Share

บทที่ 3

“เอามา!”

เมื่อเห็นว่าพูดไปอย่างไรก็ไม่ชนะเป็นแน่ เฮ่ยเสี่ยวอู่จึงกัดฟันไม่โต้ตอบอีกฝ่าย พลางยื่นมือออกมาข้างหน้าด้วยท่าทีบ่งบอกถึงความมีโทสะ

“ขอบใจมากนะ…เสี่ยวอู่” เฮ่ยเสี่ยวฉางจับมือที่ยื่นมาดึงตนเองลุกพลางเอ่ยอย่างซาบซึ้ง ถึงแม้จะปากร้ายหน้าตาไม่รับแขกตลอดเวลา แต่เสี่ยวอู่ก็ยังมีน้ำใจกับเขาเสมอ ในใจยมทูตชุดขาวพลันรู้สึกตื้นตันจนต้องบีบกระชับมืออีกฝ่ายเเรงๆ

“...”

เฮ่ยเสี่ยวฉาง...ไอ้เจ้ายมทูตสมองมีปัญหา

เฮ่ยเสี่ยวอู่สะบัดมืออีกฝ่ายทิ้งก่อนจะถลึงตาดุดันใส่ พลางเอ่ยเสียงลอดไรฟันด้วยท่าทีคล้ายหมดความอดทน “เอา-วิญ-ญาณ-นาง-ต้น-ไม้-มา-ให้-ข้า”

“วิญญาณนั่นอยู่กับข้าที่ไหนกันเล่า” ยมทูตชุดขาวพลันแยกเขี้ยวยิงฟันตอบ ก่อนจะถามกลับอย่างหงุดหงิด “เจ้าเป็นคนรับนางไว้ได้ไม่ใช่หรือ”

เฮ่ยเสี่ยวอู่ฟังแล้วส่ายหน้าพรืด” ข้าโดนเจ้าขัดขวาง เมื่อครู่ยังไม่ทันได้แตะถูกนางเลย จะไปอยู่กับข้าได้อย่างไรเล่า โง่เง่า!” เขาถูกอีกฝ่ายขัดจังหวะจะไปรับเจ้าลูกเเสงนั่นได้ตอนไหน ช่างไม่รู้จักคิดเอาเสียเลย เฮ่ยเสี่ยวฉางผู้นี้

“ไม่ได้อยู่ที่ข้าเเละก็ไม่ได้อยู่ที่เจ้า เช่นนั้นเเล้วนางอยู่ที่ไหนกัน”

เฮ่ยเสี่ยวอู่พลันเกิดอาการปวดศีรษะอย่างกะทันหันขึ้นมาทันที สองยมทูตยืนจ้องตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ เจ้าก้อนเเสงนั่นต้องกระเด็นไปไหนต่อไหนแล้วเป็นแน่ พวกเขาพยายามสอดส่ายสายตามองหารอบด้าน จนในที่สุดก็เห็นเเสงสว่างเรื่อๆ ที่ตกอยู่บนพื้นเบื้องหน้าสะพานหินที่จะเชื่อมต่อไปยังอีกภพหนึ่งที่มนุษย์เรียกขานกันว่า ‘โลกอนาคต’ นั่นเอง

“ไม่นะ!”

สองยมทูตมองหน้ากันเเล้วต่างกรีดเสียงร้องตะโกน พลางพุ่งร่างไปยังบริเวณนั้นอย่างไม่คิดชีวิต ตี้จวินลงไปเกิดยังภพอดีต เกิดเจ้าวิญญาณกระบองเพชรนั่นข้ามสะพานไปภพอนาคต แล้วทั้งคู่จะมาเจอกันได้อย่างไร หากเป็นเช่นนั้นท่านเทพจอมวายร้ายต้องเล่นงานพวกเขาถึงตายแน่นอน โทษฐานที่เป็นสาเหตุทำให้อีกฝ่ายต้องเสียเวลาไปถึงชาติหนึ่ง

พลั่ก!

เพราะพุ่งเข้าไปอย่างกะทันหันพร้อมกัน เฮ่ยเสี่ยวฉางกับเฮ่ยเสี่ยวอู่จึงเกิดการปะทะกันกลางอากาศอีกครั้ง ยมทูตชุดดำกุมท้องที่ถูกศีรษะเพื่อนร่วมงานกระเเทกด้วยความจุก เวลานั้นเขาพลันลอบสบถสาบานกับตนเองในใจว่า สักวันจะต้องสังหารไอ้ยมทูตตรงหน้าให้ได้ ต้องวางเเผนฆ่าอีกฝ่ายทิ้งให้จงได้ คอยดูเถิด

ยังไม่ทันกล่าวคำก่นด่าออกจากปาก ก็เห็นเฮ่ยเสี่ยวฉางมองไปเบื้องหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง เฮ่ยเสี่ยวอู่รับรู้ได้ถึงเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ หันตามไปยังจุดที่อีกฝ่ายเบิกตามองค้างอยู่ แล้วก็มีอันต้องกรีดร้องในใจ

ภาพตรงหน้าพวกเขาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความคิด แต่ความเป็นจริงแล้วเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วอึดใจ เจ้าลูกเเสงกลมๆ นั่นตกอยู่บนพื้นทางข้ามสะพานเบื้องหน้านี่เอง และคงจะไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง ถ้าไม่บังเอิญมีวิญญาณไอ้เด็กนรกที่ไหนไม่รู้วิ่งถลาเข้ามา หลังจากนั้นก็ง้างเท้าเตะเปรี้ยงเข้าให้เต็มแรง

“...”

ต่อหน้าต่อตาสองยมทูตดินเเดนคนตาย วิญญาณกระบองเพชรน้อยคู่วาสนาของท่านเทพบรรพกาลผู้ยิ่งใหญ่ ถูกไอ้เด็กจากเเดนนรกเตะโด่งข้ามสะพานอนิจจังไปเกิดเป็นที่เรียบร้อย เเละที่สำคัญคือไม่รู้ว่าไปตกที่ใดเสียด้วย

“ไอ้เด็กชั่วร้าย เจ้าทำบ้าอะไรลงไป!” เฮ่ยเสี่ยวอู่เค้นเสียงตะคอกดุดัน

วิญญาณเด็กน้อยหันมามองอีกฝ่ายอย่างงุนงง ก่อนจะเเลบลิ้นปลิ้นตาให้เเล้ววิ่งหนีจากไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็มองไม่เห็นเเม้เเต่เงาด้านหลัง

“เสี่ยวอู่...พวกเราทำคู่วาสนาตี้จวินหายไปแล้วสินะ ต้องถูกเขาฆ่าตายเเน่ๆ โธ่...ข้ายังไม่ได้ใช้วันลาหยุดงานให้คุ้มค่าเลย ชีวิตช่างสั้นนัก ฮือ...”

เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นข้างหูทำให้เฮ่ยเสี่ยวอู่แทบเป็นบ้า เขาพยายามขบคิดหาวิธีรับมือกับปัญหาตรงหน้าจนเส้นเลือดข้างขมับปูดโปน โดยมีเฮ่ยเสี่ยวฉางยืนเเหกปากร่ำไห้เป็นกำลังใจอยู่ไม่ห่าง ยมทูตหนุ่มเหลือบมองสหายพลันคิดในใจ

‘ขอบใจนะ ช่วยได้มากเลยละ...’

“หุบปากเสี่ยวฉาง! เวลานี้สิ่งที่เราควรทำก็คือทำให้ตี้จวินลืมเรื่องราวเกี่ยวกับภพเทพให้สิ้น แล้วหาวิธีที่จะให้เขาเสียเวลาอยู่บนโลกมนุษย์นานที่สุด เพื่อซื้อเวลาระหว่างที่พวกเราไปตามหานางต้นไม้ผู้นั้น” เฮ่ยเสี่ยวอู่ตวาดพลางอธิบายเเผนการที่คิดได้ให้อีกฝ่ายฟัง

เฮ่ยเสี่ยวฉางพลันหยุดร้องไห้ หันมาถามน้ำเสียงลังเล “แล้วพวกเราจะใช้วิธีไหนดีล่ะ”

ใบหน้าคมดุในรูปลักษณ์บุรุษหนุ่มวัยฉกรรจ์ชะงักไปเล็กน้อย เฮ่ยเสี่ยวอู่เม้มปากแน่น เสียงที่เปล่งออกมานั้นฟังดูแหบแห้งผสมความลังเลชัดเจน

“น้ำเเกงยายเมิ่ง!”

หลังจากนั้นเพียงเวลาไม่นาน สองยมทูตก็มาโผล่เบื้องหน้าร่างสูงเพรียวของเทพบรรพกาล เฮ่ยเสี่ยวฉางรีบเข้าไปเบียดยายเมิ่งที่กำลังนั่งตักน้ำแกง พลางกุลีกุจอตักน้ำใสๆ ใส่ชามให้อีกฝ่ายด้วยตนเอง ยายเมิ่งเงยหน้ามองการกระทำของยมทูตชุดขาวด้วยรอยยิ้มพิกล ทว่าไม่เอ่ยปากอันใด

มือเรียวดุจหยกสลักยกชามน้ำเเกงขึ้นดื่มช้าๆ รูปลักษณ์เเละกิริยาที่เห็นนั้นพิลาสล้ำสะกดทุกสายตา เมื่อดื่มจนหมดหลงเหลือเพียงชามเปล่า เจ้าตัวจึงยกอีกมือขึ้นปาดคราบน้ำบนริมฝีปากออก ทุกท่วงท่าที่เเสดงออกให้เห็นนั้นแสนจะธรรมดา ทว่ากลับไม่มีผู้ใดสามารถละสายตาจากภาพที่เห็นได้แม้แต่นิดเดียว

ช่างโดดเด่นหาใครเทียบเคียงในสามสิบเอ็ดภพภูมิได้ยากจริงๆ

เฮ่ยเสี่ยวอู่ส่ายหน้าไล่ความคิดในหัวเล็กน้อย รูปโฉมของตี้จวินไม่ต่างจากคำเล่าลือ เเต่พวกเขามีสิ่งสำคัญมากกว่านั้นที่ต้องทำ เท้าของยมทูตหนุ่มจึงเหยียบเรียกสติสหายร่วมงานทันที เฮ่ยเสี่ยวฉางพลันได้สติก็นึกถึงจุดประสงค์ขึ้นมา จึงรีบตักน้ำแกงในหม้อใส่ชามเพื่อให้ผู้ที่อยู่ตรงหน้าดื่มเพิ่มอีกชาม

“หือ...”

เทพบรรพกาลเลิกคิ้วมองมาที่เฮ่ยเสี่ยวฉางอย่างแปลกใจ ยมทูตชุดขาวพลันสะดุ้งเฮือกรีบอธิบายอย่างที่เตี๊ยมกับสหายร่วมอาชีพเมื่อครู่ทันที

“คะ...คือว่า เพราะตี้จวินมีตบะเเก่กล้าพลังเทพสูงส่ง นะ...น้ำเเกงชามเดียวอาจปกปิดความจำภพเทพได้ไม่หมด…”

คิ้วเรียวดำสนิทได้รูปเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาต้องลงไปเกิดในโลกมนุษย์ เรื่องราวที่ยมทูตตรงหน้าพูดมาจึงเป็นสิ่งที่เพิ่งเคยได้ยินเช่นกัน ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย เรื่องตบะพลังเทพอันใดนั่นก็มีเหตุผลอยู่ คิดได้ดังนั้นมือหยกจึงยกน้ำแกงชามที่สองขึ้นดื่มอย่างไม่อิดออด เนื่องด้วยต้องการจบด่านเคราะห์นี้ให้ได้เร็วที่สุด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 143

    “อาจารย์บอกให้ข้ามาเรียนรู้จากท่าน” ชายหนุ่มบอกพลางส่งรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม รู้ดีว่าหากเอ่ยอ้างชื่ออาจารย์อีกฝ่ายไม่มีทางบอกไม่เด็ดขาดและก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเทพชะตาผู้รักตัวกลัวตายยังไม่อยากมีปัญหากับจอมอันธพาล จึงได้แต่กัดฟันมองข้ามอาการวอแวของอีกฝ่ายหลินจิงเสียงมองอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเทพตรง

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 142

    หลังจากจ้าวชวี่สิ้นชีพลง จวินเทียนเฮ่อที่รู้ตัวคนลงมือก็สะสางหนี้แค้นแทนนาง แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดสังหารอีกฝ่ายด้วยมือตัวเองสตรีนางนั้นคิดจะฝากความแค้นให้เขาลงมือสังหารตนเองเพื่อเป็นที่จดจำอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก ฝันกลางวันต่อไปเถิด สิ่งใดที่เป็นความปรารถนาของอีกฝ่ายเขาจะบดขยี้มันให้สิ้นเช่

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 141

    ในบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องด่านเคราะห์ของตี้จวิน มีเพียงเทพซื่อมิ่งเท่านั้นที่ดูจะมีสภาพดีกว่าเพื่อน ทำให้เขาอดปาดเหงื่อนึกขอบคุณตัวเองที่ให้การช่วยเหลือนางต้นไม้ไว้ไม่ได้และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เทพชะตาต้องมานั่งอกสั่นขวัญหาย เมื่อคู่รักจอมวายร้ายมาเยือนตำหนักเขา“ตี้จวิน ท่านดูสิ เฮ่ยเสี

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 140

    อิ๋งอิ๋งขึ้นมาแดนสวรรค์เพื่อบำเพ็ญเป็นเซียนด้วยร่างกระบองเพชร แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อยห้าร้อยปีแรกที่นางเฝ้าเพียรบำเพ็ญ ผลที่ได้คือออกดอกสีชมพูมาหนึ่งดอก ผ่านไปอีกห้าร้อยปีความสามารถเพิ่มพูน คราวนี้ออกดอกได้พร้อมกันทีเดียวถึงสองมันน่าชื่นชมไหม…นางที่อยู่ในต้นไม้ได้แต่เอาศีรษะโขกลำต้

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 139

    “คราวนี้หากเจ้ายังคิดวิ่งหนีอีก ข้าจะจับมัดด้วยเชือกของซีหวังหมู่ แล้วหักขาสองข้างของเจ้าทิ้งเสีย กล้าก็ลองดู”รอยยิ้มหวานบนใบหน้าเล็กพลันแข็งค้าง บรรดาผู้เฝ้าชมรอบๆ ก็ไม่แตกต่างกัน เดิมทียังคิดว่าจะได้ฟังถ้อยคำรำพันรักหวานซึ้งเหมือนนิทานรักของโลกมนุษย์ แต่ที่ไหนได้กลับเป็นการจะตีขาให้หักแล้วจับมัดแ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 138

    ภายหลังปรากฏการณ์ผ่านด่านเคราะห์อันสะเทือนเลื่อนลั่น เทพซื่อมิ่งก็ปรากฏกายเบื้องหน้าจวินเทียนเฮ่อองค์เทพบรรพกาลที่เพิ่งพ้นจากฤทธิ์น้ำแกงยายเมิ่งหมาดๆ มีใบหน้าแข็งกระด้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน“คารวะตี้จวิน ขอยินดีที่ท่านผ่านด่านเคราะห์ครั้งนี้”ไม่พูดก็แล้วไป เพราะเมื่อกล่าวออกมา เทพซื่อมิ่งพลันสัง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status