เขาเลิกคิ้วแล้วอุทานเป็นคำถามในลำคอเบาๆ คีตะไม่เข้าใจคำถามของคนตรงหน้า ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขาอยู่สถานที่แบบไหนถึงต้องร้องในใจ แต่ไม่ทันจะอ้าปากพูดก็อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
“คืองี้ ถ้าพี่คีตะรับงาน แกล้งควงเป็นแฟน ไปเที่ยว กินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ ปกติพี่คิดเรทพวกนี้เท่าไหร่”
“ฉัน?”
เขายังคงทำหน้างงไม่เลิก แล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
ก็จะไม่ให้งงได้ยังไง
กูแค่มาส่งของให้คนที่เขาจ้าง เป็นงานพิเศษที่รับทำอยู่ตอนนี้ แล้วงานที่เขาทำก็ไม่ใช่งานที่สาวรุ่นน้องคนนี้เข้าใจ
เขาจำเธอได้ เพื่อนของเมียไอ้บูม ซึ่งไอ้บูมเป็นเพื่อนต่างคณะของเขา จำได้ก็เพราะว่าสวยนั่นแหละ เห็นครั้งแรกก็สะดุดตาแล้ว ถึงเขาจะไม่ค่อยสนใจใคร ไม่ค่อยพูดกับใคร แต่ก็เห็นคนนี้อยู่นะในสายตาเวลาเจอกัน
เธอชอบยิ้มให้เขา...
เป็นครั้งแรกที่ป๊อปได้เห็นเขาในชุดอื่นที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษา ใส่เพียงเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงคาร์โก้สีดำแบบที่ผู้ชายหุ่นดีๆ เขาใส่กัน ยอมรับว่าเขาในชุดนี้ดูดีมากทีเดียว เป็นความธรรมดาที่โคตรจะพิเศษ
“อือฮึ พี่คิดเท่าไหร่ ป๊อปจ่ายได้นะ” ก็ป๊อปมันลูกคนรวยและเขาก็คงรู้
ป๊อปไม่คิดว่าตัวเองต้องอายกับเรื่องนี้ ในเมื่อเขารับงาน เธอเองก็มีเงินจ่ายไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม เธอไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเห็นแก่เงินหรืออะไรทั้งนั้น งานแบบนี้มันก็มีมาตั้งนานแล้ว ผู้ชายที่ทำงานแบบนี้ก็ไม่ได้ดูแย่ในสายตาเธอ
“เธออยากให้ทำอะไร” เขาถามเสียงเรียบพลางคิดในใจ
ฉิบหายไหมไม่รู้ แต่ทำก็ทำวะ
กูจะมาเปลี่ยนงานตอนนี้เลยได้ไหม ที่จริงมันไม่ใช่แนว ที่ต้องมานั่งเอาอกเอาใจใคร แต่ใครๆ ก็พูดว่างานนี้เงินดี แล้วยายนี่ก็คนกันเองไม่เห็นมีอะไรต้องห่วง
เธอเสนอ เขาแค่สนอง
“ก็... ชวนคุย พาไปเที่ยว ไปกินข้าว ดูหนัง แล้วก็เดินควงได้ แบบฟิลแฟน”
คีตะฟังแล้วก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง เรื่องราคาก็ไม่รู้เขาคิดกันยังไง งานนี้มันทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้กูร้อนเงิน ต้องเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ถึงสองแสน ไหนจะค่าเทอม เทอมสุดท้ายนี้อีกที่เหลือเวลาถึงสิ้นเดือนเท่านั้น
จะขอไอ้ไคก็เสียหน้าแย่ ทำงานก็ได้น้อยนิด ไหนจะต้องเรียนหนักเทอมสุดท้ายนี้อีก เงินเก็บแม่ก็เหลือไม่กี่บาทแล้วพอก็แต่ค่าเดินทางไปโรงพยาบาลรายสัปดาห์ ยังต้องหาค่าผ่าตัดอีกหลักแสน
“สองแสน” มันคือจำนวนเงินที่เขาต้องใช้ในสิ้นเดือนนี้
