ณ. คอนโด “แจนมึงตื่นได้แล้ว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ววะ จะสายแล้วนะมึง” เสียงของยัยมีน เพื่อนรูมเมทของฉัน เรียกฉันตื่นจากภวังค์ที่กำลังเฝ้าพระอินทร์อยู่ ร่างกายของฉันเหยียดตรงบนฟูกนอนหนาอันแสนนุ่มสบาย บิดซ้ายขวา ด้วยความขี้เกียจก่อนเอ่ยไปด้วยความหงุดหงิด“กูไม่มีเรียนเช้า มีเรียนบ่ายสองโมงโน้น” ฉันตอบไปในขณะที่ลูกตายังไม่พร้อมเปิดด้วยซ้ำ“ทำไมมึงไม่บอกกูไว้ก่อนล่ะ คนอุตส่าห์เข้ามาปลุก” มีนทำหน้านิ่วใส่ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตรงเครื่องแป้งปลายเตียงของฉัน ฉันลืมตาตื่นมาก็พบว่ามันนั่งได้น่าเกลียดมาก“นี่ยัยมีน มึงอยู่ในชุดนักศึกษารัดติ้ว กระโปรงก็แทบจะเสมอหู ช่วยนั่งดีๆ หน่อย เห็นหมดแล้ว” ฉันได้แต่เอิอมกับความไม่ระวังตัวของเพื่อนสนิทคนนี้ เอาล่ะฉันจะมาแนะนำก่อน พวกเราสองคนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ม.ต้น จวบจน ม.ปลาย แม้แต่มหาลัย เรายังเลือกเรียนที่เดียวกันอีก เพียงแต่เราไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน ยัยมีนมีความฝันอยากเป็น นักข่าว พิธีกร อะไรทำนองนี้ นางจึงเลือกเรียนนิเทศ ส่วนฉันเรียนวิศวกรรมเครื่องกล เพราะอยากเรียนแค่นั้นแหละ เราสองคนค่อนข้างตัวติดกันไปไหนไปกัน แม้รสนิย
วันนี้ฉันมีเรียนเพียงคาบเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังกลับทันทีไม่ได้ เนื่องจากงานกลุ่มที่ต้องช่วยกันระดมความคิด กว่าจะลงตัวก็ปาไปสองทุ่มกว่าแล้ว พอกำลังจะกลับ เสียงไลน์ก็ดังขึ้นและแน่นอนว่ามันมาจากเพื่อนสนิทฉันเองMeeny : วันนี้ไปลั๊นลากันเพื่อนรักJanny : ไม่ไปMeeny : มึงต้องไปค่ะเพื่อน กูจองโต๊ะแล้วค่ะJanny : เพื่ออะไรMeeny : กูเพิ่งอกหักนะ ก็ต้องยาใจป่ะJanny : ยาใจที่ว่าคือดื่มงั้นเหรอMeeny : ใช่แล้ว โสดแซ่บขนาดนี้ ก็ต้องดื่มต้องเที่ยว ควงผู้สักหน่อยJanny : จะไปกันสองคน?Meeny : มีกุ้กอีกคนJanny : ไม่ได้เจอมันมาสักพักเลย ไปก็ไปMeeny : พูดง่ายแบบนี้ดีมากเพื่อนสาว ไว้เจอกันรีบกลับล่ะ ฉันขับรถมาถึงคอนโด ก็พบว่ายัยมีนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสสั้นเกาะอกสีขาว โชว์เนินนม และเรียวขา แน่นอนว่าต้องเอ็กซ์ ราวกับแม่เสือน้อยสุดยั่วอย่างเคย ผมลอนยาวสลวย พ่วงด้วยเครื่องประดับวิบวับ ส่วนฉันแน่นอนว่ามันตรงกันข้าม จัดเดรสดำยาวถึงเข่าด้านหน้ามิดชิด แต่มีลูกเล่นเว้าหลังจนเกือบสะโพกเผยให้เห็นแผ่นหลังอันขาวเนียน ตัดกับสีผมไวน์แดงสั้นประบ่า สวยเฉี่ยวน่าหลงใหลไม่แพ้กัน
จากนั้นจึงลุกมุ่งไปยังโต๊ะของเหล่ารุ่นพี่หมอปีห้า ที่ยัยมีนบอกไว้ เดินผ่านเบียดเสียดคนมากมาย บางคนก็ดูเหมือนจะรู้จักฉันอยู่บ้างพยายามจะเดินเข้าหา แต่ฉันก็ยกแก้วเป็นการปฏิเสธไปด้วยหน้าตาเรียบเฉยเมื่อแหวกฝูงชนจนมาถึงโต๊ะ ก็เห็นยัยมีนยืนคุยจ้อกับบรรดาหนุ่มๆ อย่างสนุก เอาเถอะปล่อยนางสักวัน อกหักมาก็แทบตาบวมมาหลายวัน ส่วนยัยกุ้กก็นั่งตัวแข็งทื่อราวกับหลักกิโล นางคงทำตัวไม่ถูกสินะ ส่วนบรรดารุ่นพี่ในโต๊ะนั้นมี สามคน อืม...ก็สมควรที่ยัยมีนจะโดนตกง่าย ๆ แต่ละคนดูหล่อ สะอาดเนี้ยบ เข้าท่าอยู่ ยัยมีนคงสนใจรุ่นพี่คนที่ยืนคุยด้วยกันนั่นสินะ อีกคนผมยาวมัดรวบแอบเห็นเหล่ไปมองยัยกุ้กอยู่เหมือนกัน แต่อีกคนนี่สิเอาแต่ควงแก้วเหล้าดื่มเงียบๆเหมือนไม่ได้สนใจวงสนทนาเท่าไหร่ ยอมรับว่าคนนี้ดูหล่อสุดๆ และเป็นจุดสนใจของโต๊ะนี้ เพราะไม่ว่าจะมองไปสาว ๆ โต๊ะไหน ก็ต้องมีเหล่มามองเขาตลอดทั้งนั้น“ยัยมีน กุ้ก” สิ้นเสียงเรียก ยัยมีนหันหลังมากวักมือยกใหญ่ ส่วนกุ้กนั้นก็ฉีกยิ้มราวกับเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เหนื่อยหน่อยนะกุ้ก“โทษที พอดีไปเอาเครื่องดื่มนิดหน่อย” หลังจากกระซิบข้างหูยัยมีนแล้ว ฉันก็นั่งลงโซฟาข้าง ๆ รุ่นพี่
ฉันเองก็ยืดตัวกลับมายังตำแหน่งที่เดิม ราวกับไม่ได้พูดอะไรออกไป หันไปสนใจแก้วเหล้าต่อ เอาจริงฉันยอมรับว่ารุ่นพี่เวลล์หล่อมาก ๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกอย่างว่าจริง ๆ เนื้อแท้ของฉันเป็นคนติดเรื่องอย่างว่าแต่เพราะประสบการ์ณบนเตียงกับแฟนเก่าเมื่อนานมาแล้วมันห่วยแตก แย่สิ้นดี และกลับพบว่าการช่วยตัวเอง รวมไปถึงเซ็กทอยยังทำให้ฉันไปถึงฝั่งฝันกว่าแฟนเก่าซะอีกก็ทำให้ฉันปรับเปลี่ยนวิธีระบายไป แถมผู้ชายที่พยายามจะเข้าหาฉันนั้นก็ไม่ดึงดูดเลยสักนิด แต่กลับคนตรงหน้านี้ ไม่รู้ฉันเป็นอะไรแบบอยากได้ชิบหาย แค่อยากได้เรื่องอย่างว่านะ ไม่ได้ต้องการความรู้สึกผูกพันฉันแฟนแต่อย่างใดเราสองคนยังนิ่งเงียบแบบนั้น ต่างคนต่างอยู่ในภวังค์ของตัวเอง สลับมองกันไปมาอย่างหยั่งเชิง ไม่มีใครเริ่มปริปากพูดจวบจนที่ทั้งสี่คนที่ออกไปเต้นไปสูบบุหรี่กลับมานั่งยังที่เดิมแล้ว“น้องแจนไม่ออกไปเต้นบ้างเหรอครับ ไม่เบื่อเหรอ” พี่แม็กเอ่ยถาม ฉันได้แต่เงยหน้ายิ้มไม่ได้ตอบอะไร และตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่าเครื่องแอลที่ฉันดื่มไปเริ่มออกฤทธิ์ทำเอาสะลึมสะลืออยู่เหมือนกัน แต่ยังควบคุมสติได้อยู่“พี่แม็กคะ ยัยแจนไม่ใช่สายเต้น สายสูบ
EP.5“ให้ตายเถอะ ตื่นเต้นชะมัด” ฉันเข้าห้องน้ำจากนั้นออกมายืนส่องกระจกมองหน้าของตัวเอง ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงเร็วทะลุนรกสัสๆ ไม่ใช่เพราะฉันประหม่าอะไรหรอก แต่มันเป็นความรู้สึกหิวกระหาย ผู้ชายคนนี้แรงดึงดูดให้เข้าหามากมายจริงๆ สมแล้วที่เพียงเขาเดินมาตามทางผู้หญิงในคลับก็จ้องตาเป็นมัน แต่ขอโทษนะที่ฉันขอคว้าโอกาสนี้ตัดหน้าพวกหล่อนไปก่อนโดยปกติฉันเป็นคนนิ่งพูดน้อย แต่พอเป็นเรื่องอย่างว่าภายในร่างกายมันก็ซู่ซ่าไปหมด ก็นะคนเราย่อมมีเรื่องดำมืดภายในตัว แต่อย่างน้อยสิ่งที่ฉันชอบจะไม่ทำผิดศีลธรรมเด็ดขาด นั้นคือคำปฏิญาณของฉันฉันคว้ากระเป๋าเดินออกมาจากห้องน้ำหยุดมองไปยังรุ่นพี่เวลล์ที่ยืนอยู่มุมอับอันมืดสลัว ก่อนจะยักคิ้ว และเดินนำไปก่อน เพราะคลับแห่งนี้ฉันมาบ่อยมาก บางครั้งหากเมาหนักๆ ฉันก็มักจะเปิดห้องนอนที่นี่เลย เพียงแค่ไลน์หาพี่พลเจ้าของคลับ พนักงานด้านบนก็สามารถจัดหาห้องว่างให้ทันที และแน่นอนครั้งนี้ฉันก็ไลน์ด่วนจองแล้วเหมือนกันเมื่อฉันเอื้อมมือเปิดประตูห้อง ก็หันมองรุ่นพี่เวลล์ที่มีท่าทีสงสัยเขาหยุดตรงหน้าประตูมองฉันอย่างมีคำถามมากมาย แต่สุ
ฉันกำลังบรรเลงเพลงรักเร่าร้อนบนเตียงกับรุ่นพี่เวลล์อยู่ ตอนนี้ใบหน้าเขาฝังหมกหมุ่นอยู่กับระหว่างขาฉัน ให้ตายเถอะเสียวจนใจจะขาด เขาใช้ลิ้นได้เก่งมาก ทำเอาฉันแทบขึ้นสวรรค์อยู่รำไร คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่หน้าด้านอ่อยกับเขาตรงๆ“พี่เวลล์ ขอเร็วอีกนิดค่ะ ซี๊ดดดด มะ ไม่ไหวแล้ว” เขาตอบสนองฉันเร็วมาก ลิ้นเขารัวแรงเร็วกว่าเดิมเยอะ ก่อนที่ฉันจะเสร็จสม ฉันก็ใช้แรงที่มีกดหัวเขาแรงขึ้น เด้งสะโพกเข้าหาด้วยความดิบเถื่อนก่อนที่น้ำรักของฉันจะพรั่งพรูออกมาเปื้อนแฉะไปหมด“พี่เวลล์....อ่า” ฉันคลายมือออก ค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมองเขาใบหน้าอันหล่อเหลานั้นยิ้มกรุ่นมองฉันราวกับถือชัย หึ...ยอมรับว่าฉันโดนเขาน็อคไปหนึ่งยก เสร็จสุขสมใจล่ะ แต่เอาเถอะฉันจะไม่ยอมให้เขาอยู่เหนือกว่าฉันหรอก ฉันจะทำให้ใบหน้ายิ้มกรุ่นของเขานั้นกลายเป็นเหยเกให้ได้เลยฉันเข้าไปคล้องคอเขาอีกครั้งยื่นหน้าประกบจูบอย่างตั้งใจ คราวนี้เป็นฉันที่เป็นฝ่ายผลักเขานอนราบลงบ้าง มือทั้งสองข้างของเราประสานกันมองตากันด้วยความโหยหา“พี่เวลล์ ขอฉันสำรวจร่างกายพี่บ้างนะคะ” สิ้นคำเขาจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแสดงให้เห็นถึงหุ่นพระเจ้าปั
โอ๊ยเมื่อยตัวไปหมด เมื่อคืนฉันกับพี่เวลล์จัดหนักกันยกใหญ่จนตีสี่ กว่าฉันจะตื่นนอนก็ปาไปเกือบเที่ยง ดีนะว่าวันนี้มีเรียนบ่ายสองโมง ส่วนเขายังอยู่และดูเหมือนจะตื่นก่อนฉันเสียอีก ซึ่งเขากำลังเล่นมือถือ อยู่เงียบ ๆ ข้างฉันเราสองคนต่างมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย เหมือนเรากลับมาเป็นอีกตัวตนหนึ่งที่เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย ที่พูดมากตอนกลางคืนนั้นก็คงเป็นฤทธิ์แอลที่ถาโถมซัดดื่มอย่างกับน้ำเปล่านั่นแหละฉันละจากหน้าเขาหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงพันรอบตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำแต่ทันทีที่ลุก กลับโดนคนข้างๆ ดึงแขนให้กลับไปในอ้อมแขนของเขาก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากจูบเฉยเลย ก็จูบตอบเขาแหละเอากันทั้งทีก็เอาให้คุ้ม เพราะคงไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว แต่เพราะมีเรียนบ่ายสอง ถ้าขืนมัวต่อมีหวังติดลมดังนั้นจึงกลั้นใจผลักเขาออกไป“ขอตัว พอดีมีเรียนต่อค่ะ” ฉันหยักคิ้วก่อนจะลุกไปอาบน้ำชำระร่างกายทันที เพราะตอนนี้เหนียวตัวจากเหงื่อสุดๆ พออาบน้ำเสร็จก็พบว่าเขาแต่งตัวเรียบร้อยไปก่อนแล้ว“พี่ไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ”“ไม่ครับ จะกลับไปอาบที่ ร
EP.8การทำธุระให้พ่อครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความราบรื่น เจอลูกค้าดีอย่างคุณเจมส์ไม่ต้องให้ถึงมือฉันเตะต่อยฉันก็โล่งใจ นึกว่าวันนี้จะได้ปะทะซะแล้วฉันขับรถออกจากโกดังสินค้า มุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดของตัวเอง แต่แล้วก็เจอรถคันหรูจอดข้างทางคันหนึ่ง มีผู้หญิงแต่งตัวด้วยเดรสสีชมพูโบกไม้โบกมือยกใหญ่ด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ไม่ช่วยไม่ได้หรอก แถวนี้ค่อนข้างเปลี่ยวแสงไฟตามไรทางไม่ได้สว่างมากนัก หากขับผ่านไปฉันคงรู้สึกแย่แน่ ๆ เลยตัดสินใจจอดเทียบรถคันดังกล่าว ก่อนจะลดกระจกรถเอ่ยถามหญิงสาวคนนั้นทันที แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามเธอก็แทรกเสียงเอ่ยขึ้นมาก่อน“ระ.. รุ่นพี่แจนใช่ไหมคะ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”“ฮืม...”“หนูชื่อวีค่ะ ปีสองนิเทศ เรียนคณะเดียวกับพี่มีนค่ะ”“อ่อ แล้วรู้จักฉันเหรอ”“ค่ะ ต้องรู้จักแน่นอนสิคะ พี่ดังจะตาย”“เหอะๆ ชื่อเสียงไร้สาระนั่นนะเหรอ อย่าไปใส่ใจ ว่าแต่ทำไมมาจอดรถอยู่ตรงนี้ รถเสียเหรอ”“ค่ะ วีกำลังจะกลับบ้าน ต้องผ่านทางนี้ตลอด แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรยางรถรั่วค่ะ ขับไม่ได้เลย”“แจ้งช่างรึยัง”“แจ้งแล้วค่ะ แต่เพราะตรงนี้ห่างไกล ช่างแจ้งกับวีว่าจจะมาช้าน่ะค่ะ”“งั้นพี่ไปส่งใ
EP.54 ณ.คอนโด“พี่ทิมคะ นี่คือเครื่องดักเสียงที่แจนติดไว้ในชุดชั้นในตลอดตั้งแต่นอนโรงพยาบาลจนถึงเมื่อครู่มันจะช่วยเราจัดการได้ง่ายขึ้นค่ะ” ฉันส่งเครื่องดักเสียงที่แอบเอาติดตัวไว้ตลอดและมันบันทึกการสนทนาทุกอย่างแจ่มแจ้งให้พี่ทิม“คุณหนูทำไม่ส่งให้เอ่อ... คนนั้นได้ฟังล่ะครับเผื่อเขาเข้าใจในสิ่งที่เราทำ”“ไม่จำเป็นแล้วค่ะ ถึงยังไงเขาก็เกลียดมาเฟีย มาเฟียอย่างเราจะหาเหตุผลมาแก้ต่างยังไงได้ ช่างมันเถอะค่ะ เราอย่าพูดเขากันเลย”“งั้นคุณหนูพักผ่อนเถอะครับ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ผมจะจัดการให้เอง รวมถึงตามเก็บสายลับที่เหลือทั้งหมดนั่นให้ครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ”“ขอบคุณพี่มากค่ะ ส่วนเรื่องนี้ ช่วยเก็บเป็นความลับอย่าให้ป๊ารู้นะคะ”“คุณหนูครับแต่เรื่องนี้คงปิดคุณท่านไม่ได้แล้วล่ะครับ”“นั่นสินะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไว้แจนคุยต่อหน้าป๊าเอง”พี่ทิมมาส่งฉัน ก่อนจะขับรถออกไปจัดการที่โกดังต่อ ฉันเดินด้วยจิตใจที่ล่องลอยอยู่ไม่เป็นสุด ทุกย่างก้าวรู้สึกหนัก ก้าวเดินอย่างยากลำบาก พอ ๆ กับหัวใจที่บอบช้ำฉันขึ้นลิฟท์มาจนถึงห้องของตัวเอง ยืนอยู่หน้าประตูอยู่นานมือยังคงจับลูกบิดไว้ เหม่อลอยคิดไป
EP.53ฉันยืนประจันหน้ากับพี่เวลล์ เขาไม่แม้แต่จะเดินเข้ามาตรงนี้ด้วยซ้ำ สายตาหม่นไร้ซึ่งรอยยิ้มนั่นทำเอาใจฉันแหลกสลาย บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด ไม่มีใครปริปากมันรู้สึกอึดอัดจนขีดสุด‘อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น อย่าจ้องกันด้วยสายตาห่างเหินแบบนี้’ ภายในใจฉันกระวนกระวายอย่างนัก เขาไม่เหมือนเดิม หรือที่เขาเกลียดมาเฟียเข้าไส้จะเรื่องจริง แล้วยังไงในเมื่อความจริงที่ว่าฉันคือมาเฟียมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นฉันเองที่หันหลังให้เขา เพราะไม่อยากสบตาคู่นั้น พลางสูดหายใจเข้าลึกๆ“พี่ทิมคะ พี่ออกไปก่อน” ฉันเอ่ยกับพี่ทิม“แต่คุณหนูครับ..”“พี่ทิม!!!” น้ำเสียงครั้งนี้ฉันจริงจังกว่าครั้งไหน พี่ทิมถอนหายใจก่อนจะตอบด้วยความไม่เต็มใจนัก“ครับ แล้วผู้หญิงคนนี้จะทำยังไงกันต่อครับ” พี่ทิมเอ่ยถาม“เอา...” แต่ไม่ทันที่ฉันจะตอบพี่ทิมไปเสียงของพี่เขาก็แทรกขึ้นมาก่อน“อย่าคิดจะเอาร่างคนเจ็บนั่นไปไหนได้” ฉันค่อย ๆ หันหน้าไปมองเขามองเลิกคิ้วเชิงสงสัย ทีสภาพฉันขนาดนี้เขาไม่มองว่าเป็นคนเจ็บบ้างรึไงกัน“คนเจ็บ...พี่เวลล์เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่ พี่อย่าเข้ามายุ่ง” ฉันพูดไปแบบนั้น อยากผลักเขาให้ออกจากวงจรนี้ ไม่อยาก
EP.52ใบหน้าของเธอที่แทบอยากจะเอามีดในมือนั่นเฉือนฉันเป็นชิ้นๆ แววตาดุร้าย ไร้ซึ่งความปราณีจ้องเขม็งมายังฉันแบบไม่ละสายตา เธอก้าวขามาข้างหน้าฉันช้า ๆ ก้มมองฉันที่นั่งบนเก้าอี้อยู่ด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะยกเท้าเหยียบบนต้นขาฉันลงแรงกดอย่างหนักก่อนจะพล่ามออกมาไม่รู้จบ“มึงรู้ตัวบ้างไหม ว่ามึงฆ่าน้องกู”“เหอะ..กูฆ่าใครไปบ้าง กูไม่เคยจำ” ฉันเอ่ยออกมาพลางมองหน้ามันด้วยใบหน้ากึ่งยิ้ม จนผู้หญิงนั่นแสดงแววตาก้าวร้าวใส่พร้อมกับลงส้นเท้าบนหน้าขาฉันอย่างแรง“มึง...มึงมันเลว กูจะฆ่ามึง ฆ่าทั้งตระกูลมึง” พูดจบ แทนที่ฉันจะโกรธฉันกลับหัวเราะลั่น“ฮ่า.....นี่ มึงมีสิทธิ์มาว่ากูเลวงั้นเหรอ ก่อนจะพูดได้ส่องกระจกมองดูตัวมึงเองบ้างปะ”“....”“คนที่กูจะสั่งให้ลูกน้องฆ่าได้ ก็มีแต่พวกลอบฆ่ากูทั้งนั้น หรือไม่จริงที่น้องมึงถูกส่งมาฆ่ากู”“....” ไร้เสียงตอบรับแต่ใบหน้าของยัยนั่นก็กัดฟันกรอด นี่แหละนะสัจธรรมของวงการมาเฟีย วงจรอุบาทที่มีแต่การแก้แค้นไม่รู้จบ“ถ้ามึงเลี้ยงน้องอยู่บ้าน สั่งสอนให้น้องมึงไม่เข้ามาวงจรอุบาทนี่ น้องมึงก็คงมีชีวิตอยู่ อย่ามาโทษกูเลย”“หุบปาก!!”ตัวของเธอสั่นเทา อาจเพราะนางเองก็รู้ว่าโ
หมอพัฒน์ หมอที่ดูโอบอ้อมอารี ใจดีและเป็นมิตรกับทุกคนในโรงพยาบาล ฉันเคยรักษากับเขา พี่แม็กเองก็ชมเขาไม่หยุด และดูเหมือนพี่เวลล์เองก็จะให้ความเคารพนับถือเขาไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังใบหน้าที่แสนดีขนาดนี้ จะซุกซ่อนความเลวร้ายได้เกินจะบรรยาย“ทำหน้าแบบนั้น ตกใจรึไงกัน” หมอพัฒน์ยังบีบคางฉันแน่นไม่ยอมปล่อย“หึ ถุย...” ฉันสถบถุยใส่เขาไม่เกรงกลัว และแน่นอนว่าฉันถูกตบหน้าไปอีกหนึ่งฉาด ‘เพี๊ยะ’ มือของชายคนนี้รุนแรงมากกว่าผู้หญิงคนนั้นหลายสิบเท่า ตบเพียงครั้งเดียวทำให้หน้าสั่นเลือดกลบปากฉัน จนสำลักเลือดออกมาทางเรียวปากไหลเป็นทาง“ไม่เอานา...ผมไม่อยากทำร้ายคุณ ไม่อยากทำให้ใบหน้าสวยนี้ต้องระบมไปมากกว่านี้” หมอพัฒน์ปล่อยมือเขาออกจากใบหน้าฉัน ก่อนจะเดินวนไปมา ท่าทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขาทำให้ฉันยิ่งเห็นความน่ากลัวของชายวัยกลางคนคนนี้“หมอพัฒน์ ไม่สิคุณพัฒน์ คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร”“ผมรู้ว่าคุณรู้ว่าผมคือใคร เหมือนที่ผมรู้ว่าคุณคือใครน่ะ คุณหนูแจน” เขายืนกอดอกมองฉันด้วยใบหน้าแสยะยิ้มมองฉันราวกับลูกไก่ในกำมือ ในขณะที่ผู้หญิงด้านหลังนั่นมองฉันแทบจะกินเลือดกินเนื้ออยากฆ่าฉันให้พ้น ๆ“งั้นฉันก็ไม่พิ
EP.50ณ.โรงพยาบาลฉันได้สติอีกทีเหมือนจะถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว มองไปรอบ ๆ ดูเหมือนจะนอนพักอยู่ในห้องพิเศษวีไอพีของโรงพยาบาลที่คุ้นตานั่นแหละ จริง ๆ ก็จำเหตุการณ์หลังจากที่หมดสติในรถนั่นไม่ได้หรอก คงเป็นพี่เวลล์ที่เรียกรถพยาบาลมาละมั้ง ทำให้ฉันถึงมาอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็มีพยาบาลวนเข้ามาตรวจฉันเป็นระยะ อาหารอ่อนเข้ามาเสิร์ฟ ส่วนพี่เวลล์ก็มีเข้ามาหาบ้าง ไม่สิค่อนข้างบ่อยเลยล่ะ แต่เพราะเขาเองก็ยังวุ่นกับวอร์ดจึงอยู่นานไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียง ให้กำลังใจ มอบรอยยิ้มให้ แล้วก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนยัยมีน กับพลอย ก็เจียดเวลามาเยี่ยมแล้ว แต่ฉันก็เป็นฝ่ายไล่พวกมันกลับไปไม่อยากให้พวกมันเฝ้า เพราะยังไงฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องทำอยู่ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาจะฟูมฟาย ดูกังวลและแสดงออกว่าเป็นห่วงมากกว่านี้ แต่เปล่าเลยเขาไม่เพียงดูนิ่งขรึมใบหน้าราบเรียบ แต่ไม่เอ่ยถามไถ่สาเหตุที่ฉันได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำก็เลยค่อนข้างแปลกใจอยู่หน่อยฉันที่ลุกขึ้นนั่งได้เพียงเครั้ง ก็ทิ้งตัวลงไปนอนแผ่บนเตียงผู้ป่วยเหมือนเดิน พลางมองฝ้าเพดานคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่รู้เหมือนกันที่หมดสติไป
หลายเดือนต่อมาอีกไม่กี่วันก็ใกล้ปิดภาคเรียนแล้ว การมุ่งไปสู่ปีสี่ก็คืบคลานเข้ามา แม้โปรเจคนรกปีสามจะผ่านไป แต่การเรียนวิศวะมันไม่ง่ายเลย ยิ่งปีสี่แล้วถึงใจฉันจะพับโครงการนั่นไป แต่การเรียนในมหาลัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ส่วนพี่เวลล์ก็ง่วนกับโรงพยาบาลตามเคย แม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน ความรักของฉันกับพี่เวลล์ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี โดยฉันกับพี่เขาก็เติมหวานด้วยการสัญญาว่าในหนึ่งวัน ต้องโทร หรือส่งข้อความหากัน ห้ามหายเด็ดขาด บางครั้งพอมีเวลาวันหยุดก็มักไปเที่ยวด้วยกัน หรือแม้กระทั่งเมคเลิฟกันบ้างถ้าสถานที่อำนวยส่วนวันนี้ ฉันกะจะเข้าไปตรวจโกดังสักหน่อย เพราะที่ผ่านมายุ่งทั้งเรื่องการเรียน และหาเวลาให้พี่เวลล์ ทำให้ห่างจากการไปดูแลงานของตระกูลไปพอสมควร จะปล่อยให้พี่ทิมจัดการคนเดียวได้ไง เขาก็มนุษย์คนหนึ่ง ถ้าฉันเป็นพี่เขา ก็คงบ่นว่า เจ้านายไม่ได้เรื่องแหง ๆ อีกอย่างเด่นเรื่องเรียน กับ ความรักไปแล้ว การงานจะน้อยหน้าได้ยังไงจริงไหมดังนั้นวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เจียดไปเยี่ยมลูกน้อง แถมยังต้องติดตามอัปเดตข่าวสารพวกสายลับมาเฟียคู่อริอีก จะให้พวกมันมาหยามแย่งอิทธิพลทางการค้าฝั่งตะวันตกไม่ได้เด็ด
ดวงตาที่หลับสนิทของฉัน ถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ามายังบานหน้าต่าง ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หรี่มองไปยังหน้าต่างเล็กน้อยทอดมองออกไปยังตำแหน่งของแสงที่พาดผ่านมา ยกมือขยี้ดวงตาเบา ๆ พลางยืดแขนขึ้นเพื่อคลายความงัวเงีย“อ่ะ...” เพียงแค่ขยับจะลงจากเตียงก็รู้สึกได้ว่าร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว เสียงที่เปล่งออกทำให้คนที่อยู่ด้านนอกวิ่งมาด้วยความตกใจ“เป็นอะไรครับ” ฉันที่เห็นพี่เวลล์วิ่งกุลีกุจอวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตกใจหน้าตื่น เลิกคิ้วมองเพื่อรอให้ฉันตอบ อึ้ย...ใครจะไปบอกกันล่ะ ว่าพี่คะฉันปวดตรงนั้นมาก ให้ตายก็ไม่พูดหรอก แค่นี้ไม่สะเทือน ‘อึก’“ป่าวค่ะ สะดุ้งตื่นนิดหน่อย ว่าแต่กลิ่นอะไรหอมจัง”“พี่ทำกับข้าวไว้ให้ รีบลุกมาแปรงฟัน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาทานด้วยกันนะ”“ค่ะ ฮี่...” ฉันยิ้มจนตาหยี่ให้เขาก่อนที่เขาจะลูบหัวเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป“ว่าแต่เมื่อคืนฉันนอนไปตอนไหน” ฉันลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ก็จ้องมองกระจกที่สะท้อนตัวเองขึ้นมา “แล้วชุดที่สวมใส่นี่ล่ะ พี่เวลล์ก็จัดการให้หมดงั้นเหรอ” พอหลับตาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ในสมองฉันกลับจดจำแต่เรื่องอย่างว่า ท่านั้น ท่านี้ ได้เท่านั้น
ให้ตายเถอะ เสียวมากอยู่หรอก แต่ดูเหมือนคนที่ยืนอยู่จะเสียวกว่าฉันมากไปหน่อยไหม เล่นสอบเอวใส่ปากฉันจนมิดลำแทบสำลัก ดีนะว่าควบคุมมันไว้ทันทันทีที่เขากระตุกตัวปล่อยน้ำขุ่นอุ่นร้อนของเขาออกมาเต็มโพรงปากฉัน ฉันก็ตั้งใจกลืนมันทุกหยดไม่ให้เหลือ รอบนี้เหมือนเขาไม่ได้บังคับ แต่เป็นฉันเองที่เสียวซ่านจนอยากจดจ่ออยู่ตรงกึ่งกลางกลายเขาอีกสักหน่อย แต่พอโลมเลียได้ไม่ทันไร มันกลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้งแล้ว‘พี่เวลล์ แอบหื่น นะเนี่ย’พอฉันละปากออกจากเจ้าแท่งที่ตอนนี้มันพยักหงึก ๆ อีกรอบนั้น ฉันก็ทรุดลง มือยันพื้นหยัดตัวไว้ หอบหายใจแรงจนต้องเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิ ยกมือเช็ดคราบบริเวณริมฝีปากพลางหายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อย แต่นั่งได้ไม่นาน คนที่ยืนจ้องมองกันอยู่ก็สอดแขนใต้รักแร้ฉัน ดึงฉันขึ้นให้ยืนจากนั้นก็สวมกอด“เหนื่อยแล้วเหรอ” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ส่วนฉันหอบหายใจแรงเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละหายใจไม่ทัน“ค่ะ เหนื่อย” ฉันตอบไปตามตรงแม้ว่าตรงนั้นจะปวดหนึบเพราะอยากมากก็ตาม“แต่พี่ไม่เหนื่อยเลยนะ” เขาเอ่ยเสียวแผ่วเบาก่อนจะงับใบหูเล็กๆ ของฉัน ตอนนี้เขาคงอารมณ์มาเต็มที่เพราะลมหายใจที่รดฉันมันร้อนมาก ร้อนช
EP.46(Well Part)จู่ๆ คนเมาในอ้อมแขนของผมก็กระซิบบอกรักผมซะงั้น ถ้าในเวลาปกติของแจนล่ะก็ไม่มีทางจะได้ยินคำบอกรักด้วยแววตาเสน่ห์แบบนี้เป็นแน่ สงสัยผมต้องขอบคุณคนที่คิดค้นน้ำมึนเมาขึ้นมานี้แล้วล่ะ เพราะมันสามารถเปลี่ยนคนที่แข็งกร้าวในยามปกติ ให้กลายเป็นคนขี้อ่อย ขี้อ้อนมาได้แต่นั่นก็ทำให้ผมเริ่มคิดอีก ถ้าเธอไปดื่มหนักที่ไหน เธอจะมีท่าทีแบบนี้กับคนอื่นด้วยรึเปล่า ไม่ได้การหลังจากนี้ผมคงต้องเข้มงวดกับเธอหน่อย ก็ตอนนี้เธอคือแฟนผมผมอุ้มคนเมามายวางลงโซฟากลางห้อง เพราะผมยังไม่ได้ทายาบริเวณขาและเข่าของเธอที่มันยังปรากฏรอยฟกช้ำ แม้ตอนนี้มันเป็นรอยจางสีม่วงแล้วก็ตาม แต่เพราะเธอทำตัวยุกยิกนั่งไม่นิ่ง จนผมต้องนั่งโอบรัดเธอจากด้านหลัง“นั่งนิ่งๆ พี่ทายาให้ก่อน” ผมบีบยาลงในมือก่อนจะเอื้อมลูบไปตามรอยแผลฟกช้ำอย่างเบามือ “ยังเจ็บอยู่ไหม” ผมเอ่ยข้างหูเธอ“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เสียงอันบางเบาของเธอตอบผม“ถ้าหายแล้วงั้น.....” ผมพูดให้เธอคิด ก่อนจะงับใบหูของเธอเบาๆมือผมเริ่มอยู่ไม่สุขละจากการทายาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอกของเธอคลึงเบาๆ ผ่านเสื้อยืนแสนบางที่ผมให้เธอเปลี่ยน ใบหน้าผมโน้มลงเล็กน้อยมองต้นคอระหงส์ท