Episode 86ตกหลุมพรางอุณหภูมิห้องดูเหมือนจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอุณหภูมิในร่างกายของทั้งสองคน จังหวะหายใจเริ่มสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ไออุ่นจากฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างขาวเนียนทำให้ไรขนอ่อนลุกชันขึ้นตามอารมณ์กระสันที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมา“อื้อ เดี๋ยวมีคนมา”“ช่างคนอื่นสิ ตอนนี้คิดแค่เรื่องของเราก็พอ” ถ้อยคำหวานที่คอยหลอกล่อให้คนตัวเล็กตกหลุมพราง เริ่มได้ผลขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอเริ่มสูญเสียการควบคุม ร่างกายเริ่มอ่อนแรงเกินกว่าจะผลักไสเขาออกไป หนำซ้ำเธอกลับรู้สึกต้องการเขาเสียด้วยซ้ำ“ห้องเก็บเสียงไหม”“เป็นเรียวกังแบบโบราณน่ะเลยไม่ค่อยเก็บเสียงเท่าไหร่”“อืม เข้าใจแล้วงั้นเธอก็ต้องอดทนหน่อยนะถ้าไม่อยากให้ใครมาได้ยินว่าเราสองคนกำลังทำแผลกันยังไง” ธามกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดูใบหน้าเขินอายของหญิงสาวใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมกับจับใบหน้าหวานให้หันมาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดลงมาบนปลายจมูกเชิดรั้น ริมฝีปากหนาทาบทับลงมาบนริมฝีปากสั่นระริกของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาก่อนจะเริ่มบดขยี้เบาๆ ชิมความหอมหวานที่คุ้นเคยจังหวะลมหายใจที่เริ่มติดขัดส่งผลให้ริมฝีปากบ
Episode 87ครอบครัวทั้งธามและฟูมิโกะสวมชุดกิโมโนและยูกาตะแบบโบราณออกมาทานข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากัน โดยมีพ่อแม่และพี่ชายของฟูมิโกะร่วมวงอยู่ด้วย สถานการณ์ที่พึ่งผ่านไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่พี่ชายเธอพึ่งจะใช้ดาบฟันแขนธามจนเลือดอาบทำให้บรรยากาศค่อนข้างดูอึดอัดอยู่พอสมควร“คิดยังไงกับลูกสาวฉัน”“มาถามอะไรตอนกินข้าวคะ” แม่ของฟูมิโกะเงยหน้าปรามสามี“ไม่เป็นไรครับ” ธามบอกด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปตอบคำถามพ่อของฟูมิโกะ“ผมรักมิโกะจังครับ”“รักถึงขั้นไหน”ธามหันมามองใบหน้าหวานที่เอาแต่ก้มหน้างุดด้วยความประหม่าไม่รู้ว่าคำตอบของเขาจะออกมาในรูปแบบไหน“ถึงขั้นที่อาจจะมีหลานให้ทุกคนครับ”“ว่าไงนะ?! แกท้องเหรอมิโกะจัง?” ฟุทามิที่กำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปากเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจ“พะ…พี่จะบ้าเหรอไม่ได้ท้องสักหน่อย แล้วนายทำไมไปพูดจากำกวมแบบนั้นเล่า!” ฟูมิโกะรีบปฏิเสธด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก ก่อนจะหันมาต่อว่าคนข้างๆ ที่พูดจาชวนเข้าใจผิดไปแบบนั้น“แล้วไป บ้านฉันไม่รีบมีหลานไม่ต้องเอาหลานมาให้พวกฉันตอนนี้”“ครับ” ธามรับคำสั้นๆ“แล้วมีแพลนจะแต่งงานไหม” คราวนี้เป็นพ่อของฟู
