LOGINบทที่ 6 ผู้ชายขายน้ำ
แผ่นหลังบอบบางเหยียดตรงแต่ยังไม่ยอมหันกลับไปให้เสียฟอร์ม คิ้วโก่งคันศรขมวดมุ่น พลางคิดในใจว่าต้องมีเรื่องแน่ ยามปกติเธอกับลิลลี่ไม่สุงสิงกัน
ลลิตไม่ชอบรสนิยมใช้ผู้ชายเปลืองเป็นว่าเล่นของลูกสาวนายตำรวจใหญ่ เพื่อนชายที่มหาวิทยาลัยหลายคนอกหักยับเยินเพราะหลงให้ใจสาวหน้าสวยแต่ใจเสือคนนี้
“ครีม ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่”
ลิลลี่เข้ามาใกล้ส่งเสียงร้องทัก ลลิตจึงจำใจหันกลับไปแสร้งยิ้มกว้าง ดวงตากลมโตประหลาดใจ
“อ้าว ลิลลี่ เพิ่งจะเห็นเลยไม่ได้ทัก”
ลิลลี่ลอบเบะปากความมารยาของลลิต เพราะเธอรู้ว่าเจ้าหล่อนเห็นเธอแล้วเต็ม ๆ ตอนที่กวาดตามองหาโต๊ะนั่ง
“ไม่เป็นไร พอดีเพื่อนเราที่มาด้วย ...”
“เพื่อน!! แน่เหรอลิลลี่”
ลลิตขัดขึ้นด้วยเสียงสูงปรี๊ดรู้ทันก่อนที่ลิลลี่จะพูดจบประโยค พร้อมยิ้มกว้างดวงตาเจ้าเล่ห์ เขย่าแก้วเหล้าในมือ
“เพื่อนจริง ๆ! เขาอยากรู้จักครีมน่ะ”
ลิลลี่ลงเสียงหนักขึ้น ดวงตาเริ่มขุ่นเคือง
“อยากรู้จัก! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนทำให้คุณหนูใหญ่วงการตำรวจ ต้องลุกจากโต๊ะมาชวนสาวอีกคนได้ ช่างเป็นคนที่ .. ดู .. น่าเกรงขาม”
ลลิตทำมือวาดบนลงล่างผายออกไปทางเพื่อนสาวคล้ายยกย่อง จนใบหน้าลิลลี่แดงซ่านระเรื่อขึ้นทันควันก่อนกลายเป็นสีแดงจัด ปากเย้ายวนสีแดงเบอร์กันดีเม้มแน่น ดวงตาหรี่ลงไม่พอใจ
ปกติลิลลี่เองก็ไม่ชอบลลิตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่รับอาสามาเองโดยที่ห่าวอี้ไม่ได้ใช้ก็เพราะอยากเห็นแม่สาวคนนี้เจอดีบ้าง ลิลลี่ฝืนทนกัดฟันพูดออกไป
“ใช่แล้ว เธอต้องอยากรู้จักแน่นอน”
“ทำไมฉันต้องอยากรู้จักคู่ขาของเธอด้วยลิลลี่”
ลลิตแกว่งแก้วในมือชูขึ้นสูงตรงหน้าลิลลี่ ส่งสายตามองแสงไฟที่ส่องในแก้ว ลอบมองเพื่อนผ่านสีใสของเหล้ามาร์การิต้า อมยิ้มเมื่อเห็นลิลลี่ไม่อาจระงับความโกรธเกรี้ยวได้ ดวงหน้าที่เติมทั้งฟิลเลอร์และโบท็อกซ์เขียวคล้ำปนแดง
“ก็เพราะ ...”
ลูกสาวนายตำรวจกัดฟันพูดผ่านไรฟัน แต่ไม่ทันได้พูดจบก็ถูกหญิงสาวลูกมาเฟียใหญ่ขัดขึ้นเสียก่อนอีกครั้ง
“อีกอย่างนะ ระดับคนอย่างชั้น ไม่เดินไปหาใครง่าย ๆ โดยเฉพาะผู้ชาย .. อืม ใช้คำไหนดีนะพี่โซอี้ ครีมนึกคำไม่ถูกเลย”
ใบหน้าหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางแต่พอดีส่งให้ลลิตยิ่งหน้าหวาน เบิกดวงตากว้างก่อนหรี่ลงยิ้มมุมปาก ดูแล้วร้ายกาจปนเจ้าเล่ห์ แสร้งทำเสียงหวานใสแต่เชิดใบหน้าขึ้นคล้ายสะใจ กวาดตามองหน้าแดงก่ำของคนตรงหน้า แล้วส่งยิ้มกว้างให้เพื่อนสาวอีกครั้ง ดีดนิ้วเปาะตรงหน้าลิลลี่คล้ายนึกคำขึ้นได้
เปาะ!
“อ้อ คงต้องเป็นคำนี้แน่เลย ผู้ชายขายน้ำ ใช่ไหมพี่โซอี้”
เสียงหัวเราะหวานใสดังขึ้นเมื่อลูกสาวนายตำรวจสะบัดหน้าพรืด เดินขาขวิดโกรธจัดกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง สังเกตว่าหนุ่มสูงใหญ่หน้าหล่อยังมองเธอไม่วางตา จึงเชิดหน้าใส่หน้าคมเข้มหล่อจัดทรงยุโรปผสมเอเชียดูแปลกประหลาด แล้วสะบัดหน้ากลับหันไปด้านในของบาร์
“คุณครีม ทำเกินไปหรือเปล่า”
เสียงภคินีเริ่มไม่แน่ใจ หางตาสังเกตว่าพ่อกล้ามโตคล้ายปูตัวใหญ่มองตามมายังพวกเธอจับจ้องไม่วางตา แม้ว่าเธอถูกฝึกฝนอย่างมาดีช่ำชอง แต่ถ้าเทียบกับนายคนนั้นเธอยังห่างไกลลิบลับ
“ไม่หรอกพี่โซอี้ อย่างลิลลี่ต้องเจอแบบนี้ ชิ คิดว่าเราจะง่าย ๆ หรือไง ส่วนผู้ชายคนนั้นถ้าอยากรู้จักสาวก็หัดกล้า ๆ หน่อย หลบหลังกระโปรงผู้หญิง ไม่แมนเลย”
“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะคุณครีม โน้นบอดี้การ์ดของเขายืนอยู่ไกล ๆ คาดว่าคงระดับใช่ย่อย”
“พี่รู้จักไหมบอดี้การ์ดคนนั้น”
ลลิตเอี้ยวหน้าหันไปมองตรงที่ภคินีทำปากบุ้ยใบ้ ถึงค่อยเห็นชายร่างยักษ์หน้าตี๋ถือแก้วเหล้าเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ถ้ามองดีดีจะพบว่าสายตาเขาไม่เคยหยุดนิ่ง คอยลอบสังเกตและกวาดตาไปโดยรอบเพื่อตรวจดูสิ่งผิดปกติ แต่หยุดนิ่งทางเธอเป็นพิเศษ
“ไม่รู้จัก ดูแล้วเป็นคนจีน คุณครีมอย่าไปสุงสิงด้วยน่ะถูกแล้ว”
ลลิตชายตามองไปยังโต๊ะลิลลี่อีกครั้ง ลูกสาวนายตำรวจกำลังหย่อนร่างเซ็กซี่ลงข้างตัวชายหนุ่ม ส่วนเขายังจ้องเธอไม่วางตา จึงหรี่ตาลงสู้แล้วเชิดหน้าใส่ให้อีกหนึ่งครั้ง
ขอให้ตาบอดสะนะพ่อหนุ่มคู่ขา!
