เข้าสู่ระบบปากของเขาอุ่นร้อน ลิ้นที่พลิกพลิ้วอยู่ในปากของเธอกระตุ้นอารมณ์บางอย่างในกายสาว ยิ่งจูบก็ยิ่งดื่มด่ำ หลงมัวเมา ลืมเลือนไปแล้วว่าสถานะระหว่างเธอกับเขาแค่เพื่อน
เมื่อแสนกล้ากระชากสาบเสื้อเชิ้ตของเธอจนกระดุมขาด ทั้งแถว เขาถอนจูบ แล้วก้มลงไปชิมรสชาติความหวานละมุนของผิวเนื้อสาว กมลฉัตรก็เอาคืนเขาด้วยการกระชากสาบเสื้อเชิ้ตของเขาจนกระดุมขาดทั้งแถว และสัมผัสแตะต้องเขาไปทั่ว
แสนกล้าครางในลำคออย่างพอใจ เขาปลดเปลื้องอาภรณ์ชิ้นบนสองชิ้นออกจากร่างสาว ใช้ปากและลิ้นปลุกปั่นและเล้าโลมให้กมลฉัตรหลงเพริดไปกับความเสียวซ่าน
ความยับยั้งชั่งใจของสองหนุ่มสาวถูกแอลกอฮอล์กดทับไว้ พวกเขาปล่อยให้สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นดำเนินไปเรื่อย ๆ
กระทั่งสองกายเปลือยเปล่า ไฟสวาทลุกโชนไม่อาจมอดดับโดยง่าย คนที่รู้สึกมากกว่าคือกมลฉัตร และเมื่อแสนกล้ายังมัวแต่เล้าโลม หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายขึ้นนั่งคร่อมเขา แล้วขย่มลงเต็มแรงโดยหลงลืมไปว่านี่คือครั้งแรกของเธอ
“อื้อ... เจ็บ”
คนเจ็บนั่งนิ่ง เกาะบ่ากว้างสองข้างไว้แน่น แถมยังจิกเล็บขีดข่วนผิวแน่นตึงจนเลือดไหลซิบด้วย
“ฉันก็เจ็บ เธอแน่นมากเลยฉัตร ครั้งแรกใช่ไหม”
“อือ...”
“เดี๋ยวมันจะดีขึ้น”
แสนกล้าปลอบประโลมคนที่เพิ่งลงสนามร่วมรักครั้งแรกด้วยจูบอ่อนหวาน เล้าโลมเธอด้วยการลูบไล้ ปลุกเร้ากายสาว เมื่อกมลฉัตรครวญครางในลำคอ และเริ่มขยับโยกเบา ๆ เขาจึงประคองเอวบางและกระซิบสั่ง
“แรง ๆ อืม... แบบนั้นแหละ เธอเก่งมาก ดี!”
กมลฉัตรกอดลำคอแกร่ง เธอเบียดเนื้อตัวเข้าหาเรือนกายกำยำ คำชมและความเสียวซ่านที่ทิ่มแทงกลางร่องรักทำให้เธอฮึกเหิม
“แสน... มัน... ใกล้แล้ว อื้อ...”
กมลฉัตรครวญครางขัดใจ เมื่อรู้สึกว่าไม่อาจพาตัวเองไปถึงปลายทางได้
แสนกล้าขบกรามแน่น เขาสูดลมหายใจลึก กดร่างบางลงนอนหงายบนโซฟาแล้วโจนจ้วงเข้าหา ผลักส่งเธอไปยังสุดสายปลายทางสุขสม เขาให้เวลาหญิงสาวได้ซึมซับความหวามหวานอยู่ครู่เดียว ก็เริ่มขยับโยกในแอ่งอุ่นอีกครั้ง
แสนกล้าผลักส่งกมลฉัตรไปยังห้วงสุขสมครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าเขาจะถึง กว่าเขาจะปลดปล่อย คนตัวเล็กก็อ่อนระทวยคาอกกว้าง ทว่าค่ำคืนนี้ยังอีกยาวนาน เมื่อหยุดพักเพียงครู่แสนกล้าก็เริ่มบทรักบทสวาทใหม่อีกครั้ง
เขาบอก เขาสอน เขานำพาให้คนที่เพิ่งลงสนามรักครั้งแรกได้รู้จักคำว่า สุขสมแสนเสียวจนแทบขาดใจตลอดทั้งคืน
ตอนที่ 2
ในวันที่โลกโหดร้ายเหลือเกิน
อึดอัด หนัก และแค่ขยับนิดเดียวก็เจ็บจี๊ดกลางกาย
กมลฉัตรขมวดคิ้วมุ่น เธอลืมตาขึ้นช้า ๆ แล้วถอนหายใจบางเบา
เธอไม่ได้ความจำสั้น ไม่ใช่คนที่ลืมอะไรง่าย ๆ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้... เธอจำได้ เพียงแต่เธอก็แอบหวังในใจว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น ทว่าความหวังเธอก็ต้องพังทลายลง เมื่อหันไปด้านข้างแล้วพบว่าไอ้คนที่ลากเธอไปเมาเมื่อคืนนอนอยู่ข้าง ๆ
กมลฉัตรถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาลงเพื่อตั้งสติ และไตร่ตรองขบคิดว่าจะทำยังไงดี จะเอายังไงต่อไป
เมื่อคืนเธอเมา เขาเมา เธอรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจหักห้ามใจได้เลย อาจเพราะความใกล้ชิด ผูกพัน และเธอยอมรับว่าเธอแอบเผลอใจกับเพื่อนสนิทไปบ้าง ซึ่งข้อนี้เธอพยายามหักห้ามใจแล้ว แต่มันก็ทำได้ยากเหลือเกิน ทั้งที่ไอ้บ้านี่ไม่เคยชายตาแลเธอด้วยซ้ำ เขาเห็นเธอเป็นแค่เพื่อน เพื่อนเท่านั้นจริง ๆ ระหว่างเธอกับเขา คงเปลี่ยนสถานะไปเป็นอย่างอื่นได้ยาก เรียกว่าแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยดีกว่า แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วและไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรได้ เธอก็ต้องรับมือกับสิ่งที่กำลังจะตามมาให้ได้
กมลฉัตรตัดสินใจรับมือกับสิ่งที่จะตามมาด้วยการหนีออกจากคอนโดฯ ของแสนกล้า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ เธอขอหนีไปตั้งหลักก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้บอกตรง ๆ ว่าเธอยังไม่กล้าที่จะพูดคุยเรื่องเร่าร้อนที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน
กมลฉัตรค่อย ๆ ขยับกาย พาตัวเองออกมาจากวงแขนกำยำที่กอดรัดเธอแน่นหนา กว่าจะพาตัวเองหลุดออกมาได้ แสนกล้าก็ทำให้เธอใจหายใจคว่ำอยู่หลายที
โชคดีที่เขาหลับลึก เขาแค่ขยับตัวนิดหน่อย แล้วก็หลับต่อ เธอจึงลงจากโซฟาได้อย่างปลอดภัย
กมลฉัตรรีบเก็บเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่กองเกลื่อนอยู่บนพื้นมาสวม หญิงสาวจิ๊ปากไม่พอใจ เมื่อเห็นว่ากระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอหลุดหายไปทั้งแถว