ป๊อปเบิกตากว้างเมื่อได้รับคำตอบจากเขา ทว่าอีกฝ่ายไม่มีแววความขี้เล่นอยู่เลย และคนอย่างเขาไม่เหมาะกับคำว่าล้อเล่น ขึ้นชื่อว่ารับงานแต่ป๊อปยังไม่เห็นเขายิ้มเลย
ก็ดีนะ ดูจริงจัง เวลาเจอใครจะได้ไม่หลุด
“สองแสน ได้อะไรบ้าง” ขึ้นเตียงด้วยไหม ถ้าได้ก็คุ้มอยู่
อันนี้ไม่ล้อเล่น เธอเอาจริง ถ้าเขาโสดเธอก็อยากให้มีข้อนี้ อยากรู้ อยากลอง ถ้าเป็นเขาสอนเธอก็พร้อมเรียนรู้
“เธออยากให้ทำอะไรฉันก็ทำ” ทำได้หมด
ประโยคนั้นของคีตะทำเอาคนฟังใจเต้น ไม่อยากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแต่ใครมันจะไม่คิด ที่ว่าทำได้หมดนั้นรวมถึงเรื่องขึ้นเตียงด้วยไหมนะ
“พี่แกล้งๆ เป็นแฟนได้ไหม แล้วเรทนี้มันได้กี่วันกี่เดือนล่ะ”
เขานิ่งไปครู่หนึ่งราวกับใช้ความคิด ก็เพราะไม่ทันได้คิด เรื่องเวลาไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าจะจ่ายตอนไหนเพราะเขาต้องใช้มันสิ้นเดือนนี้แล้ว ถ้าไม่ได้เงินจำนวนนี้คงต้องแบกหน้าไปขอไอ้ไคมัน
ไคคือฝาแฝดของเขาที่แยกจากกันตั้งแต่ยังเด็ก แถมยังเกลียดกันตั้งแต่เด็กเพราะแฝดของเขามันขังเขารมควันเกือบตาย เพิ่งจะมาคุยกันดีๆ เมื่อหลายเดือนก่อนนี้เอง ถึงแม้ตอนนี้จะเข้าใจกันแล้วแต่เขาก็ไม่อยากไปขอร้องอ้อนวอนมัน
จริงอยู่ว่ามันเต็มใจให้เพราะคือเรื่องของแม่ แต่เขาอยากหามันด้วยตัวเองก่อน
เธอมองท่าทางคิดมากของเขา ให้เดาว่าอาจจะมาทำงานใหม่ยังไม่ได้คิดไว้ เงินที่เอ่ยมานั้นอาจจะแค่ลองใจลูกค้า ป๊อปคงต่อราคาได้อีกหน่อยแต่ลองฟังระยะเวลาดูก่อน
“เธออยากได้เท่าไหร่”
เอาก็เอา เวลานี้มันมีทางเลือกสักกี่ทางกัน เขาร้อนเงินเธอเองก็เหงาน่าดู
สองแสน...
ป๊อปคิดในใจว่า อาทิตย์เดียวก็ออกจะแพงไป เด็กใหม่ด้วยจะเอาอกเอาใจเก่งบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่าว่าแต่เป็นเด็กใหม่เลยเผลอๆ วันนี้เขาอาจจะมาสมัครทำงาน ก็ที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นผ่านสื่อเลยสักครั้ง
ถ้าสักเดือนก็คงพอเหมาะพอดี แต่เดือนเดียวมันจะไปพออะไร เผลอๆ อาจทำให้ใครหัวเราะเยาะว่าป๊อปควงหนุ่มหล่อหน้าตาดีคนนี้ได้เดือนเดียวก็ถูกเขาเขี่ยทิ้ง
สามเดือนก็อาจจะกดราคาเขาเกินไป สงสารเขาอีก เพิ่งมาทำงานก็โดนหลอกเสียแล้ว อีกอย่างก็เรื่องแม่ของเขาที่ไม่สบายอาจจะต้องการใช้เงินในส่วนนั้น เธอรู้สึกเห็นใจ เงินสองแสนของเธอกับเขาคุณค่ามันคงต่างกัน
สำหรับเธอซื้อกระเป๋าแบบอันลิมิเต็ดได้แค่หนึ่งใบ แต่สำหรับเขามันอาจจะต่อชีวิตได้อีกหลายเดือน
“งั้นเอางี้ไหม ป๊อปจ่ายให้พี่เป็นเดือนๆ ไป เดือนละสองแสนโอเคไหมล่ะ” ถ้าทำงานไม่ถูกใจก็แค่เดือนเดียวพอ
แต่ถ้าโอเค ไปต่อ เธอพร้อมเปย์ผู้ชายหล่อราวกับเทพบุตรจุติลงมาเกิดแบบเขา
“...”
เขาไม่ตอบแต่นิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้ารับด้วยสีหน้านิ่งเรียบอีกเช่นเคย
มันมากเกินไปจานเขารู้สึกไม่ดี
“สองแสนหนึ่งปีก็ได้ แต่ฉันขอเบิกสิ้นเดือนนี้”
ป๊อปส่ายหน้าไปมาพร้อมกับโบกมือว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดเขา
“ไม่ มันน้อยไปหรือเปล่า หรือระหว่างนี้พี่รับงานอื่นด้วยเหรอ”
“ไม่มีเวลาขนาดนั้น” ราคานี้เขาพร้อมจะยกตัวเองให้เธอหมดเลย จะลูบจะคลำอะไรก็ได้หมด ขอแค่จ่ายจริงไม่เบี้ยวก็พอ
“งั้นก็ตามที่ป๊อปบอกนั่นแหละ พี่ไม่ต้องคิดมากหรอก สองแสนหนึ่งเดือน แต่รับแค่งานเดียวได้ไหม”
เธอคิดว่าเขาอาจจะเกรงใจเพราะเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนของเฌอ แต่เธอไม่คิดแบบนั้นเลย งานก็คืองาน
“อืม”
“งั้นตอนนี้แปลว่าพี่ไปด้วยได้ใช่ไหมหรือร้านมีกฎอะไรหรือเปล่า”
“ไปไหน”
“ไปนั่งร้านอื่นกัน”
เขาเลิกคิ้วแล้วอุทานเป็นคำถามในลำคอเบาๆ คีตะไม่เข้าใจคำถามของคนตรงหน้า ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขาอยู่สถานที่แบบไหนถึงต้องร้องในใจ แต่ไม่ทันจะอ้าปากพูดก็อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน“คืองี้ ถ้าพี่คีตะรับงาน แกล้งควงเป็นแฟน ไปเที่ยว กินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ ปกติพี่คิดเรทพวกนี้เท่าไหร่”“ฉัน?”เขายังคงทำหน้างงไม่เลิก แล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเองก็จะไม่ให้งงได้ยังไงกูแค่มาส่งของให้คนที่เขาจ้าง เป็นงานพิเศษที่รับทำอยู่ตอนนี้ แล้วงานที่เขาทำก็ไม่ใช่งานที่สาวรุ่นน้องคนนี้เข้าใจเขาจำเธอได้ เพื่อนของเมียไอ้บูม ซึ่งไอ้บูมเป็นเพื่อนต่างคณะของเขา จำได้ก็เพราะว่าสวยนั่นแหละ เห็นครั้งแรกก็สะดุดตาแล้ว ถึงเขาจะไม่ค่อยสนใจใคร ไม่ค่อยพูดกับใคร แต่ก็เห็นคนนี้อยู่นะในสายตาเวลาเจอกันเธอชอบยิ้มให้เขา...เป็นครั้งแรกที่ป๊อปได้เห็นเขาในชุดอื่นที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษา ใส่เพียงเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงคาร์โก้สีดำแบบที่ผู้ชายหุ่นดีๆ เขาใส่กัน ยอมรับว่าเขาในชุดนี้ดูดีมากทีเดียว เป็นความธรรมดาที่โคตรจะพิเศษ“อือฮึ พี่คิดเท่าไหร่ ป๊อปจ่ายได้นะ” ก็ป๊อปมันลูกคนรวยและเขาก็คงรู้ป๊อปไม่คิดว่าตัวเองต้องอายกับเรื่องนี้ ในเม
แต่ไม่ยักเห็นใครลงคลิปของเขาเลย เธอพลาดคลิปไหนของร้านไปหรือเปล่านะ หรือเขามีแม่ๆ จองไว้แล้วถึงไม่ถูกโพรโมทเหมือนอย่างคนอื่น“สวัสดีครับ เชิญด้านในเลยครับ ไม่ทราบว่าลูกค้าได้จองโต๊ะไว้หรือเปล่า”พนักงานชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินมาหาป๊อปด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าเธอกำลังยืนเหม่ออยู่หน้าร้านเพราะมัวแต่มองตามคีตะไปจนตอนนี้เขาหายไปทางด้านหลังร้านแล้วหายไปไหนแล้วอยู่ ๆ เธอก็เกิดสนใจเขาขึ้นมา ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาก็แค่คนที่เข้าถึงยากคนหนึ่งเท่านั้นและเธอไม่เคยคิดที่จะเข้ากับเขาอยู่แล้ว“ไม่ค่ะ ไม่ได้จองไว้” เธอตอบพนักงานพลางสอดส่องสายตามองหาเขาอีก แต่ก็ไม่มีเขาแล้วแม้แต่เงาก็ไม่เห็น“มาคนเดียวหรือเปล่าครับ”“สองค่ะ เดี๋ยวเพื่อนตามมาอีกคน”หลังจากนั้นพนักงานก็พาเธอเดินเข้าไปในร้าน ด้านในก็ไม่ได้ต่างจากสถานบันเทิงทั่วไปที่เคยเห็น ลูกค้าส่วนมากเป็นผู้หญิงทั้งนั้น“น้องอยากเปิดเป็นโต๊ะวีไอพีหรือเป็นโต๊ะยืนครับ”ป๊อปหันขวับไปทางพนักงานคนเดิมที่พามาถึงด้านในร้านที่มีโต๊ะแบบยืนอย่างที่ว่ากับส่วนที่เป็นโซฟาซึ่งมีมากกว่า เดาว่านั่นแหละที่เรียกว่าโต๊ะวีไอพีก่อนจะมาก็ไม่ได้หาความรู้เรื่องนี้ไ
ตอนที่ 2 ผู้ชายที่ดีกว่าเอาเข้าจริงการถูกหักหลังจากคนที่ตัวเองรักมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำใจได้ง่ายอย่างที่คิด ตั้งแต่กลับมาถึงห้องในวันนั้นจนถึงวันนี้ไม่มีวันไหนเลยที่ป๊อปจะไม่ร้องไห้ ต่อหน้าใครหลายคนเธออาจเข้มแข็ง เป็นคนที่ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นเลยสักครั้ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความรู้สึกก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายนี้มันก็มีเท่านี้ มีเท่ากับคนอื่น รักเป็น เจ็บเป็น เสียใจเป็นไม่ต่างจากใครบนโลกใบนี้เอาอะไรมารับไหวทุกครั้งที่คบใครก็ให้ใจไปหมด ไม่ว่าจะเพื่อน พี่หรือน้องก็ตาม อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยเต็มที่และสุดกำลัง ใครเดือดร้อนเมื่อไรก็เธอคนนี้นี่แหละที่พร้อมยื่นมือเข้าไปช่วย แล้วทำไมผลของความให้ใจมันเป็นอย่างนี้ มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย“จะไปไหน”“ไปเที่ยว แล้วคืนนี้คงนอนคอนโด ไม่กลับ พี่ปืนบอกแม่ให้ด้วยแล้วกัน”ครอบครัวของเธอเพียบพร้อมไปเกือบทุกเรื่อง จะมีก็แต่เรื่องเวลาที่ป๊อปรู้สึกว่าพ่อกับแม่นั้นแทบไม่มีให้เพราะพวกท่านทั้งสองให้ความสนใจกับงานมากจนแทบไม่ได้ทานข้าวด้วยกันสักมื้อเลยก็ว่าได้ นานๆ ทีถึงจะนัดกันพูดคุยกันสักครั้ง“แล้วหน้าตาแกทำไมเป็นอย่างนั้น อกหักเหรอน้องรัก” คำถามที่เอ่ยจากปากขอ
ครืดทันทีที่นึกด่ามันในใจไอ้ไต้ฝุ่นก็โทรเข้ามา อันที่จริงมันก็โทรหาเธอตั้งแต่เช้าแล้ว ตั้งแต่รู้ว่ามันไปเสพสุขด้วยกันที่รู้ก็เพราะนิวลงสตอรี่ไอจีเมื่อคืนนี้ รูปที่ถ่ายติดหัวเตียงและหลังมือที่มีรอยสักสัญลักษณ์หนึ่งซึ่งไต้ฝุ่นมันเพิ่งไปสักมาเมื่อเดือนก่อนนั่นแหละที่ทำให้ป็อบรู้ว่ามันไปมีความสัมพันธ์กัน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าใช่แต่พอเธอโทรหามันทั้งคืนและไม่รับสายทั้งคู่จึงสรุปได้ว่าใช่แล้วมันก็ใช่จริงๆ เพราะเธอจับได้ตอนไปดักรออยู่หน้าหอของหนุ่มรุ่นพี่ ถ้าไม่ทำอย่างนี้พวกมันไม่มีทางยอมรับแน่จะด้วยความเมาหรืออะไรก็แล้วแต่ เธอขอไม่ให้อภัยคนพวกนั้น“โทรมาทำไมอีก”(ป็อบอยู่ไหน ฟังพี่ก่อนครับ)“พูดมา”ป็อบพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ความร้อนระอุยังลุกลามอยู่ในโพรงอกถึงแม้ว่าตอนนี้จะนั่งในห้องโดยสารที่เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ(พี่ขอโทษ เมื่อคืนน้องเขามันอ่อยพี่ละพี่ก็เมามาก เลย...)เลวสิ้นดี ยังกล้าไปโทษคนอื่น“เงี่ยนมาก ใช่ไหม”(ป็อบ พูดกันดีๆ)“มันไม่จำเป็นหรอกพี่ไต้ฝุ่น จะเมามากเมาน้อยถ้าคนมันคิดดีแต่แรกมันไม่ทำอย่างนี้หรอก เพราะจิตใต้สำนักมันชั่วทั้งคู่ถึงได้พากันไปทำอย่างนั้น”(พี่ชอบเรานะ
ตอนที่ 1 เจ็บเพราะคนที่ไว้ใจ“พี่ป็อบ นิวขอโทษ ฟังนิวก่อนได้ไหม”ป็อบหยุดฝีเท้าลงกับที่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ พยายามไม่ให้เสียงที่ดังออกมานั้นมันสั่นเทาให้อีกฝ่ายนั้นรู้ว่าเธอกำลังรู้สึกแย่มากแค่ไหน“พูดมาสิ”“เมื่อคืนนิวเมามาก นิวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่พี่คุยด้วย”“...” ป็อบหัวเราะในลำคอกับคำพูดของน้องรหัสที่เธอรักเหมือนน้องแท้ๆ ดูแลอย่างดีมาตั้งแต่นิวเหยียบเข้ามาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย“พี่ป็อบ หยุดก่อน ฟังนิวก่อนดิ เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ”พี่น้องเหรอ...พี่น้องมันคงไม่แอบไปเอากับผู้ชายที่พี่ตัวเองกำลังคุยอยู่หรอก ผู้หยิงที่ทำแบบนั้นได้เธอยังเรียกมันว่าน้องได้อีกหรือเปล่าป็อบหยุดฝีเท้าลงอีกครั้งหลังจากเดินมาได้จนเกือบจะถึงรถอยู่แล้ว เมื่อได้ฟังถึงประโยคนั้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ“พี่น้องเหรอ ใช่ ฉันก็เห็นแกเป็นน้องมาตลอด แล้วแกเห็นฉันเป็นพี่จริงเหรอ น้องเหี้ยอะไรมันจะทำอย่างนี้วะ!”ที่ผ่านมาใครมันก็มองว่าป็อบเป็นคนแรงอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยทำนิสัยแย่ๆ กับเพื่อนกับรุ่นน้องที่ตัวเองรักเลยสักครั้ง จะมีก็แต่ครั้งนี้ที่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ใครเจอแบบ