Episode 88ปรับความเข้าใจหลังจากปรับความเข้าใจกันดีแล้วทั้งสองคนก็เริ่มปรับตัวเข้าหากันมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ชีวิตเป็นคู่รักจริงๆ สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงไปคือการออดอ้อนของฟูมิโกะที่ดูเหมือนจะแสดงออกต่อเขามากยิ่งขึ้น ซึ่งเขาเองก็มองดูด้วยความเอ็นดู แถมยังรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่เธอเริ่มแสดงตัวตนด้านใหม่ๆ ออกมาให้รู้จักกันและกันมากยิ่งขึ้น“คุณหนูครับมีคนมาหาครับ”“ใครเหรอ?” ฟูมิโกะที่กำลังให้อาหารปลาคาร์ปอยู่กับธามที่บ่อน้ำภายในเรียวกังหันไปถามลูกน้องที่เดินเข้ามาบอกข่าวด้วยสีหน้าสงสัย“ชื่อยูสึเกะครับบอกว่าเป็นเพื่อนของคุณหนู”“ยูสึเกะ?” คนตัวเล็กพึมพำด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วน เธอรู้ดีว่าธามมีนิสัยขี้หึงมากแค่ไหน ครั้งก่อนที่บังเอิญเจอกันเขาก็งอนแก้มป่องออกจากร้านไปไม่บอกไม่กล่าว“ไอ้หน้าจืดนั่นเหรอ”“อือ มาหาน่ะ”“มาหาถึงบ้านเลย?”“อือ”“แล้วจะออกไปเจอไหม” ธามเอ่ยถามเสียงเรียบไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเป็นพิเศษ“เอ่อ…ควรออกไปเจอหน่อยไหมอุตส่าห์มาหาถึงบ้านแล้ว อ้อ บ้านฉันมีคนอยู่เต็มไปหมดเลยนะไม่ได้อยู่กันสองต่อสองแน่นอน”“ฉันเคยเตือนอะไรเธอไว้จำได้ไหม”“ไม่ให้เ
บทส่งท้ายหลายเดือนต่อมาหลังจากกลับจากญี่ปุ่นคราวนั้นฟูมิโกะก็ตัดสินใจสมัครเรียนต่อที่ประเทสไทยเพื่อที่จะได้สามารถอยู่ไทยได้อย่างถาวร และตอนนี้ธามเองก็ย้ายมาอยู่ที่คอนโดกับเธอเขาคอยไปรับไปส่งเธอที่มหาลัยอยู่ทุกวัน รวมถึงภาษาไทยเองเธอก็เริ่มมีการพัฒนาขึ้นมา และเพราะความพยายามอย่างหนักของแฟนสาวทำให้ธามไม่อยากเอาเปรียบเธอเขาจึงเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมด้วย อย่างน้อยๆ ก็เอาไว้สื่อสารกับครอบครัวของเธอโดยได้รับคำแนะนำจากพี่สาวของเธอธีลินที่เรียนภาษาญี่ปุ่นไปก่อนหน้าจนสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งเป็นผลพลอยได้ให้หลานสาวของเขาคาร์ลินสามารถสื่อสารเข้าใจได้ถึงสามภาษานั่นคือไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น และคาดว่าหลานคนเล็กที่พึ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นานก็คงจะพูดได้สามภาษาเช่นเดียวกันตอนนี้ร้านขนมของเขาสาขาที่สองเริ่มทำการก่อสร้างเตรียมเปิดร้านแล้วในกลางปีหน้านี้ โดยเขาใช้เงินเก็บของตัวเองทั้งหมดไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากครอบครัวฟูมิโกะที่อยากช่วยให้เขาได้สร้างตัวเร็วๆ หรือแม้กระทั่งจากพี่สาวเขาเอง นั่นก็เพราะเขาอยากพิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวของฟูมิโกะเห็นว่าเขาสามารถดูแลเธอได้“วันนี้ออกไปกินข้าวนอกบ้านกั
