ทันทีที่เดินกลับเข้ามาในงานพ่อตามองเหมือนกำลังจับผิดกันอยู่ที่ออกไปนานเกือบชั่วโมง แต่เพราะว่าฟีนด์เปลี่ยนรองเท้าจริงและงานนี้ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ควรเลยไม่มีข้อสงสัยมากที่หายตัวไปนาน คุณหนูสองคนที่มาวอแวเขาก่อนหน้านี้ส่งยิ้มหวานมาให้ทันทีและส่งสายตาเชื้อเชิญ ส่วนเมียนั่งจ้องตาเขียวปั๊ดเลยเหมือนจะลุกมาบีบคอใครสักคน ลูกน้องสองคนทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนกังวลอะไรบางอย่างที่ควบคุมไม่ได้ในตอนนี้
“อีกครึ่งชั่วโมงเราจะกลับแล้ว มึงสองคนไปเช็ครถให้ดีอย่าให้พลาด”
“ครับหัวหน้า ว่าแต่เมื่อกี้นี้ออกไปทำอะไรกันมาเหรอ?”
“โดนด่านิดหน่อย”
“ว่าแล้วไง!?”
“รีบไปจัดการซะ”
แฮมถอนหายใจด้วยความสงสารหัวหน้าที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิดก็โดนเล่นงานอีกแล้ว ไม่รู้สิว่าคุณหนูฟีนด์เกลียดพี่บลูมเรื่องอะไรนักหนาถึงหาเรื่องไม่หยุดขนาดนี้ ตอนเช้าที่ไปรับที่โรงพยาบาลก็วีนใส่แบบไม่มีเหตุผล พอหิวข้าวก็บ่นว่าดูแลไม่ดีปล่อยให้อดอยาก หลังจากพี่บลูมแบกขึ้นรถหนีลูกปืนมาที่เซฟเฮ้าส์ได้อย่างปลอดภัยก็เรียกไปด่าแบบส่วนตัวอีกในตอนบ่าย แล้วนี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็โดนมองแรงใส่อีกแล้ว
คุณหนูเคยมีเรื่องกับหัวหน้ามาก่อนรึเปล่านะ
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
เมื่อถึงเวลาบลูมเข้ามาพาคุณหนูที่ทำหน้าตึงไปขึ้นรถทันทีด้วยความเครียดมากเพราะเห็นแล้วแหละว่ามีคนจับตาดูอยู่ เขายังหาตัวบงการไม่ได้และไม่รู้ว่ามีอะไรมากกว่าเงินสองร้อยล้านด้วย ถ้าจะบอกว่าทำเพื่อไม่อยากถูกเก็บหรือติดคุกก็ไม่น่าจะเล่นเอาตายขนาดนี้ ถึงยังไงถ้ามันอยู่เงียบๆทำตัวเหมือนลาสบอสยังไงก็ไม่มีใครรู้ง่ายๆหรอก แต่นี่มันตามมาฆ่าฟีนด์ทุกทางเท่าที่จะทำได้
วางระเบิดก็ทำ วางกับดักก็ทำ
ฝีมือมันไม่ใช่แค่คนมีอำนาจทั่วไปแน่นอน
เขาส่งคนไปเช็คเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วได้เจอคำตอบที่ว่างเปล่า ภาพจากกล้องวงจรปิดสูญหายไปหมดเกลี้ยงด้วยความตั้งใจของมันที่กลบหลักฐานได้ดี แต่ยังดีที่คอนโดของเมียพอมีอะไรให้สืบบ้างเล็กน้อย มันต้องเคยไปที่นั่นมากกว่าหนึ่งครั้งถึงรู้ว่าจะทำอะไรยังไงให้ดูเป็นการตายที่เป็นอุบัติเหตุที่สุด มันน่าจะรู้จักฟีนด์มาก่อนหน้านี้จนอาจจะสนิทมากพอสมควรถึงได้คาดเดาอะไรหลายอย่างออกง่ายและหาทางหนีทีไล่ทันตลอด
งานยากกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว
งานแค่นี้ยังไงก็ไม่มีทางทำพลาดหรอก
“พี่บลูมหยุดก่อน”
“อะไร?”
“คือ…เราจะโดนตามอีกรึเปล่า?”
“จนกว่าจะจบเรื่องนั้นแหละ”
“ถ้าฉันตายล่ะ?”
“พี่ก็หาเมียใหม่แค่นั้นเอง”
“งั้นฉันไม่ยอมตายหรอก!” ทีแรกนึกว่าเขาจะพูดอะไรดีๆให้เบาใจขึ้นมาหน่อย หรืออย่างน้อยก็ปลอบใจกันบ้างก็ได้ แต่เขาเล่นพูดมาว่าจะหาเมียใหม่แบบนี้ใครจะยอมตายได้เล่า เราคบกันมาตั้งสี่ปีเชียวนะ แถมเก็บเป็นความลับมาตั้งนานแหนะ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาเปิดตัวว่าเป็นเมียเขาได้ง่ายๆแล้วทำเหมือนไม่เคยมีเมียชื่อฟีนด์หรอก คนเดียวที่เปิดตัวว่าเป็นเมียได้มันคือเธอเท่านั้นแหละ
เรื่องผัวมันเรื่องใหญ่มาก
ต่อให้โดนถูกระเบิดก็ตายไม่ได้เด็ดขาด
ฟีนด์เดินไปขึ้นรถซีดานเพื่อกลับบ้านพักและพรุ่งนี้น่าจะได้กลับบ้าน หรือไม่ก็ไปค้างที่อื่นมั้ง เธอไม่ใช่คนที่อยู่กับความรุนแรงมาตั้งแต่เด็กจนโตเหมือนพี่บลูมเลยไม่รู้อะไรมาก สัญชาตญาณต่างๆก็ยังน้อยมาก เรื่องที่เธอสืบค้นเรื่องลงลึกขนาดนั้นก็เพราะว่าพ่อถูกกดดันมาจากหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท ถ้าหากว่าพ่อหาหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับเงินสองร้อยล้านที่หายไปไม่ได้ พ่อก็อาจจะต้องเป็นคนรับผิดเองเพราะเอกสารมีลายเซ็นพ่ออยู่
พ่อพึ่งจะเข้าวงการสีเทาก็โดนรับน้องโหด
เธอจะตามหาทุกอย่างให้เจอ
“เรื่องระเบิดที่บ้านฉันตอนนี้ตรวจสอบไปถึงไหนแล้ว?”
“มันก็แค่ระเบิดทั่วไปที่มีขายอยู่ เราตามหาคนซื้อไม่ได้หรอก แต่คนประกอบเราตามหาได้”
“ยังไง?”
“แต่ละคนมีเอกลักษณ์คนละแบบกันไงล่ะคุณหนูฟีนด์ ระเบิดที่พี่เห็นต้องใช้ความสามารถประกอบและเก็บเอาไว้ในจุดลับสายตาคนขนาดนี้ยังไงก็ต้องเป็นฝีมือพวกเชี่ยวชาญเรื่องนี้แน่ ฝีมือมันเนี๊ยบมากจริงๆ ถ้าสมมุติว่าไม่เจอก่อนบ้านหลังนั้นคงเละเป็นจุณแล้วแหละ”
“ไม่ได้เรื่อง!”
เกรย์ขับรถด้วยความหนักใจในขณะที่คุณหนูฟีนด์เริ่มวีนใส่หัวหน้าอีกแล้ว ไม่รู้เลยว่าพ่อของคุณหนูฟีนด์เลี้ยงลูกในรังแตนรึไงถึงได้หงุดหงิดโมโหง่ายขนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นยังไงก็ต้องใช้เวลาอยู่แล้วกว่าจะหาคนวางแผนทุกอย่างเจอได้ แล้วหัวหน้าเดินทางมาถึงเมื่อวานและพึ่งมาทำงานแค่วันแรกจะให้รู้อะไรมากมายได้เล่า ลำพังโดนดักทำร้ายแล้วสามารถพาคุณหนูหนีลูกปืนมาได้โดยไม่มีแม้แต่รอยช้ำก็นับว่าเก่งมากแล้วนะ
พวกเขาต้องรีบทำงานนี้แล้วย้ายไปที่อื่น
เจ้านายคือลูกชายคนสุดท้องของคุณท่าน
“มีมอเตอร์ไซค์ตามมาสองคัน หาทางสลัดมันให้หลุดเดี๋ยวนี้เลย”
“ครับหัวหน้า”
แฮมหยิบปืนขึ้นมาเตรียมพร้อมรับแรงการปะทะเพราะมันไม่น่าจะจบลงง่ายๆแน่ พวกมันต้องการฆ่าคุณหนูเพื่อปิดปากและแก้แค้นที่ทำให้ทุกอย่างพังไม่เป็นท่า ครั้งนี้มันทุ่มสุดตัวถึงขนาดตามล่าทุกวัน ใช้อาวุธทุกอย่างเท่าที่มีและพวกเขาไม่มีทางยอมให้ทำสำเร็จหรอก
คำสั่งคือห้ามคุณหนูฟีนด์ตายเด็ดขาด
มีบางอย่างที่คุณหนูรู้
“เลี้ยวข้างหน้าเกรย์”
“แต่มันเป็นซอยแบบนั้นเราจะเสียเปรียบ”
“ไปเถอะน่า!”
“แต่หัวหน้า…”
“ไม่เสียเปรียบหรอก! มีคนรอรับมันอยู่ข้างหน้า ส่วนเราจะขับรถทะลุไปอีกซอยตัดเข้าถนนอีกเส้นแล้วกลับบ้านกัน วันนี้เหนื่อยมาเยอะแล้วควรจะได้พักผ่อนเอาแรงก่อนวางแผนใหม่”
“ได้ครับหัวหน้า”
ฟีนด์วางมือลงที่ต้นขาใหญ่ด้วยความหวั่นใจมาก เธอหันไปมองรถที่ขับตามมาด้วยความเร็วแล้วมือใหญ่วางทับมือเธอให้เบาใจขึ้น เขาหยิบปืนมาเตรียมพร้อมเผื่อมีการปะทะทั้งที่พึ่งจะพูดว่าวันนี้เหนื่อยมาเยอะแล้วนี่นะ ในจังหวะที่รถหักเลี้ยวเข้าซอยกะทันหันทำให้ตัวเธอแทบจะกระเด็นไปนั่งตักเขาอยู่แล้ว แต่ว่าเขาโอบกอดเอาไว้ไม่ให้ตัวกระแทกอะไรมากเกินไปจนเจ็บได้ น้ำเสียงกระซิบเบาๆชิดใบหูนั้นทำให้หัวใจเต้นแรงไปด้วยความตกใจมากกว่าเดิม ความกลัวและความเป็นห่วงทวีคูณ
“กลับก่อนเลยนะที่รัก เดี๋ยวพี่จะตามไปทีหลัง” บลูมบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“จอดข้างหน้าแล้วพาคุณหนูกลับไปได้เลย ถ้ามีอะไรรีบโทรมาทันที”
“ครับหัวหน้า”
เอี๊ยด!!!
รถจอดทันทีและบลูมรีบเปิดประตูลงไปเพื่อจับไอ้สองคนนั้นก่อนมันจะถูกสั่งเก็บและเขาจะเสียเบาะแสสำคัญไป ลูกน้องที่ตามมาสมทบยิ้มกว้างทันทีแล้วซ่อนตัวอย่างแนบเนียนที่สุด มันขับรถไปตามเมียเขาด้วยความเร็วมากและในจังหวะนั้นเอง เขาเล็งปืนยิงพร้อมกับลูกน้องยิงที่ล้อรถและตัวคนขับจนเสียหลักล้มไถลลงไปบนพื้นถนนจนเกิดประกายไฟพร้อมกับน้ำเสียงครางด้วยความเจ็บ
โครม!!!
“ไปเอาตัวมันมาอย่าให้ตายเด็ดขาด!”
“ครับบอส”
“กูต้องรู้ให้ได้ว่าใครจ้างพวกมันมา!”
เขาเดินไปพร้อมกับลูกน้องสี่คนแล้วจับตัวไอ้เวรสี่คนไปขึ้นรถแล้วมัดมือมัดเท้าทันที เขาจะผ่าเอากระสุนออกสดๆเผื่อว่าความเจ็บจะทำให้คลายความลับออกมา แม้ว่าจะรู้ว่าพวกมันไม่รู้จริงๆว่าใครคือนายตัวจริง แต่คนที่มาจ้างพวกมันจะเป็นเบาะแสต่อไปในการสืบหาตัวคนที่ต้องการฆ่าพ่อตาแม่ยายและเมียของเขา แล้วไอ้บริษัทเวรนี้ต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอนที่ซุกซ่อนรอการเปิดเผยอยู่
เงินสองร้อยล้านคือส่วนเล็กๆที่เปิดเผย
เมียต้องรู้อะไรมากกว่านั้นแน่
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
“พี่บลูม!!”“เร็วๆสิโจ!!” ในวินาทีนั้นที่เราสบตากันเขายิ้มกว้างให้ก่อนจะถูกยิงแล้วล้มตัวลง แต่ก็ไหวตัวหลบอีกฝั่งทันก่อนจะถูกกระสุนอีกนัดปลิดชีพเอาได้ถ้าช้าสักวินาที เลือดของเขาไหลทะลักออกมาแต่ยังแข็งใจฝืนลุกขึ้นเพื่อจะปกป้องเธอให้ได้ ตัวเขาโชกไปด้วยเลือดและบาดแผล เขายิงคนที่มันวิ่งมาทางเธอแม่นเหมือนจับวางพร้อมกับหลบอีกคนที่พุ่งเป้าจะเอาชีวิตเขาอย่างเดียว เธอมองไปทางโจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นและแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วมาก เอี๊ยด!!“ขึ้นรถเร็ว!!”“ไปเอาพี่บลูมมาเดี๋ยวนี้!!”“เกาะแน่นๆนะคุณหนู”“ชิ่งเต็มที่เลยโจ” ทางด้านบลูมยืนแสยะยิ้มจ้องมองไอ้เวรที่อึดได้ใจขนาดโดนยิง โดนกระทืบจมตีนจนกระอักเลือดออกมายังลุกขึ้นไหว ถูกเขาจับทุ่มลงพื้นถนนก็ยังรอด สภาพมันโซซัดโซเซใกล้จะตายเต็มทนแล้วแหละ ตัวเขาถูกรุมนั่นเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบาดเจ็บหนักและเสียสมาธิจากการหันไปมองเมีย พวกลูกน้องมันพุ่งเป้าไปหา เขาหยิบปืนมายิงคุ้มกันให้กับเมียกับลูกน้องและพลาดโดนยิง “กูไม่มีทางให้ครั้งนี้มึงหนีไปหรอก!!” “งั้นมึงก็ผ่านไอ้นี่ไปให้ได้สิ!”“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!” บลูมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน