LOGIN“ลูกหนี้ของผมครับ พักอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของผม”
พริษฐ์เลือกที่จะบอกรมิตาแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เขาไม่ชอบการปิดบังหรือการโกหกสักเท่าไหร่ ฉะนั้นในเมื่อตัวเขาเองไม่ชอบก็ไม่ควรที่จะทำมันเสียเอง
“อะไรนะคะ! ลูกหนี้! มันยังไงคะธัญญ์ เจนิสงงไปหมดแล้วนะคะ ธัญญ์ให้ลูกหนี้ของธัญญ์อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของธัญญ์เนี่ยนะ...แล้ว...เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”
ไฟร้อนเริ่มสุมเข้ามาที่กลางอกของรมิตาทันทีระหว่างรอคำตอบจากแฟนหนุ่ม
“ผู้หญิงครับ...” อีกนิดเดียวความจริงก็จะเริ่มเปิดออก
“หมายความว่ายังไงคะ...” ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันที หัวใจของรมิตาเต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ
แต่ทว่า...ยังไม่ทันที่ความจริงจะกระจ่าง เสียงโทรศัพท์ภายในก็แผดร้องดังขึ้นมาก่อน...
ตี๊ด! ตี๊ด! ตี๊ด!
“อืม...ว่าไงมัลลิกา”
“ท่านประธานคะ...คือ...คุณเจนภพมาขอพบคุณค่ะ”
“โอเค...งั้นสักสิบนาที คุณค่อยให้เขาเข้ามา”
พริษฐ์คงต้องจัดการเรื่องด่วนนี้ก่อน นายเจนภพจะมาไม้ไหนอีก ทำไมถึงต้องขอพบเขา ในเมื่อเรื่องราวทุกอย่างทางทนายเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว
“ธัญญ์คะ”
“คุณกลับไปก่อนได้มั้ยครับ พอดีตอนนี้ผมมีเรื่องด่วน ไว้ผมคุยธุระเสร็จเมื่อไหร่ผมจะโทรหาคุณครับ”
“แต่...”
“นะครับ...ผมต้องทำงานจริงๆ เจนิส”
“ก็ได้ค่ะ...” ร่างบางเดินดิ่งออกจากห้องเขาไปทันทีโดยไม่เอ่ยคำกล่าวลา วันนี้รมิตาจะต้องรู้ให้ได้ ว่าลูกหนี้ของพริษฐ์เป็นใครกันแน่...
ก๊อก! ก๊อก! เสียงประตูบานใหญ่ถูกรบกวนโดยเลขาหน้าห้องทำงานใหญ่
“เชิญ”
“ค่ะ...” ร่างของเลขาเดินนำบุคคลสองคนเข้ามาในห้องทำงานของท่านประธาน
“เชิญนั่งค่ะ คุณเจนภพ”
“อืม...” สายตาของเจนภพกำลังสอดส่องไปทั่วบริเวณห้องทำงาน ‘เมื่อก่อน...ที่ตรงนี้คงเป็นห้องทำงานของเพื่อนเขาสินะ’
“มีอะไรก็เชิญได้เลย ผมให้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที”
น้ำเสียงแบบห้วนๆ สาดตรงถึงศัตรูทันทีไม่พูดพร่ำทำเพลง
“เอ่อ...วันนี้นายท่านจะมาขอเจรจากับคุณครับ”
มานพออกโรงแทนนายของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดูท่าของนายเขาแล้วจะยังดูอึนๆ อยู่ไม่น้อย
“ผมไม่มีอะไรเจรจาอีกแล้วเกี่ยวกับบริษัทของคุณ และผมขอถามหน่อย...ว่าหุ้นของคุณเหลือกี่เปอร์เซ็นต์กัน ที่คุณจะมาขอเจรจากับผม...คุณเจนภพ”
“นั่นก็เพราะแกต้องการจะเอาคืนฉันต่างหากล่ะความแค้นของแกมันไม่แฟร์เลย แกมีแผนที่จะล้มฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...แกมันก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายนี่หว่า ไม่สู้กันซึ่งหน้า เหมือนพ่อแกไม่มีผิด แต่ก่อนไอ้พงศ์พ่อของแกก็ทำแบบนี้กับฉัน ทำธุรกิจด้วยกัน แต่อยู่ดีๆ ก็ หักหลังฉันไปเปิดบริษัทใหม่แข่งกับฉันอีก...ไม่รู้ว่าลูกอย่างแกจะรู้หรือเปล่า ว่าพ่อของแกก็ไม่ต่างกัน พวกหมาลอบกัด!”
ความแค้นของเจนภพถูกพ่นออกมาแบบไม่ยั้ง เขาเองยังคงปักใจเชื่อว่า เรื่องทุกอย่างนั้นเกิดจากความแค้น ไม่ใช่เป็นการ แก้แค้นธรรมดาทั่วไป ถ้าเจนภพรู้ก่อนหน้านี้ล่ะก็ ไม่มีวันที่เขาจะพลาดท่าเสียรู้ครั้งนี้อย่างแน่นอน
“ที่ผ่านมา...คุณก็ยังไม่รู้ตัวเองสินะ...ว่าใครกันแน่ที่ทำคุณ!”
น้ำเสียงเข้มกระชากด้วยอารมณ์ที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ
“ก็พวกแกไง! เอาบริษัทของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้!”
“เอ่อ...นายครับ ใจเย็นๆ ครับ”
ตอนแรกนายของมานพบอกว่าจะมาเจรจา ตอนนี้เขาว่ามันจะไม่ใช่แค่เจรจาเสียแล้ว
“ไม่เย็นไอ้นพ! วันนี้ฉันจะต้องได้บริษัทของฉันคืน!”
เจนภพคิดว่านี่คือกลโกงที่หลอกซื้อหุ้นของบริษัทเขาโดยการจำนองเอาไว้ไม่ใช่การขายขาด ยังไงเสียมันก็คือของเขาอย่างแน่นอน
“สงสัยคุณจะยังไม่ได้อ่านสัญญาก่อนรับเงินไปสินะ...”
“แกหมายความว่ายังไง”
ปึ่ก! เอกสารถูกโยนบนโต๊ะทันที
“อ่านให้นายคุณฟัง! จะได้เลิกเบ่งอำนาจเสียที!”
“ครับ” มานพหยิบเอกสารมาเปิดอ่าน ข้อความในเอกสารสัญญาเกือบสองหน้ากระดาษ บวกกับตัวหนังสือตัวเล็ก ทำให้มานพต้องเพ่งสายตาอ่านอย่างยากลำบาก...
“อะแฮ่ม!...ถ้าทางลูกหนี้ผิดนัดชำระเกินกว่าเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าหุ้นของบริษัทนั้น...ตกเป็นของเจ้าหนี้ทันที...”
มานพหันไปมองผู้เป็นนายเมื่ออ่านข้อความสำคัญนั้นจบลง
“แก! ไอ้พริษฐ์!!”
“ชัดเจนมั้ยครับ...จะต้องอธิบายอะไรอีกไหม!”
“มีทางที่จะซื้อหุ้นคืนกลับบ้างมั้ยครับ คุณพริษฐ์”
มานพใช้น้ำเย็นเข้าลูบแทนนายของเขา ซึ่งตอนนี้นายเขานั้นใบหน้าแดงกล่ำเพราะความโกรธที่ตัวเองเสียหน้าและโดนลูบคมจากเด็กรุ่นลูก
“ผมเห็นแก่ลีลาของลูกสาวคุณ...เอาเป็นว่าผมให้เวลาคุณสามวันไปหาเงินมาคืนที่คุณกู้จากบริษัทไปแล้วกัน...คุณเจนภพ!”
พริษฐ์ขยี้ความเจ็บช้ำลงกลางใจเจนภพทันที การเอาคืนของเขาตอนนี้มันพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น
“ไอ้พริษฐ์!! แก! โอ๊ะ”
เจนภพยกมือกุมหน้าอกของตัวเอง เมื่อความเจ็บนั้นแล่นมาจุกแน่นอกของเขาจนหายใจแทบไม่ออก ความดันพุ่งสูงปรี๊ดความโกรธทะยานขึ้นในระดับสิบจนปรอทแทบแตก
“นายครับ!” มานพรีบประคองร่างของผู้เป็นนายเอาไว้
“ลูกสาวของคุณ…ผมเอาไปหลายรอบ เธอถึงใจผมจริงๆ อ่อ...ต่อไปคุณก็คงจะต้องเรียกผมว่าลูกเขยสิ! ถึงจะถูก”
คำพูดของเจนภพเมื่อ 20 ปีมันย้อนกลับมาหาเขาอีกครั้ง แต่ทว่าออกจากปากของเด็กน้อยที่เขาเคยทำร้ายในวันนั้น
“แก!” เจนภพจุกอกจนไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรได้อีกแล้ว เสียงหอบหายใจของเขาแสดงถึงความโกรธจนขีดสุด
“แต่ผมไม่ได้อยากเป็นลูกเขยคุณหรอกนะ...ผมแค่จะเอาลูกสาวคุณเล่นๆ และชดใช้หนี้สินของคุณเท่านั้น...คุณเจนภพ!”
“คุณพริษฐ์ครับ...”
“ไม่ต้องมานพ! ปล่อยให้มันพูดไปให้จบ! มันอยากแก้แค้นเอาคืนฉัน...ก็ให้มันเอาคืนให้หมด! ฉันไม่ร้องขอมันอีกแล้ว!”
“อืม...ใจเด็ดดีนี่...เหมือนกับลูกสาวไม่มีผิด! ร่อนเสนอตัวมาขายเพื่อใช้หนี้ให้กับพ่อตัวเอง! สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน!”
“ถ้าแกพูดแล้วรู้สึกดี...แกพูดออกมา! ฉันไม่มีอะไรจะโต้ตอบกับแกอยู่แล้ว ตอนนี้แกมันเหนือกว่าฉันนี่!”
“คนอย่างคุณไม่ได้รู้สึกผิดหรอก...คุณข่มขืนแม่ของผม ทำร้ายคนที่ผมรักทั้งที่อายุผมแค่สิบขวบ! คุณก็ยังทำร้ายได้!”
ความเจ็บปวดเข้ามากระแทกใจของชายหนุ่มอีกครั้ง พริษฐ์ไม่เคยลืมเลือนเหตุการณ์นี้ได้ลง มันตอกย้ำเขาทุกเวลา เขาต้องเห็นภาพของผู้เป็นแม่และพ่อจากลาโลกนี้ไป เพราะน้ำมือของชายที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ

![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)





