ไพลินกินก๋วยเตี๋ยวของเธอต่อไปจนหมด กินข้าวเหนียวถั่วดำต่อเงียบๆ อิ่มแล้วลุกเข็นรถที่มีของใช้อยู่เกือบเต็มเข็นตรงไปด้านนอกของห้าง มือข้างที่ไม่เจ็บกดโทรศัพท์เรียกรถ ไม่ได้สนใจคนที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับเธอเลย เธอเข็นรถออกมาถึงด้านหน้าของห้างพ้นประตูเลื่อนแค่นิดเดียว
“อุ้ย” รถที่เธอเข็นมา ถูกแดนไทยกระชากออกไปจนร่างเธอเซไปตามรถเข็น
“กลับไปที่โต๊ะอาหาร ลุกหนีมาเฉยๆ แบบนี้ได้ยังไงเสียมารยาท”
ไพลินปล่อยให้รถเข็นไปอยู่ในมือเขา ถอยหลังไปชิดริมถนนอีกฝั่งเริ่มกลัว เขาเหมือนคนบ้า หรือเขาเป็นคนบ้าจริงๆ ไม่ปกติแน่ๆ พายเอ้ยไม่น่าเลย ทำยังไงดีหญิงสาวหันซ้ายขวารถที่เรียกมาพอดีเร็วทันใจรถจอดตรงหน้า ไพลินเปิดประตูขึ้นรถทันทีปล่อยให้แดนไทยยืนจับรถเข็นอยู่ตรงนั้น ช่างเถอะของทั้งหมดนั่นเกือบสามพัน ไว้ค่อยซื้อใหม่ ตอนนี้เธออยากไปให้ถึงคอนโดให้เร็วที่สุด ใจเต้นแรงทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้นึกเป็นห่วงยาย ถ้าเกิดเขาบ้าจริงๆ ยายกับเธอต้องไม่ปลอดภัยแน่ๆ
ไพลินจ่ายค่ารถแบบไม่รับเงินทอนรีบขึ้นไปหายายทันที คงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว
“หนูพายเป็นอะไรไปลูก ทำไมหน้าตาตื่นแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”
“ยายคะ พายลาออกจากงานแล้วนะคะเริ่มวันนี้ พายจะพายายกลับบ้านเราจะไปอยู่บ้านยายกันนะคะ คืนนี้พายจะเริ่มเก็บของพรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันเลย”
“ทำไมรีบร้อนจังเลยล่ะลูก”
“ไม่รีบหรอกค่ะยายจริงๆ พายตั้งใจว่าจะพายายกลับบ้านวันนี้แต่พายนัดกินข้าวกับพ่อ”
“พ่อเขารู้แล้วเหรอลูก”
“รู้แล้วค่ะ พ่อหน้าตาไม่ค่อยสบายเลยค่ะยาย เหมือนมีปัญหา พายคิดว่าคงเกี่ยวกับธุรกิจที่ทำ”
“เขาคงมีปัญหาของเขานั่นแหละลูก”
“พ่อเอาโฉนดที่ดินมาให้พายด้วยค่ะ บอกว่าใช้เงินที่พ่อกับแม่เก็บมาด้วยกันซื้อไว้นานแล้วโอนให้พายเรียบร้อย จริงๆ พายไม่อยากได้เลย แต่พ่อขอร้องเลยต้องรับไว้ พายบอกพ่อว่าถ้าพ่อต้องการใช้ก็มารับคืนได้เลยค่ะ”
“ดีแล้วลูกไม่ต้องอยากได้ของเขาหรอก ของยายมีตั้งเยอะแยะเหลือกินเหลือใช้”
“งั้นเดี๋ยวพายเก็บของก่อนนะคะยาย พรุ่งนี้อยากออกแต่เช้าๆ”
“ตามใจลูกของยายมีไม่มากหรอก กระเป๋าเดียวก็ไปได้แล้ว”
ยังไม่ทันที่สองยายหลานจะเริ่มเก็บของเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ไพลินสะดุ้งหันไปมองหน้ายายจัน
“มีอะไรหนูพายตกใจทำไม มีอะไรที่ยังไม่ได้เล่าให้ยายฟัง”
ไพลินอ้ำอึ้งพยายามตั้งสติตอนนี้เธอไม่อยากเจอหน้าเขาเลย
“ยายจ๋าพายไม่อยากเจอหน้าคุณแดนไทย ไม่อยากพูดคุยหรือเสวนากับเขา ไม่ถูกชะตาเลย”
“หนูพายมันจะน่าเกลียดไหมลูก เขาช่วยยายมาตลอดเลยนะ ช่วงที่หลานไม่อยู่ เขานี่แหละที่ช่วยยายขนของขึ้นมาไว้บนห้องวันที่ยายมาที่นี่วันแรก ดูแล้วเขาสุภาพจะตายคิดไปเองหรือเปล่าลูก เดี๋ยวเราก็ไม่อยู่แล้วดีกับเขาสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
“ยายจ๋าอย่าบอกเขาได้ไหมคะ ว่าเรากำลังจะกลับต่างจังหวัดพายขออย่างเดียวนะคะยาย”
ยายจันเดินไปเปิดประตูเป็นแดนไทยจริงๆ หิ้วของมาเต็มสองไม้สองมือ
“เชิญเข้ามาก่อนคุณ แล้วนี่อะไรหรือเต็มสองไม้สองมือเลย”
“ผมเอาของคุณพายมาส่งครับ”
“อ้าวแล้วไหงคุณถือมาคนเดียว หนูพายมารับไปหน่อยลูกเร็วหนักๆ ทั้งนั้นเลย แล้วทำไมเป็นคุณเขาถือมาล่ะ” ยายจันเริ่มสงสัยระหว่างหลานสาวกับแดนไทย คงมีเรื่องไม่ถูกใจกันแน่ๆ
ไพลินถอนหายใจเสียงดัง จากที่กำลังจะเดินเข้าห้องต้องหันกลับเดินไปรับของจากเขา
“หนูพายเอาของไปเก็บก่อนนะลูกแล้วเดี๋ยวหาข้าวให้คุณเขากินด้วยนะ ถือมาได้ยังไงของเยอะขนาดนั้นไม่ใช่อย่างสองอย่างนะเยอะมากเลย” ยายจันหันมาบอกหลานสาวที่ทำหน้านิ่ง
“หนูพายฟังยายพูดหรือเปล่าลูก”
“ค่ะยาย ขอบคุณนะคะ"หญิงสาวหันไปขอบคุณแดนไทย
หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขาไม่มองหน้าด้วยซ้ำ เสร็จแล้วเลี่ยงไปจัดอาหารที่ยายทำไว้มาให้คนที่นั่งรอที่โต๊ะอาหาร เธอต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดไม่แน่ใจว่ายายไปเผลอเล่าให้เขาฟังบ้างหรือเปล่า ที่จะกลับต่างจังหวัดกัน เธอเดาไม่ถูกว่าเขาคิดอะไรอยู่ ดูท่าที่นั่งกินข้าวคุยกับยาย ท่าทางสนิทสนมน่าหมั่นไส้กินเล่นกินหัวอยู่นั่นแหละแทนที่จะรีบกินแล้วรีบไป
“ไพลินเลี่ยงไปจัดการเช็คของใช้ตามบิลที่เธอซื้อมาเก็บเข้าตู้ เห็นว่าเขากินข้าวอิ่มแล้ว เธออุ่นลอดช่องใบเตยที่เขาซื้อมาฝากยายยกไปให้เขากิน ตามที่ยายสั่ง แล้วกลับมานั่งเก็บของใช้เข้าตู้ต่อไปเงียบๆ ปล่อยให้เขาคุยกับยายไปอยากคุยก็คุย อยากทำอะไรก็ทำไปเลย นาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มผู้ชายยังไม่กลับ ไพลินเก็บของเสร็จแล้วเธอเข้าห้องนอนอาบน้ำเตรียมตัวนอนแล้วก็เผลอหลับไปจริงๆ ยังไม่ได้ล้างแผลด้วยซ้ำ
“หนูพายทำอะไรอยู่ลูกล้างแผลรึยัง”
ไพลินตกใจตื่นเสียงยายอยู่ใกล้ๆ เตียงหญิงสาวลืมตาตกใจที่ยายยังไม่นอน
“ยายกี่ทุ่มแล้วคะ ทำไมยังไม่นอน”
“พายไม่น่ารักเลยนะลูกแขกยังไม่กลับเลย แล้วนี่ยังไม่ได้ล้างแผลใช่ไหม”
“ลืมไปเลยค่ะยายเดี๋ยวพายออกไปล้างเดี๋ยวนี้เลย ยายไปนอนพักผ่อนเถอะค่ะ”
ไพลินลุกทันที ยายเข้าห้องนอนไปแล้ว ห้าทุ่มครึ่งหญิงสาวรีบออกไปด้านนอกผู้ชายยังไม่กลับจริงๆ ทำไมเขาต้องทำแบบนี้นี่จะเอาชนะกันให้ได้หรือยังไง
“ล้างแผลรึยัง”
“ยังค่ะกำลังจะล้าง”
“จะล้างยังไง ทำไมปล่อยให้ยายอยู่ดึกได้ หนีไปนอนได้ยังไง”
“ทำไมคุณต้องอยู่ดึก ถ้าคุณกลับเร็วยายก็ไม่ต้องอยู่ดึก”
“ไปล้างแผลฉันบอกยายเธอแล้ว ปล่อยให้ยายนอนไปส่วนเธอไปกับฉัน”
“ไพลินได้ยินฉันพูดไหม หรือต้องให้ฉันไปปลุกยายเธอออกมายืนยันว่าท่านอนุญาตให้ฉันพาเธอไปล้างแผล”
ไพลินที่อยู่ในชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวลายสกอตสีขาวแดง คว้ากระเป๋าสตางค์โทรศัพท์คีย์การ์ดห้องเดินออกไปรอเขาด้านนอก พยายามระงับสติอารมณ์ให้นิ่งเท่าที่จะทำได้ สองคนเดินไปพร้อมกันต่างคนต่างเงียบกระทั่งถึงรถของแดนไทย จะเที่ยงคืนแล้วจะไปล้างแผลที่ไหนกัน กะอีแค่ล้างแผลเธอล้างเองก็ได้ไม่เห็นจะต้องลำบากเลย
แดนไทยขับรถวนหาคลินิคจนได้ แต่กว่าจะหาเจอก็เกือบตีหนึ่ง ต่างคนต่างเงียบเหมือนต่างควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้
ไพลินไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ จะอะไรนักหนากับแค่เรื่องแผลบนหลังมือ
“ฉันขอเบอร์โทรเธอหน่อย”
ไพลินนั่งเงียบ
“ไพลินจะให้ดีๆ ไหม”
“จะเอาไปทำไมคะ เราไม่จำเป็นที่จะต้องติดต่อหรือพูดคุยกัน”
“จะให้ดีๆ ไหมอย่าให้ฉันพูดเป็นครั้งที่สามนะ”
ไพลินยื่นโทรศัพท์ให้เขา แล้วหันหลังให้เขาหันหน้าออกไปนอกกระจก อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ กดหาเอาเองล่ะกัน
“เสร็จแล้วเวลาที่ฉันโทรหาก็ให้รับด้วยล่ะ อยากได้อะไรไหมก่อนกลับ”
“ไม่ค่ะอยากกลับแล้ว ง่วงนอน”
“นอนไปแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันยังไม่ง่วงเลย”
ไพลินหันขวับไปมองหน้าคนพูดบนหน้ามีแต่คำถาม
“เธอก็ตามใจฉันซิอย่าดื้อนักฉันไม่ชอบคนดื้อ”
ไพลินขมวดคิ้ว เขาต้องจิตไม่ปกติแน่ๆ หญิงสาวเภาวนาขอให้เขาหยุดพูดจะทำยังไงดีเขาถึงจะพาเธอกลับคอนโด
“คุณแดนไทยคะ ดิฉันง่วงมากแล้วค่ะมีอะไรค่อยคุยพรุ่งนี้ได้ไหมคะฉันต้องกินยาแก้อักเสบนี่ก็เกือบตีสองแล้วเดี๋ยวยายตื่นมาไม่เห็นฉันท่านจะเป็นห่วงเรากลับคอนโดกันดีกว่านะคะ”
เขาก็ยิ้มเป็นนี่นา แดนไทยออกรถมุ่งหน้ากลับคอนโด ไพลินถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกพยายามอดทนเต็มที่ นี่เธอต้องมาเจออะไรแบบนี้
“พรุ่งนี้ฉันขอแรงเธอหน่อยได้ไหม ไปช่วยฉันทำความสะอาดที่ห้องฉันหน่อย”
“คุณก็จ้างแม่บ้านก็ได้นี่คะ พรุ่งนี้ฉันคิดว่าฉันจะไม่ว่าง”
“เธอก็ต้องตอบแทนฉันไง นี่ฉันหิ้วของมาส่งให้เธอตั้งมากมาย ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลยนะที่หนีฉันกลับคอนโดก่อน ไม่เคยมีใครทำกับฉันแบบนี้”
“ได้ค่ะไม่มีปัญหาพรุ่งนี้กินข้าวเช้าเสร็จแล้วฉันจะไปทำให้”
“ฉันไม่ได้ให้เธอทำฟรีๆ หรอกนะคิดมาเลยว่าเท่าไหร่”
“ฉันต้องไปดูหน้างานก่อนค่ะ ไม่เห็นพื้นที่เลยตอบไม่ได้”
“พ่อกับแม่เธออยู่ไหน”
“พ่อมีครอบครัวใหม่ แม่ฉันเสียแล้วค่ะตอนนี้ฉันมีแค่ยายที่เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียว”
“เจอพ่อบ่อยไหม”
“ไม่บ่อยค่ะ”
“เพราะอะไร”
“ไม่อยากให้พ่อมีปัญหากับภรรยาใหม่ค่ะ แม่เลี้ยงกับน้องเลี้ยงไม่ค่อยชอบฉันสักเท่าไหร่”
“ถ้าพ่อเธอมีปัญหาเธอคิดว่าจะช่วยเขายังไง เช่นเรื่องเงินหรือเรื่องธุรกิจ”
“ฉันคงไม่มีปัญญาหรอกค่ะ แต่ถ้าพ่อล้มละลายหรือไม่มีเงินฉันจะรับเลี้ยงเขาเองถ้าภรรยาใหม่กับลูกเขาไม่ดูแลพ่อ”
“ดีเป็นลูกกตัญญู พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าเจอกันที่ห้องฉันนะ”
“อะไรกันคุณเช้าเกินไปค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะตื่นสาย”
“ถ้าเธอไม่มาฉันจะไปตาม งั้นไม่เป็นไรพรุ่งนี้ฉันจะไปขอกินข้าวเช้ากับยายของเธอล่ะกัน”
“จริงๆ เราหายกันแล้วนะคะ ฉันไม่ได้โกรธคุณแล้วเรื่องที่ทำฉันเจ็บ คุณไม่ต้องมาคอยพาฉันไปล้างแผลก็ได้นี่ก็เกือบจะแห้งแล้วไม่กี่วันก็หาย คุณก็ไปทำงานของคุณต่างคนต่างอยู่ ฉันไม่ชินกับการที่มีคนอื่นนอกจากยาย”
ดูเหมือนว่าแดนไทยไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เธอพูดเลยกระทั่งถึงคอนโด เขาก็เข้าห้องเขาไปเงียบๆ ไพลินรู้เกี่ยวกับตัวเขาอีกอย่างคือต้องเงียบห้ามต่อล้อต่อคำเพราะเขาไม่ชอบ แล้วทำไมเธอต้องทำตามเขาด้วยไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ หญิงสาวคิดวนไปวนมา กว่าจะได้นอนก็เกือบตีสองกว่าเข้าไปแล้ว
แดนไทยรู้สึกว่าตัวเองพอใจที่ได้พูดคุยกับเด็กไพลิน แต่จุดประสงค์หลักของเขาไม่ใช่แบบนี้ อยากรู้นักว่าถ้าเด็กนี่รู้เรื่องทั้งหมด จะทำหน้ายังไงทำไมเขาจะไม่เห็นว่าสองพ่อลูกนัดคุยกัน มีอะไรที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับครอบครัวนี้อีกซองที่พ่อส่งให้ลูกนั่นคืออะไร
ครบสองเดือนที่ไพลินกลับมาอยู่บ้าน หญิงสาวมีความสุขมากได้ดูแลยาย ทำกับข้าวให้ยายกิน ตักบาตรเช้า ไปวัดทำบุญ สวดมนต์ทุกวันพระพร้อมกับยาย ทำงานบ้าน ทำงานที่ชอบ เธอไปที่ร้านขายอุปกรณ์การเย็บปักถักร้อยบ่อยมากๆ ผลิตผลงานมากมายประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเครื่องจักร ถักได้ถักดี ว่างก็วาดรูป อะไรที่ชอบมักทำได้ดีเสมอ ไพลินถักทุกอย่างที่ลูกค้าสั่ง ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าต่างชาติทั้งนั้น ได้ราคาดียิ่งเป็นงานฝีมือต่างชาติยิ่งชอบ แต่เธอก็ดูแลยายไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เพราะไม่มีอะไรมากวนใจชีวิตเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก เช้าตื่นทำกับข้าวใส่บาตรกับยาย ทำกับอาหารกิน ไปตลาดซื้อของสดมาไว้ทำกับข้าว ปลูกผักไว้กินเอง วันๆ เธอไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย เย็นวันศุกร์ถ้าบัวชมพูไม่ติดงานหรือกลับบ้าน ก็จะมาพักที่บ้านสวนกับไพลินเป็นประจำเรื่องสวนไม่ต้องห่วงลุงปานกับเมียดูแลให้ ยายให้ลุงเอาผลไม้ในสวนไปขายได้ แบ่งกันใช้แบ่งกันกิน บางครั้งผลไม้สุกกินไม่ทันยายก็ให้เธอเอาไปให้โรงเรียน ถวายพระที่วัดบ้างได้บุญกันถ้วนหน้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ไพลินจะหยุดงานถักและงานวาด เธอจะพายายไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตามโรงเรียนที่
เช้านี้ที่บ้านสวน ยายจันตื่นแต่เช้าเข้าครัวทำกับข้าวใส่บาตร ไพลินตื่นเป็นคนที่สองตามด้วยบัวชมพู ทั้งสองรีบอาบน้ำตามยายลงไปใส่บาตรเช้า กรวดน้ำเรียบร้อยแล้วขึ้นมากินข้าวเช้าพร้อมกัน“หนูพายกินข้าวเสร็จแล้วก็รีบไปธนาคารเสียนะหลาน โอนเงินให้เขา ไปทำเสียให้เรียบร้อย”“จ๊ะยาย พายเตรียมไว้แล้วค่ะ ยายอยากได้อะไรไหมเดี๋ยวเสร็จแล้วพายจะได้แวะตลาดสด”“อะไรก็ได้ลูก แล้วแต่หนูพายกับชมพูเลย อยากกินอะไรก็ซื้อมาของยายไม่ต้องเผ็ดก็พอ”ไพลินกับบัวชมพูนำเงินที่ได้จากการช่วยงานคุณพายัพไปฝากธนาคาร และโอนเข้าบัญชีแดนไทยทันทีเธอส่งสลิปให้คุณอำพล เพิ่งดูโทรศัพท์ว่าคุณอำพลโทรหาเธอตั้งแต่เมื่อคืน ทั้งโทรทั้งไลน์ หญิงสาวตกใจ ปกติคุณอำพลไม่เคยโทรแบบนี้ จะมีเรื่องอะไรอีก หญิงสาวรีบโทรกลับทันที“สวัสดีค่ะคุณอำพลฉันขอโทษนะคะ พอดีเมื่อวานกลับถึงบ้านแล้วนอนยาวเลยค่ะ เพิ่งดูโทรศัพท์เมื่อกี้เลย เอ่อ...คุณอำพลคะฉันโอนเงินใช้หนี้หมดแล้วนะคะแล้วเดี๋ยวฉันส่งสลิปให้ รบกวนคุณอำพลเรื่องเอกสารด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ถ้ามีโอกาสฉันเข้ากรุงเทพฯ จะนัดกินข้าวนะคะ”“ไพลินฉันเอง ไพลินฟังฉันก่อนคุยกับฉันหน่อยได้ไหม ฉันอธิบายได้น
ของงานคุณพายัพดำเนินมาคืนสุดท้าย แขกมาร่วมแสดงความเสียใจมากมายกว่าสองวันที่ผ่านมา คุณทัตเทพและคุณดรุณีให้คุณอำพลและแดนไทยไปช่วยกันต้อนรับแขก เพราะเป็นนักธุรกิจที่ทั้งคู่รู้จักอยู่แล้ว ส่วนมากแขกที่มาเข้ามาแสดงความเสียใจกับไพลินเกือบทุกคน หญิงสาวปลื้มใจกับคุณพายัพที่มีแต่คนรักน้ำตาคลอตลอดเวลา เสียดายที่พ่อด่วนจากไปมีลูกค้าฝรั่งใหม่ๆ หลายคนเข้ามาทักทายแสดงความเสียใจด้วย บางคนรู้ว่ามีญาติผู้ใหญ่มา ถึงกับเข้าไปขอทักทาย เป็นที่แปลกใจสำหรับทุกคนในงาน ที่ยายจันถึงแม่จะแก่มากแล้ว ก็ยังสามารถพูดคุยทักทายกับฝรั่งต่างชาติโดยใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ ไพลินกับบัวชมพูไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะยายมีทั้งลูกศิษย์ และเพื่อนที่เป็นต่างชาติมากมายสมัยที่ยังเป็นครู ยายสอนภาษาอังกฤษ แดนไทยทึ่งที่สุดมีอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับครอบครัวของไพลินที่เขายังไม่รู้ หลายคนในงานมองยายจันอย่างชื่นชม“คุณไพลินครับ นี่คือมิสเตอร์มาร์ค เป็นลูกค้ารายใหญ่ของคุณพายัพ เขาเพิ่งทราบข่าวคุณพายัพ และรีบเดินทางมาแสดงความเสียใจด้วย” คุณอำพลพาชาวต่างชาติเข้ามาแนะนำให้เธอได้รู้จักไพลินยกมือไหว้และทักทายด้วยภ
คืนที่สอง ไพลินกับบัวชมพูยังสู้มาก มีหลายคนคอยช่วยงาน ยายจันให้จ้างทุกอย่าง ทำให้ไพลินกับบัวชมพูมีเวลาได้พักบ้าง เหนื่อยน้อยกว่าคืนแรก คาดว่าคืนนี้แขกคงเยอะเหมือนเดิม ยายจันจัดเครื่องประดับมาให้สองสาวครบวันที่ต้องทำงาน แยกของใครของมัน สมหน้าตาลูกสาวอดีตเจ้าของบริษัทฯมาก ไพลินไม่น้อยหน้าใครเลยใกล้เที่ยงปรากฎรถของแดนไทยเลี้ยวเข้ามาภายในบริเวณวัด เขามาพร้อมผู้หญิงหน้าตาคล้ายกัน ชังน้ำหน้านักแต่ก็อยู่ระหว่างงานพ่อจะแสดงออกมากกว่านั้นก็ไม่ได้ หลายคนในงานจับตามองดูเธออยู่ ไพลินยืนอยู่ภายในศาลาเมื่อเห็นว่าสองคนนั้นเดินเข้ามา เธอลุกขึ้นยืนสบตากับฝ่ายหญิงเท่านั้น“สวัสดีค่ะน้องพายใช่ไหมคะ พี่ชื่อดารณีเป็นน้องพี่แดนไทย พี่แสดงความเสียใจด้วย เรียกพี่ดาก็ได้นะคะ มีอะไรให้พี่ช่วยบ้าง วันนี้พี่ว่างทั้งวัน” ดารณีแนะนำตัวเองกับไพลิน แค่เห็นหน้าเธอก็รู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้แล้ว สวยหุ่นดีมาก ถึงแม้จะอยู่ในอาการเศร้าหมองก็ตาม“เอ่อ สวัสดีค่ะขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ช่วยเลยช่วงเย็นแขกมาเยอะจะยุ่งหน่อยค่ะ” หญิงสาวยกมือไหวดารณี ไม่แม้แต่จะมองหน้
ไพลินหลบอยู่แถวหลังร้านกาแฟของปั้มน้ำมัน กระวนกระวายกลัวว่าแดนไทยจะตามมาเจอ เธอจำไม่ได้ว่าแทงเขาไปกี่ครั้ง เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิดเขาคิดไม่ดีกับเธอ ไม่น่าไว้ใจเขาเกือบยี่สิบนาที กัลยาหรือเก่๋เพื่อนของบัวชมพูที่ไว้ใจได้มารับเธอ บัวชมพูอยู่ในสายกับเพื่อนเพื่อเป็นการยืนยันว่ากัลยาเป็นเพื่อนของบัวชมพูแน่นอน บ้านพักของกัลยาอยู่ภายในโรงพยาบาล กัลยาอาศัยอยู่ลำพังซึ่งปลอดภัยแน่่นอน บัวชมพูไม่ได้บอกเพื่อนว่าไพลินเจออะไรมา เล่าให้ฟังเพียงแต่ว่ามีปัญหากับคนรู้จักขอพักรอบัวชมพูแค่สามชั่วโมง เพื่อนของชมพูไม่ติดใจอะไร"พายนอนพักก่อนนะ เก๋อยู่คนเดียว ที่นี่เป็นหอใน ถ้าไม่มีคนรู็จักที่พักอยู่ที่นี่คนนอกก็ไม่สามารถเข้ามาได้ ไม่ต้องกลัวนะอีกตั้งสามชั่วโมงกว่าชมพูจะขับรถมาถึงที่นี่ เก๋ว่าพายนอนพักก่อนเถอะขากลับพายจะได้เปลี่ยนพูขับรถ""พายขอบใจนะเก๋ ขอบใจมากพายจะไม่ลืมเลยที่ช่วยพายไว้ รบกวนเก๋ด้วยนะ""ไม่ต้องห่วงหรอกเพื่อนชมพูก็เหมือนเพื่อนเก๋นั่นแหละ เอาล่ะพายอาบน้ำก่อนก็ได้นะจะได้สบายตัว ใช้ชุดเก๋ได้เลย "ไพลินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดนอนของกัลยา เตรียมตัวนอนหันมาอ
ที่โรงพยาบาลมีพนักงานเก่าแก่สองสามคนที่อาสาอยู่เป็นเพื่อนไพลิน หญิงสาวใช้เวลาพูดคุยเรื่องของพ่อเรื่องโรงงานเรื่องการทำงานกับเหล่าพนักงานอย่างเป็นกันเอง ครึ่งวันเช้าจนเที่ยงทุกคนขอเลี้ยงข้าวเธอที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล แดนไทยไม่ว่าอะไรเขาคอยดูอยู่ห่างๆ กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วทุกคนขอตัวกลับ ยืนยันว่าจะมาเยี่ยมพ่อเธอทุกวัน นั่นทำให้ไพลินรู้สึกอบอุ่น เหมือนทุกคนเป็นญาติผู้ใหญ่ หญิงสาวน้ำตาคลอตลอดเวลาที่ได้พูดคุยกับเหล่าพนักงานโรงงานของพ่อหลังทุกคนลากลับ ไพลินจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพ่อ เงินของยายเธอยังไม่ได้ใช้ยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เธอยังไม่อยากกลับคอนโด ดีที่โรงพยาบาลที่นี่มีทุกอย่างพร้อม ร้านอาหาร คาเฟ่ เหมือนห้างสรรพสินค้ามากกว่า หมอ พยาบาลเดินกันขวักไขว่ ตึกที่พ่อเธออยู่มีร้านสะดวกซื้อไว้บริการสำหรับญาติคนป่วย และคนที่ทำงานในโรงพยาบาล เธอเดินกลับไปหาแดนไทยที่นั่งอยู่อีกฝั่งเขานั่งตั้งแต่เธอกินข้าวกับเพื่อนๆ ของพ่อ“ฉันต้องแวะไปที่ทำงานสักหน่อยเธอเสร็จรึยัง”“ฉันขออยู่ที่นี่จนถึงเย็นได้ไหมคะ เดี๋ยวสักสองทุ่มฉันกลับเองก็ได้”“งั้