เด็กหนุ่มไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะยอมทำอะไรเช่นนี้ แต่ในเมื่อเขาเป็นคนเรียกร้องจะทำเรื่องนี้ก่อนเลยช่วยไม่ได้
คำพูดที่ดอม แด๊ดดี้อัลฟ่าที่ดูดุดันที่สุดในบรรดาเพื่อน ๆ ขอกับโอเมก้า คือเขาอยากให้หลินถูกปิดตาตลอดช่วงกิจกรรมที่จะเกิดต่อจากนี้
และโดยไม่รู้ตัว เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบไป
ตอนนี้หลินมานอนบนเตียงใหญ่ของคิง ถอดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของคิงออกไปแล้ว ด้านล่างของใส่กางเกงในบ๊อกเซอร์ของอัลฟ่านายช่างใหญ่ที่เพิ่งค้นจากตู้มาสวมไว้กันอุจาดเมื่อกี้นี้เอง
ในท่านอนหงายเปลือยท่อนบนเด็กหนุ่มรู้สึกว่าแข้งขามือไม้ของตัวเองดูเป็นส่วนเกินอย่างไรบอกไม่ถูก แต่ก็พยายามจัดท่าทางให้ตัวเองสบาย เขายกแขนข้างหนึ่งหนุนศีรษะที่อยู่บนหมอนไว้อีกที จากนั้นก็หลับตาและรอคอย
หลินไม่ได้ยินเสียงตอนสามหนุ่มเดินเข้ามา แต่เขาสัมผัสถึงไอของอัลฟ่าที่เข้มข้น ที่ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีถึงสาม และอิทธิพลของมันมากพอจะทำให้เด็กหนุ่มต้องเอามือกุมเป้ากางเกงไว้ทันที
ความรุ่มร้อนและเปียกแฉะทำงานอย่างว่องไว นี่แค่ได้กลิ่นเท่านั้นนะ
ปุด ๆ
พอลืมตาเขาก็เห็นสามหนุ่มอัลฟ่าแด๊ดดี้เปลือยท่อนบนเรียบร้อย ยืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่บนพื้นข้างเตียง ใส่กางเกงขาสั้นสีเข้มที่น่าจะเป็นของคิง แต่ก็ยังเห็นความอวบอูมที่ซ่อนอยู่ในนั้นเพราะผ้าเนื้อบางใส่สบายของกางเกงใส่ออกกำลังคงซ่อนความแข็งขึงไว้ไม่มิด
“หลินมาหาพวกพี่สิ” เฟย์ส่งเสียงเรียกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่ต่างจากสองคนที่เหลือ
+++++
เด็กหนุ่มยันตัวขึ้น มุ่งไปที่ขอบเตียง ขณะทำเขารูดกางเกงบ๊อกเซอร์ออกจากตัวขณะถัดหัวเข่าบนที่นอนไปด้วย ก่อนจะขว้างมันไปให้พ้นทาง
“โอ้ วันนี้ใจร้อนจังนะน้อง” ใครสักคนปากเปราะ
“พี่อย่าแซวผมเลยน่า” เด็กหนุ่มตอบอาย ๆ
“แก้ผ้าไปเลยก็ดีแล้ว หลินทำอย่างนี้น่ะรู้ใจพวกพี่จริง ๆ พวกเราน่ะชอบดูก้นขาว ๆ สวย ๆ ตอนคลานบนเตียงแบบนี้จังเลย ว้าว” เฟย์อุทานออกมา และเขายิ่งภูมิใจโดยไม่มีสาเหตุที่โอเมก้าหนุ่มพุ่งตัวมาที่เขาคนแรก กรอบหน้าขาวกับศีรษะเล็กทุยคลุกเคล้าวนเวียนบนกางเกง บนความอูมของเป้าให้เฟย์กับก่อนคนแรก ราวกับนั่นคือวิธีการแสดงการเทิดทูนบูชาต่อสิ่งที่อยู่ใต้ร่มผ้า
“อือ หอมอะไรเบอร์นั้นนะ” น้ำลายของเด็กหนุ่มเหนียวเลยตอนอ้าปากเพื่อใช้ฟันครูดดุ้นที่โป่งพองอยู่ใต้กางเกง ช่องทางด้านหลังกับด้านหน้าก็เปียกโชกจนเห็นกางเกงบ๊อกเซอร์เปื้อนเป็นดวง
“โอ้ว เปียกหมดแล้ว” คิงอดแซวไม่ได้
“พวกพี่ชอบหลินในเวอร์ชั่นเร่าร้อนแบบนี้จัง” ดอมพูด
“แล้วพวกพี่ใส่กางเกงทำไม ผมยังไม่ใส่เลย” คนตัวเล็กประท้วง