Introภายใต้แก๊งมาเฟียมหาอำนาจใครจะไปรู้ว่าหัวหน้าผู้ปกครองแก๊งจะเป็นเพียงชายตาบอดคนหนึ่งเท่านั้น อาคิรา หรือคราม หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ประสบอุบัติเหตุจนทำให้สูญเสียการมองเห็นไปเมื่อสามปีก่อน ระหว่างรอการเปลี่ยนถ่ายกระจกตาเพื่อจะได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง ทำให้เขาต้องวางตัวให้น่าเกรงขามอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ศัตรูฉวยโอกาสนี้เข้ามาแย่งชิงอำนาจการปกครองของเขาซึ่งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้เขาก็จะได้รับการเปลี่ยนถ่ายกระจกตาที่มีคนบริจาคเอาไว้ให้ แต่ระหว่างนี้เขายังต้องการผู้ช่วยในการดูแลเรื่องชีวิตประจำวันต่างๆ ทว่าตลอดสามปีมานี้เขาเปลี่ยนสาวใช้ส่วนตัวไปไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว ไม่ว่าคนที่เข้ามาสมัครจะมีประสบการณ์ดีขนาดไหนก็ไม่เคยถูกใจเขาเลยสักคน ที่ทำงานได้นานที่สุดก็คงจะราวๆ สองเดือนแล้วก็ชิงลาออกไป หรือบางคนสอดรู้สอดเห็นมากเกินไปก็อาจจะไม่ได้กลับออกไปอีกเลย…ประวัติสาวใช้ที่ลาออกติดต่อกันในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาทำให้ตอนนี้ไม่มีใครกล้ามาสมัครทำงานเป็นสาวใช้ของเขาถึงแม้จำนวนเงินที่จ้างจะสูงมากกว่าการทำงานที่อื่นหลายเท่าตัวก็ตามทีแต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฝงเอาไว้เมื่อ ธีลิน นักศึกษาส
Episode 01 กลิ่นความเงียบที่แม้กระทั่งลมหายใจยังไม่กล้าหายใจแรงทำให้ครามไม่รู้ว่าตอนนี้ธีลินยืนอยู่ตรงมุมไหนของห้อง โดยเฉพาะตอนที่เขาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ค่อยๆ ใช้ความเคยชินในเส้นทางเดินตรงมาทางชั้นหนังสือที่เธอยืนอยู่ ร่างบางยืนตัวเกร็งเมื่อร่างหนาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอจึงเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวกระทั่งเดินถอยไปชิดกับผนังทำให้ปลายจมูกที่อยู่ห่างจากแผงอกแกร่งไม่กี่คืบได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเขา สุดท้ายร่างหนาที่เดินขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ก็ชนเข้ากับร่างบางที่ยืนขวางอยู่ตรงหน้า"ทำไมไม่หลบ" น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ดังกระซิบอยู่ใกล้หูทำให้ธีลินค่อยๆ มุดตัวหลบออกไปยืนอีกมุมหนึ่งแทน"ขอโทษค่ะ" ธีลินบอกด้วยน้ำเสียงประหม่า กลิ่นหอมของเขายังติดอยู่ปลายจมูก โดยเฉพาะน้ำเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ชวนให้น่าหลงใหลยิ่งทำให้เธอควบคุมสติได้อย่างยากลำบาก"ฉันถามว่าทำไมไม่หลบ" ชายหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเมื่อไม่ได้รับคำตอบในคำถามที่ถามไปก่อนหน้า"ตกใจค่ะ จู่ๆ คุณ…นายน้อยก็ลุกเดินมาไม่ทันตั้งตัวเลยทำตัวไม่ถูกค่ะ" ธีลินลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลันคิดว่าเธอคงจะชวดงานนี้ไปแล้วจากการทำตัวไร้สติของเธอเมื่อครู่"แล้วทำไม
