ตอนที่ 9 เคยชินกับการที่มีเธออยู่
โต๊ะร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังถูกจองกะทันหันโดยคุณหมอหนุ่มที่ใช้เส้นสายในความเป็นเพื่อนเจ้าของร้านใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น มิหนำซ้ำยังเลือกห้อง VIP ที่เป็นส่วนตัวด้วย
“ไอ้แจ็ก วันนี้มึงเข้าร้านหรือเปล่าวะ” ปลายสายคือเพื่อนบ้านตั้งแต่วัยเด็กที่เวย์สนิทที่สุดเพราะพ่อแม่ของทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน
“เข้า มึงมีอะไรหรือเปล่า”
“เคลียร์ห้อง VIP ร้านมึงไว้ให้กูห้องหนึ่ง เที่ยงนี้เดี๋ยวกูเข้าไป” เวย์แจ้งความต้องการของตัวเองชัดเจน
“แดกห้องธรรมดาไม่ได้หรือไง VIP ลูกค้าจองเต็มหมดแล้ว ร้านกูระดับมิชลินสตาร์นะมึงลูกค้าต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือน แต่มึงเสือกจองล่วงหน้าก่อนแดกแค่สองชั่วโมง” แจ็กด่าสวนกลับแบบไม่เกรงใจ จนเวย์ต้องรีบขยับโทรศัพท์ออกห่างจากใบหูก่อนที่แก้วหูจะแตกและกลายเป็นคนพิการหูหนวก
“ถ้าห้องไม่ว่าง งั้นกูขอใช้ห้องส่วนตัวของมึงแล้วกัน จัดโต๊ะเผื่อกูด้วยสำหรับสองคนอีกสองชั่วโมงกูจะเข้าไป แล้วอีกอย่างช่วยเตรียมอาหารที่เป็นเมนูเด็ดร้านมึงทั้งหมดไว้ให้กูด้วย” เวย์พูดจบก็กดตัดสายทันทีไม่รอให้อีกฝ่ายตอบตกลงหรือปฏิเสธแม้แต่น้อย
“เฮ้อ! ไอ้ห่าเวย์โทรหากูแต่ละทีไม่มีเรื่องดีแม่งเลยสักครั้ง ยุ่งวุ่นวายตลอด” แจ็กถอนหายใจเสียงดังก่อนจะหันไปสั่งงานลูกน้อง
“ไปจัดโต๊ะอาหารสำหรับสองท่านในห้องของผม แล้วเตรียมเมนูพิเศษของร้านเราทั้งหมดไว้เสิร์ฟขึ้นโต๊ะด้วย อีกสองชั่วโมงไอ้เวย์จะเข้ามา” หันไปสั่งลูกน้องคนสนิทเสร็จก็หันกลับมาสนใจหม้อซุปตรงหน้าที่มืออีกข้างยังคนไม่หยุดอยู่ในครัวที่แยกโซนออกมาเป็นสัดส่วนเอาไว้สำหรับปรุงเมนูใหม่หรือทำอาหารส่วนตัว
เมื่อจัดการจองร้านอาหารเรียบร้อยแล้วเวย์ก็เดินกลับไปทำงานที่โต๊ะเหมือนเดิม พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นสไมล์นอนกอดอกอยู่บนโซฟาดูแล้วเหมือนคนหลับลึก เวย์จึงเดินไปหยิบเสื้อคลุมตัวโปรดของตัวเองมาคลุมให้สไมล์อย่างเบามือเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น เวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งชั่วโมงเวย์ที่ตรวจคนไข้เสร็จไปหลายเคสเดินเข้ามาในห้องทำงานแต่สไมล์ก็ยังคงนอนหลับไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่าย ๆ จนเวย์ต้องตัดสินใจปลุกเพราะกลัวว่าจะไปถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่จองไว้ไม่ทัน
“สไมล์” เวย์เรียกสไมล์เบา ๆ เพื่อปลุกให้หญิงสาวตื่น เมื่อรู้สึกถึงเสียงเรียกสไมล์จึงลืมตาขึ้นพร้อมกับสะดุ้งเบา ๆ
“อื้อ..คุณปลุกฉันทำไมฉันกำลังนอนหลับสบายอยู่เลย” ท่าทางเหมือนเด็กที่โดนเรียกตื่นในตอนเช้าของสไมล์ทำเอาเวย์ส่ายหัวแล้วยิ้มเบา ๆ
“โอมากาเสะมื้อพิเศษร้านแจ็กลิน” คำพูดของเวย์ทำให้สไมล์ดีดตัวลุกขึ้นทันทีเพราะร้านที่เวย์ชวนเธอไป ขึ้นชื่อเรื่องการจองคิวยากที่สุด สไมล์ผู้ชื่นชอบในอาหารญี่ปุ่นจึงไม่อยากพลาด
“ไปเลยค่ะคุณหมอ ฉันพร้อมแต่ขอไปกับคุณได้ไหม ฉันยังง่วงอยู่เลยยังไม่อยากขับรถ” สายตาและน้ำเสียงที่ดูเว้าวอนทำเอาเวย์ปฏิเสธไม่ลงอีกตามเคย
“ตามใจ” สไมล์ยิ้มย่องในใจที่เวย์เริ่มไม่ค่อยขัดเธอในสิ่งที่ขอเหมือนช่วงแรก ๆ
ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นเพรียวแต่ไม่ผอมพร้อมหน้าตาคมเข้มและผิวที่ขาวเหมือนหนุ่มเกาหลีพร้อมกับดาราสาวที่สวยหาตัวจับยากและกำลังมาแรงในขณะนี้เดินเข้ามาภายในร้านอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะระดับมิชลินสตาร์ที่มีเพื่อนของเวย์เป็นเจ้าของ พนักงานที่คุ้นเคยกับเวย์ดีเดินมาต้อนรับเวย์และสไมล์เหมือนรู้งาน และเดินนำคนทั้งสองไปยังห้องวีไอพีส่วนตัวของเจ้าของร้านที่ถูกเวย์บังคับให้เปิดห้องเป็นกรณีพิเศษที่ตอนนี้มีเชฟคอยยืนรอให้บริการอยู่
ภายในห้องที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ ๆ ทำให้ สไมล์ที่รู้สึกชอบตั้งแต่เหยียบย่างเข้ามาภายในร้านยิ่งได้มาเห็นห้องที่เวย์จองไว้ยิ่งทำให้บรรยากาศในการมาทานอาหารญี่ปุ่นครั้งนี้ของสไมล์ประทับใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มชิมอาหาร
“ฉันรู้สึกชอบร้านนี้จังเลยค่ะทั้งบรรยากาศภายในร้านและบรรยากาศภายในห้องนี้” สไมล์บอกกับเวย์ในขณะที่สายตาก็มองไปรอบ ๆ ห้องอย่างชื่นชม เวย์ที่เห็นสไมล์ชอบร้านที่ตนพามาก็รู้สึกพอใจลึก ๆ
“เขาไม่ขายให้หรอกนะ เจ้าของร้านรวย” เสียงทุ้มพูดขึ้นขณะเดียวกันก็สร้างความงุนงงให้คนฟังไม่น้อย
“ฉันไม่ได้จะซื้อสักหน่อย” เมื่อนึกได้ว่าที่ชายหนุ่มพูดนั้นหมายถึงอะไรเธอก็ตอบกลับทันที
“ก็เห็นบอกว่าชอบ”
“ฉันได้ยินมานานแล้วค่ะว่าร้านนี้สุดยอดมากขนาดที่ว่าได้มิชลินสตาร์แต่ว่าฉันไม่เคยจองคิวได้เลย เห็นว่าต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน พอฉันจะจองเมื่อถึงวันที่จะได้คิวก็ดันมีงานอีก ฉันก็เลยไม่ได้มาสักที วันนี้ถือว่าฉันโชคดีนะคะได้มาทานร้านดังแถมยังฟรี” สไมล์พูดพร้อมกับทำท่าทางแบบผู้ชนะ เวย์จึงหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางนั้นก่อนที่เชฟจะขออนุญาตเสิร์ฟคอร์สแรกที่เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยให้กับเวย์และสไมล์
“โอ้โห!! ทำไมหน้าตาน่าทานจังเลย ฉันขออนุญาตถ่ายรูปได้ไหมคะ” ประโยคหลังสไมล์หันไปถามเชฟที่เสิร์ฟอาหารมาให้ตรงหน้าซึ่งเป็นเต้าหู้เย็นคินุ ตัวเต้าหู้รองด้วยเห็ดออรินจิย่างราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้านจนฉ่ำพร้อมเครื่องเคียงที่เป็นหัวไชเท้าฝอยหมัก
“อยากถ่ายก็ถ่าย” เวย์เป็นคนตอบแทนเชฟที่เอาแต่ยืนยิ้ม สไมล์จึงรีบเอามือถือขึ้นมาถ่ายอย่างรวดเร็วเพราะถ้าหากนานไปก็เกรงว่ารสชาติอาหารจะเปลี่ยน เพราะการทานอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะต้องรีบทานหลังจากที่เสิร์ฟทันทีถึงจะสัมผัสถึงรสชาติที่แท้จริงของอาหาร
“ซอสที่ราดเป็นสูตรพิเศษของทางร้านรสชาติไม่เหมือนที่อื่นแน่นอนครับ” เชฟบอกสไมล์เมื่อเห็นหญิงสาวเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า สไมล์จึงรีบลิ้มลองทันทีแล้วทำหน้าเหมือนฟินเมื่อได้ลองอาหารเมนูแรกของร้าน หลังจากนั้นก็มีคอร์สต่อไปตามมาเรื่อย ๆ ทั้งซุป ทั้งสลัด ทั้งซูชิ หรือแม้แต่ซาซิมิ ทุกเมนูที่ขึ้นชื่อของร้านถูกเชฟรังสรรค์ให้ทั้งคู่ได้ทานกันอย่างสด ๆ ระหว่างที่ทานเวย์ก็คอยเทคแคร์สไมล์ไม่ต่างจากคนที่เป็นคู่รักกัน
“เป็นไงชอบหรือเปล่า” เวย์หันมาถามสไมล์เมื่อทานอาหารมาได้เกือบหมดคอร์ส
“ที่สุดเลยค่ะ ฉันไม่คิดว่าจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยแบบได้รสชาติของคนญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบนี้ฉันชอบมาก” สไมล์หันมาตอบเวย์ในขณะที่มือก็กำลังจับซูชิเข้าปาก แต่เวย์กลับมองว่าภาพนั้นเป็นภาพที่น่ารัก จนเมื่อปากของสไมล์มีซอสติดอยู่เวย์จึงยื่นมือไปหวังจะเช็ดออกให้ แต่สไมล์ที่ตกใจเอียงหน้าหนีแล้วมองเวย์อย่างงง ๆ
“ปากเลอะ” เมื่อได้ยินเวย์บอกมาแบบนั้นสไมล์จึงยอมให้เวย์เช็ดปากให้โดยดีพร้อมกับมองหน้าเวย์แบบลึกซึ้ง เวย์เมื่อหันมาสบตากับสไมล์ที่มองอยู่ก่อนแล้วจึงรีบชักมือกลับแล้วเบือนหน้าไปทางเชฟดังเดิม เพราะกลัวว่าหากมองสบตาสไมล์นานกว่านี้จะเผยความรู้สึกอะไรออกไปให้หญิงสาวรู้
“คุณใช้เวลาในการจองนานไหมคะกว่าจะได้คิววันนี้” สไมล์ที่ไม่รู้จะพูดอะไรหลังจากได้สบตากับคุณหมอหนุ่มจึงพูดแก้เก้อออกไป
“ก็ไม่นานเท่าไหร่” (สองชั่วโมงนานไหมล่ะ)
“แสดงว่าคุณโชคดีสิคะที่จองไม่นานก็ได้ทาน” สไมล์เชื่อสนิทในสิ่งที่คุณหมอหนุ่มพูดโดยมีเชฟยืนอมยิ้มกับคำว่าไม่นานของเวย์ เพราะเมื่อสองชั่วโมงก่อนเขาถูกเรียกตัวด่วนจากห้องวีไอพีอีกห้องเพื่อมาจัดเตรียมอาหารสำหรับลูกค้าคนพิเศษ..คือเพื่อนเจ้าของร้านนั่นเอง
“ถ้าอยากมาทานอีกก็บอก”
“แล้วคุณจะมาด้วยหรือเปล่าคะ” ไม่พูดเปล่าแต่สไมล์ยังหันไปมองเวย์ด้วยสายตาเป็นคำถาม จนคนถูกถามหันมามองด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
“ถ้าว่างก็จะมา” เวย์ตอบสไมล์ด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่สายตาที่มองมานั้นช่างดูแตกต่างและยากจะคาดเดาจนสไมล์ต้องรีบหันหน้าหนีเพราะกลัวว่าจะแพ้สายตาของเวย์ที่มองมาจนเคลิ้มไปกว่านี้ เหล้าบ๊วยที่ถูกนำมาเสิร์ฟก่อนหน้านี้ถูกสไมล์คว้ามาดื่มเพื่อดับความร้อนรุ่มในใจแบบรวดเดียวหมด
“ดื่มแอลกอฮอล์แล้วจะขับรถกลับบ้านยังไง” จู่ ๆ เวย์ก็ถามขึ้นมาเมื่อเห็นสไมล์กรอกเหล้าเข้าปากทีเดียวหมดแก้วถึงจะแค่นิดเดียวแต่ระดับปริมาณแอลกอฮอล์นั้นสูงกว่าเหล้าปกติมากเลยทีเดียว
“กลับแท็กซี่ก็ได้ค่ะ หรือคุณหมอจะใจดีไปส่ง” สไมล์หันไปตอบเวย์พร้อมถามกลับชายหนุ่ม
“ได้คืบจะเอาศอก” นิ้วเรียวยาวจิ้มไปที่หน้าผากมนและออกแรงดันเล็กน้อย
“โอ้ย!”
“คุณชอบไปทานร้านอาหารพวกนี้บ่อยเหรอคะ ฉันเห็นคุณรู้จักร้านอาหารอร่อย ๆ หลายร้านเลย”
“ก็ไปบ่อยถ้ามีเวลา”
“แล้วไปกับใครคะ..เอ่อ..ฉันหมายถึงว่าคุณมีกลุ่มเพื่อนที่ไปด้วยกันหรือว่าชอบไปนั่งชิว ๆ คนเดียว” เพราะกลัวว่าเวย์จะคิดว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมากไปสไมล์จึงรีบอธิบายต่อทันที
“ก็ไปกับเพื่อนที่เป็นหมอด้วยกันอีกสองคน”
“ดีจังเลยนะคะคุณยังมีเพื่อนที่สามารถไปเที่ยวด้วยกันได้ ฉันนี่แทบไม่มีเลยค่ะ นอกจากพี่หวานผู้จัดการส่วนตัวแล้วก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกับใคร” วงการมายาที่เธออยู่สอนให้สไมล์ไม่ค่อยไว้ใจใครง่าย ๆ สไมล์จึงมีเพียงน้ำหวานที่เป็นทั้งผู้จัดการและเพื่อนในเวลาเดียวกัน
“ไว้วันหลังถ้ามีโอกาสผมจะพาไป” เมื่อฟังน้ำเสียงที่ดูเศร้า ๆ ของสไมล์ยามที่พูดถึงชีวิตส่วนตัวก็อดสงสารไม่ได้ชีวิตวัยรุ่นแทนที่จะได้เที่ยวสนุกในสถานที่ต่าง ๆ เหมือนกับวัยรุ่นทั่วไปแต่เธอต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น
“ฉันถือเป็นคำสัญญานะคะ”
“ผมพูดแล้วทำเสมอ” น้ำเสียงและแววตาที่ดูหนักแน่นรวมถึงการกระทำของเวย์ในวันนี้ทำให้สไมล์เริ่มรู้สึกกับเวย์เปลี่ยนไป สไมล์เริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับเวย์เพิ่มมากขึ้นซึ่งไม่ใช่ความรู้สึกอยากเอาชนะเหมือนที่ตั้งใจแต่แรก การกระทำของเวย์ทำให้สไมล์รู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ จากตอนแรกที่สไมล์จะแกล้งให้เวย์รักพอเจอการเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของเวย์สไมล์ก็เริ่มประทับใจคุณหมอหนุ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“คุณเอาใจผู้หญิงเก่งเหมือนกันนะคะ” สไมล์แกล้งพูดเพื่อดูท่าทีของเวย์
“แค่พามาทานอาหารผมเรียกมันว่าการมีน้ำใจ” สไมล์ได้ยินถึงกับยิ้มร่ากับความปากแข็งของคุณหมอหนุ่ม
“วันนี้ฉันรู้สึกว่าฉันโชคดีหลายเด้งเลยนะคะ ทั้งได้ทานอาหารญี่ปุ่นร้านที่จองยากมากที่สุดแถมยังมีคนเลี้ยงอีก” เมื่อเริ่มประหม่ากับท่าทีของเวย์สไมล์จึงพูดติดตลกเพื่อเป็นการแก้เขินที่ถูกเวย์หว่านเสน่ห์ใส่ด้วยคำพูด
“อิ่มหรือยังจะสั่งอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า” เวย์พูดตัดบทเมื่อรู้สึกว่าจะโดนหญิงสาวตามทันความรู้สึกของตัวเอง
“อิ่มแล้วค่ะ”
“เลี้ยงง่ายนะ แต่กินจุไปหน่อย” คำพูดทิ้งท้ายที่คนฟังสามารถแปลได้หลายความหมาย จนสไมล์แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเวย์ยินดีที่จะดูแลเธอคิดได้ดังนั้นริมฝีบางก็เผลอยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว
Special episode 3 สไมล์ลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นหลังจากเสร็จกิจกรรมเมื่อตอนบ่าย สายตามองสำรวจรอบ ๆ บริเวณห้องก็ต้องแปลกใจเพราะเฟอร์นิเจอร์และของแต่งห้องทั้งหมดนั้นยังใหม่และเหมือนยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ก็พลานให้นึกถึงคำพูดของแฟนหนุ่มที่บอกเธอเมื่อเช้าว่าเขารีโนเวทคอนโดใหม่ ร่างบางก้าวเท้าลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปด้านในก็ต้องประหลาดใจเป็นครั้งที่สองเมื่อเหลือบไปเห็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่คาดว่าแฟนหนุ่มนั้นคงจะสั่งอันใหม่มาติดตั้งเช่นกัน “นี่เตรียมพร้อมทุกอย่างขนาดนี้เลยเหรอตาแก่เจ้าเล่ห์” “อ๊ะ! / เรียกใครตาแก่เจ้าเล่ห์” เวย์เดินเข้ามาสวมกอดร่างบางจากด้านหลังดึงสไมล์เข้าหาตัวและกอดไว้แน่น “อ่างอาบน้ำพี่ก็พึ่งเปลี่ยนใหม่นะ ลองสักหน่อยไหม” เสียงทุ้มแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เอ่ยถามข้างใบหู พร้อมเป่าไอร้อนรดต้นคอระหง “ของในห้องนี้พี่ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ถ้าลองทุกอย่างหนูไม่ต้องตายคาอกพี่เลยเหรอคะ” เสียงหวานประชดกลับพร้อมกับเอี้ยวตัวหันไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม“พี่หมายถึง ล
Special episode 2“คุณน้ำหวานกลับอีกคันนะครับเดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่ง” เวย์หันมาบอกน้ำหวานเมื่อเดินออกมานอกเทอมินอลและมีรถของที่บ้านมาจอดรอสองคัน“ค่ะคุณหมอ ขอบคุณค่ะ เจ๊ฝากสไมล์ด้วยนะคะ” ผู้จัดการสาวรู้หน้าที่ของตัวเองดีจึงเดินไปขึ้นอีกคันที่มีคนขับรถเปิดประตูรออยู่และกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็ถูกยกขึ้นท้ายรถเรียบร้อยแล้ว“ครับ”สไมล์และเวย์ขึ้นรถอีกคันที่จอดรออยู่เช่นกัน เมื่อทั้งสองขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้วคนขับก็ทำหน้าที่พาทั้งสองไปยังจุดหมายปลายทางนั่นคือคอนโดหรูของชายหนุ่ม“ทำไมมาที่นี่ล่ะคะ ทำไมไม่ไปส่งฉันที่บ้าน” ดวงตากลมโตปรือตาขึ้นมองบริเวณรอบ ๆ ด้านนอกตัวรถหลังจากเผลอหลับไปหลังจากขึ้นรถได้ไม่นาน“ผัวเมียใครเขาแยกบ้านอยู่กัน ตื่นแล้วก็ขึ้นไปนอนต่อข้างบน..ขี้เซาจริง ๆ”“ใครเขาจะอยู่ที่นี่กับคุณกัน”“ผมรีโนเวทคอนโดใหม่เพื่อรอคุณมาอยู่ด้วยเลยนะ” คิ้วงามที่ขมวดน้อย ๆ บนใบหน้ากลับไม่บ่งบอกว่าตื่นเต้นยินดีสักนิด“ฉันคิดถึงบ้านค่ะไม่ได้กลับตั้งเป็นปี ฉันอยากกลับไปนอนบ้าน” ใบหน้าเล็กซุกเข้าที่อกแกร่ง น้ำเสียงออดอ้อนดังอู้อี้ในลำคอ“พรุ่งนี้ค่อยไปค้างที่โน่น กระเป๋าผมให้คนยกขึ้นไปข้างบนหม
Special episode 1ประเทศไทย“เชี่ย! ไอ้เวย์มันคลั่งรักจนเสียสติไปแล้วหรือวะ ขอแต่งงานกลางงานเทศกาลดนตรีใหญ่ระดับประเทศและคนดูจากทั่วทุกมุมโลก มันกล้าทำได้ไง” ภีร์ที่นั่งดูการไลฟ์สดอยู่ร้องอุทานขึ้น โทรศัพท์ในมือแทบร่วงหล่นพื้น“หึ! มันสติดีต่างหาก มึงจำไม่ได้เหรอครั้งก่อนที่มันขอสไมล์แต่งงานและโดนเธอปฏิเสธมา ครั้งนี้มันวางแผนมาอย่างดี” ภาคย์พูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเอือมระอาในความเจ้าเล่ห์ของเพื่อน“ยังไงวะ กูไม่เข้าใจ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันหันมองหน้าภาคย์เป็นคำถาม“มึงไม่น่าเกิดมาเป็นเพื่อนพวกกูเลยนะ”“เอ้าไอ้ห่านี่ อยู่ ๆ ก็มาด่ากู สรุปมันคืออะไรมึงช่วยพูดให้มันเข้าใจง่าย ๆ หน่อยได้ไหม”“ก็ครั้งนี้มันขอสไมล์แต่งงานต่อหน้าคนเป็นแสนมึงคิดว่าสไมล์จะกล้าปฏิเสธมันอีกไหม” ภาคย์ขยายความจนคนที่ทำหน้างงในตอนแรกพยักหน้างึก ๆ เข้าใจ“ก็จริงอย่างที่มึงพูด ไอ้เวย์แม่งฉลาด”“แต่มันทำยังไงวะเขาถึงยอมให้มันเสนอหน้าขึ้นไปบนเวทีแบบนั้นได้”“เพื่อนมันที่เป็นคนจีนเป็นถึงเจ้าของสื่อบันเทิงชื่อดัง เงินในธนาคารมันมีเป็นพันล้าน แค่จะจ่ายค่าเช่าสถานที่และนักดนตรีแค่นี้มึงคิดว่าเพื่อนมึงทำไม่ได้หรือไง แล้วอีกอย่า
ตอนที่ 36 แต่งงานสไมล์ในชุดกระโปรงยาวสีขาวที่เวย์สั่งตัดมาพิเศษสำหรับวันนี้โดยเฉพาะ เดินเคียงคู่มากับเวย์ที่วันนี้สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเปิดกระดุมเม็ดบนสามเม็ดโชว์แผงอกซุ้มประตูทางเข้าที่ประดับด้วยดอกไม้สีแดงสดนานาชนิด ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยไปทั่วทั้งชายหาดเสียงไวโอลินที่บรรเลงโดยนักดนตรีมืออาชีพช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนตกอยู่ในความฝัน“ว้าว..สวยจังเลยค่ะ”“เดินระวังหน่อย” มือหนาประคองอยู่ที่เอวคอดเดินนำมายังโต๊ะที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่ถูกเนรมิตขึ้นมา โดยมีบาร์เครื่องดื่มตั้งอยู่ข้าง ๆ“คุณสั่งเขาจัดพวกนี้ทั้งหมดเลยเหรอคะ”“อือ..ชอบหรือเปล่า”“ชอบค่ะ ชอบมาก มันสวยมากเลยเหมือนอยู่ในนิทานเลยค่ะ” สไมล์นึกถึงนิทานสมัยเด็กที่เธอชอบอ่าน เหมือนหมู่บ้านเล็กที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาที่มีทุ่งดอกไม้โอบล้อมรอบตั้งอยู่บนเกาะที่ไม่มีใครเคยเห็น“สไมล์มาแล้วเหรอลูก มานั่งนี่มาเจ๊เตรียมอาหารมาให้หนูแล้ว” น้ำหวานร้องเรียกเมื่อทั้งสองเดินเข้ามาเป็นคู่สุดท้ายโดยคนอื่นมาถึงก่อนหน้านี้แล้วเมนูอาหารนานาชนิดทั้งไทยและฝรั่งถูกรังสรรค์จากเชฟมากฝีมือวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะให้เลือกทานได้ตามใจชอบ“อาห
ตอนที่ 35 แค่ทีมงานเมื่อเช้าวันใหม่มาเยือนหลังจากที่ค่ำคืนแห่งการสื่อภาษารักผ่านพ้นไป สไมล์ที่รู้สึกตัวตื่นก่อนเวย์กำลังจะลุกขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวเพื่อไปถ่ายทำซีรีส์“จะรีบไปไหนขอนอนต่ออีกนิดนะ” ร่างบางถูกรั้งด้วยมือหนาของคนที่กอดเธอมาทั้งคืน คนที่ปกติตื่นเช้าตลอดมาวันนี้เริ่มงอแงไม่อยากตื่นเพราะร่างนุ่มนิ่มที่ได้กกกอดทั้งคืนทำเอาไม่อยากลุกไปไหน“ฉันมีถ่ายซีรีส์ช่วงสิบเอ็ดโมงค่ะ ถ้าไม่รีบตื่นเดี๋ยวไม่ทันรถที่ทางกองส่งมารับ” สไมล์บอกคุณหมอหนุ่มยิ้ม ๆ มือบางยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าของคนที่ยังหลับตาเหมือนกับพึงพอใจในใบหน้าคมนั้นยิ่งนัก“ถ้าลูบส่วนอื่นเหมือนที่กำลังลูบหน้าผมอยู่ตอนนี้ วันนี้กองถ่ายซีรีส์ของคุณคงได้ยกกองแน่ ๆ” น้ำเสียงงัวเงียบอกหญิงสาวทั้งที่ยังหลับตา สไมล์รีบชักมือกลับทันทีพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงเพราะความเขินอายเมื่อรู้ว่าเวย์หมายถึงอะไร เวย์ลืมตามามองเจ้าของเรือนร่างอรชรที่เขาได้เห็นทุกซอกทุกมุมมาแล้วในค่ำคืนที่ผ่านมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เดี๋ยวผมไปส่ง” เวย์บอกสไมล์เพราะระหว่างที่อยู่ที่นี่ชายหนุ่มไม่มีแผนที่จะไปไหนอยู่แล้วนอกจากอยู่กับคนรัก“คุณขับรถที่จีนได้ด้วยหรือคะ..แล
ตอนที่ 34 ลงโทษใบหน้าคมละจากอกอวบฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนและหน้าท้องแบนราบไร้ไขมันส่วนเกิน สัมผัสอ่อนโยนสลับกับเร่าร้อนสัมผัสไปทั่วทั้งร่างกายส่วนบน ค่อย ๆ เลื่อนต่ำมาถึงต้นขาเรียวจังหวะร่างสูงย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ที่ทำจากหินแกรนิตราคาแพงในท่านั่งที่มีเวย์ยืนแทรกตรงกลางระหว่างขาข้อเท้าเล็กสองข้างถูกยกขึ้นชันกับขอบโต๊ะท่าดังกล่าวส่งผลให้กลีบดอกไม้เบ่งบานอวดยอดเกสรและร่องน้ำหวาน เวย์ส่งลิ้นร้อนเข้าโลมเลียโดยช้อนสายตาจับจ้องคนตัวเล็กสื่อความกระหายผ่านแววตาอย่างเก็บไม่มิด“อื้อ” สัมผัสเร่าร้อนที่ห่างหายไปเกือบสองอาทิตย์เมื่อได้สัมผัสอีกครั้งถึงกลับควบคุมไม่อยู่เปลือกตาสวยเคลื่อนลงปิดแพขนตางอนกะพริบเป็นระยะฟังเสียงคละเคล้าน้ำลายเปียกกลีบอ่อนไหว ลิ้นนุ่มอุ่นดุดันเข้าออกหยอกล้อโพรงน้ำหวานปลายลิ้นเกร็งเสียดเข้ามาจนลึกกระดกปลายลิ้นรัว ๆ สร้างความเสียวซ่านจนแทบขาดใจ“อือ..อ่าส์..อือหนูเสียว” น้ำหวานถูกกระตุ้นออกมาละลอกแล้วระลอกเล่า เปรอะเปื้อนริมฝีปากหนาและปลายคางเวย์ปาดลิ้นกลืนกินอย่างไม่นึกรังเกียจ ความเย็นจากโต๊ะหินอ่อนถูกกลบด้วยไฟสวาทที่แทบแผดเผาห้องครัวให้ม