แชร์

Chapter 9.  เพราะเหตุนี้

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-16 00:47:09

ซุนเจ้าเฟิงเป่าลมออกทางปากทำหน้าบูดบึงแล้วเอ่ยขึ้น

 “เพราะเหตุนี้เจ้าจึงเป็นห่วงนางใช่หรือไม่”

            ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แล้วเอ่ย “เจ้าคงนึกหัวเราะเยาะข้าอยู่ในใจสินะ พบกันเพียงครู่เดียวกลับเป็นกังวลเช่นนี้”

            “ไม่ๆ เหตุใดข้าต้องหัวเราะเจ้าด้วย”  ซุนเจ้าเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พบกันล้วนเกิดจากวาสนา เจ้าเป็นห่วงนางก็เป็นเรื่องดี เอาอย่างนี้ ลองแวะไปเยี่ยมนางดูสักครา หากนางต้องการให้ช่วยเหลือก็ทำตามสมควรเถิด”

            “ถ้าเช่นนั้น...”

            “ไป ไปกัน”

            “ไปไหน?”

            “ไปหอชมบุหลันอย่างไรเล่า”

            “ไปกลางวันแสกๆ อย่างนี้รึ”

            “วันนี้ไม่มีงานอะไรแล้วนี่”  เขาเองก็กลับมาที่จวนเพราะสั่งงานที่ค่ายทหารเรียบร้อยดีแล้ว “ยาเจ้าก็กินแล้วไปกันตอนนี้เลย”

            หานหรงเหยากระดากใจเล็กน้อย มิใช่ว่าไม่เคยย่างเท้าเข้าหอนางโลม แต่ทุกครั้งที่ไปก็พาเหล่าทหารไปผ่อนหลังทำภารกิจสำคัญลุล่วง  แต่ครั้งนี้.... 

ซุนเจ้าเฟิงไม่รอให้หานหรงเหยาคิดนาน คว้าข้อมือของสหายได้ก็แทบลากตัวปลิวมุ่งหน้าไปหอนางโลมอันดับหนึ่งของเมืองทันที

            ปลายนิ้วเรียวงามกำลังดีดกู่ฉินหรือพิณเจ็ดสายชะงักไปทันทีที่บ่าวรับใช้มารายงานว่ามีบุรุษต้องการพบ ‘หลิวเข่อซิง’

หลิวชิงเซียงเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เข่อซิงเพิ่งมาอยู่ได้แค่สัปดาห์เดียว นางทำให้บรรดาเหล่าพี่น้องปวดหัวมิใช่น้อย เคี่ยวเข็นอย่างไรก็เอาดีไม่ได้สักทาง จำใจจับนางให้เป็นทำงานขั้นต่ำเป็นสาวใช้ทั่วไป แม้ถูกผู้อื่นกระแหนะกระแหนหรือจิกหัวใช้งานอย่างไร นางไม่เคยปริปากบน ยังคงใบหน้าเปื้อนยิ้มโง่งมอยู่เรื่อยไป

“เจาะจงเรียกเข่อซิงรึ?”

“เจ้าค่ะ”

“ข้าจะออกไปดูเอง”   หลิวชิงเซียงวางพิณเจ็ดสายลงแล้วลุกขึ้นเดินไปยังบุรุษสองคนที่เข้ามาขอพบเข่อซิง ไม่รู้ว่าเข่อซิงไปทำเรื่องอันใดไว้ หรือเปิดเผยร่องรอยจนมีนักล่าปีศาจมาเยือน  ทว่าเมื่อนางเดินไปถึงที่หมายกลับพบแม่ทัพซุนเจ้าเฟิงที่แต่งกายเรียบง่ายแต่ตัดเย็บประณีตบ่งบอกสถานะองค์ชายสามได้ดีเยี่ยม ส่วนบุรุษอีกคน หากนางจำไม่ผิด จากที่เคยได้ยินมาบุรุษที่รูปร่างแบบบางแต่สูงโปร่ง แลดูสุภาพราวเทพเซียนคือที่ปรึกษาหานหรงเหยา

“ผู้น้อยหลิวชิงเซียงคารวะท่านแม่ทัพซุนและที่ปรึกษาหานเจ้าค่ะ”  

ซุนเจ้าเฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากกระตุกยิ้ม นับว่าสายตาหญิงงามอันดับหนึ่งแหลมคมที่มองเขาสองคนปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นผู้ใด

“แม่นางคือหลิวชิงเซียงเองหรือ? สมแล้วที่ผู้อื่นล่ำลือกัน”

“เรียกข้าว่าผู้ดูแลหลิวก็ได้เจ้าค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้ “เสียงเล่าลือเป็นเพียงลมปาก เกรงว่าจะทำให้แม่ทัพซุนผิดหวังแล้ว” 

แม่ทัพหนุ่มกวาดตามองหญิงงามตรงหน้าอย่างเปิดเผย  เรือนร่างอรชรเย้ายวน ดวงหน้างดงามไร้ที่ติ ยามชม้ายตามองราวกับสะกดผู้คนให้หลงใหลในดวงตาคู่งาม ริมฝีปากสีชาดยกยิ้มจางๆ ประหนึ่งลมวสันต์มาเยือน แต่เขากลับรู้สึกว่าความงามนี้งดงามเกินกว่าจะเป็นจริง ทำให้รู้สึกระแวงอยู่บ้าง

“ผู้ดูแลหลิว ข้ามารบกวนเพื่อขอพบหลิวเข่อซิง” หานหรงเหยาเอ่ยวาจาเข้าประเด็น ใจหนึ่งไม่อยากรั้งอยู่ในหอนางโลมนานนัก และที่สำคัญ เขาเป็นห่วงเจ้าจิ้งจอกแดงโง่งมตัวน้อย สถานที่ที่เต็มไปด้วยจริตเล่ห์กลเช่นนี้ นางจะอยู่อย่างไร

“เข่อซิงเป็นเด็กใหม่ของที่นี่ ไม่ทราบว่าคุณชายรู้จักนางได้อย่างไรกัน”

“แล้วแม่นางน้อยผู้นั้นไม่เล่าให้เจ้าฟังหรือว่า สหายของข้าเป็นผู้นางไว้”

“ช่วยชีวิต?”  หลิวชิงเซียงไม่อาจเก็บซ่อนความฉงนไว้ในแววตาได้

“ถูกต้อง นับได้ว่า สหายของข้าเป็นผู้มีพระคุณของนาง”  ซุนเจ้าเฟิงยอมรับว่าสตรีนางนี้งดงามนัก แต่ก็ไม่รู้สึกว่าความงามนี้น่าหลงใหลสยบแทบเท้านางได้

“เข่อซิงเป็นเด็กกำพร้าที่ท่านแม่เมตตาเลี้ยงดู หากนางทำเรื่องใดล่วงเกินท่านทั้งสอง ข้าในฐานะผู้ดูแลหอชมบุหลันต้องขออภัยแทนนางด้วย”

“แม่นางหลิวเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่เป็นห่วงนาง หากนางสบายดี ข้าก็จะไม่รบกวน”

ท่าทีสุภาพและติดร้อนใจนิดๆ ทำให้หลิวชิงเซียงแอบชื่นชมอยู่ในใจ นางเดินนวยนาดไปใกล้ ยื่นมือออกไปแต่ยังไม่ทันแตะแขนของหานหรงเหยาก็ถูกพัดอันหนึ่งยื่นมาตีมือนางไว้ก่อน นางถึงกับชักมือกลับตวัดสายตาจ้องมองอย่างขุ่นเคือง ด้วยไม่เคยถูกใครเสียมารยาทเช่นนี้ แม่ทัพหนุ่มสะบัดข้อมือกลับแล้วคลี่พัดโบกเบาๆ ท่าทางราวหนุ่มเจ้าสำราญทั้งที่เป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่กำยำยิ่ง

“สหายข้าเพียงต้องการพบคน เจ้าก็พามาเถิด”

หากไม่เพราะได้กลิ่นพลังชีวิตเข้มข้นมากกว่าคนทั่วไป นางคงไม่ปรายตาสนใจเป็นแน่ ยิ่งคุณชายหานที่ดูเปราะบางผู้นี้ยิ่งมีพลังหยางบริสุทธิ์ นางสูดลมหายใจลึกข่มโทสะไว้ในอกแล้วระบายยิ้มอ่อนหวาน

“ได้ เชิญตามข้ามาทางนี้”  นางหมุนตัวแล้วเดินนำไปที่ห้องด้านใน จำได้ว่านางสั่งให้หลิวเข่อซิงศึกษาหนังสือภาพวังวสันต์  “อีกไม่กี่วันเราจะจัดงานชิมชาชมบุปผา ข้าหวังจะให้นางออกรับแขกครั้งแรก จึงให้นางศึกษาเรื่องที่ควรศึกษาที่เรือนด้านหลังนี้”

“รับแขก...” สองคำนี้ทำเอาฝีเท้าของหานหรงเหยาไม่มั่นคง เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้เป็นห่วงนางถึงเพียงนี้

ห่วงจนรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ หรือโรคของเขาจะกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว.

            ณ เรือนด้านหลัง

            “เจ้านี่มัน...”

            “พี่สาวทั้งสอง  เมตตาข้าด้วย”  เสียงอ่อนระโหยนั้นน่าสงสารยิ่ง แต่หญิงงามสองคนยืนมองด้วยความโมโห

            “เรื่องง่ายๆ แค่นี้เจ้ายังทำไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรได้อีก!”

            “ได้ๆ ข้าสัญญา ข้าจะพยายามให้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้...ข้าขอ..ขอกินพลังชีวิตนิดหนึ่งได้ไหม”

            “ไม่ได้!”  สาวงามทั้งสองตวาดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เสียงตวาดนั้นทำให้เข่อซิงถึงกับยกมือขึ้นปิดหู แล้วนางก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าหูของตนเปลี่ยนเป็นหูจิ้งจอกแล้ว

            “หูของข้า!”  หลิวเข่อซิงร้องอย่างลนลาน “หางก็โผล่!”

            “ดี! กลายเป็นจิ้งจอกแดงแล้วกลับหุบเขาไปเลย! ทำตัวน่ารำคาญจริง!”

            ไม่ได้นะ! นางจะกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดงไม่ได้ พลังนางเหลือน้อยเต็มที หากกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดงแล้ว ไม่รู้ว่านานเพียงใดกว่าจะได้กลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง

            หรือไม่ก็...อยู่ในร่างจิ้งจอกแดงตลอดไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 51. ตอนพิเศษ

    ซุนเจ้าเฟิงยอมรับว่าผ่านอะไรมามาก แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องราวแปลกประหลาดเช่นนี้ เพื่อได้อยู่ดูแลคนรัก หานหรงเหยายอมแต่งเข้าสกุลหลิว ตระกูลวานิชที่มั่งคั่งในเมืองหลวง พิธีแต่งงานจัดใหญ่โตสมฐานะ แต่น้อยคนที่จะสังเกตว่าเจ้าสาวไม่ได้สติ ถูกประคองตลอดเวลา เขาพูดอะไรไม่ออก อยากถามย้ำการตัดสินใจครั้งนี้ แต่แววตาของหานหรงเหยาชัดเจนแล้วว่า ต้องการอยู่เคียงข้างหลิวเข่อซิง เขาทำได้เพียงแค่มองสหายรักเข้าพิธีแต่งงาน จนทั้งสองเดินทางออกจากเมืองหลวง เดิมทีเขาควรได้เดินทางกลับชายแดนก่อน แต่กลายเป็นว่าหานหรงเหยาออกเดินทางก่อนเขา และเป็นอีกครั้งที่เขาต้องนั่งฟังเสด็จพ่อเสด็จแม่ พยายามกล่อมให้เขาเลือกชายาเสียที “จะว่าไปลูกก็มีความดีความชอบไม่น้อย เหตุใดจึงไม่สามารถเลือกชายาของตนเองได้เล่า” ชายหนุ่มบ่นพึมพำแล้วยกน้ำชาขึ้นดื่ม “จะบ่ายเบี่ยงไปไย อย่างไรก็ต้องแต่งงาน” “ลูกแค่อยากเลือกคนที่จะมาเป็นชายาด้วยตนเอง” เขาเงยหน้าสบตากับบิดามารดาซึ่งเป็นฮ่องเต้และฮองเฮา “เสด็จพ่อเสด็จแม่จะกังวลเรื่องลูกไปทำไมกัน ในเมื่อพี่น้องคนอื่นล้วนแต

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 50. จบ

    เพราะนางหลับใหลไม่ได้สติ แม้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงมงคล เขาก็ต้องคอยประคองนางอยู่ตลอดเวลา แต่เขาไม่รู้สึกเป็นภาระแต่อย่างใด ร่างเล็กเอียงซบต้นแขนของเขา มือใหญ่เกาะกุมมือเล็กไว้มั่น หลิวชิงเซียง คอยประคองยามที่ต้องคารวะให้กันและกัน เมื่อเสร็จพิธีทั้งหมด พวกเขาไม่ได้ส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ แต่ขึ้นรถม้าที่ตระเตรียมไว้ออกนอกเมืองทันที “เจ้าติดค้างคืนเข้าหอของข้าอยู่นะ ซิงเอ๋อร์” เขาลูบใบหน้าน้อยที่หลับตาพริ้ม บางครั้งนางเหมือนอยู่ในห้วงฝัน แต่คงเป็นฝันดี เพราะนางยิ้มตลอดเวลา ราวครึ่งชั่วยามรถม้าก็หยุด หลิวชิงเซียงลงจากรถม้าแล้วส่งเสียงบอกหานหรงเหยาว่าถึงที่หมายแล้ว เขาเปิดผ่านประตูรถม้าก้าวลงมาก่อน กวาดตามองกระท่อมหลังเล็กที่มีดอกไม้นานาพรรณรายล้อม ไม่น่าเชื่อว่านี่คือสถานที่ที่ปีศาจอยู่ “ตำหนักของท่านแม่อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก ท่านกับเข่อซิงพักที่นี่ หมอกสีม่วงที่ปกคลุมบริเวณนี้ไม่ทำอันตรายท่าน แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาอาจถึงแก่ชีวิตได้” “ข้าทราบแล้ว” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม “ข้าต้องดูแลเข่อซิงอย่างไร” “ให้นางนอนหลับเช่นนี้ ห

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 49. นางเป็นภรรยาข้า ไม่ว่าอย่างไรข้าจะดูแลนางเอง

    “ท่านแม่ รีบช่วยเข่อซิงก่อนเถิดเจ้าค่ะ” หญิงงามในชุดสีม่วงหัวเราะในลำคอแล้วเดินไปทางหานหรงเหยาและหลิวเข่อซิง นางขยับปลายนิ้วเล็กน้อย โซ่ที่รัดรอบลำคอก็หลุดออก แม้ใบหน้าระบายยิ้มแต่ดวงตามีแววหวั่นวิตก “อุ้มนางลงมา” หานหรงเหยาไม่รอช้ารีบอุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงของหลิวเข่อซิงลงจากเตียงหยกโลหิตแล้วประคองนางไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม “ท่าน...ท่านแม่...” “เด็กโง่ เหตุใดทำตัวเองเจ็บเช่นนี้” นางพูดด้วยสีหน้าเวทนา “นางจะดีขึ้นใช่ไหม” หานหรงเหยาเอ่ยถาม แต่คำตอบที่ได้ทำให้เขาหน้าซีดลงไปทันที “นางถูกหยกโลหิตดูดพลังชีวิตไปจนพร่องแล้ว เดิมทีนางก็เป็นเพียงจิ้งจอกแดงตัวน้อยที่ข้าชุบชีวิตให้กลายร่างเป็นมนุษย์ได้ และพลังชีวิตของนางก็ถ่ายเทไปที่ตัวเจ้าเสียครึ่งหนึ่งแล้ว” “อะไรนะ...เข่อซิง ทำไมเจ้าทำเช่นนี้” เขาก้มหน้ามองคนในอ้อมอกที่หายใจแผ่วเบา แต่นางยังคงฝืนยิ้มให้เขา “ข้า...ข้าอยู่มาหนึ่งร้อยสิบหกปีแล้ว แต่ท่านเพิ่งใช้ชีวิตได้แค่ยี่สิบปีเอง ข้าจึงแบ่งชีวิตครึ่งหนึ่งของข้าให้ท่าน”

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 48. ยอมตาย

    “ข้าไม่เป็นอะไร พวกท่านรีบไปเสีย” “พูดบ้าอะไร!” หลิวชิงเซียงที่ประมือกับนักพรตซีห่าวอยู่ตะคอกออกมา “เจ้าจะถูกหยกโลหิตดูดพลังชีวิตไปหมด เจ้าจะสลายกลายเป็นธุลี!” “อย่าห่วงไป ก่อนนางจะสลายไป ข้าจะควักหัวใจออกมาเช่นเดียวกับที่จะทำกับเจ้า” “ห้าสิบปีที่แล้วเจ้าทำไม่เสร็จ วันนี้เจ้าก็คิดว่าจะทำได้เรอะ!” นางสะแขนเสื้อขึ้นรับแส้หางม้าที่ฟาดลงมา ครั้งนี้เสื้อของนางฉีกขาดและเลือดสีสดกระเซ็นออกมา “เจ้าอยู่หอนางโลมแต่ไม่กินพลังหยางของบุรุษหรือไร เรี่ยวแรงจึงมีเพียงแค่นี้” นักพรตซีห่าวหัวเราะ “เจ้าอายุเท่าไหร่กัน ห้าร้อยปีใช่หรือไม่ ยังคงเชื่อใจว่ามนุษย์จะรักกับปีศาจอย่างเจ้าได้อยู่อีกเหรอ” เพราะถูกสะกิดแผลเก่า หลิวชิงเซียงพุ่งเข้าใส่อย่างไม่กลัวตาย ไม่สิ! นางไม่ยอมตายเพราะนักพรตชั่วที่เคยเปิดโปงร่างปีศาจของนางต่อหน้าชายคนรัก มันทำให้คนผู้นั้นทอดทิ้งนาง ทั้งที่นางเคยช่วยชีวิตเขา สิ่งที่นางไม่ยอมรับคือหลิวเข่อซิงเหมือนกับนางในอดีต แต่หลิวเข่อซิงไม่เหมือนนาง เพราะหานหรงเหยามีความจริงใจและมั่นรักอย่างแท้จริง แม้รู้ว่านางเป็น

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 47. หัวใจ(ปีศาจ)จิ้งจอกแดง

    ดวงตาคู่งามฉ่ำวาวด้วยหยาดน้ำตา หลิวเข่อซิงส่ายหน้าไปมา นางเป็นปีศาจจิ้งจอกแดงก็จริง แต่ไม่เคยทำร้ายมนุษย์ “ข้า...ข้าไม่เคยทำร้ายใคร...ท่าน ปะ...ปล่อยข้าไปเถิด” “ปีศาจอย่างพวกเจ้า หากไม่เสพพลังชีวิตจากมนุษย์จะอยู่ได้อย่างไร” เขายังคงใบหน้าแย้มยิ้ม “และหากไม่ได้เสพพลังหยางจากบุรุษจะมีพลังได้อย่างไร” หลิวเข่อซิงส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ข้าไม่...” “เจ้าจะปฏิเสธไปไย ในเมื่อตัวเจ้าก็รู้ดีว่าตนเองมีปราณหยางไหลเวียนในกาย” เขาลดมือลงจากปลายคางของปีศาจสาว “ทำชั่วมามากแล้ว ข้าจะขอหัวใจของเจ้าเอาไว้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็แล้วกัน” “หัวใจของข้า...” นางยกมือกุมหัวใจตนเอง นางลืมไปได้อย่างไรว่าหัวใจของจิ้งจอกคือยาวิเศษชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะปีศาจจิ้งจอกแดงที่กินพลังพลังวิญญาณของมนุษย์ และจะยิ่งดีขึ้นเมื่อปีศาจตนนั้นได้กินพลังหยางบริสุทธิ์ ไม่หรอก นางไม่ได้ลืม แต่ทำเป็นจำไม่ได้ เดิมนางเป็นจิ้งจอกแดงตัวน้อย แต่ถูก ‘ท่านแม่’ มอบปราณปิศาจให้กลายเป็นปีศาจที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อที่นางจะได้สะสมพลังหยาง ทว่านางขลาดกลัวจนเกินไป จึงเป

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 46. แต่ข้าทนเห็นท่านตายไม่ได้

    หลิวชิงเซียงไม่มีเวลาจะมาโต้เถียงกับซุนเจ้าเฟิง นางจึงหันไปพูดหานหรงเหยาที่ควบม้าขนาบข้าง“ดูแลสหายของเจ้าให้ดี หากได้เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น เจ้าก็รับผิดชอบเอาเองก็แล้วกัน” ซุนเจ้าเฟิงรู้สึกถ้อยคำของนางแปลกหู ไม่ใช่คำพูดนอบน้อมและยังบังอาจสั่งสหาของเขาอีก หานหรงเหยาสบตากับซุนเจ้าเฟิง เขาไม่มีเวลาอธิบายเรื่องทั้งหมด และไม่รู้ว่าสหายจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ทั้งสามมาถึงอารามฝั่งตะวันตก มองผิวเผินด้านนอกดูสงบร่มรื่นแต่คนที่ผ่านสนามรบมาโชกโชนอย่างซุนเจ้าเฟิงย่อมรู้ดีว่า ที่นี่ไม่ใช่อารามธรรมดาอย่างแน่นอน เขาหันไปสบตากับหานหรงเหยาที่กระชับกระบี่ในมือ หลิวชิงเซียงไม่มีเวลาสนใจเรื่องใดอีก นางก้าวเท้าเข้าไปในอาราม ยังไม่ทันยกเท้าข้ามธรณีประตูก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่พุ่งออกมาทำให้นางผงะถอยหลัง ยันต์กระดาษสีเหลืองมีอักขระสีแดงพุ่งเข้าใส่หญิงสาวราวลูกศร นางเบี่ยงตัวหลบแต่ยันต์แผ่นนั้นปาดแขนเสื้อของนางขาด “บัดซบ! เจ้านักพรตชั่วทำเสื้อข้าขาดเรอะ!” หลิวชิงเซียงกระทืบ เท้าอย่างไม่พอใจ “วันนั้นข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้ารอดตายเลย” หญ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status