Beranda / โรแมนติก / หนี้หัวใจใต้กลลวง / บทที่ 6 ให้จดจำไปจนตาย

Share

บทที่ 6 ให้จดจำไปจนตาย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-02 18:41:30

ความเงียบปกคลุมทั่วห้องหลังบทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างภานุวัฒน์กับธีภพจบลง

ท่ามกลางความเงียบ...แต่ไม่ว่างเปล่า

ในห้วงความเงียบนั้นมีทั้งความเข้าใจ และภาระที่แต่ละคนแบกไว้ในเส้นทางที่ไม่อาจหันหลัง

 

คีรณัฐ  ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตเรียบเฉียบที่นั่งพิงพนักนิ่ง ๆ 

กระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เฉือนลึกในทุกถ้อยคำ

"ฉันเอง...ก็คงต้องถอนตัวจากฝั่งธุรกิจแล้วเหมือนกัน"

 

เพียงคำพูดเดียว

บรรยากาศในห้องพลันตึงขึ้นอย่างยากจะอธิบาย

ธีภพละสายตาจากแฟ้มในมือ

ภานุวัฒน์หยุดมือที่กำลังขยับแฟ้มเอกสาร

ทั้งสองไม่ถามซ้ำ เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจ 

เบื้องหลังหน้ากากผู้บริหารที่คีรณัฐสวมไว้ตลอดหลายปี

คือเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษระดับสูง หนึ่งในผู้กวาดล้างขบวนการสกปรกในโลกมืด

ทั้งสารเสพติด อาชญากรรม และนักการเมืองที่ย่ำยีผู้บริสุทธิ์

โดยเฉพาะ...ท่านรัฐมนตรี วิศรุต เกริกไกร เป้าหมายที่เขาเพ่งเล็งมาเนิ่นนาน

 

คีรณัฐหัวเราะเบา ๆ คล้ายไม่ยี่หระ

"ถึงเวลาแล้วล่ะ...ต้องกลับไปทำในสิ่งที่ควรทำ"

เสียงเขานิ่งและมั่นคงจนรอบห้องเหมือนจะอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ

 

ธีภพพยักหน้าเข้าใจ

ไม่พูดมาก เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ไม่ต้องการถ้อยคำฟุ่มเฟือย

 

ภานุวัฒน์เองก็พยักหน้าน้อย ๆ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่ทุ้มต่ำ

"ต่อจากนี้..."

"ฉันอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากแกบ้าง"

 

คิ้วของคีรณัฐยกขึ้นนิด ๆ อย่างรู้ทัน

รอยยิ้มที่มุมปากเย็นเฉียบ และเต็มไปด้วยความเข้าใจลึกซึ้ง

"ไม่ใช่เรื่องบริหารสินะ?" เขาถามพลางกระตุกยิ้มมุมปาก

 

"ไม่ใช่" ภานุวัฒน์ยืนยัน ดวงตาสีน้ำแข็งวาววับเป็นประกายเฉียบขาด

"แต่เป็นเรื่องของศัตรู...ที่แกเองก็ตามล่าอยู่เหมือนกัน"

 

แววตาทั้งสองสบกันใน​ความ​ หมายทั้งหมดกระจ่างโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยชื่อ

ท่านรัฐมนตรี วิศรุต เกริกไกร

บุรุษผู้เป็นจุดเริ่มต้นของหนี้เลือด หนี้แค้น และความสูญเสีย

 

คีรณัฐหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

เขาจับปกเสื้อตัวเองอย่างไม่เร่งรีบ ก่อนพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงทุ้มเย็น

"เมื่อไหร่ที่แกต้องการ..."

"ก็แค่ส่งสัญญาณมา"

เขาหันไปสบตาธีภพและภานุวัฒน์

"โลกของเรามันสกปรกพอแล้ว...อย่างน้อย ถ้ามีใครกล้าทำให้มันสะอาดขึ้นอีกนิด ฉันก็ยินดีจะเป็นฮีโร่ให้"

 

 

....................

 

 

เวลาผ่านไปแล้วเกือบครึ่งเดือน

ในสถานที่ซึ่งเหมือนหลุมดำ 

ที่กักขังเธอไม่ให้เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวของท้องฟ้า

ไม่มีวัน​ ไม่มีคืน

มีเพียงแสงไฟสลัวและกลิ่นอับของความอ้างว้างที่เกาะกินหัวใจ

ลาริสาทำงานเงียบ ๆ ในมุมเล็ก ๆ ของโลกนี้

เหมือนคนไร้ตัวตน...ที่ไม่มีใครอยากมองเห็น

ครึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น เธอไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกเลย

ภานุวัฒน์

ชายผู้จับตัวเธอมา

ชายผู้ที่ปล่อยให้เธอเอาตัวรอดท่ามกลางโลกอันโหดร้ายนี้เพียงลำพัง

 

ในตอนแรก เธอยังเชื่อว่าหากไม่สร้างปัญหา เธอจะสามารถมีชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบ

แต่โลกที่ไม่มีแสง ไม่ได้ใจดีกับใครง่าย ๆ

ตั้งแต่วันแรกที่เธอก้าวเข้ามา

สายตาเหยียดหยาม และรอยยิ้มเยาะเย้ยก็ไม่เคยหายไปจากรอบตัว

 

"นึกว่าหน้าตาสวยแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ?"

"คิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูรึไง?"

 

ถ้อยคำเสียดแทงเหล่านั้น

เริ่มจากเสียงกระซิบ​ แปรเปลี่ยนเป็นการผลักไส 

และในที่สุด...กลายเป็นการกลั่นแกล้งอย่างเปิดเผย

 

ยุ้ย​ พนักงานรุ่นพี่ที่ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ลับหลังเต็มไปด้วยพิษร้าย

คือคนที่ก่อเรื่องทั้งหมด

เธอไม่ชอบลาริสา ไม่ชอบตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น

ทั้งที่ลาริสาไม่เคยทำอะไรให้เธอโกรธเคือง

แต่เพียงเพราะความสวย แววตาที่ใสซื่อน่าสงสารของลาริสา 

เพียงแค่นั้น​ ก็พอที่จะทำให้ความริษยาในใจของใครบางคนปะทุขึ้น

และคืนนี้...

เธอก็ตัดสินใจจะ ‘สั่งสอน’ ให้ลาริสาจดจำไปจนตาย

 

ขณะที่ลาริสากำลังเก็บขวดเครื่องดื่มในห้องเก็บของลับตาคน 

ยุ้ยก็แอบตามเข้ามา

เสียงหัวเราะแหลมคมดังสะท้อนผนังเย็นเฉียบ

 

"ฉันล่ะเกลียดจริง ๆ​ คนตอแหลแบบแก"

"เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเสแสร้ง! "

"ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าที่นี่มันไม่มีที่สำหรับคนอย่างแก?"

 

คำพูดแหลมบาดหู

ก่อนที่ถาดเหล็กจะถูกฟาดใส่กลางแผ่นหลังเธอเต็มแรงจนเซถลา

ร่างบางของลาริสากระแทกเข้ากับชั้นเหล็กที่เรียงขวดเครื่องดื่มอยู่

เสียงขวดแก้วแตกกระจาย

เศษแก้วพุ่งใส่ผิวเนื้อจนบาดเป็นทางยาว

ความเจ็บปวดแล่นปราดจนหายใจไม่ออก

เลือดไหลซึมตามรอยแผลที่แขนและต้นขา

ลาริสาพยายามยันตัวขึ้น

แต่มือเปื้อนเลือดทำให้เธอลื่นไถลกลับลงไปอีกครั้ง

เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังลั่นในห้องเก็บของปิดตาย

 

"อยากกลับไปบ้านมากใช่มั้ยล่ะ?"

"ก็ลองดูสิ...ลองเดินออกไปจากที่นี่ แล้วจะได้รู้ว่าข้างนอกน่ะ นรกจริง ๆ เป็นยังไง!"

 

น้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตาของลาริสา

แต่เธอกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้พวกนั้นได้เห็นแม้แต่น้ำตาเม็ดเดียว

 

และในจังหวะที่ยุ้ยกำลังจะก้าวเข้ามากระชากผมเธอซ้ำ 

เสียงหนัก ๆ ของรองเท้าคู่หนึ่งก็ดังขึ้นจากปลายทางเดิน

ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตดำปรากฏขึ้นกลางความเงียบที่ตึงเครียด

อคินที่สั่งให้คนจับตาดูความปลอดภัยของลาริสาเป็นพิเศษ เขารีบลงมาทันทีเมื่อได้รับรายงาน

ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองสภาพตรงหน้า

ในวินาทีที่เห็นเลือดไหลอาบแขนของลาริสา

อุณหภูมิในห้องเหมือนลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง

พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำแข็งกรีดกระดูก

"กลับไปเก็บของ แล้วออกไปจากที่นี่"

 

ยุ้ยหน้าถอดสีทันที

"บอสคะ...ฉันแค่หยอกเธอเล่น—"

 

"ห้านาที"

เสียงของอคินขาดห้วนจนไม่มีที่ให้ต่อรอง

"หรือจะให้การ์ดหิ้วแกออกไป?"

 

ยุ้ยกัดฟัน น้ำตาคลอด้วยความอับอายและโกรธแค้น

แต่ไม่กล้าเอ่ยคำใด นอกจากรีบวิ่งออกจากห้องไปทันที

 

อคินก้าวเข้ามาเงียบ ๆ

สั่งให้คนเอากล่องพยาบาลมาให้เธอ ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ

"รักษาแผลให้ดี"

"และอย่าทำให้ฉันต้องเห็นเธอเลือดตกยางออกแบบนี้อีก"

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 7 การท้าทายที่อันตราย

    ลาริสาก้มหน้าถือกล่องปฐมพยาบาลแน่นในมือฝ่ามือที่บาดเจ็บแสบระคนกับอาการปวดที่ยังแล่นขึ้นตามข้อศอกทุกครั้งที่ขยับเธอเดินอย่างระมัดระวังไปตามทางเดินแคบ ๆหลบสายตาอยากรู้อยากเห็นที่ไหลวนรอบตัวเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่ถูกโยนเข้าไปในป่าใหญ่ที่ไม่ปรานีระหว่างทาง เธอเกือบสะดุดอีกครั้งเพราะขาสั่นจากความเจ็บแต่แล้ว...มีมือหนึ่งเอื้อมมาคว้าแขนเธอไว้เบา ๆ"เดี๋ยวฉันช่วย" เสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นข้างหูส้ม​ พี่สาวร่างเล็กในชุดเสื้อโปโลสีเข้ม ที่ลาริสาได้พบในวันแรกที่เธอถูกส่งตัวเข้ามาอยู่ที่นี่ส้มเคยเป็นคนแรกที่ยื่นน้ำให้เธอในคืนที่ร้องไห้ไม่หยุดเคยเป็นคนที่นั่งเงียบ ๆ ข้าง ๆ ตอนที่เธอรู้สึกว่าทั้งโลกนี้ไม่เหลือใครลาริสาเม้มปากแน่น แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้ส้มช่วยพยุงตัวไปนั่งที่ม้านั่งยาวด้านหลังส้มไม่ถามอะไรเพิ่มเติมเพียงแค่ดึงกล่องออกจากมือเธออย่างเบามือ แล้วเริ่มทำแผลให้อย่างเงียบ ๆปลายนิ้วที่พันผ้าพันแผลแน่นแต่ไม่เจ็บสัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อในสถานที่แห้งแล้งเช่นนี้"พักก่อนเถอะนะ..." ส้มกระซิบเสียงเบา ขณะพันแผลเสร็จ"เดี๋ยวฉันจะไปบอกหัวหน้าว่าเธอทำงานไม่ไหว ขอพักคืนนี้"ลาริสาเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 8 งานของผมอันตรายกว่าที่คุณคิด

    ในเสี้ยววินาทีคีรณัฐคว้าเอวเธอกดลงกับเบาะโซฟา"งั้นผมจะช่วยสอนให้เอง..."เสียงของเขาแหบพร่า ขณะที่ก้มลงแนบชิดจนลมหายใจสอดประสานกันริมฝีปากหยักกดลงมาปิดกั้นรอยยิ้มเย้า ๆ นั้นอย่างไร้ความปรานีลิ้นร้อนลากซอกไซ้ไปตามลำคอขาวเนียนอย่างเผ็ดร้อนพราวฟ้าสะดุ้ง ร่างบางบิดเร้าใต้ร่างเขา แต่ถูกมือหนากดตรึงไว้แน่น"อยากใช้ร่างกายล่ะก็..."เสียงเขาครางต่ำข้างหูเธอ"ใช้กับผมนี่แหละ — ให้พอจนไม่กล้าเอาไปแลกกับใครอีก""ฉันพูดเล่นน่า..."เสียงพราวฟ้าอ้อนเบา ๆ ขณะมือเล็กดันอกเขาไว้สายตากลมโตสั่นระริกเล็กน้อย ทั้งจากความตกใจและความเร้าใจที่ไหลผ่านร่างแต่คีรณัฐไม่ขยับออกกลับยิ่งโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิมลมหายใจร้อน ๆ สัมผัสผิวแก้มเธออย่างจงใจ"เล่นไม่รู้เรื่องเลยนะ...ฟ้า" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบใกล้ใบหูพราวฟ้ากำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างแต่ริมฝีปากหยักร้อนผ่าวก็ปิดริมฝีปากบางของเธอเสียก่อนจูบรุนแรงและเร่าร้อนไร้ซึ่งความอ่อนโยนราวกับตั้งใจจะลงโทษที่เธอกล้ากลั่นแกล้งความอดทนของเขามือหนาลูบไล้ตามสันหลังเธอผ่านเนื้อผ้าบางเบาลมหายใจของพราวฟ้าขาดห้วงทีละน้อย"คีร์..."เธอครางแผ่วในลำคอ พยายามดันเขาออกอย่างไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 9 ผู้หญิงคนนั้นชอบของแรง

    เขาไม่ตอบ แต่เพียงยิ้มมุมปากบาง ๆเพราะเธอยังไม่รู้...ว่างานของเขา ไม่ใช่แค่พนักงานบริษัทธรรมดาแต่เป็นหน่วยพิเศษที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องสกปรกในเงามืดของประเทศนี้เขาเลือกที่จะเงียบ และเก็บเธอไว้ในโลกที่ปลอดภัยคีรณัฐเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนที่หัวใจเธอจะหนักไปกว่านี้"อีกสองสามวัน ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน"เสียงเขานุ่มทุ้ม ขณะที่ลูบหลังเธอเบา ๆ"คงไม่ได้มาหาบ่อย ๆ"พราวฟ้าสูดลมหายใจลึก ๆก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ"ดีเลย..."เธอยิ้มบาง"อาทิตย์หน้าฉันก็เปิดกล้องละครเรื่องใหม่แล้วเหมือนกัน"เธอซุกหน้าแนบอกเขาอีกครั้ง"ต่อไปคงต้องคิดถึงกันมากขึ้นสินะ"คีรณัฐไม่ตอบเพียงกอดร่างของเธอในอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกนิดเหมือนต้องการสลักเธอเอาไว้ในอก...ไม่ให้ห่างไปไหนในห้องเงียบ ๆ มีเพียงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นประสานกันอย่างที่ไม่มีคำพูดใดจำเป็นอีกต่อไปรุ่งเช้า ห้องนอนในคอนโดที่อบอวลด้วยไออุ่นคีรณัฐนั่งพิงหัวเตียง มองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ข้างกายด้วยสายตานุ่มลึกพราวฟ้าซุกกายหลับสนิท รอยยิ้มบางยังแตะที่มุมปากราวกับกำลังฝันดีเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ปรกแก้มเธอเบา ๆในดวงตาคมลึกซึ้งมีบางอย่างที่เขา

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 10 คำสั่งที่ไม่มีใครขัดได้

    ลาริสาเดินผ่านโถงทางเดินมืดมาที่ด้านหลังเพื่อล้างแก้ว เสียงส้นรองเท้าหนัก ๆ ก้องกังวานตามหลังเธอมาในทางเดินแคบ สะท้อนคล้ายกับเสียงหัวใจของลาริสาที่เต้นโครมครามอยู่ในอก เธอหันขวับไปตามสัญชาตญาณ... ตึง! ร่างสูงใหญ่ของการ์ดหนุ่มกระชากเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว มือสากกดปิดปากเธอแน่น ลมหายใจเขาร้อนฉ่า เป่ารดข้างแก้มอย่างจาบจ้วง "เงียบซะ..." เสียงกระซิบทุ้มต่ำเฉียดใบหูของเธอ "คืนนี้ฉันจะทำให้เธอร้องไม่หยุด..." ลาริสาตัวแข็งทื่อ แต่ผิวเนื้อกลับร้อนวาบจนขนลุกเกรียว แรงจากแขนแข็งแรงลากเธอเข้าไปในห้องเก็บของเล็ก ๆ เขาปิดประตูทันที เสียง "ปัง!" ของประตูดังกึกก้องในความเงียบ ภายในห้องเก็บของ เธอถูกผลักกระแทกกับผนังปูนแข็ง ร่างของหญิงสาวสั่นเทิ้ม อากาศในอกพร่องหายจนแทบหายใจไม่ออก มือหยาบกร้านลากช้า ๆ ไล่ตั้งแต่ลำคอ...ลงไปถึงต้นแขน ผิวเธอสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เสียงหอบกระเส่าของเขาแตะอยู่ที่ข้างใบหู ทำให้สติของเธอแทบพร่าเบลอ "อย่าเล่นตัวเลยน่า..." เสียงแหบพร่าเหมือนสัตว์นักล่าไล่ต้อนเหยื่ออ่อนแอ นิ้วแข็งแรงบังคับไล้ลงมาที่เอว... กดบังคับให้แผ่นหลังของเธอแนบแน่นกับแผ่นอกแข็

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 11 เครื่องมือเรียกร้องความสนใจ

    ลาริสาเปิดประตูเดินเข้าไปเสียงบานประตูไม้ปิดลงช้า ๆ ด้านหลังลาริสาเงยหน้าขึ้นมองความมืดสลัวตรงหน้าเพียงแสงไฟเพดานดวงเล็กที่เปิดสลัวไว้ ทำให้เห็นเพียงเงาราง ๆ ของชายคนหนึ่งที่นั่งทอดกายอยู่กลางห้องเขานั่งเอนหลังบนโซฟาหนังสีเข้มแสงบางเฉียบจากโคมไฟสาดเฉียงผ่านใบหน้าข้างหนึ่ง...เผยให้เห็นเสี้ยวหน้าคมเข้มที่นิ่งงันจนดูน่ากลัวหญิงสาวก้าวขาอย่างลังเลหัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัวว่าจะได้ยินออกไปนอกอกเธอไม่รู้ว่าใครรอเธออยู่ข้างหน้าแต่สัญชาตญาณบอกได้เพียงอย่างเดียว...คน ๆ นั้นกำลัง "รอเธออยู่"ลาริสากลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ก้าวเข้าไปใกล้ทีละก้าว ทีละก้าวและทันทีที่เธอเดินเข้ามาถึงระยะเพียงเอื้อม...แขนแกร่งที่เธอไม่ทันมองเห็นก็คว้าข้อมือเล็กของเธออย่างรวดเร็ว แล้วดึงร่างเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างไร้ความลังเล"อ๊ะ!"เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปาก ก่อนที่สติจะตามทันกลิ่นกายชายคุ้นเคยแผ่กระจายร้อนระอุไปทั่วผิวเธอสายตาเธอเบิกกว้าง มองสบกับดวงตาสีฟ้าราวน้ำแข็งคู่นั้นภานุวัฒน์ อนันตรเวศน์เขากลับมาแล้ว...โดยไม่มีใครเตือนเธอเลยสักนิดแววตาของเขามืดดำจนเหมือนเหวลึก ไม่มีแสง ไม่มีความหวัง มีเพีย

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 12 ฉันไม่ชอบบังคับใคร

    “อ๊ะ…!”เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปากเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสื้อเชิ้ตตัวบางบนร่างเธอก็ถูกกระชากจนขาดวิ่นดัง แคว่ก!เศษผ้าหลุดรุ่ย เผยผิวขาวซีดที่สั่นระริกใต้สายตาแข็งกร้าวของเขาริมฝีปากของภานุวัฒน์กดลงมาอย่างรุนแรงบดขยี้ทุกสัมผัสด้วยความโกรธที่สุมอยู่เต็มอกจูบของเขา...ไม่ใช่จูบที่อ่อนโยน ไม่ใช่ความโหยหามันคือการลงทัณฑ์ การลงโทษที่บาดลึกยิ่งกว่ามีด"ฮึก...อย่า...ขอร้องล่ะ..."เสียงอ้อนวอนของลาริสาสั่นพร่า น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งรินลงไม่หยุดเธอพยายามดิ้นหนี บิดกายขัดขืนสุดแรงเกิดแต่ยิ่งเธอดิ้น ภานุวัฒน์ยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้นเขากดตัวเธอแนบแน่นกับโซฟาใช้ริมฝีปากขบเม้มลงที่ซอกคอขาวจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำแรงกัดนั้น...ไม่ได้มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความเมตตาเสียงสะอื้นของเธอดังสะท้อนในห้องแต่สำหรับเขาในตอนนี้...มันเหมือนเชื้อเพลิงที่ยิ่งสุมไฟแค้นในอกให้ลุกโชน"แกล้งทำเป็นใสซื่อเก่งนัก..."เสียงเขากระซิบชิดใบหูเธอเสียงต่ำลึกจนแทบเป็นเสียงคำราม"ถ้างั้น...ฉันจะดูให้เห็นกับตา ว่าเธอไร้เดียงสาจริง...หรือมันก็แค่เปลือกนอกหลอกลวง"คำพูดนั้นบาดลึกเหมือนมีดกรีดใจริมฝีปากร้อนชื้นของเขาเลื่

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 1 กับดักแห่งความหวัง

    กลิ่นน้ำมันเครื่อง และเบาะหนังที่ชื้นด้วยเหงื่อซึมทะลุขึ้นจมูกทันทีที่ลาริสารู้สึกตัวมือของเธอถูกมัดไว้แน่น ร่างถูกโยนไว้กับพื้นรถตู้ด้านหลังที่ปิดทึบ แสงเพียงเสี้ยวจากไฟท้ายสะท้อนผ่านรอยแตกของฝาปิดเก็บของเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม แต่เสียงที่ทำให้เธอเย็นเยียบยิ่งกว่า คือเสียงบทสนทนาของชายสองคนด้านหน้า“แน่ใจนะว่าเป็นลูกของท่านรัฐมนตรีจริง ๆ?”“เออสิวะ กูเห็นกับตา ไม่ใช่เด็กธรรมดาแน่ๆ คนอย่างเธอ ส่งให้ฝั่งโน้นเขาจะจ่ายหนักกว่าเดิมแน่นอน”“ชายแดนเพื่อนบ้านใช่ไหม…ซ่องนั่นที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปตรวจน่ะ?”“ก็ที่นั่นแหละ จะได้จบ ๆ ไป ใครจะไปรู้ว่าลูกสาวรัฐมนตรีมานั่งรับแขกอยู่ตรงนั้น”เสียงหัวเราะหยันดังตามมา ราวกับคำพูดนั้นเป็นแค่เรื่องตลกไร้ค่าของโลกใต้ดินเลือดในกายลาริสาเย็นเฉียบเธอแทบไม่รู้ว่าลมหายใจหลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่คำว่า “ขายตัว” “รับแขก” “ชายแดน”แต่ละคำเหมือนมีดที่สลักลงกลางใจเธอหวาดกลัว ร่างกายสั่นราวกับไข้ขึ้นน้ำตาที่หลั่งลงมานั้น…ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เป็นความกลัวแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกลัวว่าจะไม่มีใครตามหาเธอเจอกลัวว่าจะไม่มีวันกลับไปได้อีก...ภายในห้องแต่งตัว คลั

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 2 รับแขกไม่ซ้ำหน้า

    เสียงหัวเราะต่ำของชายตรงหน้าดังขึ้นมือหนาขยับต่ำลงเรื่อย ๆ พร้อมแรงกดที่ทำให้เธอแทบขาดใจ“ไม่! ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณ!”เธอรวบแรงทั้งหมดคว้าขวดวิสกี้บนโต๊ะฟาดลงบนพื้นเสียงแก้วแตกกระจายข้างตัว เสี้ยววินาทีที่เขาชะงักเธอสะบัดตัวสุดแรง ผลักร่างใหญ่ของเขาออกกระชากชายกระโปรงแล้ววิ่งออกจากห้อง โดยไม่หันหลังกลับห้องทั้งห้องเหมือนแคบลงจนหายใจไม่ออกเสียงฝีเท้าดังสะท้อนในทางเดินมืดชื้นเหงื่อหัวใจของเธอเต้นรัวเหมือนกลองรบ แต่เธอไม่รู้ว่ากำลังวิ่งหนีอะไร หรือกำลังวิ่งเข้าสู่อะไร…ที่เลวร้ายกว่าเดิมโถงทางเดินมืดสลัว กลายเป็นเขาวงกตไร้ทางออกเสียงฝีเท้าของลาริสาดังก้องสะท้อนตามผนังหินเย็นเฉียบ กลิ่นอับชื้นของสถานที่ที่ไม่มีหน้าต่างเหมือนยิ่งบีบคั้นหัวใจให้แน่นขึ้นทุกวินาทีเธอไม่รู้ว่ากำลังหนีไปไหน…ไม่รู้ว่าเสียงฝีเท้าที่ได้ยินตามหลัง เป็นเสียงจริง หรือเป็นเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นจนแสบหูเธอเลี้ยวพรวดไปตามความรู้สึกจนกระทั่งโครม!ร่างของเธอชนเข้ากับบางอย่างแน่น หนัก และมั่นคงจนเธอสะบัดถอยหลังแทบไม่ทันแขนแกร่งคว้าเธอไว้ก่อนจะล้มกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ และไออุ่นของผิวเนื้อชาย…ห้อมล้อมเธอในช

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02

Bab terbaru

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 12 ฉันไม่ชอบบังคับใคร

    “อ๊ะ…!”เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปากเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสื้อเชิ้ตตัวบางบนร่างเธอก็ถูกกระชากจนขาดวิ่นดัง แคว่ก!เศษผ้าหลุดรุ่ย เผยผิวขาวซีดที่สั่นระริกใต้สายตาแข็งกร้าวของเขาริมฝีปากของภานุวัฒน์กดลงมาอย่างรุนแรงบดขยี้ทุกสัมผัสด้วยความโกรธที่สุมอยู่เต็มอกจูบของเขา...ไม่ใช่จูบที่อ่อนโยน ไม่ใช่ความโหยหามันคือการลงทัณฑ์ การลงโทษที่บาดลึกยิ่งกว่ามีด"ฮึก...อย่า...ขอร้องล่ะ..."เสียงอ้อนวอนของลาริสาสั่นพร่า น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งรินลงไม่หยุดเธอพยายามดิ้นหนี บิดกายขัดขืนสุดแรงเกิดแต่ยิ่งเธอดิ้น ภานุวัฒน์ยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้นเขากดตัวเธอแนบแน่นกับโซฟาใช้ริมฝีปากขบเม้มลงที่ซอกคอขาวจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำแรงกัดนั้น...ไม่ได้มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความเมตตาเสียงสะอื้นของเธอดังสะท้อนในห้องแต่สำหรับเขาในตอนนี้...มันเหมือนเชื้อเพลิงที่ยิ่งสุมไฟแค้นในอกให้ลุกโชน"แกล้งทำเป็นใสซื่อเก่งนัก..."เสียงเขากระซิบชิดใบหูเธอเสียงต่ำลึกจนแทบเป็นเสียงคำราม"ถ้างั้น...ฉันจะดูให้เห็นกับตา ว่าเธอไร้เดียงสาจริง...หรือมันก็แค่เปลือกนอกหลอกลวง"คำพูดนั้นบาดลึกเหมือนมีดกรีดใจริมฝีปากร้อนชื้นของเขาเลื่

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 11 เครื่องมือเรียกร้องความสนใจ

    ลาริสาเปิดประตูเดินเข้าไปเสียงบานประตูไม้ปิดลงช้า ๆ ด้านหลังลาริสาเงยหน้าขึ้นมองความมืดสลัวตรงหน้าเพียงแสงไฟเพดานดวงเล็กที่เปิดสลัวไว้ ทำให้เห็นเพียงเงาราง ๆ ของชายคนหนึ่งที่นั่งทอดกายอยู่กลางห้องเขานั่งเอนหลังบนโซฟาหนังสีเข้มแสงบางเฉียบจากโคมไฟสาดเฉียงผ่านใบหน้าข้างหนึ่ง...เผยให้เห็นเสี้ยวหน้าคมเข้มที่นิ่งงันจนดูน่ากลัวหญิงสาวก้าวขาอย่างลังเลหัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัวว่าจะได้ยินออกไปนอกอกเธอไม่รู้ว่าใครรอเธออยู่ข้างหน้าแต่สัญชาตญาณบอกได้เพียงอย่างเดียว...คน ๆ นั้นกำลัง "รอเธออยู่"ลาริสากลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ก้าวเข้าไปใกล้ทีละก้าว ทีละก้าวและทันทีที่เธอเดินเข้ามาถึงระยะเพียงเอื้อม...แขนแกร่งที่เธอไม่ทันมองเห็นก็คว้าข้อมือเล็กของเธออย่างรวดเร็ว แล้วดึงร่างเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างไร้ความลังเล"อ๊ะ!"เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปาก ก่อนที่สติจะตามทันกลิ่นกายชายคุ้นเคยแผ่กระจายร้อนระอุไปทั่วผิวเธอสายตาเธอเบิกกว้าง มองสบกับดวงตาสีฟ้าราวน้ำแข็งคู่นั้นภานุวัฒน์ อนันตรเวศน์เขากลับมาแล้ว...โดยไม่มีใครเตือนเธอเลยสักนิดแววตาของเขามืดดำจนเหมือนเหวลึก ไม่มีแสง ไม่มีความหวัง มีเพีย

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 10 คำสั่งที่ไม่มีใครขัดได้

    ลาริสาเดินผ่านโถงทางเดินมืดมาที่ด้านหลังเพื่อล้างแก้ว เสียงส้นรองเท้าหนัก ๆ ก้องกังวานตามหลังเธอมาในทางเดินแคบ สะท้อนคล้ายกับเสียงหัวใจของลาริสาที่เต้นโครมครามอยู่ในอก เธอหันขวับไปตามสัญชาตญาณ... ตึง! ร่างสูงใหญ่ของการ์ดหนุ่มกระชากเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว มือสากกดปิดปากเธอแน่น ลมหายใจเขาร้อนฉ่า เป่ารดข้างแก้มอย่างจาบจ้วง "เงียบซะ..." เสียงกระซิบทุ้มต่ำเฉียดใบหูของเธอ "คืนนี้ฉันจะทำให้เธอร้องไม่หยุด..." ลาริสาตัวแข็งทื่อ แต่ผิวเนื้อกลับร้อนวาบจนขนลุกเกรียว แรงจากแขนแข็งแรงลากเธอเข้าไปในห้องเก็บของเล็ก ๆ เขาปิดประตูทันที เสียง "ปัง!" ของประตูดังกึกก้องในความเงียบ ภายในห้องเก็บของ เธอถูกผลักกระแทกกับผนังปูนแข็ง ร่างของหญิงสาวสั่นเทิ้ม อากาศในอกพร่องหายจนแทบหายใจไม่ออก มือหยาบกร้านลากช้า ๆ ไล่ตั้งแต่ลำคอ...ลงไปถึงต้นแขน ผิวเธอสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เสียงหอบกระเส่าของเขาแตะอยู่ที่ข้างใบหู ทำให้สติของเธอแทบพร่าเบลอ "อย่าเล่นตัวเลยน่า..." เสียงแหบพร่าเหมือนสัตว์นักล่าไล่ต้อนเหยื่ออ่อนแอ นิ้วแข็งแรงบังคับไล้ลงมาที่เอว... กดบังคับให้แผ่นหลังของเธอแนบแน่นกับแผ่นอกแข็

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 9 ผู้หญิงคนนั้นชอบของแรง

    เขาไม่ตอบ แต่เพียงยิ้มมุมปากบาง ๆเพราะเธอยังไม่รู้...ว่างานของเขา ไม่ใช่แค่พนักงานบริษัทธรรมดาแต่เป็นหน่วยพิเศษที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องสกปรกในเงามืดของประเทศนี้เขาเลือกที่จะเงียบ และเก็บเธอไว้ในโลกที่ปลอดภัยคีรณัฐเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนที่หัวใจเธอจะหนักไปกว่านี้"อีกสองสามวัน ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน"เสียงเขานุ่มทุ้ม ขณะที่ลูบหลังเธอเบา ๆ"คงไม่ได้มาหาบ่อย ๆ"พราวฟ้าสูดลมหายใจลึก ๆก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ"ดีเลย..."เธอยิ้มบาง"อาทิตย์หน้าฉันก็เปิดกล้องละครเรื่องใหม่แล้วเหมือนกัน"เธอซุกหน้าแนบอกเขาอีกครั้ง"ต่อไปคงต้องคิดถึงกันมากขึ้นสินะ"คีรณัฐไม่ตอบเพียงกอดร่างของเธอในอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกนิดเหมือนต้องการสลักเธอเอาไว้ในอก...ไม่ให้ห่างไปไหนในห้องเงียบ ๆ มีเพียงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นประสานกันอย่างที่ไม่มีคำพูดใดจำเป็นอีกต่อไปรุ่งเช้า ห้องนอนในคอนโดที่อบอวลด้วยไออุ่นคีรณัฐนั่งพิงหัวเตียง มองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ข้างกายด้วยสายตานุ่มลึกพราวฟ้าซุกกายหลับสนิท รอยยิ้มบางยังแตะที่มุมปากราวกับกำลังฝันดีเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ปรกแก้มเธอเบา ๆในดวงตาคมลึกซึ้งมีบางอย่างที่เขา

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 8 งานของผมอันตรายกว่าที่คุณคิด

    ในเสี้ยววินาทีคีรณัฐคว้าเอวเธอกดลงกับเบาะโซฟา"งั้นผมจะช่วยสอนให้เอง..."เสียงของเขาแหบพร่า ขณะที่ก้มลงแนบชิดจนลมหายใจสอดประสานกันริมฝีปากหยักกดลงมาปิดกั้นรอยยิ้มเย้า ๆ นั้นอย่างไร้ความปรานีลิ้นร้อนลากซอกไซ้ไปตามลำคอขาวเนียนอย่างเผ็ดร้อนพราวฟ้าสะดุ้ง ร่างบางบิดเร้าใต้ร่างเขา แต่ถูกมือหนากดตรึงไว้แน่น"อยากใช้ร่างกายล่ะก็..."เสียงเขาครางต่ำข้างหูเธอ"ใช้กับผมนี่แหละ — ให้พอจนไม่กล้าเอาไปแลกกับใครอีก""ฉันพูดเล่นน่า..."เสียงพราวฟ้าอ้อนเบา ๆ ขณะมือเล็กดันอกเขาไว้สายตากลมโตสั่นระริกเล็กน้อย ทั้งจากความตกใจและความเร้าใจที่ไหลผ่านร่างแต่คีรณัฐไม่ขยับออกกลับยิ่งโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิมลมหายใจร้อน ๆ สัมผัสผิวแก้มเธออย่างจงใจ"เล่นไม่รู้เรื่องเลยนะ...ฟ้า" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบใกล้ใบหูพราวฟ้ากำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างแต่ริมฝีปากหยักร้อนผ่าวก็ปิดริมฝีปากบางของเธอเสียก่อนจูบรุนแรงและเร่าร้อนไร้ซึ่งความอ่อนโยนราวกับตั้งใจจะลงโทษที่เธอกล้ากลั่นแกล้งความอดทนของเขามือหนาลูบไล้ตามสันหลังเธอผ่านเนื้อผ้าบางเบาลมหายใจของพราวฟ้าขาดห้วงทีละน้อย"คีร์..."เธอครางแผ่วในลำคอ พยายามดันเขาออกอย่างไ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 7 การท้าทายที่อันตราย

    ลาริสาก้มหน้าถือกล่องปฐมพยาบาลแน่นในมือฝ่ามือที่บาดเจ็บแสบระคนกับอาการปวดที่ยังแล่นขึ้นตามข้อศอกทุกครั้งที่ขยับเธอเดินอย่างระมัดระวังไปตามทางเดินแคบ ๆหลบสายตาอยากรู้อยากเห็นที่ไหลวนรอบตัวเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่ถูกโยนเข้าไปในป่าใหญ่ที่ไม่ปรานีระหว่างทาง เธอเกือบสะดุดอีกครั้งเพราะขาสั่นจากความเจ็บแต่แล้ว...มีมือหนึ่งเอื้อมมาคว้าแขนเธอไว้เบา ๆ"เดี๋ยวฉันช่วย" เสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นข้างหูส้ม​ พี่สาวร่างเล็กในชุดเสื้อโปโลสีเข้ม ที่ลาริสาได้พบในวันแรกที่เธอถูกส่งตัวเข้ามาอยู่ที่นี่ส้มเคยเป็นคนแรกที่ยื่นน้ำให้เธอในคืนที่ร้องไห้ไม่หยุดเคยเป็นคนที่นั่งเงียบ ๆ ข้าง ๆ ตอนที่เธอรู้สึกว่าทั้งโลกนี้ไม่เหลือใครลาริสาเม้มปากแน่น แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้ส้มช่วยพยุงตัวไปนั่งที่ม้านั่งยาวด้านหลังส้มไม่ถามอะไรเพิ่มเติมเพียงแค่ดึงกล่องออกจากมือเธออย่างเบามือ แล้วเริ่มทำแผลให้อย่างเงียบ ๆปลายนิ้วที่พันผ้าพันแผลแน่นแต่ไม่เจ็บสัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อในสถานที่แห้งแล้งเช่นนี้"พักก่อนเถอะนะ..." ส้มกระซิบเสียงเบา ขณะพันแผลเสร็จ"เดี๋ยวฉันจะไปบอกหัวหน้าว่าเธอทำงานไม่ไหว ขอพักคืนนี้"ลาริสาเ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 6 ให้จดจำไปจนตาย

    ความเงียบปกคลุมทั่วห้องหลังบทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างภานุวัฒน์กับธีภพจบลงท่ามกลางความเงียบ...แต่ไม่ว่างเปล่าในห้วงความเงียบนั้นมีทั้งความเข้าใจ และภาระที่แต่ละคนแบกไว้ในเส้นทางที่ไม่อาจหันหลังคีรณัฐ ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตเรียบเฉียบที่นั่งพิงพนักนิ่ง ๆ กระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เฉือนลึกในทุกถ้อยคำ"ฉันเอง...ก็คงต้องถอนตัวจากฝั่งธุรกิจแล้วเหมือนกัน"เพียงคำพูดเดียวบรรยากาศในห้องพลันตึงขึ้นอย่างยากจะอธิบายธีภพละสายตาจากแฟ้มในมือภานุวัฒน์หยุดมือที่กำลังขยับแฟ้มเอกสารทั้งสองไม่ถามซ้ำ เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจ เบื้องหลังหน้ากากผู้บริหารที่คีรณัฐสวมไว้ตลอดหลายปีคือเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษระดับสูง หนึ่งในผู้กวาดล้างขบวนการสกปรกในโลกมืดทั้งสารเสพติด อาชญากรรม และนักการเมืองที่ย่ำยีผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะ...ท่านรัฐมนตรี วิศรุต เกริกไกร เป้าหมายที่เขาเพ่งเล็งมาเนิ่นนานคีรณัฐหัวเราะเบา ๆ คล้ายไม่ยี่หระ"ถึงเวลาแล้วล่ะ...ต้องกลับไปทำในสิ่งที่ควรทำ"เสียงเขานิ่งและมั่นคงจนรอบห้องเหมือนจะอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆธีภพพยักหน้าเข้าใจไม่พูดมาก เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ไม่ต้องการถ้อยคำฟ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 5 เบื้องหลังความสำเร็จ

    เวลาผ่านไปไม่นาน การ์ดในชุดดำเดินตรงมาหยุดที่หน้ากระจกที่ลาริสามานั่งก้มหน้าเงียบอยู่เขาไม่พูดพร่ำโยนถุงผ้าใบใหญ่ ๆ มาวางบนโต๊ะเครื่องแป้งจนฝุ่นฟุ้งกระจาย"เปลี่ยนชุดซะ" น้ำเสียงสั้น กระด้าง ไร้ความรู้สึกลาริสาเงยหน้าขึ้นอย่างสับสนการ์ดกระแทกคำอธิบายออกมาอย่างเย็นชา"ต่อไปนี้...เธอไม่ต้องเข้าไปในห้อง VIP อีก""ทำงานอยู่โซนข้างนอก เตรียมเครื่องดื่ม เสิร์ฟเหล้า แค่นั้น"พูดจบ เขาก็หมุนตัวจากไปทิ้งไว้เพียงถุงผ้าหนักอึ้ง กับความเงียบที่กดทับตัวเธอลาริสาก้มหน้ามองถุงผ้ามือบางสั่นนิด ๆ ขณะเปิดมันออกชุดใหม่ เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเรียบง่าย กับกางเกงขายาวสีดำไม่มีหน้ากากลูกไม้ ไม่มีเสื้อคอกว้าง ไม่มีกระโปรงสั้นเหนือเข่าเหมือนเมื่อก่อนมันคือชุดของพนักงานโซนด้านนอกจริง ๆ...ชุดที่อย่างน้อย จะไม่ต้องโดนแตะต้องโดยแขกอีกลาริสาเม้มปากแน่น รู้สึกเหมือนหัวใจบีบรัดอย่างแรงในขณะที่เธอยังซึมซับคำสั่งใหม่เสียงกระซิบกระซาบเริ่มดังขึ้นรอบตัว"ฮึ นึกว่าทำผิดแล้วจะโดนเตะออกซะอีก...""เส้นใหญ่นี่หว่า ได้ย้ายมาทำงานสบาย ๆ ข้างนอกแทน""อภิสิทธิ์พิเศษสำหรับคนหน้าตาดีสินะ..."เสียงกระซิบเหยียดหยันแทงทะล

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 4 ลากทุกคนที่เกี่ยวข้องลงนรก

    หลังจากภานุวัฒน์กับพ่อสามารถหนีข้ามแดนไปได้เขาไม่เคยลืมไม่เคยลืมว่ามีใครคนหนึ่ง...ยอมเดินเข้ามาในไฟนรกเพื่อช่วยชีวิตเขาแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้อะไรเลย...และนั่นคือเหตุผลที่หลายปีต่อมาเมื่ออคินตกอยู่ในอันตรายกลางขบวนขนของเถื่อนเมื่อทุกคนทอดทิ้งเขาภานุวัฒน์ ในฐานะเด็กชายที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากอคิน จึงไม่มีวันยอมปล่อยให้ชายคนนี้ตายเหมือนหมาข้างทางเขาฝ่าแนวปืน ฝ่าอำนาจมืดเขาพาอคินกลับมา...แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองก็ตามหลังจากที่ธุรกิจของเขากับพ่อมั่นคงขึ้น เขาก็นำเงินมาลงทุนเปิดสถานที่แห่งนี้และมอบมันให้กับอคิน...อคินหลุบตาลงช้า ๆ เมื่อนึกถึงอดีตเหล่านั้นความขอบคุณ ความซาบซึ้งในใจ...ไม่เคยจางหายไปเลยตลอดชีวิตของเขาเขาเข้าใจดี ว่าหนี้บางหนี้...ไม่ต้องพูดแต่จะผูกมัดไว้จนวันสุดท้ายของลมหายใจและเพราะอย่างนั้น...ไม่ว่าภานุวัฒน์จะทำอะไรไม่ว่ามันจะขัดกับตรรกะ หรือทำให้เขาเดือดร้อนมากแค่ไหนเขาจะไม่มีวันหักหลังภานุวัฒน์อคินยิ้มจาง ๆ หันมามองคนที่เป็นมากกว่าคำว่าเพื่อน"ฉันเข้าใจ..."เสียงเขาแหบพร่า แต่แน่วแน่"เพราะถ้าไม่มีแกวันนั้น ฉันก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เหมือนกัน"ภา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status