ณัฐชยารีบเข้าไปห้าม จึงถูกธัญชยาผลักจนเซถลา ในขณะที่ลินดาได้แต่ยืนดูเท่านั้น
“สมน้ำหน้า” ธัญชยาสะแยะยิ้มใส่น้องสาวผู้อ่อนแออย่างสะใจ จากนั้นก็เดินกลับออกไปพร้อมมารดา เพราะลึกๆ เธอไม่ได้ต้องการตุ๊กตาขี้เหร่ตัวนั้นมากมาย แต่หมั่นไส้ที่ณัฐชยาหวงและเห่อ อุ้มไปนั่นไปนี่รอบๆ บ้าน นั่งคุยกับมันราวกับคนบ้า เธอจึงเข้าไปแย่งจนแขนตุ๊กตาขาด พอจังหวะที่ล้มไปนั่งกับพื้นก็ร้องไห้ให้ดัง เพื่อให้มารดาได้ยิน และก็จริง เพราะเมื่อมารดาเข้ามา เธอนั้นชนะใสๆ ต่อให้ผิดมารดาก็จะเข้าข้างบอกว่าเธอถูก เมื่อมารดาและพี่สาวฝาแฝดกลับออกไปแล้ว น้ำตาของความเสียใจ น้อยใจของณัฐชยาก็ไหลอาบแก้ม เธอก้มหยิบตุ๊กตาขึ้นมากอดและพยายามเอาแขนที่ขาดหวังมาต่อให้เป็นเหมือนเดิม แต่พยายามอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ณัฐชยานั่งร้องไห้กับตุ๊กตาตัวโปรดและหวงมากที่สุด จนป้าอ้วนแม่บ้านที่เลี้ยงณัฐชยามาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยต้องเข้ามาดู “คุณหนูซอ อย่าร้องนะคะคนดีของป้า” “ป้าจ๋า” แทนที่จะหยุดร้อง พอเห็นหน้าป้าอ้วน ณัฐชยากลับร้องไห้มากขึ้น อ้อมกอดของป้าอ้วนนั้นอบอุ่นและคอยปกป้องดูแลณัฐชยาเสมอ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่แรกเกิดทำให้ป้าอ้วนรัก ณัฐชยาเหมือนลูกแท้ๆ ก็ไม่ปาน “โธ่...ทูนหัวของป้า ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง” “ซอจะทำยังไงดีคะ ตุ๊กตาแขนขาดแบบนี้ ถ้าพ่อกลับมาเห็นต้องโกรธมากแน่ๆ” เสียงสะอึกสะอื้นเอ่ยถาม ดวงตายังคงแดงก่ำ รวมถึงหยาดน้ำตาก็ยังไหลเป็นสาย ป้าอ้วนใช้มืออวบๆ เช็ดคราบน้ำตาให้คุณหนูของเธอ “ถ้าขาดเราก็ซ่อมได้ เดี๋ยวป้าทำให้” “จริงเหรอคะป้าอ้วน” แววตาเป็นประกายของณัฐชยาเอ่ยถาม “จริงสิคะ รู้แบบนี้ก็หยุดร้อง เดี๋ยวถ้าคุณพ่อกลับมาเห็นคุณซอตาบวมๆ แบบนี้จะไม่สบายใจเอา” “ค่ะ ซอไม่ร้องแล้ว” ใบหน้าที่เศร้าสลดเมื่อครู่เริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “งั้นนั่งรอป้าตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าไปเอาเข็มกับด้ายก่อน” “ค่ะ” ณัฐชยาพยักหน้ารับ ป้าอ้วนจึงปลีกตัวไปเอาเข็มกับด้าย จากนั้นก็กลับมาเย็บแขนของตุ๊กตาที่ขาดให้เข้าที่เข้าทาง โดยมีณัฐชยาคอยช่วย คอยลุ้นอยู่ข้างๆ กระทั่งเห็นว่าป้าอ้วนเย็บแขนตุ๊กตาเสร็จจึงเข้าไปกอดและหอมแก้มให้หลายครั้งอย่างขอบคุณเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้กลับไม่ได้ทำให้ณัฐชยารู้ตัว หญิงสาวยังคงเหม่อคิดเรื่องในอดีต กระทั่งเสียงที่คุ้นหูเอ่ยถามขึ้น
“นั่งคิดอะไรอยู่คะคุณซอ” เจ้าของชื่อหันไปมองยังคนที่เอ่ยถาม พร้อมกับส่งยิ้มให้ “คิดเรื่องเก่าๆ อยู่นะคะป้า” ณัฐชยาในวัยยี่สิบปีเอ่ยบอก ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้เธอผ่านเรื่องราวที่กระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจมาก็มาก แต่ณัฐชยาก็มีสติที่จะรับมือ ซึ่งป้าอ้วนคือหนึ่งคนที่คอยดึงเธอให้ขึ้นมาจากหลุมมืดที่คอยดักฉุดตัวณัฐชยาให้ลงไปจมกับความโกรธแค้นและเกลียดชัง “เรื่องก็นานมาแล้ว ยังจะเก็บมาคิดอีกทำไมคะ ทุกข์ใจเปล่าๆ” “ซอโชคดีนะคะที่ซอมีคุณพ่อ มีป้าอ้วนอยู่ข้างๆ เพราะถ้าซอไม่มีใครให้ยึดเหนี่ยวเลย ป่านนี้ซอจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” “คุณซอของป้า” มืออุ่นๆ ของป้าอ้วนกุมมือบอบบางของ ณัฐชยาไว้แล้วบีบเบาๆ เพราะรู้ว่าในใจของณัฐชยานั้นมีรอยแผลที่ยังไม่มีวันจางหายไปได้ง่ายๆ ก่อนจะมองหน้าณัฐชยาแล้วอมยิ้ม เด็กผู้หญิงที่โหยหาความรักจากมารดาในวัยเด็กคนนี้เติบโตมาอย่างสวยงาม ป้าอ้วนส่งยิ้มให้ณัฐชยา เธอทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่นี่มานาน รู้และเห็นอะไรมาก็เยอะแต่ก็พูดไม่ได้ สิ่งที่เห็นและสะเทือนใจดูเหมือนจะเป็นเรื่องของสองพี่น้องที่ได้ชื่อว่าฝาแฝดคู่นี้ แม้จะเกิดวันเดียวกัน ห่างกันแค่เพียงไม่กี่นาที แต่ณัฐชยากลับไม่เคยได้รับความรัก ความห่วงใยจากผู้เป็นมารดา ผิดกับฝาแฝดผู้พี่ที่ชื่อธัญชยาที่ได้รับความรักไปจนล้น จนกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ เหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะขณะที่ลินดาคลอดลูกแฝด เธอเกือบเสียชีวิตจากอาการตกเลือดหลังจากคลอดลูกคนแรกออกมาได้อย่างง่ายดาย ผิดกับเด็กที่ยังอยู่ในท้องอีกคนซึ่งก็คือณัฐชยา ที่ทำให้เธอเกือบเสียชีวิต ทรมานอยู่ในห้องคลอดด้วยสภาวะเป็นตายเท่ากัน นั่นทำให้ลินดาเกลียดลูกอีกคนขึ้นมาจับหัวใจที่สร้างความลำบากให้เธอตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งแต่ที่ณัฐชยาเกิดมาก็ถูกมารดากล่าวโทษต่างๆ นานาว่าเป็นต้นเหตุทำให้เธอเกือบตายมาแล้ว จึงไม่สนใจใดๆ ไม่เคยอุ้ม ไม่เคยให้ดื่มนมจากอก ไม่เคยให้ความรักแม้แต่น้อย ผิดกับลูกแฝดคนโตที่ได้รับความรักจากเธอไปหมดหัวใจ และดูเหมือนจะได้รับความรักเกินความจำเป็นเสียด้วย “ขอบคุณนะคะป้าอ้วน” “ค่ะ” ป้าอ้วนเอ่ยรับสั้นๆ มืออวบยกขึ้นลูบใบหน้าเรียว จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมานั้นอ่อนแอมาก จนต้องอยู่ในตู้อบนานเป็นเดือนๆ เพราะร่างกายไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก พอโตขึ้นมาหน่อยก็ป่วยออดๆ แอดๆ จนต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น นั่นยิ่งทำให้ลินดาหงุดหงิดยามที่เห็นว่า ณัฐชยาไม่สบาย เพราะสุขภาพของลูกคนเล็กช่างผิดกับธัญชยาลูกคนโต ที่เลี้ยงง่ายเป็นที่สุด หน้าตาก็น่ารักน่าชัง ณัฐชยาเป็นเด็กที่น่าสงสารมากคนหนึ่ง แม้จะมีมารดาแต่กลับโตมาด้วยนมกระป๋อง แต่เรื่องในอดีตก็ทำให้ณัฐชยานั้นโตมาอย่างคนที่เข้มแข็ง หญิงสาวมีภูมิคุ้มกันตัวเองจากเรื่องรอบตัวได้ดี แต่ก็มีในบางครั้งที่ความอ่อนแอเข้ามาเล่นงาน อย่างเช่นวันนี้ วันที่เธอเอาแต่นั่งเหม่อย้อนคิดถึงเรื่องเก่าๆ ในอดีต สลับกับมองตุ๊กตาในมือที่เคยยื้อแย่งกับธัญชยาจนแขนขาดมาแล้ว ความเจ็บปวดในวัยเด็กนั้นฝังรากลึกในหัวใจ แต่ณัฐชยาก็เลือกที่จะลืม เพราะการจดจำนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้นเลย“ฝากไว้ก่อนเถอะ รอลูกหลับ ซอหนีพี่ไม่พ้นแน่”“บ้า” ณัฐชยามองค้อนสามี ก่อนจะอุ้มบุตรชายขึ้นแล้วขยับไปนั่งให้นมอีกทาง เมื่อเจ้าตัวเล็กอิ่มก็ได้เวลาหลับต่อ และคงหลับยาวถึงเช้าตามเคย ณัฐชยาถือว่าโชคดีที่ลูกคนนี้เลี้ยงง่าย ไม่งอแงทำให้แม่หรือพ่อเหนื่อยมากนักเมื่อให้นมลูกเสร็จ ติณณ์ก็พาณัฐชยากลับลงไปชั้นล่าง แล้วให้พี่เลี้ยงขึ้นมาเฝ้าบุตรชายแทน ค่ำคืนของการฉลองยังอีกยาวไกล และเมื่อกลับขึ้นมาพักผ่อน ติณณ์ก็ทำตามที่ได้พูดไว้ ชายหนุ่มรุกเร้าคุณแม่มือใหม่อย่างณัฐชยาจนเธอเร่าร้อนไปทั้งตัว จะว่าไปก็เกือบๆ สี่เดือนที่ติณณ์นั้นไม่ได้ล่วงเกินณัฐชยาเลย ใช่ว่าจะมีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่ต้องการเธอ ณัฐชยาเองก็ต้องการติณณ์ไม่แพ้กัน“พี่ติณ” ณัฐชยาครางกระเส่า เมื่อติณณ์กำลังหยอกเย้ากับหน้าอกของเธอจนตั้งชัน รูปร่างของณัฐชยาดูอวบอิ่มขึ้น หน้าอกเต็มไม้เต็มมือกว่าแต่ก่อน ยิ่งถูกติณปลุกเร้าก็ยิ่งตอบสนอง เม็ดยอดสีสวยถูกสามีหนุ่มใช้ปากร้อนๆ ดูดดุนเล่นสลับบีบเฟ้นเป็นจังหวะณัฐชยาบิดเร้า ร้าวรานกับความวาบหวามเสียวซ่านที่กระจายไปทั่วร่างก
วันแรกที่กลับจากโรงพยาบาล ณัฐชยาแวะไปเยี่ยมธัญชยาที่โรงพยาบาล จากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยจนเป็นดารานักแสดงได้อย่างสบายๆ ผิวนวลเนียนเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ตอนนี้ธัญชยากลับดำคล้ำ ผิวแห้ง ผมร่วง ดูน่าเวทนาผิดไปจากธัญชยาคนก่อนจนแทบจำไม่ได้ พอเห็นหน้าหลานชายเธอก็ยิ้มอย่างยินดี“ชื่ออะไร”“น้องเติมเต็มค่ะพี่พิณ” ณัฐชยาก้มมองบุตรชายที่หลับพริ้มในอ้อมกอด ติณณ์นั่งมองทั้งสองพี่น้องอยู่ห่างๆ เพราะอยากให้เวลาส่วนตัวแก่คนทั้งคู่“เติมเต็ม ชื่อน่ารักมากเลยนะ หน้าตาก็น่าชัง เหมือนซอกับพี่ติณคนละครึ่ง” ธัญชยายิ้มให้หลานชาย เธอยื่นมือจะไปสัมผัสแก้มยุ้ยๆ แต่จำต้องดึงมือกลับ ณัฐชยาสงสารพี่สาวจึงเอ่ยขึ้น“พี่พิณอุ้มหลานนะคะ”“ไม่ดีกว่า ตัวพี่สกปรก” พูดจบธัญชยาก็ขยับหนี“พี่พิณทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ”“พี่สกปรกจริงๆ ไม่ต้องอุ้มหลานหรอก แค่ได้นั่งมองหน้าพี่ก็ดีใจแล้ว” รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนมุมปาก แ
“ลูกผมหล่อมากนะครับหมอ ดูสิ จมูกโด่งเป็นสันเชียว” คนขี้เห่อเอ่ยขึ้น ณัฐชยาส่ายหน้าให้ติณณ์“หล่อค่ะ” หมอเอ่ยรับ เพราะลูกใครใครก็ชมว่าหล่อว่าน่ารักทั้งสิ้น เมื่อตรวจเสร็จหมอก็ให้ฟิล์มใบหน้าเจ้าตัวเล็กแก่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เชยชม ติณณ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลาบปลื้มกับใบหน้าบุตรชาย ก่อนจะโทรศัพท์ไปบอกเรื่องนี้ให้มารดาและผู้เป็นยายรู้ทันที“จริงเหรอติณ เป็นผู้ชายเหรอ”“ครับแม่ อาวุธเด่นชัดมาก”“พี่ติณ...ทะลึ่ง” ณัฐชยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เหน็บชายหนุ่มไปแรงๆ ที่พูดอะไรทะลึ่งๆ แบบนั้น“ฝากบอกซอให้ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ใกล้คลอด แม่กับยายจะลงไปกรุงเทพฯ”“ครับแม่” เสียงมีความสุขของติณณ์เอ่ยรับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะคุยกับมารดาและยายครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวางสายไปแล้วหันมายิ้มให้ณัฐชยา อยู่ๆ ก็โน้มตัวลงไปจูบหน้าท้องนูนเบาๆ“พ่อรักลูก รักแม่ของลูกมากนะครับ โตขึ้นมาต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื
“ดื่มสิ” แต่อยู่ๆ ธัญชยากลับยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อณัฐชยาคว้าตัวไปกอด“ขอบคุณนะคะพี่พิณ ขอบคุณที่ดีกับซอแบบนี้ ซอรักพี่สาวคนนี้มากนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซอก็รักพี่พิณ เพราะพี่คือพี่สาวของซอ”“ซอ” คำพูดของณัฐชยาทำให้ความคิดร้ายๆ ของธัญชยาหายไป ณัฐชยาผละออกจากพี่สาวเล็กน้อยเพื่อดื่มนม แต่จังหวะที่ปากแก้วกำลังจรดกับริมฝีปากอิ่ม ธัญชยาก็กำลังจะแย้ง แต่เสียงของติณณ์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำก็ดังขึ้นเสียก่อน“พี่สาวกับน้องสาวคู่นี้ทำอะไรกันครับ”“อ้อ...พี่พิณเอานมมาให้ซอดื่มค่ะพี่ติณ ยังอุ่นๆ อยู่เลย” ณัฐชยาหันไปตอบสามี ธัญชยาตกใจเพราะไม่คิดว่าติณณ์จะอยู่ในห้องด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้เธอถามณัฐชยาแล้วว่าชายหนุ่มจะกลับตอนไหน ซึ่งคำตอบคือดึก เธอจึงตัดสินใจลงมือปลิดชีพน้องสาววันนี้ แต่ตอนนี้ความคิดบ้าๆ นั่นหายไปแล้ว“แต่ซอพึ่งดื่มนมไปแก้วใหญ่นี่ครับ ดื่มอีกจะไหวเหรอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ซอดื่มได้”&l
ลินดาพยายามฟื้นฟูร่างกายจนเกือบจะกลับมาเดินได้ โดยมี ณัฐชยาคอยดูแลไม่ห่าง แม้จะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตามที ในทุกๆ วันเธอถามหาธัญชยาจนมนตรีไม่รู้จะหาเหตุผลใดๆ มาอ้างดี สุดท้ายก็จำต้องพูดความจริงออกไปในวันที่ลินดาพร้อมจะรับฟังทุกอย่างแล้ว“ลูกพิณเป็นเอดส์เหรอคะ” ลินดาเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยินจากสามี มนตรีได้แต่พยักหน้ารับว่าใช่“ต่อให้ลูกเป็นอะไร เราก็จะไม่ทิ้งแก”“ขอบคุณนะคะคุณ ฉันไม่ดีเอง ฉันเป็นแม่ที่ไม่ดี”“คุณไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิดเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมเองก็เป็นพ่อที่ไม่ดีเหมือนกัน” มนตรีกุมมือของภรรยาไว้“ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดมาก โดยเฉพาะผิดต่อซอ ฉันทำผิดกับลูกคนนี้ไว้มากจริงๆ”“แต่ผมรู้ว่าซอไม่เคยคิดโทษคุณเลย นั่นก็เพราะว่าซอรักและหวังดีกับคุณมาก คุณคือแม่ที่ดีที่สุดของแก ผมอยากให้คุณมอบความรัก ความเอ็นดูให้ซอบ้าง แค่ครึ่งที่คุณมอบให้พิณก็ยังดี”“คุณมนตรี” แววตาของลินดาดูอึ้งไปที่ได้ยินสามีร้องขอแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด“ผมค
แบรดทำท่าจะแย้ง แต่ธัญชยากลับโน้มตัวลงมาปิดกั้นเสียงพูดนั้น พร้อมกับขยับสะโพกขึ้นลงให้รัวเร็ว ถี่กระชั้นมากขึ้นจนสติของแบรดกระเจิดกระเจิง ตอบสนองเธอกลับไปอย่างถึงอกถึงใจ เสียงซี้ดปากดังต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ผสมผสานความเร่าร้อนก็ยิ่งทวีความวาบหวามยิ่งขึ้นธัญชยาทำตามใจตัวเองทุกอย่าง เธอชอบอะไรแบบไหนก็จัดแบบนั้นให้แบรด จนชายหนุ่มอดที่จะเอะใจความคุ้นเคยนี้ไม่ได้ว่าเคยได้รับจากใครมาก่อน แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อความเสียวซ่านเข้ามาทำให้สติหลุดลอย แบรดไม่อยากให้เธอคุมเกมฝ่ายเดียว จึงรีบเด้งตัวขึ้นแล้วรั้งธัญชยาลงไปนอนราบ ส่งตัวเองเข้าหาเธอในจังหวะหนักๆ สลับโน้มตัวลงไปจูบปาก มือก็คลึงหน้าอกไม่ได้หยุด“ฉันไม่ไหวแล้ว” ธัญชยาพยายามอดกลั้น แต่ความเร่าร้อนของแบรดก็ทำให้เธอยอมแพ้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เพราะชอบที่ให้คู่นอนถึงสวรรค์ก่อนหลายๆ รอบ“ไม่ไหวก็ถึงเลย” แบรดไม่ต้องเอ่ยธัญชยาก็นำหน้าชายหนุ่มไปแล้วหนึ่งยก ความชื้นแฉะที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอทำให้เขารู้ว่าธัญชยาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล