Ep.3 มันเป็นอะไรของมันว่ะ? 2/2
“อย่า สอ เอือ กอ” คอลินถึงกับอ้าปากข้างกลางอากาศ เมื่อได้ยินเพื่อนพูดอย่างนั้น เป็นคลาร์กที่พูดขึ้นมาอย่างเอือมระอากับไอ้คนสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน เขาคิดว่า มันควรเอาเวลาพวกนี้ไปทำมาหากินยังจะดีกว่า “โถ ไอ้เวร!!!” คอลินตะคอกใส่คลาร์กเสียงดังฟังชัดราวกับนกหวีดที่เป่าร้อยอันพร้อมกัน นี่มันกล้ามาหลอกด่าเขางั้นหรอ คลาร์กไม่สนใจคำด่าใดๆจากไอ้เพื่อนรัก เขาแค่ยกไหล่ ยกคิ้วใส่มันเท่านั้น แค่ได้ด่ามันเขาก็มีความสุขแล้ว ความสุขหาได้ง่ายๆจากการด่าเพื่อนตัวเองนั้นเอง อีกมุมหนึ่ง ณ ร้านคาเฟ่เล็กๆ “นี่ตะวัน ฉันกับท๊อปว่าจะชวนแกไปเล่นดนตรีเพื่อการกุศล จะไปด้วยกันป่าว? ” เพื่อนรักอย่าง แสงเหนือ ถือโอกาสชวนทานตะวัน “นี่ยัยแสงเหนือ ทุกคำแกพูดถูกหมดเลยน่ะยกเว้นอะไรรู้ไหม? ” ท๊อปฟี่พูดด้วยน้ำเสียหงุดหงิดและไม่พอใจเพื่อนรัก “อะไรหรอ ฉันพูดผิดตรงไหนหรอแก? ” แสงเหนือที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดตรงไหนผิดไป ก็เลยทำหน้างงๆถาม “ก็ชื่อฉันไง ยัยบ๊องเอ่ยยย นี่ฉันบอกพวกแกกี่ทีแล้วหะ? ” ใบหน้าของท๊อปตอนนี้เหมือนมีไฟถูกจุดขึ้นบนใบหน้า “ว่าฉันชื่อท๊อปฟี่ ไม่ใช่ท๊อป เข้าใจไหมมมม!!? ” ท๊อปฟี่พูดออกมาเสียงดังฟังชัดยิ่งกว่า HD สะอีก เขาได้แต่หวังว่าเพื่อนรักสองคนจะจดจำใส่สมองอันน้อยนิดนี่สักที ‘เหนื่อยใจฉิบเป๋ง’ “โอเคๆค๊า รับทราบแล้วค๊า ท๊อปฟี่คนสวยประจำหมู่บ้านทอฝัน” ทานตะวันที่นั่งฟังเพื่อนพูดก็หัวเราะชอบใจ “ที่พวกแกบอกว่าจะชวนไปเล่นดนตรีเพื่อการกุศลเนี้ย คือวันไหน? ” ทานตะวันที่นั่งเงียบมาสักระยะก็พูดขึ้น แล้วก็ทำตาปริ๊บๆใส่เพื่อน “ฉันจะได้เตรียมตัวถูก เดี๋ยวกลัวไปชนกับวันงานฉันที่ต้องไปดูแลไร่” “ไม่ชนแน่นอนจ๊า เพราะเราจะเล่นดนตรีประมาณ 1 ทุ่ม แกคงไม่ไปไร่ ตอน 1 ทุ่มหรอกใช่ไหม? ” ท๊อปฟี่พูดให้เพื่อนรักฟังแบบมีจริต กวนๆนิดๆ “แล้ววันไหนล่ะจ้า คนสวย” ทานตะวันทำหน้าตากวนๆใส่ท๊อปฟี่คืนบ้าง “หน้าตาแกนี่ น่าหมั่นไส้สุดๆเลยอ่ะ” พอท๊อปฟี่เห็นหน้าเพื่อนรักอย่างนั้นจึงเบะปากใส่ หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “เราจะไปเล่นดนตรีในคืนพรุ่งนี้จ๋า เพื่อนรักตะวัน” “งั้นฉันตกลง เจอกันพรุ่งนี้นะ เพื่อนรักกกกก” “โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้ พวกฉันจะไปรับละกัน” แสงเหนือบอกกับทานตะวัน ที่เธอกับท๊อปฟี่ต้องไปรับ เพราะบ้านของทานตะวันอยู่ห่างจากพวกเธอประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงแม้ว่าจะอยู่หมู่บ้านเดียวกันก็ตาม หลังจากนั้น ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเติบโต เอ้ยยยย กลับบ้าน กลับช่องของตัวเอง พอรถคู่ใจของเธอจอดถึงหน้าบ้านไม่ถึงหนึ่งวิ ยายเธอก็ถามทันทีว่า “ไปไหนมาหรอตะวัน? ” “ไปคุยเล่นกับเพื่อนๆมาจ๊ะยาย” วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธออารมณ์ดีมากๆ แต่ทว่าอารมณ์ดีได้ไม่นานเสียงใครบางคนก็แทรกขึ้นมา “ไม่ใช่ว่าไปหา ฟอ เเอ นอ เเฟน มาหรอคร๊าบบบบ ลูกพี่” แฝดอย่างโจ้ได้พูดล่อเลียนกับเธอ สองแฝดคู่นี้ มักจะเรียกทานตะวันว่า ลูกพี่ และตอนนี้มันยังกวนประสาทเธอสะกดคำว่า แฟน ให้ฟังอย่างเสียงดังฟังชัดดด มันคิดว่าเธอไม่เคยเรียนภาษาไทยมาหรือไง คนอย่างเธอเนี้ยนะจะไปหาแฟน ชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะ “แกเคยยืนอยู่ดีๆ แล้วหัวขม่ำอย่างไม่รู้ตัวป่าว? ” จากที่มีน้ำเสียงที่เคยหวานฉ่ำราวกับน้ำแตงโมปั่น แต่บัดนี้กลับกลายเป็นน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกและแฝงไปด้วยความโหดร้าย อาฆาต ตอนนี้ทานตะวันควันแทบจะออกจากหูให้ได้ ที่ไอ้แฝดตัวนี้ มันกล้ามาหยอกล้อเธอด้วยการเอาเรื่องของผู้ชายมาพูดต่อหน้าเธอไม่พอ ยังจะมาพูดต่อหน้าของยายกับตาเธออีก เดี๋ยวมันได้เจอดี! “โห หยอกนิดหยอกหน่อย ทำเป็นหน้ายักษ์ไปได้ เดี๋ยวไม่งามน่ะคร๊าบบบ” ดูมันทำหน้าแบบนั้น เธอล่ะอยากจะกระชากมาเตะให้สนุกขาชะมัด “หุบปากกวนๆของแกไว้กินข้าวสะเถอะ ไม่งั้นจะได้กินนี้แทน” เธอพูดแล้วทำตาชำเลืองมองลงไปที่เท้า เป็นการบอกเป็นนัยให้ไอ้แฝดตัวนี้มันรู้ว่าอย่ามากวนกับเธออีก ไม่งั้นจะไม่มีคำว่าเตือน แต่มันจะโดน “โถ โหดชะมัด!” โจ้ได้แต่บ่นอุ๊บอิ๊บอยู่ในลำคอ กลัวว่าลูกพี่ของเขาจะได้ยิน จากนั้นทานตะวันก็เดินเข้าบ้านไป เพราะขี้เกียจมาเถียงกับไอ้แฝดให้มันเมื่อยปาก ไปหาน้ำเย็นๆชื่นใจดื่มยังจะดีกว่า...Ep.Special 4 Katy's New Life 3/3"คุณเคธเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าเเดง?" ภาคินเมื่อสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเคธี่เปลี่ยนมาเป็นสีเเดงจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"เคธไม่ได้เป็นอะไรค่ะ งั้นเคธขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ" เคธี่รีบปฏิเสธคนตรงหน้าว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร เเละรีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน"ได้ครับ" ภาคินตอบกลับเคธี่ด้วยความงงๆเพราะอาการของเธอมันดูเเปลกๆในห้องน้ำ"Oh, my god!!! ทำไมหน้าเเดงเเบบนี้เนี่ย!!!" เคธี่อุทานด้วยความตกใจผ่านหน้ากระจก เธอลูบเเก้มที่เเดงเถือกของตัวเองเบาๆ อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงเเดงขนาดนี้สองเดือนต่อมา"พี่คินคะ ขับรถระวังหน่อยนะคะ เดี๋ยวลื่น" เวลาผ่านไปได้ไม่นานฉันกับพี่คินก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น จนฉันเรียกเขาว่าพี่คินเพราะเขาอายุมากกว่าฉันสองปี ส่วนเขาเรียกฉันว่าเคธเราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนถูกคนในหมู่บ้านมักจะเอ่ยเเซวพวกเราว่าเป็นคู่รักกัน เเต่ความจริงเเล้วความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนเป็นเเค่พี่กับน้องมากกว่าจากนั้นภาคินขับรถไปจอดเเถวๆบริเวรที่เขาคิดว่าปลอดภัยไม่มีทางที่รถจะลื่นไหลไปไหนได้เเน่นอน เเละตอนนี้ฝนก็กำลังตกอยู่จึงไม่อยากขับต่อเพราะกลัวว่า
Ep.Special 4 Katy's New Life 2/3 "ช่วยพาคุณเคธี่ไปดูห้องพักเเทนพ่อที พอดีพ่อมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปจัดการก่อน" พ่อของคนตัวสูงกล่าวบอกลูกชาย "เออ ได้ครับ" ภาคินจึงตอบตกลงไป จากนั้นผู้ใหญ่บ้านจึงรีบเดินสับเท้าไปที่ท้ายหมู่บ้าน เพื่อที่จะไปซ่อมท่อที่เเตก หากชักช้าทั้งหมู่บ้านจะพากันเดือดร้อนไปด้วย เมื่อทั้งสองมองดูไล่หลังผู้ใหญ่บ้านที่เดินจากไปเเล้ว ก็ดึงสายตากลับมามองที่คนตรงหน้า เคธี่เผลอใช้สายตาไล่มองร่างกายกำยำ กล้ามเป็นลอนๆเรียงรายกันสวยงาม ไหนจะเม็ดเหงื่อที่ไหลออกมาจากเรือนร่างที่ขาวผ่อง เขาช่างดูดีเหลือเกิน จนเธอลืมไปว่าตัวเองกำลังจ้องมองคนตรงหน้านานเกินไป เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ จนเผลอกลืนน้ำลายเข้าไปในลำคอหนึ่งอึก "เออ คุณครับ?" เมื่อชายหนุ่มเห็นคนตรงหน้าของเขาเอาเเต่จ้องมองเขาด้วยเเววตาเเปลกๆนานเกินไปจึงรู้สึกเขินๆอายๆ เลยเอ่ยเรียกเธอ จังหวะนั้นเองที่ทำให้เคธี่หลุดออกจากภวังค์ "เออ คะ?" ฉันทำตัวไม่ถูกเลย เมื่อสติกลับเข้ามายังร่าง ฉันไม่น่าไปจ้องมองร่างกายของเขานานขนาดนี้เลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันร่างกายฉันมันสั่งระบบสายตาฉันโดยอัตโนมัติว่าให้มองอยู่อย่างนั้น โถเอ๋ยอา
Ep.Special 4 Katy's New Life 1/3 "เคพีมาหาเเม่เร็วครับลูก" เคธี่กวักมือเรียกลูกชายวัยสองขวบกว่าที่กำลังเล่นซนมากๆอยู่ให้มาหาเธอ "คร๊าาบบเเม่" เคพีขานรับเเล้วจึงรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กๆไปหาผู้เป็นเเม่อย่างไม่เร็วมากเพราะอายุเพิ่งเเค่สองขวบ กว่าๆ เคพีกลัวว่าผู้เป็นเเม่จะไม่พาไปสวนสัตว์ตามที่เคยสัญญาเอาไว้ หากไม่ยอมเชื่อฟัง หรือทำตัวดื้อกับเธอ เธอก็จะลงโทษด้วยการไม่พาเขาไปเที่ยวสวนสัตว์ เคพีคิดในใจ เด็กฉลาดวัยสองขวบกว่าจึงต้องตามใจผู้เป็นเเม่ไปก่อน เขารอคอยวันที่จะไปสวนสัตว์มานานเเล้ว จุดมุ่งหมายเดียวของเคพี คือเพื่อไปดูการเเสดงโชว์ของโลมาซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเขา เขาชอบมันเอามากๆ เพราะเคยดูการเเสดงโชว์ของโลมาจากสารคดีมาก่อนนั้นเอง จึงต้องไปชมให้เห็นเองกับตา เมื่อสามปี่ที่เเล้ว ณ จังหวัดเชียงราย "ทุกคนฟังทางนี้ นี่คือคุณเคธี่ เธอเป็นอาสาสมัครที่จะมาช่วยสอนหนังสือให้พวกเด็กๆในหมู่บ้านของเรา" ผู้ใหญ่บ้านเเห่งหมู่บ้านน่านฟ้า หรือนามว่าวาคิณกล่าวเเนะนำให้ลูกบ้านทุกๆคนที่มาประชุมในวันนี้ได้รู้จักกับเคธี่ เพราะเธออาสาที่จะมาเป็นคุณครูสอนเด็กๆที่ขาดการศึกษา เธออยากช่วยเหลือคนที่ไม่มีโอกาสได
Ep.Special 3 Our Family "The End!" 3/3"เกิดอะไรขึ้นคร๊าบ!!?" ทั้งสกายเเละสตาร์ถามด้วยท่าทางอย่างลุ้นๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีเกิ้ลเเละดอกไม้"เมื่อทั้งสองล้มลงไป ทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน" พี่สก๊อตหันมามองฉัน เล่าไปด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น เเต่ฉันที่นอนฟังอยู่รู้สึกโคตรจะเขินอายกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเลย"Wowww!! เเสดงว่าพวดเขาจู๋จุ๊บกันหรอคร๊าบ?" สตาร์ถามด้วยความสงสัยตามภาษาเด็ก"ถูกต้อง จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นมาร้องโวยวาย โกรธหน้าดำหน้าเเดงเพราะโดนขโมยจู๋จุ๊บครั้งเเรกไป เเละเธอก็จะเอาเรื่องอีเกิ้ลให้ได้ที่บังอาจมาจู๋จุ๊บเธอ เเต่อีเกิ้ลจับมือเธอไว้ได้ทัน ไม่ให้เธอทำร้ายเขา จากนั้นเขาเลือกที่จะปล่อยมือเธอเเล้วเดินจากไป..." สก๊อตหยุดเล่าสักพักเพราะเมื่อยปาก"เเล้วงายต่อคร๊าบเเด๊ด?" เมื่อผู้เป็นพ่อหยุดเล่าได้ไม่ถึงห้าวินาที สกายก็ถวงถามเขาให้เล่าต่อ"จากนั้นไม่นานสองคนก็ได้มาพบกันอีกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง จึงทำให้ได้เจอะเจอกันบ่อยๆทั้งที่ผู้หญิงที่ชื่อดอกไม้ไม่ค่อยอยากเจออีเกิ้ลสักเท่าไหร่ เเต่อีเกิ้ลกลับอยากจะเจอเธอ" ประโยคสุดท้ายทำเอาทานตะวันขมวดคิ้วชนกันด้วยคว
Ep.Special 3 Our Family "The End!" 2/3 "ตาร์อยากฟันเรื่อน อืมมมม เรื่อนไรดีละกาย?" สตาร์ทำท่าทางคิดว่าตัวเองอยากฟังเรื่องอะไรดีในขณะที่มือก็เลือกหาหนังสือนิทานหลายเล่มอยู่ เเต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะเลือกเรื่องไหนเพราะอยากฟังทุกเรื่องเลย จึงหันหน้าไปถามสกายเเฝดคนพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆกาย "ม่ายยยลู่" สกายตอบเเฝดคนน้องพร้อมส่ายหัวน้อยๆไปมา "อุตส่าห์เดินถือหนังสือนิทานตั้งหลายเล่มมาให้เเด๊ดอ่านให้ฟัง เเต่ไม่รู้จะเลือกเรื่องอะไร เเสบจริงๆ" สก๊อตพูดกับลูกน้อยสองคนด้วยความเอ็นดูความเเสบของลูกๆ เเล้วก้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงไปเพื่อที่จะหอมเเก้มยุ้ยๆอมชมพูน่ารักน่าชังของสกายกับสตาร์ด้วยความหมั่นเขี้ยวเเละเเฝงไปด้วยความรักของพ่อ "ฟอด! ฟอด!" "กะพวดราวเลือกม่ายถูกคร๊าบ" สกายพูดไปด้วยทำหน้าอ้อนๆไปด้วยเพื่อให้คนเป็นบิดาเห็นใจว่าเลือกเรื่องหนึ่งมาอ่านมันต้องชั่งใจขนาดไหน "หึ" ฉันอดไม่ได้ที่จะขำท่าทางของลูกๆที่กำลังอ้อนผู้เป็นพ่ออยู่ น่ารักน่าเอ็นดูซะจริงๆลูกของฉัน ฉันจึงเอามือไปลูบศีรษะทุยของลูกทั้งสองด้วยความเอ็นดู "งั้นเดี๋ยวเเด๊ดเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง" สกายกับสตาร์ถึงกับเบิกตาโตเมื่อผู
Ep.Special 3 Our Family "The End!" 1/3 ณ ห้องนอน เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง "อื้อ พี่สก๊อตตะวันจั๊กจี้ ฮ่าๆ พอเเล้ววว ฮ่าๆ" ทานตะวันที่นอนสะดีดสะดิ้งไปมาบนที่นอนนุ่มนิ่ม เมื่อโดนสามีหนุ่มใช้ริมฝีปากหยักสวยระดมจุ๊บเบาๆไปตามซอกคอขาวอย่างหยอกล้อ เธอจึงรู้สึกจั๊กจี้ไปทั่วบริเวรคอระหง เเต่ไม่วายฝามือร้ายของสก๊อตเลื่อนลงต่ำไปหาดอกไม้งามภายใต้ชุดนอนสีขาวลายลูกไม้ ขณะที่ริมฝีปากยังคงหยอกล้ออยู่กับซอกคอขาวหอมกรุ้นของคนใต้ร่างอยู่ "อ่ะ~ พี่สก๊อตอย่านะ" ทานตะวันรีบเอ่ยห้ามปราม สามีหื่นไว้ก่อน ก่อนที่เขาจะถลำลึกไปกว่านี้ เเละพยายามปัดมือร้ายของเขาออก เเต่ก็ทำได้เเค่นั้นเพราะปัดยังไงมือร้ายที่เหมือนโบกกาวหนาหลายชั้นของเขาก็ไม่ยอมรามือ "เราไม่ได้ทำมาหลายวันเเล้วนะ พี่สงสารตัวเอง" สก๊อตเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ้อนๆคนใต้ร่าง เเละน้ำเสียงที่เซกซี่นั้นบ่งบอกว่าตัวเขาเองก็ควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านตอนนี้ไม่ได้ เเละอีกอย่างเขาต้องรีบคว้าโอกาสอันล้ำค่านี้เข้าไว้ เพราะเวลาจะทำรักกับเมียทีไร ไอ้สองเเสบก็ชอบมาขัดจังหวะของเขาตลอด เขาต้องอดกินเมียมาตั้งหลายครั้งเพราะไอ้ลูกชายฝาเเฝดตัวดี "พูดได้เวอร์มาก!!" ที่ฉันพูดอ