“ลิลลี่ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย รู้ไหมอลัน ยายนั่นมันปากจัดขนาดไหน”
เขาเบือนหน้าออกมาจากร่างระหงสวยจัด จึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าใบหน้าลิลลี่แดงก่ำโกรธจัด
“ทำไมล่ะ”
“ยายนั่นว่าคุณว่าเป็นผู้ชายขายน้ำของฉัน บ้าจริง!! ฉันยังไม่ทันจะบอกเลยว่าคุณเป็นใคร ขอให้ตาบอดไปเลย เจอคนดีสนใจไม่เล่นด้วย ก็ขอให้เจอผู้ชายห่วย ๆ ไปแล้วกัน”
“พูดจาไม่น่ารักเลยลิลลี่”
น้ำเสียงยานคานคล้ายหยอกล้อมุมปากขยับชอบใจ ถ้าสาวคนนั้นจะดุปากจัดขนาดนั้นยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีก
“โอ้ย!! อลัน รอให้คุณได้ยินจากปากของแม่นั่นเองก่อนเถอะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมรู้แล้วนี่ว่าเธอเป็นใคร”
“แล้ววันนี้ลิลลี่กลับบ้านกับอลันได้ไหม คิดถึงร่างแน่น ๆ”
จู่ ๆ ลิลลี่ก็กลับมาอารมณ์ดีส่งเสียงออดอ้อน เอื้อมมือออกไปบีบต้นแขนล้ำแน่นของอลัน
“อย่าดีกว่า เมื่อคืนผมเพิ่งจัดหนักไปอยากจะพัก”
“อย่างอลันเนี่ยนะต้องพัก! ลิลลี่ว่าคุณคงกลัวแม่สาวปากจัดเห็นว่ากลับด้วยกันกับลิลลี่ใช่ไหม”
เขายิ้มอารมณ์ดี ยกสก็อตวิสกี้ขึ้นจิบ ดวงตาคมสีน้ำตาลยังมองแต่ร่างระหงบนเก้าอี้ทรงสูงหน้าบาร์เครื่องดื่มคนนั้น
ถ้าเป็นเธอต่อให้ไม่ต้องพักไปอีกหลายเดือนเขาก็ยอม
ห่าวอี้ส่งสายตาไปยังบอดี้การ์ดคนสนิทที่ยืนอยู่ไกล ๆ จากนั้นโจวเว่ยจึงวางแก้วลงเดินไปทางสองสาวทันทีอย่างรู้งาน
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง”
ประโยคทักทายแบบภาษาอังกฤษสำเนียงแปลกดังขึ้นด้านหลัง ภคินีรีบส่งร่างแข็งแกร่งเข้าขวางตรงหน้าทันที กั้นระหว่างพ่อกล้ามปูกับคุณหนูลลิต เมื่อครู่เธอเผลอลดความระวังตัวชั่วไม่กี่วินาทีจนชายร่างยักษ์แต่เดินแผ่วเบาว่องไวคนนี้ เดินมาจนถึงตัวเธอจึงเพิ่งจะรู้สึก
“ไม่ทราบมีธุระอะไร”
โจวเว่ยมองสาวร่างเล็กกว่าเนื้อแน่นด้วยกล้ามอย่างผู้หญิง พลันยิ้มกว้างถูกใจ บอดี้การ์ดอย่างเขาต้องการอะไรที่มันสมน้ำสมเนื้อ คือหุ่นบึกบึนเสียหน่อยจะได้ไม่ต้องออมแรง
“ผมชื่อโจวเว่ย เป็นบอดี้การ์ดของ ห่าวอี้ เฉิน หรือคุณอลัน”
ห้าวอี้ เฉิน!
ชื่อนี้ทำให้คุณหนูอย่างลลิตสนใจทันที หันหน้าขวับกลับไปหาบอดี้การ์ดร่างโต ส่งมือเล็กเรียวดันร่างบอดี้การ์ดสาวของตัวเองออกพ้นทางเพื่อจะได้สนทนากับพ่อหนุ่มกล้ามปูได้ถนัด
“คุณพูดใหม่สิ ฉันไม่ได้ฟังผิดไปนะ”
“ครับ อลัน ห่าวอี้ เฉิน อยากจะรู้จักคุณครับ”
หน้าหวานหันกลับไปมองหนุ่มต้นเรื่อง ท่าทางแสนมั่นใจในตนเองกำลังยกแก้วสก็อตวิสกี้ขึ้นสูงให้เธอ
“นั่นมัน ห่าวอี้ เจ้าของคลับโฮสเมจิกไนต์ งั้นเหรอ?”
“ครับ คุณห่าวอี้ต้องการเชิญคุณไปร่วมโต๊ะครับ”
ลลิตคลี่รอยยิ้มแสนหวานหรี่ดวงตาลง ในใจพลันนึกถึงต้นเหตุทำให้เธอต้องขัดห้องน้ำสามวัน เอนเรือนร่างบอบบางแต่อวบอิ่มไปด้านหลัง แผ่นหลังพิงเคาน์เตอร์บาร์ใช้ข้อศอกเท้าแขนลงบนหน้าท็อปบาร์ยกเท้าไขว้ห้างสูงจนชุดเดรสรั้งเห็นต้นขาขาวเนียน ลำตัวแอ่นโค้งจนยอดอกพุ่งชัน เอียงใบหน้าเชิดขึ้นหลุบตากวาดไปทั่วร่างบอดี้การ์ดจนพ่อกล้ามปูหน้าแดงก่ำ ก่อนใบหน้าหวานจะยกมุมปากหนึ่งข้างพร้อมโก่งคิ้วสูง
“แล้วเขาไม่มีขาหรือไง เขาคิดว่าแค่พูดชื่อแล้วจะทำให้ฉันยอมเดินไปอย่างงั้นเหรอ บอกเขาว่า ฉันชื่อ ลลิต อนันตโชค เจ้าของคลับโฮสซีเคร็ต คู่แข่งของเขา ถ้ายังอยากรู้จักฉันก็ต้องเดินมาเอง”
ลลิตยิ้มหวานให้บอดี้การ์ดหน้าตี๋อีกครั้งก่อนหมุนเก้าอี้กลับไปหายังบาร์เทนเดอร์ ปล่อยพ่อกล้ามปูร่างยักษ์เดินกลับไปถ่ายทอดคำพูด
ฮึ นายห่าวอี้ ดูสิว่าจะทำยังไง
“คุณครีม เขาคือห่าวอี้ เฉิน พี่ว่าเรากลับกันเถอะ ถ้าขืนอยู่นานเขาจับได้ว่าคุณครีมลอบเข้าไป พี่ว่าไม่ดีแน่ ๆ ตายห่าแล้ว! ไม่ทัน เขาเดินมาแล้ว”
บอดี้การ์ดสาวคงตกใจจริงเพราะตามปกติลลิตแทบไม่เคยได้ยินภคินีหลุดคำหยาบแม้แต่น้อย
บทที่ 30**NC จบ“อื้อ เฮีย เฮีย!!”“จ๋าครีมมี่ เมียรัก”“อย่าแรงนักสิ ครีมจุก”“โอ๊ย!! เฮียไม่ไหวหรอก ต้องแรง ๆ”ร่างเล็กสั่นสะเทือนยามคนร่างสูงเสียบเสยจากด้านหลังในท่าคุกเข่าพาดขอบเตียงดวงตาพร่าเลือนจากแรงส่งโจนจ้วง จากช่วงเที่ยงตอนนี้บ่ายคล้อยจนแสงเริ่มทอสีส้ม พลันคิดว่าป่านนี้คนในบ้านคงรับรู้กันหมดแล้วว่าห่าวอี้กับเธอกำลังทำอะไรกัน“อื้อ อ่า อา รอบนี้เสร็จแล้วครีมขอพักนะ อื้อ”“งั้นนาน ๆ หน่อยแล้วกันนะครีมมี่”“นาน ๆ!!”มือแกร่งดันศีรษะเล็กของเธอไว้จมเตียงยามยกเท้าอีกข้างบนขอบเตียงขย่มตัวลงกระแทกตอกจนร่างเธอจมฟูก“ครีมมี่!! อา ซี้ดด อ่า”ห่าวอี้ค่อยถอนลำรูดยาวช้าเกือบสุดสอดเสียบเข้าไปใหม่จนมิด ความรู้สึกยามอยู่ในฝักร้อนดีจนเขาเกือบหลั่งออกมาหลายครั้งแต่ยังยั้งใจสะกดกลั้นไว้ได้ทัน“เฮีย!! อื้อ อ่า เร็วสิ อย่าช้า”คนด้านหลังเธอหัวเราะเสียงทุ้มต่ำแต่ยังไม่ทำตามใจเธอ ส่งจังหวะช้า ๆ ถอนออกและเข้าสุดดำเนินต่อไปอีกสักพักจนน่าขัดใจ มือเล็กทุบเตียงข้างหน้า“เฮีย!! โอ๊ย! เร็ว ๆ สิ อ่า เร็วอีก ช้าแบบนี้เมื่อไรครีมจะเสร็จ”“อู้ยย! อย่าเร่งสิจ๊ะ อ่า โอ๊ยตอดอีกแล้ว ซี้ดด ช้า ๆ ได้พร่าเล่มงามนะค
บทที่ 29 ผัวเมียไม่เจอกันนาน“เออ ครีมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ลาที่ทำงาน ครีมขอตัวกลับก่อนนะคะ”สาวร่างเล็กไม่รอช้า เธอไม่แม้แต่ไหว้ลา อารามรีบร้อนแทบทำเก้าอี้ล้มด้วยซ้ำเมื่อดันออกไปด้านหลัง“ไปตามห่าวอี้เดี๋ยวนี้!!”ตากลมโตเบิกโพลงมองไปทางอเล็กซ์พ่อของห่าวอี้ หน้าหวานเปลี่ยนสีจนเกือบซีดเผือด ออกวิ่งไปยังประตูด้านหน้า แต่ในเมื่อเธออยู่ในบ้านของมาเฟียใหญ่กวางโจว จึงมีบอดี้การ์ดคุมกันเข้มข้นชายร่างยักษ์สองคนขวางเธอไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะออกจากโถงกลางหน้าบ้านด้วยซ้ำเสียงรองเท้าที่กำลังเดินลงบันไดลงมา ฝีเท้าหนักแน่นจนเธอเองไม่กล้าหันกลับไปมองอย่านะ ได้โปรด ขออย่าให้เป็นเขาเธอไม่รอให้คำภาวนาเป็นผลหรือไม่ พุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วก่อนจะเบี่ยงซ้ายหลบใต้รักแร้ของบอดี้การ์ด“ให้ตายเถอะ!!”เสียงทุ้มต่ำบนบันไดยิ่งทำให้ลลิตวิ่งสุดชีวิตอีกนิดเดียวเธอจะถึงประตูบ้าน เสียงฝีเท้าด้านหลังยิ่งกว่าเสียงอันน่าหวาดหวั่นใดในชีวิต“ว้าย!! ปล่อยนะ!! ปล่อยนะไอ้ห่าวอี้”มือใหญ่คว้าเอวเหวี่ยงแรงจนร่างเล็กหมุนแต่ไม่ล้มเพราะเขาจับเธออุ้มขึ้นเสียก่อนตุบ!!รองเท้าส้นสูงหล่นกระจัดกระจายเพราะลลิตเตะขาไปมาอย่างแรง
บทที่ 28 อาอี้!!“บอสครับ”ห่าวอี้หันกลับไปหาบอดี้การ์ดหนุ่ม ในมือยังถือแก้ววิสกี้ ดวงตาคมกล้าดุดันตามอารมณ์สุดเหวี่ยงในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา“ยังไม่เจอครับ เส้นทางการเงินก็ไม่พบครับ”ตึก!!มือแกร่งกระแทกแก้ววิสกี้ลงกับโต๊ะทำงานในบ้านหลังใหญ่กวางโจว เป็นเวลากว่าห้าเดือนมาแล้วที่เขายังตามหาลลิตไม่เลิกรา เธอไม่ติดต่อใครยกเว้นพี่สาวสองคนซึ่งแต่ละคนก็ไม่ยอมปริปากบอกแม้ว่าเขาจะขอร้องอย่างไรแชะ!!