ขณะที่ก้มหน้าก้มถูกพื้นลงมาเรื่อยๆจากชั้นบนสุดค่อยๆทำความสะอาดมาเรื่อยๆจนกระทั่งลงมาที่พื้นด้านล่างสุด ระหว่างที่ทำงานมาเรื่อยๆนั้น ก็ได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของหญิงสาวและชายหนุ่มหนุ่มดังเป็นระยะ บางชั้นก็มีหญิงคณิกาที่กำลังบรรเลงเพลงอยู่ด้านใน อดีตนางแบบที่ก็ชื่นชอบการดูซีรี่ย์จีนมากอยู่เหมือนกััน จึงพอจะทำความเข้าใจกับการใช้ชีวิตในยุคโบราณของเหล่าผู้คนในหอคณิกานี้
นางเห็นมีผู้ชายจีนโบราณ ที่แต่งตัวลักษณะคล้ายคุณชายที่แต่งตัวเหมือนกับซีรี่ย์ที่เคยเห็นเลย บางคนถือพัดเอาไว้ในมือ บางคนก็เดินมามือเปล่า มาเพียงคนเดียว หรือมีคนติดตามหรือไม่ก็มาพร้อมๆกันหลายคนที่ต่างก็เดินเข้ามาในหอคณิกาแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่กลางวันเป็นต้นไปที่มีการเล่นดนตรีจีีนโบราณมีหญิงคณิกาที่ชำนาญเกี่ยวกับการวาดภาพ มีการหญิงคณิกาที่เล่นหมากรุกเป็นเพื่อนกับแขกเหรืื่อที่ชอบการละเล่นพวกนั้น และคงจะมีอีกหลายอย่างแต่อันอันไม่เห็น แอบมองเข้าไปในห้องเหล่านั้นเห็นแค่บางห้องเท่านั้น จึงพอจะสรุปได้ว่านอกจากเขาจะมาหอนางโลมเพื่อเชยชมเหล่าคณิกาแล้ว ยังมีความบรรเทิงอื่นๆอีก และในสมัยโบราณศิลปะเหล่านี้คงจะเป็นที่นิยม
ในห้องต่างๆที่หอมหมื่นลี้ลอบสังเกตุขณะที่ทำความสะอาดมาเรื่อยๆนั้น บางห้องก็มีการแสดงร่ายรำประกอบดนตรี เพราะเห็นนางรำแต่งกายคล้ายกับระบำแขก นางก็แต่งกายคล้ายชนเผ่า หรือไม่ก็เป็นชุดยาวกรุยกรายที่เป็นกางเกงและเวลาร่ายรำก็สะบัดแขนขาให้อาภรณ์ยาวนั้นพริ้วไหวไปตามจังหวะของเจ้าตัวที่คลื่่่นไหวไปตามเสียงเพลง บางห้องที่นางแอบมองลอดเข้าไปก็เป็นการวาดภาพเขียน และมีบุรุษที่ืชื่นชอบสิ่งเหล่านั้นมานั่งชมหญิงงามวาดภาพเขียนให้ดูและก็หยอกล้อกันไปด้วย และบางคนก็จิบสุราไปด้วย ที่จิบอยู่ที่นั่นอาจจะเป็นน้ำชาก็ได้ แต่หอมหมื่นลี้คิดว่าน่าจะเป็นสุรามากกว่า บางคนก็นั่งฟังหญิงคณิกาดีดพิณ เล่นกู้เจิ้งก็มี บางคนก็สีซอ นางเองก็ไม่รู้ว่าเครื่องดนตรีโบราณนั้นเขาเรียกว่าอะไร แต่มองดูก็คล้ายๆซอบ้านเราอยู่
ขณะที่แอบมองก็ครุ่นคิดว่าหากเป็นสมัยนี้คงจะการเต้นระบำไปด้วยกระมัง คงจะมีการแด๊นซ์ให้ผู้ชายซื้อเวลามานั่งดู จะว่าไปบุรุษสมัยโบราณนี่ก็มีความละเมียดละไมอยู่มากนะ อารัมภบทก็มาก ชอบศิลปะแต่ต้องมานั่งซื้อเวลานั่งดูในหอคณิกา ก็แปลกๆอยู่ในความรู้สึกของหญิงยุคใหม่เช่นหอมหมื่นลี้ นางค่อยๆทำงานไปเรื่อยๆและแอบดูผู้คนแต่ละชั้นว่าทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง บางห้องก็เงียบกริบไม่มีคนใช้งาน และเมื่อลงมาถึงชั้นล่างก็เข้าใจ หอคณิกาแม้จะเปิดทำการแล้วแต่แขกเหรื่อมักจะชอบมาตอนเย็นจนล่วงเข้าสู่ค่ำคืน ตอนเย็นๆก็จะมีการแสดงบนเวที แต่วันนี้ทำงานเป็นวันแรกก็ยังไม่รู้ว่าบนเวทีนั้นมีการแสดงอะไรบ้าง
นางทำความสะอาดด้านล่างไปเรื่อยๆ อย่างเร่งรีบ ให้เสร็จก่อนที่หอคณิกานี่จะมีแขกเข้ามาใช้บริการมาก ขณะนั้นอยู่ๆหอมหมื่นลี้ก็รู้สึกว่ามีคนจับจ้องอยู่จึงได้หันไปตามสายตานั้น ก็พบเข้ากับเจ้าชายในฝันเข้า หรือจะเรียกว่าพระเอกซีรี่ย์จีนก็ได้ เขาหล่อมาก หล่อเหลือร้ายแต่หน้าตาบึ้งตึงไปหน่อย การแต่งตัวก็ดีมาก ก็เหมือนกับคุณชายหลายๆคนที่เห็นอยู่บนทางเดินข้างบน แต่เขาจ้องมาที่หอมหมื่นลี้อย่างไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าใดนัก จนทำเอาหอมหมื่นลี้หันไปมองทางด้านหลังว่ามีคนอื่นยืนอยู่หรือไม่ เพราะคิดว่าหนุ่มหล่อคนนี้อาจจะมองคนอื่นอย่างไม่พอใจแต่ไม่ใช่นางก็เป็นได้ แต่เมื่อหันไปมองด้านหลังก็ไม่พบใครยืนอยู่ มองไปทางด้านข้างสองข้างแล้วก็ไม่มี เราก็ยืนอยู่แค่คนเดียว ตาคนนั้นจะจ้องมองอย่างจะกินเลือดกินเนื้อไปทำไมกัน
แต่เมื่อนางหันไปอีกครั้ง บุรุษคนนั้นก็หันไปพูดคุยกับหญิงวัยกลางคนที่นางพบบนชั้นห้านั่นแล้ว หรือว่าข้าอาจจะคิดไปเองก็ได้ หอมหมื่นลี้คิดปลอบใจตนเอง คงไม่มีใครจะมาเกลียดฉันขนาดนั้นหรอกนะ เพิ่งมาแท้ๆ หรือจะเป็นโจทย์ของแม่หนูคนนี้เสียก็ไม่รู้้ หอมหมื่นลีี้เรียกเจ้าของร่างเดิมนี้ว่าแม่หนู เพราะเด็กสาวคนนี้น่าจะอายุแค่เพียงสิบห้าหรือสิบหกปีเท่านั้น จากที่เห็นใบหน้าและผิวพรรณน่าจะไม่เกินนี้ ส่วนอายุจริงของอดีตนางแบบสาวนั้นเกือบจะสามสิบเข้าไปแล้ว นับว่าได้กำไรไม่น้อย เกิดใหม่ย้อนเวลามายุคจีนโบราณ แถมยังย้อนวัยมาเป็นสาวรุ่นอีก อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ….
หอมหมื่นลี้รีบปัดความคิดเรื่องพ่อหนุ่มนั่นไปเสีย เขาอาจจะแค่สงสัยว่านางทำไมทำท่าทางแปลกๆก็ได้ หรือคนสมัยโบราณหน้าตาเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วก็ได้นะ แล้วนางก็รีบตั้งหน้าตั้งตาทำงานตรงหน้าไปอย่างรวดเร็ว รีบทำจะได้รีบเสร็จก่อนที่จะมีคนมากมันจะทำไม่สะดวก ขณะที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนเกือบจะเสร็จอยู่แล้วนั่นก็มีเสียงเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ อันอัน เจ้าเดินตามข้ามา มีเรื่องจะพูดกับเจ้า ”
นางหันไปตามเสียงเรียกก็พบเข้ากับใบหน้าของหญิงวัยกลางคนที่พบที่บนชั้นห้าคนเดิม จึงได้เดินตามนางไปในห้องๆหนึี่งที่มีทางแยกไปอีกด้าน และเดินตามไปเรื่อยๆจนนางเดินไปเปิดประตูห้องสุดท้ายของทางเดินออก แล้วก็เดินเข้าไป อันอันจึงได้เดินตามเข้าไปเช่นกัน
“ เอาละ วันพรุ่งนี้หลังจากที่เจ้ามาที่หอคณิกานี้ ให้มาเปลี่ยนอาภรณ์ที่ห้องนี่ก่อนนะ เมื่อเปลี่ยนเสร็จแล้วก็สวมเสื้อคลุมนี่แล้วขึ้นไปหานายท่านด้านบนชั้นห้า แล้วเดินไปที่ห้องสุดท้าย บนชั้นห้ามีห้องแค่สามห้อง ให้ไปที่ห้องทางปีกขวาที่เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด นายท่านมีเรื่องจะพูดกับเจ้า พรุ่งนี้ไม่ต้องทำความสะอาดหอ ข้าจะให้สาวใช้คนอื่นทำแทนเจ้า ” อันอันพยักหน้าช้าๆ อย่างไม่เข้าใจนัก แต่ก็จำต้องทำตาม “ ท่านคือมาม่าอี้หลานใช่หรือไม่ ข้าเป็นสาวใช้ที่นี่ ได้รับเงินเดือนเท่าไหร่คะ แล้วจะลาออกได้หรือไม่ ” หญิงตรงหน้าชะงักไป ทำหน้างงงันน้อยๆ
“ ใช่ข้าคือมาม่าอี้หลาน เจ้าตกน้ำไปได้ยินเสี่ยวหลินว่าเจ้าความจำเสื่อมไปบ้าง แต่ไม่เป็นไรข้าจะเรียนถามนายท่านว่าจะให้ท่านหมอมาตรวจอาการเจ้าหรือไม่ ข้าจะทบทวนความจำให้เจ้าก็แล้วกันนะ เจ้าคือหลิวอันอันเป็นทาสที่นายท่านซื้อตัวมาจากทางการ เพราะบิดาของเจ้าถูกจับข้อหาร่วมกันฉ้อราษฎร์ฯ บิดาและครอบครัวของเจ้าทั้งหมด รวมถึงบริวารหรือใครก็ตามที่อยู่ในตระกูลของเจ้าถูกเนรเทศไปพ้นแคว้นนี้แล้ว บิดาของเจ้านั้นเดิมเป็นขุนนางที่เมืองฉงชิ่งแต่ตอนนี้ที่นั่นเจ้าไม่เหลือใครแล้ว นายท่านใช้เส้นสายขอซื้อตัวของเจ้ามาเป็นทาส คำว่าทาสเจ้าคงจะเข้าใจนะว่าไม่ได้เงินค่าจ้าง แต่มันก็อาจจะมีคนเมตตาให้รางวัลเจ้าบ้างเวลาทำงานเจ้าก็อาจจะเก็บเอาไว้ได้
ส่วนที่ว่าเจ้าจะเป็นอิสระได้เมื่อไหร่ ให้เจ้าสอบถามกับนายท่านเอง ว่าเจ้าจะไถ่ตัวได้หรือไม่ เพราะมันไม่เหมือนกับทาสคนอื่นที่เขาสมัครใจมากขายตัวเอง หรือบิดามารดาของเขาพามาขายเป็นทาส หรือนำบุตรมาขัดดอกเพราะไม่มีเงินใช้หนี้ ที่นี่ก็มีหลายๆคนที่เป็นเช่นนั้น แต่ที่เป็นแบบเจ้านั้นมีแค่เพียงเจ้าคนเดียว เอาละ ข้าตอบคำถามของเจ้าแล้ว ต่อไปเจ้าก็ตั้งใจทำงานไปก่อน แล้วค่อยถามนายท่านในภายหลังว่าจะสามารถไถ่ถอนตัวเองได้หรือไม่ ”
