“ไม่! ฉันไม่ได้... ฉันไม่เคยสัญญากับเขา คุณเป็นสามีของฉัน” โดโรธีร้องไห้ อเล็กซ์กล่าวว่า “คุณคิดว่าผมตาบอดเหรอ? ผมเห็นแล้ว!” โดโรธีกล่าวว่า “ฉัน... ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น ฉันขอโทษ ที่รัก คุณอยู่ที่ไหนฉันอยากเจอคุณ ให้ฉันอธิบายและขอโทษคุณเถอะนะ ฉันขอโทษ ฉันไม่สมควรเชื่อสปาร์ค คุณจะลงโทษฉันหรือจะตีฉันก็ได้ ได้โปรดมาเจอกันเถอะนะ” เมื่ออเล็กซ์ได้ยินโดโรธีอ้อนวอนทางโทรศัพท์อย่างสิ้นหวัง ความโกรธของเขาก็สงบลง แต่เขาก็คิดอีกแง่หนึ่ง ‘โอ้ย ตอนที่ท่านเล็กซ์เปิดตัวที่แอสเส็กซ์ เขาพูดกับเรานายท่านอเล็กซ์ หมายความว่าตัวตนของเราถูกเปิดเผยใช่ไหม ตระกูลแอสเส็กซ์เป็นคนดูดเลือดดูดเนื้อแน่นอน พวกเขาต้องการให้เรากลับไป จากนั้นพวกเขาจะให้เราเซ็นสัญญาพันล้านดอลลาร์กับบริษัท เธาซันด์ ไมล์ อีกครั้ง ไอ้โง่ ไปลงนรกซะ!’ เขาคิดในใจ จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณมาขอโทษเพราะคุณท่านโจแอนน์บอกให้ทำใช่ไหม?” โดโรธีพูดทันทีว่า “ไม่! ฉันอยากจะขอโทษเอง ที่รักคุณลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นคนยังไง? ฉันรู้สึกไม่สบายใจเมื่อคุณไม่รับสายฉัน บอกฉันว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้หากเราได้พบกัน” อเล็กซ์ถอ
อย่างไรก็ตาม ก็สามารถพูดตรงกันข้ามได้ ใครก็ตามที่ได้รับผลประโยชน์จากบริษัท เธาซันด์ ไมล์ จะเจริญรุ่งเรือง เมื่ออเล็กซ์มาถึง คุณท่านโจแอนน์เป็นคนแรกที่ทักทายเขา ตรงกันข้ามกับพฤติกรรมก่อนหน้านี้คุณท่านโจแอนน์ยิ้มปาดจะถึงรูหู ราวกับว่าเธอเป็นคนละคน เธอจับมืออเล็กซ์และพูดว่า “อเล็กซ์ มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด ฉันผิดที่จะตัดสินนายเร็วเกินไป มันเป็นความผิดพลาดของฉัน ทั้งหมดนี้เกิดจาก นายน้อยสปาร์ค และท่านบิล เราทุกคนถูกหลอกโดยคำพูดของพวกเขา!” ที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ คือเบนนีย์ แอสเส็กซ์, แอนเดอร์สัน แอสเส็กซ์ และสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลแอสเส็กซ์ต่างก็ยิ้มอย่างขอโทษ อเล็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงแบบไม่ใส่ใจว่า “เนื่องจากมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมจะไปนอนเพราะผมเหนื่อย” คุณท่านโจแอนน์รีบพูด "ได้โปรดเถอะ! ตอนนี้ท่านเล็กซ์ฉีกสัญญาพันล้านดอลลาร์ที่สัญญาไว้กับเรา ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับท่านเล็กซ์เป็นอย่างไรบ้าง นายช่วยโทรหาท่านและขอให้ท่านเซ็นสัญญาใหม่อีกครั้งได้ไหม?” แอนเดอร์สัน แอสเส็กซ์ กล่าวว่า “ใช่ ดูเหมือนว่า ท่านเล็กซ์ จะให้ความสำคัญกับนายอย่างมาก ทำไมนายไม่อธิบา
ดวงตาของเบียทริซเบิกกว้างทันที “นายซื้อสร้อยคอราคาสามสิบล้านเหรียญจริง ๆ เหรอ? นายได้รับเงินจาก ท่านเล็กซ์เท่าไหร่?” คุณนายแคลร์ก็สงสัยเช่นกัน อเล็กซ์ยักไหล่ “ผมมีเงินไม่มาก สร้อยคอเป็นของขวัญจากท่านเล็กซ์ และแหวนแต่งงานที่ผมได้มาก็ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย” คุณนายแคลร์ตบต้นขาของตัวเองเสียงดัง “โอ้พระเจ้า! นายทิ้งสร้อยคอมูลค่าสามสิบล้านเหรียญไปได้ยังไง? นายนี่มันคนโง่เขลาจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย?” อเล็กซ์ตอบว่า “คุณต่างหากเป็นคนโยนมันทิ้ง” คุณนายแคลร์จำได้ว่าเธอเป็นคนที่โยนสร้อยคอลงพื้นและเสียใจอย่างมาก! เบียทริซกล่าวว่า "ฉันจำได้ว่าผู้หญิงที่รับสร้อยคอนั้นเป็นคนที่นายรู้จัก เธอคือ... คุณหมอเชอริลใช่ไหม? นายขอสร้อยคอคืนมาได้ไหม?" ดวงตาของคุณนายแคลร์สว่างขึ้น “โอ้ใช่ เราต้องไปเอาคืน” อเล็กซ์ส่ายหัว เขาอายเกินกว่าจะขอคืน! เขาเพิ่งแกล้งทำเป็นแฟนของคุณหมอเชอริล เขายิ่งเขินอายกับเหตุการณ์ในลิฟต์ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจบอกเรื่องโกหก “ผมไปถามแล้ว แต่เธอคิดว่ามันเป็นแค่เศษแก้วที่ทำเลียนแบบและเธอก็ ให้เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไปแล้ว” "ฮะ?" กรามของโดโรธีกระแทกพื้น คุณนายแคลร์รู้สึกสิ้นหวัง “พร
‘เธอจะไม่มีทางพูดแบบนี้ ถ้าเธอรู้ว่าฉันเป็นผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์’ อเล็กซ์คิดอย่างไรก็ตามตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยเรื่องนี้โดโรธี กล่าวเสริม “ฉันหวังว่าคุณจะเอาเวลาไปคิดว่าคุณต้องการจะทำอะไรในอนาคตข้างหน้าดีกว่านะ อายุคุณก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ และคุณยังไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างกับชีวิตของคุณเลย! ฉันรู้ว่าคุณจะพูดอะไร คุณก็ต้องดูแลแม่ของคุณ แต่คุณก็สามาถจ้างคนมาดูแลได้ไม่ใช่เหรอ? คุณแค่ไปหางานทำเถอะ หรือคุณจะมาทำงานในบริษัทของฉันก็ได้”อเล็กซ์รู้สึกลำบากใจ เขาไม่ต้องการที่จะปล่อยแม่ของเขาไว้ให้คนอื่นดูแลอย่างไรก็ตาม เขาพยักหน้า ภายใต้สายตาของโดโรธี “โอเค ไว้ผมจะเก็บเรื่องนี้ไปคิด”เช้าวันรุ่งขึ้น อเล็กซ์ขับรถของคุณหนูโดโรธีเพื่อไปส่งเธอที่สนามบินเธอพบกับเพื่อนร่วมงานของเธอที่นั่นเพื่อที่จะเข้าร่วมนิทรรศการในเมือง บล็อคจากนั้นอเล็กซ์ก็ขับรถกลับบ้านระหว่างทางกลับบ้านเขาได้รับสายจากคุณหมอเชอริล “อเล็กซ์ คุณต้องมาที่โรงพยาบาลด่วนเลย เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ของคุณ”“เกิดอะไรขึ้นกับแม่?” อเล็กซ์พูดด้วยความตกใจ“เราจะคุยกันตอนคุณมาถึง” เชอริลตอบด้วยน้ำเสียงจ
ตบนั้นทำให้เชอริลตกใจ แก้มของเธอแดงอย่างร้อนผ่าวสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือคำพูดของคุณนายแคลร์ เชอริลรู้ว่าตัวเองบริสุทธิ์ เธอเป็นแค่หมอเท่านั้นเอง ทำไมเธอจะต้องทนกับการกระทำแบบนี้?เสียงตะโกนของคุณนายแคลร์ดังไปทั่วทั้งพื้นที่ทำให้สร้างความสนใจให้เหล่าพยาบาลและผู้คนแถวนั้นมากมาย “ระวังคำพูดด้วยค่ะ คุณนาย กรุณาอย่าพูดจาไร้สาระค่ะ” เชอริลหงุดหงิดคุณนายแคลร์เป็นคนอารมณ์ร้อนมาก เป็นคนที่เก็บอารมณ์ความเสียใจไว้และพร้อมที่จะแก้แค้นเสมอเธอเหวี่ยงมือของเธออีกครั้ง เชอริลซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้โดนตบเข้าที่หน้าเต็ม ๆ คุณนายแคลร์ตะโกน “ไร้สาระ! ระวังคำพูดงั้นเหรอ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าเธอควรจะเป็นคนที่จะต้องระวังคำพูดมากกว่านะ! ยั่วยวนสามีของคนอื่นเหมือนที่เธอกำลังทำอยู่ไงล่ะ แม้กระทั่งกอดกันในที่สาธารณะแบบนี้! ทำไมไม่ยอมรับว่าเธอมันน่าไม่อาย!? ฉันเห็นหมดแล้ว! บนเสื้อผ้าของเธอมีแม้กระทั่งน้ำลาย! เหลือแค่พวกเธอยังไม่แก้ผ้าเท่านั้นหล่ะ…”ทุกคนในที่นั้นกำลังจ้องมองพวกเขาและกระซิบนินทาเชอริลเหมือนจุดถูกชนวนความโกรธ เธอรู้สึกได้ถึงความโกรธที่พร้อมจะประทุออกมาอเล็กซ์ซึ่งตกอยู่ในสภาวะงงงวยก็ดึงสต
แม่เจ้าโว้ย!อเล็กซ์คิดอย่างถี่ถ้วน ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับคัมภีร์ มันกำลังเสนอตัวเอง หน้ากระดาษแต่ละหน้ากำลังพลิกหน้าสลับไปมาเองและเหมือนกับว่ากำลังจะถูกจัดเรียงใหม่ ทุกอย่างเข้าหาเข้าเพียงแค่พริบตาเดียว การแพทย์ดั้งเดิม, ไสยศาสตร์, เวทมนตร์,ยาเสน่ห์ และแม้กระทั่งวิทธายุทธบำบัด เหมือนทุกอย่างเข้าปกคลุมไปในความคิดของเขาในขณะที่พลังอันอบอุ่นไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้อเล็กซ์รู้สึกผ่อนคลาย“อเล็กซ์ อเล็กซ์?” เสียงของเชอริลดังเข้าไปในหูของเขา ดึงเขาให้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงเขากระพริบตา “ฮะ? ผมอยู่ที่ไหน แล้วแม่อยู่ไหน? คุณหมอโคนีย์”“อยู่ ๆ คุณก็เป็นลมไปอเล็กซ์” เชอริลตอบในขณะนั้น มีพยาบาลเร่งรีบเข้ามา “คุณหมอโคนีย์ คุณบริตทานี ร็อคกี้เฟลเลอร์ คนไข้ได้หยุดหายใจแล้ว….”หมอและพยาบาลจำนวนมากพุ่งตรงเข้าไปในห้องของบริตทานีอเล็กซ์มองเห็นแม่ของเขานอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอซีดขาวดุจผ้าสีขาวและสัญญาณชีพจรที่แสดงเป็นเส้นตรง หมอคนหนึ่งเดินเข้าหาพวกเขา พร้อมกับค่อย ๆ ส่ายหน้า“แม่! แม่…” อเล็กซ์พุ่งไปข้างเตียงของบริตทานีพร้อมกับร้องไห้ออกมาสุดเสียงในขณะนั้น ความรู้บ
เชอริลไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเธอเข้าไปใกล้ข้างเตียงของบริตทานีและสังเกตุเห็นเปลือกตาของเธอสั่นและค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเชอริลคิดว่าเธอกำลังเห็นภาพหลอนจากนั้นเธอก็ดึงสติตัวเองกลับมา เธอร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “อเล็กซ์ อเล็กซ์! แม่ของคุณฟื้นแล้ว! เธอฟื้นแล้ว!”อเล็กซ์ลืมตาขึ้นทันที อย่างตื้นตันใจ“แม่! แม่! แม่ฟื้นแล้ว!” อเล็กซ์อุทานออกมา เขาจับมือของบริตทานีไว้ ตาของเขาค่อย ๆ พลันเป็นสีแดงในขณะเดียวกันกับที่น้ำตาของเขาค่อย ๆ รินไหลออกมามันเป็นเรื่องจริง คัมภีร์เป็นเรื่องจริงแม้กระทั่งบรรพบุรุษของเขาก็มีจริงทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณบรรพบุรุษของเขาเชอริลรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและเริ่มที่จะร้องไห้เหมือนกัน เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบริตทานีจะฟื้นขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาเพิ่งจะแจ้งการตายของเธอเมื่อไม่นานมานี้ จากนั้นเธอก็ฟื้นขึ้นมาทันทีนี่มันเป็นปาฏิหาริย์แห่งวงการแพทย์!“หรือว่ามันจะเป็นเพราะจากการที่เขาพยายามช่วยชีวิตของเธอ?” เชอริลบ่นพึมพำกับตัวเอง จ้องมองไปที่อเล็กซ์ด้วยสายตาที่ชวนสงสัยบริตทานีฟื้นขึ้นมาและหันไปหาอเล็กซ์ “อเล็กซ์ ที่นี่ที่ไหนกัน?”คุณหมอเชอริลวิ่งออกจากห้องคนไข้เพ
สิบปีต่อมา ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป มีทุนทรัพย์ร่วม 300 พันล้านและกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในแคลิฟอร์เนียความสำเร็จของตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์เกิดขึ้นจากการทำงานหนักของวิลเลียมและบริตทานีอย่างไรก็ตาม สุดท้ายตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ก็เตะพวกเขาทั้งคู่ออกจากตระกูล และจอห์นก็สานต่อธุรกิจแม้กระทั่งนายน้อยสปาร์คยังต้องการภรรยาของอเล็กซ์อีกด้วยถ้าทั้งหมดนี้เป็นกลอุบายของจอห์นจริง ๆ มันคงต้องเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดอเล็กซ์กำมือแน่น “แม่ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าพ่อตายเพราะเป็นแผนของอารอง ผมจะทำให้เขาได้รับบทเรียนอย่างสาสมที่สุด”อเล็กซ์ตัดสินใจอยู่ค้างที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนแม่แทนที่จะกลับไปแอสเส็กซ์ วิลล่า เขารู้ว่าถ้าเขากลับไป ทุกอย่างคงแย่ลงแน่ ๆ บริตทานีเพิ่งจะฟื้นขึ้นจากโคม่าซึ่งร่างกายของเธอยังคงอ่อนแอ เธอจึงพล่อยหลับไปไม่กี่นาทีในทางกลับกัน อเล็กซ์ ไม่สามารถใจเย็นได้แหวนที่พ่อเขาได้ทิ้งไว้ให้เขา มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ ‘พ่อรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า?’ ในระหว่างที่อเล็กซ์นั่งข้างเตียงเขาก็คิด เขายังสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่ไหลผ่านสู่ทั่วทั้งร่างกายของเขา‘นี่เป็นพลังชี่ที่บรรพบุรุษให้มาเ