ไทเกอร์คิดว่าเดี๋ยวแต่งกันไปคงจะรักกันเอง ที่เขาอยากจะให้สิบทิศแต่งงาน เพื่ออยากจะดึงลูกชายไว้ที่นี่ เพราะผู้หญิงที่สิบทิศพัวพันด้วย ถึงแม้จะเป็นเชื้อชาติไทย แต่เธอคนนั้นก็มีสัญชาติต่างประเทศ เพราะมีครอบครัวอยู่ที่โน่น ไทเกอร์กลัวว่าสักวันลูกจะไปอยู่กับหญิงคนรัก
เย็นวันเดียวกัน
"ถ้าผ่านช่วงนี้ไปแล้วเดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเอง" ไทเกอร์เข้ามาในห้องนอนเห็นผู้เป็นภรรยานั่งเหม่อลอยอยู่หน้ากระจก
"คุณพูดกับใครคะ" ที่รักมองซ้ายขวา แล้วก็ถามออกไป
"คุณอย่างอนผมนักเลย ที่ผมทำไปก็เพื่ออยากให้ลูกอยู่ที่นี่"
"ที่นี่บ้านของเขา ถ้าเขาไม่อยู่ที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน"
"ถ้ามันเอากับผู้หญิงคนนั้น ยังไงวันยันค่ำมันก็ต้องไปอยู่กับเขาที่ต่างประเทศแน่"
"แต่ลูกไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้ พวกเขาทั้งสองยังไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ"
"คุณก็ดูอย่างเราสองคนสิที่รัก แต่ก่อนคุณจำได้ไหมว่าคุณแม่.."
"จำได้สิคะ จำได้ว่าคุณไม่ได้รักฉัน"
"ไปกันใหญ่แล้วผมแค่ยกตัวอย่าง..อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง"
"คุณก็เลยจะให้ลูกเดินตามรอย?"
"คุณช่วยเข้าใจผมหน่อยสิ"
"ค่ะฉันเข้าใจ" ว่าแล้วที่รักก็เดินออกจากห้องไป ถ้าอยู่ตรงนี้คงได้ทะเลาะกัน
พอลงมาถึงข้างล่างก็เห็นเข็มทิศลูกชายคนเล็กเดินเข้ามาพอดี
"ทะเลาะกับคุณพ่ออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย" ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาโอบกอดแม่ เวลาที่เขาเห็นหน้าของแม่ไม่สู้ดีเขาก็จะทำแบบนี้
"ก็มีอยู่แค่เรื่องเดียวนั่นแหละลูก ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็ว"
"คุณพ่อน่ะสิครับโทรตาม"
"โทรตาม?" นี่เขาจะทำอะไรอีก??
"กลับมาแล้วเหรอ" ไทเกอร์เดินตามภรรยาลงมาก็เห็นว่ากำลังกอดอยู่กับลูกชายคนเล็ก
"ครับพ่อ"
"เข้ามาหาพ่อในห้องทำงานหน่อย" ว่าแล้วชายวัยกลางคนก็เดินเข้าห้องทำงานที่อยู่ชั้นล่าง
ที่รักเป็นห่วงลูกชายทั้งสองคนมาก เพราะความคิดของสามี เขาอาจจะบริหารงานได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง..แต่กับเรื่องครอบครัวเขาล้มเหลวมาก แทนที่เขาจะสอนให้ลูกสองคนรักกัน แต่กลับสอนให้ลูกพยายามทำให้ดีกว่าอีกคนให้ได้
"เรื่องผู้หญิงคนนั้นลูกถอยออกมาได้แล้ว"
"อะไรนะครับ"
"ก็ผู้หญิงคนที่พ่อบอกให้ลูกลองคบหาดูใจ"
"แล้วยังไงครับ"
"พ่อจะให้เธอแต่งงานกับพี่ชายเรา"
"พ่อ!"
ก่อนที่ลูกชายจะพูดอะไรมากไปกว่านั้น สายตาของผู้เป็นพ่อจ้องเขม็ง
"ครับ"
วันต่อมา.. ที่บริษัท
"ผู้ชายคนนั้นมาอีกแล้ว" พนักงานต้อนรับด้านหน้าเห็นว่าคนเมื่อวานเดินเข้ามาก็เลยกระซิบพูดกัน
"ตกลงเขาเป็นใครกัน"
"ฉันก็ยังไม่รู้ แต่ดูท่าทางคงจะใหญ่พอตัว" ที่พนักงานพูดกันแบบนี้ เพราะเมื่อวานเขาไม่ยอมยื่นบัตร แถมยังถือวิสาสะขึ้นไปชั้นผู้บริหารโดยที่ไม่ฟังคำห้ามปราม
และวันนี้ก็เช่นกัน ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาเดินผ่านพนักงานตรงไปที่ลิฟต์แบบไม่ให้ความสำคัญอะไรกับเรื่องพวกนี้
"เมื่อคืนแกไปนอนไหนมา" ไทเกอร์ถามขึ้นทันทีที่เห็นสิบทิศเดินเข้ามา
"นอนที่คอนโด"
"คอนโดที่แกซื้อให้ผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ"
"รู้สึกว่าผมทำอะไรพ่อก็รู้ไปหมดเลยนะ"
"ถ้าแกไม่อยากให้ฉันรู้ก็อย่าเอาเงินของวงตระกูลไปใช้สิ..หาเองได้ไหมล่ะ"
"ไหนห้องทำงานของผม" สิบทิศรู้ดีว่าถ้าจะเถียงกับพ่อเรื่องเงินเขาคงแพ้แน่
"ยังไม่ได้จัดให้"
"ตกลงพ่อจะให้ผมทำงานไหม"
"เย็นนี้นัดทานข้าวกับคนที่แกจะแต่งงานด้วย"
"ผมไม่ทาน"
ไทเกอร์วางปากกาลงที่โต๊ะอย่างแรง สายตาจ้องมองลูกชายคนโตแบบเอาเรื่อง
"ไปเจอกันงานแต่งเลยแล้วกัน..พรุ่งนี้พ่อจัดทันไหมล่ะ" เขาท้าทายพ่อกลับบ้าง ..สิบทิศมองดูหน้าผู้เป็นพ่อ "ถ้าพรุ่งนี้จัดไม่ทันงั้นผมก็ไม่แต่ง"
..มันคือคำขาดของเขาเช่นกัน เพราะพ่อของเขาหน้าใหญ่ขนาดนี้ คงไม่จัดงานเล็กๆ และถ้าเป็นงานใหญ่ใช้เวลาจัดเตรียมเพียงแค่วันเดียวคงไม่ทันแน่
หญิงสาวได้แต่นั่งจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์..ซึ่งตอนนี้มีแค่รูปลูกชายที่ปรากฏอยู่ เพราะมันเป็นรูปพักหน้าจอมือเรียวรีบยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้า เธอคิดถึงพวกเขาทั้งสองมาก ร้องไห้อยู่แบบนั้นเพียงไม่นานก็หลับไปเพราะฤทธิ์ยาที่ทานหลังอาหารเช้าวันต่อมา.."ยี่สิบกว่าสาย!??" ตื่นมาก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู สายจากสามีโทรมายี่สิบกว่าสาย ละอองดาวนึกตำหนิตัวเองที่ไม่ได้เปิดเสียงไว้ ถ้าไม่งั้นคงจะได้คุยกับเขาแล้ว หญิงสาวรีบโทรกลับไป แต่เหมือนปลายสายจะปิดเครื่อง ..เขาโกรธหรือเปล่าที่เราไม่ได้รับโทรศัพท์ ละอองดาวทำอะไรไม่ได้แล้ว เธอก็เลยเดินเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำก่อนออกไปทำงานคนตัวเล็กยืนอยู่ใต้ฝักบัวนานพอสมควร เพื่อให้มันชำระคราบน้ำตาออก เธอยังนึกเสียดายที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ของสามีแกร็ก~ ประตูห้องน้ำได้ถูกเปิดออกมาจากคนที่อยู่ด้านใน ขาเรียวก้าวเดินออกจากห้องน้ำมา แล้วก็ไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ของห้องนั้นด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่ สายตางามมองกระจกไม่ยอมกระพริบ เพราะคิดว่าตัวเองมองผิด"เราคิดถึงเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ" หญิงสาวคิดว่ามันเป็นภาพลวงตาที่เธอจินตนาการขึ้นมา เพรา
สองปีต่อมา ถึงตอนนี้ทั้งสองก็อายุใกล้จะ 5 ขวบแล้วมีบางทีได้ออกไปนอกบ้านบ้าง เพราะต้องให้รู้สถานที่จริงนอกจากให้ดูในหนังสือและในอินเทอร์เน็ต ส่วนเรื่องเรียน มีครูสอนพิเศษเข้ามาสอนถึงที่บ้านและตอนนี้ทุกคนในบ้านก็ชินแล้ว เพราะรู้ดีว่าความปลอดภัยของเด็กๆ ต้องมาเป็นอันดับแรกในเย็นวันนั้น.. ก่อนวันเกิดของเด็กทั้งสองเพียงแค่ไม่กี่วัน ราชทูตก็เดินทางมาขอเข้าพบเจ้าหญิงด้วยตัวเอง"อะไรนะคะ? แต่ลูกของฉันยังเล็กมาก" เมื่อได้ยินหญิงสาวแทบเข่าทรุด เพราะไม่คิดว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้"ใช่แล้วครับ พระองค์ยังอายุน้อยมาก พวกเราถึงได้เชิญเจ้าหญิงให้กลับไปเพื่อเป็นผู้สำเร็จราชการแทนไปก่อน" ตอนนี้ประชาชนได้ทำสำเร็จแล้ว พวกเขาทวงคืนทุกอย่างกลับมาได้โดยเสียเลือดเสียเนื้อเพียงไม่มาก เพราะคนข้างกายของกบฏผู้นั้นลงมือสังหารเอง"ฉันเหรอคะ" พอรู้ว่าเธอจะต้องได้ไปทำหน้าที่สำเร็จราชการแทนลูกชาย หญิงสาวรีบหันไปมองสามีที่นั่งอยู่ข้างกาย ถึงแม้ว่าจะเป็นการเข้าพบแบบส่วนตัว แต่เข็มทิศไม่ยอมปล่อยให้เธออยู่ในห้องกับพวกเขาเพียงลำพัง"แล้วแต่เจ้าหญิงจะตัดสินใจเลยครับ" มันคือเวลาที่เธอรอคอย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธออยากจะกลั
"อือ" พอความเป็นชายสอดใส่เข้ามาในร่างกาย มือเรียวก็รีบดันหน้าอกสามีไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะโน้มตัวลงมาทับเจ้าตัวเล็ก"ผมระวังอยู่" เสียงทุ้มกระซิบออกมาแผ่วเบา พร้อมกับขยับสะโพกเบาๆ "อ้าาา" ยิ่งทำเบาก็ยิ่งมีความเสียว หรืออาจเพราะไม่ได้ปลดปล่อยนานแล้ว"อื้อออ""เจ็บเหรอครับ" เขาไม่รู้ว่าการมีอะไรกับหญิงตั้งครรภ์ต้องทำได้ประมาณไหน ยิ่งกับท่อนเอ็นลำใหญ่ของเขาแล้วกลัวว่ามันจะเข้าลึกเกินไป"เปล่าค่ะแล้วคุณจะหยุดทำไม" ที่จริงเธอก็เสียวไม่แพ้กัน ที่ครางออกมาเพราะเริ่มมีอารมณ์"ผมกลัวคุณเจ็บ" ชายหนุ่มพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม และนึกเอ็นดูที่เธอตำหนิว่าจะหยุดทำไม "ซี๊ดดด..ผมต่อเลยนะ" แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาให้เห็นเพราะกลัวว่าเธอจะอาย แล้วท่อนเอ็นอุ่นก็เริ่มขยับเข้าออกโดยเพิ่มความเร็วขึ้นตามลำดับ เพราะไม่อยากจะอดกลั้นนาน"อื้อ อื้อ อื้อ // อ้าาา ปล่อยแล้วนะครับ" ทั้งสองครวญครางออกมาพร้อมกัน เพราะเริ่มทนความเสียดสีไม่ไหว และเพียงไม่นานชายหนุ่มก็รีบชักท่อนเอ็นออกมาเมื่อปล่อยน้ำออกหมดแล้ว เพราะกลัวจะเผลอไปทับเจ้าตัวเล็กเข้า"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวถามเมื่อเขาลุกขึ้นแล้วโอบอุ้มเอาร่างของเธอขึ้นมาด
"คุณหมอรู้จักฉันเหรอคะ?" หญิงสาวนัยน์ตาสวยมองไปที่หมอคนที่เพิ่งจะเอ่ยชื่อเธอออกมา"คุณหมอรู้จักภรรยาผมได้ยังไง.." เข็มทิศก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าหมอคนนี้รู้จักภรรยาของเขาได้ยังไง"หมอเป็นใคร!" สิบทิศรีบเข้ามาขวางหน้าแก้วกานดาไว้ เพราะเขาไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าหมอคนนี้เพิ่งจะช่วยชีวิตแม่ยายของเขามา"ใจเย็นก่อนสิลูกปล่อยให้คุณหมอได้พูดบ้าง" ที่รักและไทเกอร์รีบเข้ามาห้ามลูกๆ ไว้ก่อน เพราะดูจากท่าทีแล้วหมอคนนี้คงไม่ใช่คนร้าย ถ้าไม่งั้นคงไม่ช่วยแม่ของลูกสะใภ้จนปลอดภัย"ผมคือหมอที่ถูกส่งมาเพื่อดูแลเจ้าหญิงโดยเฉพาะครับ เพราะตอนนี้เจ้าหญิงกำลังทรงพระครรภ์องค์รัชทายาท" ที่จริงหมอคนนี้แค่รอเวลาที่จะเดินทางมา แต่พอเกิดเหตุนี้ขึ้น ก็เลยรีบปรากฏตัวก่อน เพราะไม่อยากจะให้เจ้าหญิงอัญมณี มีความทุกข์ใจเกี่ยวกับญาติของสามี กลัวจะส่งผลถึงองค์รัชทายาทที่อยู่ในครรภ์ของเธอ"ขอบคุณเจ้าหญิงมากนะคะ" ได้ยินแบบนั้นละอองดาวรีบหันมายกมือไหว้ขอบคุณแก้วกานดา"อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ เราเป็นญาติกันไม่ใช่เหรอคะ" แก้วกานดารีบรับไหว้ด้วยการไหว้กลับ แล้วใบหน้างามก็หันไปมอง.. "คุณหมอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงคะ" เธอหมายถึ