มาม่าอี้หลานมองอันอันอย่างเห็นใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก แล้วนางก็เดินออกไปจากห้องนั้น ทิ้งให้อันอันทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องนั้น อย่างอึ้งงันไปนานที่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมนี้ถูกขายมาเป็นทาส แถมตระกูลของตนเองก็ล่มสลายไปเสียแล้ว ไม่มีญาติมิตรเหลืออยู่ แต่ถึงมีหอมหมื่นลี้วิญญาณที่มาเข้าร่างของเด็กสาวคนนี้ก็ไม่รู้จัก หลิวอันอันเอ๋ย เจ้าตายไปเสียก็พ้นทุกข์ไปแล้ว ข้ามารับช่วงชีวิตของเจ้าก็ยังอดเศร้าสลดไม่ได้ เพราะยังมองไม่เห็นว่าอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไร แค่เริ่มต้นก็ท้อเสียแล้ว
“ อ้าว หอมมาเสียทีนะ ดีแล้วทันพอดี รีบเข้าไปแต่งตัวเร็วเข้า อย่าให้คนอื่นรอนาน ” พี่มะปรางผู้จัดการเร่งยิกๆเมื่อเห็นหน้าของนางแบบสาวโผล่เข้าไปในสตูดิโอแล้ว หอมหมื่นลี้รีบวิ่งเร็วจี่ไปที่ห้องแต่งตัวที่อยู่่ด้านหลัง แล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะต้องใช้ถ่ายแบบ แล้วนั่งลงให้ช่างแต่งหน้าและทำผมให้ “ ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะ น้องหอม ช่่างแต่งหน้าชวนคุย ” หอมหมื่นลีี้ยิ้มให้ “ ไม่ค่อยมีงานนะพี่ ก็เป็นธรรมดานะ เราวัยปูนนี้แล้ว เด็กใหม่ๆก็เข้าวงการเยอะไปหมด จนหนูแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร เราก็รุ่นใหญ่แล้ว งานก็เริ่มจะน้อยลง ทำอย่างไรได้เล่าพี่อาชีพอย่างเราก็คงจะต้องมองหาอาชีพเสริมอื่นๆเอาไว้บ้าง เผื่อวันหน้าไม่มีคนจ้างแล้ว ” ช่างแต่งหน้าสาวสองพยักหน้า “ ก็ใช่ อาชีพนี้มันก็เป็นอย่างนี้นะ คลื่นลูกใหม่ไล่คลื่นลูกเก่า เพราะเป็นอาชีพของคนสวยคนงาม คนโดดเด่นน่าสนใจถึงจะอยู่ได้นาน แต่จะว่าไปน้องหอมก็โชคดีมากนะคะ งานนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ใหม่ของบริษัทของจีนที่มาเปิดสาขาในเมืองไทย ปกติแล้วงานอย่างนี้เขาน่าจะจ้างนางแบบชื่อดังและเป็นกระแสมากกว่านี้ แต่นี่น้องหอมได้งานนี้ พี่ได้ยินมาว่า
หลังจากตื่นนอนเมื่อตอนสายของอีกวันหนึ่ง นายท่านหนุ่มออกมานั่งเล่นกับอันอันที่หน้าห้องโถงในเรือน เขากำลังนอนหนุนตักของนางให้นางป้อนผลอิงเถาเข้าปากทีละลูก พลอดรักกันหวานฉ่ำ เขาแกล้งหาเรื่องหอมแก้มนวลของนางและยั่วเย้ากันเล่นประสาข้าวใหม่ปลามัน นายท่านหนุ่มมองสบตาภรรยาของเขาเสียหวานฉ่ำขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตู เมื่อเขาอนุญาติคนสนิทก็ก้าวเข้ามารายงานเรื่องที่จวนฮั่ว เขานิ่งฟังแล้วพยักหน้า “ ก็ดีแล้ว ท่านอาหลงรักเหม่ยอิงมานานก็สมหวังเสียที ดีแล้ว วันนี้ไม่มีงานที่ไหนข้าจะพักผ่อนที่นี่มีเรื่องด่วนอะไรก็มารายงานก็แล้วกัน ” แล้วคนสนิทของเขาก็ก้าวเท้าออกไปจากเรือนของเขา หลังจากนั้นก็มีงานแต่งงานของคุณชายฮั่วเซิ่นหลางกับคุณหนูกู้เหม่ยอิงที่งานแต่งนั้นยิ่งใหญ่พอสมควร แขกเหรื่อได้รับเชิญมากมายเกือบจะครึ่งเมือง งานแต่งจัดที่ตระกูลฮั่ว นายท่านหนุ่มพาภรรยาคืออันอันไปงานอย่างออกหน้าออกตา ใครๆถามเขาก็บอกว่าแต่งงานแล้วเงียบๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลานัก และภรรยาก็ท้องแล้วอันอันหน้าแดงก่ำที่เขาแนะนำกับแขกเหรื่อเช่นนั้น แต่นางนั้นเป็นหญิงสาวยุคใหม่ที่มาจากโลกอนาคตจึงพอรับมือกับสายตาที่มองมาอย่างหลากหลายความร
ด้านนายท่านฮั่วฟู่เฉิง เขารีบขึ้นรถม้าอย่างเร่งร้อนสั่งให้คนขับเร่งกลับไปยังหอคณิกาให้เร็วที่สุด เมื่อไปถึงแล้วเขารีบวิ่งไปที่เรือนด้านหลังของเขา รีบข้ามสะพานตรงไปที่เรือนของตนเอง ในใจของเขาหวังว่าเมียรักจะอยู่ในเรือน ขณะที่เขาพุ่งตัวเข้าไป เสีี่ยวหลินก็เดินออกมาเมียงมองว่าใครมา “ เสี่ยวหลินออกไปก่อน นายหญิงอยู่ข้างในหรือไม่ ” เสี่ยวหลินเห็นนายท่านดูเร่งร้อนผิดปกติ นางรีบพยักหน้า “ อยู่เจ้าค่ะ ” เมื่อได้ยินสาวใช้บอกว่าเมียของเขาอยู่ ก็โล่งใจนัก รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในห้องนอน หูได้ยินเสียงประตูหน้าเรือนปิดลง เสี่ยวหลินคงจะออกไปแล้ว เขาเดินเข้าไปในห้องนอน เมียรักกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง“ อันเอ๋อ เร็วเข้าพี่ถูกยาปลุกกำหนัด ช่วยผัวหน่อยเร็วเข้า ” เขาเร่งร้อนเดินไปที่เตียงนอน อันอันได้ยินสามีบอกดังนั้น นางรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไปที่เตียงนอนหลังใหญ่ของพวกเขาร่างล่ำสันรีบถอดอาภรณ์ของตนเองโยนลงไปบนพื้น แล้วขึ้นไปนอนบนเตียง อันอันเดินมาถึงนางประกบจูบเขาทันทีอย่างดูดดื่ม นายท่านหนุ่มก็อ้าปากรับลิ้นเล็กของเมียรักอย่างรอคอย ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มจนกลายเป็นเร่าร้อน มือหนาของนาย
“ ท่านพี่เจ้าคะ น้องเสียวเหลือเกิน กระแทกแรงๆอีก แรงอีกเจ้าค่ะ รักน้อง รักแรงๆเจ้าค่ะ ” นางเอ่ยบอกเขาแล้วสบตาสามีหวานฉ่ำ อาหนุ่มหลงไหลเมียหมาดๆคนนี้ไม่น้อย นางร่าน นางร้ายแต่เขาจะเก็บนางเอาไว้ปราบพยศ ร้ายแค่ไหนเขาก็จะปราบจนนางมาร้องครวญครางใต้ร่างเขาเช่นนี้ “ อ๊าย อ๊าา อ๊าา เสียวเหลือเกิน อ๊าย อ๊าย อ๊าา ” เหม่ยอิงร้องครวญครางอย่างสุขสม อาหนุ่มจับร่างอวบของนางพลิกไปมาหลายท่วงท่าตามแต่ใจของเขา นางเองก็ร่อนรับจังหวะรักของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ อาหนุ่มติดใจนางเหลือเกิน ขนาดนางยังไม่มีประสบการณ์ เพิ่งเคยกับเขาเป็นครั้งแรกยังร่านได้ใจเขาถึงขนาดนี้ หากเขาฝึกปรือนางไปอีกไม่นานคงจะเริงรักกันได้ถึงใจยิ่งกว่านี้ อาหนุ่มขย่มนางอีกครั้งจากด้านหลัง เขายกสะโพกอวบนางขึ้นแล้วบีบเค้นก้นงอนของนางจนขึ้นสี ยิ่งทำให้เหม่ยอิงเสียวซ่าน นางแอ่นก้นอวบขึ้นหาเขาอย่างร่านร้อน ยิ่งเขากระแทกรุนแรงเท่าใดนางยิ่งชอบ นางยิ่งโยกเข้าหาเขา ทั้งสองเริงรักกันอย่างมีความสุข เหม่ยอิงยอมให้เขาทั้งตัว นางหลงรักสามีแก่ผู้นี้อย่างหมดใจ นางยอมรับหลงเขา หลงมาก ถึงขนาดยอมเริงรักกับเขาอย่างร่านร้อน ทั้ง ๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ใ
ขณะนั้นฟู่เฉิงเริ่มมีอาการกำหนัดกำเริบขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเขาเองก็รู้ว่ามันไม่ปกติ และเขาจ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อของเหม่ยอิงก็รู้ทันที่ว่าเขานั้นต้องถูกนางวางยาปลุกกำหนัดเข้าให้แล้ว“ ท่าอาขอรับ ข้าฝากดูแลเหม่ยอิงแทนข้าด้วย ข้ามีธุระจะต้องรีบไปทำตอนนี้เลย ” แล้วเขาก็ผุดลุกเดินออกจากห้องอาหารอย่างเร่งรีบ ไม่ทันที่เหม่ยอิงจะได้ทันร้องคัดค้านเขา และตัวของนางเองในตอนนี้ก็เกิดอาการกำเริบไม่น้อยแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวซ่านที่มันกำเริบขึ้นอย่างรวดเร็ว นางแอ่นร่างบางไปมาอย่างทนไม่ไหว “ ท่านอาอย่านะ จะทำอะไรข้า ” นางร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่ออาหนุ่มของฟู่เฉิงก้มลงช้อนอุ้มนางเดินออกจากเรือนหลักแล้วอ้อมไปทานด้านหลังเรือนแล้วเข้าไปในเรือนของเขา โดยมีคนสนิทของเขายืนคุมอยู่หน้าเรือน “ เจ้าบ้า จะพาข้าไปไหน พาข้าไปหาพี่ฟู่เฉิงเดี๋ยวนี้นะ เจ้าบ้า เจ้าบ้า ” นางทุบไหล่หนาของอาหนุ่มที่มีอายุแก่กว่าฟู่เฉิงไม่มาก เขาเป็นลูกหลงและยังไม่ได้แต่งงาน เขาแอบรักเหม่ยอิงมานานแล้ว แต่เหม่ยอิงไม่เคยมองเขาเลย นางหลงไหลใฝ่ฝันแต่ฟู่เฉิง และวันนี้ช่วยไม่ได้ที่นางทำตัวเองเขาแอบได้ยินแผนการณ์ของพี่สาวกับเหม่ยอิงตั
กู้เหม่ยอิงกลับออกมาจากร้านอาภรณ์ที่พบนังหลิวอันอันด้วยใบหน้าหม่นหมองดวงตาแดงก่ำ นางเฝ้ารอพี่ฟู่เฉิงมาหลายปีแล้ว แต่เขาก็ไม่มีท่าทีจะจัดการเรื่องแต่งงานเสียที ผัดผ่อนมาตลอด ทุกครั้งก็จะบอกว่าไม่มีเวลาเพราะกิจการค้ายุ่งมาก ทำให้นางต้องเฝ้ารอตลอดจนท่านป้าพานางไปหาเขาที่เรือนก็ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้า นางจะไม่รออีกต่อไปแล้ว นางจะลงมือให้พี่ฟู่เฉิงเป็นของนางเสียที และเขาก็จำจะต้องแต่งงานกับนางหากมีอะไรกันแล้ว ไม่มีทางจะหลบเลี่ยงได้อีก จะทนเป็นสตรีในห้องหอที่ดีไปทำไมกัน เมื่อผู้หญิงหยำฉ่ามาแย่งว่าที่สามีไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ เมื่อเป็นหญิงร่านแล้วได้ดีเช่นนังหลิวอันอันนั่น ข้าก็จะทำตัวเช่นเดียวกับมันบ้าง ให้มันรู้กันไปว่าท่านพี่จะหนีข้าพ้นอีกไหม จากนั้นนางก็ขึ้นไปนั่งบนรถม้า แล้วออกคำสั่งกับสาวใช้คนสนิท“ ซิ่วเอ๋อ เจ้าไปซื้อยาปลุกกำหนัดมาให้ข้า กระซิบบอกกับหลงจู้ที่ร้านขายยาให้จัดให้บอกว่าท่านพ่อสั่งมาก็แล้วกัน ขอเป็นชนิดที่ร้ายแรงที่สุด บอกเขาว่าท่านพ่อกำชับมาว่าอย่างให้มีอะไรผิดพลาด ” ซิ่วเอ๋อพยักหน้า แล้วก็รีบลงไปจากรถม้าไปจัดการตามคำสั่งของนายของตนเอง หลังจากสาวใช้จากไปแล้ว เหม่ย