Episode 02 ถ้าหากว่า…ธีลินขออนุญาตอาคิรามาจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำให้เขาขณะที่ตอนนี้เขากำลังนั่งทำงานอยู่ภายในห้องทำงานซึ่งเธอไม่ควรเข้าไปหากไม่ได้รับอนุญาตทำให้เธอไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าจริงๆ แล้วเขาทำอาชีพอะไร เข้าไปทำอะไรข้างในกันแน่ ถึงจะเกิดคำถามมากมายแต่กฎเหล็กของการทำงานที่นี่ก็คือห้ามทำตัวสอดรู้สอดเห็น"ทำตัวลึกลับอย่างกับเป็นพวกมาเฟียอย่างงั้นแหละ" ธีลินพึมพำเบาๆ ขณะใช้มือแกว่งน้ำในอ่างเพื่อเช็กอุณหภูมิให้อุ่นพอดีไม่ร้อนจนเกินไป "ฮึ่ย!" คนตัวเล็กหันหลังกลับมาเตรียมเดินออกไปเรียกครามให้มาอาบน้ำชะงักพร้อมกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อหันมาเจออาคิรายืนพิงขอบประตูห้องน้ำอยู่คนตัวเล็กใช้มือลูบหน้าอกตัวเองเรียกขวัญกำลังใจไม่คิดว่าการทำงานดูแลคนพิการของเธอจะน่าระทึกได้ถึงขนาดนี้ และก็ได้แต่ภาวนาว่าเขาจะไม่ได้ยินประโยคที่เธอหลุดพูดออกไป"กำลังจะออกไปเรียกอยู่พอดีเลยค่ะ นายน้อยอาบน้ำเลยไหมคะ" ธีลินเอ่ยขึ้นกลบเกลื่อนเสียงตกใจของตัวเองเมื่อครู่นับว่ายังโชคดีที่ตาของเขามองไม่เห็น เลยไม่เห็นสีหน้าของเธอในตอนแรกรวมถึงการยกมือทาบอก"อืม"ธีลินมองคนตัวโตที่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยความงุน
Episode 03 คืนแรกธีลินจัดการช่วยอาคิราใส่เสื้อผ้าเพื่อทำหน้าที่สุดท้ายของตัวเองในวันนี้ให้เสร็จสิ้น เพราะอีกสามชั่วโมงข้างหน้าก็เริ่มกฎข้อต่อไปของการทำงานเป็นสาวใช้ที่นี่คือห้ามออกจากห้องพักหลังห้าทุ่มไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ตาม แวบแรกที่ได้อ่านเจอกฎนี่สิ่งแรกที่เธอคิดคือถ้าบ้านไฟไหม้เธอคงเป็นคนแรกที่ตายอยู่ในกองเพลิง เพราะเธอจะไม่ยอมแหกกฎง่ายๆ เพื่อเงินจำนวนมหาศาลของเธอแน่ๆ"เอ่อ ขอถามคำถามอะไรก่อนไปได้ไหมคะ""ว่ามาสิ" อาคิราตอบขณะที่ใช้มืออ่านหนังสือตัวอักษรเบรลล์อยู่บนที่นอน"ถ้าเกิดว่าเลยห้าทุ่มไปแล้วคุณเรียกฉันให้ออกมา ฉันต้องออกไหมคะ" เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลผู้พิการทางสายตา ถึงแม้ว่าเธอจะรักเงินมากแค่ไหน แต่ถ้าหากเขาเกิดต้องการความช่วยเหลืออย่างลื่นล้มในห้องน้ำโทรเรียกให้เธอมาช่วยเธอก็ควรจะออกมา แต่ถ้าออกมาแล้วกลายเป็นทำผิดกฎชวดเงินไปเธอก็รู้สึกไม่ยุติธรรมอยู่หน่อยๆ เพราะฉะนั้นจึงต้องการความมั่นใจจากเขา"คิดว่าไงล่ะ" แทนที่จะได้รับคำตอบกลับมา แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นฝ่ายได้ตอบคำถามของตัวเองอีกแล้ว"ถ้าเป็นฉันฉันก็คงจะยอมออกมา""เพราะอะไรถึงยอมแหกกฎ""เพราะคุณเรียกไงคะ ถ้าคุณเป็น
บทส่งท้ายหลายเดือนต่อมาหลังจากกลับจากญี่ปุ่นคราวนั้นฟูมิโกะก็ตัดสินใจสมัครเรียนต่อที่ประเทสไทยเพื่อที่จะได้สามารถอยู่ไทยได้อย่างถาวร และตอนนี้ธามเองก็ย้ายมาอยู่ที่คอนโดกับเธอเขาคอยไปรับไปส่งเธอที่มหาลัยอยู่ทุกวัน รวมถึงภาษาไทยเองเธอก็เริ่มมีการพัฒนาขึ้นมา และเพราะความพยายามอย่างหนักของแฟนสาวทำให้ธามไม่อยากเอาเปรียบเธอเขาจึงเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมด้วย อย่างน้อยๆ ก็เอาไว้สื่อสารกับครอบครัวของเธอโดยได้รับคำแนะนำจากพี่สาวของเธอธีลินที่เรียนภาษาญี่ปุ่นไปก่อนหน้าจนสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งเป็นผลพลอยได้ให้หลานสาวของเขาคาร์ลินสามารถสื่อสารเข้าใจได้ถึงสามภาษานั่นคือไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น และคาดว่าหลานคนเล็กที่พึ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นานก็คงจะพูดได้สามภาษาเช่นเดียวกันตอนนี้ร้านขนมของเขาสาขาที่สองเริ่มทำการก่อสร้างเตรียมเปิดร้านแล้วในกลางปีหน้านี้ โดยเขาใช้เงินเก็บของตัวเองทั้งหมดไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากครอบครัวฟูมิโกะที่อยากช่วยให้เขาได้สร้างตัวเร็วๆ หรือแม้กระทั่งจากพี่สาวเขาเอง นั่นก็เพราะเขาอยากพิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวของฟูมิโกะเห็นว่าเขาสามารถดูแลเธอได้“วันนี้ออกไปกินข้าวนอกบ้านกั
Episode 88ปรับความเข้าใจหลังจากปรับความเข้าใจกันดีแล้วทั้งสองคนก็เริ่มปรับตัวเข้าหากันมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ชีวิตเป็นคู่รักจริงๆ สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงไปคือการออดอ้อนของฟูมิโกะที่ดูเหมือนจะแสดงออกต่อเขามากยิ่งขึ้น ซึ่งเขาเองก็มองดูด้วยความเอ็นดู แถมยังรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่เธอเริ่มแสดงตัวตนด้านใหม่ๆ ออกมาให้รู้จักกันและกันมากยิ่งขึ้น“คุณหนูครับมีคนมาหาครับ”“ใครเหรอ?” ฟูมิโกะที่กำลังให้อาหารปลาคาร์ปอยู่กับธามที่บ่อน้ำภายในเรียวกังหันไปถามลูกน้องที่เดินเข้ามาบอกข่าวด้วยสีหน้าสงสัย“ชื่อยูสึเกะครับบอกว่าเป็นเพื่อนของคุณหนู”“ยูสึเกะ?” คนตัวเล็กพึมพำด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วน เธอรู้ดีว่าธามมีนิสัยขี้หึงมากแค่ไหน ครั้งก่อนที่บังเอิญเจอกันเขาก็งอนแก้มป่องออกจากร้านไปไม่บอกไม่กล่าว“ไอ้หน้าจืดนั่นเหรอ”“อือ มาหาน่ะ”“มาหาถึงบ้านเลย?”“อือ”“แล้วจะออกไปเจอไหม” ธามเอ่ยถามเสียงเรียบไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเป็นพิเศษ“เอ่อ…ควรออกไปเจอหน่อยไหมอุตส่าห์มาหาถึงบ้านแล้ว อ้อ บ้านฉันมีคนอยู่เต็มไปหมดเลยนะไม่ได้อยู่กันสองต่อสองแน่นอน”“ฉันเคยเตือนอะไรเธอไว้จำได้ไหม”“ไม่ให้เ
Episode 87ครอบครัวทั้งธามและฟูมิโกะสวมชุดกิโมโนและยูกาตะแบบโบราณออกมาทานข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากัน โดยมีพ่อแม่และพี่ชายของฟูมิโกะร่วมวงอยู่ด้วย สถานการณ์ที่พึ่งผ่านไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่พี่ชายเธอพึ่งจะใช้ดาบฟันแขนธามจนเลือดอาบทำให้บรรยากาศค่อนข้างดูอึดอัดอยู่พอสมควร“คิดยังไงกับลูกสาวฉัน”“มาถามอะไรตอนกินข้าวคะ” แม่ของฟูมิโกะเงยหน้าปรามสามี“ไม่เป็นไรครับ” ธามบอกด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปตอบคำถามพ่อของฟูมิโกะ“ผมรักมิโกะจังครับ”“รักถึงขั้นไหน”ธามหันมามองใบหน้าหวานที่เอาแต่ก้มหน้างุดด้วยความประหม่าไม่รู้ว่าคำตอบของเขาจะออกมาในรูปแบบไหน“ถึงขั้นที่อาจจะมีหลานให้ทุกคนครับ”“ว่าไงนะ?! แกท้องเหรอมิโกะจัง?” ฟุทามิที่กำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปากเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจ“พะ…พี่จะบ้าเหรอไม่ได้ท้องสักหน่อย แล้วนายทำไมไปพูดจากำกวมแบบนั้นเล่า!” ฟูมิโกะรีบปฏิเสธด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก ก่อนจะหันมาต่อว่าคนข้างๆ ที่พูดจาชวนเข้าใจผิดไปแบบนั้น“แล้วไป บ้านฉันไม่รีบมีหลานไม่ต้องเอาหลานมาให้พวกฉันตอนนี้”“ครับ” ธามรับคำสั้นๆ“แล้วมีแพลนจะแต่งงานไหม” คราวนี้เป็นพ่อของฟู
Episode 86ตกหลุมพรางอุณหภูมิห้องดูเหมือนจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอุณหภูมิในร่างกายของทั้งสองคน จังหวะหายใจเริ่มสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ไออุ่นจากฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างขาวเนียนทำให้ไรขนอ่อนลุกชันขึ้นตามอารมณ์กระสันที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมา“อื้อ เดี๋ยวมีคนมา”“ช่างคนอื่นสิ ตอนนี้คิดแค่เรื่องของเราก็พอ” ถ้อยคำหวานที่คอยหลอกล่อให้คนตัวเล็กตกหลุมพราง เริ่มได้ผลขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอเริ่มสูญเสียการควบคุม ร่างกายเริ่มอ่อนแรงเกินกว่าจะผลักไสเขาออกไป หนำซ้ำเธอกลับรู้สึกต้องการเขาเสียด้วยซ้ำ“ห้องเก็บเสียงไหม”“เป็นเรียวกังแบบโบราณน่ะเลยไม่ค่อยเก็บเสียงเท่าไหร่”“อืม เข้าใจแล้วงั้นเธอก็ต้องอดทนหน่อยนะถ้าไม่อยากให้ใครมาได้ยินว่าเราสองคนกำลังทำแผลกันยังไง” ธามกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดูใบหน้าเขินอายของหญิงสาวใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมกับจับใบหน้าหวานให้หันมาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดลงมาบนปลายจมูกเชิดรั้น ริมฝีปากหนาทาบทับลงมาบนริมฝีปากสั่นระริกของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาก่อนจะเริ่มบดขยี้เบาๆ ชิมความหอมหวานที่คุ้นเคยจังหวะลมหายใจที่เริ่มติดขัดส่งผลให้ริมฝีปากบ
Episode 85ยังคิดถึงการต่อสู้ที่ธามเป็นรองตั้งแต่เริ่มต้นทำให้เขาพลาดท่าถูกดาบฟันเข้าที่ต้นแขนข้างขวาจนเลือดอาบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้เลย ในขณะที่อีกคนพยายามกัดฟันข่มความเจ็บปวดเดินหน้าต่อสู้อยู่นั้น คนดูอย่างฟูมิโกะกลับร้องไห้ออกมาจนแทบไม่มีเสียงให้ร้อง“พอได้แล้ว…ฮึก พ่อหนูยอมแล้วให้หนูแต่งงานกับใครก็ได้ หนูจะไม่โกหกแล้ว” ฟูมิโกะรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายสะบัดแขนออกจากพันธนาการของลูกน้องวิ่งออกมาคุกเข่าขอร้องต่อหน้าพ่อตัวเองพร้อมกับกอดขาพี่ชายตัวเองเอาไว้ไม่ให้ลงมือไปมากกว่านี้“ทำอะไรของเธอน่ะฉันจัดการได้” ธามทิ้งดาบเดินเข้ามาพยุงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น แต่เธอกลับกอดขาพี่ชายเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เสียงร้องไห้ของเธอทำให้เธอแทบจะไม่ได้ยินอะไรรอบตัวเลยในตอนนี้“ไม่เอา พอได้แล้ว…ฮึก นายยอมแพ้เถอะนะ” ฟูมิโกะบอกเสียงสั่น “เธอยังสู้เพื่อฉันขนาดนี้แล้วฉันจะยอมแพ้ได้ยังไง” ธามบอกพร้อมกับลูบศีรษะทุยเบาๆ ด้วยความเอ็นดู“เฮ้อ ไปรักกันที่อื่นไป” ฟุทามิถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปส่งดาบให้ลูกน้องเอาไปเก็บ ส่วนเขาก็เดินกลับมานั่งจิบชาที่นั่งตัวเอง“พาไปทำแผลสิมิโกะ” แม่ของฟูมิโกะ
Episode 84ด่านเคราะห์ว่าที่พ่อตายากูซ่าฟูมิโกะวิ่งตามธามออกมาที่รถ มือเล็กๆ เอื้อมไปคว้ามือเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะเดินไปไกลกว่านี้“เดี๋ยวก่อนสิเรายังไม่ได้กินอะไรกันเลยนะ”“ฉันกินไม่ลงแล้ว เธอกลับไปกินกับไอ้หน้าจืดนั่นแทนสิคงมีความหลังให้ต้องคุยกันเยอะน่าดู”“นายหึงเหรอ? นายทำเหมือนหึงฉันอีกแล้วนะรู้ไหม” ฟูมิโกะถามเพื่อความชัดเจน“ฉันทำขนาดนี้แล้วเธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าฉันชอบเธอขนาดไหน ชอบจนอยากเข้าไปซัดหน้าไอ้นั่นที่เข้ามาคุยกับเธอเต็มทีแล้ว เธอต่างหากตั้งแต่เริ่มต้นเคยคิดจะจริงจังกับฉันบ้างไหม หรือเห็นฉันเป็นแค่ไม้กันหมาเอาไว้หนีการแต่งงานแค่นั้นถึงได้คิดว่าคำพูดและการกระทำของฉันมันไม่มีค่าพอให้เธอเก็บมาใส่ใจว่าฉันทำไปเพราะชอบเธอจริงๆ ไม่ใช่การแสดงแบบที่เธอทำอยู่!”“หมายความว่ายังไง? การแสดงอย่างงั้นเหรอ?”“คุณพ่อ!” คนตัวเล็กตาเบิกโพลงด้วยความตกใจที่เห็นพ่อตัวเองเดินเข้ามาพร้อมกับพี่ชายตัวเอง เธอใช้เหตุผลในการเลิกรากับธามเพื่อบอกครอบครัวตัวเองถึงการกลับมาญี่ปุ่นของเธอและขอร้องไม่ให้ครอบครัวเข้าไปยุ่งในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว“กลับไปคุยกันที่บ้าน
Episode 83ใจไม่แข็งพอเมื่อใจไม่แข็งพอสุดท้ายเธอก็พาตัวเองขึ้นมาอยู่บนรถกับธามจนได้ โดยที่ตัวเธอเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายทางที่กำลังจะไปคือที่ไหน“จะพาฉันไปไหน”“ไม่รู้เหมือนกัน แค่บอกให้คนขับรถขับวนไปเรื่อยๆ”“ว่างเหรอ”“ไม่ว่าง แต่ไม่รู้จะทำยังไงไม่ให้เธอหนีไปอีก”“นายมีอะไรจะพูดก็พูดมา” ฟูมิโกะชิงตัดบทสนทนากลบเกลื่อนอาการประหม่าของตัวเอง“หาร้านกินข้าวกันไหม”“อือ”ธามบอกให้คนขับรถแวะร้านอาหารให้ ระหว่างนั้นก็แอบยื่นมือไปกุมมือเรียวเอาไว้ แต่เธอกลับดึงมือออกอีกทั้งยังไม่ยอมมองหน้าเขาตรงๆ สักทีเขาเองก็ไม่อยากบีบคั้นเธอให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไป จึงรอให้ถึงร้านอาหารแล้วค่อยหาโอกาสเปิดใจคุยกับเธออย่างจริงจังร้านอาหาร“อยากสั่งอะไรเพิ่มไหม” ธามเอ่ยถามหลังจากสั่งอาหารที่คิดว่าเธอน่าจะชอบมาหลายอย่าง“ไม่แล้ว แค่นั้นก็กินไม่หมดแล้ว” ฟูมิโกะตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก“ฉันสั่งแต่ของที่เธอน่าจะชอบมาทั้งนั้นเลยนะ”“รู้ได้ยังไงว่าฉันชอบกินอะไร”“ก็สังเกตเอาเวลากินข้าวด้วยกันไง เธอชอบกินอะไรที่มันครีมมี่ๆ ใช่ไหม ไว้วันหลังฉันจะลองทำให้กินนะ”“นายไม่ต้องมาทำตัวดีกับฉันหรอก ฉันไม่ชินมีอะไ
Episode 82ขอจีบได้ไหมประเทศญี่ปุ่นธามเงยหน้ามองท้องฟ้าประเทศญี่ปุ่นด้วยหัวใจที่กลับมาเต้นแรงมีความหวังอีกครั้ง อย่างน้อยๆ ก็ได้เข้าใกล้ฟูมิโกะเข้ามาอีกนิดถึงแม้จะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าก้าวต่อๆ ไปจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะเขาก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาที่มาเหยียบถึงถิ่นยากูซ่า เพราะได้รับความช่วยเหลือจากอาคิรา เลยมีคนจัดเตรียมที่พัก และคนขับรถเอาไว้ให้ ธามสั่งให้คนขับรถพาเขาไปที่บ้านของฟูมิโกะทันทีที่มาถึง‘มาขอพบฟูมิโกะจัง’ธามชูกระดาษที่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นให้บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าประตูดู เพราะเขาไม่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ โดยธีลินพี่สาวของเขาเป็นคนเขียนเตรียมมาให้ทั้งหมด‘บอกว่าธามมาขอพบ’บอดี้การ์ดหันมามองหน้ากัน ก่อนอีกคนจะเดินหายเข้าไปในตัวบ้านเพื่อรายงานการมาของเขา ไม่นานก็กลับออกมา“คุณหนูไม่อนุญาตให้เข้าพบ” ธามหันไปมองหน้าคนของอาคิราที่มากับเขาเพื่อให้ช่วยแปลความหมายที่บอดี้การ์ดพูดมาเมื่อครู่นี้“เขาบอกว่าไม่ให้เข้าพบครับ”“แสดงว่าอยู่ที่นี่จริงๆ สินะ” ธามพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหยิบกระดาษอีกแผ่นส่งให้บอดี้การ์ด “บอกว่าเอาไปให้มิโกะจังให้หน่อย” ธามหันไปขอความ
Episode 81ทบทวน“กันเขาไว้ และต่อไปนี้ห้ามให้ผู้ชายคนนี้เข้าใกล้ฉันอีก” ฟูมิโกะออกคำสั่งลูกน้องเสียงเรียบ ก่อนจะก้าวขึ้นรถไปโดยไม่หันหลังไปมองธามเลยว่าเขาพยายามที่จะฝ่าด่านลูกน้องเข้ามาหาเธอแค่ไหนซึ่งแน่นอนว่าเขาทำมันไม่สำเร็จ ทุกอย่างจึงจบลงด้วยการจากไปแบบไม่มีวันหวนกลับของฟูมิโกะ และเรื่องราววุ่นวายที่เขาไม่ต้องการให้มีในชีวิตด้วยเช่นกันแต่ทำไมในใจของเขากลับรู้สึกผิด และเจ็บปวดมากกว่าดีใจเสียอีก นั่นเป็นเพราะแม้แต่คำว่าขอโทษเขาก็ไม่ได้เอ่ยออกไปต่อหน้าเธอส่วนฟูมิโกะเองหลังจากคืนนั้นเธอก็บินตรงกลับญี่ปุ่นทันทีทำให้ต่อให้ธามจะบุกไปหาเธอที่คอนโดอีกกี่ครั้งก็ไม่มีทางได้พบเจอกับเธออีกแล้ว“ไหวไหมเนี่ยพี่ธาม ไปทะเลาะกันยังไงทำไมถึงได้…” โซ่เดินมาถามด้วยความเป็นห่วง หลายวันมานี้เขาเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณทำอะไรเหม่อลอยไปหมด วันๆ แทบจะอยู่ไม่ติดร้านเอาแต่ไปเฝ้าคอนโดของฟูมิโกะทั้งวันส่วนผ้าแพรหลังจากกลับจากทะเลก็ได้มาขอโทษกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป และพยายามเว้นระยะห่างจากธามจนบรรยากาศในร้านดูอึดอัด“คนผิดคือฉันเอง สมควรแล้วที่เป็นแบบนี้” ธามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและแววตาว่างเปล่า“ผิดแล