Share

บทที่ 4

ยายเมิ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าท่านเทพดื่มน้ำแกงเยอะเกินกว่าที่กำหนด นางจึงรีบอ้าปากหมายกล่าวคำห้ามปรามทันที

ปึ้ก!

เฮ่ยเสี่ยวอู่พลันกระทืบเท้ายายเมิ่ง หยุดการกระทำของอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้ากระบวยจากเฮ่ยเสี่ยวฉางมาตักน้ำเเกงใส่ในชามจนเต็มอีกครั้ง

“แต่สองชามนั้นมีไว้สำหรับเทพทั่วๆ ไป เทพที่มีพลังระดับตี้จวินต้องสามเท่านั้นถึงจะพอ”

ดวงตาคู่งามตวัดมองหน้าคนพูดอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของเฮ่ยเสี่ยวอู่และเฮ่ยเสี่ยวฉาง ท่านเทพบรรพกาลก็ยกชามน้ำแกงขึ้นดื่มเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะออกคำสั่งน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าจะไปแล้ว พวกเจ้าจัดการเรื่องวิญญาณต้นไม้นั่นอย่าให้เกิดผิดพลาดได้เล่า” สั่งจบร่างสูงก็ก้าวเดินขึ้นสู่สะพานอนิจจังอย่างสง่างามเพื่อเข้าสู่วัฏสงสารในทันที

“เสี่ยวอู่ ทำอย่างไรดี น้ำเเกงตั้งสามชาม หากเป็นวิญญาณคนธรรมดากินมากกว่าหนึ่งชาม ก็ต้องไปเกิดเป็นคนสติไม่สมประกอบเเล้ว”

“นั่นเเหละที่ต้องการ หากตี้จวินเป็นเช่นนั้นย่อมไม่มีทางระลึกถึงเรื่องราวของตนเองในภพเทพได้แน่นอน ส่วนพวกเราก็เเค่รีบหาวิญญาณต้นไม้นั่นให้พบโดยไว แล้วนำนางกลับมายังภพนี้ จากนั้นค่อยสร้างเหตุการณ์เผชิญด่านเคราะห์ให้ตี้จวินใหม่ ถึงจะไม่เหมือนกับที่เทพซื่อมิ่งเขียน แต่ถ้าเขาสามารถผ่านด่านได้ก็คงไม่ถือสาเอาความเรา”

“ตกลง” แม้จะไม่มีความมั่นใจสักนิด ทว่าเสี่ยวฉางก็ตัดสินใจทำตามแผนของสหายทันที พวกเขาทั้งคู่รีบยื่นขอวันลาหยุด เพื่อค้นหาคู่วาสนาที่หายไปของเทพบรรพกาลอย่างขันแข็ง

บนสวรรค์ชั้นฟ้า

ในตำหนักของเฒ่าจันทราผู้มีหน้าที่เชื่อมวาสนาด้ายเเดงเเก่ผู้คน ร่างผอมของเจ้าของตำหนักกำลังนอนกรนคร่อกๆ อย่างสบายใจ ก่อนจะสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียกทรงอำนาจดังขึ้นข้างๆ หู

“เฒ่าจันทรา ตื่นได้เเล้ว!”

เพราะตกใจเสียงเรียก ผู้เฒ่าจันทราจึงลืมตาขึ้นมองรอบด้านด้วยท่าทางงุนงง ก่อนจะค้อมกายทำความเคารพอย่างตื่นตะลึง เมื่อเห็นประมุขสวรรค์ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าตนเอง

“คารวะเทียนจวิน”

เง็กเซียนสะบัดฝ่ามือเป็นเชิงให้ลุกได้ ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากกล่าวถึงธุระที่มา” ข้ามาหาเจ้าด้วยเรื่องผูกด้ายเเดงเชื่อมวาสนาของตี้จวิน”

ผู้เฒ่าพอได้ฟังก็ถึงบางอ้อ รีบงัดด้ายเเดงเส้นหนึ่งขึ้นมาให้ดูทันที “เรียนเทียนจวิน พอได้รายชื่อจากท่านเทพซื่อมิ่ง ผู้น้อยก็รีบผูกให้เเล้วเสร็จในทันทีเลยพ่ะย่ะค่ะ”

เง็กเซียนปรายตามองเส้นด้ายในมือผู้เฒ่าเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวไม่เห็นชอบ พลางออกความคิดเห็น “ข้าว่าด้ายแดงเส้นแค่นี้คงไม่อาจสำแดงเดช ผูกวาสนาของตี้จวินที่ไร้ชื่อสลักบนหินสามชาติได้ เกรงว่ามันจะขาดเอาเสียก่อนนี่สิ”

ผู้เฒ่าพลันอ้าปากหมายเเย้งคำพูดประโยคนั้น แต่ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่าตี้จวินผู้นั้นมีพลังตบะที่มากล้ำ คำกล่าวของเง็กเซียนนับว่ามีโอกาสเป็นไปได้อยู่

“เช่นนั้น เทียนจวินคิดว่าควรทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ”

ครั้นได้ฟังคำถาม ผู้เป็นใหญ่เเห่งเเดนสรวงพลันมีดวงตาเเวววาวสว่างวาบในทันที ท่าทีคล้ายกับว่ารอคอยคำพูดเช่นนี้อยู่ก่อนเเล้ว

“ข้าได้คิดวิธีเเก้ปัญหาไว้ให้เจ้าเเล้ว นี่คือเชือกวิเศษจากยอดเขาคุนหลุน ที่ข้าได้ขอยืมมาจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่ ถ้าหากใช้มันแทนด้ายแดงผูกชะตา ต่อให้ตี้จวินมีพลังเทพมากเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เชือกเส้นนี้ขาดลงอย่างเเน่นอน”

ผู้เฒ่าจันทรานั้นรับหน้าที่เชื่อมชะตาผูกด้ายเเดงสร้างบุพเพให้เหล่าผู้คนมาไม่น้อย เเต่ก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องพิลึกพิลั่นขนาดนี้มาก่อน มีอย่างที่ไหนกัน ถึงขนาดต้องใช้เชือกวิเศษจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่เเทนด้ายเเดงปกติ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือด้วยรูปลักษณ์ของเชือกนั่น ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ห่างไกลคำว่าด้ายไปมากโข

เพราะหากจะจำกัดคำเรียก ควรบอกว่าเป็นเชือกที่เอาไว้ใช้ล่ามสัตว์สี่เท้าตัวใหญ่เสียมากกว่า ยิ่งกว่านั้นยังมีปัญหาสำคัญอีกข้อนั่นก็คือว่า ด้ายเเดงยิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมากล้นด้วยพลังเเห่งบุพเพ หากนำเชือกเส้นนี้มาผูกวาสนาแทนด้ายเเดงเชื่อมชะตาให้แก่ตี้จวิน เกรงแต่ว่าวาสนาคู่รักจะไม่มีทางไม่สมหวังแน่นอน

เพียงแต่ตี้จวินนั้นลงไปเผชิญด่านรักที่ไม่สมหวังนี่นา ใช้เชือกเส้นเท่าบ้านขนาดนี้ มีหรือที่ทั้งคู่จะต้านทานอำนาจบุพเพได้ เกรงว่าจากที่ไม่สมหวังจะกลายเป็นรักกันไม่ยอมเเยกจากเเทนน่ะสิ

ถึงแม้จะรู้สึกขัดแย้งเพียงใด แต่อีกฝ่ายคือเง็กเซียนประมุขเเห่งเเดนสวรรค์เชียวนะ เขามีหรือจะกล้าขัดใจ ผู้เฒ่าตำหนักจันทราได้เเต่ยิ้มแห้งๆ ขณะรับเชือกวิเศษจากท่านผู้นำ ก่อนลงมือผูกวาสนาให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวถึง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าเทียนจวินนั้นต้องการจะกลั่นแกล้งตี้จวินก็ตาม

'ตี้จวิน ข้าน้อยถูกสั่งให้กระทำ หากท่านหวนกลับคืนมาเเล้วรู้เรื่องนี้ ก็ขอให้ไปทวงเเค้นกับเทียนจวินผู้นั้นเอาเองเถิด'

เง็กเซียนยืนมองการกระทำของผู้เฒ่าจันทราเขม็ง เขายกมือขึ้นลูบเคราตนเองพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทีพออกพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าตัวอันธพาลนั่นต้องลงไปเผชิญด่านเคราะห์รักที่ไม่สมหวัง จึงจะกลับขึ้นมาสู่ภพเทพได้ แล้วถ้าหากสมหวังเล่า...