เมื่อสวมเสื้อสวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว เธอจึงมองหาเสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อคลุมสักตัวเพื่อสวมให้รัดกุม แล้วเธอก็เห็นแจ็กเก็ตสีดำพาดอยู่บนเก้าอี้ที่มุมห้อง หญิงสาวเดินไปหยิบมาสวม แล้วเดินกลับมาหยิบกระเป๋าถือที่หล่นอยู่ใกล้โซฟา เธอไม่หันไปมองคนที่ยังหลับอยู่ด้วยซ้ำ ในตอนที่รีบร้อนออกจากห้อง เพราะกลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเรียกรั้งเธอไว้
“ยายใช้อะไรหมักเนื้อเหรอ ทำไมมันเหม็นจัง”“ยายก็ใช้สูตรเดิมนั่นแหละหมักเนื้อ ใช้สูตรนี้มาตั้งแต่เอ็งยังไม่ทันเกิดโน่น เมื่อก่อนเอ็งก็ชอบนี่นา”“ถ้างั้นคงเพราะฉัตรนอนดึกเองแหละ เมื่อคืนดูซีรีส์เกาหลีดึกไปหน่อยจ้ะ”“เอ็งนี่มันน่าตีจริง ๆ งั้นก็หาอะไรกินรองท้องสักหน่อย แล้วก็ไปพักผ่อน”“จ้า… ยาย”กมลฉัตรยิ้มแหย สีหน้าและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงของยายทำให้เธอรู้สึกผิด ก็มีกันอยู่แค่สองคน หากใครสักคนเป็นอะไรไปอีก อีกคนก็ไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร แม้รู้ว่าไม่มีใครหนีความตายได้ แต่เธอก็อยากขอเวลาให้เธอกับยายได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกนาน ๆพอกลับเข้ามาในครัวแล้วได้กลิ่นเนื้อย่างอีกครั้ง กมลฉัตรก็แทบอ้วกพุ่ง หญิงสาวกลั้นหายใจ จกข้าวในกระติ๊บมาปั้น แล้วหยิบเกลือในกระปุกมาโรยใส่ปั้นข้าวเหนียว ก่อนจะวิ่งออกจากห้องครัวกลับเข้าห้องนอนของตัวเองหลังจากกินข้าวเหนียวที่ปั้นติดมือเข้ามาในห้องหมดแล้ว กมลฉัตรก็ถอดผ้าซิ่นออกเปลี่ยนมานุ่งกางเกงขาสั้น หญิงสาวเดินไปหยิบไอแพดที่วางอยู่บนเตียง แล้วมองหาสายชาร์จแบต เธอกวาดสายตามองไปทั่วห้องก็ไม่เห็น จึงวางไอแ
ตอนที่ 3โชคชะตาเล่นตลกทำไมเราไม่ตลกด้วยหรอกนะ2 เดือนผ่านไป“ฉัตรเอ๊ย!”“จ๋า… ยาย”“ยายนึ่งข้าวสุกแล้ว เอาไปรอใส่บาตรได้แล้ว”“จ้า” กมลฉัตรขานรับออกมาจากในห้องนอนของเธอหญิงสาวสำรวจตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วเธอจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วออกจากห้อง เดินไปหายายที่ครัวซึ่งต่อเติมออกมาจากตัวบ้านปูนชั้นเดียวห้องครัวกว้างขวาง มีทั้งเตาแก๊สและเตาถ่าน ผนังห้องครัวด้านที่ไม่ติดกับตัวบ้านก่อด้วยปูนสูงประมาณหนึ่งเมตร แล้วต่อด้วยไม้ระแนงจนถึงเพดาน ห้องครัวจึงปลอดโปร่งโล่งตา และมีประตูสำหรับเปิดออกไปหลังบ้านด้วย ที่หลังบ้านมีแปลงผักสวนครัวหลายแปลง ห่างออกไปเป็นทุ่งนาของยาย มีเนื้อที่ราวยี่สิบไร่“กระติ๊บข้าววางอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ รีบออกไปรอที่หน้าบ้าน ชักช้าเดี๋ยวก็ไม่ทันพระหรอก”“จ้า…” กมลฉัตรลากเสียงยาวพอแม่ใหญ่นวล… ยายของเธอหันมามองด้วยสายตาดุ หญิงสาวก็ยิ้มกว้าง คว้าเอากระติ๊บข้าวมากอดไว้ แล้วรีบเผ่นออกจากห้องครัวก่อนที่ยายจะเทศนายาวกว่านี้กมลฉัตรสวมเสื้อยืดสีขาวกับผ้าซิ่นไหมสีชมพูลายสวย ผ้าซิ่นที่เธอนุ่งยายของเธอเป็นคนทอเองกับมือ ยายทำ
