Ep.3 มันเป็นอะไรของมันว่ะ?
วันต่อมา ณ คลับแห่งหนึ่ง มีผู้คนมากมายหลายตาที่มาที่นี่ ล้วนแต่เป็นพวกผีพนัน ไม่ว่าจะเล่นขนาดไหนก็ไม่รู้จักพอสักที นี่สินะที่มา ของคำว่า 'ไม่รู้จักพอ' ซึ่งเจ้าของคลับไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเพื่อนของสก๊อต นั่นก็คือ ฟินน์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งก็คือ Dark เพราะความโหดของมันนั้นเอง สก๊อตนั่งอ่านรายละเอียดที่ผู้เป็นพ่อได้ส่งมาให้ เกี่ยวกับหนี้ที่ถูกกู้ไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว โดยสามีภรรยาคู่หนึ่ง และที่อยู่ของพวกเขา ทว่าในเครื่องสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้น มีรายละเอียดของที่อยู่ ของผู้เป็นหนี้ปรากฎขึ้น ที่อยู่ XXXXXXXX สก๊อตถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะการทวงหนี้มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากสำหรับเขา เขาไม่ชอบเอาซะเลย ทำไมคนอย่างเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย ถือปืนฆ่าศัตรูยังง่ายกว่าอีก และที่สำคัญมันไม่น่าปวดหัวเเบบนี้ “เฮ้ย ไอ้สก๊อต มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ? ” คอลิน เพื่อนกลุ่มเดียวกับร่างสูงถามอย่างนึกสงสัย “เออ นั้นดิ กูเห็นมันนั่งทำหน้าแบบนี้มาสักพักใหญ่ล่ะ” เพื่อนรักอย่าง ออซซี่ ก็ช่วยเสริม “มีเรื่องอะไรก็บอกพวกกูให้ช่วยได้นะเว้ย” เพราะเพื่อนแต่ละคนของเขานั้น ไม่ใช่กระจอกๆ สามารถทำได้ทุกอย่าง “กูไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากใคร” สก๊อตพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เเววตาอยากที่จะคาดเดาความรู้สึก เเละที่สำคัญคนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องให้เพื่อนๆมาช่วย ซึ่งเพื่อนๆของเขาก็รู้ดี “เออๆ รู้คร๊าบบบว่า สก๊อต เรซเตอร์ เก่งและฉลาดมากกกกกกก” คอลินทนไม่ไหวเลยพูดแทรกขึ้นมา “แล้วไอ้คนเก่งอย่างมึง ทำไมต้องมานั่งทำหน้าซีเรียสอยู่ตรงนี้ล่ะคร๊าบ หืม? ” คอลินพูดด้วยใบหน้าที่กวนตีน เขาล่ะอยากจะเอาตีน เอ้ย เท้าประทับหน้ามันซะจริงๆ “เรื่องของกู! ไม่ใช่ธุระอะไรของพวกมึง” เชื่อแล้วว่าเย็นชา “อ้าว ไอ้นี่! พวกกูอุส่าห์เป็นห่วงนะเว้ยเห้ย ดูมันพูดเข้าสิ เดี๋ยวพ่อก็เตะให้หน้าคว่ำสะหรอก” จากที่นั่งเงียบมานาน คลาร์ก ก็ได้เวลาใช้ปากสักที เพราะทนไม่ไหวที่เพื่อนไม่เห็นความห่วงใยของพวกเขาซะเลย สก๊อตยกไหล่นิดๆ ทำเป็นไม่ได้สนใจคำพูดที่เหมือนลมที่พัดผ่านมาเเล้วก็ผ่านไป และก็ยกไวน์สีอำพันขึ้นดื่มพรวดเดียวหมดแก้ว ‘อึกๆ’ “พวกมึงพากันหุบปากสักที กูมาดื่มไม่ใช่มาฟังเรื่องไร้สาระน่ารำคาญ!” เสียงอันน่าเกรงขามของเพื่อนอีกคนก็ดังขึ้น ฟินน์พูดขึ้นอย่างเอือมระอาเพื่อนๆของตัวเอง “อ้าววว ไอ้ดาร์ก! มึงนี่ดาร์กได้สมฉายากับนิสัยจริงๆ” ออซซี่อดไม่ไหวที่จะด่ากลับ แต่คิดหรอว่าคำแค่นั้นจะทำให้ไอ้คนดาร์กอย่างเขาสนใจ มาเฟียทั้งห้าตระกลูที่กำลังพูดถึงนี้ คนที่อยู่ในวงการมาเฟียไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขา และพวกเขาเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ยังเด็กมี สก๊อต, ฟินน์, ออซซี่, คอลิน, และคลาร์ก ชื่อกลุ่มของพวกเขาทั้งห้า คือ “The Beast” แต่ทว่าชื่อที่ตั้งกลับตรงข้ามกับหน้าตาของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง พวกเขาได้ช่วยกันตั้งชื่อกลุ่ม The Beast ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนเห็นชอบตรงกัน ทุกคนในกลุ่ม The Beast จะมีรูปสักตรงหน้าอกข้างขวาเหมือนกันทุกคน รูปที่สักคือ รูปหัวกะโหลก ทำให้ดูน่ากลัวสมกับชื่อ “งั้น มึงสองตัวอยากกกกหายเครียดไหมล่ะ? ” คอลินพูดข้อเสนอแก้เครียดมาให้เพื่อนอย่างสก๊อตกับฟินน์ได้ฟัง แล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์ และยิ้มหวานใส่ คนอย่างพวกเขา ทั้งสองหรอจะไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกคนนี้ หมายถึงสิ่งใดที่จะทำให้เขาหายเครียด “กูไม่ต้องการ ถ้ามึงอยากกกหนัก” สก๊อตเว้นจังหวะการพูด และจากนั้นพูดต่อว่า “ก็แก้เครียดคนเดียวไปเถอะ” ดูมันๆ คอลินได้แต่ทำหน้าบึ้งตึง ที่ไอ้เพื่อนเขาคนนี้มารู้ทันใจเขา จะไม่รู้ทันได้ไงล่ะ ก็เขากับสก๊อตเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตัวเท่ามดตะนอย “กูไปล่ะ มีธุระ” สก๊อตไม่สนใจเพื่อนๆของเขาแม้แต่น้อย เพราะเขาต้องรีบไปจัดการธุระเรื่องธุรกิจกับลูกค้าคนสำคัญของเขาต่อ ไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับพวกมันหรอก “กูก็จะกลับ หมดอารมณ์ดื่ม รำคาญ!” ฟินน์พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเย็นชา เขาเป็นอีกคนที่ไม่อยากจะอยู่ต่อ เพราะเขาไม่ชอบอะไรที่มันน่าวุ่นวาย “อ้าววว ไอ้สองตัวนี่ มาได้แปบเดียวก็ไปล่ะ” คลาร์กพูดขึ้นอย่างเอือมระอา “ดูเพื่อนของพวกมึงดิ กูล่ะหัวจะปวด!” “เพื่อนกู ก็เพื่อนมึงด้วยคร๊าาบ” ออซซี่กล่าวอย่างประชดประชัน “กูคิดว่า ไอ้สก๊อตต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง ที่มาทำให้มันไม่พอใจน่ะ กูว่า” คอลินทำหน้าตาเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวเพื่อนของเขา เพราะถ้าไม่มี คนอย่างสก๊อตคงไม่เป็นแบบนี้ “มันเป็นอะไรของมันว่ะ กูอยากรู้หนัก” “ไอ้คอลิน” “ว่า? ” “อย่า สอ เอือ กอ” คอลินถึงกับอ้าปากข้างกลางอากาศ เมื่อได้ยินเพื่อนพูดอย่างนั้น เป็นคลาร์กที่พูดขึ้นมาอย่างเอือมระอากับไอ้คนสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน เขาคิดว่า มันควรเอาเวลาพวกนี้ไปทำมาหากินยังจะดีกว่า “โถ ไอ้เวร!!!” คอลินตะคอกใส่คลาร์กเสียงดังฟังชัดราวกับนกหวีดที่เป่าร้อยอันพร้อมกัน นี่มันกล้ามาหลอกด่าเขางั้นหรอ คลาร์กไม่สนใจคำด่าใดๆจากไอ้เพื่อนรัก เขาแค่ยกไหล่ ยกคิ้วใส่มันเท่านั้น แค่ได้ด่ามันเขาก็มีความสุขแล้ว ความสุขหาได้ง่ายๆจากการด่าเพื่อนตัวเองนั้นเอง อีกมุมหนึ่ง ณ ร้านคาเฟ่เล็กๆ “นี่ตะวัน ฉันกับท๊อปว่าจะชวนแกไปเล่นดนตรีเพื่อการกุศล จะไปด้วยกันป่าว? ” เพื่อนรักอย่าง แสงเหนือ ถือโอกาสชวนทานตะวัน “นี่ยัยแสงเหนือ ทุกคำแกพูดถูกหมดเลยน่ะยกเว้นอะไรรู้ไหม? ” ท๊อปฟี่พูดด้วยน้ำเสียหงุดหงิดและไม่พอใจเพื่อนรัก “อะไรหรอ ฉันพูดผิดตรงไหนหรอแก? ” แสงเหนือที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดตรงไหนผิดไป ก็เลยทำหน้างงๆถาม “ก็ชื่อฉันไง ยัยบ๊องเอ่ยยย นี่ฉันบอกพวกแกกี่ทีแล้วหะ? ” ใบหน้าของท๊อปตอนนี้เหมือนมีไฟถูกจุดขึ้นบนใบหน้า “ว่าฉันชื่อท๊อปฟี่ ไม่ใช่ท๊อป เข้าใจไหมมมม!!? ” ท๊อปฟี่พูดออกมาเสียงดังฟังชัดยิ่งกว่า HD สะอีก เขาได้แต่หวังว่าเพื่อนรักสองคนจะจดจำใส่สมองอันน้อยนิดนี่สักที ‘เหนื่อยใจฉิบเป๋ง’ “โอเคๆค๊า รับทราบแล้วค๊า ท๊อปฟี่คนสวยประจำหมู่บ้านทอฝัน” ทานตะวันที่นั่งฟังเพื่อนพูดก็หัวเราะชอบใจ “ที่พวกแกบอกว่าจะชวนไปเล่นดนตรีเพื่อการกุศลเนี้ย คือวันไหน? ” ทานตะวันที่นั่งเงียบมาสักระยะก็พูดขึ้น แล้วก็ทำตาปริ๊บๆใส่เพื่อน “ฉันจะได้เตรียมตัวถูก เดี๋ยวกลัวไปชนกับวันงานฉันที่ต้องไปดูแลไร่” “ไม่ชนแน่นอนจ๊า เพราะเราจะเล่นดนตรีประมาณ 1 ทุ่ม แกคงไม่ไปไร่ ตอน 1 ทุ่มหรอกใช่ไหม? ” ท๊อปฟี่พูดให้เพื่อนรักฟังแบบมีจริต กวนๆนิดๆ “แล้ววันไหนล่ะจ้า คนสวย” ทานตะวันทำหน้าตากวนๆใส่ท๊อปฟี่คืนบ้าง “หน้าตาแกนี่ น่าหมั่นไส้สุดๆเลยอ่ะ” พอท๊อปฟี่เห็นหน้าเพื่อนรักอย่างนั้นจึงเบะปากใส่ หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “เราจะไปเล่นดนตรีในคืนพรุ่งนี้จ๋า เพื่อนรักตะวัน” “งั้นฉันตกลง เจอกันพรุ่งนี้นะ เพื่อนรักกกกก” “โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้ พวกฉันจะไปรับละกัน” แสงเหนือบอกกับทานตะวัน ที่เธอกับท๊อปฟี่ต้องไปรับ เพราะบ้านของทานตะวันอยู่ห่างจากพวกเธอประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงแม้ว่าจะอยู่หมู่บ้านเดียวกันก็ตาม หลังจากนั้น ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเติบโต เอ้ยยยย กลับบ้าน กลับช่องของตัวเอง พอรถคู่ใจของเธอจอดถึงหน้าบ้านไม่ถึงหนึ่งวิ ยายเธอก็ถามทันทีว่า “ไปไหนมาหรอตะวัน? ” “ไปคุยเล่นกับเพื่อนๆมาจ๊ะยาย” วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธออารมณ์ดีมากๆ แต่ทว่าอารมณ์ดีได้ไม่นานเสียงใครบางคนก็แทรกขึ้นมา “ไม่ใช่ว่าไปหา ฟอ เเอ นอ เเฟน มาหรอคร๊าบบบบ ลูกพี่” แฝดอย่างโจ้ได้พูดล่อเลียนกับเธอ สองแฝดคู่นี้ มักจะเรียกทานตะวันว่า ลูกพี่ และตอนนี้มันยังกวนประสาทเธอสะกดคำว่า แฟน ให้ฟังอย่างเสียงดังฟังชัดดด มันคิดว่าเธอไม่เคยเรียนภาษาไทยมาหรือไง คนอย่างเธอเนี้ยนะจะไปหาแฟน ชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะ “แกเคยยืนอยู่ดีๆ แล้วหัวขม่ำอย่างไม่รู้ตัวป่าว? ” จากที่มีน้ำเสียงที่เคยหวานฉ่ำราวกับน้ำแตงโมปั่น แต่บัดนี้กลับกลายเป็นน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกและแฝงไปด้วยความโหดร้าย อาฆาต ตอนนี้ทานตะวันควันแทบจะออกจากหูให้ได้ ที่ไอ้แฝดตัวนี้ มันกล้ามาหยอกล้อเธอด้วยการเอาเรื่องของผู้ชายมาพูดต่อหน้าเธอไม่พอ ยังจะมาพูดต่อหน้าของยายกับตาเธออีก เดี๋ยวมันได้เจอดี! “โห หยอกนิดหยอกหน่อย ทำเป็นหน้ายักษ์ไปได้ เดี๋ยวไม่งามน่ะคร๊าบบบ” ดูมันทำหน้าแบบนั้น เธอล่ะอยากจะกระชากมาเตะให้สนุกขาชะมัด “หุบปากกวนๆของแกไว้กินข้าวสะเถอะ ไม่งั้นจะได้กินนี้แทน” เธอพูดแล้วทำตาชำเลืองมองลงไปที่เท้า เป็นการบอกเป็นนัยให้ไอ้แฝดตัวนี้มันรู้ว่าอย่ามากวนกับเธออีก ไม่งั้นจะไม่มีคำว่าเตือน แต่มันจะโดน “โถ โหดชะมัด!” โจ้ได้แต่บ่นอุ๊บอิ๊บอยู่ในลำคอ กลัวว่าลูกพี่ของเขาจะได้ยิน จากนั้นทานตะวันก็เดินเข้าบ้านไป เพราะขี้เกียจมาเถียงกับไอ้แฝดให้มันเมื่อยปาก ไปหาน้ำเย็นๆชื่นใจดื่มยังจะดีกว่า...Ep.17 สอนเพศศึกษา NC+++ เเกร้กกกๆๆๆ! "กรี๊ดดดดดดดดด!!!" สก๊อตกระชากเสื้อผ้าออกจากตัวทานตะวันออกจนหมดทุกชิ้น เผยให้เห็นทุกอย่างที่เป็นเนื้อๆ เน้นๆ มันทำให้มังกรยักษ์ของเขาตื่นตัวขึ้นมาอย่างง่ายดาย ทานตะวันรีบใช้มือทั้งสองมาปกปิดของสงวนของเธออย่างไว "จะทำอะไรฉันนนน!!!?" ทานตะวันตะโกนออกมาจนเสียงดังลั่นไปทั่วห้องขนาดใหญ่ "ระริกระหรี่ไปเอากับผู้ชายคนอื่น ทั้งที่เพิ่งโดนฉันเอาไปไม่กี่วัน เเต่ถ้าอยากนักฉันก็จะสงเคราะห์ให้!" มาเฟียหนุ่มพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว ว่าตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์ไม่พอใจคู่สนทนาอย่างมาก "ไอ้บ้าสก๊อต!!! พูดเรื่องบ้าอะไรของนาย!!!?" ฉันไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขากำลังสื่อ เขาพูดเรื่องอะไรกัน? ผู้ชายคนอื่น? คนไหนกัน? ฉันยังไม่เคยไปยุ่งกับผู้ชายคนไหนสักคนเลย! "Wow! จำชื่อผัวคนเเรกได้ด้วย!" สก๊อตพูดจบก็กระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น่ะเว้ย!!" ทานตะวันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความโกรธได้อีกต่อไป เธอตะคอกใส่คนตรงหน้าอย่างโมโห "อย่ามาสั่งฉัน เเต่ฉันจะปล่อยเเน่ เเต่ไม่ใช่ในเเบบที่เธอคิดน่ะ เดี๋ยวจะเเสดงให้ดูว่า 'ปล่อย' เเบบไหน?" จากนั้นสก๊อตรีบปลดเปลืองเสื้อ
Ep.16 คิดผิดเเล้วที่ทำเเบบนี้! ในห้องของทานตะวัน "อย่างน้อยๆวันนี้ฉันก็มีความสุข ความทุกข์จงหายไป อย่าได้หวนกลับมาอีก ชิวๆๆ" ทานตะวันปัดมือไล่ความทุกข์ออกจากชีวิตให้ออกไปจากตัวเธอ ชีวิตนี้อย่าได้เจอะเจออีก เเต่... ติ๊ง! Line หรือความทุกข์จะยังไม่จบไม่สิ้น... Eagle: พรุ่งนี้มาพบฉันที่เดิม เวลาเดิม ทานตะวันพอมองเห็นแชทที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ ก็รู้ทันทีว่ามันคือข้อความจากใคร จะใครล่ะ เเต่เธอเลือกที่จะไม่เปิดอ่าน เเละไม่สนใจข้อความของคนที่เธอเกลียดอีกต่อไป "ฉันเกลียดนาย!! ขอให้ชาตินี้ก็อย่าได้เจอคนอย่างนายอีก!" คำพูดที่ออกมาจากปากทานตะวันนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เเละความโกรธ เช้าวันใหม่ 8:30 "ทำไมยังไม่มาว่ะ?" อารมณ์ของคนรอใครสักคนมาหาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา มือหนากดเข้าไลน์ส่วนตัว ทว่าในเเชทกลับว่างเปล่า ไม่มีการตอบกลับใดๆ เเม้เเต่เข้าไปอ่านก็ไม่มี "เธอคิดผิดเเล้วที่ทำเเบบนี้!!" สก๊อตจ้องมองไปยังข้อความด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ เพราะทานตะวันไม่เเม้เเต่จะเข้ามาอ่านข้อความของเขา ห้องของทานตะวัน "อือๆ" คนที่เพึ่งตื่นนอน กำลังร้องงัวเงียเหมือนเด็ก "เช้าเเล้วหรอเนี้ย?" มือบางคว
Ep.15 กลิ่นที่ตราตรึง ทานตะวันที่กำลังยืนมองร่างกายตัวเองผ่านหน้ากระจกใสของห้องน้ำ บนเรือนร่างเต็มไปด้วยร่องรอยสีดอกทิวลิปแดงช้ำ จากการผ่านสนามรบที่เเสนจะปวดร้าวของเมื่อวานมา เธอไม่กล้าแม้แต่จะสัมผัสร่องรอยพวกนั้น ที่ตากับยายเธอสังเกตไม่เห็น ก็เพราะเธอใส่เสื้อคลุมปกปิดเอาไว้ "ฉันไม่ใช่คนอ่อนเเอ ฉันจะยอมให้น้ำตาไหลเพราะไอ้คนเลวคนนั้น ฉันจะลืมทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นให้หมด" ทานตะวันพูดออกมาอย่างคนเข้มเเข็ง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอจะไม่เก็บมาคิดให้ตัวเองเจ็บปวดอีก สิ่งที่เสียไปก็ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป เธอจะอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น ถือซะว่าได้ชดใช้เวรใช้กรรมไปเเล้ว ยามราตรี ครืด! ครืด! "ว่าไงเเสงเหนือ?" พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของเเสงเหนือ ฉันจึงกดรับ "ทำไมเมื่อวานไม่ตอบเเชท ไม่รับสายฉัน รู้ไหมทั้งตายายเเก ท๊อปฟี่เเละฉันเป็นห่วงเเกขนาดไหน?" ฉันสัมผัสได้ทันทีเลย ว่าเพื่อนเป็นห่วงฉันขนาดไหน ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ "ฉันคิดว่าเเกโดนลักพาตัว เกือบไปเเจ้งตำรวจเเล้วรู้ไหม?" เสียงในสายถูกเเทรกขึ้นมาเเต่เป็นเสียงของอีกคนมาพร้อมกับเสียงของท๊อปฟี่ "ฉันขอโทษ พอดีฉันยุ่งอยู่กับ เออ ฉันต้องไปเคลียร์เรื่
Ep.14 เผลอ ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง สก๊อตเดินออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวอีกด้านหนึ่งที่ติดกับห้องทำงาน บนร่างกายเเกร่งมีเเค่เพียงผ้าขนหนูที่ปกปิดส่วนล่างเอาไว้ สายตาคมกริบแสนเย็นชากำลังมองไปยังคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาจากบทรักที่เขาได้มอบให้ เวลาผ่านไปนานนับหลายชั่วโมงเเล้ว เเต่ยังไม่มีท่าทีว่าเธอจะขยับตัว หรือตื่นขึ้นมาสักที สก๊อตจึงตัดสินใจเดินไปยังเธอ เเล้วทำในสิ่งที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มือมันลั่นไปเอง! "เเม่งเอ๋ย!! ทำไมตัวร้อนอย่างนี้ว่ะ!!?" สก๊อตสบถคำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ นี่เป็นครั้งเเรกที่คนอย่าง สก๊อต เรซเตอร์ ใช้หลังมือของตัวเองไปสัมผัสที่หน้าผากมนของผู้หญิงที่เพิ่งจะมีอะไรด้วย เพื่อเชคอุณหภูมิร่างกายของเธอ "อือ…อือ" จู่ๆ เสียงของคนที่หลับไปนานพอสมควรก็พึมพำในลำคอออกมา มาเฟียหนุ่มจึงผละตัวออกมาห่างๆ กลัวเธอลืมตาขึ้นมาเเล้วเห็นเขา เขาเตรียมจะก้าวเดินออกไปอย่างไม่สนใจคนที่นอนป่วยอยู่ เเละเเล้วคำพูดบางอย่างเข้ามากระทบที่โสตประสาท ทำให้เขาหยุดเดินเเล้วหันหน้ากลับมา "พ่อจ๋า เเม่จ๋า อย่าทิ้งตะวันไปน่ะ ฮือๆ" คนป่วยนอนร้องไห้ละเมอ พร้อมน้ำตาที่ไ
Ep.13 สั่งสอนเด็กแสบ NC+++ "นายจะทำอะไรของนาย?" ทานตะวันเมื่อเห็นสก๊อตกำลังปลดกระดุม เธอจึงเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เเล้วพยายามจะลุกหนี เเต่มีหรือเขาจะรู้ไม่ทัน สก๊อตใช้เเขนกำยำกักขังทานตะวันไว้ไม่ให้เธอหนี เเล้วเขาก้มลงไปกระซิบใกล้ๆใบหูทานตะวัน ทำเอาเธอขนลุกซู่ "สั่งสอนเด็กเเสบอย่างเธอไง!" พูดจบ เขาก็เเสยะยิ้มที่มุมปากอย่างสุนัขจิ้งจอกเจ้าเลห์ ที่มองเยื้อของมันอย่างหิวโหย "สั่งสอ" ไม่ทันที่เธอจะพูดจบประโยค เขาจะสั่งสอนเรื่องอะไร มาเฟียหนุ่มก็กระชากเสื้อยืดเธอจนขาดวิ่น กรี๊ดดดดดดดดดด!! "ไอ้บ้า!! จะทำอะไรฉันนน!! ปล่อยฉันน่ะ!! ไม่งั้นฉันจะกระโดดถีบนาย!!!" เสียงทานตะวันร้องโหยหวนด้วยความตื่นตระหนก จนเม็ดเหงื่อเริ่มไหลออกมาตามกรอบหน้า "ในเมื่อเธอเป็นลูกหนี้ของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้ งั้นวันนี้เอากายมาบำเรอออให้ฉันล่ะกัน" เขามันไม่ต่างจากเสือที่พร้อมจะขย้ำเยื่อให้เเหลกคามือ และไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยที่ทานตะวันบอกว่าจะโดดถีบเขา เพี้ยะ!! เสียงฝามือของคนใต้ร่างตบกระทบลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาทันทีที่มาเฟียหนุ่มพูดจบประโยค ทำให้ใบหน้าของเขาต้องหันไปตามเเรงตบของเธอ เลือดซึมออกมาที่มุม
Ep.12 กาแฟดำสูตรทานตะวัน! เช้าวันต่อมา ณ บริษัทเรซเตอร์ ตอนนี้ร่างบางที่อยู่ในชุดสไตล์เหมือนเดิมกับเมื่อวานเพิ่มเติมคือเสื้อผ้ามีรอยขาดๆหลายจุดให้ดูเท่ เธอนั่งรอมาเฟียหนุ่มอยู่ที่โซฟาขนาดใหญ่ เธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ทำอะไรที่ขัดใจกับที่เจ้าหนี้เธอสั่ง แกร๊ก! ประตูถูกเปิดออกโดยมีร่างสูงเดินเข้ามา เพิ่มเติมคือสีหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่ค่อยสบอารมณ์คนตรงหน้าสักเท่าไหร่ “ฉันบอกเธอว่าไง? ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ย “ฉันจะใส่แบบนี้ ฉันชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้” ยังไงเธอก็ยังยืนยันจะใส่ในแบบที่เธอชอบ “แต่ฉันสั่งให้ทำยังไง เธอก็ต้องทำอย่างนั้น” เสียงเรียบนิ่งเปลี่ยนเป็นเสียงที่น่าเเกรงขามขึ้น แม้เเต่ทานตะวันก็ยังรับรู้ได้ “แต่นายไม่ใช้เจ้าชีวิตฉันน่ะ ไม่มีสิทธิ์มาสั่งว่าฉันจะต้องทำอะไร ไม่ทำอะไร” ฉันตอบเขาไปด้วยอารมณ์ไม่พอใจ ฉันไม่ชอบเลยที่มีคนมาสั่งให้ทำตามที่ใจตัวเองต้องการ นี่ชีวิตฉันน่ะไม่ใช้ของเขาสักหน่อย “มีสิ สิทธิ์ของเจ้าหนี้ไง” ไม่ทันที่ทานตะวันจะพูดอะไรออกไป ก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอกเข้ามา ก๊อกๆ “เข้ามา” สก๊อตกล่าวขึ้น “ขออนุญาตครับนาย ถึงเวลาประชุมแล้วครับ” เป็นมือซ้า