ใช้เชือกจากเขาคุนหลุนมาผูกเสียขนาดนี้ ต่อให้อีกฝ่ายเก่งกล้าเพียงใดก็ไม่อาจทำลายมันลงได้ เช่นนี้มีหรือความรักจะไม่สมหวังอย่างที่คิด แต่ถ้าสมหวังก็ย่อมกลับคืนฐานะเทพไม่ได้

หากไม่มีเจ้าเทพอันธพาลนั่นค่อยปั่นป่วน แดนสวรรค์ของเขาก็จะสงบสุขตลอดกาล

เพราะฉะนั้นตี้จวินท่านก็จงอยู่กับรักที่สมหวังของท่านในโลกมนุษย์เถอะ ยิ่งคิดเง็กเซียนก็ยิ่งอารมณ์ดี ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้าขัดคอหรือหาเรื่องทุบตีเขาอีกเเล้ว

“อืม...ข้านี่ช่างฉลาดล้ำที่สุดในสามโลก”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 143

    “อาจารย์บอกให้ข้ามาเรียนรู้จากท่าน” ชายหนุ่มบอกพลางส่งรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม รู้ดีว่าหากเอ่ยอ้างชื่ออาจารย์อีกฝ่ายไม่มีทางบอกไม่เด็ดขาดและก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเทพชะตาผู้รักตัวกลัวตายยังไม่อยากมีปัญหากับจอมอันธพาล จึงได้แต่กัดฟันมองข้ามอาการวอแวของอีกฝ่ายหลินจิงเสียงมองอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเทพตรง

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 142

    หลังจากจ้าวชวี่สิ้นชีพลง จวินเทียนเฮ่อที่รู้ตัวคนลงมือก็สะสางหนี้แค้นแทนนาง แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดสังหารอีกฝ่ายด้วยมือตัวเองสตรีนางนั้นคิดจะฝากความแค้นให้เขาลงมือสังหารตนเองเพื่อเป็นที่จดจำอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก ฝันกลางวันต่อไปเถิด สิ่งใดที่เป็นความปรารถนาของอีกฝ่ายเขาจะบดขยี้มันให้สิ้นเช่

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 141

    ในบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องด่านเคราะห์ของตี้จวิน มีเพียงเทพซื่อมิ่งเท่านั้นที่ดูจะมีสภาพดีกว่าเพื่อน ทำให้เขาอดปาดเหงื่อนึกขอบคุณตัวเองที่ให้การช่วยเหลือนางต้นไม้ไว้ไม่ได้และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เทพชะตาต้องมานั่งอกสั่นขวัญหาย เมื่อคู่รักจอมวายร้ายมาเยือนตำหนักเขา“ตี้จวิน ท่านดูสิ เฮ่ยเสี

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 140

    อิ๋งอิ๋งขึ้นมาแดนสวรรค์เพื่อบำเพ็ญเป็นเซียนด้วยร่างกระบองเพชร แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อยห้าร้อยปีแรกที่นางเฝ้าเพียรบำเพ็ญ ผลที่ได้คือออกดอกสีชมพูมาหนึ่งดอก ผ่านไปอีกห้าร้อยปีความสามารถเพิ่มพูน คราวนี้ออกดอกได้พร้อมกันทีเดียวถึงสองมันน่าชื่นชมไหม…นางที่อยู่ในต้นไม้ได้แต่เอาศีรษะโขกลำต้

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 139

    “คราวนี้หากเจ้ายังคิดวิ่งหนีอีก ข้าจะจับมัดด้วยเชือกของซีหวังหมู่ แล้วหักขาสองข้างของเจ้าทิ้งเสีย กล้าก็ลองดู”รอยยิ้มหวานบนใบหน้าเล็กพลันแข็งค้าง บรรดาผู้เฝ้าชมรอบๆ ก็ไม่แตกต่างกัน เดิมทียังคิดว่าจะได้ฟังถ้อยคำรำพันรักหวานซึ้งเหมือนนิทานรักของโลกมนุษย์ แต่ที่ไหนได้กลับเป็นการจะตีขาให้หักแล้วจับมัดแ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 138

    ภายหลังปรากฏการณ์ผ่านด่านเคราะห์อันสะเทือนเลื่อนลั่น เทพซื่อมิ่งก็ปรากฏกายเบื้องหน้าจวินเทียนเฮ่อองค์เทพบรรพกาลที่เพิ่งพ้นจากฤทธิ์น้ำแกงยายเมิ่งหมาดๆ มีใบหน้าแข็งกระด้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน“คารวะตี้จวิน ขอยินดีที่ท่านผ่านด่านเคราะห์ครั้งนี้”ไม่พูดก็แล้วไป เพราะเมื่อกล่าวออกมา เทพซื่อมิ่งพลันสัง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status