เข้าสู่ระบบ“แล้วคุณเป็นใครหรือคะ? ทำไมต้องมาถาม? ดิฉันไม่รู้จักคุณค่ะ...คงไม่จำเป็นที่ดิฉันต้องตอบค่ะ”
นันท์นลินกวาดสายตามองผู้หญิงที่กำลังถลึงตาใส่เธอ ราวกับจะหยุ๋มหัวเธอเสียให้ได้
“ฉันเป็นแฟนของธัญญ์! ชัดเจนพอมั้ย!”
“อืม...ค่ะ...แล้วยังไงต่อคะ คือดิฉันจำเป็นต้องรู้ใช่มั้ยคะ?”
นันท์นลินโต้กลับทันที ถ้าเธอคนนี้พูดกับนันท์นลินดีๆ เธอก็คงจะตอบได้ดีกว่านี้
“ใช่! เธอมาอยู่เพนท์เฮ้าส์ธัญญ์ในฐานะอะไร บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับเธอ!”
รมิตารู้สึกหน้าชาอย่างที่สุด เมื่อสำรวจไปทั่วทั้งร่างกายของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกหนี้ตามที่คนรักเธอบอก ยิ่งทำให้รมิตาดิ้นขึ้นไปอีก เธอคนนี้มีความสวยไม่ใช่เล่น
“ทำไมคุณไม่กลับไปถามแฟนของคุณล่ะคะ ว่าดิฉันเป็นใครและอยู่ในฐานะอะไร”
“นี่!” รมิตาง้างฝ่ามือขึ้นหมายจะฟาดไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มนั่น แต่ก็ชะงักทันที เมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้นแทรก
“เอาสิ...ถ้าคุณคิดว่าฉันจะยืนให้คุณตบฟรีๆ”
นันท์นลินยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เธอไม่ยอมให้เธอคนนี้มาเล่นงานเธอฝ่ายเดียวแน่ จริงอยู่ที่เธอคนนี้อาจจะโกรธตามประสาผู้หญิงที่จับได้ว่าคนรักตัวเองมีผู้หญิงอื่นซ่อนเอาไว้
“ธัญญ์บอกว่าเธอเป็นลูกหนี้ แต่ฉันไม่เชื่อถึงได้มาถามเธอนี่ไง!”
“ก็ตามที่แฟนคุณบอกค่ะ ดิฉันเป็นลูกหนี้ที่ต้องใช้หนี้ให้กับแฟนของคุณ...ทุกคืน!”
นันท์นลินฟาดแบบตรงๆ เขาบอกแฟนตัวเองว่าเป็นลูกหนี้ นันท์นลินก็รู้สึกว่าแฟร์ๆ กันไป ตัวเธอไม่ได้มีค่าอะไรกับเขาอยู่แล้ว ทุกค่ำคืนของเธอกับเขามันเป็นเพียงแค่การชดใช้หนี้ก็เท่านั้นเอง
“เธอหมายความว่ายังไง! ทุกคืน!”
โทสะร้อนพวยพุ่งเข้ากลางอกของรมิตาจนแทบแตกออกจากกัน เมื่อได้ยินประโยคร้อนจากผู้หญิงคนนี้
“เอาจริงๆ คุณก็ไม่น่าจะต้องให้ดิฉันแปลให้หรอกนะคะ...เรื่องนี้คุณแค่กลับไปถามแฟนของคุณว่ามันหมายความว่ายังไง ดีกว่าที่คุณจะมาถามดิฉัน...จริงๆ เรื่องสถานะลูกหนี้ดิฉันก็ไม่ได้เต็มใจหรอกค่ะ...แต่เพราะดิฉันไม่มีเงินสี่สิบล้านจ่าย ก็เลยต้องของผ่อนผันเจ้าหนี้ของดิฉันด้วยวิธีนี้ค่ะ”
“กะ-แก! อีนังหน้าด้าน!”
รมิตาง้างมือขึ้นอีกครั้งเมื่อความโกรธแบบปรอทแตกของเธอพุ่งทะยานไปจนสุดแล้ว
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ถ้าคุณจะตบดิฉัน เพราะเรื่องนี้ดิฉันเสนอฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกค่ะ...คุณควรกลับไปคุยกับแฟนคุณดีกว่าดิฉันแนะนำ...อ่อ...ถ้าจะให้ดีคุณช่วยพูดกับแฟนคุณหน่อยได้มั้ยคะว่าช่วยลดหนี้ให้ดิฉันเยอะๆ ค่ะ ดิฉันจะได้หลุดพ้นสถานะลูกหนี้เร็วๆ”
โต้มานันท์นลินก็โต้กลับ แค่การชดใช้หนี้ให้กับเขาเธอก็ลำบากพอแล้ว จะให้เธอต้องมารบกับแฟนของเขาอีก นันท์นลินไม่เอาด้วยอย่างแน่นอน
“ฮึ่ม! ได้! แล้วฉันจะกลับมาไล่แกด้วยตัวเองเลย! คอยดู!”
“ค่ะ! ยินดีค่ะ...มาเร็วๆ นะคะ” นันท์นลินโบกมือตอบ
“เฮ้อ...” นันท์นลินถอนหายใจออกมาอย่างทันที เมื่อเธอผู้จากไปพร้อมกับความโมโหอย่างขีดสุด นันท์นลินไม่คิดที่จะยั่วยุใคร เธอต้องปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง ถึงแม้มันจะแทบไม่เหลือแล้วก็ตาม เธอไม่ต้องการที่จะหาเรื่องใครก่อน ความอดทนของเธอก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน...
.....................
[ร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนแห่งหนึ่ง]
“ดิฉันตกใจมากเลยนะคะ ที่อยู่ดีๆ คุณก็นัดดิฉันมาเจอกันวันนี้”
พรินทร์มาในชุดเดรสเข้ารูปสีสดใส เธอดีใจอย่างที่สุดที่กวินกานต์นัดเธอมาเจอวันนี้ พรินทร์คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเขาจะสนใจเธอด้วยซ้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้กวินกานต์ไม่เคยแม้แต่จะชายตามองพรินทร์เลยด้วยซ้ำ ทั้งที่เธอคอยเปิดโอกาสให้เขาเข้าถึงเธอตลอด จนเธอเริ่มถอดใจไปแล้ว...แต่วันนี้กลับแปลกไป
“อืม...ช่วยแทนตัวเองใหม่ได้มั้ยครับ คุณกับผมก็ห่างกันแค่สองปี...แทนตัวเองด้วยชื่อของคุณก็ได้ครับ...ส่วนผม ‘วีร์’ ครับ” กวินกานต์เปิดเกมรุกทันที
“อ๋อ...ค่ะคุณวีร์”
พรินทร์รู้สึกเก้อเขินอย่างบอกไม่ถูก อาการของเธอตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกเซอร์ไพรส์
“ไม่ต้องเรียกห่างเหินขนาดนั้นก็ได้ครับ คุณตกใจอะไรมาหรือเปล่าครับ...ท่าทางคุณเกร็งๆ นะครับ”
กวินกานต์รู้อาการของเธอคนนี้ดี ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจทั้งนั้น ที่อยู่ดีๆ มีผู้ชายมาขอนัดเดทกระทันหันแบบนี้ ‘มันคือเกมการเอาคืน’ กวินกานต์ย้ำกับตัวเองทุกครั้งเมื่อนึกถึงการกระทำของนายพริษฐ์น้องชายเธอ
“เอ่อ...ธาราแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอคะ...จะไม่ให้ธาราตกใจได้ยังไงคะ...ครั้งล่าสุดที่เราเจอกัน คุณก็คุยแต่เรื่องงานนี่คะ”
พรินทร์รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด ตลอดอายุ 30 ปีที่ผ่านมาพรินทร์ไม่เคยมีแฟนเลยสักครั้ง เหตุผลน่ะเหรอ พรินทร์กลัว...กลัวเหตุการณ์ในอดีตตอนที่เธอยังเป็นเด็ก อาการของโรคแพนิคของเธอนั้นยังไม่เคยหายไปจากชีวิตของพรินทร์เลย ถึงแม้เรื่องราวเหล่านั้นจะล่วงเลยมาแล้ว 20 ปีก็ตาม เธอไม่กล้าคบใคร...
“ขอโทษครับ...ตอนนั้นผมน่าจะเครียดเรื่องงานมากจนเกินไป...เลยโฟกัสแต่เรื่องงานครับ”
ความจริงมีเพียงน้อยนิด แต่การโกหกสร้างเรื่องมีเกือบ เต็มร้อย กวินกานต์ไม่สนใจว่าตัวเองจะต้องใช้วิธีแบบไหนที่จะ แก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ขอเพียงผลลัพธ์มันคือความเจ็บปวดก็พอ!
“อ่อค่ะ...แล้ววันนี้คุณวีร์จะดูรายละเอียดของเรื่องโครงการหรือเปล่าคะ พอดีธาราจะได้นำเสนอให้คุณอีกครั้งค่ะ”
“คุณธาราเชื่อจริงๆ หรือครับว่าผมจะคุยกับคุณเรื่องงาน”
สายตาคมเข้มจ้องไปที่ใบหน้างามนวลเนียน ถ้าจะบอกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขานี้สวย กวินกานต์ยอมรับว่าคือความจริง ดวงหน้างามหวานที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเพียงบางเบา ความสวยแบบธรรมชาติที่กวินกานต์ไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยนัก นอกจากนันท์นลินแล้ว ก็คงเป็นเธอคนนี้อีกคน แก้มขาวเนียนนั้นมีจุดสีแดงชมพูขึ้นอยู่ตลอดเวลา กวินกานต์รู้ว่าเกมนี้เขาปิดได้ไม่ยาก เพราะดูเธอน่าจะสนใจเขาอยู่เหมือนกัน
“อ่าว...แล้วคุณวีร์นัดธารามาทำไมคะ?”
คำถามอันใสซื่อถูกถามออกไป โดยที่พรินทร์มองผู้ชายตรงหน้านั้นบวกเสมอ เพราะเธอชอบผู้ชายคนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พรินทร์ไม่กล้าที่จะสรุปเข้าข้างตัวเองก็เท่านั้น
“ผมขอพูดตรงๆ เลยนะครับ...ตอนแรกคุณพ่อพยายามแนะนำคุณให้ผมรู้จัก ผมยอมรับว่าผมไม่ได้สนใจคุณ ผมมัวแต่เคร่งเครียดกับงาน จนเมื่อพ่อของผมแนะนำผมอีกครั้ง ว่าผมควรที่จะคว้าเพชรเม็ดงามนี้ไว้ ผมเลยกลับไปทบทวน ผมเลยคิดที่จะเริ่มสนใจคุณ ก็เลยขอสานสัมพันธ์กับคุณครับ ผมเองตอนนี้ก็ไม่ได้มีใครนะครับ โสดครับ...อยากจะลองคบกับคุณครับ...ธารา”
กวินกานต์เล่นเกมเชิงรุก!
“อะไรนะคะ!”
หัวใจของพรินทร์กระตุกวาบทันทีกับสิ่งที่เธอได้ยินจากปากของชายหนุ่ม ใจเธอเต้นแรงและสั่นสะท้านราวกับไม่เคยสัมผัสความรักมาก่อน และได้ตกเข้าไปในวังวนของห้วงเสน่หาความเทิดทูนอันท่วมท้นอย่างรวดเร็ว...
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







