ณ. คอนโด “แจนมึงตื่นได้แล้ว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ววะ จะสายแล้วนะมึง” เสียงของยัยมีน เพื่อนรูมเมทของฉัน เรียกฉันตื่นจากภวังค์ที่กำลังเฝ้าพระอินทร์อยู่ ร่างกายของฉันเหยียดตรงบนฟูกนอนหนาอันแสนนุ่มสบาย บิดซ้ายขวา ด้วยความขี้เกียจก่อนเอ่ยไปด้วยความหงุดหงิด“กูไม่มีเรียนเช้า มีเรียนบ่ายสองโมงโน้น” ฉันตอบไปในขณะที่ลูกตายังไม่พร้อมเปิดด้วยซ้ำ“ทำไมมึงไม่บอกกูไว้ก่อนล่ะ คนอุตส่าห์เข้ามาปลุก” มีนทำหน้านิ่วใส่ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตรงเครื่องแป้งปลายเตียงของฉัน ฉันลืมตาตื่นมาก็พบว่ามันนั่งได้น่าเกลียดมาก“นี่ยัยมีน มึงอยู่ในชุดนักศึกษารัดติ้ว กระโปรงก็แทบจะเสมอหู ช่วยนั่งดีๆ หน่อย เห็นหมดแล้ว” ฉันได้แต่เอิอมกับความไม่ระวังตัวของเพื่อนสนิทคนนี้ เอาล่ะฉันจะมาแนะนำก่อน พวกเราสองคนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ม.ต้น จวบจน ม.ปลาย แม้แต่มหาลัย เรายังเลือกเรียนที่เดียวกันอีก เพียงแต่เราไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน ยัยมีนมีความฝันอยากเป็น นักข่าว พิธีกร อะไรทำนองนี้ นางจึงเลือกเรียนนิเทศ ส่วนฉันเรียนวิศวกรรมเครื่องกล เพราะอยากเรียนแค่นั้นแหละ เราสองคนค่อนข้างตัวติดกันไปไหนไปกัน แม้รสนิย
วันนี้ฉันมีเรียนเพียงคาบเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังกลับทันทีไม่ได้ เนื่องจากงานกลุ่มที่ต้องช่วยกันระดมความคิด กว่าจะลงตัวก็ปาไปสองทุ่มกว่าแล้ว พอกำลังจะกลับ เสียงไลน์ก็ดังขึ้นและแน่นอนว่ามันมาจากเพื่อนสนิทฉันเองMeeny : วันนี้ไปลั๊นลากันเพื่อนรักJanny : ไม่ไปMeeny : มึงต้องไปค่ะเพื่อน กูจองโต๊ะแล้วค่ะJanny : เพื่ออะไรMeeny : กูเพิ่งอกหักนะ ก็ต้องยาใจป่ะJanny : ยาใจที่ว่าคือดื่มงั้นเหรอMeeny : ใช่แล้ว โสดแซ่บขนาดนี้ ก็ต้องดื่มต้องเที่ยว ควงผู้สักหน่อยJanny : จะไปกันสองคน?Meeny : มีกุ้กอีกคนJanny : ไม่ได้เจอมันมาสักพักเลย ไปก็ไปMeeny : พูดง่ายแบบนี้ดีมากเพื่อนสาว ไว้เจอกันรีบกลับล่ะ ฉันขับรถมาถึงคอนโด ก็พบว่ายัยมีนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสสั้นเกาะอกสีขาว โชว์เนินนม และเรียวขา แน่นอนว่าต้องเอ็กซ์ ราวกับแม่เสือน้อยสุดยั่วอย่างเคย ผมลอนยาวสลวย พ่วงด้วยเครื่องประดับวิบวับ ส่วนฉันแน่นอนว่ามันตรงกันข้าม จัดเดรสดำยาวถึงเข่าด้านหน้ามิดชิด แต่มีลูกเล่นเว้าหลังจนเกือบสะโพกเผยให้เห็นแผ่นหลังอันขาวเนียน ตัดกับสีผมไวน์แดงสั้นประบ่า สวยเฉี่ยวน่าหลงใหลไม่แพ้กัน
จากนั้นจึงลุกมุ่งไปยังโต๊ะของเหล่ารุ่นพี่หมอปีห้า ที่ยัยมีนบอกไว้ เดินผ่านเบียดเสียดคนมากมาย บางคนก็ดูเหมือนจะรู้จักฉันอยู่บ้างพยายามจะเดินเข้าหา แต่ฉันก็ยกแก้วเป็นการปฏิเสธไปด้วยหน้าตาเรียบเฉยเมื่อแหวกฝูงชนจนมาถึงโต๊ะ ก็เห็นยัยมีนยืนคุยจ้อกับบรรดาหนุ่มๆ อย่างสนุก เอาเถอะปล่อยนางสักวัน อกหักมาก็แทบตาบวมมาหลายวัน ส่วนยัยกุ้กก็นั่งตัวแข็งทื่อราวกับหลักกิโล นางคงทำตัวไม่ถูกสินะ ส่วนบรรดารุ่นพี่ในโต๊ะนั้นมี สามคน อืม...ก็สมควรที่ยัยมีนจะโดนตกง่าย ๆ แต่ละคนดูหล่อ สะอาดเนี้ยบ เข้าท่าอยู่ ยัยมีนคงสนใจรุ่นพี่คนที่ยืนคุยด้วยกันนั่นสินะ อีกคนผมยาวมัดรวบแอบเห็นเหล่ไปมองยัยกุ้กอยู่เหมือนกัน แต่อีกคนนี่สิเอาแต่ควงแก้วเหล้าดื่มเงียบๆเหมือนไม่ได้สนใจวงสนทนาเท่าไหร่ ยอมรับว่าคนนี้ดูหล่อสุดๆ และเป็นจุดสนใจของโต๊ะนี้ เพราะไม่ว่าจะมองไปสาว ๆ โต๊ะไหน ก็ต้องมีเหล่มามองเขาตลอดทั้งนั้น“ยัยมีน กุ้ก” สิ้นเสียงเรียก ยัยมีนหันหลังมากวักมือยกใหญ่ ส่วนกุ้กนั้นก็ฉีกยิ้มราวกับเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เหนื่อยหน่อยนะกุ้ก“โทษที พอดีไปเอาเครื่องดื่มนิดหน่อย” หลังจากกระซิบข้างหูยัยมีนแล้ว ฉันก็นั่งลงโซฟาข้าง ๆ รุ่นพี่
ฉันเองก็ยืดตัวกลับมายังตำแหน่งที่เดิม ราวกับไม่ได้พูดอะไรออกไป หันไปสนใจแก้วเหล้าต่อ เอาจริงฉันยอมรับว่ารุ่นพี่เวลล์หล่อมาก ๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกอย่างว่าจริง ๆ เนื้อแท้ของฉันเป็นคนติดเรื่องอย่างว่าแต่เพราะประสบการ์ณบนเตียงกับแฟนเก่าเมื่อนานมาแล้วมันห่วยแตก แย่สิ้นดี และกลับพบว่าการช่วยตัวเอง รวมไปถึงเซ็กทอยยังทำให้ฉันไปถึงฝั่งฝันกว่าแฟนเก่าซะอีกก็ทำให้ฉันปรับเปลี่ยนวิธีระบายไป แถมผู้ชายที่พยายามจะเข้าหาฉันนั้นก็ไม่ดึงดูดเลยสักนิด แต่กลับคนตรงหน้านี้ ไม่รู้ฉันเป็นอะไรแบบอยากได้ชิบหาย แค่อยากได้เรื่องอย่างว่านะ ไม่ได้ต้องการความรู้สึกผูกพันฉันแฟนแต่อย่างใดเราสองคนยังนิ่งเงียบแบบนั้น ต่างคนต่างอยู่ในภวังค์ของตัวเอง สลับมองกันไปมาอย่างหยั่งเชิง ไม่มีใครเริ่มปริปากพูดจวบจนที่ทั้งสี่คนที่ออกไปเต้นไปสูบบุหรี่กลับมานั่งยังที่เดิมแล้ว“น้องแจนไม่ออกไปเต้นบ้างเหรอครับ ไม่เบื่อเหรอ” พี่แม็กเอ่ยถาม ฉันได้แต่เงยหน้ายิ้มไม่ได้ตอบอะไร และตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่าเครื่องแอลที่ฉันดื่มไปเริ่มออกฤทธิ์ทำเอาสะลึมสะลืออยู่เหมือนกัน แต่ยังควบคุมสติได้อยู่“พี่แม็กคะ ยัยแจนไม่ใช่สายเต้น สายสูบ
EP.5“ให้ตายเถอะ ตื่นเต้นชะมัด” ฉันเข้าห้องน้ำจากนั้นออกมายืนส่องกระจกมองหน้าของตัวเอง ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงเร็วทะลุนรกสัสๆ ไม่ใช่เพราะฉันประหม่าอะไรหรอก แต่มันเป็นความรู้สึกหิวกระหาย ผู้ชายคนนี้แรงดึงดูดให้เข้าหามากมายจริงๆ สมแล้วที่เพียงเขาเดินมาตามทางผู้หญิงในคลับก็จ้องตาเป็นมัน แต่ขอโทษนะที่ฉันขอคว้าโอกาสนี้ตัดหน้าพวกหล่อนไปก่อนโดยปกติฉันเป็นคนนิ่งพูดน้อย แต่พอเป็นเรื่องอย่างว่าภายในร่างกายมันก็ซู่ซ่าไปหมด ก็นะคนเราย่อมมีเรื่องดำมืดภายในตัว แต่อย่างน้อยสิ่งที่ฉันชอบจะไม่ทำผิดศีลธรรมเด็ดขาด นั้นคือคำปฏิญาณของฉันฉันคว้ากระเป๋าเดินออกมาจากห้องน้ำหยุดมองไปยังรุ่นพี่เวลล์ที่ยืนอยู่มุมอับอันมืดสลัว ก่อนจะยักคิ้ว และเดินนำไปก่อน เพราะคลับแห่งนี้ฉันมาบ่อยมาก บางครั้งหากเมาหนักๆ ฉันก็มักจะเปิดห้องนอนที่นี่เลย เพียงแค่ไลน์หาพี่พลเจ้าของคลับ พนักงานด้านบนก็สามารถจัดหาห้องว่างให้ทันที และแน่นอนครั้งนี้ฉันก็ไลน์ด่วนจองแล้วเหมือนกันเมื่อฉันเอื้อมมือเปิดประตูห้อง ก็หันมองรุ่นพี่เวลล์ที่มีท่าทีสงสัยเขาหยุดตรงหน้าประตูมองฉันอย่างมีคำถามมากมาย แต่สุ
ฉันกำลังบรรเลงเพลงรักเร่าร้อนบนเตียงกับรุ่นพี่เวลล์อยู่ ตอนนี้ใบหน้าเขาฝังหมกหมุ่นอยู่กับระหว่างขาฉัน ให้ตายเถอะเสียวจนใจจะขาด เขาใช้ลิ้นได้เก่งมาก ทำเอาฉันแทบขึ้นสวรรค์อยู่รำไร คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่หน้าด้านอ่อยกับเขาตรงๆ“พี่เวลล์ ขอเร็วอีกนิดค่ะ ซี๊ดดดด มะ ไม่ไหวแล้ว” เขาตอบสนองฉันเร็วมาก ลิ้นเขารัวแรงเร็วกว่าเดิมเยอะ ก่อนที่ฉันจะเสร็จสม ฉันก็ใช้แรงที่มีกดหัวเขาแรงขึ้น เด้งสะโพกเข้าหาด้วยความดิบเถื่อนก่อนที่น้ำรักของฉันจะพรั่งพรูออกมาเปื้อนแฉะไปหมด“พี่เวลล์....อ่า” ฉันคลายมือออก ค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมองเขาใบหน้าอันหล่อเหลานั้นยิ้มกรุ่นมองฉันราวกับถือชัย หึ...ยอมรับว่าฉันโดนเขาน็อคไปหนึ่งยก เสร็จสุขสมใจล่ะ แต่เอาเถอะฉันจะไม่ยอมให้เขาอยู่เหนือกว่าฉันหรอก ฉันจะทำให้ใบหน้ายิ้มกรุ่นของเขานั้นกลายเป็นเหยเกให้ได้เลยฉันเข้าไปคล้องคอเขาอีกครั้งยื่นหน้าประกบจูบอย่างตั้งใจ คราวนี้เป็นฉันที่เป็นฝ่ายผลักเขานอนราบลงบ้าง มือทั้งสองข้างของเราประสานกันมองตากันด้วยความโหยหา“พี่เวลล์ ขอฉันสำรวจร่างกายพี่บ้างนะคะ” สิ้นคำเขาจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแสดงให้เห็นถึงหุ่นพระเจ้าปั
โอ๊ยเมื่อยตัวไปหมด เมื่อคืนฉันกับพี่เวลล์จัดหนักกันยกใหญ่จนตีสี่ กว่าฉันจะตื่นนอนก็ปาไปเกือบเที่ยง ดีนะว่าวันนี้มีเรียนบ่ายสองโมง ส่วนเขายังอยู่และดูเหมือนจะตื่นก่อนฉันเสียอีก ซึ่งเขากำลังเล่นมือถือ อยู่เงียบ ๆ ข้างฉันเราสองคนต่างมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย เหมือนเรากลับมาเป็นอีกตัวตนหนึ่งที่เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย ที่พูดมากตอนกลางคืนนั้นก็คงเป็นฤทธิ์แอลที่ถาโถมซัดดื่มอย่างกับน้ำเปล่านั่นแหละฉันละจากหน้าเขาหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงพันรอบตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำแต่ทันทีที่ลุก กลับโดนคนข้างๆ ดึงแขนให้กลับไปในอ้อมแขนของเขาก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากจูบเฉยเลย ก็จูบตอบเขาแหละเอากันทั้งทีก็เอาให้คุ้ม เพราะคงไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว แต่เพราะมีเรียนบ่ายสอง ถ้าขืนมัวต่อมีหวังติดลมดังนั้นจึงกลั้นใจผลักเขาออกไป“ขอตัว พอดีมีเรียนต่อค่ะ” ฉันหยักคิ้วก่อนจะลุกไปอาบน้ำชำระร่างกายทันที เพราะตอนนี้เหนียวตัวจากเหงื่อสุดๆ พออาบน้ำเสร็จก็พบว่าเขาแต่งตัวเรียบร้อยไปก่อนแล้ว“พี่ไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ”“ไม่ครับ จะกลับไปอาบที่ ร
EP.8การทำธุระให้พ่อครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความราบรื่น เจอลูกค้าดีอย่างคุณเจมส์ไม่ต้องให้ถึงมือฉันเตะต่อยฉันก็โล่งใจ นึกว่าวันนี้จะได้ปะทะซะแล้วฉันขับรถออกจากโกดังสินค้า มุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดของตัวเอง แต่แล้วก็เจอรถคันหรูจอดข้างทางคันหนึ่ง มีผู้หญิงแต่งตัวด้วยเดรสสีชมพูโบกไม้โบกมือยกใหญ่ด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ไม่ช่วยไม่ได้หรอก แถวนี้ค่อนข้างเปลี่ยวแสงไฟตามไรทางไม่ได้สว่างมากนัก หากขับผ่านไปฉันคงรู้สึกแย่แน่ ๆ เลยตัดสินใจจอดเทียบรถคันดังกล่าว ก่อนจะลดกระจกรถเอ่ยถามหญิงสาวคนนั้นทันที แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามเธอก็แทรกเสียงเอ่ยขึ้นมาก่อน“ระ.. รุ่นพี่แจนใช่ไหมคะ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”“ฮืม...”“หนูชื่อวีค่ะ ปีสองนิเทศ เรียนคณะเดียวกับพี่มีนค่ะ”“อ่อ แล้วรู้จักฉันเหรอ”“ค่ะ ต้องรู้จักแน่นอนสิคะ พี่ดังจะตาย”“เหอะๆ ชื่อเสียงไร้สาระนั่นนะเหรอ อย่าไปใส่ใจ ว่าแต่ทำไมมาจอดรถอยู่ตรงนี้ รถเสียเหรอ”“ค่ะ วีกำลังจะกลับบ้าน ต้องผ่านทางนี้ตลอด แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรยางรถรั่วค่ะ ขับไม่ได้เลย”“แจ้งช่างรึยัง”“แจ้งแล้วค่ะ แต่เพราะตรงนี้ห่างไกล ช่างแจ้งกับวีว่าจจะมาช้าน่ะค่ะ”“งั้นพี่ไปส่งใ
แสงแดดยามเย็นเริ่มทอแสงสาดส่องเข้ามา ฉันกับพี่เวลล์กำลังนั่งทานอาหารว่างกันอยู่ริมทะเล บรรยากาศดีสุด ๆ“ทานแตงโมหน่อยไหมครับ”“ค่ะ” ฉันยิ้มตอบเขา“ม่ะ...พี่ป้อน” เขาจิ้มแตงโมที่หวานฉ่ำนั้นป้อนให้ ฉันโน้มตัวเข้าไปกินอย่างมีความสุข “อร่อยไหมครับ”“อร่อยค่ะ แจนชอบแตงโม”“แล้วพี่ล่ะ แจนชอบไหม”“เอ๊ะ มันวกมาเวนี้ได้ยังไงกันคะพี่ ไม่ชอบค่ะ แต่รักเลย ฮี่...” เอ่ยจบเขายื่นมือมาบีบแก้มฉันด้วยความหมั่นเขี้ยว จากนั้นเขาก็ยังเอาแต่ป้อนผลไม้ให้ฉันทาน ถามว่าฉันกินไหม ก็กินสิผู้ชายหล่อป้อนทั้งที“แจนครับพอดีพี่มีประชุมด่วนของโรงพยาบาล พี่ขอตัววิดิโอคอลที่ประชุมสักครู่นะครับ”“ได้สิคะ งั้นแจนขอลงไปเล่นน้ำหน่อยนะคะ อยากเอาตัวจุ่มน้ำแล้ว”“ระวังด้วยนะครับ อย่างลงไปเล่นน้ำลึกมากล่ะ”“ค่ะพี่ แจนจะอยู่ใกล้ๆ นี่แหละค่ะ” เขาสวมผ้าคลุมที่เตรียมไว้พร้อมหยิบไอแพดปลีกตัวไปนั่งเก้าอี้ชายหาดใส่หูฟังพร้อมประชุม สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังและตึงเครียดมากขึ้นก็จริงล่ะนะ ถึงแม้เราจะมาพักผ่อน แต่งานก็ต้องดำเนินต่อไป จริงๆ แล้วฉันก็มีงานที่ต้องสะสาง แต่เพราะมีพ่อ มีพี่ทิม มีแฟรงค์ จึงสามารถวางใจได้ แต่พี่เวลล์เขาเป็นหมอ
ณ.ห้องครัวพี่เวลล์เข้าครัวทำกับข้าวให้ฉันตามที่ฉันร้องขอว่าอยากกิน กลิ่นผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้าหอมฉุนไปทั่วบ้านพัก ทำเอาฉันสูดฟึดฟัด เพราะกลิ่นมันหอมจนอดไม่ไหว“หอมมาก อยากทานแล้วค่ะ” ฉันเดินเข้าไปสวมกอดเขาจากด้านหลัง ในขณะที่เขากำลังจัดเตรียมอาหารเหล่านั้นวางบนโต๊ะอาหาร"งั้นก็รอทานให้อร่อยนะพี่ตั้งใจทำให้แจนเป็นพิเศษเลยนะครับ"“ค่ะ..^^”ฉันนั่งรอที่โต๊ะอาหาร พร้อมแล้วกับการทานข้าวมื้อพิเศษที่เขามอบให้ อาหารง่ายๆ อย่างโจ๊กและผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้า แบบพิเศษใส่ใจ“เสร็จแล้วครับ”“อื้อหื้อ น่าทานมาก ๆ ค่ะ จะทานแล้วนะคะ” ฉันที่ตั้งท่าจะทานแล้วนั้น ดันโดนพี่เวลล์ห้ามไว้ก่อน“เดี๋ยวสิครับ ล้างมือรึยัง ก่อนทานล้างมือก่อนครับ”“ก็ได้ค่ะ” ฉันทำหน้ามุ่ย แต่ก็ลุกไปล้างมือแต่โดยดี พอล้างเสร็จก็กลับมานั่งที่เดิม โดยที่พี่เวลล์เองก็เข้ามานั่งร่วมโต๊ะอาหารแล้ว“ทานเยอะๆ นะครับ” เขาไม่ใช่แค่พูด แต่ตักอาหารมาใส่จานให้ฉันด้วย ทั้งการกระทำและคำพูดเขาอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก นอกจากพ่อ ก็เขานี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจได้จริงๆ“พี่เองก็ทานเยอะๆ นะคะ”“ครับ” ฉันยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน เราต่างก็ทานอาหา
12.00 น.ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความปวดเมื่อยไปทั้งร่างกายอยู่บนเตียงฟูกนุ่มแล้ว และกำลังนอนกอดกันตัวเป็นเกลียวกับคนข้างๆ ที่ฉันรักมาก ร่างกายเรายังเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เพราะกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเสพสุขกันไปกี่ยก แต่ที่แน่ ๆ ระเบียงนั่น ฉันวนไปทุกมุม ขนมาทุกท่า แถมพี่เวลล์ตัวดีดันแข็งแรงทั้งร่างกายและน้องชายเขาก็ตื่นไม่พัก จึงต้องเป็นฉันที่ทนรับอยู่ร่ำในคืนที่ผ่านมาอย่างหนักหน่วงเขายังนอนหลับสนิท สองมือเขากอดฉันแน่น ส่วนใบหน้าฉันก็แนบชิดกับแผงอกของเขา ฉันเงยหน้ามองเขา ดูสิตอนนอนก็ยังหล่อเลย ขนตายาวงอน ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่งสันทัดผิวขาวเปล่งปลั่ง สันกรามที่บาดคม เฮ้อหล่อจนร้องขอชีวิตนั่นและ เป็นบุญของฉันที่ได้มีโอกาสมารักเขาจริง ๆดวงตาเขาค่อย ๆ เปิดออกหลุบมองฉัน เขาค่อย ๆ ฉีกยิ้มก่อนจะออกแรงแขนรัดฉันแน่นขึ้น“แจนทำให้พี่เวลล์ตื่นเหรอคะ”“ป่าวหรอกครับ ความรักต่างหากที่ทำให้พี่ตื่น”“ดีนะ แจนยังไม่ได้ทานข้าวไม่งั้นมีอ้วกแน่ๆค่ะ” สิ้นคำฉัน เขายิ้มมองฉันก่อนจะลูบหัวเบาๆ ก้มหอมฟอดใหญ่ๆ บนหัวฉัน“ทนนะ หลังจากนี้จะได้ยินแบบนี้บ่อยขึ้น เพราะพี่คลั่งรักแจนไม่ไหว”“กลัวแล้ววววววว
“ขี้โกงจังนะครับ ทำไมเสร็จไปก่อนพี่แล้วล่ะ” เขากอดฉันแน่นอีกครั้ง“ก็เป็นเพราะใครล่ะ โดนขนาดนี้ใครจะทนไหวคะ”“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ” ฉันเอียงคอแหงนมองคนด้านหลังก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ เขายิ้มมุมปากยักคิ้วให้ฉัน พลางก้มหน้าลงมาจุ๊บฉันหนึ่งที“ให้ตายเถอะ บอกอย่าเล่นกับระบบ พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ แจนไม่ยอมโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอก” ฉันลุกขึ้นหันหน้าไปเผชิญกับเขาที่นั่งอยู่ ผลักไหล่เขาให้ลงนอนราบบนโซฟาใหญ่นี้ พลางมองต่ำตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะคว่ำนั่งบนลำตัวของเขา ก็รู้แหละว่าตรงนั้นของเขามันแข็งขื่นขนาดไหนเพราะระหว่างขาฉันที่กำลังทับมันอยู่สัมผัสได้ ทำเอาตื่นเต้นชะมัดเป็นฉันบ้างที่เลียริมฝีปาก ทอดสายมองเขาอย่างยิ้มร้าย โน้มตัวลงเอาหน้าเกยไหล่เขาสองมือซุกซนสอดเข้าใต้เสื้อเพื่อสัมผัสผิวเขา มันแน่นมือถนัด ซิกแพคเป็นลอนที่จับก็รับรู้ได้ความแข็งแกร่งของหน้าท้องนั่น ทำเอาอยากเห็นด้วยตาเปล่าเสียตอนนี้“อื้ม...” เสียงครางเล็กๆ เมื่อมือฉันสัมผัสเข้ากับหัวนมของเขา มะ...ไม่ไหวแล้ว เสียงกับร่างกายของเขานี่มันทำเอาฉันคลั่งแทบบ้าเหมือนกันฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป ถกเสื้อเขาไปกองไว้เหนืออก เผยให้เห็นแผง
เขายังคงวุ่นอยู่กับการจูบฉันอยู่แบบนั้นไม่มีท่าทีว่าจะคลายจูบเสียที ลมหายใจเขารดถี่ขึ้น ร้อนขึ้น พอๆ กับสัมผัสริมฝีปากของเขาที่พยายามบดเบียดรุกเข้ามาในโพรงปากฉัน ฉันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรปล่อยให้เขาทำตามใจ“อึก...โอ๊ย!!” พี่เวลล์กับฉันกำลังพรมจูบกันเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่จู่ ๆ เป็นฉันเองที่ต้องผลักเขาออก“เป็นอะไรไปครับ” พี่เวลล์ประคองใบหน้าฉันมองหน้าด้วยความตกใจ“ขะ...ขาฉันค่ะ”“ขาเป็นอะไรครับ”“พี่ทับขาฉันค่ะ ฉันเจ็บ” สิ้นคำ เขาเหลือบไปมองดูแล้วก็เป็นให้เขาเห็น ก็ขาแกร่งของเขาทับขาเรียวเล็กของฉันจริง ๆ ไม่เจ็บได้ไง โซฟามันเล็กนิดเดียวนะเขาลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยกขาฉันก่ายตักเขามานวดให้ฉัน อย่างแผ่วเบา“พี่ขอโทษครับพี่ไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่เป็นไรค่ะ โซฟามันแคบ” ฉันยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วยกขาที่ก่ายตักเขาออกวางลงปกติ“นั่นสิเนอะ ถ้าเป็นที่โล่งๆ คงจะดีกว่าใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ...แต่เอ๊ะ ที่โล่งๆ ว๊าย!!!” พี่เวลล์ยกฉันพาดบ่าโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิด“พะ...พี่จะยกแจนไปไหนเนี่ยตกใจหมดเลย”“ก็ไปหาที่โล่งๆ ต่อไงล่ะ”“หมายถึงห้องนอนเหรอคะ”“ก็ใช่ แต่...หึ” เพราะฉันถูกพาดบ่าไว้ ทำให้มองไม่เห็นใบหน
เรากลับมาถึงบ้านพักของเรา เมื่อกำลังจะเดินเข้าบ้านฉันกลับหยุดเดินและฉุดรั้งเขาไว้ ฉันหันหน้ามองออกไปยังผืนทะเลตรงหน้าบ้านที่กำลังทอประกายด้วยแสงจันทร์ค่ำคืนนี้ พลางสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดก่อนจะหันไปมองเขา“เป็นอะไรไปรึเปล่าครับ”“พี่คะ พี่รู้สึกยังไงบ้าง พี่อึดอัดใจรึเปล่าที่พี่เห็นฉันเป็นแบบนี้ ฉันรู้ว่าพี่เกลียดมาเฟีย ตอนนี้พี่กำลังข่มใจไว้ใช่ไหมคะ พี่ฝืนอยู่ใช่ไหม พี่กำลัง.......” ฉันพล่ามสาธยายไม่รู้จบ ฉันแค่รู้สึกกลัว กลัวว่าเขาจะไม่โอเค กับสิ่งที่ฉันเป็น และสิ่งที่ฉันกระทำ ฉันพะวงมันมาตลอด แต่ฉันก็อดไม่ได้เพราะฉันเป็นคนแบบนี้ มันแบบกระวนกระวายใจจนแทบบ้า อดีตมันยังคอยย้ำเตือนเสมอเขาไม่ปล่อยให้ฉันพูดจบ แต่เดินเข้าสวมกอดฉันแน่น จับศีรษะฉันแนบกับอกของเขาไว้ ลูบอย่างแผ่วเบา“พี่ไม่เป็นอะไรเลย สิ่งที่พี่เห็นยิ่งทำให้เข้าใจมุมแจนมากขึ้น เป็นพี่ที่คิดมากไปเอง พี่ผิดที่เอาอดีตที่เจอมาตัดสินจนทำให้รักของเราเคยล่มไปแบบนั้น”“พี่ไม่เกลียดฉันแล้วใช่ไหมคะ ที่ฉันเป็นมาเฟีย”“ไม่เลยครับ แล้วแจนล่ะครับ ยังโกรธพี่อยู่ไหม” เขาดันฉันออกจับไหล่ฉันทั้งสองข้าง สายตาก้มมองฉันด้วยความอ่อนโยน ฉันมองเขาด้ว
ภายใต้ดวงตาของเราที่มองไปนั้น ปรากฏเป็นกลุ่มอันธพาลราวสามคน ที่กำลังพังหาบเร่ของคุณยายจนเกลื่อนระเนระนาด ผู้คนใกล้เคียงต่างถอยห่างไม่กล้ายุ่ง ได้แต่มองดูอยู่ไกลๆ ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือเลยสักนิด จวบจนอันธพาลคนหนึ่งที่ดูกร่างที่สุดคว้าคอเสื้อของคุณยายที่กำลังนั่งก้มไหว้จนตัวสั่นนั้นให้ลุกขึ้น“ได้เงินแล้วนี่ เอามาให้พวกกูซะ” เสียงตวาดของหนึ่งในอันธพาล“ขอร้องเถอะจ๊ะ ยายเพิ่งจะขายได้วันแรกเอง ยายจ่ายดอกเบี้ยหมดไม่ไหว”“อิแก่ กูเห็นเมื่อกี้มึงได้เงินจากลูกค้าเป็นพัน มึงเอามา”“ยายต้องเลี้ยงหลาน ขอแบ่งจ่ายได้ไหมจ๊ะ ยายขอ”“อีแก่ พูดไม่รู้เรื่องเหรอมึง หน็อย!!!” ฉันที่ยืนมองกัดฟันทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว จะเสียลุคก็ให้มันรู้ไปมาเฟียอย่างฉันก็มีคุณธรรมพอ ใครจะทนดูคนแก่โดนทำร้ายได้ลงคอกันล่ะ ถ้าเขาจะโกรธฉัน จะเกลียดฉัน เพราะมีเรื่องต่อยตีต่อหน้าเขาก็ช่างแม่งแล้ว ฉันไม่สนใจแล้วล่ะฉันตัดสินใจหันไปหาพี่เวลล์เพื่อเอ่ยบอกว่าจะเข้าไปช่วย แต่เอ๊ะ พี่เวลล์ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ หายไปไหนแล้ว หรือว่าไม่ทันที่ฉันจะเข้าห้าม พี่เวลล์กลับเป็นฝ่ายวิ่งเข้าไปก่อนแล้ว ในขณะที่อันธพาลกำลังง้างมือจะท
ฉันคว้าผ้าเช็ดตัว ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำล็อคกลอนประตูให้เรียบร้อย เปลืองผ้า ก่อนจะเดินไปเปิดฝักบัว เอาหัวจุ่มผ่านน้ำที่ไหลเป็นสายธารผ่านฝักบัวนี้ แหงนหน้ารับน้ำให้รู้สึกชุ่มฉ่ำไปทั้งตัว ในหัวคิดอะไรต่างๆ มากมาย พี่เวลล์เหมือนจะกลับมาเป็นปกติอย่างที่เคยเป็นมากขึ้น และดูจะเป็นฝ่ายรุกหนักกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำที่มันแปลกกลับเป็นฉันเอง ที่ยังคงมีอะไรติดค้างในใจ ว่าเขาละทิ้งทิฐิที่ฉันเป็นมาเฟียได้หมดจดจริงๆ รึเปล่าแล้วสิ่งนี้มันจะกลับมาทำให้ความรักของเราดิ่งลงอีกครั้งไหม ฉันน่ะรักเขามาก แต่ก็กลัวการสูญเสียมันไปอีกครั้งแต่ยังไงซะ ฉันควรจะเป็นตัวของตัวเองดีกว่าล่ะนะ อย่างน้อยถ้าเรายอมรับสิ่งเหล่านี้ได้มันก็จะไม่กลับมาเป็นปัญหาให้พวกเราต้องผิดใจกันอีกฉันอาบน้ำแช่ อยู่สักพัก ก่อนจะนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้อง ลืมตัวอีกแล้วฉันคิดว่าอยู่ห้องคนเดียวด้วยความเคยชิน ดันอาบน้ำออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนไม่ใหญ่มาก พอปกปิดแค่ส่วนบนและส่วนล่างนิดหน่อยเท่านั้น แต่พี่เวลล์ก็ดูนิ่งสงบไม่พูดจาอะไร คว้าผ้าเช็ดตัวของตัวเองก้มหน้าเดินเข้าห้องน้ำต่อไปดื้อๆ ฉันนึกว่าเขาจะมองแทะโลมฉันซะอีก นี่เสน่ห์ของฉันมันลดลงไปแล้วง
สองสัปดาห์ผ่านไปฉันยังคงง่วนกับการจัดการกองเอกสาร ช่วยพ่อตอนนี้ธุรกิจด้านไหนก็เติบโตดีมาก แถมคู่อริตอนนี้ก็หัวหดกันหมดแล้ว อิทธิพลของตระกูลพ่อฉันแผ่ขยาย พ่อก็พยายามกวาดล้างกลุ่มแก๊งมาเฟียอื่นให้มาอยู่ใต้อาณัติ และค่อย ๆแปรเปลี่ยนพวกเขาให้ทำธุรกิจที่ถูกต้องมากขึ้น แถมยังเป็นการขยายสาขาที่ไม่ต้องลงแรงทรัพยากรบุคคลเท่าไหร่ด้วย ยิ่งมีพี่ทิมเข้ามาจัดการคุมเข้มด้วยล่ะก็ ยิ่งง่ายเข้าไปอีกแน่นอนจุดประสงค์ที่โหมทำงานเอกสารกองพะเนินนี้ เพราะจะขอพ่อหยุดยาวไงล่ะ ไหน ๆ ก็สัญญากับพี่เวลล์ไว้แล้ว ไปคราวนี้ก็ไม่อยากให้ต้องพะวงหลังเรื่องงานอีก อยากตั้งใจพักผ่อนเพื่อเขา และก็เพื่อตัวฉันเองด้วยการไปเที่ยวครั้งนี้ ฉันไม่ได้ปิดบังพ่อแต่อย่างใด ถึงไม่บอกพ่อ พ่อก็รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขา พ่อไม่เคยห้าม พร้อมบอกว่าเคยมีประสบการณ์มาก่อน การที่ถูกผู้ใหญ่ห้ามและคลุมถุงชนนั้น มันต่างจะสร้างบาดแผล ซึ่งพ่อเองไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกับที่พ่อเคยเจอในอดีต ดังนั้นเรื่องความรักพ่อมักจะปล่อยอิสระให้ฉันเต็มที่พี่เวลล์มาตามเวลานัดหมายแถมยังเดินเข้ามาทักทายพ่อฉันแบบไม่เกรงกลัวอีก กล้ามาก แต่พ่อก็แสดงความอ