LOGINหลังจากที่ลลัลนากลับมาถึงคอนโด เธอวางกระเป๋าที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา ก้าวขายาวๆไปเปิดประตูห้องนอน เดินตรงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำให้คลายความเหนื่อยล้า ก่อนจะออกมานั่งพักผ่อนที่โซฟาสักพัก แล้วหยิบคอมพิวเตอร์ขนาดพกพามาเปิดเพื่อทำวิทยานิพนธ์ต่อ
วันนี้หญิงสาวตั้งใจว่าจะไม่ออกไปไหน เธอจะต้องร่างวิทยานิพนธ์ให้ได้เค้าโครงบ้างแล้ว เพราะที่ผ่านมาแทบจะไม่มีเวลาทำเลย
ครืด ครืด
“ค่ะ พี่นัท” ลลัลนาดูหน้าจอโทรศัทพ์ก่อนจะกดรับสายเสียงหวาน
“วันนี้พี่กลับดึกนะ ลัลทานข้าวได้เลย ไม่ต้องรอ ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อย”
“โอเคค่ะ พี่นัทก็ทานข้าวด้วยนะคะ” หญิงสาวเข้าใจ เธอตอบรับพร้อมกับบอกกล่าวเขาเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะวางสายไป
ในวันที่ลลัลนาต้องอยู่คนเดียวในรอบหลายวัน หญิงสาวได้มีเวลาคิดทบทวนอะไรหลายๆอย่าง ดวงตากลมโตเหม่อลอย สีหน้าครุ่นคิด ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอ
เหมือนทุกอย่างมันเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว 2 อาทิตย์ที่แล้ว เธอยังเป็นนักศึกษาเตรียมจบธรรมดาอยู่เลย ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่แต่งงานแล้ว แถมยังเป็นกับรักแรกของเธอ ที่ทั้งเขาและเธอ ก็เพิ่งได้คุยกันไม่นานนี้เองด้วย หวังว่าชีวิตของเธอ คงจะราบเรียบแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องวุ่นวายหรือมีปัญหาอะไรนะ
หลังจากนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ครู่ใหญ่ เธอจึงลงมือทำงานตามที่ตั้งใจไว้ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง มือบางถึงได้กดปิดโน๊ตบุ๊ค บิดกายไปมาขับไล่ความเมื่อยขบ จากการนั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลา ก่อนจะลุกเดินเข้าครัวไปหาอะไรทานและเข้าห้องนอนไป
“แก วันนี้ฉันไปนอนกับแกนะ”
“เอาสิ เบื่อๆอยู่พอดี ทำชาบูกินกัน”
“โอเค”
“กินชาบูกันเหรอ ไปด้วยสิ”
ระหว่างที่สองสาวกำลังนัดแนะกันอยู่ ณดลได้เข้ามาได้ยินพอดี ตอนแรกชายหนุ่มตั้งใจจะเข้ามาทักทายตามปกติ แต่มาได้ยินว่าทั้งคู่กำลังนัดกันอยู่ จึงเอ่ยปากขอไปกับหญิงสาวทั้ง 2 คนด้วย
“ได้สิ หลายๆคน สนุกดี” ลลัลนาไม่ได้คิดอะไรมาก แต่กลับกัน ฟางข้าวหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับให้เป็นปกติโดยที่ลลัลนาไม่ทันได้สังเกต
หลังเลิกเรียน ทั้ง 3 คนพากันแวะไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เพื่อไปซื้อของมาทำชาบูกินกันที่คอนโดของลลัลนา หลังจากซื้อของเสร็จก็มาที่ห้องของลลัลนา ระหว่างที่ช่วยกันจัดเตรียมของ นัทธีก็มาพอดี
“ทำอะไรกันอยู่” ชายหนุ่มตรงมาหาลลัลนา หอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปากถาม
“ทำชาบูทานกันค่ะ พี่นัททานด้วยมั้ยคะ”
“หืม ปาร์ตี้หรอ ทานกันไปเถอะ งั้นวันนี้พี่นอนห้องฝั่งนู้นนะ”
“ค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มขอบคุณให้เขา ฝ่ามือหนาลูบศีรษะทุยเบาๆก่อนจะออกจากห้องของเธอไป
“ดีจัง อาจารย์ตามใจแกน่าดู” ฟางข้าวพูดขึ้นหลังจากนัทธีออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้ว
“ก็ไม่เชิงนะ เขาก็เอาแต่ใจตัวเองนิดๆเหมือนกัน แต่เขาแค่ไม่พูดน่ะ”
เมื่อเตรียมของเสร็จ สองสาวช่วยกันจัดโต๊ะส่วนณดลเตรียมเครื่องดื่ม วันนี้มีปาร์ตี้เลยมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นิดหน่อยได้พอหอมปากหอมคอ
“แก ฉันยืมเสื้อเปลี่ยนหน่อยนะ” ฟางข้าวชี้เสื้อนักศึกษาของตัวเองแล้วเดินเข้าห้องนอนลลัลนาไป
“ดล เราถามอะไรหน่อยสิ” ลลัลนาเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากที่ฟางข้าวเดินเข้าห้องเธอไปแล้วณดลมองตาม
“อะไรเหรอ”
“ดลชอบข้าวเหรอ” ณดลชะงัก นิ่งไปสักพัก
“เราก็ยังไม่แน่ใจ ว่าแค่ชอบ หรือมากกว่านั้น”
“แล้วข้าวรู้ไหม”
“ไม่รู้สิ เราดูไม่ออก”
“แล้วเคยบอกข้าวไหม” เพียงคำถามเดียวที่ลลัลนาถาม ณดลถึงกับนิ่งอึ้งไป พอดีกับที่ฟางข้าวเปิดประตูออกมา
“มีอะไรกันเหรอ ทำไมหน้าเครียดจัง”
“ไม่มีอะไร ลงมือกันเถอะ หิวละ” ลลัลนาตัดบทและเดินไปนั่งประจำที่
ระหว่างที่ลงมือทานกัน ทั้ง 3 คนทานกันไปคุยกันไปจนดึก ฟางข้าวเริ่มมึนๆเลยจะขอตัวไปนอน พอดีกับที่นัทธีเข้ามาในห้อง ณดลเลยอาสาไปส่งฟางข้าวกลับบ้าน เพราะไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของนัทธีกับลลัลนา
หลังจากที่ณดลกับฟางข้าวกลับออกไป นัทธีก็มาช่วยลลัลนาเก็บของ ก่อนจะพากันไปนั่งเล่นดูทีวี
“ณดลชอบฟางข้าวเหรอ” นัทธีเอ่ยถามลลัลนาขึ้น เขาเองก็พอมองออก
“ใช่ค่ะ แต่ตัวดลเองก็ยังไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ ยัยข้าวเองก็ยังไม่รู้ ดลไม่ยอมบอก” ลลัลนาตอบพลางถอนหายใจ
“แต่ลัลดูแล้วยัยข้าวน่าจะชอบดลนะคะ เพียงแต่ยัยข้าวเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา”
“พี่ว่าอย่าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาเลย เดี๋ยวเขาก็จัดการความรู้สึกกันเองแหละ” นัทธีเตือนหญิงสาว เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะใช้เวลาที่เหลือของวันในการพักผ่อนร่วมกัน
“คุยอะไรกันอยู่ สาวๆ” นัทธีกับณดลเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ พอดีกับที่ลลัลนากับฟางข้าวเงียบเสียงลงพอดี“คุยกันตามประสาสาวๆ ค่ะ” ลลัลนายิ้มบางๆตอบนัทธีณดลเดินมานั่งลงข้างฟางข้าว จับมือเธอบีบเบาๆ“มีอะไรเหรอ” ฟางข้าวถามสามีงงๆ“เปล่า ไม่มีอะไร”“ไปดูเด็กๆกันเถอะ ป่านนี้น่าจะเลอะเทอะหมดแล้วล่ะ” ลลัลนาเอ่ยปากชวนทุกคน ก่อนจะพากันลุกเดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน“คุณแม่” กันชนกเห็นมารดาเดินมา ก็ชูกระถางต้นไม้ใบเล็กในมือให้ดูสีหน้าภูมิใจฟ้าครามเองก็เช่นกัน แต่เด็กน้อยทำเพียงหันไปพยักหน้าให้มารดา ก่อนจะส่งสายตาไปที่กระถางต้นไม้ที่เขาปลูก ฟางข้าวแทบจะกุมศีรษะกับความพูดน้อย เงียบขรึมของบุตรชายลลัลนาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของฟางข้าว ก็ฟ้าครามถอดบุคลิกของเธอมาเกือบหมด ในขณะที่กันชนก ร่าเริงสดใสเหมือนฟางข้าวไม่มีผิด“เอาล่ะๆ เล่นเสร็จอย่าลืมล้างมือกันด้วยนะเด็กๆ” นัทธีบอก สายตากวาดมองทุกคน ก่อนจะโอบเอวลลัลนาเดินตรงไปยังศาลาริมสระ ณดลจูงมือฟางข้าวเดินตามไป“ฉันว่านะ ฟ้าเหมือนแกเป๊ะเลยนะลัล” ฟางข้าวพูด เธอคงต้องทำใจกับนิสัยและบุคลิกของบุตรชายให้ได้สินะ“เอาน่า เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงร่
“อ้าว มากันแล้วเหรอ” ร่างบางย่อตัวรับกอดที่คนตัวเล็กวิ่งตรงเข้ามากอดเธอ ก่อนจะหอมแก้มยุ้ยๆ ทั้งสองข้าง แล้วปล่อยร่างเล็กให้วิ่งกลับไปหามารดาฟางข้าวกับณดลเดินตามบุตรชายเข้ามาในบ้านของลลัลนา หลังจากที่ฟ้าครามลงจากรถ ก็วิ่งตรงเข้ามาในบ้าน ตรงเข้าไปกอดลลัลนา“พี่นัทกับน้องกันล่ะ” ฟางข้าวถามเพื่อนรัก เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เจอสามีกับบุตรชายของเพื่อนรัก“ขึ้นไปอาบน้ำน่ะ เมื่อกี๊เพิ่งปลูกต้นไม้กัน”“ฟ้าอยากปลูกต้นไม้ครับ” ฟ้าคราม บุตรชายของฟางข้าว ที่เกิดก่อนกันชนกไม่กี่เดือน เอ่ยบอกมารดา เมื่อได้ฟังการสนทนาเมื่อสักครู่“เดี๋ยวรอลุงนัทกับน้องกันลงมาก่อนนะครับ” ลลัลนาบอกฟ้าครามน้ำเสียงใจดี“ได้ครับ” เด็กน้อยรับคำก่อนจะเดินไปนั่งรอบนโซฟาเงียบๆ“สงสัยฟ้ากับกันน่าจะโดนสลับตัวกันนะ ฟ้านิสัยเหมือนแกเลย นิสัยนิ่งๆ ส่วนกันจะออกสดใสร่าเริงเหมือนฉัน” ฟางข้าวพูดสีหน้าครุ่นคิด ก้าวเท้ายาวๆตามบุตรชายเข้าไปในห้องนั่นเล่นลลัลนาหัวเราะชอบใจ พยักหน้าทักทายณดล ก่อนจะเดินตามฟางข้าวไปหลังจากเข้าไปในห้องนั่นเล่นกันไม่กี่นาที นัทธีก็อุ้มกันชนกตามเข้ามาในห้องนั่งเล่น วางร่างเล็กของกันชนกลง เดินไปหย่อนตัวนั่งลงเคีย
ร่างบางถูกวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ ลัลหมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีนัทธีก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางสวรรค์ ล้วงเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างใน ไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะ” มือหนาปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้น พิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ลลัลนาหวีดเสียงดัง แขนคล้องคอหนาพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจูบเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆลลัลนาหวีดครางในลำคอ ท่านี้แก่นกายของเขาเข้าไปลึก มันทั้งเสียวทั้งจุกในเวลาเดียวกันปากหยักถอนริมฝีปากออก ไล่ลงมาตามลำคอขาว ดูดผิวเนื้
“ลัลยังไม่อิ่มเลยค่ะ”นัทธีนั่งลงเหยียดขาออกอย่างรวดเร็ว ร่างบางขยับคร่อมท่อนกายลำใหญ่ที่กำลังตั้งโด่ กดสะโพกลงทีเดียวจนมิดโคน มือบางบดคลึงติ่งเกสรตัวเองเบาๆ เรียกเสียงคำรามจากคนใต้ร่างรุนแรง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า“ซี้ดดดด มีเมียร่านแบบนี้ชอบไหมคะ” ปากบางร้องซี้ดซ้าด ถามยั่วสามี“โอ้ววว ยิ่งกว่าชอบอีกครับคุณเมีย กระแทกลงมาเลยจ้ะ จัดการเลย” คนใต้ร่างเธอกระซิบเสียงสั่นสะโพกกลมสวยขยับบดติ่งเกสรกับลำโคนเนื้อของคนใต้ร่าง เรียกเสียงครางในลำคอราวสัตว์ป่าคำรามกระหึ่มลั่นห้อง ก่อนจะยกสะโพกลอยขึ้น แล้วทิ้งตัวกระแทกลงไปสุดแรง“โอ้วว แน่นสุดๆเลยจ้ะเมียจ๋า”ยิ่งกระแทกกระทั้นแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจุก แต่ความเสียวซ่านมันเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ ชายหนุ่มครางเสียงดัง เอ่ยคำหยาบคายเพิ่มอารมณ์กระสันกับบทรักบนเตียงหญิงสาวหวีดครางไม่หยุด ยกสะโพกกระแทกกระทั้นร่องสาวคับแน่นที่กำลังกลืนกินท่อนเนื้อลำใหญ่อยู่ข้างใน เอวบางร่อนควงให้ติ่งเกสรบดคลึงกับลำโคนท่อนเนื้อ ความเสียวซ่านส่งผลให้ภายในร่องรักคับแน่น ตอดรัดเป็นจังหวะ“อ๊ายยยย…” ร่างบางแทบสิ้นสติเมื่อสะโพกหนาเด้งเอวกระแทกสวนขึ้นยามที่เธอกระแทกกายลงชายหนุ่มอดทนต่อค
“น้องกันล่ะคะ” ลลัลนาเอ่ยถามขึ้น หลังจากออกจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วจ้ะ” นัทธีบอกภรรยาสาวคนสวย ก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอด กันชนก ได้ไม่นาน รูปร่างของลลัลนาก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ลัล น้องกัน 3 ขวบแล้วนะ” นัทธีหมุนเอวบางให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้น้องกันได้แล้วมั้งครับ น้องกันจะได้มีเพื่อน”“แต่น้องกันยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้น้องกัน ลัลก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ลัลกลัวน้องกันจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าลัลคิดมากไปนะ”“แต่…”“ไม่แต่แล้วครับ”นัทธีย่อตัว ช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้น เดินตรงไปที่เตียง วางเธอลงเบาๆก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่นัท” ลลัลนาเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“หืม” นัทธีซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย ที่เขาทำการแหวกกลีบดอกไม้ออกด้วย
“ตายแล้ว ป่านนี้แล้วเหรอ งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าลืมเตรียมตัวด้วยล่ะ” หลังจากนั่งคุยกันมาสักพักใหญ่ ฟางข้าวก็เหลือบเห็นนาฬิกาที่ริมผนังห้อง เธอร้องอุทานออกมา เธอคุยจนลืมเวลาว่าเธอต้องทำธุระที่อื่นต่อ“รู้แล้วน่า เจอกันวันงาน”“เค เจอกันจ้ะ” ฟางข้าวกับณดลกลับบ้าน โดยมีลลัลนากับนัทธีเดินตามมาส่งที่หน้าบ้านหลังส่งฟางข้าวกับณดลกลับ นัทธีโอบเอวลลัลนามาที่ห้องนั่งเล่น“ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าข้าวกับดลจะลงเอยกันได้”“แต่พี่ว่าไม่แปลกนะ ณดลรักฟางข้าวมานาน สัญชาตญาณผู้ชาย ไม่ยอมเสียคนที่ตัวเองรักให้ใครอยู่ละ แล้วยิ่งถ้ามีใครที่ทำท่าว่าจะมาสนใจคนที่ตัวเองรัก ยิ่งไม่มีทางปล่อยเลย”“ก็คงงั้นค่ะ เซอร์ไพรซ์ตรงที่ข้าวท้องก่อนลัลนี่แหละค่ะ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะซบไปที่บ่าแกร่งของสามี“แล้วพี่นัทล่ะคะ เราไม่ได้แต่งงานกัน แล้วมีคนเข้ามาจีบลัล พี่นัทจะทำยังไงคะ”“พี่ก็จะทำแบบณดลนั่นแหละ จับปล้ำทำเมียเลย ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้” นัทธีตอบภรรยาสาวสายตากรุ้มกริ่ม“แหม ผู้ชายนี่เป็นเหมือนกันหมดเลยนะคะ”“ไม่หรอก พี่ว่านะ ถ้าผู้หญิงไม่มีใจ ยังไงมันก็ยากนะที่จะลงเอยกันได้ สมัยนี้ไม่มีใครถือกันละ ว่าต้องเป็นคนแรกน่ะ