มือหยิบซิการ์ขึ้นมาจุดหันกลับไปทางหน้าต่างของบ้านขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ชานเมืองที่นี่ก็เหมือนชาวจีนทั่วไปที่มักนิยมอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ทั้งป๊า ม๊า โกว เตี๋ย[1] ยังอาตี๋ลูกของอาโกวกับอาเตี๋ย“แล้ววันนี้ตั้งโต๊ะกี่โมง”“ยังไม่แน่ใจครับบอส บอสเฉินยังไม่เรียก คงจะรอเพื่อนของคุณไฉ”ห่าวอี้พยักหน้ารับไม่พูดอะไรต่ออีกนอกจากยืนสูบซิการ์ ส่วนโจวเว่ยถอยหลังกลับออกไป บอดี้การ์ดร่างยักษ์จึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมา ช่วงห้าเดือนที่ผ่านมาเวลาเขาเข้าไปหาบอสอย่างกับว่ากำลังเดินบนเส้นด้ายบาง ๆ ที่พร้อมขาดผึงตลอดเวลาห่าวอี้หย่อนร่างลงเก้าอี้ตัวใหญ่เอนกายพิงพนักยกขาไขว่ เหมือนผ่อนคลายแต่ไม่ใช่เลย ร่างกายเขาตึงเครียดใกล้ถ
บทที่ 27 ตายห่าแล้ว“เดี๋ยวรอเจ้าครีมก่อน ใกล้เสร็จแล้ว เด็กสาวก็แบบนี้พิถีพิถัน”“ครับไม่เป็นไรครับรอได้ครับ”“มานั่ง ๆ ก่อน แล้วนี่ทำคลับเป็นไงบ้าง”“ก็ดีครับ ได้รับการตอบรับดีมากครับ”“แล้วมีโปรเจกใหม่หรือยัง”“มีแล้วครับ ไม่เกินหนึ่งปีคงได้ขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง”“ดี ๆ อาชอบคนขยันทำมาหากิน อ้อ นั่นเจ้าครีมมาแล้ว”ห่าวอี้ลุกขึ้นยืนทันทีอย่างสุภาพบุรุษพึงกระทำ หันกลับไปทางเสียงรองเท้าส้นสูงเดินย่ำกระเบื้องมาตามโถงใจอดชื่นชมไม่ได้ว่าเข้าใจเลือกแต่เมื่อสาวร่างระหงพ้นประตูเข้ามา นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างตกใจจนปิดไม่มิดก่อนหรี่แคบลงเห็นดวงหน้างดงามของลลิตเองก็มีสีหน้าตกใจเช่นกัน“ห่าวอี้!!”“ครีม!!”ต่างคนต่างเรียกชื่อของกันและกันน้ำเสียงตื่นตระหนก แต่คนร่างเล็กกว่ารู้ดีว่าเป็นฝีมือใคร ลลิตหันไปหาขุนพลทันที“ป๊า นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน อย่าบอกนะว่าคนนี้คือคนที่จะมาดูตัว”“ดูตัว? ดูตัว!!”“ทำไม ไม่ต้องมาทำเสียงแข็งที่นี่เลยนะห่าวอี้”เธอก้าวเข้ามาในห้องพร้อมทำเสียงแหลมไม่พอใจ ลงถ้าคุณหนูคนเล็กแผลงฤทธิ์ ใครหน้าไหนก็หยุดเธอไม่ได้รวมไปถึงขุนพลด้วย“ครีมมีนัดดูตัว!!!”“ใช่! คุณเองก็เหมือนก
บทที่ 26 เอาแล้ว“ก็เขาเป็นคนใหญ่คนโต จะมานัดข้างนอกใครเห็นจะดูไม่ดี ไปทานข้าวที่บ้านเขาน่ะดีแล้ว ทำความรู้จักบ้านว่าที่พ่อตาแม่ยายไว้”“นี่ผมหนีไม่ได้แล้วใช่ไหม”“ใช่ มันเป็นหน้าที่ของลื้ออาอี้”มือใหญ่วางโทรศัพท์ลงด้านข้างใบหน้าเข้มแข็งกระด้างขึ้นโดยไม่ทันสังเกตว่าคนข้าง ๆ หน้าถอดสี“อิ่มหรือยังคนดี วันนี้ค้างกับเฮียนะ”“ไม่ค่ะ ครีมต้องกลับบ้าน ป๊ากับม๊าให้กลับบ้าน”“ฮื้อ แล้วจะมาที่ร้านอีกวันไหน ถ้าไปหลายวันเฮียคิดถึงแย่เลย”ห่าวอี้ยกมือปัดลูกผมไปทัดหูแล้วใช้นิ้วหัวแม่เขี่ยริมฝีปากกระจับ แค่นั่งมองระหว่างมื้ออาหารเขาเองก็อยากจะโน้มหน้าไปจูบอีกแล้ว“แล้วเมื่อกี้ใครคะโทรมา”“ป๊าโทรมาจากจีน”“อ้อ แล้วว่ายังไงบ้างคะ”“ไม่มีอะไร ก็ถามเรื่องทั่วไป”ลลิตพยักหน้ารับเงียบ ๆ เธอกำลังมึนงง ตั้งตัวไม่ทันเมื่อได้ยินสองพ่อลูกคุยกัน ดูเหมือนว่าห่าวอี้เองมีคู่หมั้นแล้วใกล้แต่งงาน คล้ายเป็นการแต่งงานคลุมถุงชนแล้วเธอล่ะ เธอจะอยู่ตรงส่วนไหนของชีวิตเขา หรือว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฮุบคลับโฮสของเธอตามปกติลลิตไม่ใช่คนที่ใช้ความคิดหมกมุ่น เธอมักคิดในคราวเดียวจนจบอย่างรวดเร็วตามลักษณะนิสัยห้าวเล็กน้อ
บทที่ 25***NCห่าวอี้กวาดตาไปบนทรวงอก ยอดถันสีชมพูสวยงามแต่โดยรอบล้วนมีแต่รอยแดงจากคิสมาร์คที่เขาจงใจทำไว้“งั้นขอดูก่อนว่าแดงจริงไหม”“ห่าวอี้!!”ห่าวอี้สลัดผ้าห่มออกจากร่างเลื่อนตัวลงไปยังเนินสาว จับต้นขาเปิดออก“อ้าขาสิ แบบนี้เฮียจะเห็นได้ยังไง”“จะบ้าเหรอ สว่างแล้ว!!”“ก็ยิ่งดี จะได้เห็นชัด ๆ ไง ครีมมี่ เร็ว! อ้าขาออก”สั่งแล้วคนตัวโตก็จับต้นขาเธอดันขึ้น แล้วจับมือเธอมาให้จับต้นขาของตัวเองไว้“จับไว้แน่น ๆ สิครีมมี่ ดันไปตรงหน้าอก เฮียจะดูว่าแดงจริงหรือเปล่า”ลลิตก้มหน้าลงมองผ่านกลางหว่างขาเห็นบอสหนุ่มตั้งใจมองเนินสาวของเธอจริงจังมาก“เฮีย นี่เอาจริง?”“ก็ไม่แดงเท่าไรนะ สีชมพูระเรื่อกำลังสวยพอดีเลย อืม ยังหวานอยู่เลย”กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองเสียท่าให้คนที่อยู่กลางหว่างขา ลิ้นสากก็ลงละเลงลากขึ้นลง“อืม ดูสิ ขอดูอีกนิดนะ ใช้นิ้วตรวจดูก่อนว่าเป็นยังไง”“อื้อ เฮีย!!”ลลิตร้องเสียงหลง ห่าวอี้ทั้งลงลิ้นทั้งใช้นิ้วจัดการเนินสาวจนฉ่ำน้ำใบหน้าคมเข้มแนบลงใกล้เนินสวาท เนื้อนุ่มสีขาวอมชมพูอวบอูม ลิ้นยาวตวัดกลีบบางเซาะเข้าสู่หลืบร่องแล้วดูดน้ำจากเม็ดสวยตรงกลาง หงายมือสอดนิ้วขยับเข้าออกถี่จนน้ำห