แสนกล้าเข้าพบหัวหน้างานเพื่อขอลากิจ โดยขอลาไปร่วมงานศพของแม่ของกมลฉัตร แต่หัวหน้างานไม่อนุมัติ เพราะวันนี้พนักงานในแผนกเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มพร้อมกันสองคน อีกอย่างเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคนตาย ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกัน เป็นแค่คนรู้จัก หัวหน้างานจึงไม่ให้ลาแสนกล้าโทร. หาพ่ออีกครั้ง คราวนี้กำนันไสวไม่รับสาย เขาจึงโทร. หาแม่ พอแม่ก้านรับสาย เขาบอกท่านว่าขอคุยกับฉัตรกมล แต่แม่บอกว่าหญิงสาวยุ่งมาก ไม่สะดวกรับสาย ให้เขาโทร. หาเธออีกทีตอนค่ำ ๆ บอกแล้วท่านก็วางสาย เขาโทร. กลับไปอีกตั้งหลายสายท่านก็ไม่รับแสนกล้าอยากจะบ้า เขาติดต่อเธอไม่ได้ แถมตอนนี้เธอยังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เขากลับไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ ทั้งที่เธอกับเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำได้แค่ฝากความห่วงใยผ่านสายลมไปให้เธอแสนกล้าไม่ได้กลับไปช่วยงานศพของแม่ของกมลฉัตร ไม่ได้พูดคุยแสดงความเสียใจกับเธอ เขามัวแต่ทำงานที่กองสุมหัวตลอดทั้งสัปดาห์ มีโอทีทุกวัน แถมเขายังต้องหอบงานกลับไปทำที่ห้องด้วย แต่ละคืนที่ผ่านมาเขาหลับคางานทุกคืน เขาไม่มีเวลาว่างเลย เวลาจะพักผ่อนยังแทบไม่มีแล้วไอ้พนักงานที่เกิดอุบัติเหตุทั้งสองคนก็ต้องนอนโรงพ
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถแท็กซี่ และบอกจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว กมลฉัตรก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอนั่งนิ่งอยู่สักพักจึงล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าถือออกมา วันหยุดสองวันนี้ เธอยังไม่พร้อมจะพูดคุยกับแสนกล้า ดังนั้นหญิงสาวจึงบล็อกเบอร์โทร. บล็อกแชต บล็อกทุกช่องทางการติดต่อ หวังว่าก่อนถึงวันจันทร์ เธอจะคิดออกว่าควรจะพูดกับเขาอย่างไรดี กมลฉัตรกำโทรศัพท์ไว้ในสองมือ นึกถึงเมื่อคืนแล้วสองแก้มก็ร้อนผ่าว เธอหลงระเริงไปกับเขา แถมยังขึ้นเองด้วย ทั้งที่เป็นครั้งแรกของเธอแท้ ๆ กมลฉัตรถอนหายใจอีกครั้ง พอดีกับเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหลุบตามองหน้าจอ พอเห็นว่ายายโทร. มา เธอจึงรีบสไลด์นิ้วบนหน้าจอเพื่อรับสาย “ยายจ๋า... คิดถึงฉัตรเหรอ” “ฉัตร...” ยายเรียกมาตามสาย แล้วก็เงียบไป “ยายเป็นอะไรหรือเปล่า” “ยายไม่เป็นอะไร ฉัตรเอ๊ย! กลับบ้านเรานะลูก กลับมาหายาย ฮึก” “ยายเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” “ฉัตร... ตั้งสติดี ๆ นะลูก พ่อกับแม่ของฉัตรเสียแล้ว กลับมาหายายนะลูก กลับบ้านเรา กลับมาเร็ว ๆ กลับมาหายาย” พอยายพูดจบ กมลฉัตรก็ได้ยินเสียงผู้คนรอบข้างพากันร้องเรียกยาย แล้วสายก็ตัดไป ยายล้อเล่นเหรอ? หรือตอนนี้เธอ
ปากของเขาอุ่นร้อน ลิ้นที่พลิกพลิ้วอยู่ในปากของเธอกระตุ้นอารมณ์บางอย่างในกายสาว ยิ่งจูบก็ยิ่งดื่มด่ำ หลงมัวเมา ลืมเลือนไปแล้วว่าสถานะระหว่างเธอกับเขาแค่เพื่อน เมื่อแสนกล้ากระชากสาบเสื้อเชิ้ตของเธอจนกระดุมขาด ทั้งแถว เขาถอนจูบ แล้วก้มลงไปชิมรสชาติความหวานละมุนของผิวเนื้อสาว กมลฉัตรก็เอาคืนเขาด้วยการกระชากสาบเสื้อเชิ้ตของเขาจนกระดุมขาดทั้งแถว และสัมผัสแตะต้องเขาไปทั่ว แสนกล้าครางในลำคออย่างพอใจ เขาปลดเปลื้องอาภรณ์ชิ้นบนสองชิ้นออกจากร่างสาว ใช้ปากและลิ้นปลุกปั่นและเล้าโลมให้กมลฉัตรหลงเพริดไปกับความเสียวซ่าน ความยับยั้งชั่งใจของสองหนุ่มสาวถูกแอลกอฮอล์กดทับไว้ พวกเขาปล่อยให้สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นดำเนินไปเรื่อย ๆ กระทั่งสองกายเปลือยเปล่า ไฟสวาทลุกโชนไม่อาจมอดดับโดยง่าย คนที่รู้สึกมากกว่าคือกมลฉัตร และเมื่อแสนกล้ายังมัวแต่เล้าโลม หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายขึ้นนั่งคร่อมเขา แล้วขย่มลงเต็มแรงโดยหลงลืมไปว่านี่คือครั้งแรกของเธอ “อื้อ... เจ็บ” คนเจ็บนั่งนิ่ง เกาะบ่ากว้างสองข้างไว้แน่น แถมยังจิกเล็บขีดข่วนผิวแน่นตึงจนเลือดไหลซิบด้วย “ฉันก็เจ็บ เธอแน่นมากเลยฉัตร ครั้งแรกใช่ไหม” “อือ...” “เดี๋ยวมันจะด
กว่ากมลฉัตรจะเบียดผู้คนออกมาจากผับได้ แม่ของเธอก็วางสายไปก่อนแล้ว พอเดินออกมาหน้าผับ หญิงสาวจึงโทร. หาท่าน พอแม่กดรับสาย กมลฉัตรยังไม่ทันพูดอะไร แม่ก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงสั่น ๆ “ฉัตร… พ่อไปนอนกับอีนั่นอีกแล้ว มันยังแอบไปเอากัน พ่อไม่รักแม่แล้ว แม่จะเลิกกับพ่อ คราวนี้เลิกจริง ๆ แม่จะเก็บของแล้วกลับไปอยู่กับยาย” บ้านพ่อกับบ้านยายอยู่หมู่บ้านติดกัน ระยะทางห่างกันไม่ถึงสามกิโลเมตร “ไว้พรุ่งนี้ค่อยเก็บของนะแม่ คืนนี้ดึกแล้ว อย่าไปกวนยายเลย” “ฉัตรเข้าข้างพ่อเหรอ” กมลฉัตรถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย มันเป็นเรื่องซ้ำซากที่เกิดขึ้นประจำ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เธอเรียนมัธยมต้น เธอบอกแม่แล้วว่าจะเลิกก็เลิก ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ เธอโตพอที่จะเข้าใจเหตุผลของแม่แล้ว แต่แม่ก็ไม่เลิกกับพ่อสักที ยังอยู่บ้านพ่อ ทั้งที่เธอน่ะ… ย้ายไปอยู่กับยายตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรกแล้ว พ่อทำให้เธอหมดศรัทธาในตัวท่าน ยังดีนะที่พ่อกับแม่มีเธอแค่คนเดียว เธอเลยไม่มีพี่น้องที่ต้องมาร่วมทนเห็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิษแบบนี้ พ่อของกมลฉัตรเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยม ประจำอยู่อีกจังหวัด นาน ๆ จะกลับมาบ้านสักครั้ง แม







