Home / รักโบราณ / หงส์เหนือพันธการ / บทที่ ๑๕/๑ จดจำไว้ว่า เจ้าหาใช่ตระเกียงไร้น้ำมัน

Share

บทที่ ๑๕/๑ จดจำไว้ว่า เจ้าหาใช่ตระเกียงไร้น้ำมัน

Author: KUNNUK
last update Huling Na-update: 2025-06-19 22:26:53

หยางลู่ไทเฮาพบเจอเรื่องไม่พอพระทัยที่ใหญ่มากแล้ว ท่าทางภายนอกของพระนางยังสงบนิ่ง พระพักตร์อิ่มเอิบมีริ้วรอยแห่งวัย ผู้คนมากมายเริ่มเข้ามาถวายพระพรพร้อมของขวัญ พระนางโบกพระหัตถ์ ขยับพระพักตร์ ทรงไม่ตื่นเต้นยินดีกับสิ่งของใดแล้วในใต้หล้า

ผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปอายุมากกว่าเดิมอีกหนึ่งปี ชีวิตนี้ผ่านร้อนผ่านหนาว ชีวิตอันเลือกไม่ได้ ได้แต่ขอวิงวอนต่อสวรรค์ ‘ชาติหน้าขาสองข้างอย่าได้เหยียบย่างเข้าสู่ราชสำนัก’

เหตุการณ์รอบตัวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ทำให้หญิงชรามากศักดิ์รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน คนเรายามแก่เฒ่า เรี่ยวแรงถดถอยไปตามสังขารโดยแท้

‘เหนื่อยกายอย่างไรจะเทียบได้กับเหนื่อยใจ’ เบื้องหน้านั้นในงานเลี้ยงทุกคนแย้มยิ้มถวายพระพร เบื้องหลังทิ่มแทงจนเละพรุน ปากกล่าววาจายกย่องความดี ในใจบางทีอาจสาปแช่ง

เป็นเช่นนี้ทุก ๆ วันจนถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว…

หญิงชราอย่างพระนาง จะทรงทำสิ่งใดได้ นอกจากทอดพระเนตรมอง

อดีตวาบผ่านพัดเข้ามาในความทรงจำ ด้วยว่าปัจจุบันนั้นไม่น่าอภิรมย์ จึงเป็นเรื่องปกติที่คนแก่เฒ่า มักจจมอยู่กับวันวานไม่ใช่วันนี้ หยางลู่ไทเฮาทอดพระเนตรมองห
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๔ ไม่ง่ายเลย

    “นางคนชั้นต่ำ อย่ามาเสนอหน้า” อวี่เหวินตวาดเสียงดังลั่น เขาเงื้อมือขึ้นสูง เดินตรงไปหาสตรีทั้งสอง สาวใช้ของอวี่เทียนเหมย ต้องถูกสั่งสอนเสียบ้าง “หยุดการกระทำของท่านเดี๋ยวนี้” อวี่เทียนเหมยนั้น ชีวิตนี้นางไม่เคยขึ้นเสียงกับใคร แต่พอได้เห็นท่าทีของพี่ใหญ่แล้วไม่อาจทน ซูผิงเป็นคนของนาง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจมาหยามเกียรติของซูผิงได้ อวี่เหวินชะงักค้าง ท่าทางของเหมยเหมย ดูทรงอำนาจอย่างน่าแปลก เท้าหยุดก้าวโดยพลันทันที เขาไม่เคยเห็นเหมยเหมยเป็นเช่นนี้มาก่อน อนิจจา…พอได้ชื่อว่าเป็นสตรีของไท่จื่อ มีหยางลู่ไทเฮาอยู่เบื้องหลัง อวดดีได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ‘น่าชังจนหลงใหล’ อวี่เหวินอารมณ์เปลี่ยนไปมา ในใจเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น อยู่ ๆ เขาก็หอบหายใจแรงขึ้น จ้องหน้าอวี่เทียนเหมยไม่วางตา คิดว่าครั้งนี้เกินไปแล้ว อวี่เทียนเหมยดันซูผิงให้ไปอยู่ด้านหลัง สาวใช้ขืนตัวไม่ยินยอม แต่ไม่อาจขัดขืนคำสั่ง ซูผิงจึงยอมถอย แต่สาวใช้ยังตั้งท่าระวังภัย ไม่ยอมวางใจ “หากท่านไม่มีเกียรติ ก็อย่าคิดว่าคนอื่นจะไม่มีเกียรติดังเช่นท่าน” อวี่เทียนเหมยแววตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ นางไม่อา

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๓ ไม่ง่ายเลย

    ‘เสี่ยวซาน…’ อวี่หลางซานกลับมาแล้ว พอนึกขึ้นได้ อวี่เทียนเหมยก็เหมือนจะเห็นทางสว่างรออยู่เบื้องหน้า น้องชายของนางเป็นทหารในกองทัพ มีตำแหน่งไม่น้อย ย่อมต้องมีเส้นสายและมุมมองที่กว้างไกลกว่านาง อวี่เทียนเหมยคิดว่าเรื่องหนักอึ้งในใจของนางนี้ สามารถเล่าให้เสี่ยวซานฟังได้ เผื่อว่าน้องชายจะมีทางออกที่นางคิดไม่ถึงมาแนะนำ บิดาเกรงใจพี่ใหญ่มาก อวี่เทียนเหมยไม่เห็นด้วยในข้อนี้ ไม่ดีส่วนไม่ดี เอาความดีมาลบล้างไม่ได้ แต่บุญคุณถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับท่านพ่อ พี่ใหญ่นั้นบิดาของเขาสละชีวิต เพื่อท่านพ่อของอวี่เทียนเหมย ในอดีตก่อนท่านพ่อจะพบกับท่านแม่ ท่านพ่ออาศัยอยู่ที่สำนักศึกษาเก่า ต่อมาสำนักศึกษาเกิดไฟไหม้ เพื่อให้ท่านพ่อรอด บิดาของพี่ใหญ่ยอมสละชีวิตตายอยู่ในกองเพลิง ฝากฝังพี่ใหญ่ไว้กับท่านพ่อ บุญคุณมากล้น แค้นชำระแค้นด้วยชีวิตฉันใด บุญคุณชีวิตทดแทนด้วยชีวิตฉันนั้น บิดาถือเป็นหน้าที่ ชีวิตนี้ต้องดูแลพี่ใหญ่ให้ดี นับตั้งแต่วันนั้น หลังจากบิดาสอบจอหงวนได้ที่หนึ่ง ก็ขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาท แต่งงานสร้างฐานะร่วมกับมารดา รับเลี้ยงพี่ใหญ่ให้เป็นบุตรบุญธรรม พี่ใหญ่อายุมา

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๒ ไม่ง่ายเลย

    เอาเถิด…อย่างไรก็ได้สมรสพระราชทาน ได้ตำแหน่งไท่จื่อเฟยมาแล้ว นี่จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ใจไม่แน่นอน ตำแหน่งแน่นอน อวี่เทียนเหมยยามนี้ได้ชื่อว่าเป็นคนของหยางลู่ไทเฮา สุดท้ายแล้วต่อให้เขาไม่รักนางมากเพียงใด เขาก็จะไม่กล้าผิดใจกับไทเฮา คิดปลอบใจตนเองว่า ชีวิตจะยึดติดกับรักอย่างเดียวไม่ได้! “พี่รอง!” เสียงเรียกดังขึ้นขัดความคิด อวี่เทียนเหมยหันไปหาต้นเสียง อวี่ไฉฟงกำลังเดินจับมือบิดามารดามาที่โต๊ะกินข้าว อวี่เทียนเหมยส่ายศีรษะให้กับน้องสาว อวี่ไฉฟงเป็นคนช่างออดอ้อน ชอบทำตัวเป็นเด็กตลอดเวลา แต่แน่นอนว่าในสายตาของคนในครอบครัว แล้ว พฤติกรรมนี้ถือว่าน่ารัก! อวี่ไฉฟงแซ่อวี่ เป็นบุตรสาวตระกูลอวี่ อยู่ในจวนอยากทำกิริยาอย่างไรตามใจปรารถนา แต่ยามออกไปนอกจวน ต้องรักษากิริยาดีไม่แพ้ผู้ใด เรื่องราวระหว่างวันถูกถ่ายทอดเล่าให้กันฟัง ช่วยสร้างเสียงหัวเราะได้มากมายในมื้ออาหาร คนตระกูลอวี่รักใคร่กัน ข้อนี้รู้ไปทั่วเมืองหลวง แต่อยู่ ๆ ซูผิงวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา เห็นสีหน้าสาวใช้ก็รู้ได้ทันทีว่า มีเรื่องสำคัญมาบอก อวี่เทียนเหมยไม่เข้าใจเหมือนกัน ในหนึ่งวันนั้น

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๑ ไม่ง่ายเลย

    สองสามวันมานี้ จวนตระกูลอวี่คึกคักมากกว่าปกติ แขกมาเยี่ยมเยือนที่จวนหลายคนแบบไม่ซ้ำหน้า ระบุเจาะจงแทบทุกคนเสียด้วยว่า ต้องการพบอวี่เทียนเหมย สถานการณ์ไม่แน่นอน คนใจโลเลจะชอบเกาะหงส์เกาะมังกร[1] เอาใจไม่เลือกหน้า เผื่อว่ายามที่เดือดร้อนขึ้นมา แผ่นดินแบ่งแยกเมื่อใด จะได้มีข้ออ้างไว้เอาตัวรอด ต้าเฉวียนแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ขุนนางซึ่งไร้ที่พึ่งทั้งหลาย ยามนี้เข้าหาทุกฝั่ง เดินสวนกันจ้าละหวั่น ไปจวนนั้นจวนนี้ จวนตระกูลอวี่จึงต้องรับแขกมากหน่อย เพราะประกาศของหยางลู่ไทเฮา คนมาเยี่ยมเยือนมากเพียงใดก็ตาม ในใจไร้ความยินดี แต่ก่อนพบหน้าไม่สบตา ยามนี้มาส่งยิ้ม ‘ความจริงใจหาไม่ได้’ ยิ่งมากคนยิ่งต้องระวัง จะรับของขวัญก็ต้องถี่ถ้วน ล้วนมีปัญหาสอดไส้มาได้ทั้งสิ้น อวี่เทียนเหมยกลัวเกิดความผิดพลาดขึ้น อย่างไรนางก็ถือว่าเป็นม้าใหม่ในสนามรบ ยังไม่กล้ารับแขกด้วยตนเองแต่เพียงผู้เดียว จึงยกหน้าที่นี้ให้ตกเป็นของบุพการี บิดามารดารับแขกแทนบุตรสาวจนเหนื่อยอ่อน หมดแรงในทุกวัน ตกเข้ายามค่ำคืนมา อวี่เทียนเหมยลงมือเคี่ยวน้ำแกงใส่สมุนไพรบำรุงร่างกาย ทำอาหารมากมาย แทนคำขอบคุณ จ

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๕/๕ จดจำไว้ว่า เจ้าหาใช่ตระเกียงไร้น้ำมัน

    ส่วนนาง… อวี่เทียนเหมยขอไม่เชื่อ คิดในแง่ดีทั้งที่ความจริงเป็นแง่ร้าย ตระกูลอวี่จะมีหงส์สองตัวได้อย่างไร ในเมื่อหงส์ตัวแรกที่หมายถึงนาง เดินมายังไม่ถึงครึ่งเส้นทาง ก็ดูจะพบทางตันไปต่อไม่ได้แล้ว ไม่รู้จะเอาอย่างไรกับชีวิตกันแน่! ท่านพ่อท่านแม่นั่งอยู่ไม่ไกล ตระกูลอวี่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด มีลำดับขั้นได้ถวายของขวัญในตอนท้าย อวี่เทียนเหมยรีบลุกขึ้น เมื่อมองเห็นว่ามารดาส่งสายตามาเป็นสัญญาณเรียก เมื่อตระกูลอวี่ถวายพระพรไทเฮาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาถึงคราวของอวี่เทียนเหมย เจียถิงและซูถิงเดินตามมาเพื่อถือภาพวาดขนาดเท่าตัวคนให้ สาวใช้ยืนคนละฝั่ง กางภาพวาดออกมาเห็นเป็นภาพวิวทิวทัศน์ อวี่เทียนเหมยสังเกตพระพักตร์หยางลู่ไทเฮา นางมียิ้มละมุนบนใบหน้า เมื่อเห็นร่องรอยของความความพอพระทัย ปรากฎอยู่เต็มพระพักตร์ นางกราบทูลไทเฮาเสียงดัง “ชีวิตของเหมยเหมย นอกจากบิดามารดา หม่อมฉันมีฝ่าบาทและไทเฮาเป็นผู้มีพระคุณ ภาพวาดผืนนี้ หม่อมฉันวาดด้วยใจที่สำนึกรู้ ซาบซึ้งในพระเมตตา คำอวยพรใดในใต้หล้า หม่อมฉันไม่กล้าเอื้อนเอ่ย ด้วยว่าไทเฮาทรงเป็นมงคลยิ่งแล้ว” หยางลู่ไทเฮาทอด

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๕/๔ จดจำไว้ว่า เจ้าหาใช่ตระเกียงไร้น้ำมัน

    มู่ฮองเฮาเก็บโทสะไว้ในพระทัยไม่แสดงออก องค์หญิงหยางลู่อิงฮวา เพราะมีนิสัยเสียเช่นนี้ ต่อให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในการเป็นชายาของเสี่ยวหยาง มู่ฮองเฮาก็ขอปฏิเสธ หัวแข็งจนน่าชัง ทั้งยังควบคุมยากเกินไป! การแสดงขลุ่ย แม้จะมีข้อผิดพลาด แต่ว่าองค์หญิงหยางลู่อิงฮวากลับได้รับพระราชทานรางวัลจากไทเฮามากกว่าใคร เพราะเหตุผลใดใครจะรู้ดีเท่าหยางลู่ไทเฮา “เสียงขลุ่ยขององค์หญิงไพเราะมากเพคะ” อวี่เทียนเหมยรีบเอ่ยทันทีที่องค์หญิงเสด็จกลับมา อีกฝ่ายยักไหล่ “ขอบคุณคำชมที่จริงใจของท่าน” อวี่เทียนเหมยชะงักค้าง องค์หญิงรับมือได้ยากยิ่ง ต่อมาได้ยินเสียงหัวเราะจากเจ้าตัว จึงค่อยวางใจว่าเมื่อครู่โดนแกล้ง “หากเจ้าไม่อาย ก็ควรสงสารหูคนฟังบ้างเถิด” เสียงนี้ดังมาจากทางด้านหลัง สตรีสองนางที่นั่งข้างกันหันหน้าไปมอง คนหนึ่งหันหน้าหนี ส่วนอีกคนเบ้ปากใส่ผู้มาใหม่ทันที งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นบนเรือ ไม่มีที่นั่งชัดเจนเหมือนงานเลี้ยงที่วังหลวง หยางลู่ไทเฮามีพระประสงค์อยากให้ทุกคนผ่อนคลาย ไม่เคร่งครัดพิธีมากจนเกินไป ใครปรารถนาจะนั่งที่ใดก็ตามแต่ใจ จึงมีคนเดินขวักไขว่ไปมาค่อนข้างม

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status