“คุณหนูของป้า อย่าคิดมากนะคะ” คำปลอบโยนของป้าอ้วนฟังดูอบอุ่น ณัฐชยาได้ยินคำปลอบแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
“ซอไม่ได้คิดมากแล้วนะคะป้า แต่บางทีก็อดไม่ได้จริงๆ” คำตอบที่ได้ยินทำให้ป้าอ้วนส่งยิ้มมา แววตาเอ็นดูมองหญิงสาวที่ตนนั้นรักเหมือนลูกแท้ๆ ก็ไม่ปาน จำได้ว่าแม้ธัญชยากับณัฐชยาจะเป็นฝาแฝด แต่ก็แทบจะไม่มีเค้าโครงความเหมือน ตอนเด็กๆ ณัฐชยานั้นตัวผอมบางผิวคล้ำ เสื้อผ้าไม่เคยมีชุดใหม่ๆ มีเพียงชุดที่พี่สาวไม่ชอบแล้วเท่านั้น ส่วนธัญชยาเป็นเด็กน่ารักน่าชัง ผิวขาวอมชมพูแก้มยุ้ย ลินดาอุ้มไปทางไหนก็มีแต่คนชมชอบ ของใช้ล้วนแต่มียี่ห้อขายตามห้าง กระทั่งทั้งคู่โตเป็นสาวสะพรั่ง ตอนนี้รูปร่าง หน้าตากลับยิ่งเหมือน จนหลายคนแยกไม่ออกว่าใครคือธัญชยาหรือณัฐชยา มนตรีเองก็กลัวว่าลูกสาวคนเล็กจะมีปมด้อยเรื่องมารดา จึงมอบความรักให้ณัฐชยามากเช่นกัน แต่ลึกๆ แล้วณัฐชยานั้นอยากได้ความรัก ความห่วงใย การโอบกอด คำชื่นชม รอยยิ้มจากผู้เป็นแม่อยู่ไม่น้อย แต่ในเมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการจึงพยายามไม่คิดมาก แค่ได้อยู่ใกล้ๆ ก็มากพอแล้ว “ซอหิวแล้ว ป้าอ้วนมีอะไรให้ซอกินบ้างคะ” “ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเป็นยังไงคะ ของโปรดคุณซอ เดี๋ยวป้ายกมาให้ทาน” “ได้ค่ะ” เสียงสดใสของณัฐชยาเอ่ยรับ ป้าอ้วนยกมือขึ้นลูบใบหน้านวลของหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะปลีกตัวไปยังครัวเพื่อทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน แต่ใจนั้นก็อดคิดเรื่องในอดีตไม่ได้เช่นกัน “คุณดานะคุณดา คุณซอเธอก็ออกจะน่ารักขนาดนี้ ทำไมถึงยังชังได้ลงคอ” เพราะคำว่าลูกชังนี่กระมัง ถึงทำให้ณัฐชยานั้นเจียมตัวและเข้มแข็ง ตั้งแต่จำความได้ณัฐชยาพยายามทำทุกอย่างให้แม่ยิ้มและรักเธอ ไม่ว่าจะเรื่องนิสัยก็เรียบร้อยอ่อนหวาน การเรียนก็ได้ที่หนึ่งทุกครั้ง เป็นนักเรียนที่ได้รับความชื่นชมจากคุณครูเสมอ สอบชิงทุนได้จึงมีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปเรียนต่อยังต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง และยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังได้อีก สร้างความภาคภูมิใจให้มนตรีมาก แต่ลินดากลับไม่รู้สึกภูมิใจหรือเอ่ยชมลูกสาวคนเล็กแม้แต่ครั้งเดียว ผิดกับธัญชยาแฝดผู้พี่ ที่มีนิสัยเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้เพราะถูกมารดาตามใจตั้งแต่เด็กๆ ใช้เงินฟุ่มเฟือย ใช้ของมียี่ห้อตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าทั้งที่ไม่ได้หาเงินเอง ติดเพื่อน ติดแฟชั่น ใช้ชีวิตตรงกันข้ามกับณัฐชยาโดยสิ้นเชิง ไม่มีหัวเรื่องเรียนสักเท่าไหร่นัก จึงเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่าเทอมนั้นแพงกว่าณัฐชยาหลายเท่าตัว แต่ถึงอย่างนั้นลินดาก็เต้มใจที่จะจ่าย โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้ลินดากำลังรังแกลูกสาวทางอ้อม เพราะทำให้ธัญชยาไม่มีภูมิคุ้มกันอื่นใดนอกเสียจากความรักอันท่วมท้น และดูเหมือนจะมากเกินความจำเป็นจากมารดาด้วยซ้ำกรี๊ดดดดดดด!!!!!
เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากห้องนอนของธัญชยา ทำให้ ลินดารีบเข้าไปดูลูกสาว ก่อนจะเห็นว่าธัญชยานั้นขว้างปาข้าวของซะจนกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้นไปหมด สีหน้าก็ดูโกรธเกรี้ยวราวกับจะไปกินเลือดกินเนื้อใคร ลินดาเข้าไปโอบกอดลูกสาวไว้ แต่ธัญชยาก็สะบัดตัวให้หลุดจากอ้อมกอดนั้นของมารดาอย่างรำคาญ แต่ถึงอย่างนั้นลินดาก็ยังคงไม่ยอมปล่อยมือ “คุณแม่อย่าจับตัวพิณได้ไหม พิณรำคาญ” “ได้ลูกได้ ” ลินดาเอ่ยรับ ใจนั้นรู้สึกแปล๊บๆ กับคำพูดที่ได้ยินนี้ไม่น้อย “เป็นเพื่อนประสาอะไร ถึงมาดูถูกกันแบบนี้ อย่าให้เจออีกนะ จะด่าให้ลืมบรรพบุรุษเลย คอยดู” คำพูดของธัญชยาทำให้มารดาที่ได้ฟังถึงกับคิ้วขมวด “ลูกพิณ ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้นะลูก พูดจาไม่เพราะ ไม่สมเป็นผู้ดีเลยนะคะลูก” “ก็พิณโมโหนี่คะคุณแม่” แทนที่จะหยุดพูด แต่ท่าทางของธัญชยากลับดูกระฟัดกระเฟียดและบ่นด้วยประโยคหยาบๆ อีกหลายประโยค “โมโหเรื่องอะไร ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ” น้ำเสียงน่าฟังของลินดาเอ่ยถาม เพราะอยากให้ธัญชยานั้นลดความโกรธลงมา ขืนเธอใส่อารมณ์ไปด้วยอีกคน วันนี้คงไม่ได้รู้สาเหตุที่ทำให้ธัญชยาโมโหก็เป็นได้ “ก็วันนี้พิณจะไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบใหม่กับเพื่อน แต่พอพิณหยิบบัตรเครดิตออกมา เพื่อนๆ กลับบอกว่าบัตรเครดิตของพิณวงเงินคงไม่เพียงพอ พิณอายมาก อายจนต้องรีบกลับมาบ้านเนี่ยค่ะ” “โธ่...แม่ก็นึกว่าเรื่องอะไร เดี๋ยวแม่ให้บัตรเครดิตแบบไม่จำกัดวงเงินลูกใช้ใบหนึ่ง คราวนี้ลูกพิณของแม่จะอารมณ์ดีขึ้นได้หรือยัง” “จริงเหรอคะคุณแม่” จากสีหน้าบึ้งตึงเพราะโมโห พอได้ยินว่ามารดาจะให้บัตรเครดิตแบบไม่กำหนดวงเงินมาใช้ธัญชยาก็ตาโตเป็นไข่ห่านทันที “จริงสิ แม่จะโกหกลูกไปทำไม อีกอย่างแม่ก็ไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว ลูกอยากได้อะไรก็ซื้อ ลูกจะได้เป็นที่หนึ่ง ไม่มีใครกล้าว่าอะไรอีก” แม้จะรู้ว่านี่คือสิ่งที่ไม่ควร แต่ลินดาก็ยังทำ เพราะอยากเห็น ธัญชยานั้นมีแต่ความสุข “ขอบคุณนะคะ พิณรักคุณแม่มากที่สุด” “แม่ก็รักลูกพิณมากเหมือนกันจ้ะ”“ฝากไว้ก่อนเถอะ รอลูกหลับ ซอหนีพี่ไม่พ้นแน่”“บ้า” ณัฐชยามองค้อนสามี ก่อนจะอุ้มบุตรชายขึ้นแล้วขยับไปนั่งให้นมอีกทาง เมื่อเจ้าตัวเล็กอิ่มก็ได้เวลาหลับต่อ และคงหลับยาวถึงเช้าตามเคย ณัฐชยาถือว่าโชคดีที่ลูกคนนี้เลี้ยงง่าย ไม่งอแงทำให้แม่หรือพ่อเหนื่อยมากนักเมื่อให้นมลูกเสร็จ ติณณ์ก็พาณัฐชยากลับลงไปชั้นล่าง แล้วให้พี่เลี้ยงขึ้นมาเฝ้าบุตรชายแทน ค่ำคืนของการฉลองยังอีกยาวไกล และเมื่อกลับขึ้นมาพักผ่อน ติณณ์ก็ทำตามที่ได้พูดไว้ ชายหนุ่มรุกเร้าคุณแม่มือใหม่อย่างณัฐชยาจนเธอเร่าร้อนไปทั้งตัว จะว่าไปก็เกือบๆ สี่เดือนที่ติณณ์นั้นไม่ได้ล่วงเกินณัฐชยาเลย ใช่ว่าจะมีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่ต้องการเธอ ณัฐชยาเองก็ต้องการติณณ์ไม่แพ้กัน“พี่ติณ” ณัฐชยาครางกระเส่า เมื่อติณณ์กำลังหยอกเย้ากับหน้าอกของเธอจนตั้งชัน รูปร่างของณัฐชยาดูอวบอิ่มขึ้น หน้าอกเต็มไม้เต็มมือกว่าแต่ก่อน ยิ่งถูกติณปลุกเร้าก็ยิ่งตอบสนอง เม็ดยอดสีสวยถูกสามีหนุ่มใช้ปากร้อนๆ ดูดดุนเล่นสลับบีบเฟ้นเป็นจังหวะณัฐชยาบิดเร้า ร้าวรานกับความวาบหวามเสียวซ่านที่กระจายไปทั่วร่างก
วันแรกที่กลับจากโรงพยาบาล ณัฐชยาแวะไปเยี่ยมธัญชยาที่โรงพยาบาล จากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยจนเป็นดารานักแสดงได้อย่างสบายๆ ผิวนวลเนียนเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ตอนนี้ธัญชยากลับดำคล้ำ ผิวแห้ง ผมร่วง ดูน่าเวทนาผิดไปจากธัญชยาคนก่อนจนแทบจำไม่ได้ พอเห็นหน้าหลานชายเธอก็ยิ้มอย่างยินดี“ชื่ออะไร”“น้องเติมเต็มค่ะพี่พิณ” ณัฐชยาก้มมองบุตรชายที่หลับพริ้มในอ้อมกอด ติณณ์นั่งมองทั้งสองพี่น้องอยู่ห่างๆ เพราะอยากให้เวลาส่วนตัวแก่คนทั้งคู่“เติมเต็ม ชื่อน่ารักมากเลยนะ หน้าตาก็น่าชัง เหมือนซอกับพี่ติณคนละครึ่ง” ธัญชยายิ้มให้หลานชาย เธอยื่นมือจะไปสัมผัสแก้มยุ้ยๆ แต่จำต้องดึงมือกลับ ณัฐชยาสงสารพี่สาวจึงเอ่ยขึ้น“พี่พิณอุ้มหลานนะคะ”“ไม่ดีกว่า ตัวพี่สกปรก” พูดจบธัญชยาก็ขยับหนี“พี่พิณทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ”“พี่สกปรกจริงๆ ไม่ต้องอุ้มหลานหรอก แค่ได้นั่งมองหน้าพี่ก็ดีใจแล้ว” รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนมุมปาก แ
“ลูกผมหล่อมากนะครับหมอ ดูสิ จมูกโด่งเป็นสันเชียว” คนขี้เห่อเอ่ยขึ้น ณัฐชยาส่ายหน้าให้ติณณ์“หล่อค่ะ” หมอเอ่ยรับ เพราะลูกใครใครก็ชมว่าหล่อว่าน่ารักทั้งสิ้น เมื่อตรวจเสร็จหมอก็ให้ฟิล์มใบหน้าเจ้าตัวเล็กแก่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เชยชม ติณณ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลาบปลื้มกับใบหน้าบุตรชาย ก่อนจะโทรศัพท์ไปบอกเรื่องนี้ให้มารดาและผู้เป็นยายรู้ทันที“จริงเหรอติณ เป็นผู้ชายเหรอ”“ครับแม่ อาวุธเด่นชัดมาก”“พี่ติณ...ทะลึ่ง” ณัฐชยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เหน็บชายหนุ่มไปแรงๆ ที่พูดอะไรทะลึ่งๆ แบบนั้น“ฝากบอกซอให้ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ใกล้คลอด แม่กับยายจะลงไปกรุงเทพฯ”“ครับแม่” เสียงมีความสุขของติณณ์เอ่ยรับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะคุยกับมารดาและยายครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวางสายไปแล้วหันมายิ้มให้ณัฐชยา อยู่ๆ ก็โน้มตัวลงไปจูบหน้าท้องนูนเบาๆ“พ่อรักลูก รักแม่ของลูกมากนะครับ โตขึ้นมาต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื
“ดื่มสิ” แต่อยู่ๆ ธัญชยากลับยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อณัฐชยาคว้าตัวไปกอด“ขอบคุณนะคะพี่พิณ ขอบคุณที่ดีกับซอแบบนี้ ซอรักพี่สาวคนนี้มากนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซอก็รักพี่พิณ เพราะพี่คือพี่สาวของซอ”“ซอ” คำพูดของณัฐชยาทำให้ความคิดร้ายๆ ของธัญชยาหายไป ณัฐชยาผละออกจากพี่สาวเล็กน้อยเพื่อดื่มนม แต่จังหวะที่ปากแก้วกำลังจรดกับริมฝีปากอิ่ม ธัญชยาก็กำลังจะแย้ง แต่เสียงของติณณ์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำก็ดังขึ้นเสียก่อน“พี่สาวกับน้องสาวคู่นี้ทำอะไรกันครับ”“อ้อ...พี่พิณเอานมมาให้ซอดื่มค่ะพี่ติณ ยังอุ่นๆ อยู่เลย” ณัฐชยาหันไปตอบสามี ธัญชยาตกใจเพราะไม่คิดว่าติณณ์จะอยู่ในห้องด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้เธอถามณัฐชยาแล้วว่าชายหนุ่มจะกลับตอนไหน ซึ่งคำตอบคือดึก เธอจึงตัดสินใจลงมือปลิดชีพน้องสาววันนี้ แต่ตอนนี้ความคิดบ้าๆ นั่นหายไปแล้ว“แต่ซอพึ่งดื่มนมไปแก้วใหญ่นี่ครับ ดื่มอีกจะไหวเหรอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ซอดื่มได้”&l
ลินดาพยายามฟื้นฟูร่างกายจนเกือบจะกลับมาเดินได้ โดยมี ณัฐชยาคอยดูแลไม่ห่าง แม้จะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตามที ในทุกๆ วันเธอถามหาธัญชยาจนมนตรีไม่รู้จะหาเหตุผลใดๆ มาอ้างดี สุดท้ายก็จำต้องพูดความจริงออกไปในวันที่ลินดาพร้อมจะรับฟังทุกอย่างแล้ว“ลูกพิณเป็นเอดส์เหรอคะ” ลินดาเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยินจากสามี มนตรีได้แต่พยักหน้ารับว่าใช่“ต่อให้ลูกเป็นอะไร เราก็จะไม่ทิ้งแก”“ขอบคุณนะคะคุณ ฉันไม่ดีเอง ฉันเป็นแม่ที่ไม่ดี”“คุณไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิดเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมเองก็เป็นพ่อที่ไม่ดีเหมือนกัน” มนตรีกุมมือของภรรยาไว้“ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดมาก โดยเฉพาะผิดต่อซอ ฉันทำผิดกับลูกคนนี้ไว้มากจริงๆ”“แต่ผมรู้ว่าซอไม่เคยคิดโทษคุณเลย นั่นก็เพราะว่าซอรักและหวังดีกับคุณมาก คุณคือแม่ที่ดีที่สุดของแก ผมอยากให้คุณมอบความรัก ความเอ็นดูให้ซอบ้าง แค่ครึ่งที่คุณมอบให้พิณก็ยังดี”“คุณมนตรี” แววตาของลินดาดูอึ้งไปที่ได้ยินสามีร้องขอแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด“ผมค
แบรดทำท่าจะแย้ง แต่ธัญชยากลับโน้มตัวลงมาปิดกั้นเสียงพูดนั้น พร้อมกับขยับสะโพกขึ้นลงให้รัวเร็ว ถี่กระชั้นมากขึ้นจนสติของแบรดกระเจิดกระเจิง ตอบสนองเธอกลับไปอย่างถึงอกถึงใจ เสียงซี้ดปากดังต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ผสมผสานความเร่าร้อนก็ยิ่งทวีความวาบหวามยิ่งขึ้นธัญชยาทำตามใจตัวเองทุกอย่าง เธอชอบอะไรแบบไหนก็จัดแบบนั้นให้แบรด จนชายหนุ่มอดที่จะเอะใจความคุ้นเคยนี้ไม่ได้ว่าเคยได้รับจากใครมาก่อน แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อความเสียวซ่านเข้ามาทำให้สติหลุดลอย แบรดไม่อยากให้เธอคุมเกมฝ่ายเดียว จึงรีบเด้งตัวขึ้นแล้วรั้งธัญชยาลงไปนอนราบ ส่งตัวเองเข้าหาเธอในจังหวะหนักๆ สลับโน้มตัวลงไปจูบปาก มือก็คลึงหน้าอกไม่ได้หยุด“ฉันไม่ไหวแล้ว” ธัญชยาพยายามอดกลั้น แต่ความเร่าร้อนของแบรดก็ทำให้เธอยอมแพ้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เพราะชอบที่ให้คู่นอนถึงสวรรค์ก่อนหลายๆ รอบ“ไม่ไหวก็ถึงเลย” แบรดไม่ต้องเอ่ยธัญชยาก็นำหน้าชายหนุ่มไปแล้วหนึ่งยก ความชื้นแฉะที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอทำให้เขารู้ว่าธัญชยาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล