“เป็นไง?”
“ใหญ่ เอ่อ…แผลเยอะนะ!”
“หิวเหรอ?”
“บ้า! ใครจะไปอยากในสถานการณ์แบบนี้ได้เล่า พี่นั่นแหละอยากเหรอถึงถาม”
“อยากแต่ไม่ทำ”
“เอ้าทำไมล่ะ!?”
“ก็เมียไม่อมให้”
“เรื่องมาก!”
“ทำแผลเถอะ พี่อยากนอนพักแล้ว”
“ไม่ทำจริงเหรอ?”
“คิดจะเอากับผัวอย่างเดียวเลยรึไงเนี่ย?”
“ก็…บรรยากาศมันให้นี่นา”
“อมให้ก่อน”
“ขี้เกียจ”
“งั้นพี่ก็ขี้เกียจเหมือนกัน”
ไหนว่าผู้ชายมันหื่นทุกห้านาทีไง
ผัวไม่เห็นเป็นงั้นเลย
ฟีนด์นั่งทายาแล้วทำแผลไม่มากให้กับเขาและสำรวจทุกร่องรอยด้วยความเป็นห่วงมากพอสมควร เมื่อหลายเดือนก่อนที่เธอแวะไปหาเขายังไม่มีแผลเยอะมากขนาดนี้เลย แต่นี่แผลหลังก็มี ที่แขนก็มี หน้าท้องก็มี ไหนจะแผลที่หน้าผากนั่นอีกล่ะ พี่บลูมเป็นคนหน้าตาดีมาก หุ่นก็จัดว่าดีมากเกินไปด้วยซ้ำ เขาฉลาดมากพอจะทำงานอื่นที่มันปลอดภัยกว่านี้ได้ แต่เขาไม่เคยจะสนใจเรื่องนี้เลยสักนิด เขาบ้างานที่อันตรายแบบนี้ ชอบอยู่กับความเป็นความตายเหมือนกลัวจะอายุยืนยาว ในตอนนี้เธอนึกไม่ออกว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันยังไง
เมื่อก่อนเขาเถื่อนกว่านี้มาก
โรแมนติกบอดด้วย
“เสร็จแล้ว ใส่เสื้อผ้านอนเลยเดี๋ยวฉันจะเช็คข้อมูลทั้งหมดก่อนว่ามีอะไรที่ทำให้มันตามอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้”
“จะนอนแก้ผ้าอ่อยเมีย”
“อุจาดตา!”
“กลัวอดใจไม่ไหวเหรอ?”
“บ้าแล้ว!”
“อย่าปลุกพี่มาเอาแล้วกัน”
“ถ้าปลุกแล้วจะตื่นมาเอาเหรอห่ะ?”
“ไม่อะ ถ้าฟีนด์ไม่ใช้ปากพี่ก็จะไม่ทำอะไร”
ผลัวะ!!
เธอหยิบหมอนทุบเขาไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้มากแล้วจัดการเรื่องที่เป็นปัญหาในตอนนี้และมันจะเป็นเบาะแสสำคัญเพื่อจบเรื่องวุ่นวาย ที่แขนของพี่บลูมยังมีรหัสผ่านเขียนเอาไว้อยู่นั่นแสดงว่าเขาไม่ได้ฟอกสบู่ที่ตรงนี้เลย โน๊ตบุ๊คที่ซื้อมาเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดและขนมก็อร่อยมากด้วย
เขาเหมือนไม่ใส่ใจอะไรสักเท่าไร
เธอรู้ว่าเขาใส่ใจมาก
เธออ่านเอกสารหลายสิบหน้า ตรวจดูทุกสิ่งทุกอย่างที่ส่งมาด้วยความสงสัยมากกว่าเดิมและมีจุดให้เอ๊ะมาก เอกสารลับพวกนี้ได้มาจากคนในที่รีบขายข้อมูลให้ก่อนจะหนีไปอยู่เมืองนอกเพราะว่ากลัวตายเนื่องจากมีหลายคนถูกฆ่าปิดปาก เธอกำลังจะหันไปหาพี่บลูมเพื่อถามเพราะเขาน่าจะรู้อะไรมากกว่าแต่ก็หลับไปแล้ว
ปรกติเขาไม่ใช่คนหลับง่ายเลยนะ
สงสัยจะเหนื่อยมากจริงๆ
