Masuk“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”
นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด
“ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก”
“รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ”
“พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ”
“โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!”
“นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ดื่ม!”
“โอเค...”
[ครึ่งชั่วโมงต่อมา...]
“นั่น! นั่นใช่มั้ยพระพาย! ต้องใช่ผู้ชายคนนั้นแน่ๆ เลย กำลังเดินเข้ามา...เส้นด้ายว่าคนนี้แน่นอน”
ร่างสูงใหญ่กว่าคนทั่วไปกำลังเดินเข้ามาภายในคลับหรู ที่มีผู้คนมากมายเริ่มทยอยกันเข้ามา ชายหนุ่มรูปงามที่ดูโดดเด่นทำให้หลายคนได้เห็นถึงความองอาจสง่างามในท่าทางของเขามากยิ่งขึ้น ไหล่หนากว้างที่ตั้งตรงดูผึ่งผาย จมูกของเขาโด่งเป็นสัน ปากได้รูปสวย ผมสีบลอนด์เข้มนั้นหยักศกนิดๆ ตัดได้รูปกับใบหน้าคมสัน สายตาอันคมเข้มกำลังมองหาใครคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
“อืม...นั่นแหละคุณพริษฐ์”
นันท์นลินพยักหน้าอย่างเศร้าๆ ความรู้สึกของเธอตอนนี้ดูแปลกๆ หม่นๆ มันคลุมเครืออยู่ภายในอก เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้นานสักแค่ไหนกัน นี่พึ่งผ่านมาเพียงไม่กี่วัน นันท์นลินก็รู้สึกหายใจลำบากแล้ว
“หน้าตาก็ดีทำไมนิสัยเลวขนาดนี้วะ”
ภรัณยูบ่นออกมาพร้อมกับเพ่งสายตาไปยังหนุ่มเป้าหมายที่สองสาวกำลังเอ่ยถึง
“แกไปพูดใกล้ๆ ดิ...รัณ”
“อย่าท้าฉันนะเส้นด้าย...ฉันเอาจริงนะ...ฉันยิ่งอยากจะเห็นหน้าแบบใกล้ๆ อยู่ด้วย อยากจะไปกระชากคอมาถามสักหน่อย ว่าทำไมถึงได้ใจร้ายกับพระพายที่น่ารักและแสนดีของฉันแบบนี้”
[อีกด้านหนึ่ง]
“เจนิสดีใจจังเลยค่ะ ที่ธัญญ์มาหาเจนิส ไม่ปล่อยให้เจนิส อยู่คนเดียว...”
มือบางคว้าไปที่แขนของชายหนุ่ม พร้อมกับฉุดดึงให้เดินมาที่โต๊ะของเธอ
“อืม...ครับ” พริษฐ์ตอบเพียงสั้นๆ เขาก็บอกตัวเองไม่ถูกอยู่เหมือนกันว่าทำไมจะต้องพาตัวเองมาที่นี่ ทั้งที่ควรจะอยู่บ้าน พักผ่อนเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน
สายตาคมสาดส่องไปยังบริเวณรอบๆ ภายในคลับหรูราวกับต้องการหาใครบางคน อารมณ์ความรู้สึกห่อเหี่ยวอ้างว้างเกาะกิน ในใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่แฟนสาวของตัวเองอยู่ตรงหน้า
“เจนิสสั่งเครื่องดื่มให้ธัญญ์แล้วนะคะ...อืม...ธัญญ์มองหาใครคะ...หรือมองหาเพื่อนของธัญญ์คะ...คลับนี้เจนิสจะมาประจำค่ะ คนค่อนข้างจะเยอะแต่ก็มีเฉพาะกลุ่มไฮโซทั้งนั้นเลยนะคะ”
รมิตาพูดพร้อมกับกวาดสายตามองทั่วบริเวณของคลับ วันนี้ลูกค้าของที่นี่เยอะจริงๆ อาจจะเพราะเป็นคืนวันศุกร์ผู้คนถึงออกมาผ่อนคลาย สายตาของเธอสะดุดเข้ากับกลุ่มคนโต๊ะหนึ่ง ที่นั่งห่างออกไปประมาณเกือบสิบเมตร ‘นั่น!’
“อืม...ผมก็มองทั่วไปครับ บรรยากาศที่นี่ดี ผมไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้ง”
พริษฐ์พูดพลางยกแก้ววิสกี้สาดเข้าไปในลำคอ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที เมื่อเห็นสีหน้าของแฟนสาวเปลี่ยนไป เธอกำลังจ้องมองอะไรบางอย่าง ทำให้พริษฐ์ต้องหันไปมองด้วยเช่นกัน
“สงสัยเจนิสคงต้องไปทักทายลูกหนี้ของธัญญ์หน่อยแล้วค่ะ...อืม...ดูเธอจะมีความสุขเหลือเกินนะ...ใช้ชีวิตสุขสบายไม่ทุกข์ร้อน เหมือนกับไม่ได้อยู่ในสถานะลูกหนี้เลยค่ะธัญญ์...คงจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีนะคะ”
คำพูดของรมิตาจงใจบดขยี้แฟนหนุ่มของเธอ ให้เห็นธาตุแท้ของนังผู้หญิงคนนั้น ริมฝีปากบางสีแดงสดยกยิ้มที่มุมปาก เธอสะใจกับสิ่งที่คนรักของเธอได้เห็นเสียจริง พริษฐ์จะได้รู้ว่าลูกหนี้ของตัวเองลับหลังเป็นอย่างไรบ้าง
“...” พริษฐ์ชะงักไปชั่วครู่ เมื่อเห็นลูกหนี้ที่รมิตาพูดถึงและเป็นต้นเหตุที่ทำให้พริษบ์รู้สึกอารมณ์ไม่โอเคในตอนนี้ ‘ออกมาเที่ยวงั้นสิ?’
“ไม่ต้องหรอก...เจนิส!”
น้ำเสียงเข้มร้องห้ามคนรักทันที อุณภูมิภายในร่างกายของชายหนุ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องข่มอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ แต่เพลิงโทสะกลับแสดงออกผ่านแววตาอย่างชัดเจน จนทำให้คนที่นั่งอยู่ด้วยรู้สึกได้ในทันที
“ทำไมคะธัญญ์! ไหนๆ ก็เจอแล้วนี่คะ...อีนังนั่นมันจะได้รู้ยังไงคะ...ว่ามันอยู่ในสถานะไหน! และใครคือตัวจริงกันแน่!”
รมิตารู้สึกเสียหน้าอย่างแรง เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของแฟนหนุ่ม ที่ดูไม่พอใจเมื่อเห็นลูกหนี้ตัวเองมาเที่ยวแบบนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาปกติก็คงไม่เป็นไร แต่นี่คือคนรักของเธอ รมิตายอมไม่ได้เด็ดขาด
[อีกด้านหนึ่ง]
“เส้นด้ายคิดว่า...เขาเห็นพระพายแล้วแหละ...รวมทั้งแฟนของเขาด้วย...ภาพจินตนาการกับความเป็นจริงต่างกันมาก คุณพริษฐ์หล่อแบบสุดๆเลยอ่ะ...”
“พระพายไม่ต้องกลัวนะ...รัณอยู่ทั้งคน ถ้านายนั่นมาทำอะไรพระพายล่ะก็...รัณไม่เกรงใจแล้วนะ...คอยดูสิ”
“อย่าเลยรัณ...เขาไม่ทำอะไรพระพายหรอก...พระพายกับเขามีสถานะแค่ลูกหนี้เจ้าหนี้ต่อกันเท่านั้นนะ...อีกอย่างแฟนเขาก็อยู่พระพายว่าเราอย่าสนใจเลย...มา...เรามาดื่มกัน...พักเรื่องของพระพายไว้เถอะ...มีแต่เรื่องเครียดๆ พาลให้รัณกับเส้นด้ายไม่สนุกอีก”
“แต่เส้นด้ายคิดว่า...เราจะไม่ได้แค่เครียดอย่างเดียวแล้วนะตอนนี้ เตรียมตัวได้เลย...แฟนคุณพริษฐ์เธอเดินมาที่พวกเราแล้ว”
สายตาทั้งสามคู่หันไปจ้องมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญทันที ร่างแฟนของเจ้าหนี้กำลังตรงดิ่งมาที่โต๊ะด้วยท่าทีที่ไม่ต้องบอกก็รู้...ว่าไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องกลัว...เดี๋ยวรัณจัดการเอง”
“ใจเย็นๆ นะรัณ”
นารารัตน์รีบร้องเตือนเพื่อนหนุ่มทันที ด้วยสีหน้าท่าทางของผู้มาเยือนนั้น ค่อนข้างจะดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่
“ไม่คิดว่าเธอจะกล้ามาประเจ๋อที่นี่นะ...นังลูกหนี้!”
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ


![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)




