Share

5. ละครซ่อนกล

last update Last Updated: 2024-12-04 08:55:05

แก้วเก้าตัวเล็กที่สุดถูกจัดให้เดินนำหัวขบวน เสียงพิธีกรพูดออกไมโครโฟนเป็นทางการ  เหล่านักแสดงนั่งพับเพียบลงกับพื้นเวที นักแสดงทุกคนได้รับขันเงิน ในนั้นมีเงินอยู่ 6 บาท ผ้าเช็ดหน้าสีขาว 1 ผืน เทียนขี้ผึ้งขาว 3 เล่ม ดอกไม้คนละ 1 ช่อ มีดอกหญ้าแพรก ดอกเข็ม และดอกมะเขือ ธูป บุหรี่ ไม้ขีดไฟ และหมากพลู  3 คำ พี่ฉัตรพรบอกให้แก้วเก้าพนมมือถือขัน  ฉากกั้นหน้าเวทีที่เป็นผ้าม่านสีแดงถูกเปิดออก

แก้วเก้ามองไปรอบเวที  มีโต๊ะหมู่ใหญ่  หัวโขนฤาษี   พ่อแก่เรียงเป็นแถว ชั้นบนสุดเป็นพระพิฆเนศวร  พระนารายณ์  พระอิศวร พระพรหม พระอินทร์ พระพิราบยักษ์ และคนธรรพ์ แม่บอกว่าเป็นครูบาอาจารย์นาฏศิลป์ ที่นักเรียนคณะศิลปกรรมทุกคนจะต้องเคารพและมีพิธีไหว้ครูปีละ 1 ครั้ง

พราหมณ์ผู้ทำพิธีคลานเข่าเข้าไปนั่งตรงพื้นที่ว่าง กลางพิธี วงดนตรีปี่พาทย์เริ่มบรรเลง

“พี่ฉัตรพร คนนั้นน่ะใครกันคะ” แก้วเก้าบุ้ยใบ้ไปทางชายชรานุ่งขาวห่มขาว

“ครูช่างจ้ะ พวกเราต้องเข้าไปกราบท่านด้วยเครื่องกำนลนี้ แต่ว่าต้องตามหลังคณะของท่านอธิการบดี เรารอดูจังหวะจากเจ้าองค์อินทร์แล้วค่อยเข้าไปนะ”

“ค่ะ แม่ของเก้าก็อยู่ข้าง ๆ ลุงกตด้วย” แก้วเก้าดีใจพยายามเอนตัวให้พ่อกับแม่เห็นตนเอง

“น้องเก้าคะ นั่งตัวตรง ๆ ค่ะ” พี่ฉัตรพรปราม

“เก้าแค่อยากให้พ่อกับแม่เห็น”

“ท่านไม่มองมาหรอกค่ะ ท่านต้องทำสมาธิ เป็นการแสดงความเคารพครูบาอาจารย์ น้องเก้าต้องทำอย่างคุณพ่อคุณแม่นะคะ”

“ค่ะ” แก้วเก้านั่งตัวตรงอีกครั้ง คราวนี้หลับตาด้วย คิดว่าเพลงบรรเลงนี้ช่างชวนง่วงเสียเหลือเกิน “ดีแล้ว เก้ายิ่งง่วง ๆ  อยู่ด้วย แอบหลับซะเลย”

ÿ

“น้องเก้าคะ” ฉัตรพรเรียกเร่งร้อน

“ก็เก้าง่วงนี่นา” จิตของเด็กสาวถูกปลุกขณะที่กายยังหลับอยู่

“น้องเก้าหลับมานานเกือบชั่วโมงแล้วนะคะ ตอนนี้ได้เวลาเข้าไปกราบครูแล้วค่ะ”

“หลับมาเกือบชั่วโมงแล้วเหรอ  ฮ้า!“ แก้วเก้าพยายามปรือตาขึ้น  เห็นสภาพตัวเอง เอนอิงพี่ฉัตรพรในท่าพนมมือ ขันบูชาครูและช่อดอกไม้ธูปเทียนตกบนพื้นพรม

“พี่ฉัตรพรคะ เก้าเพิ่งจะหลับเมื่อกี๊เอง”

แก้วเก้างัวเงียโต้ตอบกับพี่ฉัตรพร แล้วหนังตาก็ปิดลงอีกครั้ง

“เจ้าน้อย…”

เสียงทุ้ม ๆ หวานปนเศร้าของชายหนุ่ม ก้องหู

แก้วเก้ารู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่เสียงของเขาชัดแจ๋ว เหมือนพูดอยู่ข้าง ๆ หู

“คุณน้า คุณน้ามาหาเก้า”

“เจ้าน้อยอย่าหนีพี่ไป” เสียงเศร้า ๆ ยังเรียกหา

“ถ้าคุณน้าตั้งใจมาหาเก้า เก้าก็ไม่หนีไปไหน เก้าอยากคุยกับคุณน้าค่ะ”                                                     

ÿ

พี่ฉัตรพรเขย่าตัวแก้วเก้าแรงจนรู้สึกตื่นจากภวังค์    

“น้องเก้าเดินไปข้างหน้าค่ะ ตามพี่มา น้องเก้าเป็นคน สุดท้ายที่จะเข้าไปกราบครูนะคะ”

เด็กสาวต่อสู้กับอาการง่วงงุน และสลัดความมึนงงออกไป ปิดปากหาว เหลือบมองไปข้างล่าง เจ้าเทพนรินทร์กับเจ้าองค์อินทร์จ้องมองอยู่ แววตาทั้งคู่ดูกังวลห่วงใย

“เก้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย“ คิดในใจ พลางใช้หางตาตวัดมองเจ้าองค์อินทร์

“ขยับเข้ามาใกล้ ๆ“ ครูช่างสั่ง

แก้วเก้าหมอบคลานเข้าไปจนใบหน้าแทบจะเกยตักครู เขากดปลายนิ้วลงบนกึ่งกลางศีรษะของเธอ เจิมแป้งตรงหน้าผาก แล้วหยิบม้วนใบพลูขึ้นทัดหูข้างขวา ใบมะตูมทัดที่หูข้างซ้าย

“เอาล่ะไปได้”

ครูช่างหมุนตัว หันหน้าไปกราบพระพุทธรูป กราบพระสงฆ์แล้ว กราบหัวโขนครูบาอาจารย์บนโต๊ะหมู่บูชา พี่ฉัตรพรกวักมือเรียกทางด้านข้างเวที แก้วเก้าค่อย ๆ  คลานเข่าไปหาพี่ฉัตรพร  

“ไปเตรียมตัวข้างล่างเถอะจ้ะ ข้างบนนี้สำหรับคนที่รอเข้าฉากจ้ะ การแสดงจะเริ่มแล้วนะ ตื่นเต้นมั้ย มือไม้เย็นเฉียบเชียว”

“นิดหน่อยค่ะ ตอนที่เก้าหลับน่ะแหละค่ะ มีคุณน้าที่บ้านมาหาเก้าด้วย”

“อะไรนะคะ คุณน้าของน้องเก้า ใครล่ะ มีพี่อยู่ข้าง ๆ น้องเก้าคนเดียวเท่านั้น  เสียงพี่ปลุกน้องเก้าน่ะสิ แน่ะ! ญาติมาเป็นโขยงเลยจ้ะ”

เก้ามองตามพี่ฉัตรพร ตรงช่องทางเดิน พ่อ แม่ เจ้าองค์อินทร์และเจ้าเทพนรินทร์ เดินตาม ๆ กันเข้ามาอย่างเร่งร้อน

“พ่อ แม่ มีอะไรเหรอคะ” แก้วเก้าเดินย้อนกลับไปหา

“เก้าเป็นอะไรมากมั้ยลูก” พ่อถึงตัวแก้วเก้าก่อนคนอื่น ๆ และถามขึ้นก่อน

“เก้าแค่เผลอหลับ แบบ เอ้อ จริง ๆ แล้วเก้าก็ตั้งใจหลับน่ะค่ะพ่อ ขอโทษค่ะ”

“เก้า” พ่อดึงแขนลูกสาว เอาตัวเองบัง หลบสายตาเจ้าองค์อินทร์และเจ้าเทพนรินทร์  

“ลูกคุยกับใครที่ระเบียงบ้านของเรา ทำไมไม่เล่าให้พ่อกับแม่ฟัง”

“ลุงกตเล่าให้พ่อฟังแล้วเหรอคะ เขาอยู่ที่บ้านของเราค่ะ แต่เก้ากึ่งตื่นกึ่งฝันยังไงไม่รู้ค่ะพ่อ เก้าคุยกับเขา เมื่อกี๊เขาก็มาด้วย พ่อกับแม่ไม่เห็นเขาเหรอ”

“เขาเหมือนใครที่อยู่ในนี้หรือเปล่า” แม่ถาม พลางชี้ไปรอบ ๆ  แก้วเก้ามองหน้านักแสดงทุก ๆ คนแล้วตอบว่า “ไม่มีค่ะ”   

ÿ

“คุณอธิคมครับ” เจ้าองค์อินทร์ส่งเสียงเรียกเบา ๆ

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมผลีผลามจะมาดึงตัวน้องเก้ากลับล่ะครับ เราจำเป็นจริง ๆ  หานักแสดงอายุอานามเท่า ๆ กับเจ้านางน้อยในเวลาเร่งด่วนอย่างนี้ไม่ได้แล้ว ขอให้การแสดงจบก่อนได้มั้ยครับ”

“เอาล่ะ” พ่อยืดอก วางท่าไว้ตัว ซึ่งไม่ค่อยเห็นพ่อทำแบบนี้บ่อยนัก 

“ผมเห็นแก่เจ้าขวัญหล้า ทันทีที่ลูกสาวของผมลงจากเวทีเราจะกลับบ้าน ขอให้คุณทำความเข้าใจกับเจ้าขวัญหล้าด้วย”

“พี่คม ใจเย็น ๆ ค่ะ” แม่เข้ามาปลอบใจพ่อ “เก้าลูกแม่แสดงให้เต็มที่เลยนะลูก”

“เก้าไปก่อนนะคะ พ่อคะ อย่าลืมสัญญาของเรา”

แก้วเก้ายกนิ้วก้อย เกี่ยวร้อยเข้ากับนิ้วก้อยของพ่อ เขย่าไปมา พ่อยิ้มออกแล้ว  เธอหันหลังกลับ เดินไปหาพี่ฉัตรพร แต่ก็พอจะได้ยินเสียงสนทนาด้านหลัง จึงหยุดฟัง

เจ้าเทพนรินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ ละครเรื่องนี้ เจ้าพี่ทำให้มหาวิทยาลัยก็จริง แต่แมนรัตน์ของเราก็เป็นสปอนเซอร์ให้  จริง ๆ แล้วพวกเราไม่ตั้งใจจะรบกวนอาจารย์กับน้องเก้าเลย”

“ตัวแสดงบทนี้ มีปัญหากับเรามาตลอด ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน น้องเก้าครับ ยังแสดงไหวมั้ย”  เจ้าองค์อินทร์ถามเธอ พูดจานุ่มนวลขึ้น

แก้วเก้าพยักหน้า “ไหวค่ะ เก้าเป็นอะไรไม่รู้ค่ะ พอนั่งนิ่ง ๆ ก็ง่วงนอน ทุกคนไม่ต้องห่วงนะคะ”

“เมื่อคืนก็ไม่ได้อดนอนนี่น่ะ เอาล่ะลูกไปเถอะ พี่ ๆ นักแสดงรออยู่” อธิคมโบกมือไล่ลูกสาว

แก้วเก้าหันหลังกลับ เดินไปหากลุ่มคนบนเวทีอีกครั้ง บอกตัวเองว่า จะตั้งใจจะแสดงให้ดีที่สุด พวกผู้ใหญ่จะได้เลิกกังวลกับเธอเสียที

ÿ

ผู้ประกาศหนุ่มสาวคู่หนึ่งแต่งกายชุดพื้นเมืองชาวเหนือ กำลังกล่าวถึงเนื้อเรื่องย่อ ๆ ของละคร อย่างเดียวกับที่เจ้าองค์อินทร์ได้บอกเอาไว้ จากนั้นแนะนำผู้แสดงที่รับบทต่าง ๆ รวมทั้งแก้วเก้าด้วย

“ขอเชิญพบกับการแสดงบนละครเวทีเรื่อง “นางเชลย  ผู้ทรงศักดิ์”   ณ บัดนี้ค่ะ…!”

เมื่อผู้ประกาศกล่าวจบ เสียงปรบมือก็ดังไปทั่วทั้งห้องโถง แก้วเก้าลอบมองเฉียง  ๆ จากด้านข้างเวที พ่อและแม่นั่งอยู่ด้วยกัน เห็นพ่อมองเจ้าขวัญหล้าและครอบครัวเป็นระยะ ๆ สีหน้าไม่ค่อยมีความสุขนัก ขณะเดียวกัน เสียงซอสามสายบรรเลง สะกดคนในห้องโถงให้นิ่งงัน แก้วเก้าดูพี่ ๆ แสดงอย่างตั้งใจ 

ÿ

องก์ที่ 1 เจ้าวีรวงศ์ แห่งนครเชียงใหม่ออกว่าราชการ เหล่าทหาร ขุนนางเข้าเฝ้าและกราบทูลเหตุการณ์สู้รบด้านตะวันออกเฉียงเหนือของนครเชียงใหม่

“เจ้านพรัตน์ แห่งเวียงเชียงรุ้งบังอาจแข็งข้อกับเรา    แต่จะใช้กำลังหาญหักเอามา จะไม่ได้ใจผู้คน เราจักเอากำลังทหารเข้าล้อม ปิดทางต้นน้ำ น้ำกาหลงเหือดแห้ง ชีวิตผู้คนเดือดร้อน เจ้านพรัตน์จะยังแข็งเมืองอยู่ได้อีกนานเท่าใด”

“ข้าเจ้าคิดว่า การทำเช่นนั้นยังไม่อาจกำราบ เจ้านพรัตน์ได้อยู่มือ” เจ้าแสงจันทร์ พระญาติกราบทูล “ควรจักต้องยึดเอาพระธิดาสุดสวาทของเจ้านพรัตน์มากักขัง ณ เวียงไชยของเราสักช่วงเวลาหนึ่ง”

“ข้าได้ยินแต่ว่าเจ้านพรัตน์มีบุตรอยู่ห้าองค์ ไม่เคยได้ยินว่ามีธิดา” เจ้าวีรวงศ์ลุกขึ้นประทับยืน หันหน้าออกไปทางผู้ชม

“ทรงมีพระสนม ชื่อ เจ้านางรัศมีจันทร์ เป็นพระธิดาองค์ที่ห้าของเจ้าเวียงกุมกามเจ้าข้า ธิดาอันเกิดแต่พระสนมมีนามว่า เจ้านางน้อยแก้วเก้าเนาวรัตน์ ขณะนี้พระชนม์ได้ 16 พรรษา ร่ำลือกันว่าสวยงามยิ่งนัก เจ้าข้า”

“เช่นนั้นให้หาทางบีบคั้นและยื่นข้อเสนอนี้ หากเวียงเชียงรุ้งยินยอมส่งธิดามาให้เรา เราก็จักยินยอมให้เจ้านพรัตน์ทรงปกครองต่อไป แต่จะต้องทรงเครื่องบรรณาการมาให้เราเป็นทองคำสิบหาบและช้างเผือก 9 เชือกทุกปีในวันสมโภชเวียงไชย”

“เจ้าข้า”

ฉากผ้าสีแดงเลื่อนปิด ตัวละครทยอยวิ่งลงจากเวที นักแสดงชุดใหม่เข้าไป เปลี่ยนฉากเป็นในวังของเจ้านพรัตน์แห่งเวียงเชียงรุ้ง

ÿ

“พอเปลี่ยนจากฉากนี้ ก็เป็นฉากเจ้านางน้อยเสด็จนิราศเวียงเชียงรุ้ง” ฉัตรพรซึ่งแสดงเป็นเจ้านางรัศมีจันทร์ กล่าวก่อนจะออกไปแสดง

แก้วเก้าผงกศีรษะมีอาการตัวสั่นเทิ้ม และหัวใจเต้นแรง ยิ่งดูภาพการแสดงบนเวที ก็ยิ่งรู้สึกว่า ตนเองอยู่ในเหตุการณ์จริง  

เด็กสาวรู้สึกเคลิบเคลิ้มตกอยู่ในภวังค์ครึ่งหลับครึ่งตื่นอีกครั้ง ก็รู้สึกว่ามีมือใครสักคนแตะอยู่ที่หัวไหล่ข้างหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ นอกจากผู้ช่วยของเจ้าองค์อินทร์ แต่เขาก็ยืนอยู่ห่างเกินกว่าจะเอื้อมมือมาแตะต้องตัวของแก้วเก้า

“คุณน้าอ๊อดสะกิดเก้าเหรอเปล่าคะ”

“เปล่านี่ครับ” อ๊อดตอบ “น้องเก้าตื่นเต้นเหรอครับ ทำใจดี ๆ  น้าอ๊อดเอาใจช่วยนะ รู้มั้ยไม่เคยมีนักแสดงคนไหนที่จะเล่นได้ดี โดยไม่ผ่านการซ้อมและฝึกฝนอย่างหนัก ดังนั้น น้องเก้าต้องมั่นใจและตั้งใจแสดงให้มีสมาธินะครับ”  อ๊อดเอื้อมมือมาปัดไรผมบนหน้าของแก้วเก้า “ขึ้นองก์ที่ 6 ได้เวลาขึ้นเวทีแล้ว ไปครับ”

แก้วเก้าสูดลมหายใจยาว เป่าปากระบายความตื่นเต้น ก้าวเท้าขึ้นไปบนเวที ฉากด้านหลังเปลี่ยน นักแสดงแบกหามคานเสลี่ยงรออยู่ที่มุมเวทีด้านตรงข้าม ยืนรอให้ผ้าม่านเลื่อนแหวกออก มือของใครคนหนึ่งผลักเบา ๆ ส่งสัญญาณให้เดิน      เพลงบรรเลงจากเครื่องสาย เรียกอารมณ์เศร้าลึก ๆ ออกจากใจ

ÿ

“แก้วเก้าเนาวรัตน์…” น้ำเสียงทุ้ม นุ่มหู กังวานสะท้อนสะท้าน ดังขึ้นอีกครั้ง

“คุณน้า เล่นละครกับเก้าด้วยเหรอคะ เก้าไม่ยักรู้” แก้วเก้าไม่เห็นใครนอกจากเขา

เขาส่ายหน้า ใบหน้าที่เคยเห็นหม่นหมอง มีรอยยิ้มบาง ๆ “เจ้ายังสวยเสมอนะเจ้าน้อย”

เจ้าน้อย… ชื่อนั้นก้องซ้ำ ๆ อยู่ในโสตของเด็กสาว              

“ลูกแม่”

ฉัตรพรออกมายืนด้านหลัง สะบัดข้อมือขวาและซ้ายวางนิ้วกรีด ประกอบท่าทางร่ายรำ น้ำเสียงโศกเศร้าอาดูร เธอลากข้อมือแก้วเก้าออกไปยืนกลางเวที ออกแรงผลักเข้ากลางหลัง ทำเอาซวนเซไปด้านหน้า  แก้วเก้าสะดุดชายผ้านุ่งที่กรอมเท้าอยู่ล้มลงกับพื้นดังตึง! 

เด็กสาวรู้สึกกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง   ผู้ชมส่งเสียงอื้ออึง พี่ฉัตรพร ถลาลงมานั่งกับพื้นประคองร่างของแก้วเก้า พลางกระซิบเบา ๆ

“เข้าบทของน้องเก้าสิคะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่แสดง”

แก้วเก้างง  “อ้า...ค่ะ”

นึกถึงเจ้าองค์อินทร์ขึ้นมาแวบหนึ่ง   แล้วต่อบทที่พี่ฉัตรพรส่งมาให้ ทั้ง ๆ ที่ตอนซ้อมไม่ใช่แบบนี้

ฉัตรพรที่แสดงเป็น เจ้านางรัศมีจันทร์ เชยดวงหน้าเจ้านางน้อย แล้วประคองไหล่ ดึงขึ้นยืนเป็นสง่า กลางเวที ทีมนักแสดงชุดไพร่พลทหารแบกเสลี่ยงคานหามมารับแล้ว แก้วเก้าเดินไปข้างหน้า ไอระเหยของน้ำแข็งแห้ง แผ่คลุมไปทั่ว แสงไฟสลัว เนื้อตัวเด็กสาวสั่นเทิ้ม แล้วนิ่งสงบ ท่วงท่าสง่างาม เด็ดเดี่ยว เปล่งเสียงใส กังวานก้อง

“เชียงรุ้ง ดินเกิดแห่งข้า... ปรารถนาสุดท้ายของชีวิต คือ กลับมาตายที่นี่ น้ำแม่กาหลงโปรดเป็นพยานในวาจาสัตย์แห่งข้า”  

 ร่างสูงสง่า ในชุดผู้สูงศักดิ์  คล้ายกับชุดผู้แสดงเป็นเจ้าฝ่ายชาย ปรากฏเบื้องหน้า 

"เจ้านางน้อย…” เสียงนั้นช่างคุ้นเคย   แสงสว่างวูบพุ่งตรงขึ้นเหนือหัวคิ้วของแก้วเก้า

ร่างสวยโผเข้าหา ผวากอดชายหนุ่มในชุดเจ้าชายล้านนา นัยน์ตาชอกช้ำ แสนรันทด

“พี่สัญญาจะนำเจ้ากลับคืน พร้อมเอกราชเหนือเวียงไชยให้ได้”  

“น้องไม่อยากไป” น้ำเสียงของแก้วเก้าสั่นเครือ

“น้ำแม่กาหลงจักเป็นพยานแห่งรักเรา เจ้านางน้อย...   พี่ให้สัญญา”

ร่างสวยผละออกจากอกชายผู้เป็นที่รัก ท่วงท่าย่างเดินระเหิดระหง ขึ้นสู่เสลี่ยงคานหาม ดวงหน้าโศกสลด

เสียงปรบมือกึกก้อง เมื่อฉากหลังเลื่อนปิด

ÿ

แก้วเก้า วิริยนันท์ ถูกพากลับไปที่ห้องแต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าและถอดเครื่องประดับออก  ภาณินีคืนของมีค่าให้แก่เจ้าองค์อินทร์  เจ้าองค์อินทร์หยิบสร้อยใส่กล่องเหล็กสีดำเข้ารหัสแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าในอกเสื้อสูทของเขา   

“เก้า เก้า ลูกแม่” ภาณินีปลุกลูกสาว เมื่อรถจอดสนิทที่หน้าบ้าน เขย่าตัวลูกสาวแรงขึ้นเรื่อย ๆ “รู้สึกตัวเสียทีสิลูกเอายังไงดีคะ พี่คม ลูกหลับไม่รู้เรื่องเลย”

“เดี๋ยวพี่ประคองลูกเข้าบ้านไปเอง อุ้มช่วยจัดที่นอนให้ลูกหน่อย ลูกขอนอนกับเรา ย่านวลช่วยแตะประคองศีรษะหลานสาว

“โถ...หลานย่า หลังขดหลังแข็งกับชุดละเม็ง ละครอยู่ ทั้งวัน เสร็จงานก็ล้มเลย พรุ่งนี้ย่าจะทำน้ำซุปให้ทาน ร่างกายจะได้ฟื้นเร็วขึ้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับแม่ ผมรู้สึกว่าเก้ามีอาการแปลก เหมือนถูกผีอำ”

“ผีอำ!” ย่านวลตกใจ “เล่าให้แม่ฟังที”

“แกพูดกับคนแปลกหน้า ที่พวกเรามองไม่เห็นตัวครับ แล้วเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา”

ภาณินีจัดที่นอนรอ อธิคมประคองร่างแก้วเก้าวางลง  ย่านวลนั่งลงข้าง ๆ หลานสาว มือลูบศีรษะไปด้วย “หลานย่าคงจะต้องมนต์ธรณีสารเข้าแล้ว”

“ต้องมนต์ธรณีสาร!” อธิคมและภาณินีพูดพร้อมกัน

“อืม...แม่แก้ให้ไม่ได้ ต้องไปหาหลวงพี่ปลด ที่วัดนางใน”

"เมื่อก่อนพ่อเคยทำน้ำมนต์ธรณีสารให้อาบ เวลาดวงชะตาตกหรือมีเคราะห์” อธิคมพอจะจำได้

“เก้าน่ะเหรอคะ จะมีเคราะห์ ดวงตก” ภาณินีถาม

“ใช่แล้วลูก มันไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะ แม่อุ้ม หลานอาจจะกำลังถูกเสนียดจัญไรเข้าตัว อย่าทำเป็นเล่นไป”

ภาณินีก้มมองดูใบหน้าลูกสาว แก้วเก้ายังหลับนิ่งไม่ไหวติง ตอนแสดงละคร แก้วเก้ากลายเป็นเจ้านางน้อยแห่งเวียงเชียงรุ้งไปจริง ๆ ทั้งน้ำเสียงและการแสดง ผู้ชมที่ไม่ทราบเบื้องหลัง ต่างก็ชื่นชมเด็กสาว และยินดีกับเธอในฐานะมารดาของนักแสดง

“อุ้มไม่ได้ว่าอะไรคุณแม่สักหน่อยค่ะ อุ้มเข้าใจ แต่มันเป็นไสยศาสตร์ไปหน่อยเท่านั้นเอง ทางที่ดีพรุ่งนี้ พายายเก้าไปทำบุญกับหลวงพ่ออุดมก็แล้วกันนะคะ ใกล้บ้านหน่อย”

“จะเอาอย่างนั้นก็ได้” ย่านวลเออออ อย่างไม่ค่อยยินดีนัก “หลวงพ่ออุดมท่านสอนวิปัสสนาอย่างเดียว ไม่เอาเรื่องพิธีกรรมท่านไม่ตามใจชาวบ้านนี่ลูก”

“คุณแม่คะ  ถ้าขอท่าน ท่านก็ทำให้นะคะ ไม่ขัดใจชาวบ้านหรอก”

“เอาเถอะแม่อุ้ม ก็ยังดีที่เชื่อคนโบร่ำโบราณบ้าง”

อธิคมกลัวแม่จะงอนหนักขึ้น “ได้ครับคุณแม่ พรุ่งนี้จะพาลูกไปวัดแต่เช้า คุณแม่ไปด้วยกันนะครับ”

“แม่ไม่ไปหรอก จุ๊บแจงจะมารับกลับวิเศษไชยชาญ    แม่จะอยู่รอหลานมารับ”

“อ้าว  แล้วจุ๊บแจงจะมาถูกเหรอคะ” ภาณินีนึกภาพ    ลูกสาวของอธิกรณ์เดินทางมาจากอำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง เข้ากรุงมาคนเดียว  “อุ้มเป็นห่วงหลานจุ๊บแจงนะคะ เกิดหลงทางไปจะทำยังไง”

“ฮู้ย ไม่หลงหรอก คราวที่แล้ว มันก็ติดรถพ่อกตมากับแม่ รู้ทางดี ไม่ต้องห่วง”  

“ถ้าหลงทางยังไงก็ให้โทรมาหาลุงแล้วกัน” อธิคมพูดให้ทุกคนสบายใจ 

ÿ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สายน้ำในความทรงจำ   59. สายน้ำกับความรัก

    เจ้าขวัญสรวง ดอกเตอร์อลงกต หมอเนตรดาว ภาณินี อธิคม เจ้าเทพนรินทร์และท้าวศรีโสภางค์ มาแสดงความยินดีกับเธอ เพื่อนทั้งชายและหญิงห้อมล้อมของถ่ายรูป สลับสับเปลี่ยนกันไปมาแก้วเก้าส่งปริญญาบัตรให้อธิคมและภาณินีชื่นชม ทั้งคู่เปิดออกอ่าน แล้วส่งต่อให้เจ้าองค์อินทร์ เขารับมาถือไว้กับตัว ภาณินีหรี่ตามองว่าที่ลูกเขย“เห็นมั้ยว่าพี่ส่งอะไรให้เจ้า”“ครับ” เจ้าองค์อินทร์ ถูกลูกศิษย์ภาคการละครดึงตัวไปถ่ายรูป พร้อม ๆ กับแก้วเก้า “อะไรนะครับอาจารย์”“หืม... จนป่านนี้ยังเรียกว่าพี่กับอาจารย์กันอยู่อีก” หมอเนตรดาวหัวเราะ ชวนทุกคนเข้าไปที่ห้องทำงานของอลงกตบนอาคารคณะศิลปกรรมอลงกตก็ถูกเชิญถ่ายรูปกับนิสิตเหมือนกัน จนทุกคนพอใจแล้ว อลงกตจับมือหลานสาวกลับมาที่ห้องทำงานของเขา เจ้าองค์อินทร์เดินตามมาด้วยกันเจ้าขวัญสรวงชราลงไปมาก แต่ก็คงความสดใส และมีความสุข เธอลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นหลานชายเดินเข้ามา เจ้าองค์อินทร์กับแก้วเก้าต่างโผเข้าไปประคองและกอดด้วยความรักและคิดถึง&ldqu

  • สายน้ำในความทรงจำ   58. คู่หมั้นหายไป

    “นายปริญญายังมีไพ่ใบสุดท้ายอยู่กับตัวคือคุณวิชุดา หลวงพ่อยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี”“คุณวิชุดาเป็นแม่ของพระองค์อินทร์ จะว่าไปเราก็เกี่ยวดองกับเธออยู่นะ”ภาณินีค้อนสามี“อุ้มกลัวผู้หญิงคนนี้นะคะ พูดถึงเรื่องหมั้นของลูกกับเจ้าองค์อินทร์ ของหมั้นไปอยู่กับหลวงพ่อเสียแล้ว หลวงพ่อบอกพี่คมหรือเปล่าว่าท่านเอาสร้อยไปทำไมคะ”“อืม ไม่ได้บอกอะไรเลย” อธิคมพับหนังสือพิมพ์สอดเก็บเข้าซอง“ท่านต้องมีเหตุผล แต่บอกเราไม่ได้”แก้วเก้าเลื่อนศีรษะที่หนุนหัวไหล่มารดาอยู่ เอาปากเข้าไปใกล้ ๆ กระซิบข้างหูของมารดาเบา ๆภาณินีพูดพึมพำตามที่ได้ยิน แก้วเก้ายกมือปิดปากมารดา เกรงว่ามารดาจะหลุดปากพูดให้ใครได้ยิน อธิคมเห็นภรรยาเบิกตาโพลง“เก้าบอกอะไรแม่ เก้ารู้ใช่มั้ยลูก..!”แก้วเก้าผงกศีรษะสองที แล้วหลับตาลงไปด้วยความอ่อนเพลีย ภาณินีกระซิบบอกต่อสามี“มณีแก้วเก้า คือ แก้วจุฬามณีบนพระนลาฎพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงรุ้งค่ะ”&ld

  • สายน้ำในความทรงจำ   57. สิ้นเจ้าแมนสรวง

    ปัง ! ปัง! ปัง!“ทางนั้น... เสียงมาจากทางนั้น…!” พระเทพนรินทร์ชี้มือไปข้างหน้า“ฟังดูดี ๆ เสียงปืนดังมาจากปืนคนละกระบอก แล้วก็เหมือนยิงขึ้นฟ้า มันลงมือขุดกันไปแล้วละมัง”เจ้าแมนสรวงผงกศีรษะ เขามองพระหนุ่มทั้ง 3 รูป“พวกเราไม่มีอาวุธเลย แล้วจะต่อสู้อย่างไร”“โยมน้า ไม่เคยได้ยินคำว่า ธรรมะชนะอธรรมเหรอครับ” พระเลอสรวงกล่าว ริมฝีปากเหยียดยิ้ม“น้าเคยได้ยิน เดินตามรอยเท้านั่นไป มันแบกลากอะไรเดินไปด้วย ดูสิ รอบ ๆ รถของมัน รอยเท้าของคนไม่เกิน 10 คนได้”“9 คนครับ หายไปคนหนึ่ง เพราะถูกตำรวจจับเมื่อเช้า” คำปันเดินตามมาส่ง จนพ้นแนวต้นไม้ หนา ๆ เห็นทางไปพระธาตุหลวงเวียงไชย “ตำรวจยึดปืนมันได้ มันยิงหลวงพ่ออุดมแล้ว แต่ปืนไม่ลั่น ผมคิดว่า พวกท่านก็ต้องปลอดภัยเหมือนกัน เพราะท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออุดม”“ไม่หรอกนะ คำปัน แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของ ๆ ตน เอาล่ะ ส่งแค่นี้ โยมเข้าไปรออยู่ในรถ เราจะเข

  • สายน้ำในความทรงจำ   56. แก้วจุฬามณี

    บานประตูห้องด้านขวา ขยับเปิดออก พระองค์อินทร์ยกขาก้าวให้พ้นขอบประตูซึ่งยกขึ้นมาสูงระดับครึ่งหน้าแข้งของเขา แก้วเก้าเห็นเป็นพระองค์อินทร์ก็ก้มหน้าลงมองพื้นกระดาน“โยม... นี่ กุญแจห้องนั้น” “คะ” แก้วเก้ารู้สึกกลัวขึ้นมา “ทำไมเก้าต้องไปอยู่ที่นั่นคนเดียวด้วย”พระองค์อินทร์ยิ้มปลอบใจ“หลวงพี่ล่ะคะ หลวงพี่อยู่ที่ไหน”“อาตมาอยู่ที่นี่”“ห้ามสีกาเข้ามาข้างใน แล้วทำไมเก้าเข้ามาได้ล่ะคะ”“ห้องนี้ต่างหากที่โยมเข้ามาไม่ได้” หลวงปู่สิงห์ เจ้าอาวาสยืนประสานมือไขว้ สำรวมกายอยู่ด้านหลังของแก้วเก้า“ส่วนห้องนั้น เป็นที่ประทับของเจ้านางในคุ้มหลวง ยามที่ท่านมาปฏิบัติธรรม เป็นสมบัติตกทอดของเชียงรุ้ง อาตมาให้ยกมาจากห้องใต้ดิน ใต้ฐานองค์พระธาตุหลวงเวียงไชย”หลวงปู่สิงห์เดินไปเปิดห้องด้านซ้ายเอง ท่านมองแก้วเก้า แล้วเรียกให้เธอเข้าไปแก้วเก้าลุกขึ้น หลวงปู่สิงห์ถอยห

  • สายน้ำในความทรงจำ   55. นักล่าสมบัติ

    “ค่ะ” หมอเนตรดาว ฉวยกระเป๋าถือ พยักหน้าเรียกภาณินีให้ไปด้วยกันอธิคมยิ้มให้กำลังใจภรรยา “ไปก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวพี่ตามไป ตอนเช้าจะได้พบลูกแล้วนะ”ภาณินียกมือโบกลา แล้วเดินตามพี่สะใภ้ไปขึ้นรถตู้อลงกต อธิคม และชัยยศ นั่งคุยกันต่อ พวกเขาชวนกันไป สำรวจตลาดบ้านแม่ปิน ใกล้ ๆ โมเต็ลที่คนพวกนั้นพักÿชายหนุ่มทั้ง 3 คน ออกไปเดินคุยกันข้างนอกบริเวณที่พัก “ผมกับภรรยาเคยมาทำงานวิจัยที่นี่เมื่อหลายสิบปีก่อน งานวิจัยของเรา อาจชักนำให้คนพวกนี้อยากมาขุดหาของโบราณของเก่า”อธิคมเริ่มเล่าเรื่องหลวงพ่ออุดม เถ้าแก่ซ้ง แซ่สุน อดีตเจ้าของโรงสี ปากน้ำโพธิ์ ให้ชัยยศฟังคร่าว ๆ เป็นข้อมูลว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปและอาจเกี่ยวข้องกับคน 10 คนนั้น“พี่กต คุณชัยยศครับ เราต้องเข้าไปที่นั่นก่อนพวกมัน ถ้าไปทีหลัง อาจเตือนชาวบ้านไม่ทัน” อธิคมแสดงอาการวิตกกังวลมากขึ้น“ค่ำแล้ว ไปไม่ได้หรอก นอกจากจะไปเช้า แต่ถ้าเราเข้าไปข้างใน ก็จะไม่ได้เจอกับหลานตอนเช้า นอกจากแบ่งกัน แล้วใครจะอย

  • สายน้ำในความทรงจำ   54. เพื่อนเก่าปมแค้น

    “ฟังปะป๊านะ ปูเป้ ตั้งสติให้ดี ๆ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรกกับครอบครัวของเรา อากงก็เคยถูกตำรวจจับตัวออกจากบ้าน ทิ้งกิจการทั้งหมดอาม่าเป็นคนดูแลจนตกทอดมาอถึงปะป๊า คราวนี้ก็เหมือนกันถึงปะป๊าจะไม่อยู่ ปูเป้ต้องดูแลกิจการต่อไปและต้องเป็นผู้ใหญ่นะ ไม่งั้นจะบริหารกิจการและสั่งใช้คนในบ้านไม่ได้”“แล้วปะป๊าทำผิดจริง ๆ หรือเปล่า บอกหนูมาตรง ๆ สิคะ”“ป๊า เฮ้ย! อย่ารู้เลย”ปรินดาคิดหาทางช่วยเหลือบิดา “นรินทร์กับคุณป้าวิชุดาต้องช่วยปะป๊าได้ ”“ไม่ได้นะ” เสียงตวาด ทำเอาปรินดาตกใจ“ทำไมปะป๊าต้องทำเสียงดังอย่างนั้นด้วย ปูเป้เป็นห่วงปะป๊านะ” ปรินดาหน้าแดง รู้สึกโกรธและงอนบิดาระคนกัน “ลุงสมิธ เป็นลุงของนรินทร์กับอินดี้ แล้วปะป๊าไปเกี่ยวข้องกับเขายังไง ถึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าเขาล่ะคะ”“มันเข้าใจผิดกันไปเอง” ปริญญาควักบุหรี่มาจุดแล้วสูบอัดควันเข้าปอดแรง ๆ แต่ลูกสาวปรี่เข้ามาคว้าแล้วขว้างทิ้ง “หมอสั่งห้ามแล้ว ปะป๊าย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status