นิ้วที่กดแป้นพิมพ์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเขาขยับตัวแล้วผ้าห่มหมิ่นเหม่กับส่วนนั้นจนเห็นไรขนบางๆอยู่ นาทีนี้เธอไม่สามารถจะห้ามตาของตัวเองได้แล้วจริงๆ มือเล็กเคลื่อนจากโน๊ตบุ๊คมาจับผ้าห่มสีขาวดึงลงช้าๆแล้วยิ้มกว้างเพราะส่วนนี้มันสะดุดตามากจริงๆ ไรขนดกดำหนาซะจนน่าจับโกนออกให้หมด ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถปิดบังแก่นกายที่มีขนาดใหญ่มากแม้ว่าจะยังไม่ตื่นตัว
อยู่ดีๆก็รู้สึกคอแห้งแปลกๆนะเนี่ย
หุ่นเขาบึกบึนไปทั้งตัวเลย
มือเล็กๆแตะที่กล้ามหน้าท้องที่แน่นมากแบบคนออกกำลังเป็นประจำและรอยแผลเป็นพวกนี้ไม่ได้ทำให้เขาดูแย่เลย เธอแค่สงสัยว่าพื้นที่สีแดงของเขาทำงานนั่นคือที่ไหนกันแน่ เขาทำอะไรที่นั่นกันแน่เพราะไม่เคยบอกเธอเลยสักคำให้รู้ นอกจากบอกว่างานไม่ปลอดภัย ที่หน้าอกกว้างมีรอยที่น่าจะเป็นรอยโดนยิงซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่มีเลย เขาไม่เคยพูดเรื่องความเจ็บปวดของตัวเองให้ฟัง นั่นทำให้เธอเหมือนคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
“ทำอะไร?”
“ตื่นมาทำไม?”
“มีคนมาลูบตัวขนาดนี้ใครจะหลับได้ล่ะ”
“ก็…โดนใครยิงมาเหรอ?”
“ศัตรูน่ะ กระสุนทะลุตัวคนมาโดนพี่”
“เกือบตายเลยใช่ไหม?”
“ก็ยังไม่ตายนี่ จะทำหน้าเครียดทำไมเล่า”
“เรื่องผัวทั้งคน!”
“อย่าคิดมากดิฟีนด์ เดี๋ยวเรื่องนี้จบพี่ก็จะอยู่ด้วยสักพักแล้ว”
“เขาจ้างพี่เท่าไรเหรอ?”
“ใคร?”
“ก็เจ้านายของพี่บลูมไง เขาจ้างให้พี่ไปเสี่ยงอันตรายขนาดนี้เท่าไรเหรอ?”
“จะรู้ไปทำไม?”
“จบเรื่องนี้ฉันจะซื้อตัวพี่มาอยู่ข้างตัว ค่าตัวพี่จะกี่สิบกี่ร้อยล้านก็ได้เลยฉันพร้อมจ่ายขอแค่ได้พี่มาอยู่ด้วยกันที่นี่ แล้วพี่ไม่ต้องเสี่ยงตายอีก”
“มันไม่มีอะไรง่ายขนาดนั้นหรอก พี่พยายามหนีเขามาตลอดชีวิตแล้ว”
“หนียังไง!?”
“หนีหน้าไง พี่คุยกับเขาน้อยมากและไม่เจอกันมาจะสี่ปีแล้วมั้ง”
“ถ้างั้นก็ลาออกมาอยู่กับฉันสิ ฉันรวยมากพอจะเลี้ยงดูพี่บลูมนะ เอาคนทั้งทีมของพี่มาด้วยก็ได้เดี๋ยวฉันหางานให้ทำเอง จะกี่ร้อยล้านฉันก็พร้อมจ่ายเพื่อให้พี่ไม่ต้องไปเสี่ยงตายแบบนั้น”
เขาขยับตัวนั่งแล้วดึงเมียเข้ามากอดเผื่อจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น เส้นทางนี้เขาเป็นคนเลือกเองเพื่อจะหนีจากคนบ้าอำนาจแบบพ่อและแม่ที่เจ้ากี้เจ้าการทุกอย่าง พี่ชายคนโตขึ้นแท่นรองประธาน ส่วนพี่สาวเป็นหัวหอกสำคัญในหลายเรื่อง เขาจะทำงานแบบสองคนนั้นก็ย่อมได้ แต่เพราะว่าครอบครัวอบอุ่นเกินไปจนรู้สึกร้อนรนแทบทุกครั้งที่เจอกัน เขาเลยต้องหนีห่างออกมาก่อนจะเป็นบ้าไปก่อน
เขายอมเสี่ยงตายดีกว่าอยู่บ้าน
ตอนนี้คงต้องคิดใหม่
“ไม่ต้องเครียดหรอกน่าฟีนด์”
“แล้วถ้าเกิดพี่ตายจริงล่ะ?”
“ไม่อยากมีผัวใหม่ห้าคนแล้วเหรอ?”
“ไอ้พี่บลูม!!”
“เมื่อกี้ยังจะร้องไห้อยู่เลย ทำไมมาเสียงแข็งอีกแล้วล่ะ?”
“ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอห่ะ!?”
“ทำไม?”
“พี่จะให้ฉันหาผัวจากที่ไหนตั้งห้าคนห่ะ มีแค่คนเดียวยังประสาทกินขนาดนี้เลย!”
“แค่หยอกเฉยๆ ใครจะอยากให้เมียเอาผัวใหม่”
“หยอกบ้านพี่ดิแบบนี้!!” เธอผลักเขาออกด้วยความโมโหมาก แล้วกำลังจะขยับตัวหนีด้วยความหงุดหงิดแต่หางตากลับเห็นอะไรบางอย่าง ไอ้หนูของเขาตื่นมาตั้งตรงแล้ว เธอไม่อยากจะมองจริงๆแต่ว่าจุดนั้นมันทำให้ดึงสายตากลับมาไม่ได้ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกคอแห้งมากและวูบโหวงในช่องท้อง ผัวก็เอนตัวพิงหัวเตียงแล้วยิ้มกว้างแบบไม่รู้จักอายทั้งแก้ผ้า
“หุ่นพี่ดีนะ”
“กลืนน้ำลายทำไม?”
“คอแห้ง”
“น้ำตรงโน้นก็มี”
“ก็…เดี๋ยวลุกไปกิน”
“นึกว่าอยากกินน้ำของพี่ซะอีก”
“พี่นี่มัน…”
“เซ็กซี่ใช่ไหมล่ะ?”
“มันจะเซ็กซ์เสื่อมเพราะพี่กระตุกนมเล่นนี่แหละ!” ย้ำเลยนะว่าเขากระตุกหน้าอกกวนประสาทเธอมาก ผู้ชายบ้าอะไรหน้าอกกว้างและใหญ่ขนาดนี้ เขายิ้มกว้างแล้วกระตุกนมไม่หยุดจนอดจะหัวเราะตามไม่ได้เลยจริงๆ ก่อนที่แก่นกายจะผงกเบาๆเหมือนกำลังเรียกอยู่
มีผัวกวนตีนต้องทำใจใช่ไหม
อะไรทำให้รักเขาเนี่ย
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
“พี่บลูม!!”“เร็วๆสิโจ!!” ในวินาทีนั้นที่เราสบตากันเขายิ้มกว้างให้ก่อนจะถูกยิงแล้วล้มตัวลง แต่ก็ไหวตัวหลบอีกฝั่งทันก่อนจะถูกกระสุนอีกนัดปลิดชีพเอาได้ถ้าช้าสักวินาที เลือดของเขาไหลทะลักออกมาแต่ยังแข็งใจฝืนลุกขึ้นเพื่อจะปกป้องเธอให้ได้ ตัวเขาโชกไปด้วยเลือดและบาดแผล เขายิงคนที่มันวิ่งมาทางเธอแม่นเหมือนจับวางพร้อมกับหลบอีกคนที่พุ่งเป้าจะเอาชีวิตเขาอย่างเดียว เธอมองไปทางโจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นและแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วมาก เอี๊ยด!!“ขึ้นรถเร็ว!!”“ไปเอาพี่บลูมมาเดี๋ยวนี้!!”“เกาะแน่นๆนะคุณหนู”“ชิ่งเต็มที่เลยโจ” ทางด้านบลูมยืนแสยะยิ้มจ้องมองไอ้เวรที่อึดได้ใจขนาดโดนยิง โดนกระทืบจมตีนจนกระอักเลือดออกมายังลุกขึ้นไหว ถูกเขาจับทุ่มลงพื้นถนนก็ยังรอด สภาพมันโซซัดโซเซใกล้จะตายเต็มทนแล้วแหละ ตัวเขาถูกรุมนั่นเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบาดเจ็บหนักและเสียสมาธิจากการหันไปมองเมีย พวกลูกน้องมันพุ่งเป้าไปหา เขาหยิบปืนมายิงคุ้มกันให้กับเมียกับลูกน้องและพลาดโดนยิง “กูไม่มีทางให้ครั้งนี้มึงหนีไปหรอก!!” “งั้นมึงก็ผ่านไอ้นี่ไปให้ได้สิ!”“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!” บลูมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน