คนที่ยืนตรงหน้ายิ้มแวบเดียว แค่เพียงไม่กี่วินาที แต่คนที่ได้เห็น กลับใจสั่นขึ้นมาแบบที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
เสียงประกาศบอกสถานีที่รถกำลังจะจอดดังขึ้นมาก่อนที่จะพูดคุยอะไร คนข้างๆลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะลง
ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆ แล้วดึงกระเป๋าของตัวเองกลับคืนมา
" บ้านอยู่แถวไหน " เค้าถามออกมา เสียงเบา เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น
" ลงสถานีเดียวกัน " เค้าตอบกลับมาเสียงเบาเช่นกัน
" กลับดึกทุกวันเลยเหรอ "
" ก็เรียนพิเศษจันทร์ อังคาร พุธ " ขนมผิงตอบแล้วมองด้านนอกที่มืดมิด มีแสงไฟตามคอนโด และอาคารสูง เปิดอยู่
" เลือกคณะอะไร " คนโตกว่า ถามชวนคุย
" เดี๋ยวขอทาย " เค้าทำท่าคิด แล้วยิ้มออกมา
" อักษร ไหม "
" ก็เรียนศิลป์ภาษา ก็ต้องอักษร ไหมละ "
เสียงประกาศดังขึ้นอีกรอบ ขนมผิงลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะลง มือบางจับเสาสแตนเลสเอาไว้ เพื่อเป็นหลักยึดทรงตัว แล้วก็มีอีกมือจับซ้อนอยู่ข้างบน
แววตาที่มองมา สื่อความหมายได้อย่างดี รถไฟฟ้าจอดสนิทแล้ว ประตูเปิดออก คนข้างในทยอยลงกันอย่างเร่งรีบ ท่ามกลางความมืดมิด บรรยากาศยามค่ำคืน
" ลงบันไดทางไหน " คนที่เดินมาด้วยกันถามขึ้นมา
" ทางนี้ " ขนมผิงชี้ไปที่ทางไปบ้านของตัวเอง แล้วเงยหน้ามองคนตรงหน้า
" ไปสิ ทางเดียวกัน"
อาคารพานิชย์หลายคูหาที่อยู่ริมถนนปิดร้านกันเกือบหมดแล้ว หน้าบ้านแต่ละบ้าน เปิดไฟให้ความสว่าง
" ถึงแล้ว " อาคารพานิชย์ตรงหน้าขนาด3คูหา เปิดประตูแง้มเอาไว้ พอให้เห็นแสงไฟภายในร้าน
" อยู่ที่นี่หรอ" ร้านขนมไทยชื่อดัง ที่เป็นบ้านของเธอ
" นี่แหละ บ้านผิง"
" อือ เข้าบ้านนะ พี่ไปแล้ว " เค้าบอกกับเธอ แล้วเดินย้อนกลับไปตามทางที่เดินมา คนที่แอบมองอยู่ที่หน้าบ้าน หัวใจพองโต ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เธอจะคิดว่า พี่พีช อยากมาส่งที่บ้าน
" ป๊า สวัสดีค่ะ หม่าม๊า สวัสดีค่ะ " ลูกสาวเดินเข้ามาในร้าน ยกมือไหว้ทำความเคารพ ป๊า กับ ม๊า แล้ววางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะ
บ้านที่เป็นร้านขายขนมขนาดใหญ่ในย่านนี้ เป็นร้านขนมที่เลี้ยงครอบครัวป๊า และ มาถึงเธอ ในตอนนี้
" วันนี้ครูเค้าโทรมาคุยกับป๊า เรื่องงานโรงเรียนแล้ว ผิงไม่ได้ลำบากใจอะไรใช่ไหมลูก "
ชายวัยสี่สิบกว่า ถามลูกสาวคนเดียวด้วยความห่วงใย
" แอบเขินนะป๊า แต่ก็อยากทำ " ลูกสาวตอบตามตรง
" แล้วจะเหนื่อยไหมผิง ใจม๊า อยากจะห้าม เพราะห่วง " ขนมผิงส่ายหน้ารัวๆทันที
" อย่านะม๊า ผิงอยากทำ " คนอยากทำจริงๆ บอกเสียงสั่นรัว
" อย่ามาบ่นนะ ป๊าไม่สนใจ " ป๊าค้อนลูกสาวไม่จริงจังนัก
" ขึ้นบ้านอาบน้ำเถอะลูก ดึกแล้ว เดี๋ยวม๊าอุ่นรังนกให้ อาม่าเค้าตุ๋นเอาไว้ให้หลานสาวคนเดียว ทานสักหน่อย พรุ่งนี้เช้าตื่นมา
คนทำจะได้หายเหนื่อย "
" ได้เลยค่ะ ขอบคุณม๊านะคะ "
ขนมผิงหยิบกระเป๋านักเรียนกับถุงหนังสือ มาถือเอาไว้ แล้วเดินขึ้นไปบนห้อง ชั้นสามของตัวเอง ที่เป็นที่พักอาศัยส่วนตัว ของคุณขนมผิง ของคนทั้งบ้าน
หญิงชราวัยเจ็ดสิบปีตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ ง่วนอยู่ในครัวกับคนงานตั้งแต่เช้า ร้านทำขนมไทยขายขนมตลอดทั้งวันตั้งแต่หกโมงเช้าเริ่มเปิดร้าน ยาวไปถึงเกือบห้าโมงเย็นของทุกวัน
กลิ่นหอมของน้ำตาล ใบเตยและ มะพร้าว ตลบอบอวลอยู่ข้างหลังบ้าน ลูกจ้างแต่ละคนอายุมากกว่า ขนมผิงทั้งนั้น บางคนมาอยู่ที่ร้าน ตั้งแต่ ป๊ากับม๊า ยังไม่รู้จักกันเลย
" สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ " เสียงกระซิบ สวัสดีทักทายลูกน้องที่ร้าน เบากว่าปกติ ก่อนที่เจ้าตัว จะเดินเข้าไปหาอาม่า อย่างเงียบๆ
" จ้ะเอ๋ " หลานสาวกอดเอวบางของอาม่า แล้วส่งเสียงทักทาย
" ว้าย " เสียงอาม่าอุทานออกมา แต่ยิ้มกว้าง
" น่าตีน่าตีที่สุด เล่นอะไร " มือเหี่ยวย่นที่กำลังห่อข้าวเหนียวสังขยา ละมือจากงานตรงหน้า แล้วฟาดที่มือคนที่กำลังกอดตัวเองเบาๆ
" เจ็บ อาม่าตีผิง "
หลานสาวร้องเกินจริง ทำหน้างอแงใส่ แล้วมองข้าวเหยียวมูนตรงหน้า
" ซื้อสองห่อค่ะ จะเอาไปฝากมะปราง กับ หนมจีน "
หลานที่เป็นลูกค้าคนสำคัญ หยิบกระเป๋าสตางค์สีชมพูหวานออกมาจากกระโปรง ยื่นแบงก์ยี่สิบส่งให้ คนงานที่กำลังห่อขนมอยู่
แม่ค้าคนสวยที่กำลังห่อขนมหยิบถุงข้างตัวมา หยิบขนมห่อใบตองมาสองห่อ แล้วก็หยิบขนมชั้นกับสาลี่ ใส่ถุงเพิ่มให้อีกอย่างละชิ้น ลูกค้าคนสวยยกมือไหว้แม่ค้า แล้วหอมแก้มแรงๆซ้ายขวา
" เมื่อคืนนี้ รังนกอร่อยที่สุดในโลก ขอบคุณนะคะอาม่า " คนได้รับลูกยอแต่เช้า ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข แล้วมองนาฬิกาที่ข้างฝาผนัง
" ไปได้แล้ว เดี๋ยวสาย " อาม่าบอกหลานสาว แล้วจับมือบางเอาไว้ หยิบแบงก์ร้อยยัดใส่มือบางให้
" เงินทอนค่าขนม "
ลูกจ้างหัวเราะชอบอกชอบใจ หนูผิงมาซื้อขนมไม่บ่อยหรอก นานๆมาทีแต่ว่า ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนจะแวะลงครัวมาหาอาม่า ก่อน เสมอ ถ้ามาซื้อขนมทีไร แม่ค้าก็ทอนเงินกลับไปทุกครั้ง เช่นกัน
ลูกค้าหน้าร้านมีไม่มากในช่วงเช้า ส่วนใหญ่เป็นคนแถวบ้าน ที่มักจะเลือกซื้อไปใส่บาตร หรือ ไหว้พระ ในวันพระ
ลูกจ้างหลายคนกำลังตักขนมใส่กล่องให้ลูกค้า ส่วนป๊ากับม๊ากำลังช่วยคิดเงิน
มือบอบบางหยิบช้อนพลาสติกที่วางอยู่หน้าตู้ แล้วเดินไปหอมแก้มป๊า ก่อนจะหอมแก้มม๊าอีกครั้ง
" ไปก่อนนะคะ " ลูกสาวเอาถุงขนมใส่กระเป๋า แล้วเดินออกจากร้านไป เป็นกิจวัตรประจำวันของตัวเอง
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าบันไดตั้งแต่เข้า ทำให้คนที่เพิ่งมาถึง หยุดนิ่ง ก่อนจะรวบรวมสมาธิแล้วเดินขึ้นบันไดไป
" พี่มารอ " เค้าบอกเมื่อเธอเดินไปใกล้จะถึงตัว
" อะไรนะคะ " ขนมผิงอยากได้ยินอีกครั้ง
" พี่มารอ " คนที่ตื่นแต่เช้ากว่าปกติ มายืนรอตรงหน้าบันไดทางขึ้น ตั้งแต่เช้า บอกเสียงเรียบ
" ไปเถอะ เดี๋ยวคนเยอะ " ชายหนุ่มบอกแค่นั้นแล้วเดินเข้าไปรอรถด้วยกัน
" ไอ้พีช ไอ้พีช " เสียงเรียกชื่อดังลั่น ทำให้คนถูกเรียกหันไปมอง เพื่อนที่ไปแลกเปลี่ยนด้วยกัน วิ่งมาหา
" ว่าไงครับน้องมอหก " คนที่ไม่ซ้ำชั้นยักคิ้วให้ แล้วมองคนข้างๆที่ยืนอยู่ด้วย
" ไม่แนะนำเหรอ "
" อ่อ นี่รุ่นน้องที่โรงเรียน บังเอิญเจอกัน " คำพูดที่บอกออกมา ห่างเหินมาก จนคนที่ได้ยิน ตีความได้ตามนั้น
" เออ หรอ งั้นไว้เจอกันคราวหน้า ไปล่ะ " คนที่มาทักเดินเลี่ยงไป และคนที่ยืนข้างๆอยู่ ก็เดินห่างไปทันที
เตียงนอนขนาดใหญ่ และ ฟูกที่นอนอีก1อัน ข้างเตียง วางเอาไว้แนบชิดติดกัน ลูกชายทั้งสามคน หอบผ้าห่ม กับ หมอนประจำตัวของตัวเอง เดินเรียงแถว กันมานอนกับพ่อแม่ ในคืนวันศุกร์ “พ่อพ่อครับ พวกเราขอนอนด้วยได้ไหมครับ “เด็กชายภีม อ้อนพ่อพ่อ ที่กำลังอ่านหนังสือ อยู่บนเตียง “มาสิลูกเข้ามา “ความพ่อพ่อ ไม่เคยขัดใจอยู่แล้ว ยิ่งลูกชายมาคลอเคลียแบบนี้ ยิ่งหาได้ยาก “อ้าว ทำไมมาอยู่ตรงนี้กันละครับ อยากมาฟังอะไร “แม่ผิง ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมา มองลูกชายที่จับจองที่นอนของตัวเอง แล้วยิ้มด้วยความเอ็นดู “คราวที่แล้ว พ่อพ่อ ยังเล่าไม่จบเลยครับ ว่าพ่อพ่อเจอแม่แม่ครั้งแรก แล้ว พ่อพ่อ เป็นยังไง “ลูกชายคนโตท้าวความเดิม “ก็ไม่ยังไง พ่อก็ตกใจแค่นั้นเอง ไม่เจอกันหลายปี แม่ผิงสวยมาก แถมยังมีลูกสาวเป็นหนูปิ๊ง พ่อพ่อ เห็นแบบนั้น มันก็อึ้งไปนะ “ “พี่ปิ๊งหรอครับ “ “ใช่ แม่แม่เค้าพาพี่ปิ๊งกับลุงปัง ไปซื้อของ พ่อพ่อไปเจอพอดี ก็เลย ใจหายไปเลย เสียดายมาก “ เด็กชายภามยิ้มกว้าง แล้วกอดแม่แม่ของตัวเองเอาไว้ “แล้วพ่อพ่อ รู้ได้ยังไงครับ ว่า แม่แม่ ยังไม่ได้แต่งงาน “พี่ภีมถามบ้าง “ตอนนั้น แม่เค้าทำงานกับลุงแอมป์
รถตู้สีขาวจอดที่หน้าโรงเรียนที่เน้นภาษาอังกฤษเป็นหลัก คุณพ่อยังหนุ่มห้อยป้ายสีน้ำเงิน ที่เป็นบัตรสำหรับผู้ปกครอง สแกนบัตรออกจากโรงเรียน แล้วเปิดประตูรถ ที่จอดสตาร์ทเครื่องรออยู่แล้ว “สวัสดีครับ ลุง สวัสดีครับ สวัสดีครับ “เด็กชายสามคนเดินมาที่รถ พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วยกมือไหว้ ทักทายลุงคนรถ ที่มารับมาส่ง เป็นประจำ ภาม ภีม พุฒิ สามหนุ่ม เช็ดมือด้วยทิชชู อย่างเรียบร้อย คาดเข็มขัดประจำที่ ก่อนจะรับกล่องขนมและน้ำ ที่แม่ เตรียมมาให้ แล้วลงมือทาน โดนัท กับนมกล่องเป็นของว่างหลังเลิกเรียน เด็กชายพุฒิ น้องน้อยวัยสี่ขวบ มองพี่ชายทั้งสองคนที่เกี่ยงกันพูด เรื่องบางเรื่อง ที่ตกลงกันตั้งแต่เมื่อเช้า ยังไม่ได้ข้อสรุปสักที “พ่อครับ พี่ภาม กับ พี่ภีม อยากได้ หุ่นยนต์ “น้องเล็ก เอ่ยปากออกมา “อะไรนะลูก “พ่อพ่อ เก็บไอแพดลงทันที แล้วฟังลูกชายที่พูดภาษาอังกฤษกับพ่อ ด้วยความเคยชิน “หุ่นยนต์ครับในกระปุกของภามกับภีม เก็บเงินครบแล้ว เลยจะถามพ่อพ่อว่า วันนี้ เราจะไปซื้อชุดบอลกัน พ่อพ่อจะพาไปซื้อ หุ่นยนต์ได้ไหมครับ “พี่ภาม ถามพ่อพ่อ ออกมา หลังจากตัวแสบ เอ่ยปากก่อน “แล้ว บอกแม่หรือยัง
พยาบาลสาวน้ำตาซึมเพราะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ โดยเฉพาะคุณพ่อที่น้ำตาไหลออกมาแบบไม่วางมาดใดใดทั้งนั้น เสียงอ่อนโยนที่กระซิบบอกลูกในท้อง และ ลูบผมภรรยา ที่นอนอยู่บนเตียง เป็นความละมุน ที่หาได้ยากเหลือเกิน “ตอนนี้ก็วางใจได้อีกระดับแล้วนะคะ ช่วงนี้ คุณแม่ก็แค่ต้องระวังตัวเองให้มากขึ้น กว่าคนปกตินิดหน่อย งดออกกำลังกายที่หนักๆ งดยกของหนักเลยนะคะ “คุณสามี มองหน้าภรรยา แล้วบอกด้วยสายตาดุๆ ว่า ห้ามดื้อกับพี่นะ เพื่อนสนิทอ่านไลน์กลุ่มแล้วรัวสติ๊กเกอร์หัวใจกลับมา ข่าวดีที่ลุ้นกันมา เกือบสองสัปดาห์ ทำเอาทุกคนโล่งใจมากๆ ที่เจ้าจิ๋วของป้าของน้า แข็งแรงมากขึ้นตามลำดับ “ทีนี้ผิงคงต้องลาออกแล้วใช่ไหมคะ “คนที่อยากทำงาน ทำเสียงอ้อน สามีที่กำลังขับรถพากลับบ้านป๊าม๊า “ “ก็ต้องอย่างงั้นครับ แม่แม่ทำได้ไหม เพื่อจิ๋วของเรา “คำบอกกล่าวไม่ใช่คำสั่ง แต่เป็นคำอ้อนที่น่ารักเหลือเกิน “แล้วผิงก็อยู่กับจิ๋วสองคนแม่ลูก ตอนที่พ่อไปทำงานหรอคะ “ “พ่อก็ออกไปทำงาน เลิกงานพ่อก็กลับบ้านเลยครับ ไม่เกเร ไม่ไปออกนอกลู่นอกทางที่ไหนแน่นอน “คำบอกออกมา ทำเอาคนกำลังกังวล หายไปหมดทุกสิ่ง เธอไม่รู้หรอกว่า อนาคตข้างหน้า จะเป็นยั
รถเข็นที่ถูกเข็นตามหลัง คนตรงหน้าเต็มไปด้วย ข้าวของเครื่องใช้หลายอย่าง สิ่งของอุปโภค บริโภคหลายรายการ ถูกหยิบใส่ หยิบใส่ ลงในนั้น ก่อนจะเดินตามภรรยาคนสวยที่เดินตัวปลิว นำไปก่อน “มะปราง ท้องลูกอีกคนแล้ว ผิงพร้อมหรือยังครับ “ข่าวดีจากเพื่อนรัก ที่ไปเจอมาเมื่อวาน ทำเอาคนที่เพิ่งแต่งงาน หน้าร้อนผ่าวด้วยความเขิน พี่ปัง ไม่พูดไม่บอกอะไรทั้งนั้น แต่ลงมือทำเลย “หนูปิ๊งโต ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ก็เลยอยากมีน้อง ให้พี่สาว “คนที่กำลังท้องได้สองเดือนกว่า ก้มหน้าก้มตา บอกเพื่อนด้วยความอายจัด ที่ตัวเองล้ำหน้า เพื่อนไปไกล แต่งก่อน มีลูกก่อน แถมยังมีอีกคนแล้ว “เดี๋ยวพี่จะรีบตามไปติดๆ ลูกเราจะได้มีเพื่อนเล่น “คนที่ทำการบ้านทุกวัน บอกยิ้มๆ มองภรรยาที่กำลังเขินสุดๆ “ก็เพิ่งแต่งงานเอง จะปล่อยให้ท้องเลยหรอคะ “คนที่ยังอยากใช้ชีวิตด้วยกันสองต่อสอง อ้อนเสียงสองใส่ “ทำไมครับ กลัวท้องแล้ว พี่จะไม่สวีทกับผิงหรอ ฝันไปเลย พี่จะสวีทใส่ผิง ทุกวันทุกคืน ไม่เชื่อ คืนนี้ จะไม่ปล่อยให้นอนเลย “คนที่ชอบแกล้ง บอกยิ้มๆ แล้วจับมือเธอเอาไว้ ก่อนจะลูบผมเบาๆ “แม่ผิงอย่ากังวลเลยนะครับ พ่อพีช แค่อยากมีเด็กตัวเล็กๆ
รถเอสยูวีคันสวยจอดสนิทแล้ว คนขับรถมองคนข้างๆ ที่กำลังเตรียมตัวจะเปิดประตูลง “ลืมอะไรไหมครับ “ “ไม่ลืมนะคะ นี่กระเป๋า นี่โทรศัพท์ นี่แก้วกาแฟ “คนที่เตรียมของครบแล้ว ตอบกลับไป “นี่ไงครับที่ลืม “คนขับเอียงแก้มตัวเองเข้าไป แล้วชี้ให้เธอได้รู้ “เพิ่งหอมไปห้าสิบรอบตั้งแต่ตื่นนอน ไม่พอหรอคะ “คนที่ถูกฟัดจนแก้มช้ำ ตอบออกมา “เท่าไหร่ก็ไม่พอ มาเร็ว หอมพี่หน่อย “คนขี้อ้อน ชี้แก้มตัวเอง แล้วยิ้มอ้อนใส่อีกครั้ง ใบหน้าสวยหวานย่นจมูกน้อยๆ แต่หันตัวตั้งใจจะหอมแก้ม แต่กลับโดนเค้าจูบที่ริมฝีปากบาง บดเบียดด้วยปลายลิ้นอุ่น “นี่แหนะ ชอบแกล้ง “คนถูกแกล้งบ่นออกมา แต่ยิ้มหวาน แล้วลูบแก้มบางเบาๆ “ตั้งใจทำงานนะครับ นี่คงเป็นการทำงานวันแรกที่พี่เบื่อมาก ทรมานมาก แล้วก็อยากกลับบ้านไปกอดเมีย “ คนที่เพิ่งมาทำงานวันแรก หลังจากลาไปแต่งงานครบสัปดาห์อ้อนออกมา อีกครั้ง “งั้นก็รีบไปทำงานนะคะ กลางวันผิงจะรอทานกลางวันด้วย “ “ได้ค้าบ รอนะครับคนดี “ พนักงานหนุ่มๆ ที่บริษัทมองเจ้าสาวหมาดๆ ด้วยความเสียดาย ใครจะคิดว่า คุณพีช จะมาไวเคลมไวได้ขนาดนี้ “พี่ผิง กลับมาทำงานแล้ว” รุ่นน้องทักทาย แล้วยิ้มให้ด้วยควา
ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ถูกถอดออก เหลือเพียงชุดชั้นในสองชิ้น แสงไฟในห้องนอน ส่องสว่าง ท่ามกลางความมืดมิดภายนอก ร่างกายแข็งแรงกำยำ ถอดชุดของตัวเองออก เหลือเพียงกางเกงชั้นในเพียงตัวเดียว สายตาของคนทั้งสองคน มองกัน สื่อความหมาย เกือบ1ปีที่คบหาดูใจกันมา แม้จะไม่นาน สำหรับหลายคู่ แต่สำหรับคนที่รอคอยกันมา ตลอด กลับคิดว่า มันนานเกินพอแล้ว ที่จะมีวันนี้ “ผิง กลัวพี่ไหม “เค้าถามออกมา แล้วมองหน้าเธอ มือหนาลูบผมของเธอเล่น แล้วจูบที่หน้าผากขาวเบาๆ ตั้งใจจะให้ครั้งแรก อบอุ่น และนุ่มนวลที่สุด แม้ว่าตัวเอง จะกำลังทรมานมากเพียงใด “ครั้งแรก คงจะเจ็บมากแน่ๆ “เค้าบอกกับเธอ แล้วดึงมือเธอ มาสัมผัสอวัยวะของตัวเอง “มันเป็นของผิง อย่ากลัวไปเลย “คนที่เพิ่งได้สัมผัสครั้งแรก หน้าแดงก่ำด้วยความอาย ของเธอที่ไหนกัน “ของผิงที่ไหนละคะ ของพี่พีชต่างหาก “เธอตอบกลับไป แล้วมองหน้าเค้า ท้าทายสายตา “เราเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว ผิงเป็นของพี่ แล้วพี่ก็เป็นของผิง ระหว่างเรา ไม่มีอะไรเป็นของคนใดคนนึงอีกต่อไป เราเป็นของเราทั้งสองคน “ คำตอบที่ตอบออกมา ทำเอาคนฟังยิ้มกว้าง ด้วยความตื้นตันใจ ทำไมเธอชอบอะไรแบบนี้ “แล้วเงินเดือนพ