เข้าสู่ระบบ“แกมาเอาคืนที่ฉันคนเดียว ลูกสาวฉันไม่รู้เรื่องของฉัน”
“ไม่รู้! แต่ก็ให้ลูกสาวมาเสนอขายตัวเนี่ยนะ! มันไม่ดูใสซื่อไปหน่อยเหรอ...คุณเจนภพ!”
“ฉันไม่ได้ให้ลูกสาวฉันมาขายตัว แค่มาเจรจาผ่อนผันกับแกก็เท่านั้น...ฉันเองก็ไม่คิดว่าลูกสาวฉันจะทำแบบนั้นด้วยซ้ำ”
“อืม...ก็ดีเหมือนกัน...มีลูกสาวคุณไว้แก้ขัด! ดีกว่าออกไปหาซื้อกินข้างนอก จ่ายแพงหน่อยแต่ก็คุ้ม!”
“แก! หยุดพูดถึงลูกสาวฉับแบบนี้ได้แล้ว!”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม! หมดธุระของคุณแล้ว เชิญ!”
วาจาแสบทรวงสาดใส่แบบไม่ไว้หน้า พริษฐ์ไม่เคยลืม ความเจ็บที่ผู้ชายตรงหน้าเขานี้ทำเอาไว้เลยสักนิด การเอาคืนแค่นี้มันแค่เศษเสี้ยวของทั้งหมดเท่านั้น มันยังไม่สาแก่ใจของพริษฐ์แม้แต่น้อย!
“นาย...กลับกันเถอะครับ”
มานพผู้ทนฟังการโต้ตอบกันไปมาอย่างดุเดือดของทั้งสองฝ่ายมานาน เขารู้บทสรุปของนายตัวเองแล้ว
“เอานายคุณออกไป! ไม่ว่ายังไง อยากได้บริษัทคืนไป หาเงินมาร้อยห้าสิบล้านภายในสามวัน แล้วค่อยมาเจรจาใหม่!”
“ขอบคุณครับคุณพริษฐ์”
มานพยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขาอยู่ทุกเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน มานพเป็นแค่ลูกน้องไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดค้านอะไร นายว่ายังไงเขาก็ว่าตามอยู่แล้ว แต่เบื้องลึกในจิตใจของเขาในตอนนั้น ก็สงสารครอบครัวนี้เหมือนกัน นายของเขาโหดร้ายจนเกินไป ก็คงจะเหมาะสมกันแล้วกับตอนนี้...
......................
[บนรถยนต์คันหรู]
“เราคงหมดหนทางแล้วจริงๆ ครับนาย สัญญานั้นมันบอกชัดเจน ตอนที่เราไปกู้เงินของมันก็ไม่ทันได้สังเกตให้ดีครับ”
มานพเอ่ยขึ้น ที่เห็นนายของเขานิ่งเงียบมาหลายนาทีตั้งแต่ก้าวขึ้นมาบนรถ
“ฉันก็ทำอะไรไม่ได้แล้วนพ...ตอนนี้ฉันไม่โทษใครทั้งนั้น เพราะเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากฉัน ถ้าฉันไม่ไปทำกับกนกรดาแบบนั้น เรื่องราวทั้งหมดมันก็คงไม่เกิดขึ้นอย่างนี้”
“แต่ตอนนั้นนายคงโกรธมาก ที่เพื่อนรักแยกตัวออกไปทำธุรกิจตัดหน้า ก็เลยแค่จะสั่งสอน...แต่ดันบานปลายไป...เท่านั้นเอง”
“ไม่หรอกนพ...จริงๆ ฉันไม่ได้แค้นเรื่องนั้นทั้งหมดหรอก...ฉันรักกนกรดาต่างหากที่ฉันแค้น กนกรดาไม่เลือกฉัน ไม่รักฉัน ทั้งที่ฉันคอยทุ่มเทให้เธอตลอด...ความเจ็บที่ฉันไม่เคยรู้เลย ว่าแท้ที่จริงแล้วเพื่อนรักของฉันมันกลับมารักคนที่ฉันหมายปอง โดยที่ฉันไม่เคยระแคะระคายมาก่อน...แต่ตอนนี้มันก็ผ่านมาแล้ว ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว...สงสารก็แต่พระพายคนเดียว ฉันจะทำยังไงดีนพ จะช่วยพระพายออกมาได้ยังไง”
“ผมมีวิธีครับนาย แต่วิธีนี้นายจะต้องพูดกับคุณหนูแบบตรงๆ นะครับ และต้องลดทิฐิของนายลง”
“อะไรของแกวะนพ...แกมีวิธีตลอด วิธีอะไรของแกวะ”
“นายต้องคุยกับคุณหนู ให้เปลี่ยนจากต่อต้านนายพริษฐ์ เป็นการเอาอกเอาใจมันแทนครับนาย...ผมเชื่อว่าคุณหนูทำให้นายพริษฐ์ใจอ่อนได้แน่นอนครับ”
“แกจะบ้าเหรอวะนพ...แกคิดอะไรของแก”
“เชื่อผมเถอะครับนาย...จุดอ่อนของนายพริษฐ์อยู่ตรงนี้แน่นอน...สายตาของผมไม่พลาด เผลอๆ ตอนนี้นายพริษฐ์อาจจะชอบคุณหนูแล้วก็ได้นะครับ”
“จะเป็นไปได้ยังไง เมื่อกี้มันก็บอกฉันอยู่ ว่ามันให้พระพายชดใช้หนี้ให้ฉัน”
“นายลองเชื่อผมอีกสักครั้งสิครับ เราก็ไม่มีทางไหนแล้วนี่ครับ อย่างน้อยขอให้มันคืนหุ้นของนายสัก30เปอร์เซ็นต์ก็ยังดีครับ นายพริษฐ์มีกิจการมากมายมีเงินเป็นพันล้านหมื่นล้าน เรื่องแค่นี้คงไม่สะเทือนหรอกครับ”
“จริงหรือ?” เจนภพกำลังคิดตามลูกน้องของเขา
“ครับนาย...”
“ขอบใจแกมากนะนพ...ที่ไม่ทิ้งฉัน”
“ครับนาย...เมื่อก่อนนายดูแลผมมาตลอดครับ นายมีบุญคุณกับผมครับ ผมไม่ทิ้งนายครับ”
“ขอบใจนายอีกครั้ง เรื่องที่นายบอก ฉันจะลองไปคุยกับลูกสาวฉันดู...อย่างน้อยเรื่องของฉันกับไอ้พริษฐ์มันจะได้เบาลงบ้าง”
[ห้องทำงาน...กวินกานต์]
“พลอยใจ...คุณช่วยโทรนัดคุณพรินทร์มาเจรจาเรื่องการวางโครงสร้างโรงงานเปิดใหม่ของเราหน่อย”
“ค่ะคุณวีร์...สักครู่นะคะ”
“อืม...ขอบใจมาก”
‘เธอคนนี้...ไม่เคยอยู่ในสายตาของกวินกานต์เลยแม้แต่น้อย’ แต่วันนี้เขากลับมีจุดประสงค์บางอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ‘พรินทร์’ คือพี่สาวฝาแฝดของนายพริษฐ์! คนที่มาพรากคนรักของกวินกานต์ ความโกรธแค้นที่คนรักของเขาถูกเล่ห์เหลี่ยมของนายพริษฐ์เอาเปรียบ ทำให้เขาอยากเอาคืนบ้าง กวินกานต์บังเอิญเจอชื่อและนามสกุลนี้เข้าในเอกสารการร่วมธุรกิจกับบริษัทของเขา ‘อัครกิจวัฒนา’ คือนามสกุลของนายพริษฐ์และพรินทร์ซึ่งเธอเป็นพี่สาวฝาแฝดของนายพริษฐ์ กวินกานต์จึงล็อคเป้าไปที่พรินทร์ทันที
“คุณวีร์คะ...คุณพรินทร์เธอตอบตกลงรับนัดค่ะ...วันนี้เวลาหนึ่งทุ่มตรง พลอยนัดที่ร้านอาหารใกล้กับบริษัทนะคะ”
“โอเคครับ”
[เพนท์เฮ้าส์]
รถมินิคันหรูเลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถในส่วนของวีไอพีที่มีไว้สำหรับลูกค้าของทางคอนโดมีเนียมสุดหรูใจกลางเมืองกรุง ห้องชุดราคานับสิบล้านมีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น ดังนั้นเรื่องระบบการดูแลและการให้บริการจึงดีเยี่ยมสมราคา
ปึก! ปึ่ง เสียงประตูเปิดปิดในเวลาเดียวกัน ร่างบางก้าวลงจากรถ วันนี้นันท์นลินต้องมาทำหน้าที่ของเธอ เขาบอกให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ในเพนท์เฮ้าส์ซึ่งเขาจะมาหรือไม่มา แล้วแต่เขาจะกำหนด เธอไม่อาจรู้ได้เลย ยังไงนันท์นลินก็ต้องอดทนให้ถึงที่สุด เวลาหนึ่งปีมันก็ไม่นานเท่าไหร่ ถ้านันท์นลินทำใจและปลงกับสิ่งที่เกิดขึ้น...
“นี่!” อยู่ดีๆ น้ำเสียงแบบกระชากของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“หือ?” นันท์นลินหันไปยังต้นเสียงนั้นทันที
“เธอเป็นใคร! ถึงมาอยู่ที่ห้องของธัญญ์!”
รมิตาเปิดฉากทันทีเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือ ‘ลูกหนี้’ อย่างที่คนรักของเธอบอก หลังจากกลับมาจากที่ทำงานของพริษฐ์ รมิตาก็ตรงดิ่งมาที่เพนท์เฮ้าส์นี้ทันทีไม่รอช้า เบื้องต้นเธอได้สอบถามผู้จัดการเพนท์เฮ้าส์ และได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ คือคนที่พริษฐ์พามาพักอยู่ที่นี่
“คะ? คุณพูดกับดิฉันหรือคะ?”
นันท์นลินงงอย่างที่สุด ที่อยู่ดีๆ มีหญิงแปลกหน้ามาดักรอเธอ และเอ่ยถามเธอด้วยคำถามที่ทำให้เธองงงวยเช่นนี้
“เธอนั่นแหละ! ฉันหมายถึงเธอ! รีบตอบฉันมาเดี๋ยวนี้!”
เลือดในกายร้อนฉ่าเมื่อลางสังหรณ์บางอย่างบอกเธอว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะใช่ลูกหนี้ธรรมดาอย่างแน่นอน ทั้งรูปร่างหน้าตาสัดส่วน และความสวยของลูกหนี้คนนี้ มันทำให้รมิตาอกแทบจะระเบิดออกมา
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