พอได้ข่าวเรื่องนี้พวกเขาถึงกับไม่ทานข้าวเช้า และก็รีบออกมาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง"ออกมาพร้อมกันแต่คุณพ่อถึงก่อนซะงั้น" คนที่พูดก็คือแก้วกานดา เพราะเดินทางมารถคนละคัน พอมาถึงก็เห็นรถของพ่อสามีจอดอยู่แต่ไม่มีคน"คุณรู้จักพ่อผมน้อยไป สมัยท่านเป็นหนุ่มๆ ซ่าไม่เบา""ซ่ากว่าลูกอีกเหรอคะ""ผมเทียบท่านไม่ติดหรอก" ทั้งสองคุยในระหว่างที่รีบเดินเข้ามา แต่เข็มทิศก็พยายามประคองภรรยากลัวว่าจะหกล้มเอาในเวลาเดียวกันนั้นหน้าห้องผ่าตัด"แม่เราเป็นอะไร" ไทเกอร์ถามขึ้นทันทีที่เจอลูกชายกับลูกสะใภ้อยู่หน้าห้อง"คุณแม่มีอาการปวดหัวขึ้นมาอีก คุณสิบทิศก็เลยพามาที่โรงพยาบาลค่ะ""ปวดหัว? ตอนนั้นหายแล้วไม่ใช่เหรอ""ใช่ค่ะแต่พอมาเช็คดูใหม่อีกครั้ง เจอเนื้องอกอยู่ในนั้น" น้ำตาของลูกสาวไหลรินในขณะที่พูด จนสามีโอบร่างของเธอเข้ามากอดไว้เพื่อปลอบ"แล้วเข้าห้องผ่าตัดนานหรือยัง""ตอนที่โทรไปหาแม่นั่นแหละครับ" สิบทิศตอบผู้เป็นพ่อบ้างเพราะตอนนี้ภรรยามัวแต่ร้องไห้"หมอสมัยนี้เก่งหนูไม่ต้องคิดมาก ถ้าที่นี่รักษาไม่ได้เราจะไปรักษากันที่ต่างประเทศ""ขอบคุณมากนะคะ" ที่ละอองดาวตกใจมากก็เพราะเธอเสียพ่อไปกะทันหัน กว่าจะเจอโรคร้
"ถ้าอยากออกมาขับรถเล่นทำไมถึงไม่ชวนผม คุณรู้ไหมว่ามันอันตรายมากแค่ไหน" ตอนที่เธอลงมาเขาเผลอหลับไป ..ถ้าไม่ได้ยินเสียงข้อความที่พ่อส่งเข้าเครื่อง คงยังไม่รู้ว่าเมียตัวเองออกจากบ้านมาขับรถรับลมกับแม่"ขอโทษค่ะ ฉันไม่คิดว่าจะออกมาไกลขนาดนี้" ถึงแม้ว่าจะสำนึกผิดแต่ก็ไม่กล้าบอกความจริง เพราะความจริงนั้นมันเกี่ยวกับความรู้สึกของใครอีกคน"ทีหน้าทีหลังจำไว้อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ถ้าอยากออกมาให้บอกผม" ถ้าเธอไม่มาเจอตำรวจแต่ไปเจอผู้ร้ายพวกนั้นจะทำยังไงยิ่งมีแต่ผู้หญิง เขาก็เลยอดที่จะตำหนิไม่ได้ แต่พอเห็นสีหน้าที่สำนึกผิดของภรรยาแล้ว ชายหนุ่มก็เลยหันไปพูดกับตำรวจ "..ผมจะรับตัวภรรยากับแม่กลับบ้านได้หรือยังครับคุณตำรวจ""ได้แล้วครับเชิญเลยครับ""แล้วรถคันนี้ล่ะคะ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเขาพาเธอเดินมารถคันที่เขาขับออกมา"เอาไว้นี่แหละ ค่อยให้คนมาเอากลับบ้าน""คุณจะไปไหน..มาขึ้นรถกับผมดีกว่า" ไทเกอร์เดินมาคว้าแขนของภรรยาเพื่อที่จะให้นั่งรถคันเดียวกันกลับ"ไม่ค่ะฉันจะกลับกับลูก" ที่รักจับแขนสามีออกแล้วก็เดินตามลูกชายมาที่รถ"เป็นอะไรของเขา" พอภรรยาไม่กลับด้วยไทเกอร์ก็เลยยังไม่กลับบ้านเพราะงานของเขาย