Share

สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที
สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที
Author: เอเลียนา เคอร์ส

บทที่ 1

Author: เอเลียนา เคอร์ส
สามีบอกว่าฉันไม่อ่อนโยนพอ พ่อแม่บอกว่าฉันเห็นแก่ตัว ลูกสาวบอกว่าเธอรักแม่อวี่เวยมากกว่า ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจใช้ 72 ชั่วโมงสุดท้าย มอบชีวิตและทุกสิ่งของฉันให้กับผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบคนนี้

คำพูดของหมอดังวนอยู่ในหูว่า “มะเร็งระยะสุดท้าย หากไม่รับการรักษาพิเศษทันที จะเหลือเวลาไม่เกินสามวัน”

ฉันพิงตัวอยู่ในห้องผู้ป่วย มองออกไปนอกหน้าต่าง ในฐานะภรรยาของลู่เป่ยเฉิน ฉันพยายามประคับประคองชีวิตแต่งงานนี้มา 7 ปี จนกระทั่งวันที่เธอปรากฏตัว

“เธอโอเคไหม?” ประตูถูกผลักเปิดออก คนที่เดินเข้ามาคือสามีของฉัน ลู่เป่ยเฉิน บนใบหน้าของเขามีแววไม่พอใจเล็กน้อย

“ฉันสบายดี” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “หมอบอกว่าเธอจำเป็นต้องได้สิทธิ์การรักษาเชิงทดลองนั้น แต่...”

“แต่หลินอวี่เวยต้องการมากกว่าใช่ไหม?” ฉันพูดแทนเขาจนจบ ประกายรอยยิ้มขมขื่นผุดขึ้นที่มุมปาก

หลินอวี่เวย เด็กหญิงผู้น่าสงสารจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ฉันเคยขอร้องให้พ่อแม่รับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุสิบสองปี ฉันรักและดูแลเธอเหมือนน้องสาวแท้ ๆ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน

“เจียอิน เธอต้องเข้าใจนะ” น้ำเสียงของลู่เป่ยเฉินอ่อนลงเล็กน้อย “อวี่เวยอาการหนักกว่า เขสบอกว่ากำลังไตวาย ส่วนเธอ... เธอดูเหมือนจะยังพอไหว”

ใช่ ฉันดูเหมือนจะยังสบายดีจริง ๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าเพื่อไม่ให้พวกเขากังวล ฉันกินยาระงับปวดในปริมาณที่อาจถึงแก่ชีวิต เพื่อกลบความเจ็บปวดรุนแรงจากมะเร็ง

“ฉันเข้าใจ” ฉันพูดอย่างสงบ “มอบโอกาสการรักษาให้เธอเถอะ”

ลู่เป่ยเฉินถอนหายใจโล่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ฉันรู้ว่าเธอต้องเข้าใจแน่ ๆ หลายปีมานี้เธอเปลี่ยนไปมาก ไม่ดื้อรั้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”

ดื้อรั้นเหรอ? ฉันหัวเราะเยาะอยู่ในใจ แต่ตั้งแต่หลินอวี่เวยเข้ามา ทุกครั้งที่ฉันพยายามยืนหยัดกลับถูกตีความว่าเป็น “ความอิจฉา” และ “ใจแคบ”

ตอนกลางคืน ฉันฝืนสังขารกลับมาถึงบ้าน

“แม่!” ถังถังเห็นฉันแล้ว ก็รีบหลบไปอยู่ข้างหลังหลินอวี่เวยทันที

“ถังถัง” ฉันยิ้มออกมาอย่างฝืน ๆ

“พี่เจียอิน พี่กลับมาแล้วเหรอ” หลินอวี่เวยใส่ชุดชาแนลที่ฉันเคยให้เธอ แล้วนั่งอยู่บนที่ที่เคยเป็นของฉัน

“อวี่เวย ฉันมีบางสิ่งจะให้เธอ”

ฉันเดินไปที่ห้องหนังสือ หยิบแฟ้มเอกสารออกมา “นี่คือเอกสารการโอนแกลเลอรีที่อยู่ในชื่อฉัน ฉันอยากมอบให้เธอ”

“อะไรนะ?” หลินอวี่เวยลุกพรวดขึ้นด้วยความตกใจ “พี่! นั่นคือแกลเลอรีที่พี่รักที่สุดเลยนะ!”

ใช่ นั่นคือแกลเลอรีที่ฉันก่อตั้งขึ้นเองทั้งหมด เป็นดั่งหยาดเหงื่อและหัวใจของฉัน แต่ตอนนี้ มันก็ไม่สำคัญอะไรอีกแล้ว

“เธอเหมาะกับการบริหารมันมากกว่าฉัน” ฉันยิ้มแล้วพูดว่า “ก็ถือว่าเป็นของขวัญแต่งงานล่วงหน้าให้เธอก็แล้วกัน”

สีหน้าของหลินอวี่เวยแปรเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ก็กลับมาทำหน้าตาไร้เดียงสาอย่างรวดเร็ว “พี่ พูดอะไรน่ะ?”

ฉันก้าวเข้าไปใกล้เธอ พูดเบา ๆ ว่า “ทุกอย่างฉันรู้หมดแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ฉันขออวยพรให้พวกเธอ”

ลู่เป่ยเฉินเดินเข้ามาในตอนนั้น เห็นเราสองคนอยู่ด้วยกัน สีหน้าเขาดูเครียดขึ้นเล็กน้อย “พวกเธอกำลังคุยอะไรกัน?”

“พี่เจียอินจะยกแกลเลอรีให้ฉัน” ดวงตาของหลินอวี่เวยเอ่อคลอด้วยน้ำตา “เธอดีกับฉันเหลือเกิน”

ลู่เป่ยเฉินมองฉัน แววตาฉายความรู้สึกที่ซับซ้อน “เสิ่นเจียอิน เธอ...”

“ฉันเหนื่อยแล้ว” ฉันขัดจังหวะเขา “ฉันขอขึ้นไปพักข้างบนก่อนนะ ถังถัง ต้องเชื่อฟังคุณน้าด้วยล่ะ”

“ค่ะ” ถังถังตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แล้วหันไปพูดกับหลินอวี่เวยว่า “แม่อวี่เวย เรามาเล่นเกมกันต่อเถอะ”

แม่อวี่เวย หัวใจของฉันเจ็บจี๊ดขึ้นมา

กลับถึงห้องนอน ฉันพิงประตู ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้ว มะเร็งกำลังกัดกินชีวิตฉันอย่างบ้าคลั่ง และยาพวกนั้นกำลังเร่งให้กระบวนการนี้เร็วขึ้น

ฉันเริ่มจัดตู้เสื้อผ้า บรรดาชุดเดรสราคาแพง เครื่องเพชรพลอย และกระเป๋าราคาแพงเหล่านั้น อีกไม่นานก็จะเป็นของหลินอวี่เวยทั้งหมด

“ยังเหลือเวลาอีก 72 ชั่วโมง” ฉันพูดกับตัวเองที่ซีดขาวในกระจก “เสิ่นเจียอิน อีกสามวันสุดท้ายนี้ ก็ให้พวกเขาจดจำเธอในแบบที่สมบูรณ์แบบเถอะ”

ฉันรู้ว่าความจริงจะถูกเปิดเผยในที่สุด เรื่องหลังจากที่ฉันตายไป ฉันได้จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หลักฐานที่ฉันรวบรวมไว้จะทำให้ตัวตนที่แท้จริงของหลินอวี่เวยถูกเปิดโปง และฉันก็รู้ว่าท้ายที่สุดพวกเขาก็จะต้องเสียใจ

แต่ตอนนั้น ฉันก็ไม่อยู่แล้ว

และนี่ ก็คือการแก้แค้นของฉัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที   บทที่ 12

    ยามโพล้เพล้ หญิงสาวคนหนึ่งก้าวมาถึงหน้าหลุมศพ“คุณคือ…?” ถังถังมองเธอด้วยแววตาสงสัย“ฉันชื่อจางลี่ เป็นผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อน” ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำ “เมื่อห้าปีก่อน มูลนิธิเจียอินเป็นผู้ช่วยชีวิตฉันไว้ วันนี้ฉันมาเพื่อขอบคุณคุณแม่ของเธอ”“แม่ต้องได้ยินแน่ ๆ” ถังถังเอ่ยเสียงแผ่วเบาจางลี่วางช่อดอกไม้ลง แล้วก้มศีรษะคำนับอย่างลึกซึ้ง “คุณเสิ่นเจียอิน ขอบคุณนะคะ เพราะคุณ ฉันถึงมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ และได้เฝ้ามองลูกของฉันเติบโตขึ้น”ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ถังถังเคยเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน ทุกคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิล้วนจดจำชื่อของเสิ่นเจียอินไว้เสมอแม่ของเธอแลกด้วยชีวิต ไม่เพียงเพื่อความเสียใจของครอบครัว แต่ยังมอบชีวิตใหม่ให้กับผู้คนนับไม่ถ้วนค่ำคืนคืบคลานเข้ามา ถังถังลุกขึ้นในที่สุด เตรียมจะจากไปเมื่อยามราตรีมาเยือน ในที่สุดถังถังก็ลุกขึ้นเตรียมตัวจะจากไป“แม่…” เธอเหลือบมองหลุมศพเป็นครั้งสุดท้าย “แม่เคยถามว่า พวกเราจะนึกถึงแม่บ้างไหม”“คำตอบก็คือ—ทุก ๆ วัน ทุก ๆ ขณะ จนชั่วนิรันดร์”ระหว่างทางกลับบ้าน ถังถังเปิดบันทึกที่แม่ทิ้งไว้ให้ นี่คือสิ่งที่เธอได้รับมาตั้งแต่อาย

  • สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที   บทที่ 11

    20 ปีต่อมาถังถังยืนอยู่ริมหน้าต่างกระจกบานใหญ่ของแกลเลอรี มองออกไปยังถนนนิวยอร์กอันคึกคักเบื้องหน้า เธอสืบทอดความงดงามจากมารดา และยังได้รับพรสวรรค์ด้านธุรกิจที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ในวัย 25 ปี เธอได้กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการศิลปะไปแล้ว“ถังถัง ถึงเวลาให้สัมภาษณ์แล้วค่ะ” ผู้ช่วยเอ่ยเตือนนี่คือการสัมภาษณ์พิเศษของนิตยสาร ไทม์ ภายใต้หัวข้อ “สืบทอดกิจการแม่ — จักรวรรดิศิลปะของบุตรสาวเสิ่นเจียอิน”“ถังถัง หลายคนบอกว่าคุณเหมือนกับคุณแม่มาก” ผู้สื่อข่าวเอ่ยถาม “คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”ถังถังนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันไม่มีวันเป็นเหมือนเธอได้”“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”“เพราะเธอใช้เวลา 29 ปีของชีวิต สอนให้ทุกคนรู้ว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร ส่วนฉันต้องใช้เวลา 18 ปี กว่าจะเข้าใจได้ว่าอะไรคือความเสียใจภายหลัง”ผู้สื่อข่าวซึ่งชัดเจนว่ารู้เรื่องราวในอดีตของตระกูลนี้อยู่แล้ว จึงไม่ได้ซักถามต่อหลังจบการสัมภาษณ์ ถังถังขับรถตรงไปยังสุสาน วันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของเสิ่นเจียอิน และในทุก ๆ ปีเมื่อถึงวันนี้ เธอจะต้องมาเยือนเสมอหน้าหลุมศพถูกประดับไปด้วยดอกไม้สดมากมาย บางส่

  • สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที   บทที่ 10

    หนึ่งเดือนต่อมาลู่เป่ยเฉินไปนั่งที่หน้าหลุมศพของเสิ่นเจียอินทุกวัน เขาจะพาถังถังไปด้วย แม้ว่าหนูน้อยจะไม่ค่อยเต็มใจนัก“พ่อคะ ทำไมเราต้องมาที่นี่ด้วย?” ถังถังเตะก้อนหินเล็ก ๆ ไปมา“เพราะที่นี่มีคนที่รักลูกนอนอยู่”“แต่เธอไม่เคยมาเล่นกับหนูเลย” ถังถังทำปากงอน “แม่อวี่เวยบอกว่า คนที่รักหนูจริงจะอยู่กับหนูตลอดเวลา”หัวใจของลู่เป่ยเฉินแตกสลายอีกครั้ง เขาไม่รู้จะอธิบายกับเด็กห้าขวบอย่างไร ว่าคนที่บอกว่าจะ “อยู่กับเธอตลอดไป” นั้นแท้จริงคือคนโกหก ส่วนคนที่ “ไม่ค่อยได้เล่นกับเธอ” ต่างหาก ที่รักเธอจนยอมแลกด้วยชีวิตหลินอวี่เวยถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในศาลเธอยังพยายามแก้ตัว โบ้ยว่าทุกอย่างเป็นแผนการที่เสิ่นเจียอินวางไว้เพื่อใส่ร้ายเธอ แต่หลักฐานชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอเลยพ่อแม่ของเสิ่นเจียอินขายบ้านทิ้ง แล้วย้ายไปอยู่ฟลอริดา พวกเขาบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในนิวยอร์กจะทำให้พวกเขานึกถึงลูกสาวที่เสียไป ก่อนจากไป แม่ได้คุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพของเสิ่นเจียอินอยู่นานแสนนาน“ถ้ามีชาติหน้า...” เธอเอ่ยเสียงสะอื้น “แม่จะรักแค่ลูกคนเดียวเท่านั้น”แกลเลอรีได้บริจาคให้กับพิพิธภ

  • สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที   บทที่ 9

    หลังจากที่หลินอวี่เวยถูกพาตัวไป คฤหาสน์ตระกูลเสิ่นก็ตกอยู่ในความเงียบงันราวกับความตายลู่เป่ยเฉินนั่งอยู่ข้างร่างของเสิ่นเจียอิน ราวกับไร้วิญญาณ โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นไม่หยุด ทั้งจากบรรดากรรมการ หุ้นส่วนทางธุรกิจ และนักข่าว ทุกคนต่างถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาไม่รับสายแม้แต่สายเดียว“คุณผู้ชาย” พี่เฉินเอ่ยเตือนเสียงแผ่วเบา “คนจากสถานจัดงานศพมาถึงแล้วค่ะ”ลู่เป่ยเฉินเงยหน้าขึ้นทันที “ไม่! ห้ามพาเธอไป!”แต่เขารู้ดีว่านั่นเป็นไปไม่ได้ เสิ่นเจียอินจากไปแล้ว จากไปตลอดกาลชั้นล่าง พ่อแม่ของเสิ่นเจียอินยังคงพลิกดูหลักฐานเหล่านั้น เอกสารแต่ละฉบับ คลิปเสียงแต่ละตอน ล้วนเสมือนคมมีดที่กรีดลึกลงกลางหัวใจของพวกเขา“วันที่นี่...” แม่ชี้ไปที่ใบเสร็จการรักษา ใบหน้าเปล่งเสียงสั่นพร่า “วันคริสต์มาสปีที่แล้ว เจียอินก็ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งแล้ว”"แต่เธอไม่เคยพูดอะไรเลย" น้ำเสียงของพ่อแก่ชราลงไปสิบปีพี่เฉินเดินเข้ามา “เพราะวันนั้นหลินอวี่เวยเกิดล้มป่วยกะทันหัน พวกคุณต่างก็อยู่ที่โรงพยาบาลคอยดูแลเธอ คุณนายไม่อยากสร้างความลำบากให้พวกคุณค่ะ”แม่ยกมือขึ้นปิดหน้า ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด “พวกเราได้ทำอะไรลงไป.

  • สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที   บทที่ 8

    ลู่เป่ยเฉินอ่านจดหมาย มือสั่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ บนจดหมายนั้นได้บันทึกไว้อย่างละเอียดถึงอาการป่วยของเสิ่นเจียอิน การตัดสินใจของเธอ และเส้นทางความคิดความรู้สึกในช่วงสามวันสุดท้ายแม่ของเสิ่นเจียอินอ่านไปได้ครึ่งทางก็แทบจะรับไม่ไหว “ลูกสาวของแม่... ลูกสาวที่น่าสงสารของแม่!”ทันใดนั้น พี่เฉินก็เปิดโทรทัศน์ เสียบแฟลชไดรฟ์เข้าไปแล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งที่คุณนายสั่งให้ฉันเปิดวันนี้”ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเมื่อสามวันก่อน ลู่เป่ยเฉินยกโอกาสในการรักษาให้กับหลินอวี่เวยโดยไม่ลังเล แม้แต่ความคิดเห็นของเสิ่นเจียอินเขายังไม่ได้ถามเลยถัดมาคือไฟล์บันทึกเสียง การสนทนาระหว่างหลินอวี่เวยกับชู้รักของเธอ เจียงเฉิน ทุกถ้อยคำเปรียบเสมือนคมมีดที่กรีดลึกลงกลางใจของทุกคน“แผนเป็นไปอย่างราบรื่น เสิ่นเจียอินกำลังจะตายแล้ว”“แกล้งทำเป็นป่วยมาตั้งหลายปีแล้ว เธอก็ไม่เคยสงสัยเลย...”ห้องนั่งเล่นเงียบงันราวกับความตาย“ไม่! นี่ไม่จริง!” หลินอวี่เวยกรีดร้องอย่างเสียสติแต่ไม่มีใครสนใจคำแก้ตัวของเธอ พี่เฉินยังคงหยิบหลักฐานออกมาเพิ่ม ใบผลตรวจปลอม รายการโอนเงิน และรูป

  • สามวันก่อนตาย ฉันก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาครอบครัวเสียที   บทที่ 7

    บนรถ แม่เสิ่นยังคงกดโทรหาลูกสาวไม่หยุด"ยังปิดเครื่องอยู่" เธอมองไปทางสามีด้วยความร้อนใจ "เจียอินไม่เคยหายไปนานขนาดนี้โดยไม่รับสายมาก่อนเลย""อย่าเพิ่งใจร้อน เดี๋ยวฉันโทรหาเป่ยเฉินเอง" พ่อเสิ่นพูดพลางขับรถไปด้วยเสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานกว่าจะมีคนรับสาย"พ่อตา?" เสียงของลู่เป่ยเฉินฟังดูแปลกไป ต่ำและอ่อนล้า"เป่ยเฉิน เจียอินอยู่กับนายหรือเปล่า?" พ่อเสิ่นถามอย่างร้อนใจ "โทรศัพท์เธอปิดเครื่อง เราหาเธอไม่เจอ ทนายบอกว่าเธอโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้อวี่เวยแล้ว เรากลัวว่าเธอจะ..."ปลายสายเงียบไปอยู่ไม่กี่วินาที"พ่อตา แม่ยาย... ตอนนี้พวกท่านอยู่ที่ไหน?""กำลังจะไปบ้านพวกเธออยู่นี่แหละ" แม่เสิ่นแย่งโทรศัพท์ไปพูดต่อ "เป่ยเฉิน เจียอินอยู่กับนายหรือเปล่า? เธอเป็นยังไงบ้าง?""พวกท่าน...รีบมาที่นี่เถอะ" เสียงของลู่เป่ยเฉินยิ่งแผ่วต่ำลง"เกิดอะไรขึ้นกันแน่?" หัวใจของแม่เสิ่นแทบจะหลุดออกมาถึงลำคอ "เจียอินเกิดเรื่องแล้วใช่ไหม? พูดมาสิ!""แม่ยาย... พอมาถึงแล้วท่านก็จะรู้เอง ขับรถระวังด้วยนะ"สายถูกตัดไปแล้วแม่เสิ่นหันมองสามี สีหน้าของทั้งคู่พลันเปลี่ยนไป"รีบขับเร็วเข้า!" แม่เสิ่นเร่งเร้า "ต้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status