนก็ยิ่งอารมณ์ดี ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้าขัดคอหรือหาเรื่องทุบตีเขาอีกเเล้ว
“อืม...ข้านี่ช่างฉลาดล้ำที่สุดในสามโลก”