“พูดแบบนี้คือท้าทายกันใช่ไหม ได้…ได้สิ” แล้วทั้งสามก็จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของพวกเขาออกในทันใด
หลินหัวเราะเบา ๆ ตอนแก่นกายของเฟย์เด้งออกมาแทบฟาดถูกหน้าของตัวเอง จากนั้นเด็กหนุ่มก็หลับตา ยามได้สัมผัสถึงพลังแห่งกลิ่นอันดึงดูดยามดุ้นสวรรค์นั่นไร้เสื้อผ้าปกคลุม ช่องทางด้านหน้าและหลังของโอเมก้ารุ่มร้อนเหมือนถูกแผดเผาขณะอยู่ในท่าคุกเข่า
แค่กลิ่นยังไม่พอ ยังมีภาพอีก เด็กหนุ่มมองตาไม่กะพริบกับสิ่งที่ยากจะมีคนได้เห็น อัลฟ่าหนุ่มใหญ่หน้าหล่อสามคน กล้ามเนื้อสมส่วนของเหล่าแด๊ดดี้ตอนถูกแสงไฟในห้องสะท้อนเกิดเป็นภาพอันงดงามของความสว่างและมืด ร่างกายส่วนที่นูนออกมาก็เห็นความสว่างโค้งอย่างสวยงามนุ่มนวล ส่วนที่เป็นร่องก็เห็นเป็นเงามืดอันลึกลับ
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายอันเกิดจากสิ่งเร้าที่ปรากฏตรงหน้า แล้วในฉับพลันหางตาของเขาก็เหลือบเห็น
ดอมชูของในมือ น่าจะเป็นผ้าพันคอผืนหนึ่งของคิง “เอาล่ะ…ถึงเวลาแล้ว”
“เดี๋ยวก่อนพี่ ก่อนจะปิดตาผม ผมอยากเห็น…”
“หือ อยากเห็นอะไร”
“อยากเห็นพวกพี่…แตะเนื้อต้องตัวกันให้ผมดูหน่อย”
“หา?!” สามคนอุทานแทบพร้อมเพรียง
“นะครับ ก่อนจะปิดตาผม ผมอยากเห็นจริง ๆ”
“พวกพี่ไม่เคยทำแบบนั้นด้วยกันเลยนะ”
“อ้าวจริงดิ ตอนแรกผมคิดว่าพวกพี่…”
“พวกพี่อะไรเหรอ”
“ผมพูดได้ไหม”
“หลินพูดกับพวกพี่ได้ทุกอย่างล่ะ ไม่ต้องกังวลนะ” คิงผู้อ่อนโยนเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบประโลม
“ผมนึกว่าพวกพี่มีอะไรกันเป็นเรื่องปกติซะอีก”
สามหนุ่มอึ้งไปนิดหน่อย แล้วพร้อมใจกันหัวเราะหึ “เปล่า ๆ ไม่เคย แค่จูบกันยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ”
“งั้นทำให้ผมดูหน่อยสิ แค่จูบกันก็ได้ ทำเพื่อผม...นะ”
เจอลูกอ้อนขนาดนี้กลุ่มแด๊ดดี้จะทนไหวได้อย่างไร แล้วเพื่อนสามคนก็ทำอย่างที่หนูน้อยของเขาร้องขอ ดอมเอียงคอไปจูบกับเฟย์ แล้วคิงก็เข้ามาร่วมวงเป็นคนสุดท้าย
ไป ๆ มา ๆ การจูบของพวกเขานั้นไม่ใช่แค่เอาปากชนกันแบบขอไปที แต่มีทั้งการใช้ลิ้น ใช้เนื้อปากบนและล่างสลับกันกลืนกิน และไม่ใช่ทำกันแค่สองคน แต่เป็นสาม
‘เอาวะ เพื่อหลิน’ ต่างคนต่างเชียร์ให้กำลังใจตัวเอง
และทั้งสามก็แปลกใจ การจูบกับอัลฟ่าด้วยกันทำให้ได้กลิ่นที่เข้มข้นเกินไปของเผ่าพันธุ์เดียวกัน เหมือนแม่เหล็กขั้วเดียวกันที่พยายามผลักกัน อย่างไรก็ตามมันไม่แย่เลย อันที่จริงค่อนข้างเร้าอารมณ์ได้ดีพอควรด้วยซ้ำ แม้พวกเขาจะสรุปกับตัวเองในใจว่าอย่างไรก็ยังชอบทำกับโอเมก้ามากกว่าอยู่ดี
ยังไงก็ตามแต่ การจูบก็คือการจูบ มันช่วยกระตุ้นอารมณ์ได้ดีอยู่แล้ว จนมือที่ต่างคนต่างกุมที่หลังคอของเพื่อนรักเกร็งขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ
สุดท้ายก่อนเรื่องจะเลยเถิด พวกเขาจึงรีบผละริมฝีปากจากกัน เพราะใจอยากเล่นสามรุมหนึ่งมากกว่าเล่นกันเองสามคน
“เอาละ งั้นต่อจากนี้ก็พร้อมแล้วนะ” ดอมเช็ดปากแล้วขยับตัวเข้ามาจัดการใช้ผ้าปิดตาเด็กหนุ่ม
อีกสองคนที่เหลือกลืนน้ำลายด้วยความปรารถนา ตอนได้เห็นภาพที่เร้าใจ เด็กหนุ่มถูกปิดตาอยู่ในท่ายืนด้วยเข่า เนื้อตัวเปล่าเปลือยล่อนจ้อน ริมฝีปากสีสดเผยอขึ้นเห็นไรฟันขาว
‘แม่งเอ๊ย เด็กอะไรวะทำไมถึงน่าฟัดน่ากินแบบนี้’ เฟย์คิด และเขาเชื่อว่าเพื่อนอีกสองคนก็คิดเห็นคล้ายเดียวกัน
โอเมก้าที่มองไม่เห็นแล้วยังอยู่ในท่านั่งทับส้นเท้าที่ขอบเตียง เขาเอานิ้วขยับผ้าปิดตาให้เขาที่ “อา ตอนนี้มองไม่เห็นแล้ว แบบว่า...มันรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันนะ”
“อีกเดี๋ยวก็ดีเองน่า เชื่อพี่สิ ดอมแลบลิ้นเลียปาก แววตาของเขาวาวจ้า เพื่อนอีกสองคนยังอดเสียวแทนสิ่งที่จะเกิดต่อกับหนุ่มโอเมก้าไม่ได้
‘หลินเอ๊ยวันนี้ไอ้ดอมเอาจริงแน่’ คิงคิด
แล้วจากนั้นทั้งสามคนก็ไม่รอช้า ต่างคนต่างเริ่มต้นด้วยการส่งดุ้นเนื้อให้เด็กหนุ่มปรนเปรอด้วยปาก
“ท่านหงให้พวกเราทุกคนฝังไมโครชิปที่หลังมือ” ดอมเฉลยพร้อมกับยกหลังมือให้เห็น ผิวตรงนั้นมีจุดแดงจาง ๆ เหมือนตุ่มมดกัด“หา? นั่นหมายถึง...” เด็กหนุ่มอ้าปากค้างอย่างพิศวง“ท่านหงบอกว่าถ้าพวกเราอยากมาเจอหลิน ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ายินดีเสียสละเพื่อหลิน ลูกชายคนสุดท้ายของเขาจริง ๆ” ดอมเริ่ม“การฝังชิปเปรียบเหมือนการยอมให้เขาติดตามตัวเราได้ตลอดชีวิต ท่านหงบอกว่า วันใดที่พวกเราทำให้หลินเสียใจ ถ้ามีชิปนี้อยู่ที่ตัว ไม่ว่าจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหน เขาก็จะให้คนออกตามล่าพวกเราจนได้” เฟย์เสริม“และชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ฝังลงไปได้อย่างเดียว เอาออกมาไม่ได้ ถ้าพยายามเอาออก มันจะระเบิด” คิงอธิบายแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกเด็กหนุ่มเอามือปิดปาก แววตาเบิกโพลง “นั่นไง ผมกะแล้วว่าคนอย่างพ่อผมไม่มีทางให้อะไรใครฟรี ๆ แน่ แล้วพวกพี่ยอมได้ยังไง มันคือทั้งชีวิตของพวกพี่เลยนะ!”ดอมผู้มั่นใจยักไหล่ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง “ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่ ยังไงเราก็ไม่คิดจะทิ้งหลินไปไหนอยู่แล้ว”
ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งริมทะเลสาบธรรมชาติที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบและมีประชากรเบาบาง และกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่จากถนนใหญ่ยังไม่ง่าย ดังนั้นอาจนับได้ว่าบ้านหลังนี้คือเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัยและแทบตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ตามด้วยอำนาจเงินก็ดลบันดาลให้ที่พักแห่งนี้เป็นที่อยู่ที่สะดวกสบายมากแห่งหนึ่งแม้ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าจะสวยงาม แต่เด็กหนุ่มทายาทมาเฟียชื่อก้องก็ถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในบ้านเขาหดหู่สุดขีด นี่ยังดีที่พอออกมาสู่ธรรมชาติแล้วจิตใจคล้ายถูกเยียวยาขึ้นมาบ้างเด็กหนุ่มจำเป็นต้องอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบแห่งนี้ ที่เขาเซ็งสุดขีดเพราะตระหนักได้ว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถูกกักขัง สุดท้ายหลังจากพยายามแทบตายก็ต้องกลับมาเป็นเด็กไม่รู้จักโตของคุณพ่ออีกรอบ ไร้อิสระสิ้นดีพ่อบอกให้เขาอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าความคิดจะเข้าที่เข้าทางแล้วค่อยมาคุยกันเด็กหนุ่มถอนใจอีกรอบ อย่างไรก็ดีคราวนี้หลินไม่มีความคิดที่จะหนีไปไหนอีก ลึก ๆ เขารู้สึกผิดกับครั้งที่แล้วที่หนีออกจากบ้านถัดจากการหนี ก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน
ดอมเพิ่งนึกออกว่าตลอดเวลาที่รู้จักกัน หลินไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของเขา บอกแค่ว่าพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดและเขาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เลยต้องหาเงินส่งให้ที่บ้านความตระหนักรู้ในสมองของหนุ่มร้ายส่งเสียงกระดิ่งกริ๊งลั่นในหัว ‘ถ้าพ่อมีลูกน้องตัวใหญ่เป็นยักษ์แถมมีหน้าโหดแบบนี้ พ่อของหลินก็น่าจะเป็น…’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้อย่างเดียวชายตัวใหญ่ที่หลินบอกว่าชื่อวินย่างเข้ามา มือขยับแว่น แต่เหลือบเห็นมือใหญ่ของดอมที่จับข้อมือเล็กของหลินไว้ วินจึงเอ่ยว่า“คุณเอ้อ คือคุณดอมนั่นเอง ได้โปรดปล่อยคุณหลินมากับเราเถอะครับ”“ทำไมต้องปล่อย นายเป็นใครเนี่ย แล้วจะพาหลินไปไหน” ดอมรีบดึงตัวเด็กหนุ่มมาใกล้ แล้วก้าวไปอยู่ข้างหน้าแทนทันทีอย่างปกป้อง“เอ้อคือว่า…” คนชื่อวินใช้นิ้วเขี่ยที่มุมปากอย่างยุ่งยากใจ“แล้วทำไมนายถึงรู้จักฉัน” ดอมส่งเสียงดังข่มขู่“ก็เพราะคุณพ่อของคุณ คุณเด่นชัย เขารู้จักกับนายท่านหง ตั้งแต่ตอนคุณเด่นชัยยังทำงานให้บอสใหญ่ของผม”ดอม
สองหนุ่มนอนกอดก่ายกันในรถ หลินหนุนแขนล่ำของคิง ศีรษะทุยสวยวางพอดีตรงรอยต่อของหัวไหล่กับหน้าอก คิงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียนที่ยังมีเหงื่อชื้นซึม ฝ่ามือใหญ่ลูบเส้นผมอ่อนนุ่มที่ยังเปียกนิดหน่อยตรงปลาย“หิวไหม”“เริ่มหิวแล้วครับ”“งั้นเดี๋ยวแต่งตัวแล้วไปกันเลยดีกว่า”เด็กหนุ่มชูแขนขึ้นด้วยท่าทีน่ารัก “เย้ ปิ้งย่างเกาหลีที่รอคอย”“โอ้ พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เราหิว”หลินแลบลิ้นอย่างล้อเลียน “ไม่หิวขนาดนั้นหรอกพี่” แล้วเขาก็นึกอะไรได้ หนุ่มโอเมก้าจึงรั้งตัวคิงที่เพิ่งลุกขึ้นมานั่งด้วยการบีบเบา ๆ ที่ต้นแขน “ผมมีเรื่องอยากถาม ที่จริงคือผมสงสัยมาแล้วก่อนหน้านี้”“หือ เรื่องอะไร”“พี่รู้เรื่องที่ผมกับเพื่อนพี่อีกสองคนมีอะไรกัน…”คิงชิงพยักหน้าก่อนจะจบประโยคเสียอีก“พวกพี่ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลยสินะ”หนุ่มใหญ่หัวเราะอาย ๆหลินทำปากล่างยื่น “พี่ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอครับ”&ld
ไม่นานเลยหลินก็ฉ่ำเยิ้มไปทั้งร่าง ตอนฝ่ามือใหญ่ของคิงเข้าไปล้วงเข้าไปเล่น เขารู้ทันทีว่าข้างในกางเกงในสีขาวของหลินมีเหลวเหนียวเหนอะเปียกชื้นอยู่ข้างในชัก ๆ“โอ๊ะ พี่ครับ ซี้ด โอย ผมเสียว” เด็กหนุ่มตื่นเร้าอย่างมากมายไม่น่าเชื่อ ทั้งการถูกรุกรานด้วยนิ้ว ทั้งความกังวลว่าจะมีคนผ่านมาเห็นสิ่งที่พวกเขาทำกันโอเมก้าพอเข้าใจแล้วว่าทำไมคิงถึงโปรดปรานการมีเซ็กซ์แบบเอาต์ดอร์“อึก ขอผมทำพี่บ้างสิ”“มาสิ ก้มลงมาใช้ปากให้พี่หน่อย”คิงรูดกางเกงกับกางในลงไปกองที่ข้อเท้าทันทีพอคนขับเปลือยท่อนล่างแล้ว คนตัวเล็กกว่าก็ตะกายตัว เอาหน้าท้องพาดเกาะกึ่งกลางระหว่างคนขับกับผู้โดยสารแล้วปากนุ่ม ๆ ของเด็กหนุ่มก็ครอบทับดุ้นเนื้อของคนขับเข้าไปหลินเบิกตากว้างตอนเห็นนายช่างเอานิ้วจับที่โคนดุ้น ทำให้อวัยวะที่มีเลือดมาคั่งจนแข็งเกร็งนั่นชี้ชูขึ้นฟ้า ทั้งความยาว ความอวบกำลังดี กับส่วนหัวสีแดงก่ำ กระตุ้นกำหนัดที่ด้านหน้าและด้านหลังของเด็กหนุ่มจนร้อนระอุ“อูย ของพี่หัวแดงจัง” หลินใช้นิ้วแตะสัมผัสที
แทนที่จะขึ้นไปออฟฟิศแล้วรีบเก็บของกลับบ้าน หลินกลับเข้าพุ่งตัวเข้าไปในรถเทสลา แล้วขับบึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนกว่าจะรู้ตัวอีกที ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี และพอดับเครื่องรถยนต์หลินก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาเคยมาแล้ว นั่นก็คือโรงถ่ายของ FDK Studio ที่ปทุมธานีนั่นเองวิวตอนเย็นของโรงถ่ายงดงามจนเด็กหนุ่มต้องลงจากรถเดินช้า ๆ สีสันบนท้องฟ้ามีหลากหลายทั้งส้มชมพูม่วงที่ไล่เฉดได้สมบูรณ์แบบชนิดที่ไม่มีจิตรกรคนไหนวาดเทียบเทียมได้ และธรรมชาติอันน่าตะลึงก็ทำให้ความคิดของหลินเรียงตัวเป็นระเบียบเขารู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์ เพราะมีเสียงรถยนต์คันใหญ่มุ่งมาทางเขา แล้วก็เห็นรถเอสยูวีอีกคันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบรถเทสลาสีเงินของบริษัท และหลินจำได้ว่านั่นคือรถของคิงหนุ่มใจดีทายาทบริษัทอสังหาออกมาจากรถ แล้วรีบเดินมาที่ตัวเด็กหนุ่มทันที“ทำไมจู่ ๆ ก็หลินหนีพี่มา แถมขับรถเร็วซะด้วย ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ”“พี่คิง นี่พี่ขับรถตามผมมาถึงนี่เลยเหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ คุยกันอยู่